“ห๊า?”ตู๋กูเช่อแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “เจตนาใด?”“เสแสร้ง เสแสร้งต่อไป!”เสิ่นลั่วเยี่ยนมองตู๋กูเช่อ “พวกเขาเป็นราชองครักษ์ ในเมื่อเขารู้ว่าหยุนเจิงคิดจะแย่งอำนาจ ย่อมต้องทำสิ่งใดแน่! ห้ามไม่ได้กับไม่ได้ห้าม เป็นคนละเรื่องกัน ใช่หรือไม่?”หานจิ้งกล่าวว่าพังพินาศไปพร้อมนาง ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระหยุนเจิงต่างหากเป็นตัวละครสำคัญ!พวกเขาคิดพังพินาศไปพร้อมนางจะมีประโยชน์ใด?แต่พวกเขาจำเป็นต้องแสดงท่าที พิสูจน์ว่าพวกเขาไม่ใช่พวกเดียวกับหยุนเจิงหากจักรพรรดิเหวินสืบสาวราวเรื่องขึ้นมา พวกเขาก็พยายามแล้ว เพียงแต่จนปัญญาขัดขวางเท่านั้นฆ่านางแล้ว บีบบังคับหยุนเจิงก่อกบฏ พวกหานจิ้งจะต้องถูกประหารเก้าชั่วคนแน่นอนแต่หากพวกเขาไม่ทำสิ่งใดเลย กลับถึงเมืองจักรพรรดิ แม้จะไม่ถึงขั้นถูกประหารเก้าชั่วคน แต่ก็อันตรายถึงชีวิตคนที่สามารถเป็นรองผู้บัญชาการทหารราชองครักษ์ได้ ย่อมรู้ถึงความร้ายแรงในความสัมพันธ์ดังนั้น หานจิ้งจำเป็นต้องทำสิ่งใดสักหน่อยเมื่อได้ฟังคำของเสิ่นลั่วเยี่ยน ตู๋กูเช่อยิ้มแห้งขึ้นมาทันทีเขานึกว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนดูไม่ออก!เสิ่นลั่วเยี่ยนหัวเราะ จากนั้นก็ถามตู๋กูเช่อ “เจ้
ขณะที่เว่ยซั่วกำลังได้ใจ ด้านนอกมีเสียงอึกกะทึกครึกโครมดังเข้ามาเว่ยซั่วยังไม่ได้ทันได้ส่งเสียงถาม เสิ่นลั่วเยี่ยนร่างกายท่วมเลือดและตู๋กูเช่อก็พาคนบุกเข้ามามองดูทั้งสองคน เว่ยซั่วสีหน้าเปลี่ยนไปสมควรตาย พวกเขาบุกฝ่าวงล้อมสำเร็จแล้ว?หลังสติหลุดไปชั่วคราว เว่ยซั่วรีบลุกขึ้น แสร้งทำสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย รีบร้อนวิ่งมาข้างหน้า “พระชายา รองผู้บัญชาการ พวกท่านนี่คือ...”“แค่กๆๆ...”เสิ่นลั่วเยี่ยนแสร้งทำสีหน้าอ่อนแออย่างมาก จากนั้นก็ล้มไปกับพื้น“พระชายา!”เว่ยซั่วตะโกนร้อง รีบร้อนเข้าไปพยุงชั่วพริบตาที่เว่ยซั่วเข้าไปพยุง หอกลายเมฆในมือเสิ่นลั่วเยี่ยนก็ยื่นออกมาเว่ยซั่วนึกไม่ถึงว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนจะฆ่าเขา จึงไม่ได้ป้องกันแต่อย่างใดรอให้เว่ยซั่วได้สติกลับมา หอกลายเมฆก็พุ่งเข้าใส่เว่ยซั่วแล้ว“แม่ทัพ!”เมื่อเห็นเว่ยซั่วโดนโจมตี ทหารคนสนิทภายในจวนพากันชักอาวุธออกมา“หยุดเดี๋ยวนี้!”ตู๋กูเช่อแผนเสียงคำรามออกมา “เว่ยเหวินจง เว่ยซั่วสมคบคิดกับศัตรู เจตนาทำร้ายกองทัพสี่หมื่นคนที่ชายแดนเมืองกู้! เรื่องนี้หลักฐานแน่ชัด ทหารราบหลายหมื่นคนที่ชายแดนเมืองกู้ล้วนเป็นพยาน! หากเจ้ายังกล้
ชายแดนเมืองเว่ยหยุนเจิงนำกองทัพมาถึงประตูเมืองเว่ยแล้วกองประจำการของเมืองเว่ยน้อยกว่าที่พวกเขาคิดมากฉินชีหู่อาศัยเครื่องแต่งกายปลอมของพวกเขา ยึดครองประตูเมืองเว่ยได้สำเร็จรอจนกองทัพของหยุนเจิงมาถึง กองทหารรักษาการณ์เมืองเว่ยไร้เจตนาต่อต้าน หลังจากเหลือศพหลายร้อยทิ้งเอาไว้ ทหารคนอื่นก็ยอมแพ้และหนีไปแล้วหยุนเจิงสั่งคนป้องกันประตูเมืองเว่ยไว้ให้ดี ส่วนคนที่เหลือไปเก็บรวบรวมเสบียงภายในเมืองในเมื่อเมืองเว่ยมีกองทหารรักษาการณ์ ก็ย่อมต้องมีเสบียงรวบรวมได้เท่าใดก็เอาเท่านั้นแม้ว่าจะเพียงพอให้คนและม้าหมื่นคนของพวกเขาอิ่มได้สักมื้อก็ยังดีหยุนเจิงกำลังจะเข้าเมือง กลับเห็นป่าที่อยู่ไม่ไกลเมื่อถามถึงได้รู้ กลางป่านั้นคือแม่น้ำสายรองสายหนึ่งรองแม่น้ำไป๋สุ่ยแม่น้ำสายรองคดเคี้ยว ตำแหน่งท้ายน้ำทำให้เกิดทุ่งหญ้ามู่หม่าเช่นนั้นหรือหยุนเจิงครุ่นคิดเงียบๆ สั่งคนไปจุดไฟเผาป่าทันทีจุดไฟหลายตำแหน่งหน่อย จะดีมากหากทำให้ไฟไหม้ป่าขึ้นมา“เจ้ามันไร้คุณธรรมเสียจริง!”เมี่ยวอินมองหยุนเจิงอย่างมีเสน่ห์ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาไอสารเลวนี่แม้แต่สถานที่ให้ทหารไล่ตามมาด้านหลังก็ยังไม่เหล
“จะไปแล้วหรือ?”ฉินชีหู่ขมวดคิ้วกล่าว “พวกเราเพิ่งตีเมืองเว่ย แม้แต่พายลมยังไม่ได้นั่งจนร้อนเลย!”“ตอนนี้ยึดชายแดนเว่ยไปก็ไม่มีประโยชน์”หยุนเจิงส่ายหน้ากล่าว “พวกเราไม่อาจปล่ยอให้กองทัพศัตรูเติมเสบียงได้! พวกเราบึกไปยังชนเผ่าเป่ยหวนที่อยู่ใกล้เมืองเว่ยที่สุดโดยตรง คืนนี้ก็นอนที่ชนเผ่าแห่งนั้น!”ฉินชีหู่ครุนคิดเล็กน้อย “เช่นนั้นข้านำคนไปจู่โจมชนเผ่าแห่งนั้น!”“ท่านเพิ่งพาคนไปสู้รบมา พักผ่อนสักหน่อย!”หยุนเจิงปฏิเสธ “พอแล้ว เรื่องนี้ก็ตกลงตามนี้! พวกท่านต้องส่งไปสืบสถานการณ์ทหารที่ไล่ตามมาด้านหลัง ต้องไปก่อนที่ทหารที่ไล่ตามจะตามมาทัน พยายามมารวมตัวกับพวกเราที่ชนเผ่าแห่งนั้นให้เร็วที่สุด!”“ก็ได้!”ฉินชีหู่ตอบอย่างจนปัญญา จากนั้นก็ถาม “เชลยศึกเหล่านี้ฆ่าให้หมด?”“ไม่ต้อง!”หยุนเจิงส่ายหน้า “ถึงเช่นไรเชลยศึกเหล่านี้ก็บาดเจ็บไม่เบา เหลือไว้ให้พวกเขาเถอะ! พวกเขาไม่สามารถทิ้งคนเหล่านี้ไว้ไม่สนใจได้หรอกกระมัง?ฉินชีหู่ขมวดคิ้ว “แต่ท่านถามเรื่องชนเผ่าแห่งนั้นก็พวกเขาแล้ว ทหารไล่ตามถามพวกเขา ก็รู้แล้วว่าพวกเราไปทางใดไม่ใช่หรือ?”“รู้แล้วเป็นเช่นไร?” หยุนเจิงไม่เห็นด้วย “หากพวกเขามีค
เผชิญหน้ากับทหารต้าเฉียนอาวุธครบมือดุดันราวกับหมาป่าเหมือนเสือ ชนเผ่าที่ไร้ชายหนุ่มก็พ่ายแพ้อย่างรวดเร็วคนชราและเด็กที่เหลือถูกทหารม้าเป่ยหวนล้อมเอาไว้การประมาณการคร่าวๆ น่าจะไม่ต่ำกว่าสองพันคนมองดูทหารม้าต้าเฉียนจิตสังหารเข้มข้น ทุกคนตกใจกลัวตัวสั่น“เจ้าคิดจะลงโทษพวกเขาเช่นไร?”เมี่ยวอินกระซิบถามหยุนเจิง ด้วยความตื่นตระหนกแปลกๆแม้รู้ว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นศัตรู แต่เห็นคนชราและเด็กไร้ที่พึ่งเหล่านี้ เมี่ยวอินรู้สึกทำใจไม่ได้แม้นางจะรู้ว่าตัวเองนั้นมีความใจดีของผู้หญิง แต่ในใจก็ยังหวังว่าหยุนเจิงจะไม่ฆ่าคนเหล่านี้สงครามก็เรื่องของสงคราม!บางที นางหวังว่าหยุนเจิงยังเหลือความเป็นมนุษย์!นางหวังว่าผู้ชายของนางมีคนมีเลือดมีเนื้อ ไม่ใช่คนเชือดสัตว์เลือดเย็นหยุนเจิงเรียกนายกองทหารม้า จากนั้นก็ถามเสียงเข้ม “เจ้ารู้ก็การฆ่าคนบนทุ่งหญ้าหรือไม่?”“รู้!”นายกองทหารม้าพยักหน้า “ตามกฎของทุ่งหญ้า หากทุกชนเผ่าเกิดการต่อสู้ คนชราไม่ฆ่า สู้ไม่เกินข้าม้า ไม่ฆ่า!”หยุนเจิงเงยหน้ามองเหล่าคนที่ตัวสั่นงกๆ สั่งเสียงเข้ม “ในเมื่อรู้ เช่นนั้นก็จัดการตามกฎ!”สร้างความวุ่นวายให้โลกฆ่าพระมารดา
“เอาล่ะ เลิกซึ้งได้แล้ว”หยุนเจิงยิ้มมองฉินชีหู่ จากนั้นก็ถาม “ตอนที่พวกท่านมา มีทหารไล่ตามหรือไม่?”“ไม่มี!”ฉินชีหู่หัวเราะ “ข้าส่งคนตรวจดูด้านหลัง ทหารไล่ตามเหล่านั้นเข้าเมืองเว่ยแล้ว คิดว่าคงนอนพักค้างคืนที่เมืองเว่ย แต่ว่า ม้าศึกของพวกเขาคืนนี้คงต้องหิวท้องร้องแล้ว ฮ่าๆๆ...”เวลานี้ อาหารสำหรับคนยังจัดการง่ายหากไม่ได้จริงๆ ก็ฆ่าม้าศึกบรรเทาความหิว นี่กว่าเปล่าให้คนหิวตายฆ่าม้าศึกห้าร้อยตัว พอจะให้คนสองหมื่นคนกินอิ่มไปด้วยหนึ่งมื้อแล้วแต่อาหารสำหรับม้าศึก กลับจัดการไม่ง่ายอย่าว่าแต่อาหารสัตว์ในเมืองเว่ยเลย แม้แต่หญ้าเหี่ยวเฉาที่อยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำสายรองของแม่น้ำไป๋สุ่ย หยุนเจิงก็ส่งให้คนเผาทิ้งหมดแล้ว!ทหารไล่ตามด้านหลังพวกเขาคิดจะเติมเต็มความหิวให้ม้าศึก ยิ่งยากขึ้นไปอีก“เช่นนั้นก็ดี!”หยุนเจิงพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวเตือน “แม้เป็นเช่นนี้ แต่พวกเราก็จำเป็นต้องเพิ่มความระวัง ระวังทหารไล่ตามเปลี่ยนจากทหารม้าเป็นทหารราบ เคลื่อนทัพมาจู่โจมตอนกลางคืน!”พวกเขาเดินทางไกลมาหนึ่งวัน ระหว่างนั้น ม้าศึกยังได้กินหญ้าและธัญพืชบ้าง ม้าศึกหลายตัวเหนื่อยแล้วทหารไล่ตา
ชายแดนเมืองเว่ยเกออาซูยืนด้วยใบหน้าเขียวคล้ำอยู่นอกป่าที่ถูกไฟเผาเมื่อรวมกับสิ่งที่ทหารบาดเจ็บพูดถึงรอยกีบม้าบนหิมะ โดยพื้นฐานแล้วสามารถคาดการณ์ได้แล้ว กลุ่มทหารม้าชั้นยอดต้าเฉียนบุกไปยังชนเผาที่อยู่ใกล้เมืองเว่ยที่สุดแล้วเวลานี้ ชนเผ่าแห่งนั้นคงถูกทำลายหมดสิ้นแล้วอีกทั้ง เผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ เกออาซูไม่สามารถทำสิ่งใดได้เลยเวลาตลอดทั้งวัน ม้าศึกของพวกเขากินธัญพืชที่พักมาเป็นครั้งคราวเท่านั้นตอนนี้ คนและม้าของพวกเขาล้วนขาดเสบียงแล้ว!เจ้าพวกชาวต้าเฉียนที่สมควรตาย เผ้าแม้กระทั่งหญ้าแห้งริมแม่น้ำ!ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้เติมอาหารให้ม้าศึกของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย!ระยะห่างจากพวกเขากับทัพศัตรูแค่สามสิบลี้เท่านั้น!แต่สามสิบลี้นี้ ราวกับเปลี่ยนเป็นคูเมืองตามธรรมชาติแล้ว!ม้าศึกของพวกเขาวิ่งไม่ไหวแล้ว!เดิมก็ไม่มีทางตามทหารม้าของต้าเฉียนทัน!ไม่ต้องคิดก็รู้ รอให้ทหารม้าต้าเฉียนออกจากชนเผ่าแห่งนั้น คงเผาเสบียงอาหารของชนเผ่าแห่งนี้จนไม่เหลือซาก!รอให้พวกเขาค่อยๆ ตามไป ม้าและคงก็ไม่มีเสบียงให้เติมแล้วเมื่อเป็นเช่นนี้ โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาไม่มีทางตามทหารม้าต้าเฉียนที่สมควรตายเ
ขณะที่เกออาซูตบหน้าฟางหยุนซื่อด้วยความโมโหไม่หยุด ทหารราบคนหนึ่งรีบร้อนวิ่งมา “ท่านแม่ทัพ องค์หญิงเจียเหยามาถึงแล้ว...”เจียเหยา?เกออาซูใจกระตุก ผลักฟางหยุนซื่อออก รีบร้อนพลิกตัวขึ้นหลังม้า วิ่งไปในเมืองแม้ม้าของเขาเทียบไม่ได้กับย่ำเหมันต์ของปานปู้ แต่ก็นับว่าเป็นม้าชัดเลิศที่วิ่งได้พันลี้ต่อให้เป็นเช่นนี้ ความเร็วของม้าตัวนนี้ไม่ได้กินอาหารตลอดวันลดไปอย่างมากม้าของเขายังเป็นเช่นนี้ นับประสาสิ่งใดกับม้าศึกของทหารทั่วไป?หากทำตามวิธีของฟางหยุนซื่อจริง ไม่เพียงทำให้ม้าศึกทั้งหมดของพวกเขาสิ้นเปลือง กองทัพสองหมื่นของพวกเขา เกรงว่าคงพิการหมดแล้วกลับมาค่อยจัดการไอสุนัขนี่!เกออาซูเต็มไปด้วยความโกรธอยู่เต็มอก กลับเข้าไปในเมืองเจียเหยาพาองครักษ์คนสนิทสิบกว่าคนควบม้ามาตลอดทาง คนและม้าของพวกเขาล้วนเหนื่อยล้า“เกาอาซูคาราวะองค์หญิง”เมื่อเห็นเจียเหยา เกออาซูรีบทำความเคารพ“ท่านแม่ทัพไม่ต้องมากพิธี”เจียเหยาโบกมืออย่างเหนื่อยล้า จากนั้นก็ไถ่ถาม “ตอนนี้ทหารม้าต้าเฉียนไปทางใดแล้ว?”เกออาซูฮึดฮัดกล่าว “พวกเขาคงจู่โจมชนเผ่าที่อยู่ใกล้ที่สุด...”กล่าวจบ เกออาซูก็อธิบายสถานการณ์กับเ