หลังจากได้ยินคำพูดของฉินชีหู่แล้ว หยุนเจิงและเมี่ยวอินพลันสะดุ้งพร้อมกันในใจสุดท้ายก็มาถึงแล้วหรือนี่?รู้อยู่แล้วว่าอย่างไรฉินชีหู่ก็จะถามเรื่องนี้“ท่านคงไม่ได้จะถามข้าว่าคิดจะก่อกบฏหรือเปล่าหรอกนะ?”หยุนเจิงถามฉินชีหู่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง“ใช่!”ฉินชีหู่เองก็ไม่อ้อมค้อม “เจ้าดูสิ เจ้าเองก็ถือว่าครบคุณสมบัติแล้วไม่ใช่หรือ? ในแง่ของกลยุทธ์ แม้แต่แม่ทัพผ่านศึกอย่างแม่ทัพตู๋กูก็ยังสู้เจ้าไม่ได้ แต่เจ้ากลับแกล้งทำเป็นคนไร้ประโยชน์ในเมืองจักรพรรดิ แล้วยังจะมานำทัพที่ซั่วเป่ยอีก คิดอย่างไรก็ไม่ปกติ”ฉินชีหู่ตรงไปตรงมา แต่ไม่โง่เขลาตอนนี้เขาเองก็เข้าใจแล้วว่ากลยุทธ์แปลกๆ มากมายก่อนหน้านี้ต้องเป็นฝีมือของหยุนเจิงแน่นอน!ไม่เกี่ยวอะไรกับตู้หยวนกุยและเสิ่นลั่วเยี่ยนเลยสักนิด!หยุนเจิงซ่อนตัวเช่นนี้ หากจะบอกว่าไม่มีความคิดก่อกบฏเลย ตีให้ตายฉินชีหู่ก็ไม่เชื่อหรอก!บัดนี้ เขาเพียงแค่อยากได้คำตอบจากหยุนเจิงเท่านั้น!คำตอบที่แน่ชัด!“หากข้าตอบว่าไม่ก่อกบฏ ท่านจะเชื่อหรือไม่?”หยุนเจิงถามยิ้มๆ“เชื่อ!”ฉินชีหู่พยักหน้าโดยไม่คิด“หา?”คำพูดนี้ ทำให้หยุนเจิงมึนงง “ท่านเชื่อใจข้าเพีย
เขาเชื่อว่าหยุนเจิงมีความสามารถในการยึดดินแดนใหม่แน่นอนอีกอย่าง เป่ยหวนในตอนนี้ก็เสียหายอย่างหนักสามารถพูดได้ว่า การที่หยุนเจิงจะยึดดินแดนใหม่มาให้กับต้าเฉียนนั้นเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว“หากพ่อเจ้ายกทัพโจมตีเจ้าล่ะ เจ้าจะทำอย่างไร?”ฉินชีหูถามต่อ“แน่นอนว่าต้องเฝ้าด่านเป่ยลู่ให้ได้อยู่แล้ว!”หยุนเจิงยิ้มเบาๆ “ขอแค่ข้าเฝ้าด่านเป่ยลู่ได้ เขาจะยกทัพโจมตีข้า ก็ทำไม่ได้อยู่แล้ว! เขาคงไม่สั่งให้คนโจมตีด่านเป่ยลู่หรอกกระมัง?”“เอ่อ…ก็จริง!”ฉินชีหู่พยักหน้า เขากุมคางครู่หนึ่งแล้วมองหยุนเจิงอย่างจริงจัง “เจ้าสาบานต่อสวรรค์ว่าเจ้าจะไม่ก่อกบฏ! ขอแค่เจ้าไม่ก่อกบฏ ถึงแม้เจ้าจะยึดอำนาจทหารปกป้องตัวเอง ข้าก็ยังจะนับว่าเจ้าเป็นน้อง!”“คำสาบานเป็นสิ่งที่ไร้สาระที่สุด”หยุนเจิงส่ายหน้าหัวเราะ “แต่ข้าสามารถพูดได้ว่า ข้าไม่อยากเป็นจักรพรรดิขนาดนั้นจริงๆ”“จริงหรือ?”ฉินชีหู่สงสัยเขาไม่อยากเป็นจักรพรรดิ?“จริงสิ”หยุนเจิงเอ่ยจริงจัง “จักรพรรดิ ไม่ได้เป็นง่ายขนาดนั้น! ข้าไม่อาจทำตัวเคร่งขรึมเหมือนจักรพรรดิ หากไม่มีใครคิดจะฆ่าข้า ข้าอยากจะเป็นท่านอ๋องสบายๆ เที่ยวเล่นกินดีตลอดชีวิต”วั
รอให้กลุ่มเกออาซูมาถึง หยุนเจิงพวกเขาก็หนีไปแล้วบนพื้นยังมีร่างศพของม้าขนส่งและทหารขนส่งอยู่มากมายทหารเป่ยหวนที่รับหน้าที่ขนส่งเครื่องยิงหินก็ตายกันหมดเกออาซูหน้าเย็นชา ตะคอกเสียงดุดันว่า “ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ไล่ตามศัตรูให้เร็ว ต้องทำให้ทหารม้าต้าเฉียนพวกนี้ติดอยู่ในพื้นที่ของเราให้ได้! ต้องใช้เลือดของพวกมันมาล้างมลทินให้กับเรา!”“แม่ทัพไม่สามารถขอรับ!”ทันใดนั้น ที่ปรึกษาฟางหยุนซื่อที่อยู่ข้างกายเกออาซูรีบส่งเสียงห้ามฟางหยุนซื่อเป็นทหารต้าเฉียนที่ยอมจำนนหลังจากสงครามครั้งนั้นถึงแม้ฟางหยุนซื่อจะไม่ได้รับโอกาสในการนำทัพ แต่กลับเป็นที่ปรึกษาให้กับกองทหารเป่ยหวนมาโดยตลอดก่อนหน้านี้เป่ยหวนพ่ายไปสามครั้งติด ทหารในกองทหารเป่ยหวนเกลียดชังคนของต้าเฉียนเข้าไส้ แม้แต่ฟางหยุนซื่อที่เป็นที่ปรึกษาคนนี้ก็ถูกเหมารวมไปด้วยช่วงเวลานั้น ฟางหยุนซื่อตกอับมากอย่าว่าแต่แม่ทัพเป่ยหวนเหล่านั้นเลย แม้แต่ทหารธรรมดาทั่วไปก็มากลั่นแกล้งเขาด้วยหากไม่ระวัง ก็จะถูกโบยด้วยเชือกคุมม้าหลังจากที่เจียเหยานำทัพกองหน้าถึงจะได้ใช้งานฟางหยุนซื่ออีกครั้งฟางหยุนซื่อจึงซาบซึ้งใจต่อเจียเหยามาก“ไม่สามารถ?”
บัดนี้ เกออาซูไม่มีความคิดอยากหยุดพักเลยเขาคิดแต่อยากไล่ตามทหารม้าต้าเฉียน แล้วหั่นพวกเขาเป็นชิ้นๆ ซะ…อีกฝั่งหนึ่ง เจียเหยาออกคำสั่งให้หยุดไล่ตามฝั่งอาหลู่ไถถูกโจมตีเสียหายหนักทหารต้าเฉียนได้โจมตีผ่านเส้นทางแนวป้องกันของอาหลู่ไถ แล้วกลับไปที่โขดเป่ยหยวนได้สำเร็จถึงแม้นางจะไม่พอใจแค่ไหน นางก็ทำได้เพียงสั่งให้หยุดไล่ตามถึงแม้นางต้องการจะนำทัพคนหกหมื่นคนไปโจมตีที่โขดเป่ยหยวน แต่นางก็รู้ดีว่าตนทำเช่นนั้นไม่ได้เพราะหากทำเช่นนี้ แม้ว่าพวกเขาจะกำจัดทหารต้าเฉียนที่หนีไปจากชายแดนกู้ได้ทั้งหมด กองทหารใหญ่หกหมื่นนายของพกวเขา เกรงว่าก็คงเหลืออยู่ไม่กี่คนเช่นกันแพ้แล้ว!ตั้งแต่วินาทีที่ฝ่ายอาหลู่ไถถูกโจมตีอย่างหนัก พวกเขาก็แพ้แล้ว!เจียเหยายืนอยู่ตรงหน้าหลุมที่อาหลู่ไถสั่งให้คนขุด นางกำหมัดตนแน่น ในใจเต็มไปด้วยความโกรธสงครามที่ต้องชนะอยู่แล้ว สุดท้ายกลับเป็นจุดจบที่แพ้อย่างอนาถผลลัพธ์เช่นนี้ เจียเหยาไม่สามารถยอมรับได้เลยจริงๆวินาทีนี้ เจียเหยาที่มั่นใจมาโดยตลอดเริ่มสงสัยในตนเองที่สำคัญคือ แม้จะแพ้แล้ว แต่นางก็ไม่รู้ว่าพวกเขาแพ้ที่ไหนขณะที่เจียเหยากำลังโกรธจัด ทหารข้างก
ขณะเดียวกัน ตู๋กูเช่อและเสิ่นลั่วเยี่ยนพวกเขาเองก็นำทัพฝ่าวงล้อมไปตั้งหลักอยู่ที่โขดเป่ยหยวนได้แล้วถึงแม้พวกเขาจะฝ่าวงล้อมออกมาได้สำเร็จ แต่พวกเขาก็บาดเจ็บไปไม่น้อยเช่นกันคนนับสามหมื่นเหลือรอดมาได้ไม่ถึงสองหมื่นห้าพันนายนี่เป็นจำนวนการเสียหายที่มากที่สุดตั้งแต่ที่หยุนเจิงนำทัพมาแต่ก็เป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้พวกเขาสามารถนำทัพพาคนฝ่าวงล้อมออกมาได้มากเพียงนี้ ก็ถือว่าเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่แล้วยิ่งไปกว่านั้น ฝ่ายอาหลู่ไถยังเจ็บหนักกว่าพวกเขาด้วยทหารม้าหนึ่งพันนายที่อวี๋ซื่อจงดูแลก็เสียหายไปครึ่งหนึ่ง คนที่เหลือแทบจะบาดเจ็บทุกคน แม้แต่อวี๋ซื่อจงเองก็ด้วย เขาถูกยิงไปสองที่ แต่โชคดีที่มีเกราะบังเอาไว้ ทำให้ไม่ถึงกับชีวิต“ยังขยับได้หรือไม่?”เสิ่นลั่วเยี่ยนตามหาอวี๋ซื่อจงจนพบ“ไม่เป็นอะไร!”อวี๋ซื่อจงยิ้ม “แผลเล็กน้อย ไม่เป็นอะไรมาก”“ดี เช่นนั้นต้องวานให้เจ้าเดินทางอีกสักหน่อยนะ!’เสิ่นลั่วเยี่ยนเองก็ไม่มีเวลามาสนใจอวี๋ซื่อจง นางรีบลงจากม้า “รีบขี่ท่าเสวี่ยไปที่ซั่วฟางให้เร็วที่สุด บอกให้ทหารที่หุบผาชันช่องลมเตรียมตัวรับมือไว้เสมอ! อีกอย่างส่งมอบจดหมายนี้ให้กับตู้กุยหยวนด้วย!”
“เจ้าคิดว่าเจ้าจะพาข้าไปได้หรือ?” เสิ่นลั่วเยี่ยนถากถาง“หากพาพระชายาไปไม่ได้ เช่นนั้นพวกเรากับพระชายาก็พินาศไปด้วยกัน!” หานจิ้นสายตาเย็นชาดุดัน “จิ้งเป่ยอ๋องหากต้องการแย่งอำนาจ ข้าในฐานะราชองครักษ์ ไม่อาจมองดูจิ้งเป่ยอ๋องแย่งอำนาจทางทหารกองทหารมณฑลทางเหนือไปได้หน้าตาเฉย!”หานจิ้นไม่ใช่คนโง่การแสดงออกทั้งหมดของหยุนเจิง เห็นได้ชัดว่าต้องการแย่งอำนาจปัจจุบัน ขอแค่จับเสิ่นลั่วเยี่ยนได้ จับกุมเสิ่นลั่วเยี่ยนกลับเมืองจักรพรรดิ จึงสามารถทำให้หยุนเจิงติดกับดักได้“เจ้ากล้าลงมือหรือ?”เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่กระวนกระวาย เพียงมองหานจิ้งด้วยสายตาเย็นชา “ข้าบอกเจ้าได้อย่างชัดเจน ขอแค่เหล่าลูกน้องของเจ้ากล้าจับอาวุธ พวกเจ้าต้องมีจุดจบคือถูกสังหารเก้าชั่วคน!”“หากพวกเรานั่งดูโดยไม่สนใจ นั่นคงต้องถูกประหารเก้าชั่วคนของจริงแล้ว!” หานจิ้งไม่เห็นด้วยกับการกระทำทั้งหมด“ไร้สาระ!”“หากไม่มีทางอ๋อง พวกเจ้าสุนัขทั้งหลายยังสามารถรอดตายจากชายแดนกู้ได้หรือ?”“หากพวกเจ้ามีความสามารถก็ไปจับเว่ยเหวินจงสิ!”“หากพวกเจ้ากล้าขยับ ข้าจะสับพวกเจ้าเป็นชิ้นๆ จนไม่เหลือ!”“คิดแตะต้องพระชายา ต้องข้าศพข้าไปกัน!”เ
“ห๊า?”ตู๋กูเช่อแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “เจตนาใด?”“เสแสร้ง เสแสร้งต่อไป!”เสิ่นลั่วเยี่ยนมองตู๋กูเช่อ “พวกเขาเป็นราชองครักษ์ ในเมื่อเขารู้ว่าหยุนเจิงคิดจะแย่งอำนาจ ย่อมต้องทำสิ่งใดแน่! ห้ามไม่ได้กับไม่ได้ห้าม เป็นคนละเรื่องกัน ใช่หรือไม่?”หานจิ้งกล่าวว่าพังพินาศไปพร้อมนาง ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระหยุนเจิงต่างหากเป็นตัวละครสำคัญ!พวกเขาคิดพังพินาศไปพร้อมนางจะมีประโยชน์ใด?แต่พวกเขาจำเป็นต้องแสดงท่าที พิสูจน์ว่าพวกเขาไม่ใช่พวกเดียวกับหยุนเจิงหากจักรพรรดิเหวินสืบสาวราวเรื่องขึ้นมา พวกเขาก็พยายามแล้ว เพียงแต่จนปัญญาขัดขวางเท่านั้นฆ่านางแล้ว บีบบังคับหยุนเจิงก่อกบฏ พวกหานจิ้งจะต้องถูกประหารเก้าชั่วคนแน่นอนแต่หากพวกเขาไม่ทำสิ่งใดเลย กลับถึงเมืองจักรพรรดิ แม้จะไม่ถึงขั้นถูกประหารเก้าชั่วคน แต่ก็อันตรายถึงชีวิตคนที่สามารถเป็นรองผู้บัญชาการทหารราชองครักษ์ได้ ย่อมรู้ถึงความร้ายแรงในความสัมพันธ์ดังนั้น หานจิ้งจำเป็นต้องทำสิ่งใดสักหน่อยเมื่อได้ฟังคำของเสิ่นลั่วเยี่ยน ตู๋กูเช่อยิ้มแห้งขึ้นมาทันทีเขานึกว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนดูไม่ออก!เสิ่นลั่วเยี่ยนหัวเราะ จากนั้นก็ถามตู๋กูเช่อ “เจ้
ขณะที่เว่ยซั่วกำลังได้ใจ ด้านนอกมีเสียงอึกกะทึกครึกโครมดังเข้ามาเว่ยซั่วยังไม่ได้ทันได้ส่งเสียงถาม เสิ่นลั่วเยี่ยนร่างกายท่วมเลือดและตู๋กูเช่อก็พาคนบุกเข้ามามองดูทั้งสองคน เว่ยซั่วสีหน้าเปลี่ยนไปสมควรตาย พวกเขาบุกฝ่าวงล้อมสำเร็จแล้ว?หลังสติหลุดไปชั่วคราว เว่ยซั่วรีบลุกขึ้น แสร้งทำสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย รีบร้อนวิ่งมาข้างหน้า “พระชายา รองผู้บัญชาการ พวกท่านนี่คือ...”“แค่กๆๆ...”เสิ่นลั่วเยี่ยนแสร้งทำสีหน้าอ่อนแออย่างมาก จากนั้นก็ล้มไปกับพื้น“พระชายา!”เว่ยซั่วตะโกนร้อง รีบร้อนเข้าไปพยุงชั่วพริบตาที่เว่ยซั่วเข้าไปพยุง หอกลายเมฆในมือเสิ่นลั่วเยี่ยนก็ยื่นออกมาเว่ยซั่วนึกไม่ถึงว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนจะฆ่าเขา จึงไม่ได้ป้องกันแต่อย่างใดรอให้เว่ยซั่วได้สติกลับมา หอกลายเมฆก็พุ่งเข้าใส่เว่ยซั่วแล้ว“แม่ทัพ!”เมื่อเห็นเว่ยซั่วโดนโจมตี ทหารคนสนิทภายในจวนพากันชักอาวุธออกมา“หยุดเดี๋ยวนี้!”ตู๋กูเช่อแผนเสียงคำรามออกมา “เว่ยเหวินจง เว่ยซั่วสมคบคิดกับศัตรู เจตนาทำร้ายกองทัพสี่หมื่นคนที่ชายแดนเมืองกู้! เรื่องนี้หลักฐานแน่ชัด ทหารราบหลายหมื่นคนที่ชายแดนเมืองกู้ล้วนเป็นพยาน! หากเจ้ายังกล้
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่