“อวี้กั๋วกงมาเพื่อสิ่งใด?”ตอนที่กำลังรอยู่ที่ประตูค่าย เสิ่นลั่วเยี่ยนถามด้วยความสงสัยหยุนเจิงยกยิ้มมุมปาก ตอบกลับ “ยังจะมาเพื่อสิ่งใด? ย่อมต้องมาเพื่อประกาศพระราชโองการ! ผลงานใหญ่ของพวกเราก่อนหน้านี้ เสด็จพ่อยังไม่ได้พระราชทานรางวัลเลย!”“รางวัล?”เสิ่นลั่วเยี่ยนตาเป็นประกาย “วันนี้เป็นวันส่งท้ายปี! อวี้กั๋วกงเร่งมาถึงในวันนี้ ดูเหมือนจงใจไปหน่อย!”“ย่อมต้องจงใจ!”หยุนเจิงพยักหน้ายิ้ม “บางที นี่อาจเป็นเรื่องประหลาดใจที่เสด็จพ่อเตรียมไว้ให้พวกเรากระมัง!”เรื่องประหลาดใจหรือ?เสิ่นลั่วเยี่ยนหัวเราะสดใจเรื่องประหลาดใจ นางไม่อยากคิดขอแค่ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจกลัวก็พอแล้ว!พวกเขายืนรออยู่หน้าประตูค่ายประมาณสองเค่อ เซียวว่านโฉวในที่สุดก็พาขบวนคนและม้ามาถึงหยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนมองตากันเงียบๆ รีบเข้าไปต้อนรับ“ข้าน้อยหยุนเจิง คาราวะอวี๋กั๋วกง!”หยุนเจิงทำความเคารพเซียวว่านโฉวสำหรับเซียวว่านโฉวทหารผ่านศึกผู้ยืนหยัดในสงครามหลัก หยุนเจิงเลื่อมใสนัก“องค์ชาย ไม่ได้!”เซียวว่านโฉวรีบพยุงหยุนเจิง “ควรเป็นข้าที่คาราวะองค์ชายและพระชายาถึงจะถูก!”“อย่า อย่า!”หยุนเจิงโบกมือ
“ได้!”เซียวว่านโฉวตอบรับอย่างสบายรู้ว่าเซียวว่านโฉวร้อนใจ หยุนเจิงเองก็ไม่อ้อมค้อมกับเขาตอนที่เซียวว่านโฉวกำลังกินเกี๊ยว หยุนเจิงบอกเรื่องที่เขากับเสิ่นลั่วเยี่ยนไปติ้งเป่ยแนะนำแผนให้กับเว่ยเหวินจงโดยตรง รวมทั้งความขัดแย้งของพวกเขา ก็บอกกับเซียวว่านโฉวด้วยเช่นกันเมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง เซียวว่านโฉววางชามลง ครุ่นคิดเงียบๆหลังชั่วครู่ เซียวว่านโฉวสีหน้าจริงจังกล่าว “ด้วยมุมมองข้า เรื่องนี้ องค์ชายและเว่ยเหวินจงล้วนไม่ผิด! แผนที่องค์ชายเสนอปฏิบัติได้จริง แต่เวลาเพียงครึ่งเดียวทัพกำลังเสริมของราชสำนักไม่มีทางมาถึงทัน เว่ยเหวินจงยังต้องคิดถึงเรื่องภายหลัง เขาคิดถึงความเสียหาย ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้”“ตอนนั้นเป็นข้าที่วู่วาวเกินไป”หยุนเจิงพยักหน้าเล็กน้อย “แต่สถานการณ์วิกฤติตรงหน้า หากเว่ยเหวินจงไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้ ข้ากังวลว่ากองทัพสี่หมื่นของสุยหนิงคงเลือกที่จะฝ่าวงล้อม!”“อื้อ นี่ก็เป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน!”เซียวว่านโฉวพยักหย้า “ข้าเข้าใจความหมายขององค์ชายแล้ว! ข้าจะรีบไปติ้งเป่ย หากไม่มีวิธีที่ดี ข้าจะโน้มน้าวให้เว่ยเหวินจงทำตามแผนการขององค์ชาย!”“เช่นนั้นก็ขอบคุณอวี๋กั๋
รางวัลของจักรพรรดิเหวิน ไม่นับว่าอลังการแต่ก็นับได้ว่าไม่เลวเหตุผลสำคัญคือ พวกตู้กุยหยวนล้วนเป็นทหารจวนหยุนเจิงต่อให้จักรพรรดิเหวินประทานรางวัลให้เพียงใด ก็ไม่สามารถประทานรางวัลให้พวกตู้กุยหยวนในฐานะแม่ทัพมิฉะนั้น หยุนเจิงเป็นท่านอ๋องและเป็นแม่ทัพที่มีอำนาจกุมทหาร เช่นนั้นจะกลายเป็นอะไร?รางวัลของจักรพรรดิเหวิน รวบรวมอยู่บนหัวของหยุนเจิงเป็นสำคัญ แล้วก็มีของพวกหลูซิ่งที่ไม่ใช่ทหารจวนหยุนเจิง ก็ได้รับรางวัลกันไม่น้อยตำแหน่งอย่างเป็นทางการของหยุนเจิงเปลี่ยนขั้นสามเป็นแม่ทัพผิงเป่ย บวกกับทรัพย์สมบัติมากมายพวกอวี๋ซื่อจงได้รับประทานรางวัลให้แค่ชุดเกราะชั้นดีเท่านั้น เสิ่นลั่วเยี่ยนได้ได้รับประทานรางวัลเป็นชุดคลุมขนสัตว์ที่ละเอียดปราณีตงดงามความหมายของจักรพรรดิเหวินนั้นชัดเจนมากตามผลงาน อวี๋ซื่อจง ตู้กุยหยวนและคนอื่น ล้วนสามารถได้รับประทานรางวัลดังเช่นแม่ทัพแต่เขาไม่สามารถเลื่อนตำแหน่งคนเหล่านั้น ทำได้เพียงประทานชุดเกราะขุนนางตามสมควรเท่านั้นนี่นับว่าเป็นการยอมรับผลงานของพวกเขาแล้วเงินทองเหล่านั้น ย่อมต้องให้หยุนเจิงเป็นผู้มอบให้กับพวกเขาตามผลงานน้อยใหญ่ของพวกหลู่ซิ่
ชานเจียงเคยได้ยิน ชานอี้เคยได้ฟัง!อันหนึ่งตำแหน่งขุนนางบุ๋น อันหนึ่งตำแหน่งขุนนางบู้แต่ชานจือนี่ พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนรู้แค่ชานจือ แต่ทำสิ่งใดนั้น ราชโองการจักรพรรดิเหวินก็ไม่ได้บอกเอาไว้!เมื่อเห็นทุกคนล้วนไม่รู้จักตำแหน่งขุนนางนี้ทำสิ่งใด จางซูอดไม่ได้ที่จะตกใจ “ฝ่าบาทเพื่อประทานตำแหน่งขุนนางให้ข้า คงไม่ตั้งตำแหน่งขุนนางโดยเฉพาะออกมาหรอกกระมัง?”“นี่...อาจเป็นไปได้!”หยุนเจิงยิ้มด้วยความประหลาดใจ “เจ้าได้เป็นข้าราชการก็พอแล้ว!”จางซูชะงักเล็กน้อย กล่าวด้วยความตกใจ “พูดเช่นนี้ ข้าคงไม่ใช่คนเดียวที่ได้ขุนนางตำแหน่งนี้ของต้าเฉียนเรา?”หยุนเจิงพยักหน้าเล็กน้อย “น่าจะใช่!”จางซูเมื่อได้ฟัง ทันใดนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “นี่ฝ่าบาทตั้งตำแหน่งขุนนางให้ข้าโดยเฉพาะเชียวนะ! ดีกว่ามีใบรับรองบัณฑิตจากสำนักศึกษาหัวเหวินเยอะเลย! วะฮ่าๆ...”จางซูหัวเราะเสียงดังอย่างสะใจ ทำเอาคนมองหน้าเป็นแถบสีดำทว่า เมื่อคิดถี่ถ้วน เรื่องนี้ก็นับว่ามีหน้ามีตามากแม้ตำแหน่งขุนนางนี้ไม่มีอำนาจใด แต่จักรพรรดิเหวินจงใจสร้างขึ้นให้จางซูโดยเฉพาะ!คำพูดนี้กล่าวออกไป นับว่ามีหน้ามีตาเช่นกัน!“เอาล่ะ เ
หลังจากการรวมตัวกันอย่างเรียบง่าย หยุนเจิงสั่งให้พวกเยี่ยจื่อกลับไปก่อนก่อนออกเดินทางก็กำชับอีกครั้ง ให้พวกนางรีบเดินทางไปยังถ้ำซ่อนทหารกลางคืน เสิ่นลั่วเยี่ยนและเมี่ยวอินนั่งประกบหยุนเจิงซ้ายขวาทั้งสามครล้วนไม่พูดจา แค่นั่งโง่ๆ อยู่เช่นนั้นหากมีคนโผล่เข้ามา คงคิดว่าสามคนนี้ล้วนเอ๋อไปแล้ว!เพียงแต่ ในสมองของหยุนเจิงกำลังคิดการวางกำลังอย่างสมบูรณ์ ส่วนเสิ่นลั่วเยี่ยนและเมี่ยวอินคิดสิ่งใดอยู่ เขาเองก็ไม่รู้เช่นกันหยุนเจิงทบทวนแผนการทั้หมดภายในสมองอีกรอบ จึงจะสลัดความคิดของตัวเองออกไปหันหน้ามองไป หญิงสาวทั้งสองต่างก็เบิกตากว้าง ทว่าดวงตาทั้งสองข้างกลับเหม่อลอยเห็นได้ชัด หญิงทั้งสองกำลังคิดเรื่องในใจ“ข้าว่า พวกเจ้ากำลังทำสิ่งใด?”หยุนเจิงโอบกอดหญิงสาวคนละข้าง “พวกเจ้าคงไม่ได้กำลังคิดถึงครอบครัวตัวเองหรอกกระมัง?”ถูกหยุนเจิงถาม ทั้งสองสาวจึงหลุดออกจากความคิดเสิ่นลั่วเยี่ยนไม่ได้ปัดมือหยุนเจิงที่วางไว้ที่เอวออก จากนั้นก็กล่าวพึมพำ “ไม่รู้ว่าท่านแม่และพวกพี่สะใภ้จะฉลองวันส่งท้ายปีกันสนุกหรือไม่?”“น่าจะไม่สนุกกระมัง?”หยุนเจิงกล่าว “พวกนางคงกำลังเป็นห่วงพวกเรา”“เจ้าพู
เจียเหยายืนอยู่ตรงทางเข้ากระโจม มองดูทหารเหล่านั้นแข่งขันกันอย่างเงียบๆ ในใจผิดหวังเล็กน้อยดูเหมือน กองทัพที่ป้อมเมืองสุยหนิงจะไม่มาโจมตีค่ายแล้วเดิมนางคิดว่า หากกองทัพเมืองสุยหนิงคิดจะจัดการพวกเขา พวกเขาก็จะเอาชนะกองทัพของเมืองสุยหนิงได้ในคราวเดียว จากนั้นก็ยึดครองเมืองสุยหนิงเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องเปลืองเวลาไปบุกโจมตีซั่วฟางแล้วแต่กองทัพของเมืองสุยหนิงไม่ให้โอกาสนางต่อไป คงต้องไปสนใจเมืองซั่วฟางแล้ว!ช่างเถอะ!พอดีเลย นางก็อยากเจอกับหยุนเจิงที่ทำให้อาจารย์หมดความมั่นใจ!หากสามารถจับหยุนเจิงได้ ย่อมดีที่สุดขณะที่เจียเหยากำลังวางแผนเงีนยๆ ปานปู้ก็รีบร้อนเดินเข้ามาเมื่อเห็นสีหน้าของปานปู้ เจียงเหยาก็รู้ว่าเขามีเรื่องสำคัญจะรายกงาน จึงเชิญปานปู้เข้าไปคุยกันในกระโจม“องค์หญิง หน่วยสอดแนมของพวกเราได้รับข่าวสำคัญ!”เมื่อเดินเข้าไปในกระโจม ปานปู้กล่าวอย่างร้อนใจ “เมื่อคืนหยุนเจิงไปที่ติ้งเป่ย เหมือนจะเกิดความขัดแย้งกับเว่ยเหวิจง ด่าเว่ยเหวินจงตลอดเส้นทางที่ออกจากเมืองติ้งเป่ย”“เขาด่าสิ่งใด?” เจียเหยาถามด้วยความสนใจปานปู้ตอบ “ด่าเว่ยเหวินจงขี้ขลาดกลัวตาย ใจเสาะ”เช่นนั
สามวันให้หลัง เซียวว่านโฉวมายังซั่วฟางอีกครั้งแต่ก่อนหน้านั้น คนที่หยุนเจิงส่งออกไปได้รับรายงงานข้อมูลที่ถูกต้องแล้วกองทัพเป่ยหวนทางด้านทิศใต้ของป้อมเมืองสุยหนิงมีกลิ่นหอมเนื้อลอยมาตลอดเวลา!น่าจะกำลังเร่งทำอาหารแห้งการคาดเดาของหยุนเจิง น่าจะไม่ผิดพลาดแล้วสิ่งที่เซียวว่านโฉวนำมา มีคำสั่งทหารของเว่ยเหวินจงด้วยเว่ยเหวินจงสั่งหยุนเจิงให้ทิ้งทหารชราอ่อนแอไว้เฝ้าเมืองซั่วฟางและปากเขาเขี้ยวหมาป่า นำทหารทั้งหมดที่สามารถออกรับได้รวมเข้ากับทหารของหยวนเลี่ยที่อยู่บริเวณหุบผาชันช่องลม เวลาก่อนเที่ยงของวันที่เจ็ดบุกโจมตีกองทัพใหญ่ด้านทิศใต้ของป้อมเมืองสุยหนิงหากไม่โจมตีตรงตามเวลา ทำให้พลาดโอกาสบุก ประหาร!เพื่อให้แน่ใจว่ามีการจัดกำหนดการอย่างครบถ้วน เว่ยเหวินจงยังมอบหมายให้เซียวว่านโฉวสั่งการเขาและกองกำลังหยวนเลี่ยเป็นการชั่วคราวเมื่อได้รับคำสั่ง หยุนเจิงมีใจอยากจะแทงเว่ยเหวินจงให้ตายแล้วให้เซียวว่านโฉวมาสั่งการกองทัพของพวกเขา?มารดาเขาสิ อยู่ดีไม่ว่าดี?มารดาเขาสิ!เห็นได้ชัดว่าเว่ยเหวินจงกำลังสร้างปัญหาให้เขา!ที่สำคัญคือ เขาไร้หาทางจะกล่าวหาว่าเว่ยเหวินจงกำลังสร้างปัญหาให้
เห็นหยุนเจิงหยิบถุงพกออกมา เสิ่นลั่วเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะอึ้งไอสารเลวนี่ แม้แต่สิ่งนี้ก็เตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วหรือ?ก่อนหน้านี้เขาส่งคนไปหาพี่สะใภ้ คงไม่ใช่เพื่อทำถุงพกนี้หรอกกระมัง?ที่อึ้งยิ่งกว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนกล่าวทันที “รีบเปิดดูเร็ว! คุณชายเหลิ่งกลยุทธ์ละเอียดถี่ถ้วน ในถุกพกนี่ ต้องมีแผนการจัดการศัตรูชั้นยอดที่คุณชายเหลิ่งทิ้งเอาไว้!”“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น!”หยุนเจิงทำสีหน้าผิดหวัง ค่อยๆ เปิดถุกพกออกดูเห็นสีหน้าของหยุนเจิง เสิ่นลั่วเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะแอบยิ้มในใจไอสารเลวนี่แสดงเก่งจริง!คนที่ไม่รู้ คงคิดว่านี่เป็นถุงพกที่คุณชายเหลิ่งผู้ไร้ตัวตนเหลือทิ้งเอาไว้!หยุนเจิงกางกระดาษที่อยู่ในถุงพก หยุนเจิงสีหน้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง“เป็นอะไร?”เซียวว่านโฉวถามด้วยความตื่นตระหนก“อวี๋กั๋วกง ท่านรีบดูสิ สิ่งที่คุณชายเหลิ่งพูด มีความเป็นไปได้หรือไม่!”หยุนเจิงนำกระดาษที่อยู่ข้างในถุงพกส่งให้กับเซียวว่านโฉวเสิ่นลั่วเยี่ยนสงสัย ยื่นหน้าเข้าไปดูด้วยเช่นกันนางไม่ได้แสดงละครนางไม่รู้จริงๆ ว่าภายในถุงพกเขียนสิ่งใดไว้ไม่นาน เสิ่นลั่วเยี่ยนก็ได้เห็นเนื้อหาในถุงพกนั้นมัน