หยุนเจิงหลับยาวไปถึงเช้าอีกวันหนึ่งหลังจากที่ได้นอนหลับแล้ว ในที่สุดหยุนเจิงก็กลับมากระปรี้กระเปร่าต้องยอมรับว่าการฝึกฝนวรยุทธ์นั้นก็มีข้อดีมากเช่นกันเปลี่ยนเป็นอดีต เขานอนดึกเช่นนี้ หากไม่ได้พักสักสองสามวันคงไม่มีทางฟื้นฟูได้แน่นอนแต่ทว่าบัดนี้ เขาเพียงแค่นอนหลับไปตื่นหนึ่ง ก็เหมือนเกิดใหม่แล้วหลังจากรับอาหารเช้าเสร็จ หยุนเจิงก็ได้พาเสิ่นลั่วเยี่ยนและเมี่ยวอินไปที่ค่ายเหนือเป่ยหวนน่าจะใกล้ลงมือแล้ว เมี่ยวอินเองก็ให้หยุนเจิงหยุดซ้อมตอนนี้นางเองก็อยู่ข้างกายหยุนเจิง คอยดูแลความปลอดภัยของหยุนเจิงบุรุษของตน ก็ต้องปกป้องด้วยตนเอง“สองสามวันนี้ท่านฝึกซ้อมอะไรพวกเขากันแน่?”ระหว่างทาง เสิ่นลั่วเยี่ยนอดไม่ได้ถามขึ้นอีกครั้งคำถามนี้ เสิ่นลั่วเยี่ยนถามไปหลายหนแล้วแต่หยุนเจิงให้ตายอย่างไรก็ไม่ตอบหยุนเจิงไม่พูด แน่นอนว่าเกาเหอพวกเขาก็ไม่กล้าพูดเช่นกัน“ท่าน…”เมื่อเห็นว่าหยุนเจิงไม่ยอมพูด เสิ่นลั่วเยี่ยนจึงเบือนหน้าหนีด้วยความโมโห“มีเรื่องอะไรที่ท่านไม่ยอมบอกพวกเราอีก?”เมี่ยวอินมองหยุนเจิงด้วยท่าทีสงสัย “หรือว่าท่านไม่เชื่อใจพวกเรา?”“นี่ไม่ใช่เรื่องเชื่อใจหรือไม่เช
“แหวะ…”สตรีทั้งสองนั่งยองอยู่บนพื้นหิมะแล้วอาเจียนออกมา“นี่คือหนึ่งในสิ่งที่ข้าสอนพวกเขา”หยุนเจิงสีหน้าเรียบนิ่ง แล้วมองสตรีทั้งสองด้วยสีหน้าย่ามใจ “บอกพวกเจ้าแล้วว่าไม่รู้จะดีกว่า พวกเจ้าไม่เชื่อ…”“หยุนเจิง!!!”เสิ่นลั่วเยี่ยนหันกลับไปตะคอกเสียงดัง “ต่อไปหากท่านกล้าจูบข้าอีก ข้าจะตีท่านให้…แหวะ…”เสิ่นลั่วเยี่ยนยังไม่ทันกล่าวจบ ก็หันกลับไปอาเจียนต่อ“เจ้าอยากรู้เองแล้วยังจะโทษข้าอีก?”หยุนเจิงยักไหล่ ปั้นหน้าใสซื่อมองดูสตรีทั้งสองที่กำลังอาเจียนอยู่ เกาเหอพลันอดไม่ได้ยิ้มขมขื่นนี่คือหนอนที่เขาคัดหน้าตาแล้วนะ!หากให้พวกนางได้เห็นสภาพหน้าตาของหนอนที่หยุนเจิงกินก่อนหน้านั้นล่ะก็ เกรงว่าพวกนางคงจะยอมรับไม่ได้เป็นแน่เขาไม่รู้จริงๆ ว่าหยุนเจิงที่เป็นองค์ชายผู้ส่งศักดิ์ถึงได้กลืนของสิ่งนี้ลงไปได้แถมยังหน้าไม่เปลี่ยนสีด้วย“แหวะ…”“แหวะ…”เสิ่นลั่วเยี่ยนและเมี่ยวอินหยุดอาเจียนไม่ได้ไม่เพียงแต่อาหารมื้อเช้าที่ถูกอาเจียนออกมาเท่านั้น แม้แต่น้ำดีก็แทบจะอาเจียนออกมาแล้วด้วยจนกระทั่งอาเจียนจนไม่มีอะไรจะออกมาแล้ว สตรีทั้งสองถึงค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อพวกนางหันไปมองหยุน
เว่ยเหวินจงส่งคนถ่ายทอดคำสั่งให้หยุนเจิงไปเจรจาที่ติ้งเป่ยทันที ต้องไปให้ถึงก่อนฟ้ามืดหยุนเจิงเองก็ไม่รู้ว่าเว่ยเหวินจงมีเรื่องอะไร เพียงแค่เตรียมตัวเล็กน้อยแล้วออกเดินทางไปติ้งเป่ยทันทีติ้งเป่ยห่างจากซั่วฟางราวสามร้อยลี้คนกลุ่มหนึ่งเร่งม้าเดินทาง ในที่สุดก็มาถึงติ้งเป่ยก่อนฟ้ามืดหยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนไม่ทันได้ดื่มแม้แต่น้ำ ก็ถูกพาเข้าไปในโถงประชุมแล้ววินาทีนี้ แม่ทัพกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือก็มากันครบแล้วหยุนเจิงยังเห็นฉินชีหูในท่ามกลางผู้คนด้วยทั้งสองสบตากันยิ้มแย้ม ถือเป็นการทักทายแต่ทว่า หยุนเจิงกลับไม่เห็นเงาของเซียวติ้งอู๋ไม่รู้ว่าเพราะเซียวติ้งอู๋ยังมาไม่ถึง หรือว่าไม่จำเป็นต้องเข้าประชุมเมื่อเห็นหยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนที่สวมชุดเกาะทองอันล้ำค่า เว่ยเหวินจงก็เผยสีหน้าไม่พอใจออกมาชุดเกราะทองอันล้ำค่า ไม่ใช่ใครก็ใส่ได้!หยุนเจิงเป็นเพียงแม่ทัพระดับสี่ เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่มีตำแหน่งไม่มียศด้วยซ้ำทั้งสองสวมชุดเกราะทองอันล้ำค่ามาเจรจา อย่างน้อยก็มีความคิดใช้อำนาจสถานะท่านอ๋องกับพระชายามากดผู้อื่นแต่เว่ยเหวินจงเองก็รู้ดีว่านี่เป็นของที่จักรพรรดิเหวินราชทานให้ก
ตามด้วยแม่ทัพอีกคนหนึ่ง “หากโจมตีเทียนหู ไม่เพียงแต่สามารถขมขู่ติ้งเป่ยและหม่าอี้ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถขมขู่สนามม้าโม่หยางด้วย ข้าคิดว่าเป้าหมายของเป่ยหวนอาจจะเป็นเทียนหู!”คนเหล่านี้ปริปากพูด คนอื่นๆ จึงเริ่มพูดความคิดเห็นของตนขึ้นมาคนส่วนใหญ่คิดว่า โอกาสที่เป่ยหวนจะโจมตีทางซั่วฟางนั้นน้อยมากเป่ยหวนต้องเดาได้แน่นอนว่าพวกเขาต้องป้องกันหยุนเจิงที่เป็นท่านอ๋องคนนี้มาก การโจมตีปีกขวานั้น ไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดอีกอย่าง อย่างไรซั่วฟางก็มีทหารทั่วไปหนึ่งแสนสองหมื่นนาย!ถึงแม้ทหารทั่วไปเหล่านี้จะต่อสู้ไม่เก่ง แต่จำนวนคนมาก!พูดไม่น่าฟังหน่อย ถึงแม้จะเป็นหมูหนึ่งแสนสองหมื่นตัว ก็เพียงพอให้เป่ยหวนดื่มหม้อหนึ่งแล้วทหารทั่วไปหนึ่งสอนสองหมื่นนาย หากอยู่เฝ้าเมือง เป่ยหวนส่งทหารม้าหนึ่งถึงสองหมื่นนายมาโจมตีก็ไม่อาจจะโจมตีได้หมดทีเดียวยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากเป่ยหวนเป็นการโจมตีแบบไม่คาดคิด ไม่มีทางโจมตีก่อนกองทหารใหญ่อยู่แล้ว มิเช่นนั้น กองกำลังป้องกันด้านหน้าของพวกเขาจะอ่อนแอ ซึ่งจะให้โอกาสแก่ป้อมเมืองสุยหนิงและป้อมเมืองจิ้งอันแน่นอนดังนั้น คนส่วนใหญ่จึงคิดว่า โอกาสที่เป่ยหวนจะโจมตีป
ได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว คนไม่น้อยต่างก็เข้าสู่ภวังค์ความคิดต้องยอมรับว่าความกังวลของหยุนเจิงใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลขอเพียงสูญเสียกองกำลังของกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือไป เช่นนั้นหากเป่ยหวนโจมตีมาอีกครั้งก็จะง่ายมากฉินชีหูเองก็คิดอย่างจริงจังเขารู้เรื่องภายในบ้างเล็กน้อยจักรพรรดิเหวินอยากหลอกใช้หยุนเจิงมาทำให้กองกำลังของเป่ยหวนลดลง แล้วเช่นนั้นเป่ยหวนจะไม่สามารถทำให้กองกำลังของกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือลดลงได้อย่างไร?ไม่จำเป็นต้องมาก ขอเพียงกำจัดทหารรบของกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือได้สักเจ็ดแปดหมื่นนาย เมื่อถึงต้นนฤดูใบไม้ผลิต้าเฉียนอาจจะไม่มีกำลังพอที่จะบุกโจมตีแล้วก็ได้ไม่ใช่เพราะไม่มีกำลังให้การโจมตี แต่เป็นเพราะถูกทำลายคติธรรมไปหมดแล้ว“องค์ชายหกมีเหตุผล!”ฉินชีหูเห็นด้วย แล้วถามหยุนเจิงอย่างสงสัย “ท่านเป็นคนคิดได้ หรือว่า…”หยุนเจิงรู้ว่าเขาอยากถามอะไร จึงทำปากส่งสัญญาณให้กับเสิ่นลั่วเยี่ยนข้างๆที่แท้ก็เสิ่นลั่วเยี่ยนนี่เองที่คิดได้!ฉินชีหูหัวเราะแหะๆ แล้วเอ่ยขมวดคิ้ว “องค์ชายหกโชคดีจริงๆ!”“แน่นอนอยู่แล้ว!”หยุนเจิงเองก็หัวเราะตามใบหน้าของเสิ่นลั่วเยี่ยนร้อนผ่าว แล้วจ้องหยุนเจ
หากตนยืนหยัดที่จะอยู่ที่ซั่วฟางต่อ เมื่อเกิดเรื่องขึ้นมา เขาจะโทษพวกเขาสองพี่น้องไม่ได้!เพราะพวกเขาบอกให้ตนไปที่เมืองสู้ฉวีแล้ว แต่ตนยืนหยัดจะอยู่ที่ซั่วฟางเอง“ท่านอ๋อง ข้าแนะนำให้ท่านกับพระชายาคิดดีๆ อีกครั้ง”เว่ยเหวินจงขมวดคิ้วกล่าว “ข้าเองก็คิดว่าควรป้องกันที่ปีกขวาก่อนล่วงหน้า ส่วนปีกซ้ายก็มอบให้ทหารทั่วไปหนึ่งแสนสองหมื่นนายนั่นป้องกัน! ขอแค่ท่านอ๋องกับพระชายาไปถึงเมืองสู้ฉวีได้ ข้าก็ไม่กังวลอะไรแล้ว!”“เรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องพูดอีก!”หยุนเจิงปฏิเสธโดยไม่คิด “ไม่ว่าแม่ทัพใหญ่จะสร้างกองกำลังป้องกันอย่างไร ข้าก็จะทำการป้องกันที่ซั่วฟางก่อน! หากเป่ยหวนกล้าบุกซั่วฟาง เช่นนั้นข้าจะทำให้พวกมันมาได้ แต่กลับไม่ได้เลยคอยดู!”ได้ยินคำพูดหนักแน่นของหยุนเจิงแล้ว คนไม่น้อยต่างก็ผงกศีรษะเบาๆถึงแม้ความสามารถของหยุนเจิงจะไม่ยอดเยี่ยม แต่ความกล้าเต็มล้น!ถือว่าเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง“แม่ทัพใหญ่ ข้ายังคงคิดว่าเป่ยหวนจะโจมตีที่ปีกซ้าย”ฉินชีหูกล่าวอีกครั้ง “ในเมื่อองค์ชายหกยืนยันว่าจะอยู่ที่ซั่วฟาง แม่ทัพใหญ่ก็ส่งทหารม้าไปที่ซั่วฟางสักเล็กน้อย เพื่อเพิ่มกองกำลังป้องกันให้กับปีกซ้าย”“ข้าเ
หลังจากเสร็จการประชุม เว่ยเหวินจงถึงได้สั่งให้คนทำอาหารให้ทุกคนทานไม่หรูหรามาก แต่ด้วยในช่วงนี้ของซั่วเป่ย ถือว่าไม่เลวแล้วขณะที่ทานอาหารอยู๋นั้น ฉินชีหูพูดคุยกับหยุนเจิงมากมายนักแต่ทว่าอย่างไรก็ยังคงเป็นคำนั้นหากเป่ยหวนโจมตีซั่วฟางก่อน เช่นนั้นก็รับมือป้องกันไว้ เป่ยหวนจะเรียกอาวุธอย่างไรก็ห้ามออกไปรับสงครามเด็ดขาด!ซั่วฟางมีทหารทั่วไปมากมายเพียงนั้น ถึงจะเป็นคนชราและคนพิการ แค่เรื่องการขนย้ายหนิต่างๆ คงทำได้อยู่กระมัง?ขอแค่พวกเขาไม่ออกไปทำสงคราม โอกาสที่เป่ยหวนจะโจมตีซั่วฟางได้มีไม่มากสำหรับการตักเตือนของฉินชีหู หยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนแสดงถึงความขอบคุณอีกครั้งแต่ทว่า หยุนเจิงตัดสินใจแล้วว่า เขาจะไม่อยู่เฝ้าที่เมืองหลังจากทานอาหารเสร็จ เว่ยเหวินจงก็ได้จัดแจงให้ทุกคนอยู่พักที่จวนเว่ยเหวินขงจัดห้องให้กับพวกเขา เสิ่นลั่วเยี่ยนจึงทำได้เพียงนอนห้องเดียวกันกับหยุนเจิงเมื่อเห็นรอยยิ้มชั่วร้ายของหยุนเจิงแล้ว เสิ่นลั่วเยี่ยนก็รู้ทันทีว่าไอ้สารเลวคนนี้ต้องมีแผนร้ายแน่ๆ“ข้าบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าตอนนี้ข้ายังรังเกียจอยู่!”เสิ่นลั่วเยี่ยนจ้องหยุนเจิงตาเขม็ง “หากท่านกล้าทำอะ
แท้จริงแล้ว หยุนเจิงรู้สึกว่าวิธีที่มั่นคงที่สุดคือการนำทหารสามหมื่นนายนั่นไปเฝ้าอยู่ที่ติ้งเป่ยเช่นนี้ ไม่ว่าเป่ยหวนจะโจมตีจากทางไหน เว่ยเหวินจงก็สามารถเข้าไปสนับสนุนได้ทันเวลา“เช่นนั้นท่านคิดว่าเป่ยหวนจะโจมตีซั่วฟางหรือเทียนหู?”เสิ่นลั่วเยี่ยนเอียวศีรษะถาม“หากเว่ยเหวินจงย้ายทหารสามหมื่นนายนั่นไปที่ปีกขวาจริง เช่นนั้นเป่ยหวนย่อมต้องโจมตีซั่วฟางแน่นอน!”หยุนเจิงแน่วแน่“เพราะเหตุใด?”เสิ่นลั่วเยี่ยนถามอย่างไม่เข้าใจหยุนเจิงตอบ “ข้าไม่รู้ว่าเว่ยเหวินจงตั้งใจละเลยหรือว่าไม่รู้จริงๆ กันแน่ เป่ยหวนอยากจะกลืนกินกองกำลังของเราย่อมต้องอยากให้คนของเราเคลื่อนไหวอยู่แล้ว!”“อย่างไรข้าก็เป็นองค์ชาย หากเป่ยหวนโจมตีซั่วฟาง ถึงซั่วฟางจะมีกำลังมากพอ แต่เว่ยเหวินจงก็ต้องส่งทหารมาช่วยเหลืออยู่แล้ว แม้จะเป็นการสร้างภาพก็ตาม!”“เช่นนี้ เป่ยหวนถึงจะมีโอกาสโจมตีได้”เขาเชื่อมั่นว่าเป่ยหวนไม่มีทางโจมตีเมืองทางเลือกที่โง่เหขลาที่สุดนี้แน่นอนอยากคิดจะโจมตีอย่างเด็ดขาด สู้รวบรวมกองกำลังแล้วโจมตีที่ป้อมเมืองสุยหนิงและป้อมเมืองจิ้งอันดีกว่าเช่นนี้ อย่างน้อยเป่ยหวนก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกองทัพเสร
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่