“แหวะ…”สตรีทั้งสองนั่งยองอยู่บนพื้นหิมะแล้วอาเจียนออกมา“นี่คือหนึ่งในสิ่งที่ข้าสอนพวกเขา”หยุนเจิงสีหน้าเรียบนิ่ง แล้วมองสตรีทั้งสองด้วยสีหน้าย่ามใจ “บอกพวกเจ้าแล้วว่าไม่รู้จะดีกว่า พวกเจ้าไม่เชื่อ…”“หยุนเจิง!!!”เสิ่นลั่วเยี่ยนหันกลับไปตะคอกเสียงดัง “ต่อไปหากท่านกล้าจูบข้าอีก ข้าจะตีท่านให้…แหวะ…”เสิ่นลั่วเยี่ยนยังไม่ทันกล่าวจบ ก็หันกลับไปอาเจียนต่อ“เจ้าอยากรู้เองแล้วยังจะโทษข้าอีก?”หยุนเจิงยักไหล่ ปั้นหน้าใสซื่อมองดูสตรีทั้งสองที่กำลังอาเจียนอยู่ เกาเหอพลันอดไม่ได้ยิ้มขมขื่นนี่คือหนอนที่เขาคัดหน้าตาแล้วนะ!หากให้พวกนางได้เห็นสภาพหน้าตาของหนอนที่หยุนเจิงกินก่อนหน้านั้นล่ะก็ เกรงว่าพวกนางคงจะยอมรับไม่ได้เป็นแน่เขาไม่รู้จริงๆ ว่าหยุนเจิงที่เป็นองค์ชายผู้ส่งศักดิ์ถึงได้กลืนของสิ่งนี้ลงไปได้แถมยังหน้าไม่เปลี่ยนสีด้วย“แหวะ…”“แหวะ…”เสิ่นลั่วเยี่ยนและเมี่ยวอินหยุดอาเจียนไม่ได้ไม่เพียงแต่อาหารมื้อเช้าที่ถูกอาเจียนออกมาเท่านั้น แม้แต่น้ำดีก็แทบจะอาเจียนออกมาแล้วด้วยจนกระทั่งอาเจียนจนไม่มีอะไรจะออกมาแล้ว สตรีทั้งสองถึงค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อพวกนางหันไปมองหยุน
เว่ยเหวินจงส่งคนถ่ายทอดคำสั่งให้หยุนเจิงไปเจรจาที่ติ้งเป่ยทันที ต้องไปให้ถึงก่อนฟ้ามืดหยุนเจิงเองก็ไม่รู้ว่าเว่ยเหวินจงมีเรื่องอะไร เพียงแค่เตรียมตัวเล็กน้อยแล้วออกเดินทางไปติ้งเป่ยทันทีติ้งเป่ยห่างจากซั่วฟางราวสามร้อยลี้คนกลุ่มหนึ่งเร่งม้าเดินทาง ในที่สุดก็มาถึงติ้งเป่ยก่อนฟ้ามืดหยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนไม่ทันได้ดื่มแม้แต่น้ำ ก็ถูกพาเข้าไปในโถงประชุมแล้ววินาทีนี้ แม่ทัพกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือก็มากันครบแล้วหยุนเจิงยังเห็นฉินชีหูในท่ามกลางผู้คนด้วยทั้งสองสบตากันยิ้มแย้ม ถือเป็นการทักทายแต่ทว่า หยุนเจิงกลับไม่เห็นเงาของเซียวติ้งอู๋ไม่รู้ว่าเพราะเซียวติ้งอู๋ยังมาไม่ถึง หรือว่าไม่จำเป็นต้องเข้าประชุมเมื่อเห็นหยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนที่สวมชุดเกาะทองอันล้ำค่า เว่ยเหวินจงก็เผยสีหน้าไม่พอใจออกมาชุดเกราะทองอันล้ำค่า ไม่ใช่ใครก็ใส่ได้!หยุนเจิงเป็นเพียงแม่ทัพระดับสี่ เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่มีตำแหน่งไม่มียศด้วยซ้ำทั้งสองสวมชุดเกราะทองอันล้ำค่ามาเจรจา อย่างน้อยก็มีความคิดใช้อำนาจสถานะท่านอ๋องกับพระชายามากดผู้อื่นแต่เว่ยเหวินจงเองก็รู้ดีว่านี่เป็นของที่จักรพรรดิเหวินราชทานให้ก
ตามด้วยแม่ทัพอีกคนหนึ่ง “หากโจมตีเทียนหู ไม่เพียงแต่สามารถขมขู่ติ้งเป่ยและหม่าอี้ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถขมขู่สนามม้าโม่หยางด้วย ข้าคิดว่าเป้าหมายของเป่ยหวนอาจจะเป็นเทียนหู!”คนเหล่านี้ปริปากพูด คนอื่นๆ จึงเริ่มพูดความคิดเห็นของตนขึ้นมาคนส่วนใหญ่คิดว่า โอกาสที่เป่ยหวนจะโจมตีทางซั่วฟางนั้นน้อยมากเป่ยหวนต้องเดาได้แน่นอนว่าพวกเขาต้องป้องกันหยุนเจิงที่เป็นท่านอ๋องคนนี้มาก การโจมตีปีกขวานั้น ไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดอีกอย่าง อย่างไรซั่วฟางก็มีทหารทั่วไปหนึ่งแสนสองหมื่นนาย!ถึงแม้ทหารทั่วไปเหล่านี้จะต่อสู้ไม่เก่ง แต่จำนวนคนมาก!พูดไม่น่าฟังหน่อย ถึงแม้จะเป็นหมูหนึ่งแสนสองหมื่นตัว ก็เพียงพอให้เป่ยหวนดื่มหม้อหนึ่งแล้วทหารทั่วไปหนึ่งสอนสองหมื่นนาย หากอยู่เฝ้าเมือง เป่ยหวนส่งทหารม้าหนึ่งถึงสองหมื่นนายมาโจมตีก็ไม่อาจจะโจมตีได้หมดทีเดียวยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากเป่ยหวนเป็นการโจมตีแบบไม่คาดคิด ไม่มีทางโจมตีก่อนกองทหารใหญ่อยู่แล้ว มิเช่นนั้น กองกำลังป้องกันด้านหน้าของพวกเขาจะอ่อนแอ ซึ่งจะให้โอกาสแก่ป้อมเมืองสุยหนิงและป้อมเมืองจิ้งอันแน่นอนดังนั้น คนส่วนใหญ่จึงคิดว่า โอกาสที่เป่ยหวนจะโจมตีป
ได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว คนไม่น้อยต่างก็เข้าสู่ภวังค์ความคิดต้องยอมรับว่าความกังวลของหยุนเจิงใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลขอเพียงสูญเสียกองกำลังของกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือไป เช่นนั้นหากเป่ยหวนโจมตีมาอีกครั้งก็จะง่ายมากฉินชีหูเองก็คิดอย่างจริงจังเขารู้เรื่องภายในบ้างเล็กน้อยจักรพรรดิเหวินอยากหลอกใช้หยุนเจิงมาทำให้กองกำลังของเป่ยหวนลดลง แล้วเช่นนั้นเป่ยหวนจะไม่สามารถทำให้กองกำลังของกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือลดลงได้อย่างไร?ไม่จำเป็นต้องมาก ขอเพียงกำจัดทหารรบของกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือได้สักเจ็ดแปดหมื่นนาย เมื่อถึงต้นนฤดูใบไม้ผลิต้าเฉียนอาจจะไม่มีกำลังพอที่จะบุกโจมตีแล้วก็ได้ไม่ใช่เพราะไม่มีกำลังให้การโจมตี แต่เป็นเพราะถูกทำลายคติธรรมไปหมดแล้ว“องค์ชายหกมีเหตุผล!”ฉินชีหูเห็นด้วย แล้วถามหยุนเจิงอย่างสงสัย “ท่านเป็นคนคิดได้ หรือว่า…”หยุนเจิงรู้ว่าเขาอยากถามอะไร จึงทำปากส่งสัญญาณให้กับเสิ่นลั่วเยี่ยนข้างๆที่แท้ก็เสิ่นลั่วเยี่ยนนี่เองที่คิดได้!ฉินชีหูหัวเราะแหะๆ แล้วเอ่ยขมวดคิ้ว “องค์ชายหกโชคดีจริงๆ!”“แน่นอนอยู่แล้ว!”หยุนเจิงเองก็หัวเราะตามใบหน้าของเสิ่นลั่วเยี่ยนร้อนผ่าว แล้วจ้องหยุนเจ
หากตนยืนหยัดที่จะอยู่ที่ซั่วฟางต่อ เมื่อเกิดเรื่องขึ้นมา เขาจะโทษพวกเขาสองพี่น้องไม่ได้!เพราะพวกเขาบอกให้ตนไปที่เมืองสู้ฉวีแล้ว แต่ตนยืนหยัดจะอยู่ที่ซั่วฟางเอง“ท่านอ๋อง ข้าแนะนำให้ท่านกับพระชายาคิดดีๆ อีกครั้ง”เว่ยเหวินจงขมวดคิ้วกล่าว “ข้าเองก็คิดว่าควรป้องกันที่ปีกขวาก่อนล่วงหน้า ส่วนปีกซ้ายก็มอบให้ทหารทั่วไปหนึ่งแสนสองหมื่นนายนั่นป้องกัน! ขอแค่ท่านอ๋องกับพระชายาไปถึงเมืองสู้ฉวีได้ ข้าก็ไม่กังวลอะไรแล้ว!”“เรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องพูดอีก!”หยุนเจิงปฏิเสธโดยไม่คิด “ไม่ว่าแม่ทัพใหญ่จะสร้างกองกำลังป้องกันอย่างไร ข้าก็จะทำการป้องกันที่ซั่วฟางก่อน! หากเป่ยหวนกล้าบุกซั่วฟาง เช่นนั้นข้าจะทำให้พวกมันมาได้ แต่กลับไม่ได้เลยคอยดู!”ได้ยินคำพูดหนักแน่นของหยุนเจิงแล้ว คนไม่น้อยต่างก็ผงกศีรษะเบาๆถึงแม้ความสามารถของหยุนเจิงจะไม่ยอดเยี่ยม แต่ความกล้าเต็มล้น!ถือว่าเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง“แม่ทัพใหญ่ ข้ายังคงคิดว่าเป่ยหวนจะโจมตีที่ปีกซ้าย”ฉินชีหูกล่าวอีกครั้ง “ในเมื่อองค์ชายหกยืนยันว่าจะอยู่ที่ซั่วฟาง แม่ทัพใหญ่ก็ส่งทหารม้าไปที่ซั่วฟางสักเล็กน้อย เพื่อเพิ่มกองกำลังป้องกันให้กับปีกซ้าย”“ข้าเ
หลังจากเสร็จการประชุม เว่ยเหวินจงถึงได้สั่งให้คนทำอาหารให้ทุกคนทานไม่หรูหรามาก แต่ด้วยในช่วงนี้ของซั่วเป่ย ถือว่าไม่เลวแล้วขณะที่ทานอาหารอยู๋นั้น ฉินชีหูพูดคุยกับหยุนเจิงมากมายนักแต่ทว่าอย่างไรก็ยังคงเป็นคำนั้นหากเป่ยหวนโจมตีซั่วฟางก่อน เช่นนั้นก็รับมือป้องกันไว้ เป่ยหวนจะเรียกอาวุธอย่างไรก็ห้ามออกไปรับสงครามเด็ดขาด!ซั่วฟางมีทหารทั่วไปมากมายเพียงนั้น ถึงจะเป็นคนชราและคนพิการ แค่เรื่องการขนย้ายหนิต่างๆ คงทำได้อยู่กระมัง?ขอแค่พวกเขาไม่ออกไปทำสงคราม โอกาสที่เป่ยหวนจะโจมตีซั่วฟางได้มีไม่มากสำหรับการตักเตือนของฉินชีหู หยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนแสดงถึงความขอบคุณอีกครั้งแต่ทว่า หยุนเจิงตัดสินใจแล้วว่า เขาจะไม่อยู่เฝ้าที่เมืองหลังจากทานอาหารเสร็จ เว่ยเหวินจงก็ได้จัดแจงให้ทุกคนอยู่พักที่จวนเว่ยเหวินขงจัดห้องให้กับพวกเขา เสิ่นลั่วเยี่ยนจึงทำได้เพียงนอนห้องเดียวกันกับหยุนเจิงเมื่อเห็นรอยยิ้มชั่วร้ายของหยุนเจิงแล้ว เสิ่นลั่วเยี่ยนก็รู้ทันทีว่าไอ้สารเลวคนนี้ต้องมีแผนร้ายแน่ๆ“ข้าบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าตอนนี้ข้ายังรังเกียจอยู่!”เสิ่นลั่วเยี่ยนจ้องหยุนเจิงตาเขม็ง “หากท่านกล้าทำอะ
แท้จริงแล้ว หยุนเจิงรู้สึกว่าวิธีที่มั่นคงที่สุดคือการนำทหารสามหมื่นนายนั่นไปเฝ้าอยู่ที่ติ้งเป่ยเช่นนี้ ไม่ว่าเป่ยหวนจะโจมตีจากทางไหน เว่ยเหวินจงก็สามารถเข้าไปสนับสนุนได้ทันเวลา“เช่นนั้นท่านคิดว่าเป่ยหวนจะโจมตีซั่วฟางหรือเทียนหู?”เสิ่นลั่วเยี่ยนเอียวศีรษะถาม“หากเว่ยเหวินจงย้ายทหารสามหมื่นนายนั่นไปที่ปีกขวาจริง เช่นนั้นเป่ยหวนย่อมต้องโจมตีซั่วฟางแน่นอน!”หยุนเจิงแน่วแน่“เพราะเหตุใด?”เสิ่นลั่วเยี่ยนถามอย่างไม่เข้าใจหยุนเจิงตอบ “ข้าไม่รู้ว่าเว่ยเหวินจงตั้งใจละเลยหรือว่าไม่รู้จริงๆ กันแน่ เป่ยหวนอยากจะกลืนกินกองกำลังของเราย่อมต้องอยากให้คนของเราเคลื่อนไหวอยู่แล้ว!”“อย่างไรข้าก็เป็นองค์ชาย หากเป่ยหวนโจมตีซั่วฟาง ถึงซั่วฟางจะมีกำลังมากพอ แต่เว่ยเหวินจงก็ต้องส่งทหารมาช่วยเหลืออยู่แล้ว แม้จะเป็นการสร้างภาพก็ตาม!”“เช่นนี้ เป่ยหวนถึงจะมีโอกาสโจมตีได้”เขาเชื่อมั่นว่าเป่ยหวนไม่มีทางโจมตีเมืองทางเลือกที่โง่เหขลาที่สุดนี้แน่นอนอยากคิดจะโจมตีอย่างเด็ดขาด สู้รวบรวมกองกำลังแล้วโจมตีที่ป้อมเมืองสุยหนิงและป้อมเมืองจิ้งอันดีกว่าเช่นนี้ อย่างน้อยเป่ยหวนก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกองทัพเสร
ไม่นาน หยุนเจิงก็พบกับนักรบภูตสิบแปดคนสองคนที่ได้รับบาดเจ็บก็ส่งตัวไปรักษาพยาบาลแล้วส่วนที่เหลืออีกหกคนกำลังกินข้าวอยู่ในกระโจม เห็นได้ชัดว่าหิวโซแล้วเมื่อเห็นหยุนเจิงเข้ามา ทุกคนถึงได้หยุดกินแล้วลุกขึ้น“กินต่อเถอะ ไม่ต้องสนใจข้า!”หยุนเจิงห้ามกลุ่มคนที่กำลังจะคำนับให้ “กินอิ่มก่อนค่อยว่ากัน!”“ขอบพระทัยท่านอ๋อง”ทุกคนตอบรับพร้อมกัน แล้วกินอาหารต่อไปพวกเขาที่รู้ว่าหยุนเจิงมีเรื่องจะถามจึงเร่งมือกินอาหารเป็นพิเศษ“ท่านอ๋อง ข้ากินอิ่มแล้ว!”ภูตหนึ่งดื่มน้ำลงไป แล้วลุกขึ้นก่อนนับตั้งแต่ที่พวกเขาได้รับการฝึกฝน หยุนเจิงก็ขอให้พวกเขาลืมชื่อและตัวตนของพวกเขาซะดังนั้นพวกเขาจึงเหลือเพียงหมายเลขตั้งแต่ภูตหนึ่งไปจนถึงภูตสิบแปด“ดี!”หยุนเจิงพยักหน้าเล็กน้อย แล้วเรียกภูตหนึ่งมานั่งข้างๆ “เล่ารายละเอียดทุกอย่างให้ข้าฟังที!”“ขอรับ!”ภูตหนึ่งไม่รีรอ รีบเล่ารายละเอียดที่พวกเขาได้พบเจอมาทันทีพวกเขาข้ามไปที่เขตเป่ยหวนผ่านแม่น้ำไป๋สุ่ยตามคำสั่งของหยุนเจิง หลังจากนั้นก็สำรวจรอบๆ เขตเป่ยหวน และตามหากลุ่มทหารม้าน้อยของเป่ยหวนแต่ทว่า แรกเริ่มพวกเขาดวงไม่ดีนัก เป่ยหวนที่อยู่บริเว