Share

บทที่ 115

Penulis: เหลียงซานเหลากุ่ย
น้ำมันพริกหรือ!

หยุนถิงสับสนมึนงง ไม่รู้ว่ามันเป็นของเล่นบ้าอันใดอีก

“น้ำมันบ้าบออะไรของเจ้า!”

หยุนถิงทำเสียงฮึดฮัดออกทางจมูก มองหยุนเจิงด้วยสีหน้าตักเตือน “ข้ารู้ว่าตอนนี้เจ้าทำคุณงามความดีเอาไว้มาก และเจ้าก็ได้รับความโปรดปรานเต็มอย่างล้มหลาม! แต่ทางที่ดีเจ้าก็ควรอยู่ในที่ของตัวเอง ตอนนี้เจ้าอาจจะลำพองใจอยู่ก็ไม่เป็นไร รอให้เสด็จพ่อกลับไปเป็นเหมือนเดิมตอนที่เสด็จพ่อลืมเจ้าไม่เห็นเจ้าอยู่ในสายตาก่อนเถอะ เหอะๆ…”

คำพูดตอนหลังหยุนเจิงไม่ได้กล่าวออกมา

แต่ความหมายมันก็ชัดเจนในตัวเองอยู่แล้ว

“พี่สี่ สับสนไปแล้วหรือไร?”

หยุนเจิงค่อยๆ ลุกขึ้นยืนตรงหน้าหยุนถิง จ้องมองหยุนถิง มองจนหยุนถิงเองรู้สึกขนลุกซู่อย่างประหลาด

“เจ้าจะทำอะไร อยู่ห่างๆ ข้าหน่อย!”

หยุนถิงตะคอกด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดีนัก

“เฮ้อ ข้าอยากจำรอยยิ้มและหน้าตาอันสดใสของพี่สี่มากกว่า!”

หยุนเจิงขมวดคิ้วและถอนหายใจ

“รอยยิ้มและหน้าตาอันสดใสอย่างนั้นหรือ?”

เส้นเลือดบนหน้าผากหยุนถิงกระตุก เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทำไม เจ้าอยากจะเอาให้ข้าตายเลยหรือ?”

อยากจำรอยยิ้มและหน้าตาอันสดใสคำนี้ส่วนมากใช้กับคนตาย

เจ้าสุนั
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 116

    ขณะพูด หยุนถิงโบกมือเรียกคนสองสามคนให้ไปอีกฝั่งหนึ่งเขารู้สึกอับอายที่ต้องกินข้าวกับเศษสวะสองคนนี้!หากเจ้าหกพูดอะไรทำนองว่าให้จดจำเสียงและรอยยิ้มของเขาไว้ เขาล้วนรู้สึกหวาดผวา!ทันทีที่พวกเขานั่งลง ก็เอ่ยถามหยุนถิงด้วยอยากรู้อยากเห็น“องค์ชายสี่ ฝ่าบาททรงมีราชโองการให้องค์ชายหกไปที่ซั่วเป่ยจริงๆ หรือ”“ซั่วเป่ยกำลังตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก หากองค์ชายหกไปที่นั่น มิใช่รนหาที่ตายหรือ”“ใช่แล้ว ข้าได้ยินมาว่าองค์ชายหกทำให้ราชครูของเป่ยหวนโกรธจนอาเจียนเป็นเลือด หากองค์ชายหกไปที่ซั่วเป่ย เป่ยหวนคงทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตองค์ชายหกเป็นแน่...”พวกเขารู้สึกประหลาดใจ จึงพูดคุยกันไม่หยุดแม้ว่าเสียงของพวกเขาจะไม่ถือว่าดัง แต่คนรอบข้างได้ยินพวกเขาชัดเจนทันใดนั้น ผู้คนก็เริ่มพูดถึงเรื่องนี้กันมากขึ้นมุมปากของหยุนเจิงโค้งขึ้น หัวเราะลั่นในใจนี่คือผลลัพธ์ที่เขาต้องการ!ยืมปากของคนเหล่านี้ กระจายข่าวออกไป!ต้องการใช้ความคิดเห็นของปวงชนบีบบังคับให้จักรพรรดิเหวินจำใจต้องปล่อยเขาไปที่ซั่วเป่ย!“องค์ชายหก ท่านจะไปซั่วเป่ยจริงๆ หรือ”ยามนี้ จางซูเอ่ยถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ“อืม นี่คือพร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 117

    “โอ้โห คุณชายจาง วันนี้ลมอะไรพัดท่านมาที่นี่กันล่ะนี่”“ไม่พบเจอท่านตั้งหลายวัน แม่นางของพวกเราคิดถึงท่านจนกินข้าวไม่ลงแล้ว!”“ท่านลองดูว่าวันนี้จะเรียกหงเยว่หรืออวี้เซียงมาปรนนิบัติ?”พวกเขาเพิ่งจะถึงปากประตูฉวินฟางย่วน ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแม่เล้าเลยทันทีดูก็รู้เลยว่าจางซูนั้นเป็นแขกประจำจางซู?คนผู้นี้หากจะเที่ยวเล่นเช่นนี้ต่อไป ได้เป็นจางซูบแน่!“แค่คนสองคนจะไปพอได้อย่างไร?”จางซูจ้องแม่เล้าตาโต โบกมืออย่างวางอำนาจ “เรียกหญิงสาวมาให้ข้าสิบคนก่อนเถอะ!”“หา?”แม่เล้าตะลึงค้าง พอเห็นว่าพวกจางซูทั้งหมดมีสี่คนพอดี ก็ได้สติกลับมาทันที รอยยิ้มเต็มใบหน้าแล้วกล่าวว่า “ได้เลย ไม่มีปัญหา ข้าจะไปตามแม่นางให้พวกท่านสี่คน...”“ข้าบอกแล้วไงว่าสิบคน!”จางซูชูนิ้วทั้งสิบขึ้นกางออก “แล้วก็จัดให้สหายคนนี้ของข้าด้วยอีกสิบคน!”“…”หยุนเจิงพอได้ยิน แทบจะกระโดดถีบเลยทันทีเจ้านี่หนิ จะเรียกมาสิบคนจริงๆ รึ?คิดว่าตนเองเป็นหยิบหมั่นหรือไง“ข้าก็ไม่ต้องแล้ว”หยุนเจิงตีมือปัด แล้วกล่าวเสีนงทุ้มต่ำเพื่อห้ามปราม “เจ้าก็เพลาๆ หน่อยเถอะ” “ไม่ได้ ไม่ได้!” จางซูสูดจมูก ตอบกลับเสียง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 118

    หยุนเจิงอ้ำอึ้งให้นางคณิกาชั้นสูงมาตัดสินคุณภาพของบทกวี?นี่มันทำตามอำเภอใจมากเกินไปแล้วกระมัง?จางซูมองเห็นถึงความรู้สึกสงสัยของหยุนเจิงจึงอธิบายให้เขาทันทีถึงแม้เมี่ยวอินคนนี้จะเป็นนางคณิกาในหอนางโลม แต่นางกลับขายศิลป์ไม่ขายตัวเมี่ยวอินไม่เพียงแต่งามดุจเทพเซียนเท่านั้น แต่นางยังมีความสามารถทั้งร้องรำ ดีดฉินเล่นหมากรุก เขียนหนังสือวาดภาพ หรือแม้แต่ประพันธ์บทกวีและบทเพลง นางก็ล้วนเชี่ยวชาญทุกด้าน เป็นหญิงงามที่มากความสามารถคนหนึ่งด้วยเหตุนี้ เมี่ยวอินถึงได้มีเหล่าผู้มีความรู้มากมายคอยติดตามถึงแม้ว่านางจะขายศิลป์ไม่ขายตัว แต่ก็มีคนมากมายที่สามารถเป็นหนึ่งในผู้โชคดีของนางได้เช่นกันในงานประพันธ์บทกวีทุกครั้งล้วนแต่มีเมี่ยวอินเป็นคนออกหัวข้อให้ฝูงชนประพันธ์กวีเรื่องประพันธ์บทกวีและบทเพลงนั้น จะดีหรือแย่ แท้จริงแล้วฝูงชนต่างก็ตัดสินอยู่ในใจไม่มากก็น้อย แม้นว่าเมี่ยวอินจะเป็นคนสุดท้ายที่ตัดสินว่าบทกวีไหนดีที่สุดก็ตาม แต่ฝูงชนต่างก็คอยตัดสินอยู่แล้วเมื่อฟังคำอธิบายของจางซูเสร็จ หยุนเจิงพลันตะลึงใจอย่างอดไม่ได้เมี่ยวอินคนนี้เป็นนักแสดงหญิงอันดับต้นของราชวงศ์ต้าเฉียนนั้นหรือ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 119

    “นี่แหละเมี่ยวอิน!”จางซูพรวดตัวลุกนั่งอย่างตื่นเต้นราวกับฉีดเลือดไก่มาปานนั้น แล้วมองเมี่ยวอินไม่ละสายตาดูท่าแล้ว จางซูเองก็เป็นหนุ่มผู้คลั่งไคล้เมี่ยวอินเหมือนกันนะเนี่ย!นี่แหละเมี่ยวอิน?หยุนเจิงขมวดคิ้ว “เจ้าบอกว่านางงามดุจเทพเซียนบนสรวงสวรรค์ไม่ใช่หรือ? ขนาดนางใช้ผ้าโปร่งคลุมหน้าไว้ เจ้ายังสามารถมองเห็นโฉมหน้าของนางได้รึ?”“แน่นอนว่าไม่เห็นอยู่แล้ว!”จางซูกล่าวตรงไปตรงมา“เช่นนั้นเจ้ารู้ได้อย่างไรว่านางงามดุจเทพเซียน?”หยุนเจิงมึนงง“ฟังจากคนอื่นมาไงเล่า!”จางซูหรี่ตามองเรือนร่างของเมี่ยวอินไม่หยุด “เหล่าผู้โชคดีที่เคยได้เป็นแขกของนางต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่านางงามจนใจเจ็บ แม้แต่เทพเซียนบนสวรรค์ก็ยังเทียบไม่ติด…”ให้ตาย!เขาคิดจริงว่าเมี่ยวอินคนนี้งามจริงงามจัง!คาดว่าคงจะได้ฟังจากผู้อื่นทั้งนั้น!เมี่ยวอินคนนี้สร้างกระแสลับๆ นี่!ขณะที่หยุนเจิงกำลังพูดแซะอย่างบ้าคลั่งอยู่นั้น เมี่ยวอินก็ได้เอ่ยปากขึ้นคำกล่าวเปิดงานไม่มีอะไรมากไปกว่ากล่าวขอบคุณทุกท่านที่มาสนับสนุนโฉมหน้าของเมี่ยวอินเป็นอย่างไรนั้น ตอนนี้หยุนเจิงเองก็ไม่รู้เช่นกันแต่ทว่า เสียงของสตรีผู้นี

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 120

    ตามด้วยคำพูดเสียงเบาของหยุนเจิง ดวงตาของจางซูพลันเปล่งประกายขึ้นมาทันใด“นี่เป็นกวีที่ท่านประพันธ์เองนั้นหรือ?”จางซูมองหยุนเจิงด้วยสีหน้าตะลึงตกใจ“พูดเป็นเล่น!”หยุนเจิงเอ่ยเสียงเบา “เป็นกวีของพี่สะใภ้รองของเสิ่นลั่วเยี่ยน ข้าลอกมา”“เช่นนี้นี่เอง!”จางซูนึกขึ้นได้กะทันหัน “ข้าก็ว่า เราสองคนต่างก็เป็นพวกไร้ประโยชน์…”จางซูเอ่ยได้ครึ่งประโยค พลันนึกบางอย่างขึ้นได้ทันทีจึงเปลี่ยนคำพูดว่า “ข้าหมายถึง ความรู้ของเราทั้งสองไม่ต่างกันเท่าไรนัก แหะๆ…”“เอาล่ะๆ!”หยุนเจิงโบกมือ “รีบจำซะ แล้วทำให้คนพวกนี้อึ้งจนอ้าปากค้าง!”จางซูพยักหน้าแรงๆ กำลังจะเริ่มจดบทกวี ทว่าใบหน้ากลับแข็งทื่อ ทำได้เพียงขยับเข้าไปอีกครั้งอย่างหน้าด้านๆ แล้วเอ่ยอย่างเขินอายว่า “องค์ชายหก ท่านช่วยพูดอีกครั้งได้หรือไม่ ข้า…ข้าลืมแล้ว…”“ข้า…”หยุนเจิงถอนใจ หมดคำจะพูดชั่วขณะเจ้านี่ไม่ได้เกิดมาเพื่อร่ำเรียนหาความรู้เลยจริงๆ!เพิ่งจะบอกไปหยกๆ แต่เขากลับลืมไปแล้ว?หยุนเจิงหมดหนทาง ทำได้เพียงกระซิบบอกเขาอีกครั้งขณะที่ทั้งสองกำลังกระซุบกระซิบกันอยู่นั้น ข้างล่างก็มีคนเริ่มประพันธ์บทกวีแล้วเพียงแต่บทกวีที่คนผู้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 121

    อันที่จริง ต่อให้หยุนเจิงจะไม่เสียงดัง ผู้คนล้วนรู้ดีว่าบทกวีนี้จางซูไม่ได้เป็นผู้ประพันธ์จะมีนักกวีคนไหนที่อ้าปากค้างมองไปทั่วทิศเช่นนี้กันเล่า! นี่ขานไปถึงครึ่งหนึ่งก็ไม่สามารถขานต่อไปได้ เห็นได้ชัดว่าคัดลอกผู้อื่นมา แต่พอขึ้นเวทีกลับลืมไปสเยแล้ว!“ฮ่าๆ…”เมิ่งกว่างไป๋หัวเราะเสียงดัง “จางซูเอ๋ยจางซู เจ้ามันเป็นคนมีความสามรถที่ไร้ประโยชน์เสียจริง! กระทั่งสิ่งที่คัดลอกของผู้อื่นมายังท่องจำไม่ได้ เจ้าดูเจ้าสิ เจ้ายังจะทำอะไรได้อีก”“ข้า…”จางซูละอายใจ ทันใดนั้นนัยน์ตาก็ฮึกเหิมขึ้นมา ด่าทอเกรี้ยวกราดว่า “บิดายังสามารถเอามารดาเจ้าได้ เจ้าลองเรียกแม่เจ้ามาลองดูสิ!”สิ้นเสียงด่าของจางซู ผู้คนล้วนตะลึงงันปราชญ์กวีผู้มีความสามารถที่อยู่ที่นี่ จะเคยคาดคิดที่ไหนกันเล่าว่าจะมีผู้ใดกล้ากล่าววาจาหยาบกระด้างเช่นนี้ต่อหน้าธารกำนัลเมิ่งกว่างไป๋โกรธเป็นที่สุด ชี้ด่าจางซูว่า “ไร้ยางอาย! เจ้าเป็นความอับอายของตระกูลจาง! เหตุใดจางเก๋อเหล่าจึงมีหลานชายเช่นเจ้าได้!” คำพูดของเมิ่งกว่างไป๋ก็ได้รับการตอบรับจากผู้คน“เรื่องอันใดของเจ้า!”อย่างไรเสียก็ถูกคนดูออกแล้ว จางซูจึงปล่อยตัวปล่อยใจ มองไป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 122

    “ดาบเดียวจะหนาวสะท้านไปทุกแคว้น! วิเศษจริงๆ”“กลอนนี้ดี ช่างดีจริงๆ!”“กลอนบทนี้เมื่อเทียบกับของคุณชายหวางแล้ว เหนือกว่าขั้นหนึ่ง!”“ดาบเดียวจะหนาวสะท้านไปทุกแคว้น! แค่ประโยคนี้ประโยคเดียว ก็ทำให้กลอนบทนี้เป็นที่หนึ่งในวันนี้ได้แล้ว!”“พอมีกลอนนี้แล้ว คุณชายเมิ่งต้องมีชื่อเสียงขจรไปทั่วแน่นอน…”ในชั่วขณะเดียว เสียงร้องดังร้องว่าดีไม่หยุดหย่อนเมี่ยวอินเองก็พยักหน้าไม่หยุด ราวกับว่านางชื่นชอบกลอนบทนี้เป็นอย่างมาก“ทุกท่านกล่าวชมกันเกินไปแล้ว ข้าเองก็คิดกลอนนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน ไม่คู่ควรกับคำชมของทุกท่านขอรับ!”เมิ่งกว่างไป๋กล่าวไปทางผู้คน ท่าทางได้ใจเป็นอย่างยิ่ง“เจ้าสุนัข!”จางซูมองไปทางเมิ่งกว่างไป๋อย่างไม่พอใจเป็นที่สุด แล้วเข้าไปข้างกายหยุนเจิง “องค์ชาย เจ้ายังจำบทกลอนอื่นที่ฮูหยินเยี่ยจื่อประพันธ์ได้อีกหรือไม่?”“ข้ายัง…จำได้อีกสองบท”หยุนเจิงส่ายหัวไปมา แสร้างทำว่ากำลังเมามาย ขณะเดียวกันก็กระดกสุราลงท้องไปอีกหนึ่งจอก“องค์ชาย อย่างดื่มอีกเลย ถ้าดื่มอีกเจ้าก็จะลืมอีกแล้ว!!”จางซูรีบหยุดหยุนเจิง “ฉวยโอกาสตอนที่เจ้ายังไม่เมา รีบร่ายกลอนพวกนั้นเร็ว เชือดเจ้าสุนัขเมิ่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 123

    สิ้นเสียงของหยุนเจิง ในสถานที่แห่งนั้นก็พลันสงบเงียบตามไปด้วยเหล้าองุ่นรสล้ำเลิศ รินกันเถิดจอกแสงจันทร์ อยากลิ้มร่วมชิมกัน พิณผีผามาเร่งเตือนเมามายบนผืนทราย อย่ายิ้มหมายมาเชือดเฉือน โบราณศึกกลาดเกลื่อน เพื่อนได้กลับสักกี่คน คนไม่น้อยล้วนหลับตาลง ดื่มด่ำกับเรื่องราวเหล่านี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนต่างจากกลอนของเมิ่งกว่างไป๋และหวังเสี่ยนที่กล้าหาญและใจกว้าง กลอนบทนี้มีความเป็นอิสระ ไร้กฎเกณฑ์ยิ่งกว่า เป็นการมองความเป็นความตายอย่างปล่อยวางแบบหนึ่งประโยคที่กล่าวว่า “เมามายบนผืนทราย อย่ายิ้มหมายมาเชือดเฉือน โบราณศึกกลาดเกลื่อน เพื่อนได้กลับสักกี่คน” ทำให้คนไม่น้อยตบโต๊ะชื่นชม“กลอนดีนี่! นี่ต่างหากที่เป็นกลอนที่ดีอย่างแท้จริง!”“มีความเป็นอิสระ ไร้กฎเกณฑ์ บ้าคลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ...”“โบราณศึกกลาดเกลื่อน เพื่อนได้กลับสักกี่คน ใช่แล้ว โบราณศึกกลาดเกลื่อน จะมีสักกี่คนที่สามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย”“ในความเห็นของข้า กลอนบทนี้ไร้กฎเกณฑ์ยิ่ง ความกล้าหาญก็ไม่มากพอ! ยังคงเป็นประโยคดาบเดียวจะหนาวสะท้านไปทุกแคว้นของคุณชายเมิ่งที่ดุดันยิ่งกว่า!”“ไม่ใช่ ไม่ใช่! กลอนของคุณชายเมิ่ง ดุดั

Bab terbaru

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1602

    ตอนเที่ยงของวันถัดมา ผางลู่ซานสะพายห่อผ้ามาตามเวลานัด และปรากฏตัวในลานบ้านร้าง“ของทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วหรือไม่?”ทันทีที่เข้ามา ผางลู่ซานก็เอ่ยถาม“เตรียมพร้อมหมดแล้ว!”โหวซื่อไคชี้ไปที่หม้อเหล็กใบเล็กและอุปกรณ์อื่นๆ ที่เตรียมไว้ผางลู่ซานเดินไปตรวจสอบครู่หนึ่ง ก่อนจะสั่งโหวซื่อไคทันทีว่า “เจ้าทิ้งคนไว้ช่วยข้าคนหนึ่ง ที่เหลือออกไปเฝ้ารอบนอก หากมีใครเข้ามา ให้รีบเตือนพวกเราโดยทันที!”“เอ่อ…”โหวซื่อไคลังเลเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพูดกับซูฮ๋วยหมินว่า “เจ้าอยู่ข้างใน ส่วนคนอื่นออกไปเฝ้าด้านนอก!”คนในตระกูลซูที่เหลือต่างไม่พอใจนักพวกเขาเองก็อยากดูให้แน่ชัดว่าผางลู่ซานใช้วิธีใดในการเปลี่ยนจากน้ำตาลอ้อยเป็นน้ำตาลขาวแต่เมื่อเห็นโหวซื่อไคส่งสายตาให้พวกเขาเป็นพัลวัน ก็จำต้องยอมรับและออกไปด้านนอกช่างเถอะ!อย่างไรเสีย ตระกูลซูก็ยังมีคนอยู่ข้างในหนึ่งคนอยู่แล้ว ไม่มีทางที่โหวซื่อไคจะเก็บความลับนี้ไว้คนเดียว!คิดเช่นนั้น พวกเขาก็เดินออกไปอย่างไม่เต็มใจนักเมื่อคนออกไปหมดแล้ว ผางลู่ซานก็เริ่มสั่งการทันทีคนหนึ่งตั้งเตาไฟ อีกคนล้างหม้อหลังจากทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว ผางลู่ซานก็หยิบน้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1601

    ไม่กี่วันต่อมา โหวซื่อไคพร้อมกับคนในตระกูลซูอีกสองสามคน ได้เดินทางไปยังซั่วเป่ยพร้อมกับตั๋วเงินจำนวนมากครั้งนี้ ตระกูลซูได้ลงเงินรวมหนึ่งล้านสี่แสนตำลึงโดยหนึ่งล้านสองแสนตำลึงเป็นเงินสำหรับการร่วมลงทุนกับโหวซื่อไคเพื่อซื้อวิธีการทำน้ำตาลขาว ส่วนอีกสองแสนตำลึงนั้นถือเป็นเงินที่ตระกูลซูให้โหวซื่อไคยืมสำหรับเงินที่เพิ่มขึ้นมาอีกสองแสนตำลึง คนในตระกูลซูมีความเห็นคัดค้านมากแต่โหวซื่อไคก็ยืนกรานไม่ยอมอ่อนข้อตามคำพูดของโหวซื่อไค เขาทุ่มเงินไม่น้อยเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผางลู่ซานแค่ความสัมพันธ์ของเขากับผางลู่ซานก็มีค่าเทียบเท่ากับเงินสองแสนตำลึงแล้วในที่สุด ภายใต้การไกล่เกลี่ยของหยางหุยโจว ตระกูลซูก็ยอมเพิ่มเงินให้อีกสองแสนตำลึงแม้ว่าตระกูลซูจะมั่งคั่งเป็นอันดับต้นๆ แต่เงินสดก็ไม่ได้มีอยู่มากนักเพื่อรวบรวมเงินให้ครบหนึ่งล้านสี่แสนตำลึง ตระกูลซูถึงกับต้องไปกู้เงินจากที่อื่นมาอีกสามแสนตำลึงคณะเดินทางข้ามด่านเป่ยลู่ไปโดยมุ่งตรงสู่เมืองหม่าอี้ แต่ไม่ได้เข้าเมือง พวกเขาตั้งหลักอยู่ในเรือนเล็กซอมซ่อแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากเมืองหม่าอี้ประมาณสิบลี้พวกเขารออยู่ที่เรือนเล็กหน

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1600

    อวี๋ฝูเดิมทีคิดจะรับจดหมายนั้นไว้เอง แต่ผู้ส่งจดหมายกลับยืนยันหนักแน่นว่า ผู้ที่สั่งให้เขานำจดหมายมา ได้กำชับซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า จดหมายฉบับนี้จะต้องส่งถึงมือหยุนเจิงโดยตรง!“พาเข้ามา!”หยุนเจิงสั่งไม่รู้ว่าจะเป็นจดหมายจากโหวซื่อไคหรือไม่?ไม่นาน เด็กหนุ่มผู้ส่งสารก็ถูกพาตัวเข้ามา “ข้าน้อยขอคารวะท่านอ๋อง!”“ลุกขึ้นเถิด!”หยุนเจิงยกมือขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะถามต่อ “โหวซื่อไคเป็นคนให้เจ้ามาส่งหรือ?”“ใช่ขอรับ!”เด็กหนุ่มรีบพยักหน้า พร้อมกับยื่นจดหมายออกมาให้หยุนเจิงหยุนเจิงรับจดหมายมา เปิดออกอ่านอย่างรวดเร็วหลังจากกวาดตาอ่านคร่าวๆ เขาก็โล่งใจลงไม่น้อย ก่อนจะหันไปสั่งอวี๋ฝู “หาที่พักให้เขา และให้รางวัลห้าตำลึงเงิน!”“รับทราบ!”อวี๋ฝูรับคำสั่ง ก่อนจะพาเด็กหนุ่มออกไปทันทีเมื่อพวกเขาจากไป เยี่ยจื่อจึงขยับเข้ามาดูจดหมายด้วย“สำเร็จแล้วรึ?”เยี่ยจื่อยิ้มอย่างสดใส“ไม่เพียงแต่สำเร็จ ยังมีเรื่องเหนือความคาดหมายอีกด้วย!”หยุนเจิงเผยรอยยิ้มเย็นชา “เจ้าสามนี่ช่างไม่รู้จักสิ้นสุดจริงๆ!”แม้ว่าโหวซื่อไคจะไม่ได้กล่าวถึงจุดประสงค์ของหยางหุยโจวที่ไปเยือนตระกูลซู แต่เพียงใช้ปลายเท้าคิด เขา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1599

    “ได้ยินแล้วหรือยัง? นายท่านอู๋ถูกยึดทรัพย์แล้ว”“นายท่านอู๋อะไรกัน! ต้องเรียกอู๋โหย่วเต๋อ! ไม่สิ ต้องเรียกว่า อู๋ขาดคุณธรรม!”“อู๋โหย่วเต๋อ… ชื่อก็แปลว่าไม่มีคุณธรรมอยู่แล้วมิใช่รึ? ไม่ต่างกันเลยสักนิด!”“อู๋โหย่วเต๋อสมควรได้รับโทษแล้ว แต่พวกที่ซื้อที่ดินของตระกูลอู๋ไป นับว่าโชคดีมาก! ตอนนี้ตระกูลอู๋ถูกยึดทรัพย์แล้ว พวกเขาไม่ต้องส่งค่าธัญญาหารให้พวกมันอีก!”“จริงด้วย! เจ้าว่าทำไมข้าถึงไม่มีโชคแบบนั้นบ้างนะ?”“ข้าได้ยินมาว่า ท่านอ๋องจงใจหาเรื่องจับผิด เพื่อล้มตระกูลอู๋ทั้งบ้าน! นี่แหละที่เรียกว่า เชือดไก่ให้ลิงดู ตั้งใจทำให้เหล่าผู้มั่งคั่งที่ไม่ยอมรับนโยบายภาษีใหม่เห็นเป็นตัวอย่าง!”“…”ข่าวการถูกยึดทรัพย์ของตระกูลอู๋แพร่กระจายไปทั่วหัวเมืองสี่ทิศในเวลาอันสั้นบางคนดีใจถึงกับปรบมือยินดี ขณะที่บางคนมองว่าเรื่องนี้เป็นแผนการที่แฝงไว้ด้วยเจตนาแอบแฝงบรรดาขุนนางและเจ้าที่ดินใหญ่ทั้งหลายต่างหวาดกลัวกันถ้วนหน้าแท้จริงแล้ว ตามกฎหมายราชสำนัก ความผิดของตระกูลอู๋ไม่ถึงขั้นต้องถูกยึดทรัพย์แต่จุดอ่อนของพวกมันคือ วัวที่เหล่าหลิวโถวได้รับ เป็นของที่หยุนเจิงพระราชทาน นี่ทำให้หยุนเจิงมีเห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1598

    เขารู้เพียงว่า ท่านอ๋องผู้นี้ ซึ่งผ่านศึกมานับไม่ถ้วน มิใช่คนที่จะเมตตาปรานีใครได้ง่ายๆอู๋โหย่วเต๋อสั่นสะท้านไปทั้งตัว ในที่สุดก็พยายามรวบรวมเรี่ยวแรง ขยับร่างที่อ่อนแรงของตนขึ้นคุกเข่าให้เรียบร้อย“ขอ… ขอท่านอ๋องเมตตาด้วย…”“ได้! ข้าจะให้เจ้า!”หยุนเจิงตอบตกลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันไปมองหลิวอู่และหลี่เจี่ย “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกตระกูลอู๋ ทั้งบิดา บุตร และพ่อบ้านผู้นี้ จะเป็น วัวไถนา ของพวกเจ้า! ให้พวกมันลากคันไถให้พวกเจ้า! ส่วนเรื่องอาหารไม่ต้องห่วง ข้าจะเป็นคนดูแลเอง ข้าจะทำให้แน่ใจว่าพวกมันจะไม่อดตาย!”อะไรนะ?เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิง ไม่เพียงแต่อู๋โหย่วเต๋อเท่านั้นที่ตะลึงงัน แม้แต่หลิวอู่และหลี่เจี่ยเองก็ตกตะลึงเช่นกันภายในแคว้นต้าเฉียน ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีคนถูกใช้ให้ลากคันไถแทนวัวแต่เรื่องเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับชาวบ้านยากไร้ที่ไม่มีเงินเช่าวัวเท่านั้นทว่า เรื่องให้ตระกูลอู๋กลายเป็นวัวไถนาให้พวกเขา แม้แต่ในฝัน พวกเขาก็ไม่เคยกล้าคิด!พวกเขานิ่งอึ้งไปอยู่นาน ก่อนจะได้สติ รีบคุกเข่ากระแทกพื้นและกล่าวเสียงดัง “ข้าน้อยขอคารวะท่านอ๋อง! ขอขอบพระคุณในพระเมตตาอันล้ำลึก!”ใ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1597

    เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น จริงๆ แล้วไม่ได้ซับซ้อนอะไรเพียงแค่อู๋โหย่วเต๋อโลภอยากได้วัวไถนาของเหล่าหลิวโถวเดิมทีเขาตั้งใจจะใช้เงินซื้อวัวจากเหล่าหลิวโถวในราคาถูก แต่เหล่าหลิวโถวกลับไม่ยอมขายให้ไม่ว่าจะอย่างไรเมื่ออู๋โหย่วเต๋อหมดความอดทน จึงใส่ร้ายว่าเหล่าหลิวโถวขโมยวัวของตระกูลอู๋ไป และกล่าวว่า หากไม่ได้ขโมยจริง ก็ต้องมีทะเบียนวัวมายืนยันแต่ปัญหาก็คือ วัวตัวนี้เป็นของที่หยุนเจิงพระราชทานให้เหล่าหลิวโถว! แล้วเหล่าหลิวโถวจะมีทะเบียนวัวจากที่ใดกัน?เหล่าหลิวโถวพูดจนปากจะฉีกก็ยังแก้ต่างให้ตัวเองไม่ได้ เขายืนกรานว่าวัวตัวนี้เป็นของที่หยุนเจิงพระราชทานให้ แต่ไม่ว่าอย่างไร อู๋โหย่วเต๋อก็ไม่ยอมฟัง ซ้ำยังข่มขู่ว่าจะพาตัวเหล่าหลิวโถวไปแจ้งความที่ศาลเหล่าหลิวโถวเป็นคนซื่อสัตย์มาตลอดชีวิต พอได้ยินว่าต้องไปแจ้งความก็ถึงกับตกใจกลัวสุดท้าย วัวตัวนั้นก็ถูกอู๋โหย่วเต๋อแย่งไปจนได้หลังจากวัวถูกพาออกไป เหล่าหลิวโถวก็ร้องไห้ไม่หยุด ราวกับจิตวิญญาณหลุดออกจากร่างเมื่อหลิวอู่และหลี่เจี่ยได้ยินข่าวอีกครั้ง เหล่าหลิวโถวก็กลายเป็นศพไปเสียแล้ว… เขาแขวนคอตายใต้ต้นไม้ข้างกระท่อมของตัวเอง“ที่พวกเขาก

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1596

    อู๋โหย่วเต๋อเห็นท่าไม่ดีจึงไม่กล้าเอนกายต่อ รีบลุกจากเก้าอี้ไม้ไผ่ แล้วเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มประจบ“นายทหาร ข้ามิทราบว่ามีใครในจวนข้าทำเรื่องผิดไป…”“พาตัวไป!”เสิ่นควานไม่แม้แต่จะให้เขาพูดจบ โบกมือสั่งการทันที ทหารองครักษ์สองนายตรงเข้าไปจับกุมอู๋โหย่วเต๋อ“ปล่อยข้านะ!”อู๋โหย่วเต๋อโกรธจัด “พวกเจ้าคิดว่าเป็นใคร ถึงกล้าบุกเข้ามาอาละวาดในตระกูลอู๋ของข้า? อย่าคิดว่าใส่ชุดเกราะแล้วจะขู่ข้าได้ ข้า…”ผัวะ!ยังไม่ทันที่อู๋โหย่วเต๋อจะพูดจบ ทหารองครักษ์นายหนึ่งก็ซัดหมัดเข้าที่ท้องของเขาเต็มแรงอู๋โหย่วเต๋อร้องลั่น ร่างกายโค้งงอราวกับกุ้งต้ม“เจ้าด้วย! จับไป!”เสิ่นควานปรายตามองพ่อบ้าน ก่อนจะสั่งต่อไปยังเหล่าทหาร “ปิดล้อมตระกูลอู๋! หากไม่มีคำสั่งจากท่านอ๋อง ห้ามผู้ใดเข้าออกเด็ดขาด!”“รับทราบ!”กองทหารองครักษ์รับคำสั่งทันทีท่านอ๋อง!เมื่อได้ยินคำนี้ พ่อบ้านถึงกับรู้สึกว่าโลกหมุนคว้าง ก่อนจะล้มลงนั่งก้นกระแทกพื้น ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดท่านอ๋อง! เป็นท่านอ๋องจริงๆ!สิ่งที่เขากังวลที่สุดก็เกิดขึ้นแล้ว!อู๋โหย่วเต๋อที่กำลังเจ็บจนหน้าบิดเบี้ยวก็ถึงกับแข็งค้างไปชั่วขณะ ราวกับว่าเขา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1595

    ตระกูลอู๋นายท่านอู๋โหย่วเต๋อกำลังเอนกายบนเก้าอี้ไม้ไผ่ รับไออุ่นจากแสงแดดอย่างสบายใจ บนร่างยังมีผ้าขนสัตว์นุ่มคลุมอยู่สาวรับใช้สองนางคุกเข่าอยู่ข้างซ้ายขวาของเขา พลางนวดเฟ้นให้เป็นจังหวะเป็นตอน บางครั้งยังถูกอู๋โหย่วเต๋อใช้มือบีบเค้นร่างกายพวกนางไปด้วยสาวรับใช้ทั้งสองไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง ได้แต่ปล่อยให้อู๋โหย่วเต๋อกระทำตามใจขณะที่อู๋โหย่วเต๋อกำลังหลับตาเพลิดเพลิน พ่อบ้านก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา“นายท่าน!”พ่อบ้านดูร้อนรน รีบเข้าไปใกล้แล้วกระซิบเบาๆ ข้างหูอู๋โหย่วเต๋อลืมตาขึ้นทันที โบกมือไล่สาวรับใช้ทั้งสองออกไป ก่อนจะขมวดคิ้วแน่น “เหล่าหลิวโถวตายแล้ว? ตายได้อย่างไร?”พ่อบ้านตอบกลับ “เจ้าเฒ่านั่นบอกว่าจะออกไปเข้าห้องส้วมเมื่อคืน แต่กลับไปหยิบเชือกป่านแล้วแขวนคอตายใต้ต้นไม้ ตอนที่มีคนพบเข้าก็แข็งทื่อไปแล้ว…”“แขวนคอตายรึ?”อู๋โหย่วเต๋อถอนหายใจโล่งอกก่อนจะบ่นอย่างไม่พอใจ “มันแขวนคอตายเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา เจ้าจะร้อนรนไปทำไม?”“ข้าน้อยแค่กลัวว่าเรื่องที่เจ้าเฒ่านั่นพูดไว้จะเป็นความจริง…” พ่อบ้านสีหน้าไม่สู้ดีนัก “นายท่าน วัวตัวนั้นจะเป็นของที่ท่านอ๋องมอบให้เหล่าหลิวโถวจริ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1594

    พวกเขาต่างรู้ดีว่า การนำโหวซื่อไคมาขายแบบนี้ ย่อมทำให้โหวซื่อไคมีความแค้นต่อพวกเขาแน่นอนว่าโหวซื่อไคคงไม่คิดร่วมมือกับพวกเขาอีกหากต้องการแบ่งผลประโยชน์ในครั้งนี้ ก็มีเพียงให้หยางหุยโจวเป็นผู้เชื่อมโยงความสัมพันธ์เท่านั้น“เรื่องนี้… ไม่ค่อยเหมาะสมกระมัง?”หยางหุยโจวรู้สึกโลภขึ้นมา แต่กลับทำเป็นวางตัวไว้ก่อนหากสามารถฟันกำไรจากพวกซูเฮ่อเหนียนอีกทาง หลังจากได้จากโหวซื่อไคไปแล้ว นั่นก็หมายความว่า ตนไม่ต้องลงทุนแม้แต่ตำลึงเดียว แต่กลับสามารถกอบโกยเงินมหาศาลได้!เงินขาวๆ กองโตเช่นนี้ จะให้ตนไม่หวั่นไหวได้อย่างไร?“ใต้เท้ากล่าวอะไรเช่นนั้น!”ซูเฮ่อเหนียนหัวเราะ “หากมิใช่เพราะใต้เท้า พวกเราคงยังไม่รู้เลยว่าโหวซื่อไคมีเส้นทางทำเงินเช่นนี้! นี่เป็นสิ่งที่ใต้เท้าควรได้รับอยู่แล้ว!”“ถูกต้อง!”ซูซ่งฝู่รีบเสริม “ขอใต้เท้าอย่าได้ปฏิเสธเลย!”อืม… พวกเขากล่าวมาถึงเพียงนี้แล้ว จะปฏิเสธก็ใช่ที่!หยางหุยโจวรู้สึกยินดีจนแทบกลั้นไม่อยู่ แต่สีหน้ายังคงสงบนิ่ง “เช่นนั้น… ข้าขอไปหารือกับโหวซื่อไคก่อน แล้วค่อยว่ากัน”สำเร็จแล้ว!ซูเฮ่อเหนียนและซูซ่งฝู่สบตากัน ก่อนจะเผยรอยยิ้มพึงพอใจตราบใดที่

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status