แชร์

บทที่ 116

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-03-16 17:00:00
ขณะพูด หยุนถิงโบกมือเรียกคนสองสามคนให้ไปอีกฝั่งหนึ่ง

เขารู้สึกอับอายที่ต้องกินข้าวกับเศษสวะสองคนนี้!

หากเจ้าหกพูดอะไรทำนองว่าให้จดจำเสียงและรอยยิ้มของเขาไว้ เขาล้วนรู้สึกหวาดผวา!

ทันทีที่พวกเขานั่งลง ก็เอ่ยถามหยุนถิงด้วยอยากรู้อยากเห็น

“องค์ชายสี่ ฝ่าบาททรงมีราชโองการให้องค์ชายหกไปที่ซั่วเป่ยจริงๆ หรือ”

“ซั่วเป่ยกำลังตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก หากองค์ชายหกไปที่นั่น มิใช่รนหาที่ตายหรือ”

“ใช่แล้ว ข้าได้ยินมาว่าองค์ชายหกทำให้ราชครูของเป่ยหวนโกรธจนอาเจียนเป็นเลือด หากองค์ชายหกไปที่ซั่วเป่ย เป่ยหวนคงทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตองค์ชายหกเป็นแน่...”

พวกเขารู้สึกประหลาดใจ จึงพูดคุยกันไม่หยุด

แม้ว่าเสียงของพวกเขาจะไม่ถือว่าดัง แต่คนรอบข้างได้ยินพวกเขาชัดเจน

ทันใดนั้น ผู้คนก็เริ่มพูดถึงเรื่องนี้กันมากขึ้น

มุมปากของหยุนเจิงโค้งขึ้น หัวเราะลั่นในใจ

นี่คือผลลัพธ์ที่เขาต้องการ!

ยืมปากของคนเหล่านี้ กระจายข่าวออกไป!

ต้องการใช้ความคิดเห็นของปวงชนบีบบังคับให้จักรพรรดิเหวินจำใจต้องปล่อยเขาไปที่ซั่วเป่ย!

“องค์ชายหก ท่านจะไปซั่วเป่ยจริงๆ หรือ”

ยามนี้ จางซูเอ่ยถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“อืม นี่คือพร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 117

    “โอ้โห คุณชายจาง วันนี้ลมอะไรพัดท่านมาที่นี่กันล่ะนี่”“ไม่พบเจอท่านตั้งหลายวัน แม่นางของพวกเราคิดถึงท่านจนกินข้าวไม่ลงแล้ว!”“ท่านลองดูว่าวันนี้จะเรียกหงเยว่หรืออวี้เซียงมาปรนนิบัติ?”พวกเขาเพิ่งจะถึงปากประตูฉวินฟางย่วน ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแม่เล้าเลยทันทีดูก็รู้เลยว่าจางซูนั้นเป็นแขกประจำจางซู?คนผู้นี้หากจะเที่ยวเล่นเช่นนี้ต่อไป ได้เป็นจางซูบแน่!“แค่คนสองคนจะไปพอได้อย่างไร?”จางซูจ้องแม่เล้าตาโต โบกมืออย่างวางอำนาจ “เรียกหญิงสาวมาให้ข้าสิบคนก่อนเถอะ!”“หา?”แม่เล้าตะลึงค้าง พอเห็นว่าพวกจางซูทั้งหมดมีสี่คนพอดี ก็ได้สติกลับมาทันที รอยยิ้มเต็มใบหน้าแล้วกล่าวว่า “ได้เลย ไม่มีปัญหา ข้าจะไปตามแม่นางให้พวกท่านสี่คน...”“ข้าบอกแล้วไงว่าสิบคน!”จางซูชูนิ้วทั้งสิบขึ้นกางออก “แล้วก็จัดให้สหายคนนี้ของข้าด้วยอีกสิบคน!”“…”หยุนเจิงพอได้ยิน แทบจะกระโดดถีบเลยทันทีเจ้านี่หนิ จะเรียกมาสิบคนจริงๆ รึ?คิดว่าตนเองเป็นหยิบหมั่นหรือไง“ข้าก็ไม่ต้องแล้ว”หยุนเจิงตีมือปัด แล้วกล่าวเสีนงทุ้มต่ำเพื่อห้ามปราม “เจ้าก็เพลาๆ หน่อยเถอะ” “ไม่ได้ ไม่ได้!” จางซูสูดจมูก ตอบกลับเสียง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-16
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 118

    หยุนเจิงอ้ำอึ้งให้นางคณิกาชั้นสูงมาตัดสินคุณภาพของบทกวี?นี่มันทำตามอำเภอใจมากเกินไปแล้วกระมัง?จางซูมองเห็นถึงความรู้สึกสงสัยของหยุนเจิงจึงอธิบายให้เขาทันทีถึงแม้เมี่ยวอินคนนี้จะเป็นนางคณิกาในหอนางโลม แต่นางกลับขายศิลป์ไม่ขายตัวเมี่ยวอินไม่เพียงแต่งามดุจเทพเซียนเท่านั้น แต่นางยังมีความสามารถทั้งร้องรำ ดีดฉินเล่นหมากรุก เขียนหนังสือวาดภาพ หรือแม้แต่ประพันธ์บทกวีและบทเพลง นางก็ล้วนเชี่ยวชาญทุกด้าน เป็นหญิงงามที่มากความสามารถคนหนึ่งด้วยเหตุนี้ เมี่ยวอินถึงได้มีเหล่าผู้มีความรู้มากมายคอยติดตามถึงแม้ว่านางจะขายศิลป์ไม่ขายตัว แต่ก็มีคนมากมายที่สามารถเป็นหนึ่งในผู้โชคดีของนางได้เช่นกันในงานประพันธ์บทกวีทุกครั้งล้วนแต่มีเมี่ยวอินเป็นคนออกหัวข้อให้ฝูงชนประพันธ์กวีเรื่องประพันธ์บทกวีและบทเพลงนั้น จะดีหรือแย่ แท้จริงแล้วฝูงชนต่างก็ตัดสินอยู่ในใจไม่มากก็น้อย แม้นว่าเมี่ยวอินจะเป็นคนสุดท้ายที่ตัดสินว่าบทกวีไหนดีที่สุดก็ตาม แต่ฝูงชนต่างก็คอยตัดสินอยู่แล้วเมื่อฟังคำอธิบายของจางซูเสร็จ หยุนเจิงพลันตะลึงใจอย่างอดไม่ได้เมี่ยวอินคนนี้เป็นนักแสดงหญิงอันดับต้นของราชวงศ์ต้าเฉียนนั้นหรือ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-16
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 119

    “นี่แหละเมี่ยวอิน!”จางซูพรวดตัวลุกนั่งอย่างตื่นเต้นราวกับฉีดเลือดไก่มาปานนั้น แล้วมองเมี่ยวอินไม่ละสายตาดูท่าแล้ว จางซูเองก็เป็นหนุ่มผู้คลั่งไคล้เมี่ยวอินเหมือนกันนะเนี่ย!นี่แหละเมี่ยวอิน?หยุนเจิงขมวดคิ้ว “เจ้าบอกว่านางงามดุจเทพเซียนบนสรวงสวรรค์ไม่ใช่หรือ? ขนาดนางใช้ผ้าโปร่งคลุมหน้าไว้ เจ้ายังสามารถมองเห็นโฉมหน้าของนางได้รึ?”“แน่นอนว่าไม่เห็นอยู่แล้ว!”จางซูกล่าวตรงไปตรงมา“เช่นนั้นเจ้ารู้ได้อย่างไรว่านางงามดุจเทพเซียน?”หยุนเจิงมึนงง“ฟังจากคนอื่นมาไงเล่า!”จางซูหรี่ตามองเรือนร่างของเมี่ยวอินไม่หยุด “เหล่าผู้โชคดีที่เคยได้เป็นแขกของนางต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่านางงามจนใจเจ็บ แม้แต่เทพเซียนบนสวรรค์ก็ยังเทียบไม่ติด…”ให้ตาย!เขาคิดจริงว่าเมี่ยวอินคนนี้งามจริงงามจัง!คาดว่าคงจะได้ฟังจากผู้อื่นทั้งนั้น!เมี่ยวอินคนนี้สร้างกระแสลับๆ นี่!ขณะที่หยุนเจิงกำลังพูดแซะอย่างบ้าคลั่งอยู่นั้น เมี่ยวอินก็ได้เอ่ยปากขึ้นคำกล่าวเปิดงานไม่มีอะไรมากไปกว่ากล่าวขอบคุณทุกท่านที่มาสนับสนุนโฉมหน้าของเมี่ยวอินเป็นอย่างไรนั้น ตอนนี้หยุนเจิงเองก็ไม่รู้เช่นกันแต่ทว่า เสียงของสตรีผู้นี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-17
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 120

    ตามด้วยคำพูดเสียงเบาของหยุนเจิง ดวงตาของจางซูพลันเปล่งประกายขึ้นมาทันใด“นี่เป็นกวีที่ท่านประพันธ์เองนั้นหรือ?”จางซูมองหยุนเจิงด้วยสีหน้าตะลึงตกใจ“พูดเป็นเล่น!”หยุนเจิงเอ่ยเสียงเบา “เป็นกวีของพี่สะใภ้รองของเสิ่นลั่วเยี่ยน ข้าลอกมา”“เช่นนี้นี่เอง!”จางซูนึกขึ้นได้กะทันหัน “ข้าก็ว่า เราสองคนต่างก็เป็นพวกไร้ประโยชน์…”จางซูเอ่ยได้ครึ่งประโยค พลันนึกบางอย่างขึ้นได้ทันทีจึงเปลี่ยนคำพูดว่า “ข้าหมายถึง ความรู้ของเราทั้งสองไม่ต่างกันเท่าไรนัก แหะๆ…”“เอาล่ะๆ!”หยุนเจิงโบกมือ “รีบจำซะ แล้วทำให้คนพวกนี้อึ้งจนอ้าปากค้าง!”จางซูพยักหน้าแรงๆ กำลังจะเริ่มจดบทกวี ทว่าใบหน้ากลับแข็งทื่อ ทำได้เพียงขยับเข้าไปอีกครั้งอย่างหน้าด้านๆ แล้วเอ่ยอย่างเขินอายว่า “องค์ชายหก ท่านช่วยพูดอีกครั้งได้หรือไม่ ข้า…ข้าลืมแล้ว…”“ข้า…”หยุนเจิงถอนใจ หมดคำจะพูดชั่วขณะเจ้านี่ไม่ได้เกิดมาเพื่อร่ำเรียนหาความรู้เลยจริงๆ!เพิ่งจะบอกไปหยกๆ แต่เขากลับลืมไปแล้ว?หยุนเจิงหมดหนทาง ทำได้เพียงกระซิบบอกเขาอีกครั้งขณะที่ทั้งสองกำลังกระซุบกระซิบกันอยู่นั้น ข้างล่างก็มีคนเริ่มประพันธ์บทกวีแล้วเพียงแต่บทกวีที่คนผู้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-17
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 121

    อันที่จริง ต่อให้หยุนเจิงจะไม่เสียงดัง ผู้คนล้วนรู้ดีว่าบทกวีนี้จางซูไม่ได้เป็นผู้ประพันธ์จะมีนักกวีคนไหนที่อ้าปากค้างมองไปทั่วทิศเช่นนี้กันเล่า! นี่ขานไปถึงครึ่งหนึ่งก็ไม่สามารถขานต่อไปได้ เห็นได้ชัดว่าคัดลอกผู้อื่นมา แต่พอขึ้นเวทีกลับลืมไปสเยแล้ว!“ฮ่าๆ…”เมิ่งกว่างไป๋หัวเราะเสียงดัง “จางซูเอ๋ยจางซู เจ้ามันเป็นคนมีความสามรถที่ไร้ประโยชน์เสียจริง! กระทั่งสิ่งที่คัดลอกของผู้อื่นมายังท่องจำไม่ได้ เจ้าดูเจ้าสิ เจ้ายังจะทำอะไรได้อีก”“ข้า…”จางซูละอายใจ ทันใดนั้นนัยน์ตาก็ฮึกเหิมขึ้นมา ด่าทอเกรี้ยวกราดว่า “บิดายังสามารถเอามารดาเจ้าได้ เจ้าลองเรียกแม่เจ้ามาลองดูสิ!”สิ้นเสียงด่าของจางซู ผู้คนล้วนตะลึงงันปราชญ์กวีผู้มีความสามารถที่อยู่ที่นี่ จะเคยคาดคิดที่ไหนกันเล่าว่าจะมีผู้ใดกล้ากล่าววาจาหยาบกระด้างเช่นนี้ต่อหน้าธารกำนัลเมิ่งกว่างไป๋โกรธเป็นที่สุด ชี้ด่าจางซูว่า “ไร้ยางอาย! เจ้าเป็นความอับอายของตระกูลจาง! เหตุใดจางเก๋อเหล่าจึงมีหลานชายเช่นเจ้าได้!” คำพูดของเมิ่งกว่างไป๋ก็ได้รับการตอบรับจากผู้คน“เรื่องอันใดของเจ้า!”อย่างไรเสียก็ถูกคนดูออกแล้ว จางซูจึงปล่อยตัวปล่อยใจ มองไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-17
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 122

    “ดาบเดียวจะหนาวสะท้านไปทุกแคว้น! วิเศษจริงๆ”“กลอนนี้ดี ช่างดีจริงๆ!”“กลอนบทนี้เมื่อเทียบกับของคุณชายหวางแล้ว เหนือกว่าขั้นหนึ่ง!”“ดาบเดียวจะหนาวสะท้านไปทุกแคว้น! แค่ประโยคนี้ประโยคเดียว ก็ทำให้กลอนบทนี้เป็นที่หนึ่งในวันนี้ได้แล้ว!”“พอมีกลอนนี้แล้ว คุณชายเมิ่งต้องมีชื่อเสียงขจรไปทั่วแน่นอน…”ในชั่วขณะเดียว เสียงร้องดังร้องว่าดีไม่หยุดหย่อนเมี่ยวอินเองก็พยักหน้าไม่หยุด ราวกับว่านางชื่นชอบกลอนบทนี้เป็นอย่างมาก“ทุกท่านกล่าวชมกันเกินไปแล้ว ข้าเองก็คิดกลอนนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน ไม่คู่ควรกับคำชมของทุกท่านขอรับ!”เมิ่งกว่างไป๋กล่าวไปทางผู้คน ท่าทางได้ใจเป็นอย่างยิ่ง“เจ้าสุนัข!”จางซูมองไปทางเมิ่งกว่างไป๋อย่างไม่พอใจเป็นที่สุด แล้วเข้าไปข้างกายหยุนเจิง “องค์ชาย เจ้ายังจำบทกลอนอื่นที่ฮูหยินเยี่ยจื่อประพันธ์ได้อีกหรือไม่?”“ข้ายัง…จำได้อีกสองบท”หยุนเจิงส่ายหัวไปมา แสร้างทำว่ากำลังเมามาย ขณะเดียวกันก็กระดกสุราลงท้องไปอีกหนึ่งจอก“องค์ชาย อย่างดื่มอีกเลย ถ้าดื่มอีกเจ้าก็จะลืมอีกแล้ว!!”จางซูรีบหยุดหยุนเจิง “ฉวยโอกาสตอนที่เจ้ายังไม่เมา รีบร่ายกลอนพวกนั้นเร็ว เชือดเจ้าสุนัขเมิ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-18
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 123

    สิ้นเสียงของหยุนเจิง ในสถานที่แห่งนั้นก็พลันสงบเงียบตามไปด้วยเหล้าองุ่นรสล้ำเลิศ รินกันเถิดจอกแสงจันทร์ อยากลิ้มร่วมชิมกัน พิณผีผามาเร่งเตือนเมามายบนผืนทราย อย่ายิ้มหมายมาเชือดเฉือน โบราณศึกกลาดเกลื่อน เพื่อนได้กลับสักกี่คน คนไม่น้อยล้วนหลับตาลง ดื่มด่ำกับเรื่องราวเหล่านี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนต่างจากกลอนของเมิ่งกว่างไป๋และหวังเสี่ยนที่กล้าหาญและใจกว้าง กลอนบทนี้มีความเป็นอิสระ ไร้กฎเกณฑ์ยิ่งกว่า เป็นการมองความเป็นความตายอย่างปล่อยวางแบบหนึ่งประโยคที่กล่าวว่า “เมามายบนผืนทราย อย่ายิ้มหมายมาเชือดเฉือน โบราณศึกกลาดเกลื่อน เพื่อนได้กลับสักกี่คน” ทำให้คนไม่น้อยตบโต๊ะชื่นชม“กลอนดีนี่! นี่ต่างหากที่เป็นกลอนที่ดีอย่างแท้จริง!”“มีความเป็นอิสระ ไร้กฎเกณฑ์ บ้าคลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ...”“โบราณศึกกลาดเกลื่อน เพื่อนได้กลับสักกี่คน ใช่แล้ว โบราณศึกกลาดเกลื่อน จะมีสักกี่คนที่สามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย”“ในความเห็นของข้า กลอนบทนี้ไร้กฎเกณฑ์ยิ่ง ความกล้าหาญก็ไม่มากพอ! ยังคงเป็นประโยคดาบเดียวจะหนาวสะท้านไปทุกแคว้นของคุณชายเมิ่งที่ดุดันยิ่งกว่า!”“ไม่ใช่ ไม่ใช่! กลอนของคุณชายเมิ่ง ดุดั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-18
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 124

    “ในทะเลทรายรกร้างว่างเปล่า มีการสู้รบมากมาย ทหารกล้าผ่านการสู้รบนับร้อยครั้ง กระทั่งเกราะเหล็กบนร่าง ก็ร้าวแล้ว แต่ขอแค่ศึกสงครามชายแดนยังไม่สิ้นสุด ก็ไม่มีทางที่จะถอดชุดเกราะหวนคืนบ้านเกิด”ในตอนนี้เองที่เสียง “เมาอ้อแอ้” ของหยุนเจิงดังขึ้นอีกครั้งบึ้ม!เมื่อได้ยินเสียงของหยุนเจิง ภายในสถานที่แห่งนั้นก็พลันเงียบสงัดทุกคนล้วนตะลึงมองหยุนเจิงอย่างแทบจะไม่กล้าเชื่อหูของตัวเองโดยเฉพาะ “ในทะเลทรายรกร้างว่างเปล่า มีการสู้รบมากมาย ทหารกล้าผ่านการสู้รบนับร้อยครั้ง กระทั่งเกราะเหล็กบนร่าง ก็ร้าวแล้ว แต่ขอแค่ศึกสงครามชายแดนยังไม่สิ้นสุด ก็ไม่มีทางที่จะถอดชุดเกราะหวนคืนบ้านเกิด” ประโยคนี้ ยิ่งทำให้เลือดในกายผู้คนเดือดพล่านกลอนบทที่สามแล้ว!นี่คือกลอนบทที่สามของเขาแล้ว!ภายในระยะเวลาสั้นๆ เท่านี้ คนผู้นี้ถึงกับประพันธ์กลอนติดกันได้ถึงสามบทเชียวหรืออีกอย่าง ยังอยู่ในสภาพเมามายด้วย!ทุกบทกลอนล้วนเป็นบทกลอนชั้นเลิศ“ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว!”“ผู้นำในคืนนี้จะต้องเป็นของคุณชายหลิวท่านนี้แต่เพียงผู้เดียวแน่นอน!”“เมื่อสามบทกลอนนี้หลุดออกมา กลอนทั้งหมดล้วนหม่นหมองไร้สีสันแล้ว...

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-03-18

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1326

    รวมกับกำลังพลของพวกเขาเองแล้ว การระดมทหารเจ็ดถึงแปดหมื่นพร้อมแรงงานชาวบ้านน่าจะเป็นไปได้เมื่อถึงตอนนั้น การประกาศว่าเป็นกองทัพแสนหนึ่งพร้อมบุกกดดันชนเผ่าโม่ซี น่าจะสร้างความกดดันได้ไม่น้อยคงต้องดูปฏิกิริยาของชนเผ่าโม่ซีก่อนในเวลานี้ ถ้าเลี่ยงการโจมตีได้ เขาก็จะไม่เลือกโจมตีอย่างแน่นอนพวกเขาเพิ่งตีโฉวฉือได้ และจับเชลยศึกได้มากมาย ย่อมต้องใช้เวลาเพื่อจัดการความยุ่งเหยิงนี้รอให้จัดการกองงานยุ่งเหยิงพวกนี้ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน อย่าว่าแต่เปิดศึกเลย แค่พวกเขาขยับตัวนิดหน่อย ชนเผ่าโม่ซีก็คงต้องตัวสั่นงันงกแล้ว...สองวันต่อมา หยุนเจิงเดินทางถึงนอกเมืองอวี้เฟิง โดยมีกองทหารองครักษ์และทหารม้าชั้นยอดสองพันนายคุ้มกัน และได้พบกับตู๋กูเช่อระหว่างทาง พวกเขาเจอเข้ากับกองกำลังต่อต้านขนาดเล็กแต่กองทหารองครักษ์ของหยุนเจิงไม่ได้ลงมือเลย ทหารม้าชั้นยอดเพียงสองพันนายก็สามารถกำจัดกองกำลังต่อต้านนี้ได้หมดหลังจากทักทายกันสั้นๆ ตู๋กูเช่อก็เริ่มรายงานสถานการณ์ปัจจุบันให้หยุนเจิงฟังในตอนนี้ กองกำลังป้องกันเมืองอวี้เฟิงที่เป็นทหารจริงๆ มีอยู่ประมาณสองหมื่นนายทหารสองหมื่นนายนี้ประกอบด้วยคนที่หย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1325

    สองวันต่อมา ฉินชีหู่ได้นำกองทหารม้าสองพันนายเร่งมาถึงด่านเทียนฉงทว่า มาไม่ใช่กองทหารโลหิต แต่เป็นทหารม้าสองพันนาย"ทำไมถึงเป็นเจ้าที่มา?"หยุนเจิงถามฉินชีหู่ด้วยความแปลกใจเล็กน้อย"ทำไมข้าจะมาไม่ได้เล่า?"ฉินชีหู่ยิ้มซื่อๆ พลางถามหยั่งเชิงว่า "น้องรัก เจ้ายังไม่หายโกรธข้าอีกหรือ?""ถ้าข้าโกรธ เจ้าคงถูกไล่กลับไปทบทวนตัวเองที่กองหลังนานแล้ว!" หยุนเจิงส่ายหน้ายิ้มๆ "ว่าแต่ เจ้าคิดออกหรือยัง?"พอพูดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของฉินชีหู่ก็แดงขึ้นเล็กน้อย เขาหัวเราะแห้งๆ "คิดออกแล้ว""งั้นหรือ?"หยุนเจิงยิ้มเล็กน้อย "เจ้าคิดได้เอง หรือมีใครบอกเจ้า?"ฉินชีหู่หัวเราะเขินๆ "ข้าไปถามรองแม่ทัพมา แต่รองแม่ทัพไม่บอกอะไร แค่สั่งมอบกองทหารม้าสองพันนายให้ข้า แล้วให้ข้ากับหลูซิ่งแยกกันจัดการกลุ่มต่อต้านของโฉวฉือ โดยให้ข้าบังคับบัญชาหน่วยของหลูซิ่งอีกด้วย..."แม้ฉินชีหู่จะซื่อและตรง แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่นี่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจกระจ่างการที่ตนบัญชาการกองทัพสองสาย และต้องออกคำสั่งไปยังอีกสายหนึ่ง แค่คิดให้มากขึ้นอีกนิดก็เข้าใจได้เมื่อคิดออกแล้ว เขาจึงเข้าใจถึงเจตนาที่ดีของตู๋กูเช่อถึงตู๋กูเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1324

    การชนะโดยไม่ต้องรบคือกลยุทธ์อันยอดเยี่ยมที่สุด“กระหม่อมเข้าใจแล้ว”จั่วเหรินพยักหน้ารับอย่างต่อเนื่องหลังจากทั้งสองสนทนากันได้สักพัก หยุนเจิงก็เตรียมตัวไปพบกับตู๋กูเช่อ แต่กลับถูกจั่วเหรินและเมี่ยวอินห้ามไว้เพราะตอนนี้พวกเขายังอยู่ในดินแดนของศัตรูกองทหารองครักษ์ของหยุนเจิงมีจำนวนน้อย หากบังเอิญเจอศัตรูที่ยังขัดขืนและซุ่มโจมตี จะทำอย่างไร?แม้ความเป็นไปได้จะต่ำมาก แต่ก็ยังต้องระวังไว้ก่อนเนื่องจากตอนนี้กองกำลังที่ด่านเทียนฉงมีเพียงทหารราบ จั่วเหรินจึงไม่สามารถส่งพวกเขาไปคุ้มกันหยุนเจิงได้ จึงขอให้หยุนเจิงพักผ่อนที่ด่านเทียนฉง และส่งคนไปแจ้งตู๋กูเช่อให้ส่งกำลังมารับหยุนเจิงแทนหยุนเจิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงยอมรับข้อเสนอนี้หลังจากที่เดินทางไกลมาหลายวัน คนและม้าก็จำเป็นต้องพักผ่อนในเมื่อตู๋กูเช่อได้เตรียมงานสำหรับการเคลื่อนทัพไปยังชนเผ่าโม่ซีไว้เรียบร้อยแล้ว การรออีกหนึ่งหรือสองวันก็ไม่ได้ทำให้เรื่องสำคัญล่าช้า อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้เขาได้วางแผนงานต่อไปค่ำคืนนั้น หยุนเจิงและเมี่ยวอินก็ได้อาบน้ำด้วยกันอย่างสบายใจที่ด่านเทียนฉงถึงแม้เมี่ยวอินจะติดตามหยุนเจิงมาตลอด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1323

    จางฮว๋าย…สิ้นไปแล้วหรือ?แม้ตอนที่จางซูเดินทางกลับเมืองหลวง หยุนเจิงก็พอคาดเดาได้ว่าจางฮว๋ายในครานี้คงจะไม่รอดแล้ว แต่เมื่อได้รับข่าวนี้ เขาก็ยังเผลอหยุดนิ่งไปครู่หนึ่งโดยไม่รู้ตัวภาพของผู้เฒ่าจางฮว๋ายค่อยๆ ลอยขึ้นมาในห้วงความคิดของหยุนเจิงพูดตามตรง ตอนแรกหยุนเจิงไม่ได้มีความประทับใจที่ดีต่อผู้เฒ่าจางฮว๋ายสักเท่าไรโดยเฉพาะเรื่องที่ผู้เฒ่าผู้นี้มักจะสนับสนุนแนวทางประนีประนอมในกรณีของเป่ยหวนอยู่เสมอแต่ต่อมา เมื่อเขาได้เข้าใจในตัวจางฮว๋ายมากขึ้น ความประทับใจของเขาที่มีต่อผู้เฒ่าคนนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นผู้เฒ่าผู้นี้แม้จะดื้อรั้นอยู่บ้าง แต่กลับไม่ได้หัวดื้อจนเกินไปนอกจากนี้ ผู้เฒ่าผู้นี้ยังเป็นขุนนางที่จงรักภักดีอย่างแท้จริงน่าเสียดายจริงๆ!เขาไม่ได้มีโอกาสไปพบจางฮว๋ายเป็นครั้งสุดท้ายขณะที่หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ จั่วเหรินก็เริ่มเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมจางฮว๋ายสิ้นใจในวันที่สิบสองของเดือนเก้าจักรพรรดิเหวินรงโศกเศร้าอย่างยิ่ง ถึงกับงดราชกิจเป็นเวลาหนึ่งวันเพื่อแสดงความอาลัยในการป่วยจากไปของจางฮว๋าย จักรพรรดิเหวินยังทรงพระเมตตาอย่างล้นพ้น โดยพระราชทานแผ่นป้ายส

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1322

    “ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ!”หยุนเจิงขมวดคิ้วพูด “หากข้าปลดเสื้อผ้าเจ้าที่นี่ คนที่เสียหน้าก็ยังคงเป็นเจ้าเอง!”เมื่อเห็นหยุนเจิงเริ่มไม่พอใจ เจียเหยาก็หยุดเรื่องนี้ทันที“ข้ามีคำถามสุดท้ายอยากถาม”เจียเหยาพยายามดึงเรื่องกลับมาที่ประเด็นหลัก“เรื่องอะไรล่ะ?”หยุนเจิงถามด้วยน้ำเสียงสบายๆเจียเหยาจ้องมองหยุนเจิง “เหตุใดท่านถึงไม่ใช้ของที่ใช้ระเบิดเปิดเขานั่นทำลายด่านเทียนฉงของโฉวฉือไปเลย? ท่านน่าจะรู้ดีกว่าข้าว่า หากด่านนั้นถูกตีแตกเร็วกว่านี้ ท่านจะไม่ต้องสู้กันอย่างเหนื่อยยากที่แม่น้ำซัวเล่ย”เวรเอ๊ย!หญิงคนนี้ถึงขั้นสงสัยเรื่องนี้แล้วรึ?นางช่างทำให้ข้าไม่เคยได้อยู่อย่างสงบเลยจริงๆ!“ทำไมข้าต้องทำลายด่านเทียนฉงด้วยเล่า?”หยุนเจิงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “หากข้าทำลายด่านเทียนฉงไปแล้ว เจ้าจะส่งคนมาช่วยข้าสร้างใหม่หรืออย่างไร?”“เพียงเพราะเหตุนี้เองหรือ?”เจียเหยาฟังแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง“เจ้าสงสัยหรือว่าข้าไม่มีสิ่งนั้นอยู่ในมือแล้ว?”หยุนเจิงมองเจียเหยาด้วยรอยยิ้มปริศนา “รอจนชั้นน้ำแข็งของแม่น้ำไป๋สุ่ยหนาพอ ข้าก็คิดจะใช้สิ่งนั้นระเบิดเปิดเขาที่ปากทางภูเขาหลางหยา แล้วส

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1321

    เจียเหยาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็นึกไม่ออกว่าหยุนเจิงมีจุดประสงค์อื่นอะไร จึงได้แต่ถามเขาด้วยท่าทีคล้ายขอคำชี้แนะ“ไม่ซับซ้อนอย่างที่เจ้าคิดหรอก”หยุนเจิงส่ายหน้ายิ้ม “กองทหารมณฑณเหนือข้าส่งมาแต่ทหารฝีมือดี จะไม่ล้มซักแคว้นได้อย่างไร?”ต้องการเชือดไก่ให้ลิงดูหรือ?เจียเหยาครุ่นคิดก่อนถามต่อ “ถ้าท่านคิดจะฆ่าไก่ให้ลิงดู การทำลายล้างกุ่ยฟางน่าจะน่ากลัวกว่าการทำลายโฉวฉือใช่หรือไม่?”เพราะว่ากุ่ยฟางแข็งแกร่งกว่าโฉวฉือมาก“เจ้าก็พูดเองว่า ข้าต้องการเปิดเส้นทางไปยังชนเผ่าโม่ซี”หยุนเจิงยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนมองเจียเหยาด้วยความสนใจ “ว่าแต่ เจ้าสนใจเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม? หรือว่าอาการหวาดระแวงของเจ้ากำเริบอีกแล้ว?”หวาดระแวงงั้นหรือ?เจียเหยาแอบหัวเราะขื่นๆนางก็ดูจะมีอาการหวาดระแวงอยู่บ้างจริงๆนางกังวลว่าหยุนเจิงเก็บกุ่ยฟางไว้เพื่อกดดันเป่ยหวนแต่เขาก็ได้ใช้ตัวตายตัวแทนอย่างทัวฮวนแล้ว ดังนั้นการที่กุ่ยฟางจะล่มสลายหรือไม่ก็ดูจะไม่ต่างกันนักในแง่ของการกดดันเป่ยหวนนางรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติอยู่แต่ก็คิดไม่ออกว่าปัญหานั้นคืออะไรและนั่นทำให้นางรู้สึกกระวนกระวายจนกินไม่ได้นอนไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1320

    หวั่น...ไหว?เจียเหยาชะงักไป ราวกับถูกคำถามของเมี่ยวอินทำให้สับสนหยุนเจิงมีทั้งความแค้นของชาติและครอบครัวกับนาง เมี่ยวอินถามคำถามแบบนี้ได้อย่างไร?หรือเมี่ยวอินคิดว่านางจะปล่อยวางความแค้นทั้งหมดได้?เจียเหยามองเมี่ยวอินด้วยสายตาเต็มไปด้วยความสงสัย “เจ้ากำลังลองใจข้าหรือ?”“ข้าจะลองใจเจ้าทำไม?”เมี่ยวอินปฏิเสธทันที “ข้าแค่คิดว่า ในแง่หนึ่ง เจ้าและหยุนเจิงเป็นคนประเภทเดียวกัน! แม้จะมีความแค้นต่อกัน แต่พวกเจ้าคงจะมีความนับถือกันในใจบ้าง”เป็นเช่นนั้นหรือ?เจียเหยาดูเหมือนจะยังไม่แน่ใจนัก นางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดอย่างตรงไปตรงมา “ถ้าเจ้าว่ามีความนับถือกัน ข้าคิดว่าคงมีบ้าง! แม้ยามที่ข้าอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา ข้าก็ไม่เคยปฏิเสธว่าเขาคือคู่ต่อสู้ที่น่ายกย่อง การได้พบเขาในสนามรบถือเป็นโชคดี...และโชคร้ายในคราวเดียวกัน”เมี่ยวอินเม้มริมฝีปากเบาๆ มองเจียเหยาด้วยความสนใจ “โชคร้ายน่ะข้าเข้าใจ แต่โชคดีล่ะ หมายความว่าอย่างไร? หรือแค่เพราะได้พบคู่ต่อสู้อย่างเขา?”“เพราะเขามีขีดจำกัดในสิ่งที่เขาจะทำ”เจียเหยาพูดออกมาเบาๆ “ข้าหวังว่าเขาจะมีขีดจำกัดเช่นนี้ตลอดไป...”ขีดจำกัดหรือ?เมี่ยวอิ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1319

    ค่ำคืนนั้น หยุนเจิงเรียกอวี่ซื่อจงและชวีจื้อเข้ามาในกระโจมเพื่อสั่งการระหว่างที่กำลังพูดคุยกัน เสียงองครักษ์ด้านนอกดังขึ้นว่า “ฝ่าบาท องค์หญิงเจียเหยาขอเข้าเฝ้า”เจียเหยา?หยุนเจิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยตัวเขาเพิ่งคุยกับเจียเหยาไปเมื่อครู่นี้เองไม่ใช่หรือ?นางมาหาตนอีกทำไมกัน?ข้าให้เสบียงไปมากมายแล้ว นางยังต้องการอะไรอีก?หรือว่านางจะมาเล่นบทเศร้า หรือใช้เรือนร่างอันงดงามของนางมาทดสอบจิตใจข้า?เมื่อเห็นหยุนเจิงเงียบไป อวี่ซื่อจงจึงพูดอย่างระมัดระวัง “ฝ่าบาท ถ้าเช่นนั้น พวกเรามาคุยกันอีกทีภายหลังดีไหม?”“ไม่ต้องสนใจ เรามาคุยกันต่อ”หยุนเจิงโบกมือ และพูดกับองครักษ์ด้านนอกว่า “ข้ามีธุระ ให้มาหาข้าทีหลัง!”“ขอรับ!”หยุนเจิงเลิกคิดฟุ้งซ่าน และสั่งการอวี่ซื่อจงกับชวีจื้อต่อเขายังต้องไปที่ด่านเทียนฉง งานเกี่ยวกับการถอนทัพที่นี่ จึงต้องฝากให้อวี่ซื่อจงและชวีจื้อเป็นผู้รับผิดชอบด้านนอกกระโจม เจียเหยาไม่ได้จากไป แต่ถอยออกไปยืนรอเงียบๆไม่นานนัก เมี่ยวอินที่ทำงานเสร็จเดินผ่านมา และเห็นเจียเหยายืนอยู่คนเดียวอย่างเดียวดาย“เจ้ามายืนตรงนี้ทำไม?”เมี่ยวอินเดินเข้ามา มองเจียเหยาด้วย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1318

    นางรู้ดีว่า หากต้องการบีบให้กุ่ยฟางยอมจำนน จำเป็นต้องมีกำลังทหารมากพอที่จะกดดันพวกกุ่ยฟางหยุนเจิงจะต้องให้นางนำกองทหารม้าหมื่นนายออกไปยังกุ่ยฟางแน่นอนนางจึงต้องการซื้อเสบียงจากหยุนเจิงล่วงหน้า เพื่อใช้เป็นเสบียงสำหรับกองทัพหมื่นนายความตั้งใจของเจียเหยานั้นง่ายมากเมื่อนางเจรจาต่อรองกับกุ่ยฟางสำเร็จ และได้ผลประโยชน์จากกุ่ยฟางแล้ว นางจะนำทองคำและเงินมาชำระค่าเสบียงหรือในภายหลัง อาจคืนเสบียงให้หยุนเจิงแทนก็ได้พูดง่ายๆ คือขอล่วงหน้าก่อน!แต่อย่างไรก็ดี นางย่อมอยากใช้ทองคำและเงินซื้อเสบียงมากกว่าหลังจากเคยเผชิญความยากลำบากเพราะขาดเสบียง นางยอมสะสมเสบียงไว้มากกว่าเก็บทองคำและอัญมณี“จริงๆ แล้ว เสบียงของเราก็ขาดแคลนเช่นกัน”หยุนเจิงส่ายหน้ายิ้ม “เจ้าคิดหรือว่าเรามีเชลยครั้งนี้กี่คน? เจ้าคิดว่าเชลยเหล่านี้ไม่กินไม่ดื่มหรือ? หรือเจ้าคิดว่าข้าเป็นพวกเถื่อนทางเหนือ ที่พาเชลยกลับไปกินแทนอาหาร?”เชลยแสนคนเชียวนะ!ต้องใช้เสบียงมากแค่ไหนเพื่อเลี้ยงดูพวกเขา?และไม่ใช่ว่าพาเชลยพวกนี้กลับไปแล้วจะไม่ต้องใช้เสบียงตราบใดที่คนพวกนี้ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาก็ต้องกินเสบียงทุกวันนางยังคิดว่

DMCA.com Protection Status