เมิ่งหยุนตอบทันที “ข้าน้อยนำเสบียงอาหารมาหนึ่งหมื่นห้าพันหาบ”พ่อค้าธัญพืชอีกสามคนก็รีบรายงานจำนวนเสบียงที่ตัวเองขนมาทั้งสามคนต่างก็ขนส่งเสบียงมาเพียงหนึ่งหมื่นหาบไม่ต่างจากการคาดการของจั่วเริ่นมากนักเสียงอาหารของพ่อค้าธัญพืชสี่คนรวมกันแล้วยังไม่ถึงห้าหมื่นหาบด้วยซ้ำหยุนเจิงสบถในใจ สีหน้าหงิกงอ “เหตใดจึงขนเสบียงมาแค่เท่านี้? เหตุใด กลัวข้าไม่มีเงินซื้อเสบียงหรือ หรือกลัวข้าจะปล้นเสบียงอาหารของพวกเจ้า?”ถูกหยุนเจิงถามเช่นนี้ ทั้งสี่คนตื่นตระหนกในใจ รีบส่งสายตาไปขอความช่วยเหลือจากจางซูแม้พวกเขาต่างก็ไม่รู้จักจางซู แต่ก็เคยได้ยินชื่อเสียงโด่งดังของจางซูแค่เห็นรูปร่างของจางซู ก็คาดเดาได้ว่าท่านนี้ก็คือเทพแห่งความมั่งคั่งในตำนานผู้นั้นจางซูเข้าใจ จากนั้นก็กล่าวด้วยรอยยิ้มกับหยุนเจิง “องค์ชาย ฤดูร้อนปีนี้ทางใต้มีฝนมาก ถนนเต็มไปด้วยดินโคลน ข้าคิดว่า พวกเขากลัวว่าซั่วเป่ยขาดแคลนอาหารเกินไป จึงขนส่งเสบียงอาหารจำนวนน้อยมาก่อน คุ้นเคยเส้นทางการขนส่งเสบียงอาหารสักหน่อย รอให้อากาศดี ถนนไม่มีดินโคลน ค่อยขนส่งเสบียงอาหารจำนวนมากมา...” “ใช่ ใช่...”ทุกคนพากันพยักหน้าเห็นด้วย จากนั้น
เสบียงอาหารของซั่วเป่ยขาดแคลนหนักมากหากไม่สามารถเติมเสบียงให้ถึงเส้นปลอดภัยได้โดยเร็ว ซั่วเป่ยก็อาจเผชิญความเสี่ยงเรื่องเสบียงอาหารสุดท้ายต้องซื้อเสบียงอาหารจำนวนมากภายในด่าน!ดีทีสุดหากสามารถนำเสบียงที่กักตุนของพ่อค้าธัญพืชรายใหญ่เหล่านั้นจากภายในด่านทั้งหมดมาที่ซั่วเป่ยได้!ต้าเฉียนปีที่แล้วเก็บเกี่ยวผลผลิตสมบูรณ์ พ่อค้าธัญพืชเหล่านั้นน่าจะเก็บกักตุนไว้ไม่น้อยขณะที่หยุนเจิงกำลังกังวลเงียบ จางซูมาหาเขา“เป็นเช่นไร?”หยุนเจิงถามด้วยรอยยิ้มจางซูหัวเราะเจ้าเล่ห์ “ไม่ผิดจากที่องค์ชายคาดการณ์ คนเหล่านี้คิดจะลากข้าขึ้นเรือด้วย!”“เช่นนั้นก็ดี!”รอยยิ้มบนใบหน้าของหยุนเจิงเข้มข้นขึ้น “ไม่ว่าพวกเขาจะให้ผลประโยชน์ใดกับเจ้า เจ้าเก็บไว้ก็พอแล้ว!”เหตุผลที่คนเหล่านี้ขนส่งเสบียงเพียงเล็กน้อยเพื่อลองเชิง ก็เพราะกังวลว่าเรื่องนี้จะเป็นภัยพิบัติหรือ?หากจางซูกับพวกเขามีผลประโยชน์ร่วมกัน ก็น่าจะขจัดความกังวลของพวกเขาได้เบื้องหน้ารู้จักคนก็ทำงานง่ายแล้ว!นี่คือสิ่งที่ใช้ได้กับทุกคน“ได้!”จางซูตอบอย่างสบาย จากนั้นก็หัวเราะร่าเริง “ตอนนี้พวกเขาอยากเจรจารายละเอียดเรื่องการรับซื้อเสบีย
หยุนลี่ชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็ฝืนกล่าว “ใช่ ใช่ ใต้เท้าจางพูดไม่ผิด”“เช่นนั้นหรือ?”หยุนเจิงขมวดคิ้วมองเมิ่งหยุนฉี่ทั้งสี่คน “ข้าให้โอกาสพวกเจ้า คนที่มีเสบียงที่กักตุนไว้เกินห้าแสนหาบอยู่ก่อน แม้แต่เสบียงอาหารห้าแสนหาบยังไม่มี ตอนนี้ก็ไปซะ ข้าจะไม่ทำให้พวกเจ้าลำบาก!”เมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง ทั้งสี่คนมองหน้ากันเงียบๆพวกเขาไม่มีใครกักตุนเสบียงเกินห้าแสนหาบถึงเช่นไร พวกเขาก็เป็นแค่พ่อค้าธัญพืช ไม่ใช่คลังของราชสำนักพวกเขากักตุนเสบียงอาหาร ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกันธัญพืชที่กักตุนอยู่ในคลังเสบียงนานเกินไป ก็จะกลายเป็นธัญพืชเก่า!ราคาของธัญพืชเก่าก็ไม่อาจเทียบกับธัญพืชใหม่ได้อย่าว่าแต่พวกเขาเลย ดูทั้งต้าเฉียน มีพ่อค้าธัญพืชไม่กี่คนที่กักตุนเสบียงเกินห้าแสนหาบนอกจากพ่อค้าธัญพืชที่มีเบื้องหลังแข็งแกร่งแต่ว่า คิดถึงผลกำไรที่อุดมมั่งคั่ง ทุกคนกลับไม่ยอมจากไปในมือพวกเขาไม่มีธัญพืชมากมายเช่นนั้น แต่สามารถรับซื้อธัญพืชจากที่อื่นได้!ก็แค่ราคาสูงหน่อยเท่านั้น!อีกทั้ง ราชสำนักกำลังจัดกัดราคาธัญพืชภายในด่าน พ่อค้าธัญพืชมากมายภายในด่านไม่กล้าขึ้นราคาแต่พวกเขาสามารถรับซื้อได้!
ทุกคนต่างก็ได้รับเงินมัดจำสองแสนตำลึงเงินหยุนเจิงไม่กลัวพวกเขาได้เงินแล้วชิ่งหนีหากพวกเขากล้าทำเช่นนั้น ในทางกลับกันหยุนเจิงยิ่งดีใจ!บุกไปถึงบ้านโดยตรง ง่ายกว่าการวางกับดักพ่อค้าธัญพืชเหล่านี้มาก!นำข้อระเบียบที่เป็นรูปธรรมมอบให้จางซูแล้ว หยุนเจิงอ้างว่ายังมีเรื่องต้องจัดการ ให้จางซูพาทั้งสี่คนออกไป“แม้ครู่ขอบคุณใต้เท้าจางที่ช่วยแก้หน้าให้พวกเรา”“ใต้เท้าจางฉลาดปราดเปรื่อง พวกข้าเลื่อมใสอย่างยิ่ง!”“เช่นนั้นเหตุใดจึงบอกว่าใต้เท้าจางเป็นคนดังข้างกายท่านอ๋องเล่า?”“หากไม่มีใต้เท้าจาง วันนี้เกรงว่าพวกเราคงถูกท่านอ๋องไล่ออกไปแล้ว...”ออกจากคลังเสบียง ทั้งสี่คนก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนแสดงความขอบคุณการประจบสอพลอนี้แม้แต่จางซูยังทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว“เอาล่ะ เลิกประจบสอพลอได้แล้ว!”จางซูโบกมือ “แม้ท่านอ๋องเป็นคนใจกว้าง แต่ไม่ยอมให้เม็ดทรายเข้าตา! ข้าเตือนพวกเจ้าสักประโยค หากไม่มีความสามารถหาธัญพืชมากมายมาได้ ก็อย่าหาเรื่องมาทำเรื่องนี้เลย! ตอนนี้กลับใจยังทัน! เมื่อลงนามสัญญาแล้ว หากพวกเจ้าไม่อาจส่งธัญพืชตามกำหนดได้ ท่านอ๋องโมโหขึ้นมา ข้าห้ามไม่ไหว!”อู๋อวี้เซวียนหัวเราะ ตบหน้าอ
วันที่สอง เมิ่งหยุนทั้งสี่คนรับสัญญาที่ประทับตราของหยุนเจิง ไปจากหม่าอี้ด้วยความพึงพอใจเรื่องธัญพืชจัดการเรียบร้อยแล้ว หยุนเจิงเตรียมออกจากหม่าอี้ไปยังสำนักศึกษาเตรียมทหารที่เขาลั่วเสียนักเรียนสามร้อยคนรอบแรกของสำนักศึกษาเตรียมทหารมาถึงแล้วเขาคือเจ้าสำนักของสำนักศึกษาเตรียมทหาร เช่นไรก็ต้องไปดูหน่อยก่อนเขาจากไป จางซูบอกผลประโยชน์ที่ทั้งสี่คนให้กับจางซูตามความสัตย์จริงทั้งสี่คนเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับจางซู ลงทุนไปไม่น้อยเลยเงินค่าธัญพืชทั้งหมดที่ได้มาในครั้งนี้ ทั้งหมดยกให้กับจางซู นับรวมกับค่าบริโภคระหว่างขนส่ง ครั้งนี้พวกเขาต่างก็รับว่าขาดทุนแล้วแต่ว่า พ่อค้าที่เฉลียวฉลาดล้วนไม่สนใจเงินเล็กน้อยเช่นนี้การค้าหลังจากนี้ จึงจะเป็นการค้าใหญ่ที่แท้จริง!ที่สำคัญคือ พวกเขาต้องสร้างความสัมพันธ์กับเทพมั่งคั่งจางซูผู้นี้!ในบรรดาทั้งสี่คน อู๋อวีเซวียนใจกว้างที่สุดแล้วกลางคืนเมื่อวาน อู๋อวี้เซวียนเจรจากับจางซูนานที่สุด รับปากมองผลกำไรจากการค้าธัญพืชด้านหลังห้าส่วนให้กับจางซูเมิ่งหยุนฉี่พวกเขาต่างก็แบ่งผลประโยชน์ให้จางซูเป็นการส่วนตัว แต่ไม่ได้ใจกว้างอย่างอู๋อวี้เซวียนถึง
พวกเขาสามารถใช้วิธีการมาหลอกพ่อค้าธัญพืชเหล่านี้ แต่ไม่อาจทำเรื่องปล้นชิงในนามของราชการได้คิดจะพัฒนาซั่วเป่ย ไม่ใช่แค่อาศัยพวกเขาทำโรงงานก็ใช้ได้แล้วต้องสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่ดีสำหรับซั่วเป่ย ให้เหล่าพ่อค้าภายในด่านยอมมาทำการค้าที่ซั่วเป่ย“ก็จริง!”จางซูพยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นก็หัวเราะร่าเริง “ต่อให้พวกเรารับซื้อธัญพืชในราคาสูงจากพ่อค้าเหล่านี้ รอให้พ่อค้าธัญพืชคนอื่นได้รับข่าว นำธัญพืชส่งมาที่ซั่วเป่ยแล้ว พวกเราก็สามารถใช้แผนการขององค์ชายรับซื่อธัญพืชในราคาปกติ!”“ใช่! หากพวกเขาทำได้ พวกเราก็เท่ากับประชาสัมพันธ์ให้ซั่วเป่ยแล้ว!”หยุนเจิงพยักหน้ายิ้ม จากนั้นก็กล่าว “ทางนี้ข้ายังมีของสองอย่าง ต้องให้เจ้ารีบทำออกมา หากทางตอนใต้เกิดโรคห่าระบาดจริง ของสองสิ่งนี้บางทีอาจได้ใช้เมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง จางซูรู้สึกสนใจขึ้นมาทันทีหยุนเจิงไม่โอ้เอกับจางซู นำวิธีผลิตหน้ากากอนามัยและชุดป้องกันโรคบอกกับจางซูหน้ากากอนามัยนั้นง่ายมาก ใช้ผ้าฝ้ายละเอียดหลายชั้นรวมกับผ้าแพรไหม ก็สามารถทำได้แล้วแม้ของสิ่งนี้ไม่อาจเทียบกับหน้ากากอนามัย N95 ได้ แต่ก็ดีกว่าไม่มีส่วนชุดป้องกันโรค ใ
หนึ่งวันให้หลัง หยุนเจิงพาคนมายังสำนักศึกษาเตรียมทหาร ป้ายของสำนักศึกษาเตรียมทหารแขวนเรียบร้อยแล้วตามความต้องการของหยุนเจิง ประตูสำนักศึกษาเตรียมทหารตั้งป้ายศิลาหินขนาดใหญ่เอาไว้บนนั้นสลักไว้ด้วยสิบสี่อักษรเป็นตายเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง ป้องกันเหตุร้ายเลี่ยงหายนะตอนที่หยุนเจิงมาถึง ตู๋กูเช่กำลังนำครูผู้ฝึกและนักเรียนกลุ่มหนึ่งรออยู่หน้าประตูนักเรียนของสำนักศึกษาเตรียมทหารชุดแรก มีความต้องการที่เข้มงวดอายุต้องอยู่ระหว่างยี่สิบถึงสามสิบปี จำเป็นต้องรู้หนังสือเบื้องหลังคนเหล่านี้ต้องใสสะอาด เดิมทีอยู่ในกองทหารมณฑลทางเหนือ อย่างน้อยต้องได้รับตำแหน่งหัวหน้าทหารประจำการขึ้นไปอีกทั้ง ต้องเคยปะทะเข่นฆ่าศัตรูในสนามรบผู้ที่สามารถเป็นนักเรียนชุดแรกของสำนักศึกษาเตรียมทหารได้ โดยพื้นฐานแล้วเป็นยอดวีรบุรุษในหมู่ยอดวีรบุรุษแม้ตอนนี้อากาศจะร้อนระอุ แต่ทุกคนต่างก็ใส่ชุดเกราะพาดลำตัวนักเรียนสามร้อยคนยืนกันเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ละคนมีจิตใจแน่วแน่“ยินดีต้อนรับองค์ชาย! ยินดีต้อนรับฮูหยินเมี่ยวอิน!”เมื่อเห็นขบวนของหยุนเจิง ตู๋กูเช่อนำทุกคนทำความเคารพหยุนเจิงไม่มีความตั้งใจจ
นางมักอยู่ข้างกายหยุนเจิง นางย่อมเคยฟังหยุนเจิงร้องเพลงนี้ตอนที่หยุนเจิงสอนตู๋กูเช่อ นางก็อยู่ด้วยตอนนั้นนางฟังบทเพลงนี้ มักรู้สึกว่าโคลงประกอบดนตรีและเพลงล้วนแปลกประหลาดตอนนี้ได้ยินคนมากมายร้องประสานเสียงเป็นครั้งแรก ก็เกิดความรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาทันทีมีเพียงชายเลือดร้อนถึงจะเขียนโคลงประกอบดนตรีและเพลงที่ห้าวหาญเช่นนี้ขึ้นมาได้เผชิญกับสายตาคลั่งไคล้ของเมี่ยวอิน หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะหน้าแดงโคลงประกอบดนตรีและเพลงนี้ ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับเขาแม้แต่น้อย เขาแค่แก้ไม่กี่ตัวอักษรเท่านั้นแต่ว่า แม้แต่เมี่ยวอินยังฟังอย่างหลงใหลเช่นนี้ หลังจากนี้บทเพลงนี้จะได้รับการเผยแพร่ในกองทัพ น่าจะกลายเป็นเพลงประจำกองทัพของกองทหารมณฑลทางเหนือแล้ว!เพลงทหาร หลายครั้งก็สามารถเสริมสร้างขวัญกำลังใจได้!“ต้าเฉียนยิ่งใหญ่ทุกจตุรทิศ...ร่วมสรรเสริญ!”ตอนที่หยุนเจิงกำลังครุ่นคิด บทเพลงก็เข้าสู่ช่วงท้ายแล้วแม้เพลงร้องจบแล้ว แต่ดูเหมือนหลายคนจะยังจมอยู่กับเพลงทหารเพลงนี้ ท่าทางหลงใหลเช่นนั้น ล้วนเห็นได้ด้วยตาเปล่า“ดีมาก!”หยุนเจิงลุกขึ้นยืน กล่าวเสียงดัง “ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะไม่ผิดต่อบทเพลงทหารนี้