หน้าหลัก / LGBTQ+ / องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์ / บทที่ ๑๙ ชำระหนี้ครั้งที่หก (๑๐๐%)

แชร์

บทที่ ๑๙ ชำระหนี้ครั้งที่หก (๑๐๐%)

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-08 18:00:30

"คุณดิน...เชื่อผมแล้วเหรอครับ?"

ตรีศูลยังคงแววตาแน่นิ่งด้วยความสับสน ชำเลืองเจ้าของอ้อมกอดที่นานเข้าก็รู้สึกถึงท่อนแขนยิ่งกกกอดเขาแน่นขึ้น

"ทำไมผมจะไม่เชื่อล่ะ"

"ก็มัน...ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะเอามาพูดกันง่าย ๆ นี่ครับ"

"แต่เมื่อกี้ผมเห็นคุณพูดก็ไม่ได้ดูง่ายเลยนะ"

พิภพโดนโฉมงามในอ้อมกอดทุบอกมาทีหนึ่ง ก่อนจะตามด้วยเสียงสะอื้นและความชื้นบริเวณลาดไหล่ที่แม่นางร

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๒๐ ข้าวใหม่ปลามัน (๕๐%)

    เสียงฝนตกปรอย ๆ กระทบพื้นดินพื้นหญ้าในขณะที่แสงอาทิตย์รำไรฉายลงมาบอกกล่าวถึงเวลาย่ำรุ่ง ทว่าแม่นางรำยังคงนอนหลับปุ๋ย ด้วยลมหายใจสม่ำเสมอและใบหน้างามยามผ่อนคลายชวนให้นายทหารที่นอนอยู่ข้าง ๆ มองได้ไม่มีหน่ายพิภพเลือกที่จะเอื้อมหยิบเอกสารบนโต๊ะข้าง ๆ มานั่งอ่านบนเตียงรอโฉมงามตื่น ด้วยว่าเขาเดี้ยงมาหนึ่งเดือนเต็มเจ้าปลื้มมันเลยส่งเอกสารขอบุคลากรเพิ่ม ซึ่งก็เคยส่งไปแล้วแต่ครั้งนี้เหตุผลคงจะหนักจริงเพราะอีกไม่กี่สัปดาห์พวกเขาจะได้คนจากค่ายประจำจังหวัดมาช่วยแบ่งเบาเนื่องจากเขาคงต้องอยู่พักฟื้นไปอีกพักใหญ่เขาอยู่เรือนนี้มานานพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แล้วก็รู้มาเพิ่มอีกอย่างหลังจากการนอนร่วมกับคนรักมาหลายคืนว่าคุณแก้วเป็นคนขี้เซา แม้จะนอนมาทั้งคืนก็ยังคงหาวระหว่างวันเป็นครั้งคราว ยิ่งตอนตื่นเจ้าตัวก็ไม่ค่อยอยากจะลุกออกจากเตียงเท่าไรนักชอบนอนคุดคู้ซุกตัวขดเป็นก้อนกลมที่หัวมุมเตียง เป็นภาพที่น่ารักไม่หยอกเชียว"คุณดินตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกผมล่ะครับ"ตรีศูลงัวเงียเปิดผ้าห่มขยี้ตามองนายทหารที่ตื่นเช้ามาก็ทำงานทันที"ผมเห็นคุณนอนหลับสบายเลยไม่กล้าป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๒๐ ข้าวใหม่ปลามัน (๑๐๐%)

    วันทั้งวันเขาทำงานไปยิ้มไป เพราะในระยะสายตาเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาจากแผ่นกระดาษก็มักจะเห็นคนรักร่ายรำอยู่เกือบจะตลอด อะไรมันจะดีไปกว่าการได้ดูมหรสพขนาดเล็กและนั่งจิบกาแฟอุ่น ๆ ไปด้วยพิภพในตอนเย็นที่จัดการงานส่วนของวันนี้เสร็จแล้วก็ลงมานั่งเล่นกับลูกสาว ซึ่งดูเหมือนลูกศิษย์เขาอย่างศรจะกลายเป็นที่รักแทนคนเป็นพ่ออย่างเขาไปเสียแล้ว อย่างที่คนเถ้าคนแก่บอกเอาไว้ว่าต้องรีบเก็บเกี่ยวช่วงเวลาวัยเด็กของลูกเอาไว้เพราะเมื่อโตขึ้นพวกเขาก็จะไม่สนใจแล้ว แต่ลูกสาวเขาพึ่งเข้าชั้นประถมได้ไม่นานเอง ทำไมถึงได้ติดเจ้าศรงอมแงมขนาดนี้พ่อทหารลงมานั่งขัดสมาธิรับลูกสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอด นั่งเล่นกันอยู่สักพักก่อนที่นพจะเดินมาบอกว่าอีกไม่นานจะพากันออกไปเดินตลาด'เขาว่าพวกทหารญี่ปุ่นมีของมาขายมีใครจะไปบ้าง'แน่นอนว่าเด็กหญิงขวัญย่อมสนอกสนใจยกมือไปเป็นคนแรก ก่อนจะตามด้วยคนในเรือน สรุปสุดท้ายคือไปกันหมดพิภพหยัดตัวลุกยืดเส้นยืดสายแล้วจะเดินตามคนอื่น ๆ ลงเรือน*แซก* เสียงใบไม้เสียดสีกันแว่วมาจากด้านในป่าข้างเรือนขณะที่ทุกอย่างเงียบสงัดไร้ซึ่งลมพัด ทว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๒๑ เบาะแสจากเสียงร้องอันแสนหวาน (๕๐%)

    "คุณหมอจ๊ะ ป้าทำขนมมาฝาก ขอบคุณที่ช่วยดูอาการสามีป้านะจ๊ะ""มันเป็นหน้าที่อยู่แล้ว...ครับ"หมอน้ำรับห่อใบตองมาด้วยความยินดีพร้อมส่งยิ้มการค้าไปให้หญิงวัยกลางคนที่มีสีหน้าเบิกบานใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะพูดอะไรต่ออีกนิดหน่อยตามประสาผู้หญิง นอกจากเจ้าหล่อนจะกล่าวขอบคุณที่เขาตรวจให้แบบไม่เสียเงินแล้วยังพูดถึงเรื่องพลทหารญี่ปุ่นที่บางครั้งก็ตั้งวงเหล้าพูดจาโหวกเหวกโวยวาย จึงมาฝากเขาให้ไปเตือนเสียหน่อยซึ่งไม่รู้ว่าทำไมพักนี้ถึงมีคนรับฝากหมายสารเขาเยอะเสียเหลือเกิน เขาดูเป็นมิตรขนาดนั้นเลยหรืออย่างไรอาซามิคิดพลางแง้มห่อใบตองดูขนมภายในจนกลิ่นหอมหวานของกะทิและน้ำตาลลอยขึ้นมาเตะจมูกก็ชวนให้นายแพทย์ที่คิดว่าจะเก็บสิ่งนี้เอาไว้ทานเป็นของหวานมื้อเที่ยงต้องคิดใหม่แล้วเลื่อนตารางเวลาขึ้นมากินมันเสียตอนนี้แทน ทว่าในขณะที่กำลังจะเปิดขนมก้อนนั้นขึ้นมากินทันใดนั้นเสียงของแขกผู้ไม่ได้รับเชิญก็โผล่พรวดขึ้นมาจากประตูหน้าห้อง"อรุณสวัสดิ์คร้าบหมอ ผมซื้อขนมมาฝากคร้าบ"คุณหมอจิ๊ปากกระตุกคิ้วไม่พอใจ กล้ามาขัดจังหวะความสุขเพียงไม่กี่อย่างของเขาเนี่ยนะ อาซาม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๒๑ เบาะแสจากเสียงร้องอันแสนหวาน (๑๐๐%)

    กลิ่นเขม่าควันฉุนจมูกและสายลมที่พัดพากลุ่มเพลิงภายในบ้านเด็กกำพร้าโหมกระหน่ำ คานไม้โทรมถล่มลงมาทับร่างของหญิงชราอันเป็นที่รักพร้อมกับเหล่าพี่น้องต่างสายเลือด มีเพียงเด็กตัวเล็กคนหนึ่งที่กระทำผิดกฎออกมาเล่นกลางดึกทว่ากลับต้องสลดเมื่อมาเห็นภาพความตายนับสิบ ฝ่ามือคู่น้อยอดทนต่อความร้อนดึงท่อนไม้ดำเมี่ยมออกในขณะที่เจ็บจนน้ำตาเล็ด สะเก็ดไฟที่ยังลุกกระเด็นโดนแขนบ้างหน้าขาบ้างทว่าเด็กชายยังไม่หยุด สุดท้ายทุกอย่างกลับไร้ประโยชน์ เหล่าคนที่รักได้กลายเป็นเถ้าธุลีไม่ต่างจากตอไม้อันใกล้ที่โดนลูกหลงเด็กชายทรุดนั่งมองเหล่าร่างไร้วิญญาณ ทั้งตัวชาหนึบไม่จนไม่อาจรู้สึกรู้สาอะไร ทว่ากลับมีสิ่งหนึ่งที่ติดตาเด็กชาย ร่างสูงใหญ่ของชายวัยกลางคนที่หัวเราะร่าพร้อมด้วยเงินถุงโตในมือและลูกน้องมากหน้าหลายตา ที่ไม่ทันได้สังเกตเด็กน้อย'เงินแค่นี้ก็พอจะให้ไอ้ดินมันแต่งเมียได้ล่ะวะ ฮ่า ๆ 'รอยสักอินทรีโอบพระจันทร์หลังคอ ลอนผมประกายครามสะท้อนผ่านแสงกองไฟที่ยังคงไม่มอดดี เสี้ยววินาทีนั้นเขาก็หาเป้าหมายของการใช้ชีวิตเจอคือการแก้แค้นไอ้ชั่วคนนั้นอย่างสาสมทว่ารู้อีกท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๒๒ รอยเท้าในป่า (๕๐%)

    ปลื้มเดินมายังเรือนนางรำในขณะท้องฟ้ายังคงเป็นสีครามเนื่องจากเลยเวลาย่ำรุ่งมาไม่นานนักมาถึงก็เจอเด็กหญิงวิ่งเล่นกับเจ้าศรอยู่ในสวนดอกเข็มข้างเรือน ด้วยนิสัยติดตัวไม่วายนายสิบอารมณ์ดีต้องเข้าไปทักทายวี้ดว้ายกับเด็กหญิงก่อนจะเห็นว่าร้อยเอกเดินลงมาจากเรือนด้วยชุดที่อยู่บ้านแบบสุด ๆเสื้อกล้ามบวกกับผ้าขาวม้าผูกอย่างง่าย ณ จุดจุดนี้หากจะบอกว่าเป็นเจ้าของเรือนเขาก็เชื่อเจ้าตัวเดินลงมาถามในเรื่องที่เขาออกปากว่าจะตามสืบให้ เมื่อเขาอธิบายเรื่องราวความสัมพันธ์อันดูวายป่วงระหว่างหมอกับทหารให้รุ่นพี่เจ้าฟังอีกคนก็ดูว่าจะมีท่าทีไม่ค่อยแปลกใจนักประหนึ่งว่าคาดคะเนอะไรบางอย่างมาก่อนแล้วเมื่อได้ความเขาจึงถูกดึงตัวมาดูยังหน้าทางเข้าป่า พิภพชี้ไปยังรอยเท้าที่ตอนนี้ค่อนข้างจาง ด้วยว่าเมื่อคืนฝนตกน้ำชะรอยไปบางส่วน แต่ก็ยังคงดูเป็นรูปเป็นร่างได้ว่ารอยนี้ต้องมาจากบูทไม่ก็คอมแบตของทหารด้วยกันเป็นแน่ โดยเมื่อคืนตัวพิภพเองยังคงสงสัยว่าต้นเสียงนั่นคืออะไร กลางดึกจึงแอบลงเรือนมาส่องตะเกียงดูจนเห็นรอยเท้านี่ปรากฏอยู่แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ของพวกเขาทั้งสองคนอย่างแน่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๒๒ รอยเท้าในป่า (๑๐๐%)

    พิภพกล่าวตัดบทก่อนจะเดินออกไป บานประตูไม้หนาถูกปิดลงอย่างไม่เบาแรงนัก ภายในห้องจึงเหลือเพียงตรีศูลที่ยังคงตามสถานการณ์ไม่ทัน นั่งสับสนอยู่ภายในห้องพร้อมกับผ้าพันแผลบริเวณข้อเท้าขวาเขาเข้าใจได้ว่าทำไมคุณดินถึงดูโกรธเขาแบบนั้น แต่ทว่าคุณดินพักนี้ในสายตาเขาดูผิดแผกไปชอบกล บางทีก็นั่งถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่คนเดียว ทอดสายตามองไปยังป่าข้างเรือนอยู่ตลอด และที่สำคัญคืออารมณ์ เขาคิดว่าบางทีอาจเป็นเพราะภาระงานที่เจ้าตัวแบกอยู่ บางครั้งก็สุขุมทว่ากลับมีบางครั้งที่แสดงอาการฉุนเฉียวนางรำหนุ่มพรั่งพรูลมหายใจออกมาพลางมองลงไปยังฝ่าเท้าบนก้อนผ้านุ่มอย่างไรเสีย สิ่งนี้คงจะเป็นเพียงปัญหาชีวิตคู่อย่างที่คนอื่น ๆ อาจเป็น เขาแค่ต้องเปิดอกคุยกันมันก็เท่านั้น อย่าทำเหมือนนี่เป็นเรื่องใหญ่เลยตรีศูล. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .ภาพตรงหน้าของเขาว่างเปล่า บรรยากาศปกคลุมไปด้วยความมืดประหนึ่งว่าเปลือกตาเขากำลังปิดอยู่ ร่างกายเบาโหวงหวิวไร้ความรู้สึกคล้ายห้วงฝัน สัม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๒๓ คุณดินแปลกไป (๕๐%)

    "โห่ อาจารย์อย่างน้อยก็ช่วยผมสักนิดได้ไหม ไม่ต้องทำท่าให้ดูก็ได้"นพเก้างอแงอยู่กลางเรือนเมื่อเจ้าของคณะสั่งให้เขาเป็นคนนำเด็ก ๆ ในการแสดงที่ใกล้เข้ามานี้เพียงตัวคนเดียวโดยปกติแล้วก็จะเป็นอาจารย์ที่คิดท่าแปรแถวให้แต่นี่เขาต้องทำเองตั้งแต่ต้นจนจบแค่คิดนพก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว อุตส่าห์หาข้ออ้างหน่วงเวลาไปเรียนที่พระนครได้แล้วเชียว!แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อจู่ ๆ ข้อเท้าของอาจารย์ก็เป็นแบบนั้น...ตรีศูลนั่งมองเจ้าเด็กขี้เกียจตีโพยตีพาย ทว่าเขารู้ดีว่าศิษย์เอกต้องทำออกมาได้อย่างแน่นอนเสียงบ่นง่องแง่งของนพยังคงดังเป็นพัก ๆ ในขณะที่ตัวแม่นางรำกำลังนั่งเด็ดกลีบกุหลาบอยู่ ณ โต๊ะรับแขกเตรียมจะทำน้ำอบที่ใกล้หมดเต็มที แน่นอนว่าต้องมีพ่อทหารนั่งทำงานอยู่ข้าง ๆ เมื่อสายตาทอดมองไปยังชานเรือนตรงหน้าเห็นเด็กเล็กเด็กใหญ่นั่งจับกลุ่มพูดคุยกันระหว่างพักซ้อมเป็นที่เพลินตาสำหรับผู้ใหญ่ทั้งสองยิ่งแม้ข้อเท้าของเขาจะฟื้นตัวขึ้นมาบ้างจนสามารถทำกิจวัตรตามปกติได้พอสมควรแล้วแต่คุณดินก็ยังเป็นห่วงรบเร้าให้เขาอยู่ในสายตาตลอดเพราะเกรงว่าจะเป็นอะไรไปอีก'

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๒๓ คุณดินแปลกไป (๑๐๐%)

    ปลื้มรีบวิ่งตามหาร้อยตาลีตาเหลือก แม้จะคิดว่าด้วยความสามารถของอีกฝ่ายคงจะไม่เป็นไรแต่ก็นึกเป็นห่วงไม่ได้ นายสิบตามหาจนมาหยุดอยู่บริเวณหลังอาคาร เมื่อก้มหน้าหอบหายใจก็เห็นรอยเท้าย่ำทับกันไปมาอยู่หน้าทางเดินเข้าพงหญ้าจนคล้ายว่าตรงนี้จะมีการต่อสู้เกิดขึ้น เขาจึงตัดสินใจรีบวิ่งตามเข้าไป แล้วเมื่อคิดดี ๆ หากเดินลัดเลาะตามป่านี้ไปจนสุดทางมีความเป็นไปได้ว่าจะไปโผล่ที่หลังเรือนนางรำปลื้มวิเคราะห์สถานการณ์ประกอบกับสาวเท้าวิ่งด้วยความรวดเร็ว เมื่อเข้าไปลึกพอสมควรปลื้มก็ได้ยินเสียงแว่วมา เดินไปเรื่อย ๆ ก็ได้เห็นภาพอยู่ไกล ๆ ว่ามีกลุ่มคนกำลังตะลุมบอนกันอยู่*พลั่ก!* ทันใดนั้นก็มีแรงหมัดกระแทกเข้าที่ขมับข้างขวาของเขาอย่างจังจนผิวแตก เมื่อรีบตั้งสติมองก็เห็นว่าเป็นทหารญี่ปุ่นจำนวนสองคนก็ทำเอาเขาอารมณ์เสีย โถ่เว้ย ทำไมต้องเวลานี้ด้วยวะ เสียเวลาฉิบเป๋งด้วยกายหยาบที่มีขนาดต่างกันกว่าเขาจะล้มพวกมันได้ก็กินเวลาพอสมควร เป็นที่แน่นอนว่าเมื่อเขามาถึงตำแหน่งนั้นหัวหน้าเขาก็เก็บกวาดพวกมันลงไปนอนกับพื้นแล้วเรียบร้อย แม้จะดูสะบักสะบอมไปบ้างแต่การเอาชนะทหารที่รูปร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16

บทล่าสุด

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๗ เริ่มต้น (จบบริบูรณ์) (๕๐%)

    แม้ยามนี้อาทิตย์จะยังไม่ขึ้น ท้องฟ้ายังคงเป็นสีขาบดำ บรรยากาศรอบข้างเย็นสบายเนื่องด้วยไอความหนาวที่โชยพัดเข้ามาผ่านช่องหน้าต่างที่ถูกเปิดเอาไว้สำหรับระบายอากาศ ริ้วมุ้งบางปลิวอย่างเชื่องช้าก่อนจะถูกมือคู่สวยรวบมัดเข้ากับเสาเรียบร้อยตรีศูลในเสื้อคอปกแข็งสีขาวสะอาดกางเกงสีดำครามและเข็มขัดเข้าเอวจัดแจงผ้าโปร่งให้เข้าทีก่อนจะหย่อนกายนั่งอยู่ขอบเตียง พินิจมองเจ้าของบ้านหลังเก่าแก่อย่างนึกสนุก มือคู่บางจากที่เอาไว้ค้ำยันตัวกับผืนผ้ากลับค่อย ๆ ยื่นปลายนิ้วไปแตะยังปลายจมูกของพ่อทหารที่ยังคงนอนหลับไม่รู้เรื่อง ทันใดนั้นหว่างคิ้วก็ย่นเข้าหากันเป็นที่ขบขันแก่แม่นางรำ คนเด็กกว่าจึงถือโอกาสอีกครั้งโดยการเคลื่อนร่างไปนั่งบนเตียงอย่างเต็มตัว และจึงเมียงมองหาจุดน่าแกล้งต่อ"อ๊ะ!"ไม่ทันจะได้เล่นต่อแขนก็ถูกดึงไปข้างหน้าพร้อมกับน้ำหนักที่มากดเอวเอาไว้ ลืมตาขึ้นมาอีกทีตรีศูลจึงรู้ว่าตัวเองได้คร่อมพ่อทหารเสียแล้ว"ซนจังเลยเรา"พิภพกล่าวอย่างคนพึ่งตื่น เขาก็คิดอยู่ว่าแมวตัวไหนมาเอาอุ้งมือจิ้มหน้าที่แท้ก็เป็นแม่แมวนี่เอง นายทหารยกยิ้มก่อนจะหยัดตัวขึ้นโดยท

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๖ แก้วตาพาเที่ยว (๑๐๐%)

    ทั้งสองมาขึ้นรถราง นั่งรอผู้โดยสารคนอื่นขึ้นจนครบไม่นานรถก็เคลื่อนตัวไปข้างหน้า ทีแรกพ่อทหารกะจะกลับไปนอนบ้านด้วยตัวเองแล้วค่อยตื่นมารับคนรักในวันรุ่งขึ้นทว่าด้วยสายตาอันเว้าวอนของนางรำตัวน้อยเขาจึงตอบตกลงที่จะมานอนค้างแรมอยู่ที่'บ้านใหญ่'ของเจ้าตัวหนึ่งคืนแทนทว่าเมื่อถึงเขาก็ต้องหน้าเหวอ เขาทราบดีจากเรื่องที่แม่นางรำเคยเล่าให้ฟังแล้วว่าเจ้าตัวมาจากบ้านที่มีกินมีใช้ แต่ไม่คิดว่ามันจะมากมายขนาดนี้ พิภพยิ่งเดินเข้าไปก็ยิ่งอึ้งสวนเอยน้ำพุเอยมันชวนให้เขานึกถึงเรื่องราวในละครอย่างไรอย่างนั้น"พี่ตรีกลับมาแล้วเหรอครับ"เสียงสดใสของเด็กหนุ่มที่กำลังช่วยคุณลุงคนสวนเล็มพุ่มไม้แว่วมา เสียงรองเท้าหนังเนื้อดีกระทบพื้นปูนเรียบเป็นจังหวะ อดิศรในเสื้อคอปกลายทางกางเกงขาสั้นวิ่งมาต้อนรับพร้อมยกมือสวัสดีอดีตครูฝึก ใบหน้าผ่องใส เครื่องแต่งกายอันมีราคาชวนให้พิภพสงสัยว่า ถ้าเอ็งรวยขนาดนี้แล้วจะมาสมัครเป็นทหารเพื่อ!?เดินเข้ามาภายในแน่นอนว่าถูกต้อนรับเป็นอย่างดี แม้จะบอกว่าเขาเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บเองได้แต่เหล่าคนใช้ในบ้านก็อาสาจนเขาปฏิเสธไม่ได้"คุณดิน ใช่

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๖ แก้วตาพาเที่ยว (๕๐%)

    "แก้ว รู้อะไรเกี่ยวกับเพื่อนเราบ้างหรือเปล่า?"พิภพถามเนื่องจากเขาเพียงมองแวบแรกก็รู้ได้แล้วว่าเจ้าเพื่อนสนิทมันคิดไม่ซื่อ ทว่าดูเหมือนแม่คนงามดูจะพูดคุยสนิทชิดเชื้ออย่างไม่มีตงิดใจถึงเรื่องนี้เลยสักนิด"รู้อะไรเหรอครับ" ตรีศูลฉงนสงสัยไม่เข้าใจ"รู้ไหมว่าเพื่อนคนนั้นเขาชอบเราอยู่"พิภพก้มลงกระซิบในขณะที่เดินถือกระเป๋าเดินออกจากสถานีใหญ่ ชวนให้แม่นางรำขำก๊ากกับสิ่งที่คนรักขี้หึงกำลังคิดอยู่"ฮ่า ๆ ไม่หรอกครับ อย่างมันน่ะเหรอจะมาชอบผม""ชะล่าใจเกินไปแล้ว"พิภพกล่าวออกมาอย่างหน่ายใจ ปล่อยให้โฉมงามไม่รู้เช่นนี้ก็ดี ดูจากสภาพการณ์พ่อหนุ่มคนนั้นหลังจากที่เห็นเขาแล้วดูจะเกร็ง ๆ กับแก้วขึ้นมาทันควัน ไม่มีทางข้ามเส้นไปได้มากกว่าสถานะเพื่อนหรอก"พี่ครับ""หือ?"พิภพหันไปสบตาแม่นางรำ ก่อนที่เมื่อถึงมุมอับลับตาคนตรีศูลจะเขย่งปลายเท้าขึ้นไปให้ริมฝีปากใกล้ใบหูของพ่อทหารมากที่สุดแล้วจึงกล่าว"ถึงด้วงมันจะชอบผมจริง แต่ยังไงผมก็รักพี่ดินคนเดียวนะครับ"คนในชุดสีขาวสะอาดกลับมายืนเต็มตามความสูง ยกยิ้มตาหยี

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๕ พ่อมาเยือน (๑๐๐%)

    พิภพที่ได้เปิดจดหมายน้อยขึ้นมาอ่านแทบจะสำลักความน่ารักที่ล้นทะลักออกมาจากหน้ากระดาษ เขากำลังเก็บข้าวของเตรียมจะไปขึ้นรถไฟเย็นนี้บุรุษไปรษณีย์ก็มาส่งจดหมาย ทีแรกเขาคิดว่าจะมาส่งไม่ทัน หรือไม่มันอาจจะจบที่ฉบับแรกฉบับเดียวเสียด้วยซ้ำ ทว่าพอได้มาเห็นแบบนี้ก็อยากจะรีบวิ่งข้ามจังหวัดไปหาคนรักโดยพลัน คนอะไรแค่บรรยายเรื่องราวผ่านตัวหนังสือยังน่ารักน่าชังได้ถึงขนาดนี้พิภพค่อย ๆ จับกระดาษแผ่นยาวพับกลับคืนรูปเดิมเก็บกลับเข้าซองอย่างทะนุถนอม ก่อนจะนำไปรวมอยู่ในซองสีน้ำตาลซึ่งเต็มไปด้วยจดหมายฉบับเก่า ๆ ที่เขาเคยได้รับมาจากโฉมงาม ไม่น่าเชื่อว่าบางฉบับยังคงมีกลิ่นหอมน้ำอบดอกไม้โชยขึ้นมาแตะจมูกหรือเพราะเขาเก็บพวกมันในที่มิดชิดกันแน่พ่อทหารคิดไปยิ้มไปพลางพับเสื้อผ้าที่มีอยู่อย่างน้อยนิดลงกระเป๋าเดินทาง*แกร๊ก* เสียงโลหะเส้นเล็กหล่นลงกระทบพื้นไม้เมื่อเขาสะบัดกางเกงสีเขียวแก่ประจำตำแหน่ง เมื่อมองดูจึงเห็นเป็น'สายคล้องแว่น'ที่เขาซื้อมันมาตั้งแต่ต้นปีทว่ากลับไม่มีโอกาสได้ให้แม่นางรำเพราะดันเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเสียก่อนพิภพหยิบมันขึ้นมามอง เขาตั้งใจจะให้มันเป็

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๕ พ่อมาเยือน (๕๐%)

    เรือนนางรำ๔ เมษายน ๒๔๘๕ถึง แก้วทีแรกพี่เป็นห่วงกลัวว่าเราจะเป็นอะไรไปเพราะจดหมายส่งถึงช้ามาก แต่ก็ดีแล้วที่แก้วปลอดภัยถ้าเราเป็นอะไรไปอีกพี่คงไปหาทันทีไม่ได้เรื่องออกกำลังกายที่พระนครคงไม่ค่อยถนัดนัก ถนนเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเปิดให้คนเดินกันแล้วเพราะมีแต่รถวิ่ง ไว้เดี๋ยวพี่กลับไปสอนเรานะครับพระนครก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ ขนาดพี่ที่อยู่มาตลอดก่อนจะมาชุมพรข้าวของแทบจะเปลี่ยนรายปี ไวมากจริง ๆ จนเกือบตามไม่ทัน ส่วนห้างห้างนั้นคงจะเป็นไนติงเกลใช่ไหมครับ มันเปิดมาได้เกือบสิบปีแล้ว แต่ยังมีคนเข้าไปซื้อของกันอยู่เลย พี่ไม่เคยไปเป็นการส่วนตัว เพราะส่วนมากจะเป็นผู้หญิงเดินเข้าไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ พี่เป็นผู้ชายเข้าไปคนเดียวคงรู้สึกแปลกพิกล แต่ถ้าไปกับแก้วก็อีกเรื่องนะครับแม่นมนี่เป็นคนอย่างไรเหรอ ถ้าเป็นแบบตาเทิดตาไฮ้พี่คงต้องเตรียมหมวกกันกระสุนไปด้วย ส่วนเรื่องแต่งตัวถ้าพี่ใส่ชุดทหารไปนี่จะหล่อถูกใจเราไหมครับถ้าวิทยาลัยของเด็ก ๆ ห่างกับเราแบบนี้คงเจอกันยาก แก้วจะไม่

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๔ เพื่อนเก่า (๑๐๐%)

    เมื่อเช้าวันรุ่งขึ้นมาถึง เป็นป้าทูลที่มาเคาะปลุกพร้อมนำเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้ แม้หญิงเจ้าจะบอกว่าเป็นเสื้อที่กะวัดด้วยสายตาแต่มันกลับพอดีตัวอย่างน่าเหลือเชื่อ เขาชักจะแปลกใจขึ้นทุกทีเมื่อได้เห็นบริการอันเกินจินตนาการของคนงานบ้านนี้ตรีศูลวันนี้นัดเพื่อนเก่าเอาไว้ที่สถานี ทีแรกเขากะจะไปเองเพราะเมื่อวานก็พอจำทางได้แล้วแต่คุณลุงคนขับที่ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเดินออกจากเขตบ้านก็ส่งสายตาวิบวับเป็นประกาย"ให้ผมไปส่งคุณหนูนะครับ""ไม่เป็น-"รับทราบครับ เดี๋ยวผมจะรีบไปเตรียมรถรบกวนรอสักครู่นะครับ"ไม่ทันที่ตรีศูลจะได้ปราม คุณลุงก็วิ่งแจ้นออกไปยังลานจอดโดยทิ้งเขาไว้แต่เพียงผู้เดียว บรรยากาศแบบนี้ชวนให้นึกไปถึงมื้อเช้าที่หากคนใช้ทั้งหลายป้อนได้คงจับช้อนป้อนแล้ว'คุณหนูทานนี่สิคะ ป้าทำเองกับมือ''คุณหนูรับขนมเพิ่มไหมคะ กว่าจะไปถึงสถานีคงหิวแย่''คุณหนูจะไปเจอเพื่อนเก่าเหรอคะ มานี่มาเดี๋ยวยายทำผมให้'โดยเหตุการณ์ข้างต้นเจ้าศรก็โดนไม่ต่างกัน ด้วยนิสัยอันสงบเสงี่ยมน่ารักน่าเอ็นดูมาแต่เด็กแม้จะไม่ใช่ทายาทต

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๔ เพื่อนเก่า (๕๐%)

    ร่างสูงสันทัดก้าวเดินด้วยความมั่นคงไปตามพื้นกระเบื้องเงา เสียงรองเท้าหนังเคาะเป็นจังหวะกระชับตามวิถีก้าวอันรวดเร็ว แม้จะเป็นเวลาเช้ามืดนอกจากผู้มารอรถแล้ว จำนวนพนักงานยังคงบางตา คนในชุดกากีพร้อมหมวกหม้อน้ำตาลหย่อนกายนั่งบนเก้าอี้กลมแววตาคมคร้ามจ้องมองไปยังทางรถไฟอย่างเหม่อลอย เขามักจะมาก่อนใครและกลับเป็นคนสุดท้ายเสมอ"ไอ้ด้วง มาเช้าอีกแล้วนะเอ็ง พักบ้างก็ได้ ฮ่า ๆ "เพื่อนคนสนิทเดินเข้ามาคล้องคอชิดเชื้อถูไถหน้าไปมา"เอ็งอย่ามาจับน่า รำคาญ""กะจะเก็บไว้ให้เมียจับอย่างเดียวเลยสิ!""เมียอะไรไอ้แผน กูไม่คิดจะมี"เจ้าของชื่อทำหน้ามุ่ย นั่งยองลงกับพื้นเงยหน้าสบตาพ่อหนุ่มหน้ายักษ์ นับตั้งแต่รู้จักการตอนเป็นพนักงานฝ่ายปฏิบัติก็ไม่เห็นเจ้าตัวจะใฝ่รักหญิงสักคน ทั้ง ๆ ที่มันเองก็ใช่ว่าจะไม่มีสาวมาวอแว"แล้วคนที่เอ็งรอเขากลับมาอยู่เนี่ย ไม่ได้กะจะเอามาทำเมียรึ?""เงียบได้แล้ว คนอื่นเขามอง""แหม เนียนเลยนะ"แผนลากเสียงยาวยกมือป้องปากแซะแซวเพื่อนขี้เก๊กด้วงบ่ายเบี่ยงไม่ตอบ เบนหน้าเมินสายตาของเพื่อนร่วมงานท

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๓ ไอ้เสือตรอมใจ (๑๐๐%)

    "หลานไปก่อนนะจ๊ะตา"ตรีศูลเดินลงมาหาตาเทิดตาไฮ้ที่อาสารับหน้าที่ดูแลเรือนตลอดการไปศึกษาของเจ้าของคณะ"เอ้อ ๆ ไปดีมาดีล่ะ" ตาเทิดรับไหว้หลาน"อย่าไปนอกใจไอ้เสือมันล่ะ ฮ่า ๆ เดี๋ยวได้โดนมันจับขังอีกหรอก""ตาละก็!"ตาไฮ้แซะแซวหลานสุดที่รัก พวกเขาไปได้ยินเรื่องวีรกรรมของเจ้าหลานเขยคนนี้มาแล้วเป็นที่เรียบร้อยตรีศูลได้ยินก็ยิ่งอายเขาจะไปทำอย่างนั้นได้อย่างไรเล่า แม่นางรำโกรธพิดพัดกอดอกไม่พอใจเป็นที่ขบขันแก่สองตาช่างแกล้ง ส่วนอดิศรที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เป็นที่เอ็นดูไม่แพ้กัน เห็นสงบเสงี่ยมแบบนี้เจ้าศรเองก็สนิทกับสองตาพอสมควร"ไว้ผมจะกลับมาหานะครับ"เด็กชายกล่าว แม้เขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในคณะเหมือนพี่ชาย แต่อย่างไรที่แห่งนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในความทรงจำที่เขาจะไม่มีวันลืมพี่น้องทั้งสองเมื่อกล่าวลาผู้อาวุโสเสร็จจึงเดินไปยังประตูรั้วหน้าเรือนที่ถูกเปิดเตรียมเอาไว้ ตรีศูลเงยมองหน้าพ่อทหารที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว"รีบไปเถอะครับ ป่านนี้นพคงบ่นแล้ว"คุณครูนาฏศิลป์คำนึงถึงลูกศิษย์ตัวเองที่ขี้โวยวายเป็นที่หนึ่ง พร้อมก

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทที่ ๓๓ ไอ้เสือตรอมใจ (๕๐%)

    วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีแน่นอนว่าหากเป็นวันในสัปดาห์เช่นนี้พิภพจำต้องออกไปทำงาน ทว่านั่นหาใช่ประเด็นไม่ เพราะเย็นวันนี้เป็นวันที่เขาจะต้องไปส่งคนรักขึ้นรถไฟพร้อมกับเด็ก ๆพิภพนั่งตวัดข้อมือร่างเอกสารไปอย่างเหม่อลอย เพียงคิดภาพที่ต้องไกลห่าง ความรู้สึกคิดถึงก็ผุดขึ้นมาเสียแล้ว ตลอดหนึ่งถึงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาตื่นเต้นในทุกเย็นหลังเวลาเลิกงานเมื่อรู้ว่าจะได้กลับไปสอนหนังสือแม่นางรำ ดังนั้นช่วงเวลางานในหัวเขากลับเอาแต่คิดแต่วิธีการสอน ไม่ก็มัวแต่จดจ่อกับการตระเตรียมเอกสารการเรียนให้แก้วจนบางครั้งเกือบไม่เป็นอันทำงานเพราะหากเจ้าตัวสอบติดวิทยาลัยพระนครหมายความว่าแก้วจะได้เป็นฝ่ายมาอยู่บ้านของเขา ซึ่งนับเป็นหนึ่งในเรื่องที่เขาอดใจรอแทบไม่ไหวเช่นกัน มันจะดีสักแค่ไหนกันเชียวหากได้เห็นโฉมงามเดินทำกิจภายในบ้านตนเอง"เหม่ออีกแล้วนะครับ"ปลื้มที่เดินเอารายงานมาให้ตรวจทักขึ้น ไม่รู้ทำไมช่วงนี้รุ่นพี่เขาถึงจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเช่นนี้ แต่คงจะเป็นเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ตามเคย ไม่น่าเชื่อว่าคนเราจะสามารถเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้"มีเรื่อง

DMCA.com Protection Status