ตอนที่สอง
ยอดหญิงเซียนพิณผีผา
แสงสีขาวสว่างจ้าจนต้องหลับตาก่อนหูจะได้ยินเสียงดนตรีเครื่องสายบรรเลงอย่างไพเราะ เมื่อฟ้าลืมตาขึ้นพบแสงวับแววจากเทียนไขซึ่งจุดจนสว่างไปทั่วบริเวณพาให้หญิงสาวตื่นตะลึงยืนอึ้งอยู่กับที่
ที่นี่คือที่ไหนกัน?
สำนักงานของเธอมีห้องแบบนี้ด้วยหรือ?
สาวใหญ่ยังไม่ทันได้สอดส่องให้ถ้วนทั่วก็ถูกมือเล็กคู่หนึ่งดึงรั้งจากด้านหลังแล้วลากให้เดินตามไปโดยเร็ว
“เฟยเฟย เหตุใดมาหลบอยู่ตรงนี้ เหล่าคุณชายถามหาเจ้ากันให้จ้าละหวั่น มาเร็วเข้า ผู้คนรอฟังเสียงพิณผีผาอันชวนหลงใหลจนส่งเสียงโหวกเหวกวุ่นวายสนั่นห้องโถงแล้ว” เสียงบ่นพร่ำพลางจูงมือน้อยลัดเลาะหลบหลีกมาถึงด้านหลังเวทีซึ่งมีผ้าม่านกั้นอย่างเป็นสัดส่วน
ฟ้ายังคงมึนงงกับสถานการณ์ตรงหน้าจึงยืนนิ่งเฉยพาให้มือเล็กคู่เดิมเอื้อมมาแตะตรงหน้าผาก
“เจ้าไม่สบายหรือ เหตุใดทำสีหน้าเช่นนั้น ไปนั่งพักที่ด้านข้างก่อนดีกว่า ข้าจะบอกแม่เล้าใหญ่ให้จัดคนออกร่ายรำไปพลางๆ” ร่างเล็กผลุนผลันออกไปทิ้งให้หัวหน้างานสาวใหญ่นั่งงุนงงอยู่คนเดียว
หญิงสาวมองสำรวจไปโดยรอบ เมื่อเห็นบรรดาสาวงามแต่งกายด้วยชุดกรีดกรายแต่ทว่าเบาบางเห็นส่วนสัดวับแวมเดินเยื้องย่างไปมาจึงอดตกใจไม่ได้
ทำไมคนที่นี่แต่งตัวแปลกจัง
เมื่อก้มลงมองร่างกายของตนเอง สาวใหญ่ถึงกับสะดุ้งโหยงผุดลุกขึ้นยืนลูบไล้ไปทั่วร่างกายอันไม่คุ้นเคย
เฮ้ย!...นี่ตัวเธอหรือ
ฟ้าหันซ้ายมองขวา เมื่อเห็นวัสดุทรงกลมซึ่งพอจะสะท้อนเงาได้จึงพุ่งเข้าไปหยิบฉวยมาส่องใบหน้าและเรือนร่าง
“ไม่จริง ไม่จริงใช่ไหม”
ใบหน้าขาวผ่องเย้ายวนตาอีกทั้งเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นคาดคะเนได้ว่าอยู่ในวัยไม่เกิน20ปีซึ่งสะท้อนออกมาเรียกสีหน้าตื่นตะลึงจากหัวหน้างานสาวโสด
เธอไม่ใช่คนสวยอีกทั้งอายุ40กว่าแล้ว ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเป็นอีกคนในชั่วพริบตาแบบนี้
หรือว่านี่คือความฝัน ต้องใช่แน่ๆ
อย่าบอกนะว่าเธอฝันซ้อนฝัน
หัวหน้างานสาวพยักหน้าให้กับการคาดคะเนของตนเองพลางมองไปรอบข้างอีกครั้ง
ที่นี่สวยจัง คึกคัก น่าสนุก
อย่างน้อยก็ดีกว่าฝันว่าไปแอบดูคนอื่นกำลังร่วมรักกัน
ว่าแต่...เธอต้องทำอย่างไรต่อไปล่ะ
ฟ้าทรุดนั่งสงบสติแล้วหลับตาคิดทบทวนตามความเคยชินของหัวหน้างานเมื่อยามต้องเผชิญปัญหา
ทันทีที่ความมืดมิดเข้าครอบงำ ความทรงจำของร่างงามก็หลั่งไหลเข้ามาดั่งสายน้ำหลาก
‘ฮัวเฟยฮวา’
ยอดหญิงเซียนพิณผีผาซึ่งมีพลังในการแสดงสูงส่ง สามารถบรรเลงดีดเส้นเสียงดังก้องกังวานได้ทั้งคืน
อดีตสาวใหญ่หัวหน้างานลืมตาเด้งร่างขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก
เดี๋ยวนะ ‘ฮัวเฟยฮวา’ นี่ไม่ใช่ชื่อเดียวกับที่ชายหนุ่มหญิงสาวคู่นั้นซึ่งกำลังตอกกระหน่ำกันอย่างถึงพริกถึงขิงพูดถึงอยู่หรือ
เซียนพิณผีผา?
หญิงสาวเหลียวมองไปยังเครื่องดนตรีที่มีลำตัวยาวรีคล้ายลูกสาลี่ผ่าซีกซึ่งวางอยู่บนโต๊ะด้านข้าง
นี่เรียกว่าพิณผีผาหรือ?
มือเรียวขาวเอื้อมไปหยิบพิณผีผามาวางไว้บนตัก ใช้มือซ้ายประคองไว้และแตะนิ้วมือข้างขวาไล่ไปตามสายอย่างคุ้นชินราวนี่คือสิ่งที่เธอใช้อยู่เป็นประจำ
หญิงสาวร่างเล็กซึ่งเป็นคนแรกที่พบเจอเดินเร็วเข้ามาอีกครั้ง เมื่อเห็นสาวงามหยิบผีผาขึ้นมาแล้วจึงมีรอยยิ้มโล่งใจ
“เฟยเฟย เจ้าดีขึ้นแล้วหรือ เช่นนั้นเตรียมตัวเถอะ”
เตรียมตัว?
หมายความว่าจะให้เธอเล่นเครื่องดนตรีชนิดนี้หรือ จะได้อย่างไรกัน
เด็กสาวเข้ามาช่วยหยิบคันทวนและเล็บเทียมขึ้นมาแล้วจูงร่างงามให้เดินตามไปยืนรออยู่ที่หลังผ้าม่านทึบ
ฟ้าหรือขณะนี้คือฮัวเฟยฮวายังคงมีท่าทางอิดออดคล้ายลังเลใจจนผิดสังเกต
“เจ้าเป็นอันใดไป หากไม่ไหวก็เร่งบอกมาข้าจะได้รีบไปแจ้งแม่เล้าใหญ่ หรือจะบรรเลงสักไม่กี่บทเพลงแล้วรีบลงมา” เด็กสาวซึ่งยืนอยู่ด้านข้างละล้าละลัง
ฮัวเฟยฮวายังไม่ทันตอบคำถาม เสียงปรบมือและโห่ร้องเรียกชื่อก็ดังสนั่นกึกก้องจนแสบแก้วหูทันทีที่สิ้นเสียงประกาศเปิดการแสดงของเซียนพิณผีผาฮัวเฟยฮวา
“เฟยเฟย เฟยเฟย เฟยเฟย”
น่าแปลกที่บัดนี้นางกลับไม่รู้สึกแตกตื่นหรือลนลานอย่างที่คาดราวกับสิ่งนี้คือเรื่องที่คุ้นเคย
ฮัวเฟยฮวาตัดสินใจย่างก้าวอ่อนช้อยด้วยลีลาเย้ายวนไปยังเก้าอี้กลางเวที ใบหน้างดงามแย้มยิ้มเล็กน้อยคล้ายเชิญชวนอยู่ในทีขณะนิ้วเรียวผ่องซึ่งสวมเล็บปลอมเริ่มดีดกดเปลี่ยนระดับเสียงเพื่อบรรเลงบทเพลงอันมีชื่อเสียงแห่งยุค
เสียงเพลงอันน่าทึ่งสะกดผู้คนให้เคลิบเคลิ้มราวอยู่ในห้วงฝัน ยิ่งบวกกับท่วงท่าอันสูงส่งกับหน้าตาน่าทะนุถนอมชวนให้เหล่าชายหนุ่มต่างพร่ำเพ้อถึงสาวงามด้วยไม่อาจจับต้อง
ฮัวเฟยฮวาบรรเลงบทเพลงขับกล่อมเพลงแล้วเพลงเล่าอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อยด้วยรอยยิ้มที่ได้สร้างเสียงแห่งความสุขแก่แขกเหรื่อในสำนักเริงรมย์แห่งนี้
ฟ้าในร่างของสาวงามกลมกลืนไปกับท่วงท่าลีลาที่แสดงออกมาจนแทบลืมไปว่ากำลังอยู่ในร่างของผู้อื่น
ในขณะบรรเลงเสียงเพลงหญิงสาวก็ลอบมองสังเกตท่าทีของผู้คนรายล้อมไปด้วยพร้อมกัน
“นับวันน้องเฟยเฟยยิ่งบรรเลงเพลงได้ไพเราะจับใจ น่าเสียดายที่ข้าไม่มีโอกาสได้เอื้อมถึงนาง”
“ได้ฟังบทเพลงของนางก็ควรพอใจแล้ว ยังคิดจะแตะต้องนางอีกหรือ ขนาดขุนนางตำแหน่งสูงตั้งหลายคน นางยังไม่เหลือบแล”
“นั่นสิ เจ้าก็รู้ว่านางเป็นหนึ่งในอี้จี้ตัวเด่นของที่นี่ซึ่งขายเพียงศิลปะและความบันเทิง ไม่ขายเรือนร่าง หากเจ้าทนไม่ไหวก็ออกไปหาเซ่อจี้ที่ยืนถือพัดอยู่ด้านนอกนั่น หรือจะเรียกแม่เล้ามาจัดหาให้สักคนก็ย่อมได้”
“อย่ามัวพูดมากกันอยู่ ข้าจะฟังบทเพลงอันไพเราะ ดูสิ นางขึ้นเพลงใหม่แล้ว เพลงนี้ช่างเร่าร้อนยิ่งนัก”
ตอนที่สาม ข้าคือฮัวเฟยฮวาอี้จี้หรือ? ฮัวเฟยฮวาทบทวนความจำของร่างงามจนได้ความว่านางเคยเป็นบุตรสาวขุนนางต้องโทษและถูกขายมาเป็นคณิกาของสำนักเริงรมย์หอเหลียงฮัวแห่งนี้ตั้งแต่หลายปีมาแล้วด้วยผิวกายขาวผ่อง ใบหน้าผุดผาดและเรือนร่างอันชวนหลงใหลบวกกับฝีมือการบรรเลงผีผาจึงได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในอี้จี้ดาวเด่นซึ่งไม่ต้องรับแขกทั่วไป แต่คำกล่าวที่ว่า'ขายเพียงศิลปะไม่ขายเรือนร่าง' หรือจะเป็นเรื่องจริง นั่นเป็นเพียงคำอ้างเพื่อบอกปัดชายผู้ไม่มีเงินทองและอำนาจยศศักดิ์ต่างหากถึงอย่างไรหอเหลียงฮัวก็เป็นหอคณิกา ดังนั้นหญิงสาวอย่างฮัวเฟยฮวาจึงไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องมาตั้งแต่อายุ15แล้ว เพียงแค่สามารถเลือกแขกที่พึงใจและไม่ต้องใช้ช่องทางสีหวานอย่างสิ้นเปลือง ถึงไม่อยากยินยอมแต่เพื่อความอยู่รอดของตนเองและหอเหลียงฮัว เหล่าชายผู้มีอำนาจซึ่งล้วนเอาแต่ใจหรือจะปล่อยให้ หญิงสาวผู้มีความเย้ายวนอย่างฮัวเฟยฮวาหลุดรอดจากเงื้อมมือไปได้ โชคดีที่นางยังไม่ต้องรับแขกมากหน้าหลายตาจึงยังคงความเป็นที่สนิทเสน่หามาได้หลายปี เมื่อหันไปมองบรรดาหญิงสาวซึ่งถูกเรียกว่าเซ่อจี้ พวก
ฮัวเฟยฮวานั่งลงยิ้มแย้มรินสุราให้แก่คุณชายติงอย่างอ่อนช้อย นางเอาอกเอาใจพวกเขาอีกทั้งยังเออออไปกับทุกเรื่องที่พูดคุยโดยไม่ขัดเขินสร้างความพอใจจนได้รับก้อนทองเป็นของกำนัลอย่างโอ้อวดความร่ำรวยโอ้...แค่นั่งคุยไม่นานก็ได้ทองคำเป็นก้อน สตรีที่นี่ช่างร่ำรวยเสียจริง เรื่องที่พวกเขาพูดคุยกันแม้จะน่าเบื่อไปบ้างแต่ก็ไม่ได้สร้างความลำบากใจจนทนไม่ไหว เมื่อครบเวลาหญิงสาวจึงย้ายเรือนร่างอรชรไปยังห้องของคุณชายกัวซึ่งยังคงอดทนรอคอยอย่างไม่ปริปากบ่น“น้องเฟยเฟย หิวหรือไม่ ข้าสั่งอาหารชั้นดีมารออยู่เต็มโต๊ะเชียว”คุณชายผู้นี้มาพร้อมญาติผู้พี่จึงดื่มกินกันอย่างไม่อดออม พวกเขาคุยเรื่องการค้าในครอบครัวโดยไม่ใส่ใจว่าหญิงสาวจะได้ยินได้ฟังความลับใดบ้างฮัวเฟยฮวาได้โอกาสดื่มสุรากินอาหารไปจนอิ่มอืม...ยามเป็นหัวหน้างานมัวแต่ก้มหน้าก้มตากินอาหารกล่อง ไม่เคยได้กินอาหารหรูหราเพียงนี้ ยิ่งเหล้าสุรายิ่งแทบไม่ได้แตะต้อง ในเมื่อที่นี่มีของกินชั้นดี สุราชั้นเลิศ คิดเสียว่าได้มาพักร้อนก็แล้วกัน “น้องเฟยเฟย เมื่อไม่กี่วันก่อนข้าได้ไข่มุกราตรีมาเม็ดหนึ่ง ทั้งสวยงามและใหญ่โตจึงอยากมอบให้เจ้าเก็บไว้ใช้” คุณชายกัวส่งไข่ม
ตอนที่สี่ เพียงอี้จี้นางหนึ่งสายตามองไปยังโต๊ะด้านข้างซึ่งมีขวดน้ำมันหอมวางอยู่เพื่อให้หญิงสาวได้ชโลมลูบไล้หลังอาบน้ำเสร็จวิธีการดูแลตนเองของหญิงสาวที่นี่ถือเป็นกลเม็ดเคล็ดลับที่ดีทีเดียว มิน่าล่ะถึงมีคุณชายมาติดพันมากหน้าหลายตา พวกเขามักลอบสูดดมความหอมจากกายบางทุกเมื่อที่มีโอกาส ทั้งเพียรพยายามลูบไล้แย่งกันเอาอกเอาใจ สรรหาของกินเอร็ดอร่อย มอบของกำนัลล้ำค่าและหาข้ออ้างพานางออกเที่ยวเตร่แต่เคล็ดลับความงามพวกนี้คงเอากลับไปใช้กับร่างสาวใหญ่วัยใกล้ห้าสิบแล้วไม่ได้ผลคิดมาถึงตรงนี้ หัวหน้างานสาวใหญ่ในร่างของสาวน้อยฮัวเฟยฮวาก็ต้องยิ้มเยาะให้กับตนเอง ก่อนจะลุกขึ้นเช็ดตัวแล้วเดินไปนั่งชโลมน้ำมันหอมบนเตียงชีวิตเซียนพิณน้อยนางนี้นับว่าไม่เลวเลย เวลาทำงานแค่ไม่กี่ชั่วยาม งานก็ไม่ลำบาก ทั้งสนุกสนาน เบิกบาน อิ่มท้อง แล้วยังมีเงินทองสะสมเอาไว้อย่างมากมายหญิงสาวล้มตัวลงนอนด้วยรอยยิ้มเอาเถอะ นานๆจะได้ฝันดีแบบนี้ ถือว่าคืนนี้พักผ่อนคลายเครียดบ้างก็แล้วกัน
ตอนที่ห้าแขกแปลกหน้า“เฟยเฟย คืนนี้มีแขกแปลกหน้ามาเยือน เขาระบุอยากพูดคุยกับเจ้า แม่เล้าใหญ่ให้ข้าเข้ามาสอบถามความเต็มใจ” อันอันส่งเสียงเข้ามาก่อนจะเดินมาช่วยจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย“น่าจะเป็นชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ชั้นบนด้านขวาใช่หรือไม่”“ใช่ เจ้าเองก็สังเกตเห็นหรือ”“อืม...เขามีท่วงท่างามสง่า นัยน์ตาระยิบระยับ ยกจอกสุราส่งยิ้มพร้อมปรบมือให้ทุกเพลง” สาวงามทบทวนท่าทีของชายซึ่งไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนปกติแขกเหรื่อส่วนใหญ่มักเป็นขาประจำหรือคนคุ้นเคย หากไม่เคยแวะเวียนมาก็จะมีผู้ชักนำหรือติดตามผู้อื่นมา จึงมักรู้จักมักจี่ว่าคือบุตรหลานตระกูลใด นั่นย่อมทำให้การตัดสินใจว่าจะรับรองเขาหรือไม่ง่ายขึ้นแต่บุรุษแปลกหน้าผู้นี้ไม่ธรรมดาแน่ ลำพังแค่ผู้ติดตามที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เห็นได้ว่าทั้งมีฝีมือและองอาจห้าวหาญหรือจะเป็นผู้สูงศักดิ์แอบหนีออกมาเที่ยวเล่นยังไม่ทันตัดสินใจให้ดี แม่เล้าใหญ่ก็ผลักประตูเข้ามาเอ่ยสำทับ“เฟยเฟ
ตอนที่หกท่ามกลางดวงดาวเขาทั้งขาวสะอาดหล่อเหลาชวนมอง ท่วงท่าสง่างาม คิ้วตาเปี่ยมราศี ดูดีกว่าชายหนุ่มทุกคนที่มาติดพันนาง ดวงตาพราวระยิบมีชีวิตชีวาเปี่ยมเสน่ห์คู่นั้น ยามจับจ้องมองมาทีไร ใจนางแทบหลอมละลายอยากทอดร่างลงไปเสียเดี๋ยวนั้นสาวงามเอนร่างซบไหล่ออดอ้อนอย่างยินยอมพร้อมใจด้วยถูกเอาอกเอาใจติดต่อกันมาหลายวันเพล้ง ตุบ ตับเสียงข้าวของแตกกระจายและเสียงการต่อสู้ดังอยู่หน้าห้องจนชายหนุ่มหญิงสาวด้านในตกใจหวงหนิงหลงอุ้มสาวงามมานั่งอยู่บนตักอย่างปกป้องพลางเงี้ยหูฟังการโต้เถียงที่ดังลอดเข้ามา“น้องเฟยเฟย ข้ามาแล้ว”“พวกเจ้าหลีกทางเดี๋ยวนี้ ข้าจะพาน้องเฟยเฟยออกมา” เสียงชายหนุ่มตะโกนเอะอะโวยวายโหวกเหวกจนแม่เล้าใหญ่ต้องรีบวิ่งมาห้าม“คุณชายติง คุณชายกัว พวกท่านเมามากแล้ว อย่าได้สร้างเรื่องวุ่นวายเลย เด็กๆรีบมาพาคุณชายทั้งสองไปส่งที่รถม้าเร็วเข้า”“ผู้ใดเมา ข้าไม่เมา แม่เล้าใหญ่ ท่านเอาแต่พาน้องเฟยเฟยไปหลบซ่อน แล้วยังคนในห้องนั้นอี
ตอนที่เจ็ดอย่าได้หวั่นวิตกฮัวเฟยฮวาถูกกล่อมเกลาจนสมองพร่าเลือนเคลิ้มไหวล่องลอยไปกับรสละมุนแว่วหวาน หวงหนิงหลงไม่จู่โจมเร่งรัดแต่ค่อยๆกลืนกินละเมียดละไมมือใหญ่กอบกุมบดคลึงเต้าทรวงอวบหยุ่นอย่างทะนุถนอมราวของล้ำค่า แม้จะฟอนเฟ้นไม่มีหยุดเดี๋ยวเคล้นซ้ายคลึงขวาบีบแน่นแต่กลับไม่สร้างความเจ็บปวด มีแต่จะเพิ่มความเร่าร้อนจนเม็ดบัวตูมชูช่อเชิญชวนให้ปาดป่ายชายหนุ่มอดรนทนไม่ไหวค่อยๆก้มหน้าลงจุมพิตทักทายส่วนชี้ชันสีชมพูแล้วอ้าอมดูดกลืนจนจมหายไปในอุ้งปาก“อ้า...” เซียนพิณน้อยหลุดเสียงครางออกมาอย่างเผลอไผลเรียกรอยยิ้มจากร่างใหญ่ด้วยความสมใจสองมือช่วยกันกอบกุมก้อนเต้าแน่นเคล้าคลึงส่งใส่ปากอุ่นเพื่อเลียไล้ดูดดุนสร้างแรงวาบหวามจนสาวงามคล้อยตามหวงหนิงหลงหรือจะปล่อยโอกาสงามให้หลุดมือด้วยยามนี้เสื้อผ้าบางเบาแทบจะหลุดออกจากร่างเล็กจนเปิดเปลือยความขาวเนียนกระจ่างตาด้วยเหล่าหญิงสาวในหอเหลียงฮัวสวมใส่ผ้าสามเหลี่ยมเพียงบางเบาในส่วนท่อนล่าง ประกอบกับฮัวเฟยฮวามีเนินโหนกอวบใหญ่ ผ้าชิ้นน้อยหรือจะปิดบังความ
ตอนที่แปดถึงขั้นนี้แล้วมือใหญ่จับแท่งหยกซึ่งขยายใหญ่เตรียมพร้อมอยู่นานส่งเข้าถูไปถูมาทักทายระหว่างร่องดอกไม้ฉ่ำเพื่อชโลมน้ำหวานใสให้ถ้วนทั่วหา!...เขาจะทำอะไร อย่าบอกนะว่าเขาจะสอดใส่นางกลางหอดูดาวเช่นนี้แล้วเจ้าแท่งนั้น ใหญ่ขนาดนี้จะใส่เข้าไปได้อย่างไรฮัวเฟยฮวาซึ่งเพิ่งแลเห็นคิดอย่างแตกตื่นขณะพยายามขยับสะโพกหนีถึงขั้นนี้แล้ว หวงหนิงหลงหรือจะยอมง่ายๆ เขาเอื้อมมือมาขยำก้นเนียนนุ่มอย่างมันเขี้ยวพลางเอ่ยชมเสียงกระเส่า“แม้แต่สะโพกของเจ้ายังขาวนุ่มน่าสัมผัสเช่นนี้ น้องเฟยเฟย เจ้าช่างงามไปทุกส่วนเสียจริง”งามทุกส่วนอะไร เดี๋ยวก่อน สาวงามได้แต่นึกขัดในใจยังไม่ทันได้ตอบคำก็ถูกท่อนลำซึ่งแสร้งหลอกล่ออยู่ด้านนอกกดจ่อยังปากถ้ำอุ่น แท่งเนื้อร้อนถูกดันเข้าไปจนสุดลำท่อนอย่างเชื่องช้าจนจมหายเข้าไปในร่องดอกไม้งามแม้ไม่คับแน่นแทบตายอย่างสาวบริสุทธิ์แต่ช่องทางสีหวานเพิ่งผ่านการใช้งานมาเพียงไม่กี่ครา กลีบสว
ตอนที่เก้า ไปเที่ยวกันถึงตอนนี้หัวหน้าสาวผู้เคร่งขรึมจึงเพิ่งได้สติเธอปล่อยให้เขาล่วงเกินถึงขั้นนี้ได้อย่างไร แม้ฮัวเฟยฮวาจะเคยถูกเปิดบริสุทธิ์ไปแล้ว แต่ร่างงามของนางยังคงมีค่ามีราคาซึ่งชายหนุ่มต่างแย่งชิงเพื่อให้ได้ล่วงล้ำแต่คุณชายหวงผู้นี้กลับฉวยโอกาสพานางมาเริงรักท่ามกลางดวงดาวและสายลมอย่างพลั้งเผลอ เช่นนี้แล้วนางจะมีหน้ากลับไปแจ้งแก่แม่เล้าใหญ่ว่าอย่างไร“เหนื่อยหรือ” เสียงทุ้มนุ้มกระซิบที่ข้างหูพลางขบเม้มหยอกล้อ“ข้าหนาว” กายบางสั่นสะท้านด้วยแรงลม“เช่นนั้นพวกเรากลับกันเถอะ” หวงหนิงหลงหยิบเสื้อคลุมของตนเองมาคลุมร่างเล็กแล้วโอบอุ้มขึ้นราวช่างเบาหวิวชายหนุ่มกระโดดลงจากหอดูดาวอย่างง่ายดายก่อนจะกระโจนไม่กี่คราก็มาถึงประตูหลังของหอเหลียงฮัว“ส่งข้าตรงนี้ก็พอ” ร่างเล็กรีบเอ่ยบอกด้วยเลยเวลาปิดทำการไปแล้ว หากคุณชายหวงเข้าไปพร้อมกันอาจทำให้แม่เล้าใหญ่ไม่พอใจหรือทำให้ชายอื่นเข้าใจผิดในตัวนางได้นาง
ตอนที่สิบสี่ หัวหน้าหญิง ผู้ใดจะคาดคิดว่าคนทั้งสามในกระโจมจะสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างเหมาะเจาะ พวกเขามอบประสบการณ์สุดลึกล้ำให้แก่กันจนเกือบฟ้าสางฮัวซินฮวาตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองนอนอยู่คนเดียวในรถม้าซึ่งกำลังวิ่งไม่หยุด หญิงสาวลุกขึ้นเปิดผ้าม่านมองข้างหน้าพบว่ามีแต่ต้นไม้ใบหญ้าไร้ผู้คน“ตื่นแล้วหรือ หิวหรือไม่” น้ำเสียงอ่อนโยนดังเข้ามาพร้อมชายร่างใหญ่ซึ่งขี่ม้ามาประกบด้านข้าง“หิวจนกินม้าได้ทั้งตัวแล้ว” หญิงสาวพูดตรงๆอย่างไม่เก็บอาการแง่งอน“ฮ่า ฮ่า อย่ากินม้าเลย ให้มันพาพวกเรากลับบ้านเถอะ เอาแผ่นแป้งปิ้งกับเนื้อย่างไปกินรองท้องเสียก่อน อีกครู่พวกเราจะพักที่ใกล้น้ำตก เจ้าจะได้อาบน้ำชำระล้างร่างกายแล้วปิ้งปลาย่างกินกัน”ฮัวซินฮวาได้ลงไปแหวกว่ายอาบน้ำอย่างสดชื่นโดยมีหนึ่งในฝาแฝดคอยยืนเฝ้าด้วยสายตาหื่นกระหาย โชคดีที่เขาไม่ได้ลงมารังแกนางต่อด้วยยังต้องเร่งรีบเดินทางหญิงสาวไม่คิดมาก่อนว่าปลาซึ่งจับมาเมื่อครู่หลังจากย่างไฟแล้วจะเอร็ดอร่อยเพียงนี้
ตอนที่สิบสาม แยกแยะพี่น้อง เซียนสุราสาวเหลียวหันด้วยความแตกตื่นเมื่อเริ่มรับรู้ว่ากำลังจะโดนกระทำสิ่งใดแต่ไม่อาจดิ้นรนหลีกหนีอย่านะ อย่าใส่เข้ามา ตายแน่ๆ รูก้นอันบริสุทธิ์ต้องฉีกขาดแหกกว้างด้วยท่อนลำใหญ่โตแน่ ชายหนุ่มตั้งหน้าตั้งตาหันไปหยิบขี้ผึ้งลื่นมาชโลมทาไปทั่วท่อนเนื้อใหญ่ก่อนจะจ่อเข้ากับช่องทางด้านหลังแล้วดันดุ้นลำอวบเข้าไปในรูหยักสีแดงเล็กจนสุดแรงทีเดียวจมหายไปทั้งลำ“โอ๊ยยยยยย” ฮัวซินฮวาร้องลั่นน้ำตาเล็ดด้วยความเจ็บซึ่งพุ่งเข้ามาโดยไม่คาดฝันแท่งเนื้อเข้าลึกสุดความยาวขณะรูเล็กโดนเสียบแทงด้วยทวนด้ามใหญ่จนทั้งเจ็บแสบทั้งเสียวซ่านไปพร้อมกันหญิงสาวดิ้นรนจะหลีกหนีด้วยรู้สึกอึดอัดจากสองลำเอ็นซึ่งคับแน่นคาสองร่องรูฮือๆๆๆ ใกล้ตายแล้ว โดนของใหญ่อัดพร้อมกันถึงสองท่อนขนาดนี้ตงต๋าหยางที่ด้านล่างรีบขยับแท่งเนื้อขึ้นลงเพื่อช่วยให้หญิงสาวได้ซ่านเสียว มือข้างที่ว่างอ้อมมาเขี่ยติ่งสวาทด้านหน้าจนร่างเล็กเกร็งกระตุกสั่นไม่หยุด ขณะท่อนกายอีกอันที
ตอนที่สิบสอง ทำพร้อมกัน มิน่า พวกเขาจึงถึกทนนัก เสร็จแล้วเสร็จอีกหลั่งน้ำออกมาราวกับไม่มีวันหมด ที่แท้ก็สลับตัวกันไปมานี่เอง ขี้โกงจริงๆ สองคนรุมนางคนเดียว สาวงามบนเตียงค้อนไปค้อนมาสายตาปะหลับปะเหลือก“เช่นนั้นพวกเราทำพร้อมกัน น้องซินซินจะได้มีเวลาพักบ้าง ดีหรือไม่”“หา...พร้อมกัน” หญิงสาวร้องออกมาด้วยความตกใจ ยังไม่ทันได้ตั้งหลักก็โดนชายหนึ่งในสองจับใบหน้าให้หงายขึ้นเพื่อรองรับการจุมพิตอย่างตะกละตะกลาม สองมือหนาช้อนรองเต้าตูมเต่งบดคลึงขยำขยี้ด้วยแรงอารมณ์ร้อนเขาน่าจะเป็นตงต๋าเหยา ด้วยเมื่อครู่นางเพิ่งกระแทกสอดใส่กับตงต๋าหยางจนเสร็จสม เขาคงยืนมองดูอยู่นานจนทนไม่ไหวชายหนุ่มไม่รีรอเลื่อนตัวลงด้านล่างแล้วล้วงควานน้ำกามาในร่องสวาทออกก่อนจะสอดท่อนลำของตัวเองเข้าไปจนเต็มร่องรู ชายหนุ่มจับเอวเล็กเอาไว้แล้วแทงท่อนเอ็นงัดขึ้นมากระแทกร่องอย่างเต็มแรงจนกายบางสั่นสะเทือน“โอ๊ยย เบาหน่อย”ฮัวซินฮวาเอ่ยได้แค่ไหนก็ต้องร้อ
ตอนที่สิบเอ็ด ทำอย่างอื่นกัน จนถึงจุดพักแรมซึ่งพอมีที่ทาง พวกเขาจึงสร้างกระโจมหลังหนึ่งเอาไว้ให้ฮัวซินฮวาได้พักผ่อนผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า “เรื่องเป็นอย่างไรมาอย่างไร เล่าได้หรือยัง” หญิงสาวเก็บความสงสัยไว้หลายวันไม่ได้พูดจาจนน้ำลายเริ่มบูดแล้ว “พวกเราทำอย่างอื่นกันก่อนแล้วค่อยเล่าเถอะ เรื่องมันยาว” มือไม้ของตงต๋าหยางเริ่มเลื้อยไล่ปลดเสื้อผ้าจนร่างบางเปิดเปลือย ฮัวซินฮวาไม่อยากยินยอมแต่เมื่อโดนเล้าโลมไม่นานก็อ่อนระทวยคล้อยตามไปจนได้ ร่างเล็กลืมตัวแอ่นกลีบดอกไม้ให้ชายหนุ่มได้กลืนกิน เพียงลิ้นร้อนรุกเลียสองกลีบก็เสียวสะท้านจนสั่นไหวยิ่งลิ้นอุ่นเลียปาดไปปาดมา เดี๋ยวไล่ไปด้านหน้าจนถึงเนินอูม เดี๋ยวลากผ่านไปเกือบถึงรูหยักด้านหลัง แล้ววกกลับมาบดเน้นติ่งเกสร หญิงสาวยิ่งบิดร่างเกร็งเร้าจนปวดท้อง
ด้วยราคะเร่าร้อน ตงต๋าหยางจึงกระหน่ำสอดใส่ตัวตนเข้าร่องสวาทอย่างหื่นกระหาย ทุกแรงกระแทกส่งท่อนเอ็นยาวครูดเน้นย้ำจุดกระสันด้านในจนเสียวซ่านแทบขาดใจ“อ๊ายยย ไม่ไหวแล้ว ซี้ดดดด”ฮัวซินฮวาถูกตอกย้ำจนสุดกลั้นเกร็งร่างสั่นกระตุกเห็นสวรรค์ชั้นฟ้าไปก่อนชายหนุ่มเร่งตอกท่อนเอ็นเข้าร่องคับแน่นจนเสียวซ่านปล่อยน้ำรักตามออกมาจนท่วมนองหญิงสาวนอนหอบหายใจถี่ทั้งยังหลับตาด้วยความเหน็ดเหนื่อย นางรู้สึกเพียงว่าชายหนุ่มด้านข้างลุกออกไปครู่หนึ่งก่อนจะกลับเข้ามาอีกคราผ้าอุ่นถูกจับเช็ดส่วนอ่อนนุ่มพร้อมล้วงควักน้ำกามาด้านในให้ไหลออกอืม...ดีจัง เสร็จกิจยังรู้จักดูแลหญิงสาวนอนยิ้มด้วยรู้สึกดีก่อนจะรู้ตัวอีกทีเมื่อขาเรียวถูกจับพาดไว้บนไหล่หนาแล้วชายหนุ่มขยับสะโพกเข้าหาร่องดอกไม้ซึ่งเริ่มบวมเป่งแล้วส่งท่อนกายแข็งเข้าไปโดยไม่บอกไม่กล่าว มือหนาประคองขาขาวเนียนเอาไว้แล้วเริ่มตอกกระแทกเร็วแรงจนตัวโยกโยนฮัวซินฮวานอนลืมตาขึ้นมองเห็นใบหน้าคร้ามแดดซึ่งตั้งอกตั้งใจทิ่มแทงดุ้นลำเข้าใส่ความชุ่มฉ่ำโดยแทบไม่มองหน้า เขาจับขาขาวขึ้นสูงเ
"พวกเราจะมีชีวิตที่อิสระ เป็นที่นับถือของผู้คนในเผ่า ไม่ต้องคร่ำเคร่งเหน็ดเหนื่อย หากเจ้าอยากหมักสุรา ย่อมทำได้ตามอำเภอใจ พี่จะช่วยเจ้าขายหาเงินมาซื้อของที่เจ้าอยากได้ ไม่ว่าเรื่องใดขอให้ไว้ใจ พี่จะจัดการให้เจ้าทุกเรื่อง"ฮัวซินฮวานอนเคลิบเคลิ้มไปกับคำหวานและลีลาเร่าร้อนซึ่งค่อยๆคืบคลานมาทีละน้อย นี่ไม่ใช่ชีวิตในฝันที่เธออยากได้หรอกหรือ ชีวิตที่ไม่ต้องทำงานเช้าจรดค่ำ ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน แล้วยังไม่ได้ใช้เงินที่ตัวเองหามา ชีวิตที่มีผู้ชายที่ทั้งรักและจริงใจคอยดูแลปกป้อง ที่สำคัญคือ ชีวิตที่ได้เสพสุขอย่างเต็มอิ่มโดยไม่ต้องซื้อกิน
เอาล่ะ ฮัวซินฮวา เจ้าฟังให้ดี ข้าตงต๋าหยางชื่นชอบเจ้ามาก คราแรกอาจด้วยรูปร่างหน้าตาซึ่งดึงดูดแต่แรกเห็น ยิ่งได้พบว่าเจ้ามีหลายอย่างที่ไม่เหมือนสตรีทั่วไป ข้ายิ่งชอบมากขึ้นเรื่อยๆ จนตัดสินใจยื่นมือแสดงตัวตนออกมาเจ้าดื่มสุราได้เก่งมาก นั่นช่างเหมาะกับข้านัก คนนอกด่านอย่างพวกเราอยู่ในสถานที่หนาวเย็นจึงดื่มสุราต่างน้ำมาตั้งแต่เยาว์วัยเจ้าไม่ใช่สตรีเหยาะแหยะน่ารำคาญ พูดจาตรงไปตรงมา เด็ดขาดมีความจริงใจ แล้วยังมีเหตุมีผล เอาเป็นว่า ทุกอย่างที่เป็นเจ้าล้วนถูกใจข้าดังนั้น ฮัวซินฮวา เจ้าไปอยู่กับข้าเถอะ”ได้ฟังคำป้อยอ หญิงสาวทุกคนย่อมรู้สึกดี แต่เซียนสุราสาวกลับยังไม่ไว้เนื้อเชื่อใจชายซึ่งเพิ่งพบหน้าไม่นาน“พูดง่ายเกินไปหรือไม่” แม้จะรู้สึกดีที่มีชายมาสารภาพรัก แต่ฮัวซินฮวาเป็นสาวงามซึ่งยังมีทางเลือกมากมาย ชายนอกด่านคนหนึ่งหรือจะคู่ควรตอนที่เก้า หนาวหรือ“เจ้าอาจยังลังเลใจ เอาเป็นว่า ข้าจะค่อยๆแสดงตัวตนให้เจ้าเห็นความจริงใจ จากนั้นค่อยตัดสินใจอีกคราแต่ยามนี้พวกเราคงต้
ตอนที่แปดหนีไปแล้ว สาวใช้คนสนิทเห็นด้วยกับการไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องยุ่งยากอีกทั้งยังเสนอที่จะนำเรื่องไปบอกกล่าวแก่แม่เล้าใหญ่เพื่อให้ระวังคืนต่อมา ฮัวซินฮวาจึงพยายามเลี่ยงจากทั้งคุณชายอู๋และคุณชายซินซึ่งมุ่งมั่นจะเข้ามาใกล้อย่างตั้งอกตั้งใจตงต๋าหยางช่วยเหลืออย่างที่รับปากโดยพาพรรคพวกเข้ามาเหมาจองเวลาของเซียนสุราสาวเอาไว้ทั้งหมด พวกเขายึดพื้นที่ภายในห้องจนแน่นขนัดนั่นจึงทำให้สองคุณชายซึ่งพลาดจากได้ใกล้ชิดสาวงามยืนโต้เถียงกันหน้าดำหน้าแดงอยู่ด้านหน้าห้องร่ำสุราอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใครองครักษ์ซุนพยายามงัดให้คุณชายอู๋อ้าปากคายความลับเรื่องอัญมณีออกมาให้ได้ส่วนคุณชายอู๋ซึ่งรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง ย่อมรู้สถานการณ์พูดจาหลบเลี่ยงอย่างช่ำชองพลางโยนความสงสัยไปให้เซียนสุราฮัวซินฮวาอย่างตั้งใจทันทีที่คนของตงต๋าหยางเข้ามารายงาน เซียนสุราสาวถึงกับขว้างจอกสุราสบถหยาบคายก่นด่าคุณชายอู๋อย่างไม่ไว้หน้าผิดกับท่าทางออดอ้อนอ่อนหวานซึ่งแสดงออกยามต้อนรับแขกเหรื่อ“ไอ้คนไร้ยางอาย ขี้ขลาดตา
ตอนที่เจ็ด อัญมณีศักดิ์สิทธิ์ “เจ้าไม่ใช่คนของแคว้นเราหรอกหรือ” หญิงสาวถามขัดขึ้น“มิใช่ พวกเรานับเป็นคนนอกด่าน ไม่ขึ้นตรงกับแคว้นใดแคว้นหนึ่ง อาศัยอยู่รายล้อมภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อพิทักษ์ปกป้องรักษา” ชายหนุ่มเชิดหน้าบ่งบอกความภาคภูมิใจเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้ซักถามอีก ตงต๋าหยางจึงเล่าต่อ“พวกเราเฝ้าติดตามอัญมณีอยู่นานกว่าจะได้รู้ว่ามีคนใจกล้าขโมยออกมาจากคลังหลวงได้แล้ว พวกเขาไม่อาจทำเป็นเรื่องใหญ่ด้วยอัญมณีไร้ที่มา จึงได้แต่ส่งคนออกตามหาองครักษ์ซุนคือคนที่วังหลวงส่งให้ติดตามพวกหัวขโมยมาจนถึงที่นี่ แต่ทุกสิ่งกลับหายไปโดยไร้ร่องรอย”“อัญมณีถูกซ่อนอยู่ที่นี่หรือ” ฮัวซินฮวาถามด้วยความสงสัย“อาจจะใช่ หรืออาจจะไม่ใช่ คนที่พวกเราสงสัยคือคุณชายอู๋ผู้ซึ่งเป็นแขกประจำของเจ้า เขาเพิ่งโผล่มาเมื่อเดือนก่อนและซุกตัวอยู่ที่นี่เกือบทุกวันใช่หรือไม่”“อืม...ใช่”“ความจริงเขาเป็นยอดฝีมือแน่ แต่จะนำอัญมณีไปซ่อนไว้ที่