ตอนที่ห้า
แขกแปลกหน้า
“เฟยเฟย คืนนี้มีแขกแปลกหน้ามาเยือน เขาระบุอยากพูดคุยกับเจ้า แม่เล้าใหญ่ให้ข้าเข้ามาสอบถามความเต็มใจ” อันอันส่งเสียงเข้ามาก่อนจะเดินมาช่วยจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
“น่าจะเป็นชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ชั้นบนด้านขวาใช่หรือไม่”
“ใช่ เจ้าเองก็สังเกตเห็นหรือ”
“อืม...เขามีท่วงท่างามสง่า นัยน์ตาระยิบระยับ ยกจอกสุราส่งยิ้มพร้อมปรบมือให้ทุกเพลง” สาวงามทบทวนท่าทีของชายซึ่งไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
ปกติแขกเหรื่อส่วนใหญ่มักเป็นขาประจำหรือคนคุ้นเคย หากไม่เคยแวะเวียนมาก็จะมีผู้ชักนำหรือติดตามผู้อื่นมา จึงมักรู้จักมักจี่ว่าคือบุตรหลานตระกูลใด นั่นย่อมทำให้การตัดสินใจว่าจะรับรองเขาหรือไม่ง่ายขึ้น
แต่บุรุษแปลกหน้าผู้นี้ไม่ธรรมดาแน่ ลำพังแค่ผู้ติดตามที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เห็นได้ว่าทั้งมีฝีมือและองอาจห้าวหาญ
หรือจะเป็นผู้สูงศักดิ์แอบหนีออกมาเที่ยวเล่น
ยังไม่ทันตัดสินใจให้ดี แม่เล้าใหญ่ก็ผลักประตูเข้ามาเอ่ยสำทับ
“เฟยเฟย ชายผู้นี้ไม่อาจล่วงเกิน เจ้าลองเข้าไปนั่งคุยกับเขาสักครู่เถิด”
แม่เล้าใหญ่ผู้เห็นบุรุษผ่านสายตามาอย่างโชกโชนย่อมมองออกว่าผู้ใดมีศักดิ์ฐานะเช่นไร เมื่อนางอุตส่าห์ลงทุนมาเอ่ยขอ ฮัวเฟยฮวาจึงจัดแจงชุดเสื้อผ้าให้ดีแล้วเดินตามไป
“เฟยเฟยน้อยของเรามาแล้ว ฝากคุณชายเอ็นดูนางด้วยนะเจ้าคะ” แม่เล้าใหญ่เอ่ยคำรื่นหูแล้วงับประตูปิดอย่างเงียบเชียบสมเป็นมืออาชีพ
ฮัวเฟยฮวาเยื้องย่างมานั่งลงพลางชำเลืองมองชายหนุ่มผู้ติดตามทั้งสองซึ่งยืนขนาบข้างด้วยท่าทางเคร่งครัดอย่างหวาดระแวง
“พวกเจ้าออกไปก่อน ดูสิ แม่นางเฟยเฟยหวาดกลัวจนไม่กล้าเงยหน้าแล้ว” เสียงสั่งการของชายแปลกหน้าส่งให้ชายหน้าตาดุดันก้าวเท้าออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่ทั้งห้องเหลือเพียงสองคน ท่าทีของชายซึ่งไม่คุ้นเคยก็เปลี่ยนไปเป็นกรุ้มกริ่มหยอกล้อ
“แม่นางเฟยเฟย พวกเรามานั่งใกล้กันหน่อยดีหรือไม่ เมื่อครู่เสียงเพลงผีผาของเจ้าช่างไพเราะสดับใจ การบรรเลงของเจ้าช่างมีมนต์สะกดยิ่งนัก”
“คุณชายกล่าวเกินไปแล้ว ฝีมือของข้ายังอ่อนด้อยนัก”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า หากฝีมือของแม่นางเฟยเฟยอ่อนด้อย ก็คงไม่ต้องหาผู้อื่นมาดีดผีผาให้ฟังอีกแล้ว” ชายตรงหน้าหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี
“ข้ามาที่นี่ด้วยได้ยินมาว่าเสียงพิณผีผาของแม่นางเฟยเฟยแห่งหอเหลียงฮัวกระตุ้นให้เหล่าชายหนุ่มเร่าร้อนจนแทบคลั่งตาย นับว่าสมคำเล่าลือนัก” สายตาร้อนแรงสาดส่งมาบ่งบอกความคิดในใจ
ฮัวเฟยฮวารีบรินสุราใส่จอกยกขึ้นส่งให้เพื่อแก้เขิน แต่ชายหนุ่มกลับกุมมือนุ่มเอาไว้พลางยกขึ้นสูดดมอย่างลื่นไหล
“หอมยิ่งนัก มองไกลๆก็ว่างามมากแล้ว ยิ่งมองใกล้ๆยิ่งงามจนข้าไม่อยากเชื่อว่าจะมีนางฟ้าอยู่ในสถานที่แห่งนี้” คำป้อยอถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่องโดยไร้ความละอาย
เซียนพิณน้อยย่อมคุ้นเคยกับการถูกเกี้ยวพาและหยอกเอิน แต่ไม่เคยมีชายใดรุกไล่นางจนเคลิบเคลิ้มได้
อาจด้วยในร่างของสาวงามคือสาวใหญ่ผู้ไม่เคยต้องมือชาย ดังนั้นกิริยาท่าทางของนางในวันนี้จึงเขินอายได้อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังเคลิ้มไหวไปกับคำเย้าหยอก
ชายแปลกหน้าเห็นใบหน้าแดงก่ำและกิริยาขวยเขินจึงยิ่งรุกคืบ ทั้งขยับเข้ามาใกล้ทั้งจับกุมมือไม่ยอมปล่อย มือหนึ่งคีบอาหารป้อนใส่ปาก อีกมือโอบเอวแน่น สุดท้ายถึงกับอุ้มนางนั่งตักแล้วยกจอกสุราป้อนให้ถึงริมฝีปาก
“คุณชาย ข้าดื่มไม่ได้มาก ขอคุณชายเมตตาด้วย”
“เช่นนั้นข้าช่วยเจ้าดื่มเองก็แล้วกัน”
สุราสีเข้มถูกสาดเข้าสู่ลำคอหนาพร้อมมือทั้งสองข้างที่โอบกอดร่างบางเอาไว้แน่นพลางชวนพูดคุยสนุกสนานอย่างเป็นกันเอง
“น้องเฟยเฟยช่างเจรจายิ่งนัก กลิ่นกายหรือก็หอมหวาน ข้าคงต้องมาที่นี่ทุกคืนเสียแล้ว”
จมูกโด่งหอมฟอดเข้าที่แก้มนวลก่อนจะวกมาซุกซบซอกคอขาวผ่อง
“คุณชายอย่าได้ซุกซนนักสิเจ้าคะ” หญิงสาวขยับใบหน้าหนีพร้อมทุบมือลงกับไหล่หนาเบาๆเป็นเชิงหยอกเย้า
ค่ำคืนแรกของสองหนุ่มสาวจบลงด้วยความสนิทสนมคุ้นเคยซึ่งมากขึ้น สังเกตได้จากคำเรียกขานซึ่งเปลี่ยนไปเป็น’น้องเฟยเฟย’แล้ว
คืนถัดมา ชายแปลกหน้าซึ่งแนะนำตนเองว่าชื่อ’หวงหนิงหลง’หรือคุณชายหวงมาถึงหอเหลียงฮัวตั้งแต่ประตูเพิ่งเปิด เขาจับจองเวลาทั้งหมดของฮัวเฟยฮวาเอาไว้ไม่ยอมให้ชายอื่นได้พบหน้านางสักนิด
เซียนพิณน้อยบรรเลงผีผาให้เขาได้ฟังอย่างเป็นกันเองอีกทั้งยังกินอาหารเลิศรสและร่วมร่ำสุราจนหน้าแดงก่ำ
“เสียงเพลงของเจ้าช่างประทับใจข้ายิ่งนัก สมควรให้รางวัลมากๆ”
คุณชายหวงแสดงความหน้าใหญ่ใจโตใช้จ่ายไม่ยั้งมือให้รางวัลแก่ผู้คนทั่วทั้งหอเหลียงฮัวไล่ตั้งแต่แม่เล้าใหญ่ จนกระทั่งไปถึงเด็กเฝ้าประตู
โดยเฉพาะกับสาวงามซึ่งพึงใจ ชายหนุ่มควักทั้งก้อนทอง เครื่องประดับออกมาประโคมใส่ให้หญิงสาวจนเต็มตัว
แน่นอนว่าชายเจ้าบุญทุ่มเช่นนี้ย่อมเป็นที่ชื่นชอบแก่ผู้คน หลายคืนถัดมา ฮัวเฟยฮวาจึงต้อนรับเพียงคุณชายหวงหนิงหลงโดยไม่ได้เผยโฉมหน้าออกไปพบชายใดอีก
“น้องเฟยเฟย วันนี้เจ้าต้องดื่มให้มากหน่อย สุรานี้ข้านำมาจากชายแดนทีเดียว ใช้เวลาหมักกว่าสามปี รับรองว่าทั้งหอมหวานไม่ขมแน่”
จอกสุราถูกจ่อเข้ากับริมฝีปากแดงซึ่งจำต้องอ้ารับทั้งๆที่รู้ว่าเขากำลังมอมเมาตนเอง
เขาทั้งขาวสะอาดหล่อเหลาชวนมอง ท่วงท่าสง่างาม คิ้วตาเปี่ยมราศี ดูดีกว่าชายหนุ่มทุกคนที่มาติดพันนาง ดวงตาพราวระยิบมีชีวิตชีวาเปี่ยมเสน่ห์คู่นั้น ยามจับจ้องมองมาทีไร ใจนางแทบหลอมละลายอยากทอดร่างลงไปเสียเดี๋ยวนั้น
สาวงามเอนร่างซบไหล่ออดอ้อนอย่างยินยอมพร้อมใจด้วยถูกเอาอกเอาใจติดต่อกันมาหลายวัน
ตอนที่หกท่ามกลางดวงดาวเขาทั้งขาวสะอาดหล่อเหลาชวนมอง ท่วงท่าสง่างาม คิ้วตาเปี่ยมราศี ดูดีกว่าชายหนุ่มทุกคนที่มาติดพันนาง ดวงตาพราวระยิบมีชีวิตชีวาเปี่ยมเสน่ห์คู่นั้น ยามจับจ้องมองมาทีไร ใจนางแทบหลอมละลายอยากทอดร่างลงไปเสียเดี๋ยวนั้นสาวงามเอนร่างซบไหล่ออดอ้อนอย่างยินยอมพร้อมใจด้วยถูกเอาอกเอาใจติดต่อกันมาหลายวันเพล้ง ตุบ ตับเสียงข้าวของแตกกระจายและเสียงการต่อสู้ดังอยู่หน้าห้องจนชายหนุ่มหญิงสาวด้านในตกใจหวงหนิงหลงอุ้มสาวงามมานั่งอยู่บนตักอย่างปกป้องพลางเงี้ยหูฟังการโต้เถียงที่ดังลอดเข้ามา“น้องเฟยเฟย ข้ามาแล้ว”“พวกเจ้าหลีกทางเดี๋ยวนี้ ข้าจะพาน้องเฟยเฟยออกมา” เสียงชายหนุ่มตะโกนเอะอะโวยวายโหวกเหวกจนแม่เล้าใหญ่ต้องรีบวิ่งมาห้าม“คุณชายติง คุณชายกัว พวกท่านเมามากแล้ว อย่าได้สร้างเรื่องวุ่นวายเลย เด็กๆรีบมาพาคุณชายทั้งสองไปส่งที่รถม้าเร็วเข้า”“ผู้ใดเมา ข้าไม่เมา แม่เล้าใหญ่ ท่านเอาแต่พาน้องเฟยเฟยไปหลบซ่อน แล้วยังคนในห้องนั้นอี
ตอนที่เจ็ดอย่าได้หวั่นวิตกฮัวเฟยฮวาถูกกล่อมเกลาจนสมองพร่าเลือนเคลิ้มไหวล่องลอยไปกับรสละมุนแว่วหวาน หวงหนิงหลงไม่จู่โจมเร่งรัดแต่ค่อยๆกลืนกินละเมียดละไมมือใหญ่กอบกุมบดคลึงเต้าทรวงอวบหยุ่นอย่างทะนุถนอมราวของล้ำค่า แม้จะฟอนเฟ้นไม่มีหยุดเดี๋ยวเคล้นซ้ายคลึงขวาบีบแน่นแต่กลับไม่สร้างความเจ็บปวด มีแต่จะเพิ่มความเร่าร้อนจนเม็ดบัวตูมชูช่อเชิญชวนให้ปาดป่ายชายหนุ่มอดรนทนไม่ไหวค่อยๆก้มหน้าลงจุมพิตทักทายส่วนชี้ชันสีชมพูแล้วอ้าอมดูดกลืนจนจมหายไปในอุ้งปาก“อ้า...” เซียนพิณน้อยหลุดเสียงครางออกมาอย่างเผลอไผลเรียกรอยยิ้มจากร่างใหญ่ด้วยความสมใจสองมือช่วยกันกอบกุมก้อนเต้าแน่นเคล้าคลึงส่งใส่ปากอุ่นเพื่อเลียไล้ดูดดุนสร้างแรงวาบหวามจนสาวงามคล้อยตามหวงหนิงหลงหรือจะปล่อยโอกาสงามให้หลุดมือด้วยยามนี้เสื้อผ้าบางเบาแทบจะหลุดออกจากร่างเล็กจนเปิดเปลือยความขาวเนียนกระจ่างตาด้วยเหล่าหญิงสาวในหอเหลียงฮัวสวมใส่ผ้าสามเหลี่ยมเพียงบางเบาในส่วนท่อนล่าง ประกอบกับฮัวเฟยฮวามีเนินโหนกอวบใหญ่ ผ้าชิ้นน้อยหรือจะปิดบังความ
ตอนที่แปดถึงขั้นนี้แล้วมือใหญ่จับแท่งหยกซึ่งขยายใหญ่เตรียมพร้อมอยู่นานส่งเข้าถูไปถูมาทักทายระหว่างร่องดอกไม้ฉ่ำเพื่อชโลมน้ำหวานใสให้ถ้วนทั่วหา!...เขาจะทำอะไร อย่าบอกนะว่าเขาจะสอดใส่นางกลางหอดูดาวเช่นนี้แล้วเจ้าแท่งนั้น ใหญ่ขนาดนี้จะใส่เข้าไปได้อย่างไรฮัวเฟยฮวาซึ่งเพิ่งแลเห็นคิดอย่างแตกตื่นขณะพยายามขยับสะโพกหนีถึงขั้นนี้แล้ว หวงหนิงหลงหรือจะยอมง่ายๆ เขาเอื้อมมือมาขยำก้นเนียนนุ่มอย่างมันเขี้ยวพลางเอ่ยชมเสียงกระเส่า“แม้แต่สะโพกของเจ้ายังขาวนุ่มน่าสัมผัสเช่นนี้ น้องเฟยเฟย เจ้าช่างงามไปทุกส่วนเสียจริง”งามทุกส่วนอะไร เดี๋ยวก่อน สาวงามได้แต่นึกขัดในใจยังไม่ทันได้ตอบคำก็ถูกท่อนลำซึ่งแสร้งหลอกล่ออยู่ด้านนอกกดจ่อยังปากถ้ำอุ่น แท่งเนื้อร้อนถูกดันเข้าไปจนสุดลำท่อนอย่างเชื่องช้าจนจมหายเข้าไปในร่องดอกไม้งามแม้ไม่คับแน่นแทบตายอย่างสาวบริสุทธิ์แต่ช่องทางสีหวานเพิ่งผ่านการใช้งานมาเพียงไม่กี่ครา กลีบสว
ตอนที่เก้า ไปเที่ยวกันถึงตอนนี้หัวหน้าสาวผู้เคร่งขรึมจึงเพิ่งได้สติเธอปล่อยให้เขาล่วงเกินถึงขั้นนี้ได้อย่างไร แม้ฮัวเฟยฮวาจะเคยถูกเปิดบริสุทธิ์ไปแล้ว แต่ร่างงามของนางยังคงมีค่ามีราคาซึ่งชายหนุ่มต่างแย่งชิงเพื่อให้ได้ล่วงล้ำแต่คุณชายหวงผู้นี้กลับฉวยโอกาสพานางมาเริงรักท่ามกลางดวงดาวและสายลมอย่างพลั้งเผลอ เช่นนี้แล้วนางจะมีหน้ากลับไปแจ้งแก่แม่เล้าใหญ่ว่าอย่างไร“เหนื่อยหรือ” เสียงทุ้มนุ้มกระซิบที่ข้างหูพลางขบเม้มหยอกล้อ“ข้าหนาว” กายบางสั่นสะท้านด้วยแรงลม“เช่นนั้นพวกเรากลับกันเถอะ” หวงหนิงหลงหยิบเสื้อคลุมของตนเองมาคลุมร่างเล็กแล้วโอบอุ้มขึ้นราวช่างเบาหวิวชายหนุ่มกระโดดลงจากหอดูดาวอย่างง่ายดายก่อนจะกระโจนไม่กี่คราก็มาถึงประตูหลังของหอเหลียงฮัว“ส่งข้าตรงนี้ก็พอ” ร่างเล็กรีบเอ่ยบอกด้วยเลยเวลาปิดทำการไปแล้ว หากคุณชายหวงเข้าไปพร้อมกันอาจทำให้แม่เล้าใหญ่ไม่พอใจหรือทำให้ชายอื่นเข้าใจผิดในตัวนางได้นาง
ตอนที่สิบเอาอกเอาใจคำชักชวนอย่างเอาใจใส่พลางจูงมือนุ่มไปนั่งลงป้อนอาหารพาให้ฮัวเฟยฮวาล่องลอย ด้วยที่ผ่านมามีแต่นางที่ต้องเป็นฝ่ายต้อนรับเอาใจ ไหนเลยจะมีชายหนุ่มเป็นฝ่ายมาเอาอกเอาใจนางบ้าง“เสื้อผ้าของเจ้าแม้สวยสดแต่ช่างบางนัก สถานที่ที่พวกเราจะไปค่อนข้างหนาวเย็น ไปเลือกซื้อหาอีกสักหลายชุดเถอะ” เสร็จจากอาหารการกิน คุณชายเจ้าบุญทุ่มก็พาสาวงามไปยังร้านเสื้อผ้าพลางเหมาเกือบหมดร้านจนใส่หีบแทบไม่หมด ต้องส่งกลับหอเหลียงฮัวไปบางส่วน"มีเสื้อผ้าแล้วย่อมต้องสวมเครื่องประดับเข้าชุดกัน” มือใหญ่โอบประคองร่างบางให้นั่งลงเลือกสร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหู หลากรูปแบบจนละลานตาผ่านการเอาอกเอาใจกว่าครึ่งค่อนวัน ขบวนเล็กๆจึงเริ่มออกเดินทางเพื่อไปถึงโรงเตี๊ยมข้างหน้าให้ทันตะวันตกดินทันทีที่นั่งในรถม้า ฮัวเฟยฮวาจึงซบลงออดอ้อนด้วยความซาบซึ้ง“คุณชายหวงช่างดีต่อข้านัก”“เช่นนี้ควรต้องมีรางวัลใช่หรือไม่”“ได้ คุณชายอยากได้สิ่งใดหรือ”&ld
ตอนที่สิบเอ็ด บรรเลงเพลงเมื่อได้แตะขอบสวรรค์พบความสุขสมแล้ว ทั้งสองชายหนุ่มหญิงสาวจึงพิงร่างเข้าซบกันอย่างอ่อนแรงเป็นจังหวะที่รถม้าออกตัวเคลื่อนที่อีกคราเฮ้อ...ช่างเป็นการเสพสุขที่ถึงอกถึงใจเสียจริงหญิงสาวครุ่นคิดในขณะที่แก่นกายใหญ่โตยังค้างคาเต้นตุ๊บๆอยู่ภายในร่องช่องทางโดยไม่ยอมทอดถอนออกของใหญ่นี่ดีเช่นนี้เองฮัวเฟยฮวาคิดถึงคำสอนของแม่เล้าใหญ่ซึ่งฝังจำอยู่ในสมองน้อยๆนางคณิกาที่โดดเด่นย่อมคือสตรีที่สามารถทำให้บุรุษลุ่มหลงจนขาดนางไม่ได้ เขาต้องไม่เป็นอันทำสิ่งใดนอกจากแวะเวียนมาหานาง หรือไถ่ถอนตัวนางไปครอบครองอาวุธลับที่สำคัญคือ ร่องรักของสตรีซึ่งมีทั้งสั้นยาว แม้จะขยายใหญ่กว้างได้ไม่มีสิ้นสุด แต่หากโดนของแข็งยาวใหญ่เกินไปอาจทำให้จุกเจ็บไม่อาจสุขสม แต่หากฝึกฝนจนชำนาญให้ไวต่อความรู้สึกย่อมสามารถควบคุมตอบสนองให้แท่งเนื้อตกอยู่ในห้วงกามาและตกเป็นทาสแห่งราคะเร่าร้อนได้ยิ่งหมั่นดูแลให้ช่องทางและเรือนกายหอมหวานน่ากลื
ตอนที่สิบสอง ลงโทษหรือหวงหนิงหลงใช้ความช่ำชองตวัดลิ้นเลียซ้ำๆไปยังติ่งสวาทเพื่อสร้างความรัญจวนหวานแก่กายบาง ติ่งเนื้อแน่นถูกดูดดุนดึงขึ้นจนสุดความยาวแล้วขบเม้มอย่างเอร็ดอร่อย“โอ้...อ้า...”ฮัวเฟยฮวาหรือจะเคยรู้สึกเช่นนั้น นางย่อมไม่คิดว่าการถูกเลียยังร่องน้ำฉ่ำจะเสียวจนแทบขาดใจเช่นนี้ยิ่งยามลิ้นร้อนกดแยงแหย่ลงยังร่องช่องทาง อีกทั้งตวัดไล่ไปมา นางถึงกับเผลอหยุดมือเด้งสะโพกส่งให้ถึงปากเพื่อให้เขาล้วงได้ลึกลงไปอีกชายหนุ่มใช้ความเชี่ยวชาญหลอกล่อจนเคลิ้มไหว ลิ้นอุ่นบดขยี้ติ่งเสียวหนักบ้างเบาบ้างเว้นจังหวะให้สาวงามรับรู้ความเสียวซ่าน ขณะนิ้วร้อนช่วยสอดส่ายปาดป่ายจ้วงแทงเข้าออกจนวาบหวิว“ซี้ดดดด อู๊ยยยย”เสียงหวานครางกระเส่าเล็ดลอดออกจากปากสีแดงสดด้วยถูกมอมเมาจากทั้งลิ้นทั้งปากจนทุรนทุราย ลิ้นร้อนยังเฝ้าละเลียดตวัดเกี่ยวสีชมพูระเรื่ออวบอิ่มซึ่งผลิบานแย้มกลีบให้ได้เชยชมฮัวเฟยฮวาถูกดูดเม้มรุกไล่จนเคลิบเคลิ้มเสียวซ่านไปถึงจิตวิญญาณลืมสิ้นว่าตนเองกำลังดีดผีผาบรรเ
ตอนที่สิบสามจัดหนักจัดเต็มหวงหนิงหลงพลิกร่างขึ้นด้านบนทันทีแล้วโหมกระหน่ำตอกกระแทกรัวเร็วเสียงดังสนั่นก้องสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน“โอ้วววว”ร่างแกร่งส่งเสียงคำรามในลำคอพร้อมกระสุนน้ำที่ฉีดพ่นออกมาเต็มพื้นศาลาสองร่างเปลือยนอนซุกซบกอดก่ายบนพื้นแข็งโดยไม่ใส่ใจความเลอะเทอะเปรอะเปื้อน“น้องเฟยเฟย เจ้าช่างเร่าร้อนจนทำให้พี่หลงใหลไม่อาจตัดใจได้อีกแล้ว”“พูดเช่นนี้ หมายความว่าคุณชายคิดจะตัดใจจากข้าหรือ” สาวงามซึ่งเพิ่งถึงฝั่งฝันส่งเสียงแง่งอนด้วยรู้สึกว่าเมื่อชายหนุ่มเสพสุขสมใจแล้วจึงคิดจะทอดทิ้ง“พี่มิได้หมายความเช่นนั้น น้องเฟยเฟยอย่าได้น้อยใจไปเลย ความหมายของพี่คือคงไม่อาจตัดใจจากเจ้าไปที่ใดได้” ชายหนุ่มรีบง้องอนด้วยการจุมพิตหวานปานน้ำผึ้งชายเจ้าสำราญอย่างเขาผ่านสตรีมามากมายตั้งแต่วัยละอ่อน ไม่ว่าร่องดอกไม้สดใหม่หรือช่องทางเคยคุ้นล้วนมุดลำเข้าออกมาจนนับไม่ถ้วนแต่สตรีที่ไม่ผ่านมาไม่เคยมีหญิงใดตอบสนองแท่งหยกใหญ่โตของเขาได้อย่างเหมาะเจาะเช
ตอนที่สิบสี่ หัวหน้าหญิง ผู้ใดจะคาดคิดว่าคนทั้งสามในกระโจมจะสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างเหมาะเจาะ พวกเขามอบประสบการณ์สุดลึกล้ำให้แก่กันจนเกือบฟ้าสางฮัวซินฮวาตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองนอนอยู่คนเดียวในรถม้าซึ่งกำลังวิ่งไม่หยุด หญิงสาวลุกขึ้นเปิดผ้าม่านมองข้างหน้าพบว่ามีแต่ต้นไม้ใบหญ้าไร้ผู้คน“ตื่นแล้วหรือ หิวหรือไม่” น้ำเสียงอ่อนโยนดังเข้ามาพร้อมชายร่างใหญ่ซึ่งขี่ม้ามาประกบด้านข้าง“หิวจนกินม้าได้ทั้งตัวแล้ว” หญิงสาวพูดตรงๆอย่างไม่เก็บอาการแง่งอน“ฮ่า ฮ่า อย่ากินม้าเลย ให้มันพาพวกเรากลับบ้านเถอะ เอาแผ่นแป้งปิ้งกับเนื้อย่างไปกินรองท้องเสียก่อน อีกครู่พวกเราจะพักที่ใกล้น้ำตก เจ้าจะได้อาบน้ำชำระล้างร่างกายแล้วปิ้งปลาย่างกินกัน”ฮัวซินฮวาได้ลงไปแหวกว่ายอาบน้ำอย่างสดชื่นโดยมีหนึ่งในฝาแฝดคอยยืนเฝ้าด้วยสายตาหื่นกระหาย โชคดีที่เขาไม่ได้ลงมารังแกนางต่อด้วยยังต้องเร่งรีบเดินทางหญิงสาวไม่คิดมาก่อนว่าปลาซึ่งจับมาเมื่อครู่หลังจากย่างไฟแล้วจะเอร็ดอร่อยเพียงนี้
ตอนที่สิบสาม แยกแยะพี่น้อง เซียนสุราสาวเหลียวหันด้วยความแตกตื่นเมื่อเริ่มรับรู้ว่ากำลังจะโดนกระทำสิ่งใดแต่ไม่อาจดิ้นรนหลีกหนีอย่านะ อย่าใส่เข้ามา ตายแน่ๆ รูก้นอันบริสุทธิ์ต้องฉีกขาดแหกกว้างด้วยท่อนลำใหญ่โตแน่ ชายหนุ่มตั้งหน้าตั้งตาหันไปหยิบขี้ผึ้งลื่นมาชโลมทาไปทั่วท่อนเนื้อใหญ่ก่อนจะจ่อเข้ากับช่องทางด้านหลังแล้วดันดุ้นลำอวบเข้าไปในรูหยักสีแดงเล็กจนสุดแรงทีเดียวจมหายไปทั้งลำ“โอ๊ยยยยยย” ฮัวซินฮวาร้องลั่นน้ำตาเล็ดด้วยความเจ็บซึ่งพุ่งเข้ามาโดยไม่คาดฝันแท่งเนื้อเข้าลึกสุดความยาวขณะรูเล็กโดนเสียบแทงด้วยทวนด้ามใหญ่จนทั้งเจ็บแสบทั้งเสียวซ่านไปพร้อมกันหญิงสาวดิ้นรนจะหลีกหนีด้วยรู้สึกอึดอัดจากสองลำเอ็นซึ่งคับแน่นคาสองร่องรูฮือๆๆๆ ใกล้ตายแล้ว โดนของใหญ่อัดพร้อมกันถึงสองท่อนขนาดนี้ตงต๋าหยางที่ด้านล่างรีบขยับแท่งเนื้อขึ้นลงเพื่อช่วยให้หญิงสาวได้ซ่านเสียว มือข้างที่ว่างอ้อมมาเขี่ยติ่งสวาทด้านหน้าจนร่างเล็กเกร็งกระตุกสั่นไม่หยุด ขณะท่อนกายอีกอันที
ตอนที่สิบสอง ทำพร้อมกัน มิน่า พวกเขาจึงถึกทนนัก เสร็จแล้วเสร็จอีกหลั่งน้ำออกมาราวกับไม่มีวันหมด ที่แท้ก็สลับตัวกันไปมานี่เอง ขี้โกงจริงๆ สองคนรุมนางคนเดียว สาวงามบนเตียงค้อนไปค้อนมาสายตาปะหลับปะเหลือก“เช่นนั้นพวกเราทำพร้อมกัน น้องซินซินจะได้มีเวลาพักบ้าง ดีหรือไม่”“หา...พร้อมกัน” หญิงสาวร้องออกมาด้วยความตกใจ ยังไม่ทันได้ตั้งหลักก็โดนชายหนึ่งในสองจับใบหน้าให้หงายขึ้นเพื่อรองรับการจุมพิตอย่างตะกละตะกลาม สองมือหนาช้อนรองเต้าตูมเต่งบดคลึงขยำขยี้ด้วยแรงอารมณ์ร้อนเขาน่าจะเป็นตงต๋าเหยา ด้วยเมื่อครู่นางเพิ่งกระแทกสอดใส่กับตงต๋าหยางจนเสร็จสม เขาคงยืนมองดูอยู่นานจนทนไม่ไหวชายหนุ่มไม่รีรอเลื่อนตัวลงด้านล่างแล้วล้วงควานน้ำกามาในร่องสวาทออกก่อนจะสอดท่อนลำของตัวเองเข้าไปจนเต็มร่องรู ชายหนุ่มจับเอวเล็กเอาไว้แล้วแทงท่อนเอ็นงัดขึ้นมากระแทกร่องอย่างเต็มแรงจนกายบางสั่นสะเทือน“โอ๊ยย เบาหน่อย”ฮัวซินฮวาเอ่ยได้แค่ไหนก็ต้องร้อ
ตอนที่สิบเอ็ด ทำอย่างอื่นกัน จนถึงจุดพักแรมซึ่งพอมีที่ทาง พวกเขาจึงสร้างกระโจมหลังหนึ่งเอาไว้ให้ฮัวซินฮวาได้พักผ่อนผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า “เรื่องเป็นอย่างไรมาอย่างไร เล่าได้หรือยัง” หญิงสาวเก็บความสงสัยไว้หลายวันไม่ได้พูดจาจนน้ำลายเริ่มบูดแล้ว “พวกเราทำอย่างอื่นกันก่อนแล้วค่อยเล่าเถอะ เรื่องมันยาว” มือไม้ของตงต๋าหยางเริ่มเลื้อยไล่ปลดเสื้อผ้าจนร่างบางเปิดเปลือย ฮัวซินฮวาไม่อยากยินยอมแต่เมื่อโดนเล้าโลมไม่นานก็อ่อนระทวยคล้อยตามไปจนได้ ร่างเล็กลืมตัวแอ่นกลีบดอกไม้ให้ชายหนุ่มได้กลืนกิน เพียงลิ้นร้อนรุกเลียสองกลีบก็เสียวสะท้านจนสั่นไหวยิ่งลิ้นอุ่นเลียปาดไปปาดมา เดี๋ยวไล่ไปด้านหน้าจนถึงเนินอูม เดี๋ยวลากผ่านไปเกือบถึงรูหยักด้านหลัง แล้ววกกลับมาบดเน้นติ่งเกสร หญิงสาวยิ่งบิดร่างเกร็งเร้าจนปวดท้อง
ด้วยราคะเร่าร้อน ตงต๋าหยางจึงกระหน่ำสอดใส่ตัวตนเข้าร่องสวาทอย่างหื่นกระหาย ทุกแรงกระแทกส่งท่อนเอ็นยาวครูดเน้นย้ำจุดกระสันด้านในจนเสียวซ่านแทบขาดใจ“อ๊ายยย ไม่ไหวแล้ว ซี้ดดดด”ฮัวซินฮวาถูกตอกย้ำจนสุดกลั้นเกร็งร่างสั่นกระตุกเห็นสวรรค์ชั้นฟ้าไปก่อนชายหนุ่มเร่งตอกท่อนเอ็นเข้าร่องคับแน่นจนเสียวซ่านปล่อยน้ำรักตามออกมาจนท่วมนองหญิงสาวนอนหอบหายใจถี่ทั้งยังหลับตาด้วยความเหน็ดเหนื่อย นางรู้สึกเพียงว่าชายหนุ่มด้านข้างลุกออกไปครู่หนึ่งก่อนจะกลับเข้ามาอีกคราผ้าอุ่นถูกจับเช็ดส่วนอ่อนนุ่มพร้อมล้วงควักน้ำกามาด้านในให้ไหลออกอืม...ดีจัง เสร็จกิจยังรู้จักดูแลหญิงสาวนอนยิ้มด้วยรู้สึกดีก่อนจะรู้ตัวอีกทีเมื่อขาเรียวถูกจับพาดไว้บนไหล่หนาแล้วชายหนุ่มขยับสะโพกเข้าหาร่องดอกไม้ซึ่งเริ่มบวมเป่งแล้วส่งท่อนกายแข็งเข้าไปโดยไม่บอกไม่กล่าว มือหนาประคองขาขาวเนียนเอาไว้แล้วเริ่มตอกกระแทกเร็วแรงจนตัวโยกโยนฮัวซินฮวานอนลืมตาขึ้นมองเห็นใบหน้าคร้ามแดดซึ่งตั้งอกตั้งใจทิ่มแทงดุ้นลำเข้าใส่ความชุ่มฉ่ำโดยแทบไม่มองหน้า เขาจับขาขาวขึ้นสูงเ
"พวกเราจะมีชีวิตที่อิสระ เป็นที่นับถือของผู้คนในเผ่า ไม่ต้องคร่ำเคร่งเหน็ดเหนื่อย หากเจ้าอยากหมักสุรา ย่อมทำได้ตามอำเภอใจ พี่จะช่วยเจ้าขายหาเงินมาซื้อของที่เจ้าอยากได้ ไม่ว่าเรื่องใดขอให้ไว้ใจ พี่จะจัดการให้เจ้าทุกเรื่อง"ฮัวซินฮวานอนเคลิบเคลิ้มไปกับคำหวานและลีลาเร่าร้อนซึ่งค่อยๆคืบคลานมาทีละน้อย นี่ไม่ใช่ชีวิตในฝันที่เธออยากได้หรอกหรือ ชีวิตที่ไม่ต้องทำงานเช้าจรดค่ำ ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน แล้วยังไม่ได้ใช้เงินที่ตัวเองหามา ชีวิตที่มีผู้ชายที่ทั้งรักและจริงใจคอยดูแลปกป้อง ที่สำคัญคือ ชีวิตที่ได้เสพสุขอย่างเต็มอิ่มโดยไม่ต้องซื้อกิน
เอาล่ะ ฮัวซินฮวา เจ้าฟังให้ดี ข้าตงต๋าหยางชื่นชอบเจ้ามาก คราแรกอาจด้วยรูปร่างหน้าตาซึ่งดึงดูดแต่แรกเห็น ยิ่งได้พบว่าเจ้ามีหลายอย่างที่ไม่เหมือนสตรีทั่วไป ข้ายิ่งชอบมากขึ้นเรื่อยๆ จนตัดสินใจยื่นมือแสดงตัวตนออกมาเจ้าดื่มสุราได้เก่งมาก นั่นช่างเหมาะกับข้านัก คนนอกด่านอย่างพวกเราอยู่ในสถานที่หนาวเย็นจึงดื่มสุราต่างน้ำมาตั้งแต่เยาว์วัยเจ้าไม่ใช่สตรีเหยาะแหยะน่ารำคาญ พูดจาตรงไปตรงมา เด็ดขาดมีความจริงใจ แล้วยังมีเหตุมีผล เอาเป็นว่า ทุกอย่างที่เป็นเจ้าล้วนถูกใจข้าดังนั้น ฮัวซินฮวา เจ้าไปอยู่กับข้าเถอะ”ได้ฟังคำป้อยอ หญิงสาวทุกคนย่อมรู้สึกดี แต่เซียนสุราสาวกลับยังไม่ไว้เนื้อเชื่อใจชายซึ่งเพิ่งพบหน้าไม่นาน“พูดง่ายเกินไปหรือไม่” แม้จะรู้สึกดีที่มีชายมาสารภาพรัก แต่ฮัวซินฮวาเป็นสาวงามซึ่งยังมีทางเลือกมากมาย ชายนอกด่านคนหนึ่งหรือจะคู่ควรตอนที่เก้า หนาวหรือ“เจ้าอาจยังลังเลใจ เอาเป็นว่า ข้าจะค่อยๆแสดงตัวตนให้เจ้าเห็นความจริงใจ จากนั้นค่อยตัดสินใจอีกคราแต่ยามนี้พวกเราคงต้
ตอนที่แปดหนีไปแล้ว สาวใช้คนสนิทเห็นด้วยกับการไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องยุ่งยากอีกทั้งยังเสนอที่จะนำเรื่องไปบอกกล่าวแก่แม่เล้าใหญ่เพื่อให้ระวังคืนต่อมา ฮัวซินฮวาจึงพยายามเลี่ยงจากทั้งคุณชายอู๋และคุณชายซินซึ่งมุ่งมั่นจะเข้ามาใกล้อย่างตั้งอกตั้งใจตงต๋าหยางช่วยเหลืออย่างที่รับปากโดยพาพรรคพวกเข้ามาเหมาจองเวลาของเซียนสุราสาวเอาไว้ทั้งหมด พวกเขายึดพื้นที่ภายในห้องจนแน่นขนัดนั่นจึงทำให้สองคุณชายซึ่งพลาดจากได้ใกล้ชิดสาวงามยืนโต้เถียงกันหน้าดำหน้าแดงอยู่ด้านหน้าห้องร่ำสุราอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใครองครักษ์ซุนพยายามงัดให้คุณชายอู๋อ้าปากคายความลับเรื่องอัญมณีออกมาให้ได้ส่วนคุณชายอู๋ซึ่งรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง ย่อมรู้สถานการณ์พูดจาหลบเลี่ยงอย่างช่ำชองพลางโยนความสงสัยไปให้เซียนสุราฮัวซินฮวาอย่างตั้งใจทันทีที่คนของตงต๋าหยางเข้ามารายงาน เซียนสุราสาวถึงกับขว้างจอกสุราสบถหยาบคายก่นด่าคุณชายอู๋อย่างไม่ไว้หน้าผิดกับท่าทางออดอ้อนอ่อนหวานซึ่งแสดงออกยามต้อนรับแขกเหรื่อ“ไอ้คนไร้ยางอาย ขี้ขลาดตา
ตอนที่เจ็ด อัญมณีศักดิ์สิทธิ์ “เจ้าไม่ใช่คนของแคว้นเราหรอกหรือ” หญิงสาวถามขัดขึ้น“มิใช่ พวกเรานับเป็นคนนอกด่าน ไม่ขึ้นตรงกับแคว้นใดแคว้นหนึ่ง อาศัยอยู่รายล้อมภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อพิทักษ์ปกป้องรักษา” ชายหนุ่มเชิดหน้าบ่งบอกความภาคภูมิใจเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้ซักถามอีก ตงต๋าหยางจึงเล่าต่อ“พวกเราเฝ้าติดตามอัญมณีอยู่นานกว่าจะได้รู้ว่ามีคนใจกล้าขโมยออกมาจากคลังหลวงได้แล้ว พวกเขาไม่อาจทำเป็นเรื่องใหญ่ด้วยอัญมณีไร้ที่มา จึงได้แต่ส่งคนออกตามหาองครักษ์ซุนคือคนที่วังหลวงส่งให้ติดตามพวกหัวขโมยมาจนถึงที่นี่ แต่ทุกสิ่งกลับหายไปโดยไร้ร่องรอย”“อัญมณีถูกซ่อนอยู่ที่นี่หรือ” ฮัวซินฮวาถามด้วยความสงสัย“อาจจะใช่ หรืออาจจะไม่ใช่ คนที่พวกเราสงสัยคือคุณชายอู๋ผู้ซึ่งเป็นแขกประจำของเจ้า เขาเพิ่งโผล่มาเมื่อเดือนก่อนและซุกตัวอยู่ที่นี่เกือบทุกวันใช่หรือไม่”“อืม...ใช่”“ความจริงเขาเป็นยอดฝีมือแน่ แต่จะนำอัญมณีไปซ่อนไว้ที่