“ผมหลินเฟิงไม่ใช่คนที่ไม่ตอบแทนบุญคุณ บอกมาเถอะ ช่วงนี้คุณพบเจอปัญหายุ่งยากอะไรหรือเปล่า ถ้าผมสามารถช่วยได้ ก็จะช่วยคุณอย่างแน่นอน”“แต่คุณก็ต้องสัญญาด้วยว่า จะเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโฮมสเตย์ของผม”รอยยิ้มของหลินเฟิงทำให้ความสงสัยในแววตาของอิ่นนั่วเจียค่อย ๆหายไปรอยยิ้มที่แสร้งว่าเข้มแข็งบนใบหน้าของเธอ ก็ค่อย ๆกลายเป็นความกลัดกลุ้ม“คุณหลิน เรื่องนี้คุณก็ช่วยฉันไม่ได้”“แต่ ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนอะไร”“ดังนั้นฉันก็จะเล่าเรื่องที่พบเจอในช่วงนี้ให้คุณฟัง พร้อมกับเป็นการระบายอารมณ์ส่วนตัวของฉันด้วย”อิ่นนั่วเจียดื่มเหล้าอีกแก้วจากนั้น เธอก็เริ่มพูดถึงเรื่องราวที่พบเจอในช่วงนี้ให้หลินเฟิงได้ฟังปรากฏว่าอิ่นนั่วเจียไม่เพียงแต่จะไม่กลั่นแกล้งคนอื่นในที่ทำงานแล้ว แต่กลับเป็นเธอเองที่ถูกรังแกในที่ทำงานบริษัทที่เธอทำงานอยู่คือเล่อเจียเอ็นเตอร์เทนเม้นท์จำกัด เจ้าของบริษัท คือ หูตัวโหย่ว ซึ่งถือเป็นมหาอำนาจเล็ก ๆในหัวตงและหูตัวโหย่วคนนี้ก็อยากจะได้ร่างกายของอิ่นนั่วเจีย เรื่องนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นในวันสองวันจนกระทั่งก่อนหน้านี้ที่หลินเฟิงพบกับอิ่นนั่วเจียกันครั้งแรก ที่หลินเฟิงเอาชนะคน ๆ
เหยาปินนั่งลงแล้วดื่มเหล้าอึกใหญ่ ถึงได้ผ่อนคลายลง ก่อนจะมองไปทางหลินเฟิง“เกี่ยวกับคุณอิ่นนั่วเจีย”“อะไร? อิ่นนั่วเจีย? ซูเปอร์สตาร์ของประเทศมังกรงั้นเหรอ?” เหยาปินมองอิ่วนั่วเจียอย่างตะลึงงัน ด้วยสายตาที่ไม่สามารถอธิบายอะไรได้“ทำไม พวกคุณรู้จักกันเหรอ?” หลินเฟิงเอ่ยถามอย่างสงสัย“ไม่ใช่ ฉันไม่รู้จักคุณชายท่านนี้”อิ่นนั่วเจียส่ายหน้าปฏิเสธ“ฮาฮา พวกเราไม่รู้จักกันหรอก เพียงแต่บังเอิญนิดหน่อย”เหยาปินยิ้ม ก่อนจะพูดว่า “คนที่ผมไล่ตามเมื่อสักครู่ ก็คือนักบัญชีจางจากบริษัทนายหน้าของคุณอิ่นนั่วเจียคนนี้”“เกิดอะไรขึ้น?”หลินเฟิงเริ่มสนใจ และเอ่ยถามขึ้นอย่างรวดเร็ว“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็แค่นักบัญชีจางยักยอกเงินหลวงและช่วยเจ้านายเปิดบัญชีปลอม ส่งผลให้บริษัทที่ถูกซื้อกิจการอย่างไม่ถูกต้อง”เหยาปินยิ้มแล้วพูดว่า “นิติบุคคลของบริษัทนี้ชื่อว่าหูตัวโหย่ว เขาหนีไปแล้ว ทิ้งไว้แค่นักบัญชีแบบนี้ให้รับโทษ”“อะไรนะ?”เมื่อได้ยินประโยคนี้ อิ่นนั่วเจียก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะมองไปทางเหยาปินอย่างไม่อยากจะเชื่อและพูกว่า “นี่...คุณ...เหยา เล่อเจียเอ็นเตอร์เทนเม้นท์จำกัดไม่ได้ถูกบริษัทตระกูลซ
เมื่อได้ยินคำแนะนำของหลินเฟิง อิ่นนั่วเจียก็ตกตะลึงไปทันทีเธอคิดไม่ถึงจริง ๆเลยว่า หลินเฟิงจะมีความมั่นใจในการต่อสู้กับตระกูลซือหม่า?แน่นอน ว่าสิ่งที่เธอคาดไม่ถึงอีกเรื่องก็คือ หลินเฟิงยังจะไปล่วงเกินตระกูลหลงในเวลาเดียวกันอีกด้วย?หลินเฟิงไม่ได้สนใจสายตาตกตะลึงของอิ่นนั่วเจีย และสยังคงวางแผนต่อไปว่า “ผมวางแผนที่จะสร้างโฮมสเตย์บริเวณชานเมืองเจียงโจว ให้เป็นสวนแบบระบบนิเวศ”“ถึงขนาดสามารถก่อสร้างเป็นโรงถ่ายภาพยนตร์และโทรทัศน์แบบธรรมชาติได้”“มีคุณ ราชินีวงการภาพยนตร์แห่งเมืองจิงคนนี้ที่คนลงมือด้วยตัวเอง ผมก็สามารถลงทุนในการถ่ายทำภาพยนตร์ให้แก่คุณได้เช่นกัน และการถ่ายทำก็ทำภายในโฮมสเตย์ของผมเอง”“ถือโอกาสให้มคุณทำงานฟาร์มธรรมดา ๆบ้าง อย่างเช่น การปลูกและเก็บชา เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีกับผู้คน และยังสามารถโปรโมตโฮมสเตย์ของผมได้อีกด้วย” “ ถึงตอนนั้นก็ยังสามารถดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปและกลุ่มทัวร์ได้ เพียงแต่จะต้องลำบากคุณให้ทำงานเพิ่มอีกสักหน่อย.....”สมองของหลินเฟิงกำลังวิ่งอย่างรวดเร็ว โดยที่ปากก็ยังแจกแจงคำพูดเกี่ยวกับแนวคิดต่าง ๆภายในสมองของเขาสิ่งนี้ทำให้สายตาของอิ
ถึงขั้นที่ในใจของเธอรู้สึกเฝ้ารอเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นแต่สุดท้ายหลินเฟิงเพียงแค่พาเธอกลับไปส่งที่คฤหาสน์หรูของเธอเท่านั้นจริง ๆนี่จึงทำให้ลึก ๆ ในใจของอิ่นนั่วเจียเกิดความผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเธอครุ่นคิดถึงเหตุผลของความผิดหวัง ทันใดนั้นก็ทำให้เธอเขินอายจนหน้าแดง และล้มคว่ำไปบนเตียงไม่กล้าเงยหน้าเมื่อออกมาจากคฤหาสน์หรูของอิ่นนั่วเจีย หลินเฟิงก็อารมณ์ดีอย่างมากเขาเดินทางไปที่เมืองหนิงโจว ตัวเองได้รับแก่นสารจวี้คังมา สามารถทำตามสัญญาที่จะสร้างโฮมสเตย์ให้เป็นจริงได้ ถึงขั้นที่เกินความต้องการและก็ดึงอิ่นนั่วเจียมาเข้าร่วมได้อาศัยสถานการณ์ในช่วงนี้ โฮมสเตย์ของเขาไม่อยากมีชื่อเสียงก็ไม่เป็นไปไม่ได้แต่ความคิดบางอย่าง ต้องรอให้หลินเฟิงกลับไปยังจุดสูงสุดแล้วค่อยพิจารณาดังนั้นหลังออกมาจากคฤหาสน์หรูของอิ่นนั่วเจีย หลินเฟิงก็โทรศัพท์ไปหาหลี่ฮุ่ยหรานก่อน บอกเธอว่าเรื่องของอิ่นนั่วเจีย เขาได้จัดการแล้วไม่รอให้หลี่ฮุ่ยหรานถามรายละเอียด หลินเฟิงก็วางสายไป และขับรถไปที่สำนักไป๋เกาที่นอกสำนักไป๋เกา หลินเฟิงไม่ได้เห็นรถมายบัครุ่นเดียวกับของตัวเอง ดูท่าวันนี้จางเจียหนิงไม่ได้มาทำงาน
“พรวด!”เหมือนกับได้ยินเสียงคำรามของหลินเฟิง ภายในจุดตันเถียน จู่ ๆ ปรากฏหยดน้ำเขียวมรกขึ้นมาหนึ่งหยดหลินเฟิงตกตะลึงอย่างมาก ถ้าหากมีสิ่งของปะปนเข้าไปในจุดตันเถียนจะไม่ดีแน่ แต่ไม่นานนัก เขาก็วางใจแล้วเพราะว่าหยดน้ำนี้ไม่ใช่สิ่งอื่นใด เป็นพลังชี่แท้บริสุทธิ์ที่อยู่ภายในร่างกายของหลินเฟิงกำลังภายในค่อย ๆ แปรเปลี่ยนจากระดับเซียนเทียนเป็นพลังชี่แท้และหลังจากที่ผู้อยู่ในระดับเซียนเทียนเข้าสู่แดนแปรเทพ สุดท้ายกลายเป็นพลังชี่แท้ที่มีลักษณะคล้ายของเหลวถ้าหากพูดว่ากำลังภายในที่เปลี่ยนเป็นพลังชี่แท้สามารถฆ่าคนที่อยู่ไกลออกไปสิบก้าวได้ ส่วนพลังชี่แท้ที่เป็นของเหลวนี้ กลับมีประสิทธิภาพที่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าใจได้ไม่เพียงระยะของพลังชี้แท้ที่ปล่อยออกมาจากร่างกาย แต่พละกำลังของชี่แท้ที่ปล่อยออกมานั้นก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ถึงขั้นที่พลังชี่แท้ของเหลวที่วิชานิ้วส่งอกไป สามารถโจมตีทะลุแผ่นเหล็กที่อยู่ห่างออกไปร้อยเมตร น่ากลัวยิ่งกว่ากระสุนปืนธรรมดาเสียอีกพูดได้ว่าเป็นซูเปอร์แมนที่แท้จริงสัตว์ประหลาดรูปร่างมนุษย์หลังจากที่ชี่แท้เหลวที่อยู่ภายในร่างกายของหลินเฟิงยิ่งอยู่ยิ่งม
กลับกันนั้น ยายืดอายุขัยสีเขียวโปร่งใสหนึ่งหม้อก็ถูกเขาเก็บใส่ขวดทำทุกอย่างนี้เสร็จ หลินเฟิงถึงได้โล่งอกอย่างถึงที่สุดมองดูสีท้องฟ้าข้างนอก เป็นช่วงกลางดึก มีดวงดาวเต็มไปหมดแล้วและห้องของเขา ไม่เพียงบนผนังมีรูขนาดใหญ่ที่มีลมรั่ว เฟอร์นิเจอร์ทั้งบ้านก็พังทลาย ไม่มีสักชิ้นที่สมบูรณ์แบบหลินเฟิงเดินออกไปข้างนอก พบว่าภายในบ้านเงียบสงบ ไม่มีใครสักคนมีเพียงกระดาษโน้ตที่หลี่ฮุ่ยหรานทิ้งเอาไว้เธอกลัวจะรบกวนหลินเฟิง ดังนั้นคืนนี้จึงไปพักที่โรงแรมพร้อมกับหลินเสวี่ยฮุ่ยและคนอื่น ๆในตู้เย็นมีอาหารที่จ้าวเฉียวอวิ๋นตั้งใจทำให้เขามองดูกระดาษโน้ตนี้ หลินเฟิงทั้งรู้สึกซาบซึ้งและก็หลุดยิ้มออกมา ในใจมีความรู้สึกอบอุ่นจากการมีครอบครัวที่แท้จริงหลินเฟิงยืดกล้ามเนื้อเล็กน้อย ทั่วทั้งตัวเสียงดังกร่อบแกร่บเขาเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ เมื่อออกมา ก็หยิบอาหารที่จ้าวเฉียวอวิ๋นเตรียมเอาไว้ออกมา และเริ่มกลืนกินเข้าไปในตอนที่หลินเฟิงทานอาหาร จู่ ๆ เขาก็นึกอะไรได้ จากนั้นก็ค้นหาโทรศัพท์ของตัวเองภายในห้องที่เละเทะยังดีที่ ถึงแม้หน้าจอโทรศัพท์จะแตก แต่อย่างน้อยก็ไม่ส่งผลทบต่อการที่หลินเฟิงมองดูหน้าจอ
“คุณ…ไร้ยางอาย!”อินนั่วเจียถึงแม้จะด่าทอเสียงดัง แต่ในใจกลับหวาดกลัวถึงที่สุดอาชีพการแสดงของเธอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รักษาของเขตของตัวเองมาโดยตลอด ให้เธอไปถ่ายหนังสิบแปดบวก ไม่สู้ฆ่าเธอโดยตรงไปเลย“ไร้ยางอายหรือไม่ หลังจากที่คุณได้ลิ้มลองรสชาติของผู้ชาย คุณก็จะเข้าใจแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า…”ซือหม่าเหวินเงยหน้าหัวเราะเสียงดัง จากนั้นก็เข้าไปดึงอิ่นนั่งเจียมาอยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง จากนั้นยื่นมือออกไป เตรียมตัวทำเรื่องที่ไม่ดีแต่ในตอนนั้นเอง หน้าต่างที่อยู่ข้าง ๆ แตกหัก หินกรวดขนาดเท่านิ้วโป้งกระแทกหน้าต่าง ลอยเข้ามาในบ้านกะทันกันกระแทกเข้ากับฝ่ามือของซือหม่าเหวินพอดี โดยไม่บิดเบี้ยวแม่แต่นิเ“อ้าก!”หลังจากเสียงกระดูกหักดังขึ้นซือหม่าเหมินกุมข้อมือของตัวเองที่มีเลือดสดไหลออกมา และส่งเสียงร้องโหยหวนเหมือนหมูถูกเชือด“เกิดอะไรขึ้น?!”บอดี้การ์ดของตระกูลซือหม่าเจียที่เฝ้ารักษาความปลอดภัยอยู่ที่นอกคฤหาสน์จองอินนั่วเจีย ได้ยินเสียงกระจกแตก และก็ได้ยินเสียงร้องอนาถของคุณชายของเขา จึงนีบพุ่งเข้ามาแต่ว่าพวกเขาเห็นแค่เลือดสดที่อยู่บนพื้น และซือหม่าเหวินที่กุมข้อมือร้องอนาถอยู่“ถูกลอบโ
“ปึง!”เพื่อที่จะทำเวลา หลินเฟิงถีบกำแพงของคฤหาสน์จะเป็นรูขนาดใหญ่ เขากลับเดินเข้าไปภายในคฤหาสน์ผ่านกำแพงที่พังทลาย และมีฝุ่นควันเกิดขึ้นซือหม่าเหวินกับอิ่นนั่วเจียก็อยู่ตรงนี้กำแพงอิฐแตกหัก ควันลอยไปทั่ว ดวงตาสีทองคู่หนึ่งปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของอิ่นนั่วเจียที่กำลังกรีดร้องอยู่“คุณอิ่นนั่วเจีย ไม่ต้องกลัวครับ ผมมาช่วยคุณแล้ว”ได้ยินเสียงที่อ่อนโยนแบบนี้ ความหวาดกลัวที่อยู่ในใจของอิ่นนั่วเจียลดลงในทันทีเธอมองไปทางร่างสูงใหญ่ที่เข้ามาจากกำแพงแตกหัก รูม่านตาก็หดลงทันที คนที่เข้ามาก็คือคุณหลินเฟิง“คุณ…คุณหลินเฟิง…”อิ่นนั่วเจียไม่กล้าที่จะเชื่อ“อืม ผมเอง”หลินเฟิงถือโอกาสในตอนที่วุ่นวาย ก็เข้ามปกป้องอิ่นนั่วเจียไว้ข้างกายคราวนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าเธอจะถูกจับเป็นตัวประกันหลินเฟิงตรวจสอบเล็กน้อย ก็ถือว่าโล่งออกแล้วถึงแม้หุ่นที่งดงามมีเสน่ห์น่าสนใจของอิ่นนั่วเจียจะถูกห่อด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว แต่ก็ยังดี หลินเฟิงไม่เห็นว่าเธอถูกซือหม่าเหวินย่ำยี ดูท่าเขามาได้ทันเวลาพอดี“นายเป็นใครกัน? ทำไมถึงกล้าบุกเข้ามาในถิ่นของตระกูลซือหม่าของฉัน แถมยังทำให้มือของคุณชายตระกูลซือของพวกเร