“ปึง!”เพื่อที่จะทำเวลา หลินเฟิงถีบกำแพงของคฤหาสน์จะเป็นรูขนาดใหญ่ เขากลับเดินเข้าไปภายในคฤหาสน์ผ่านกำแพงที่พังทลาย และมีฝุ่นควันเกิดขึ้นซือหม่าเหวินกับอิ่นนั่วเจียก็อยู่ตรงนี้กำแพงอิฐแตกหัก ควันลอยไปทั่ว ดวงตาสีทองคู่หนึ่งปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของอิ่นนั่วเจียที่กำลังกรีดร้องอยู่“คุณอิ่นนั่วเจีย ไม่ต้องกลัวครับ ผมมาช่วยคุณแล้ว”ได้ยินเสียงที่อ่อนโยนแบบนี้ ความหวาดกลัวที่อยู่ในใจของอิ่นนั่วเจียลดลงในทันทีเธอมองไปทางร่างสูงใหญ่ที่เข้ามาจากกำแพงแตกหัก รูม่านตาก็หดลงทันที คนที่เข้ามาก็คือคุณหลินเฟิง“คุณ…คุณหลินเฟิง…”อิ่นนั่วเจียไม่กล้าที่จะเชื่อ“อืม ผมเอง”หลินเฟิงถือโอกาสในตอนที่วุ่นวาย ก็เข้ามปกป้องอิ่นนั่วเจียไว้ข้างกายคราวนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าเธอจะถูกจับเป็นตัวประกันหลินเฟิงตรวจสอบเล็กน้อย ก็ถือว่าโล่งออกแล้วถึงแม้หุ่นที่งดงามมีเสน่ห์น่าสนใจของอิ่นนั่วเจียจะถูกห่อด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว แต่ก็ยังดี หลินเฟิงไม่เห็นว่าเธอถูกซือหม่าเหวินย่ำยี ดูท่าเขามาได้ทันเวลาพอดี“นายเป็นใครกัน? ทำไมถึงกล้าบุกเข้ามาในถิ่นของตระกูลซือหม่าของฉัน แถมยังทำให้มือของคุณชายตระกูลซือของพวกเร
“คุณปู่สาม ผมรู้แล้ว ผมรู้แล้ว!”ในตอนนี้เอง ซือหม่าเหวินกุมข้อมือของตัวเองที่มีเลือดไหลออกมา แล้วกัดฟันกลั้นความเจ็บปวดพูดขึ้น:“วันนี้เบื้องบนมีคนมารายงาน บอกว่าตระกูลซือหม่าของพวกเรารับซื้อเล่อเจียเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ไม่สำเร็จ”“เพราะมีคนแจ้งปัญหาเรื่องปัญชี”ซือหม่าเหวินมองไปทางหลินเฟิงที่มีสีหน้านิ่งเฉยด้วยความดุดัน และพูดอย่างโมโห: ”คนที่รับซื้อเล่อเจียเอ็นเตอร์เทนเม้นท์แทนพวกเรา ก็คือบริษัทเล็ก ๆ ที่ชื่อหลี่ซื่อกรุ๊ป”“ส่วนชื่อผู้บริหารหลี่ซื่อกรุ๊ป ผมก็เห็นว่ามีคนหนึ่งชื่อหลินเฟิง!”“หือ?”ชายชราชุดถังขมวดคิ้ว และมองไปทางหลินเฟิง“หลานชายของฉันรับซื้อบริษัทเล่อเจียแต่ถูกขัดขวาง หรือว่าจะเป็นฝีมือของนาย?”“สาม”หลินเฟิงไม่ได้ตอบกลับด้วยซ้ำ และนับเลขสามออกมาด้วยสีหน้านิ่งเฉยต่อไป“สารเลว!”ชายชราชุดถังจวงเพิ่งจะเคยโดนคนดูถูกแบบนี้เป็นครั้งแรกเขาในฐานะยอดฝีมือระดับเซียนเทียนของเมืองจิง อยู่อันดับที่สามสิบกว่าของลำดับสวรรค์ ถือว่าบรรลุถึงขั้นความสำเร็จสูงสุดแล้วตอนนี้ กลับถูกคนในเมืองเล็ก ๆ แบบนี้ดูถูกชายชราชุดถังจวงก็โมโหทันที:“ไอ้หนุ่มที่ชื่อหลินเฟิง เรื่องมาจนถ
“คุณเนี่ยนะ?”หลินเฟิงไม่ได้ถอยออกไป แต่กลับเดินเข้าไปยังทิศที่ซือหม่าจัวโจมตี“กำลังภายในปล่อยไปยังหยวนหยาง ใช้จุดหยวนหยางปลดปล่อยชี่แท้ จากนั้นก็เพิ่มแรงให้หมัดตัวเอง”“วิชาบู๊มีความเก่งกาจอยู่บ้าง แต่นายอ่อนแอเกินไป” หลินเฟิงส่ายหน้าด้วยความเสียดาย แค่แวบเดียวเขาก็เห็นถึงจุดหลักวิชาบู๊ของซือหม่าจัวแล้วนี่ยิ่งทำให้ซือหม่าจัวโมโหยิ่งกว่าเดิม“ไอ้หนุ่ม ตายไปซะ!”ซือหม่าจัวคำรามเหมือนจะให้คฤหาสน์สั่นสะเทือนจนพลังทลายลง บนกำปั้นนอกจากแสงสีทองแล้ว ก็ยังส่งเสียงทะลวงลมออกมาอีก“นี่ก็คืออันดับที่สามสิบของลำดับสวรรค์อย่างนั้นเหรอ? ชิ…ลำดับสวรรค์ในตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถติดอันดับได้จริง ๆ ด้วย”หลินเฟิงกำลังพูดกับตัวเอง แต่ซือหม่าจัวเหมือนได้รับความเหยียดหยาม“หมัดหยวนหยาง…ควรจะใช้แบบนี้ ดูให้ดีล่ะ!”หลนเฟิงเห็นว่าหมัดลมนั้นจะมาถึงแล้ว ก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นด้วยความเอ้อระเหยอีกต่อไป แต่กลับยกฝ่ามือของตัวเองขึ้น และกำนิ้วมือเป็นหมัดทันใดนั้น พลังชี่แท้เหลวสีทองก็พรั่งพรูออกมจากหมัดของหลินเฟิงจนกระทั่งบนหมัดของหลินเฟิงเกิดเป็นหัวเสือสีทองอย่างเรือนราง“โฮก!”หัวเสือสีทองที่เ
เหล่าบอดี้การ์ดก็ไม่กล้ารีรอ รีบสตาร์ทรถ กลัวว่านักบู๊แดนแปรภาพคนนั้นจะตามออกมา และกำราบพวกเขาจนสิ้นซาก“นักบู๊แดนแปรภาพ…นึกไม่ถึงว่าจะเป็นนักบู๊แดนแปรภาพ?”ซือหม่าเหวินที่อยู่บนรถยังคงรู้สึกหวาดกลัวอยู่ แต่ขณะเดียวกันในใจของเขาก็เกิดความแค้นที่รุนแรงนักบู๊แดนแปรภาพ พวกเขาตระกูลซือหม่าไม่ใช่ว่าไม่มีสักหน่อยแต่นักบู๊ที่มาถึงขั้นนี้ได้ นั่นมันเหมือนกับมังกรหงส์ในหมู่คน หนึ่งในหมื่น ไม่ใช่คนที่เขาคุณชายรองของตระกูลซือหม่าจะสั่งการได้ด้วยซ้ำนอกจากว่ามีคำสั่งของผู้นำตระกูล ไม่อย่างนั้นพวกยอดฝีมือแดนแปรภาพเหล่านี้ในเวลาปกติแล้วไม่มีทางลงมืออย่างแน่นอน“เอือกเอือกเอือก…”ในตอนนี้เอง จู่ ๆ ซือหม่าเหวินได้ยินเสียงครวญครางติด ๆ ขัด ๆ ที่นอกหน้าต่างรถในตอนนี้พวกเขาขับออกมาไกลจากคฤหาสน์ของอิ่นนั่วเจียพอสมควรแล้วซือหม่าเหวินรีบสั่งให้คนขับรถจอดรถ ส่วนเขาก็รีบลงจากรถ และค้นพบอย่างประหลาดใจว่า ในตอนนี้ซือหม่าจัวที่อยู่บนหลังคารถยังมีชีวิตอยู่ถึงแม้กระดูกจะหักหมด เส้นลมปราณก็ฉีกขาด แต่กลับยังมีเค้าลางชีวิตอยู่อย่างน่ามหัศจรรย์ถ้าหากช่วยเหลือได้ทันเวลา จะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปได้แน่นอน
“ผมจะแก้แค้นแทนคุณปู่ครับ!”“หลินเฟิงคนนั้น ผมจะให้เขาตายโดยไร้ที่ฝังศพอย่างแน่นอน”ซือหม่าจัวเลือดไหลออกจากปาก เขาจ้องมองซือหม่าเหวินอย่างแน่วแน่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหลานชายที่ตัวเองรักและเอ็นดูมากว่าครึ่งชีวิต จะหันกลับมาฆ่าเขาเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองนี่มันเหลวไหลเกินไปแล้ว!แต่ต่อให้ซือหม่าจัวคิดอย่างไร ตอนนี้เขาก็ไม่มีแรงต่อต้านใด ๆ แล้วส่วนซือหม่าเหวินมองดูคุณปู่สามของตัวเองถูกต่อให้ถูกแทงจนถึงชีวิตแต่ก็ไม่ได้ตายไปในทันที ทันใดนั้นความดุดันก็ปรากฏออกมาเขาดึงมีดกริชออก และก็แทงไปที่หน้าอกของปู่อีกครั้ง“พรวดพรวด!”เลือดสดไหลออกมาเหมือนกับซือหม่าเหวินอยากจะระบายความอัดอั้นตันใจไปที่ตัวของคุณปู่ของเขา เขาใช้มีดกริชแทงไปที่ตัวของซือหม่าจัวไม่หยุดราวกับเป็นบ้าไปแล้วถึงขั้นที่ด่าทออย่างเหี้ยมโหด: “ไอ้แก่ไร้ประโยชน์ เป็นเพราะแกไร้ประโยชน์แบบนี้ ถึงกับสู้นักบู๊ที่อายุสามสิบไม่ได้ด้วยซ้ำ ทำให้ฉันเหมือนกับหมาไร้เจ้าของ!”“แกมันสมควรตาย! สมควรตาย! สมควรตาย!”สุดท้ายซือหม่าเหวินก็แทงมีดกริชไปที่หน้าผากของซือหม่าจัว สุดท้ายก็เสร็จสิ้นการระบายของตัวเองส่วนซือหม่าตัว ใน
อิ่นนั่วเจียไม่กล้าพักอยู่ที่คฤหาสน์ของตัวเองต่อไปแล้วเธอกลัวว่าหลังจากหลินเฟิงกลับไป ตระกูลซือหม่าก็จะวกกลับมาอีก ดังนั้นเธอจึงเสนอที่อยากจะไปพักที่โรงแรมแต่เพื่อความปลอดภัยของเธอ หลังจากหลินเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็เป็นฝ่ายเชื้อเชิญเธอกลับมาหลบซ่อนที่อ่าวเทียนสุ่ยระยะหนึ่งก่อนในเมื่อหลังจากนี้ยังต้องร่วมมือเรื่องฟาร์มกับหลินเฟิงอีก อีกทั้งอยู่ใกล้หลินเฟิง ก็ไม่มีทางเกิดเรื่องเหมือนในวันนี้ว่าไปแล้ววันนี้ก็อันตรายมากจริง ๆถ้าหากหลินเฟิงไม่ได้มาทันเวลา เกรงว่าอื่นนั่วเจียคงถูกซือหม่าเหวินย่ำยีสำเร็จแล้ว“งั้นขอบคุณนะคะ คุณหลิน”อิ่นนั่วเจียรักษาความสง่างามของตัวเองเอาไว้ และเดินออกมาจากอารมณ์ที่ร้องไห้เป็นเด็กน้อย เธอก็รู้สึกเขินอายนิดหน่อยสำหรับการเชื้อเชิญของหลินเฟิง หรือพูดว่า ในใจของเธอก็กำลังตั้งตารออะไรอยู่หลินเฟิงที่อยู่ในสายตาของอื่นนั่วเจียในตอนนี้ มีภาพลักษ์ของแฟนหนุ่มที่สมบูรณ์แบบที่สุด มอบตัวเองให้เขา ก็ไม่ถือว่าทำร้ายตัวเอง......เมื่อกลับถึงอ่าวเทียนสุ่ยก็ดึกมากแล้วหลินเฟิงพูดกำชับสองสามประโยค จากนั้นก็ยกห้องหนึ่งจากหลาย ๆ ห้องให้กับอิ่นนั่วเจีย
พูดอีกอย่าง นี่ก็คือนิสัยที่แสวงหาความสมบูรณ์แบบของอิ่นนั่วเจียไม่น่าแปลกที่เธอได้เป็นซูเปอร์สตาร์ของประเทศมังกรหลินเฟิงมองดูรอยช้ำ จากนั้นยิ้มแล้วพยักหน้าพูดว่า: “วางใจเถอะครับ รอยช้ำเล็ก ๆ ไม่กี่จุด ผมลบมันออกไปให้คุณได้อย่างง่ายดาย”“ดีมากเลยค่ะ!”อิ่นนั่วเจียดีใจจนแทบอยากจะโอบกอดหลินเฟิงแล้วกัดเขาสักคำหลินเฟิงลูบจมูกและรู้สึกเขินอายเล็กน้อยในเมื่อตอนนี้อิ่นนั่วเจียสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเพียงตัวเดียว ภายใต้ความตื่นเต้นแบบนี้ หน้าอกก็โผล่ออกมาอีกครั้งบีบคั้นจนหลินเฟิงทำได้แค่ใช้ชี่แท้เหลวข่มความคิดชั่วร้ายในใจเอาไว้ แบบนี้ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยใจเล็กน้อยถ้าหากเป็นแบบนี้กับอิ่นนั่วเจียต่อไป หลินเฟิงคงจะต้องอัดอั้นจนป่วยอย่างแน่นอนผ่านไปครู่หนึ่ง อิ่นนั่วเจียก็นอนอยู่บนโซฟาที่ห้องรับแขก หลินเฟิงหยิบยายืดอายุขัยที่กลั่นก่อนหน้านี้ออกมาหนึ่งหยดนี่เป็นยาเข้มข้นที่เขาเตรียมจะใช้ที่ในน้ำพุร้อนของฟาร์ม สรรพคุณนั้นไม่จำเป็นต้องพูดให้มากมาย รักษาบาดแผลประเภทรอยช้ำ นั่นคือความรู้สึกเหมือนปืนใหญ่ที่ยิงแมลงวัน แต่หลินเฟิงก็จะใช้ที่บนตัวของอิ่นนั่วเจียก่อนให้อิ่นนั่วเจียได้สัมผ
หลินเฟิงรวบรวมสมาธิ และถูยาไปที่ฝ่ามือของตัวเองอีกครั้ง จากนั้นก็เริ่มนวดรอยช้ำที่อยู่บนแผ่นหลังของอิ่นนั่วเจียเบา ๆ“ซี้ด...”รอยช้ำบนแผ่นหลังขนาดค่อนข้างใหญ่ ในตอนที่หลินเฟิงลงมือเหมือนกับไปโดนจุดที่เจ็บปวดของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจจึงทำให้อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้ว และหายใจเข้าอย่างแรง“อดทนหน่อย อีกไม่นานก็เสร็จแล้ว”หลินเฟิงแตะชี่แท้เหลวไปบนนิ้วมือ ใช้กำลังภายในมาขับเคลื่อนลิ่มเลือดให้อิ่นนั่วเจียแต่ไม่กี่วินาที อิ่นนั่วเจียก็ส่งเสียงครวญครางที่ทำน่าเขินอายออกมา เธออดทนไว้ไม่ไหวแพราะความเจ็บปวดได้หายไปแล้ว แต่มีความรู้สึกจั๊กจี้มาแทนที่ จึงทำให้เธอรู้สึกสบายเป็นพิเศษ“สามี มีเรื่องอยากให้คุณช่วยเหลือนิดหน่อย...”ในตอนนี้ เสียงของผู้หญิงที่คุ้นเคยดังขึ้นที่หน้าประตูกระทันหันคนที่เดินเข้ามาอย่างมั่นอกมั่นใจไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นถังหว่านหลินเฟิงกับอิ่นนั่วเจียเงยหน้าขึ้นพร้อมกันพวกเขาเห็นถังหว่านที่มีสีหน้านิ่งอึ้งพร้อมกัน ส่วนถังหว่านนั้นคำพูดอีกครึ่งหนึ่งทีเหลือก็พูดไม่ออกในทันที ทั้งสามคนต่างถลึงตาโตมองกันอยู่แบบนี้“พวกคุณ...กำ ลัง ทำ อะ ไร?!”ถังหว่านเปลี่ยนจากอารมณ์ดีเป