กลับกันนั้น ยายืดอายุขัยสีเขียวโปร่งใสหนึ่งหม้อก็ถูกเขาเก็บใส่ขวดทำทุกอย่างนี้เสร็จ หลินเฟิงถึงได้โล่งอกอย่างถึงที่สุดมองดูสีท้องฟ้าข้างนอก เป็นช่วงกลางดึก มีดวงดาวเต็มไปหมดแล้วและห้องของเขา ไม่เพียงบนผนังมีรูขนาดใหญ่ที่มีลมรั่ว เฟอร์นิเจอร์ทั้งบ้านก็พังทลาย ไม่มีสักชิ้นที่สมบูรณ์แบบหลินเฟิงเดินออกไปข้างนอก พบว่าภายในบ้านเงียบสงบ ไม่มีใครสักคนมีเพียงกระดาษโน้ตที่หลี่ฮุ่ยหรานทิ้งเอาไว้เธอกลัวจะรบกวนหลินเฟิง ดังนั้นคืนนี้จึงไปพักที่โรงแรมพร้อมกับหลินเสวี่ยฮุ่ยและคนอื่น ๆในตู้เย็นมีอาหารที่จ้าวเฉียวอวิ๋นตั้งใจทำให้เขามองดูกระดาษโน้ตนี้ หลินเฟิงทั้งรู้สึกซาบซึ้งและก็หลุดยิ้มออกมา ในใจมีความรู้สึกอบอุ่นจากการมีครอบครัวที่แท้จริงหลินเฟิงยืดกล้ามเนื้อเล็กน้อย ทั่วทั้งตัวเสียงดังกร่อบแกร่บเขาเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ เมื่อออกมา ก็หยิบอาหารที่จ้าวเฉียวอวิ๋นเตรียมเอาไว้ออกมา และเริ่มกลืนกินเข้าไปในตอนที่หลินเฟิงทานอาหาร จู่ ๆ เขาก็นึกอะไรได้ จากนั้นก็ค้นหาโทรศัพท์ของตัวเองภายในห้องที่เละเทะยังดีที่ ถึงแม้หน้าจอโทรศัพท์จะแตก แต่อย่างน้อยก็ไม่ส่งผลทบต่อการที่หลินเฟิงมองดูหน้าจอ
“คุณ…ไร้ยางอาย!”อินนั่วเจียถึงแม้จะด่าทอเสียงดัง แต่ในใจกลับหวาดกลัวถึงที่สุดอาชีพการแสดงของเธอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รักษาของเขตของตัวเองมาโดยตลอด ให้เธอไปถ่ายหนังสิบแปดบวก ไม่สู้ฆ่าเธอโดยตรงไปเลย“ไร้ยางอายหรือไม่ หลังจากที่คุณได้ลิ้มลองรสชาติของผู้ชาย คุณก็จะเข้าใจแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า…”ซือหม่าเหวินเงยหน้าหัวเราะเสียงดัง จากนั้นก็เข้าไปดึงอิ่นนั่งเจียมาอยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง จากนั้นยื่นมือออกไป เตรียมตัวทำเรื่องที่ไม่ดีแต่ในตอนนั้นเอง หน้าต่างที่อยู่ข้าง ๆ แตกหัก หินกรวดขนาดเท่านิ้วโป้งกระแทกหน้าต่าง ลอยเข้ามาในบ้านกะทันกันกระแทกเข้ากับฝ่ามือของซือหม่าเหวินพอดี โดยไม่บิดเบี้ยวแม่แต่นิเ“อ้าก!”หลังจากเสียงกระดูกหักดังขึ้นซือหม่าเหมินกุมข้อมือของตัวเองที่มีเลือดสดไหลออกมา และส่งเสียงร้องโหยหวนเหมือนหมูถูกเชือด“เกิดอะไรขึ้น?!”บอดี้การ์ดของตระกูลซือหม่าเจียที่เฝ้ารักษาความปลอดภัยอยู่ที่นอกคฤหาสน์จองอินนั่วเจีย ได้ยินเสียงกระจกแตก และก็ได้ยินเสียงร้องอนาถของคุณชายของเขา จึงนีบพุ่งเข้ามาแต่ว่าพวกเขาเห็นแค่เลือดสดที่อยู่บนพื้น และซือหม่าเหวินที่กุมข้อมือร้องอนาถอยู่“ถูกลอบโ
“ปึง!”เพื่อที่จะทำเวลา หลินเฟิงถีบกำแพงของคฤหาสน์จะเป็นรูขนาดใหญ่ เขากลับเดินเข้าไปภายในคฤหาสน์ผ่านกำแพงที่พังทลาย และมีฝุ่นควันเกิดขึ้นซือหม่าเหวินกับอิ่นนั่วเจียก็อยู่ตรงนี้กำแพงอิฐแตกหัก ควันลอยไปทั่ว ดวงตาสีทองคู่หนึ่งปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของอิ่นนั่วเจียที่กำลังกรีดร้องอยู่“คุณอิ่นนั่วเจีย ไม่ต้องกลัวครับ ผมมาช่วยคุณแล้ว”ได้ยินเสียงที่อ่อนโยนแบบนี้ ความหวาดกลัวที่อยู่ในใจของอิ่นนั่วเจียลดลงในทันทีเธอมองไปทางร่างสูงใหญ่ที่เข้ามาจากกำแพงแตกหัก รูม่านตาก็หดลงทันที คนที่เข้ามาก็คือคุณหลินเฟิง“คุณ…คุณหลินเฟิง…”อิ่นนั่วเจียไม่กล้าที่จะเชื่อ“อืม ผมเอง”หลินเฟิงถือโอกาสในตอนที่วุ่นวาย ก็เข้ามปกป้องอิ่นนั่วเจียไว้ข้างกายคราวนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าเธอจะถูกจับเป็นตัวประกันหลินเฟิงตรวจสอบเล็กน้อย ก็ถือว่าโล่งออกแล้วถึงแม้หุ่นที่งดงามมีเสน่ห์น่าสนใจของอิ่นนั่วเจียจะถูกห่อด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว แต่ก็ยังดี หลินเฟิงไม่เห็นว่าเธอถูกซือหม่าเหวินย่ำยี ดูท่าเขามาได้ทันเวลาพอดี“นายเป็นใครกัน? ทำไมถึงกล้าบุกเข้ามาในถิ่นของตระกูลซือหม่าของฉัน แถมยังทำให้มือของคุณชายตระกูลซือของพวกเร
“คุณปู่สาม ผมรู้แล้ว ผมรู้แล้ว!”ในตอนนี้เอง ซือหม่าเหวินกุมข้อมือของตัวเองที่มีเลือดไหลออกมา แล้วกัดฟันกลั้นความเจ็บปวดพูดขึ้น:“วันนี้เบื้องบนมีคนมารายงาน บอกว่าตระกูลซือหม่าของพวกเรารับซื้อเล่อเจียเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ไม่สำเร็จ”“เพราะมีคนแจ้งปัญหาเรื่องปัญชี”ซือหม่าเหวินมองไปทางหลินเฟิงที่มีสีหน้านิ่งเฉยด้วยความดุดัน และพูดอย่างโมโห: ”คนที่รับซื้อเล่อเจียเอ็นเตอร์เทนเม้นท์แทนพวกเรา ก็คือบริษัทเล็ก ๆ ที่ชื่อหลี่ซื่อกรุ๊ป”“ส่วนชื่อผู้บริหารหลี่ซื่อกรุ๊ป ผมก็เห็นว่ามีคนหนึ่งชื่อหลินเฟิง!”“หือ?”ชายชราชุดถังขมวดคิ้ว และมองไปทางหลินเฟิง“หลานชายของฉันรับซื้อบริษัทเล่อเจียแต่ถูกขัดขวาง หรือว่าจะเป็นฝีมือของนาย?”“สาม”หลินเฟิงไม่ได้ตอบกลับด้วยซ้ำ และนับเลขสามออกมาด้วยสีหน้านิ่งเฉยต่อไป“สารเลว!”ชายชราชุดถังจวงเพิ่งจะเคยโดนคนดูถูกแบบนี้เป็นครั้งแรกเขาในฐานะยอดฝีมือระดับเซียนเทียนของเมืองจิง อยู่อันดับที่สามสิบกว่าของลำดับสวรรค์ ถือว่าบรรลุถึงขั้นความสำเร็จสูงสุดแล้วตอนนี้ กลับถูกคนในเมืองเล็ก ๆ แบบนี้ดูถูกชายชราชุดถังจวงก็โมโหทันที:“ไอ้หนุ่มที่ชื่อหลินเฟิง เรื่องมาจนถ
“คุณเนี่ยนะ?”หลินเฟิงไม่ได้ถอยออกไป แต่กลับเดินเข้าไปยังทิศที่ซือหม่าจัวโจมตี“กำลังภายในปล่อยไปยังหยวนหยาง ใช้จุดหยวนหยางปลดปล่อยชี่แท้ จากนั้นก็เพิ่มแรงให้หมัดตัวเอง”“วิชาบู๊มีความเก่งกาจอยู่บ้าง แต่นายอ่อนแอเกินไป” หลินเฟิงส่ายหน้าด้วยความเสียดาย แค่แวบเดียวเขาก็เห็นถึงจุดหลักวิชาบู๊ของซือหม่าจัวแล้วนี่ยิ่งทำให้ซือหม่าจัวโมโหยิ่งกว่าเดิม“ไอ้หนุ่ม ตายไปซะ!”ซือหม่าจัวคำรามเหมือนจะให้คฤหาสน์สั่นสะเทือนจนพลังทลายลง บนกำปั้นนอกจากแสงสีทองแล้ว ก็ยังส่งเสียงทะลวงลมออกมาอีก“นี่ก็คืออันดับที่สามสิบของลำดับสวรรค์อย่างนั้นเหรอ? ชิ…ลำดับสวรรค์ในตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถติดอันดับได้จริง ๆ ด้วย”หลินเฟิงกำลังพูดกับตัวเอง แต่ซือหม่าจัวเหมือนได้รับความเหยียดหยาม“หมัดหยวนหยาง…ควรจะใช้แบบนี้ ดูให้ดีล่ะ!”หลนเฟิงเห็นว่าหมัดลมนั้นจะมาถึงแล้ว ก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นด้วยความเอ้อระเหยอีกต่อไป แต่กลับยกฝ่ามือของตัวเองขึ้น และกำนิ้วมือเป็นหมัดทันใดนั้น พลังชี่แท้เหลวสีทองก็พรั่งพรูออกมจากหมัดของหลินเฟิงจนกระทั่งบนหมัดของหลินเฟิงเกิดเป็นหัวเสือสีทองอย่างเรือนราง“โฮก!”หัวเสือสีทองที่เ
เหล่าบอดี้การ์ดก็ไม่กล้ารีรอ รีบสตาร์ทรถ กลัวว่านักบู๊แดนแปรภาพคนนั้นจะตามออกมา และกำราบพวกเขาจนสิ้นซาก“นักบู๊แดนแปรภาพ…นึกไม่ถึงว่าจะเป็นนักบู๊แดนแปรภาพ?”ซือหม่าเหวินที่อยู่บนรถยังคงรู้สึกหวาดกลัวอยู่ แต่ขณะเดียวกันในใจของเขาก็เกิดความแค้นที่รุนแรงนักบู๊แดนแปรภาพ พวกเขาตระกูลซือหม่าไม่ใช่ว่าไม่มีสักหน่อยแต่นักบู๊ที่มาถึงขั้นนี้ได้ นั่นมันเหมือนกับมังกรหงส์ในหมู่คน หนึ่งในหมื่น ไม่ใช่คนที่เขาคุณชายรองของตระกูลซือหม่าจะสั่งการได้ด้วยซ้ำนอกจากว่ามีคำสั่งของผู้นำตระกูล ไม่อย่างนั้นพวกยอดฝีมือแดนแปรภาพเหล่านี้ในเวลาปกติแล้วไม่มีทางลงมืออย่างแน่นอน“เอือกเอือกเอือก…”ในตอนนี้เอง จู่ ๆ ซือหม่าเหวินได้ยินเสียงครวญครางติด ๆ ขัด ๆ ที่นอกหน้าต่างรถในตอนนี้พวกเขาขับออกมาไกลจากคฤหาสน์ของอิ่นนั่วเจียพอสมควรแล้วซือหม่าเหวินรีบสั่งให้คนขับรถจอดรถ ส่วนเขาก็รีบลงจากรถ และค้นพบอย่างประหลาดใจว่า ในตอนนี้ซือหม่าจัวที่อยู่บนหลังคารถยังมีชีวิตอยู่ถึงแม้กระดูกจะหักหมด เส้นลมปราณก็ฉีกขาด แต่กลับยังมีเค้าลางชีวิตอยู่อย่างน่ามหัศจรรย์ถ้าหากช่วยเหลือได้ทันเวลา จะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปได้แน่นอน
“ผมจะแก้แค้นแทนคุณปู่ครับ!”“หลินเฟิงคนนั้น ผมจะให้เขาตายโดยไร้ที่ฝังศพอย่างแน่นอน”ซือหม่าจัวเลือดไหลออกจากปาก เขาจ้องมองซือหม่าเหวินอย่างแน่วแน่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหลานชายที่ตัวเองรักและเอ็นดูมากว่าครึ่งชีวิต จะหันกลับมาฆ่าเขาเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองนี่มันเหลวไหลเกินไปแล้ว!แต่ต่อให้ซือหม่าจัวคิดอย่างไร ตอนนี้เขาก็ไม่มีแรงต่อต้านใด ๆ แล้วส่วนซือหม่าเหวินมองดูคุณปู่สามของตัวเองถูกต่อให้ถูกแทงจนถึงชีวิตแต่ก็ไม่ได้ตายไปในทันที ทันใดนั้นความดุดันก็ปรากฏออกมาเขาดึงมีดกริชออก และก็แทงไปที่หน้าอกของปู่อีกครั้ง“พรวดพรวด!”เลือดสดไหลออกมาเหมือนกับซือหม่าเหวินอยากจะระบายความอัดอั้นตันใจไปที่ตัวของคุณปู่ของเขา เขาใช้มีดกริชแทงไปที่ตัวของซือหม่าจัวไม่หยุดราวกับเป็นบ้าไปแล้วถึงขั้นที่ด่าทออย่างเหี้ยมโหด: “ไอ้แก่ไร้ประโยชน์ เป็นเพราะแกไร้ประโยชน์แบบนี้ ถึงกับสู้นักบู๊ที่อายุสามสิบไม่ได้ด้วยซ้ำ ทำให้ฉันเหมือนกับหมาไร้เจ้าของ!”“แกมันสมควรตาย! สมควรตาย! สมควรตาย!”สุดท้ายซือหม่าเหวินก็แทงมีดกริชไปที่หน้าผากของซือหม่าจัว สุดท้ายก็เสร็จสิ้นการระบายของตัวเองส่วนซือหม่าตัว ใน
อิ่นนั่วเจียไม่กล้าพักอยู่ที่คฤหาสน์ของตัวเองต่อไปแล้วเธอกลัวว่าหลังจากหลินเฟิงกลับไป ตระกูลซือหม่าก็จะวกกลับมาอีก ดังนั้นเธอจึงเสนอที่อยากจะไปพักที่โรงแรมแต่เพื่อความปลอดภัยของเธอ หลังจากหลินเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็เป็นฝ่ายเชื้อเชิญเธอกลับมาหลบซ่อนที่อ่าวเทียนสุ่ยระยะหนึ่งก่อนในเมื่อหลังจากนี้ยังต้องร่วมมือเรื่องฟาร์มกับหลินเฟิงอีก อีกทั้งอยู่ใกล้หลินเฟิง ก็ไม่มีทางเกิดเรื่องเหมือนในวันนี้ว่าไปแล้ววันนี้ก็อันตรายมากจริง ๆถ้าหากหลินเฟิงไม่ได้มาทันเวลา เกรงว่าอื่นนั่วเจียคงถูกซือหม่าเหวินย่ำยีสำเร็จแล้ว“งั้นขอบคุณนะคะ คุณหลิน”อิ่นนั่วเจียรักษาความสง่างามของตัวเองเอาไว้ และเดินออกมาจากอารมณ์ที่ร้องไห้เป็นเด็กน้อย เธอก็รู้สึกเขินอายนิดหน่อยสำหรับการเชื้อเชิญของหลินเฟิง หรือพูดว่า ในใจของเธอก็กำลังตั้งตารออะไรอยู่หลินเฟิงที่อยู่ในสายตาของอื่นนั่วเจียในตอนนี้ มีภาพลักษ์ของแฟนหนุ่มที่สมบูรณ์แบบที่สุด มอบตัวเองให้เขา ก็ไม่ถือว่าทำร้ายตัวเอง......เมื่อกลับถึงอ่าวเทียนสุ่ยก็ดึกมากแล้วหลินเฟิงพูดกำชับสองสามประโยค จากนั้นก็ยกห้องหนึ่งจากหลาย ๆ ห้องให้กับอิ่นนั่วเจีย