หลงเซียวรู้สึกว่าท้องไส้ของตัวเองช้ำเขียวจากความโมโหไปหมดแล้วโดยเฉพาะตอนที่ด้านหลังมีคนถามหลินเฟิงเสียงดัง ว่ายอมขายแก่นสารจวี้คังก้อนนี้หรือไม่ เขาจะรับซื้อในราคาสองแสนห้าหมื่นล้านบาทหนึ่งพันล้านบาทเทียบกับสองแสนห้าหมื่นล้านบาทไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น หลินเฟิงคงจะได้กำไรจนตัวชาไปหมดถ้าหากรู้แต่แรกว่าภายในหินหยกก้อนนี้มีความวิเศษ ไม่ว่าอย่างไรหลงเซียวก็ไม่มีทางยอมแพ้การแข่งขันคิดถึงตรงนี้ เธอรู้สึกเสียใจอย่างมากถึงขั้นที่อยากจะย้อนเวลากลับไป ตบหน้าตัวเองในอดีตแรง ๆ สักสองครั้ง“เป็นอย่างไรบ้าง คุณหนูหลงเซียว? ตระกูลหลงของพวกคุณนำแก่นสารจวี้คังนี้ขายให้กับตระกูลเย่ในราคาหนึ่งล้านบาท ผมพูดได้แค่ว่า...จุ๊จุ๊จุ๊...”จ้าวเทียนหวาทำเสียงจุ๊ปาก ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความสมน้ำหน้าหลินเฟิงก็รู้สึกดีอกดีใจน้อยมากที่จะมีสิ่งของที่สามารถทำให้เขาดีใจได้ถึงขนาดนี้เพราะว่าแก่นสารจวี้คังชิ้นนี้เป็นสมบัติล้ำค่าที่มีน้อยมากจริง ๆ ถึงขั้นที่ระดับสูงยิ่งกว่าสมบัติล้ำค่าห้าธาตุแต่กำเนิดที่เขาเคยได้รับมาก่อนหน้านี้อีกด้วยมีมันอยู่ อย่าว่าแต่บาดแผลของตัวเองสามารถรักษาหายได้การบริหารฟาร์ม
“ขอโทษด้วยครับคุณหนูหลงเซียว แก่นสารจวี้คังชิ้นนี้มีประโยชน์ต่อผมอย่างมาก ไม่ว่าตระกูลหลงของพวกคุณเสนอราคาเท่าไหร่ผมก็ไม่ขาย”หลินเฟิงไม่มีท่าทีจะเจรจาใด ๆ เมื่อเอ่ยปากก็ปฏิเสธโดยตรง“ไม่ขาย?”หลงเซียวนิ่งอึ้งเล็กน้อย หลายปีมานี้ นี่คือครั้งแรกที่มีคนกล้าไม่เชื่อฟังเธอในฐานะคุณหนูตระกูลหลง จึงทำให้เธอเกิดเปลวไฟความโมโหขึ้นในหัวใจ“หึ คุณอย่าไว้หน้าไม่ไว้หน้า ของที่ฉันอยากได้ที่ผ่านมามีแต่คนประเคนมาให้อย่างว่าง่าย ยังไม่เคยกล้าปฏิเสธฉันสักคำเดียว”“ถ้าหากคุณรู้ตัวก็รีบมอบแก่นสารจวี้คังชิ้นนั้นออกมาให้ฉันอย่างว่าง่าย!”“อ่อ? การปล้นจี้กลางวันแสก ๆ พูดได้เต็มปากเต็มคำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? หรือว่าการประมูลใต้ดินของเมืองหนิงโจวเป็นถิ่นของตระกูลหลงของพวกคุณ?”หลินเฟิงเลิกคิ้วแล้วพูดเยาะหยัน: “คุณหนูหลงเซียว คนเราจำเป็นต้องรู้จักกฎเกณฑ์การมาก่อนมาหลัง คุณยินยอมฉันยินยอมนะครับ?”“อย่าพูดมาก คำพูดของฉันก็คือกฎเกณฑ์!”หลงเซียวกำเริบเสิบสานอย่างมาก เธอถลึงตาใส่หลินเฟิงแล้วตะโกนพูด: “ตระกูลหลงของฉันไม่มีทางให้คุณขาดทุนอยู่แล้ว เมื่อครู่คุณใช้เงินหนึ่งพันล้านบาทซื้อแก่นสารจวี้คังชิ้นน
งั้นตระกูลเย่จัดงานประมูลนี้ยังจะมีประโยชน์อะไร?นำของประมูลไปส่งให้ตระกูลหลงโดยตรงเลยก็จบเรื่องไม่ใช่เหรอ?“หึ ลาก่อน”ในที่สุด ในงานปรากฏคนที่ออกจากงานประมูลเป็นคนแรก“ตระกูลหลงธุรกิจใหญ่โต พวกเรามีปัญหาด้วยไม่ได้หรอก กลับกัน”คนอีกกลุ่มหนึ่งก็ส่ายหน้าจากไป“เอ๊ะเอ๊ะเอ๊ะ ทุกท่านอย่าเพิ่งกลับสินะ...”ลูกสาวตระกูลเย่ที่อยู่บนเวทีร้อนรนอยากจะรั้งให้อยู่ต่อ แต่คนที่เข้าร่วมงานประมูลต่างก็เห็นชัดแล้วว่างานประมูลครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาด้วยซ้ำดังนั้นต่างเริ่มเก็บข้าวของของตัวเองแล้วออกจากงานไป“นี่...”หลงเซียวมองดูคนที่อยู่รอบ ๆพากันจากไป สีหน้าก็ตกตะลึงไม่ว่าเธอจะคิดอย่างไร ก็คิดไม่ถึงว่าคนเหล่านี้จะถอนตัวออกจากงานประมูลโดยตรงเหตุผลหนึ่งในนี้ง่ายมากในเมื่อหลินเฟิงเป็นบทเรียนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขางั้นพวกเขาถ้าหากต่อไปได้สมบัติล้ำค่ามา งั้นจะไม่ต้องขอให้คุณหนูตระกูลหลงอนุญาตก่อนแล้วถึงจะนำไปได้หรอกเหรอ?คนเขาไม่ยินยอม คุณยังต้องมอบให้คนเขาอย่างว่าง่ายอีกด้วยไม่อย่างนั้นก็รอตระกูลหลงแก้แค้นได้เลยทุกคนที่อยู่ในงานมีกี่คนที่สามารถบาดหมางกับตระกูลหลงได้?ดังนั้นทุก
“ขออภัยด้วยค่ะ”ลูกสาวตระกูลเย่พยักหน้า จากนั้นก็เดินหนีไปโดยไม่หันหน้ากลับมา“......”หลงเซียวยืนอยู่ที่เดิม โมโหจนตัวสั่นไปหมดวันนี้สำหรับเธอแล้วเป็นความซวยอย่างมากไม่เพียงขาดทุนอย่างหนัก สูญเสียเงินจำนวนสองหมื่นเจ็ดพันห้าร้อยล้านบาท ซื้อของที่ไม่มีประโยชน์อะไรจำนวนสองชิ้นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด ตระกูลร่ำรวยและพวกเถ้าแก่ที่เข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ได้เห็นถึงความเผด็จการของตระกูลหลงภาพพจน์ที่เผด็จการของตระกูลหลง เกรงว่าในอนาคตหลังจากผ่านเรื่องในวันนี้ก็จะถูกส่งความคิดต่อไปยังทุกคนหลังจากการพูดปากต่อปากของผู้คนอย่าว่าแต่เมืองหนิงโจว เกรงว่าตระกูลหลงของเมืองจิงก็จะได้รับผลกระทบที่รุนแรงด้วยเช่นกัน“สารเลว...”หลงเซียวกำหมัดแน่น ความโมโหเหมือนกับจะกลืนกินเธอเข้าไปจนหมด เธอรู้ว่าตัวเองสร้างเรื่องครั้งใหญ่แล้วแต่จากนั้น เธอก็เผยรอยยิ้มที่โหดร้ายออกมาในเมื่อสร้างเรื่องแล้ว ก็สร้างจนถึงที่สุด!ต่อให้วันนี้เธอตกเป็นขี้ปากของคนเมืองหนิงโจว เธอก็จะให้หลินเฟิงรับผิดชอบ ที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องนำสมบัติล้ำค่าที่อยู่ในกระเป๋าของหลินเฟิงมาให้ได้ทรัพย์สินนำมาซึ่งความซวยในเมื
“คุณหนูหลงเซียวคนนั้นเผด็จการจริง ๆ...และก็ไร้ยางอาย”ได้ยินหลินเฟิงพูดถึงชื่อของหลงเซียว นักบู๊ระดับเซียนเทียนหยุดชะงักไปเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็พูดอย่างหงุดหงิด: “พวกเรากับคุณหนูหลงเซียวไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กันทั้งนั้น”“ส่งแก่นสารจวี้คังออกมา ไม่อย่างนั้น ตาย!”“ งั้นฉันมอบให้นายก็สามารถรอดไปได้งั้นเหรอ? ยังจะบอกว่าไม่รู้จักคุณหนูหลงเซียว”หลินเฟิงหลุดขำออกมา ใบหน้าก็เผยความเหน็บแนม: “นายหลุดปากพูดออกมาแล้ว พี่ชาย”“......”เมื่อเห็นตัวเองถูกล่อให้พูดออกมา คนที่นำหน้ามาก็ไม่เสแสร้งแล้วเขาตะโกนขึ้นเสียงดัง และเรียกลูกน้องที่ล้อมรอบหลินเฟิงให้เข้าโจมตี“ลุย!”“อ่อใช่ พวกนายอยากจะได้ของสิ่งนี้สินะ?”หลินเฟิงล้วงสารแก่นจวี้คังสีเขียวมรกตที่เพิ่งได้มาเมื่อครู่นี้ออกมา“หยุดนะ! อย่าทำแก่นสารจวี้คังพังนะ!”เห็นหลินเฟิงหยิบแก่นสารจวี้คังออกมา ลูกน้องที่อยู่รอบ ๆ ที่มุ่งหน้าเข้ามาแล้วนั้นพากันถอยออกไป กลัวจะทำให้สมบัติล้ำค่าเสียหาย“ใช่แล้ว รีบเอามาให้ฉัน!”นักบู๊ระดับเซียนเทียนที่นำหน้าลุกขึ้นยืนและขู่ให้หลินเฟิงยื่นออกมา“ก็ได้ งั้นก็ให้พวกคุณแล้วกัน”ขณะพูด หลินเฟิง
คลื่นพลังชี่แท้ที่ไหลออกมานั้น จู่ ๆกลุ่มพลังชี่แท้จำนวนมหาศาลก็ก่อตัวขึ้นที่ตรงหน้าของตัวเองกลุ่มพลังชี่แท้ คนทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยซ้ำพวกลูกสมุนที่พุ่งเข้ามารู้สึกได้ทันทีว่าการเคลื่อนไหวของตัวเองเปลี่ยนกลายเป็นเชื่องช้ามาก แม้ว่าจะอ่อนแอกว่าเล็กน้อย ก็ไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้เลยแต่หลินเฟิงกลับเพิ่มการเคลื่อนไหวขึ้นอีก“ผัวะผัวะผัวะผัวะ!”หลินเฟิงลงมือไปทีละคน และชกเข้าที่เนื้อ ในระหว่างนั้นลูกสมุนที่สวมหน้ากากทั้งห้าก็อาเจียนออกมาเป็นเลือด ก่อนที่ร่างกานจะแข็งทื่อไป“ อะไรนะ?!”เมื่อลูกสมุนคนหนึ่งที่อยู่วงนอกสุดเห็นฉากนี้เข้า ก็รีบยกบันไดที่เอามาคืนขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงราวกับมองเห็นผี“คนนี้....หรือว่าคนนี้ก็คือขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่าน?!”การเคลื่อนไหวของหลินเฟิงคล่องแคล่ว โดยไม่มีการคลาดเคลื่อนแม้แต่น้อย คนที่ดูอยู่ข้าง ๆก็คิดไม่ถึงว่ามันจะรู้สึกสวยงามละเอียดอ่อน หลินเฟิงรีบพุ่งออกมาวงนอก ไม่ว่าจะฝ่ามือหรือหมัด กรงเล็บหรือการโจมตีตรง ๆ ลูกสมุนสวมหน้ากากทุกคนที่โดนเขาโจมตียังคงอยู่ในท่าทางที่แข็งทื่อและชูอาวุธขึ้นสูงขณะที่หลินเฟิงเดินออกมาจากกลุ่มลู
และลูกสมุนผู้โชคดีคนนั้น ก็ไม่กล้าแม้แต่จะมองป้ายทะเบียนรถของหลินเฟิงหลินเฟิงไม่ได้โกหกครึ่งชั่วโมงต่อมาพวกลูกสมุนสวมหน้ากากที่เพิ่งจะโดยหลินเฟิงโจมตี ก็เริ่มฟื้นขึ้นมาทีละคนหลังจากที่พวกเขาลุกขึ้นและมองหน้ากัน ต่างก็ลืมเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งถูกเตือนสติ พวกเขาถึงได้มีท่าทีตอบรับกลับมาแทบจะทุกคน ตกอยู่ในความหวาดกลัวหลินเฟิงรู้สึกว่าคราวนี้หลงเซียวได้ไปยั่วยุคนที่เขาไม่ควรยั่วยุเข้าซะแล้วและในตอนนี้เองที่หลงเซียวก็มาถึงที่เกิดเหตุการณ์เมื่อเธอเห็นความยุ่งเหยิงที่อยู่บนพื้นและศพไม่มีหัวทั้งสาม ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? แก่นสารจวี้คังของฉันล่ะ?”หลงเซียวถามพวกลูกสมุน“คุณหลงเซียว คนนั้นเก่งเกินไป เขาเอาชนะพวกเราได้อย่างง่ายดาย พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาด้วยซ้ำ”ลูกสมุนที่ถูกหลินเฟิงฝากข้อความไว้ก่อนจะเรียกความกล้าแล้วยืนขึ้นมา“พวกขยะ!”เมื่อเห็นคนพวกนี้หน้าม่อยคอตก หลงเซียวก็โกรธขึ้นมาตะโกนด่าว่า “เขาก็เป็นแค่ไอ้ทึ่ม พวกคุณต่างก็จัดการมกับไอ้ทึ้มนี้ไม่ได้เลย ผู้หญิงคนนี้ยังจะใช้อะไรพวกคุณได้อีก?!”ลูกสมุนทั้งหมดก้มหน้า ไม่กล้
ขบวนรถหรูหราจำนวนมากมายเคลื่อนตัวจากถนนเจียงโจวเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลถังทุกที่ที่เคลื่อนผ่านไป ล้วนมีรถพิเศษเคลียร์ทางอยู่ข้างหน้าแม้แต่ถนนก็ถูกปิดในตอนเช้าตรู่ เพื่อต้อนรับขบวนรถหรูหราโดยเฉพาะคนที่เดินบนถนนต่างก็หยุดเดิน และอดไม่ได้ที่จะคาดเดาว่าเป็นบุคคลมีชื่อเสียงที่ไหนกัน ถึงได้ทำเอิกเกริกขนาดนี้ถังว่านหลี่กับหลินเสวี่ยเยี่ยนต่างก็แต่งกายด้วยชุดเลิศหรู ก่อนจะพาสมาชิกตระกูลถังรีบเข้าไปต้อนรับที่หน้าประตูคฤหาสน์ที่ค่อนข้างอลังการขณะที่รถจอดแล้วเรียบร้อย หลงเซียวที่สวมเสื้อผ้าแบรนด์ชั้นนำและมีสีหน้าที่เย่อหยิ่ง ก็ค่อย ๆลงจากรถหลังจากที่คนขับมาเปิดประตูให้“เซียวเอ่อร์ คุณมาแล้ว เร็วเร็วเร็ว เชิญข้างในเลย!”หลินเสวี่ยเยี่ยนที่ท่าทางกระตือรือร้นอย่างมากผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าก็คือน้องสาวของหลงเซียว คุณหนูของตระกูลหลง แล้วก็เป็นพี่สาวของหนุ่มจอมมารในสำนักหลงผานเมื่อมองตระกูลหลงทั้งหมดแล้ว ฐานะของเธอจึงมีความสำคัญมาก“อืม คุณป้าเสวี่ยเยี่ยน ไม่ได้เจอกันนานเลย”หลงเซียวพยักหน้าอย่างสุภาพ แต่ก็ไม่ได้เป็นมิตรสักนิด ทั้งยังคงรักษาท่าทางที่เย่อหยิ่งของตัวเองไว้ฐานะทั้งสองคน