และลูกสมุนผู้โชคดีคนนั้น ก็ไม่กล้าแม้แต่จะมองป้ายทะเบียนรถของหลินเฟิงหลินเฟิงไม่ได้โกหกครึ่งชั่วโมงต่อมาพวกลูกสมุนสวมหน้ากากที่เพิ่งจะโดยหลินเฟิงโจมตี ก็เริ่มฟื้นขึ้นมาทีละคนหลังจากที่พวกเขาลุกขึ้นและมองหน้ากัน ต่างก็ลืมเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งถูกเตือนสติ พวกเขาถึงได้มีท่าทีตอบรับกลับมาแทบจะทุกคน ตกอยู่ในความหวาดกลัวหลินเฟิงรู้สึกว่าคราวนี้หลงเซียวได้ไปยั่วยุคนที่เขาไม่ควรยั่วยุเข้าซะแล้วและในตอนนี้เองที่หลงเซียวก็มาถึงที่เกิดเหตุการณ์เมื่อเธอเห็นความยุ่งเหยิงที่อยู่บนพื้นและศพไม่มีหัวทั้งสาม ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? แก่นสารจวี้คังของฉันล่ะ?”หลงเซียวถามพวกลูกสมุน“คุณหลงเซียว คนนั้นเก่งเกินไป เขาเอาชนะพวกเราได้อย่างง่ายดาย พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาด้วยซ้ำ”ลูกสมุนที่ถูกหลินเฟิงฝากข้อความไว้ก่อนจะเรียกความกล้าแล้วยืนขึ้นมา“พวกขยะ!”เมื่อเห็นคนพวกนี้หน้าม่อยคอตก หลงเซียวก็โกรธขึ้นมาตะโกนด่าว่า “เขาก็เป็นแค่ไอ้ทึ่ม พวกคุณต่างก็จัดการมกับไอ้ทึ้มนี้ไม่ได้เลย ผู้หญิงคนนี้ยังจะใช้อะไรพวกคุณได้อีก?!”ลูกสมุนทั้งหมดก้มหน้า ไม่กล้
ขบวนรถหรูหราจำนวนมากมายเคลื่อนตัวจากถนนเจียงโจวเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลถังทุกที่ที่เคลื่อนผ่านไป ล้วนมีรถพิเศษเคลียร์ทางอยู่ข้างหน้าแม้แต่ถนนก็ถูกปิดในตอนเช้าตรู่ เพื่อต้อนรับขบวนรถหรูหราโดยเฉพาะคนที่เดินบนถนนต่างก็หยุดเดิน และอดไม่ได้ที่จะคาดเดาว่าเป็นบุคคลมีชื่อเสียงที่ไหนกัน ถึงได้ทำเอิกเกริกขนาดนี้ถังว่านหลี่กับหลินเสวี่ยเยี่ยนต่างก็แต่งกายด้วยชุดเลิศหรู ก่อนจะพาสมาชิกตระกูลถังรีบเข้าไปต้อนรับที่หน้าประตูคฤหาสน์ที่ค่อนข้างอลังการขณะที่รถจอดแล้วเรียบร้อย หลงเซียวที่สวมเสื้อผ้าแบรนด์ชั้นนำและมีสีหน้าที่เย่อหยิ่ง ก็ค่อย ๆลงจากรถหลังจากที่คนขับมาเปิดประตูให้“เซียวเอ่อร์ คุณมาแล้ว เร็วเร็วเร็ว เชิญข้างในเลย!”หลินเสวี่ยเยี่ยนที่ท่าทางกระตือรือร้นอย่างมากผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าก็คือน้องสาวของหลงเซียว คุณหนูของตระกูลหลง แล้วก็เป็นพี่สาวของหนุ่มจอมมารในสำนักหลงผานเมื่อมองตระกูลหลงทั้งหมดแล้ว ฐานะของเธอจึงมีความสำคัญมาก“อืม คุณป้าเสวี่ยเยี่ยน ไม่ได้เจอกันนานเลย”หลงเซียวพยักหน้าอย่างสุภาพ แต่ก็ไม่ได้เป็นมิตรสักนิด ทั้งยังคงรักษาท่าทางที่เย่อหยิ่งของตัวเองไว้ฐานะทั้งสองคน
เขาถามถังหว่านอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็ได้รับเพียงแค่คำพูดไม่กี่คำจากเธอจากนี้ไปการเกี่ยวดองกันระหว่างตระกูลหลง ถังว่านหลี่ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกแล้วหรือพูดอีกอย่าง การหมั้นระหว่างถังหว่านกับหลงยวน เกรงว่าทั้งสองคนได้ทำข้อตกลงเป็นการส่วนตัวและเป็นโมฆะไปแล้วหลังจากที่ถังว่านหลี่ได้รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็เข้าใจแล้วไม่ช้าก็เร็ว ต้องมีสักวันที่ตระกูลหลงจะส่งคนมาเยี่ยมถึงบ้านด้วยตัวเองถึงแม้จะไม่รู้ว่าเพราะอะไรคุณชายหลงยวนจึงยกเลิกการหมั้นหมาย แต่ในเมื่อถังหว่านพูดแบบนั้นแล้ว แสดงว่าคุณชายหลงยวนก็ต้องเห็นด้วยเช่นกันในตอนที่ถังว่านหลี่เหม่อลอยอยู่นั้นหลงเซียวจิบชา แล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “ตามสัญญาการหมั้นหมายของทั้งสองตระกูล ยังมีเวลาอีกหนึ่งเดือน”“แต่หลงยวนพี่ชายของฉันกลับบอกพวกเราว่า การแต่งงานกับตระกูลถังถูกยกเลิกแล้ว ส่วนเรื่องเหตุผล เขาไม่ยอมบอกกับพวกเรา”หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง หลงเซียวก็มองไปที่ถังว่านหลี่แล้วถามขึ้นว่า “ไม่ทราบว่าลุงว่านหลี่ รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหม?”“ฮะ?”ถังว่านหลี่นิ่งอึ้งไปชั่วครู่ เขาครุ่นคิดไปมา และส่ายหน้าพูด: “ไม่ ฉันไม่รู้เรื่องเลย”
คำพูดของหลงเซียวทำให้บรรยากาศยิ่งแข็งทื่อมากขึ้น ถังหว่านที่ลุกขึ้นและล้างหน้าเสร็จก็ค่อย ๆเดินลงบันไดวนมาจากห้องนอนชั้นสอง“หว่านเอ๋อร์ลูกมาแล้วเหรอ เร็ว..รีบนั่งเร็ว พวกเราเพิ่งคุยกับเซียวเอ่อร์เกี่ยวกับงานแต่งงานของคุณกับคุณชายหลงยวน”หลินเสวี่ยเยี่ยนรีบเปลี่ยนหัวข้อถึงแม้สีหน้าถังหว่านที่เดินลงมาจะไม่ค่อยน่าดู เธอยกมือขึ้นก่อนจะพูดว่า “เรื่องที่พวกคุณพูดเมื่อครู่ฉันได้ยินแล้ว”จากนั้นถังหว่านก็มองไปที่หลงเซียว ก่อนจะขมวดคิ้วและพูดว่า:“น้องหลงเซียว ฉันต้องขอโทษคุณล่วงหน้าด้วย การแต่งงานระหว่างตระกูลถังกับตระกูลหลงถูกยกเลิกแล้ว และไม่มีทางเป็นเหมือนเดิมอีก”ทันทีที่ถังหว่านพูดแบบนี้ออกมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงกันหมดทำไมเธอถึงพูดแบบนั้นล่ะ หรือว่ามีความจริงอะไรที่ซ่อนไว้อยู่?สุดท้ายก็ไม่มีใครจะคิดว่าถังหว่านจะพูดแบบนี้“หว่านเอ๋อร์ ลูกพูดจาเลอะเทอะอะไรอยู่? ยังไม่ตื่นใช่ไหม? การหมั้นดี ๆ จะยกเลิกได้อย่างไรกัน?”“เรื่องแบบนี้ ลูกคนเดียวตัดสินใจได้เหรอ?”หลินเสวี่ยเยี่ยนขมวดคิ้วถาม“แม่ หนูรู้ดีว่าหนูพูดอะไรอยู่ ถึงแม่เสียดายมาก แต่หนูกับคุณชายหลงยวนไม่ได้ถูกลิขิตให้อยู่ด้ว
“ไม่ว่าคุณจะพูดยังไง พูดจนโลกแตก คุณก็ต้องแต่งงานกับพี่ชายของฉัน!”หลงเซียวกระแทกถ้วยชาลงบนโต๊ะด้วยสีหน้าเกรียวโกรธ“ เรื่องอื่นฉันสามารถทำตามที่บอกได้ แต่การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่สำหรับตัวฉัน ไม่มีทางที่ฉันจะฟังพวกคุณอย่างแน่นอน “ถังหว่านพยายามเถียงด้วยเหตุผล และไม่ประนีประนอมแม้แต่น้อย“ฮาฮาฮา......”หลงเซียวหัวเราะด้วยความโกรธกับท่าทางของถังหว่าน“ถังหว่าน ไม่ใช่ว่าคุณไม่เข้าใจสถานการณ์หรอกเหรอ? พี่ชายของฉันพอใจคุณ นั่นก็ถือเป็นบุญที่ได้มาจากบรรพบุรษของตระกูลถัง!“จะถอนหมั้นหรือไม่ การตัดสินไม่ได้ขึ้นอยู่ที่คุณ ตระกูลถังของคุณมันไม่สามารถตัดสินได้ ขึ้นอยู่กับตระกูลหลงของเราที่จะตัดสินใจ!”“ได้ยินหรือเปล่า? คำพูดตระกูลหลงของฉันเท่านั้นที่สำคัญ!”คำพูดของหลงเซียวรุนแรงมาก แม้แต่สีหน้าของหลินเสวี่ยเยี่ยนที่อยู่ไกล่เกลี่ยตลอดก็เปลี่ยนไปหลงเซียวคนนี้มาปรึกษาดี ๆที่ไหนกัน ก็แค่มาแสดงอำนาจให้พวกเขาเห็นชัด ๆ“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นคุณก็กลับไปถามพี่ชายของคุณเถอะ”ถังหว่านเอ่ยเสียงเย็นชา “แล้วมาดูกันว่าเขาจะเห็นด้วยกับการถอนหมั้นหรือเปล่า ถ้าเขาไม่เห็นด้วย งั้นฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด
“ใช่แล้วหว่านเอ๋อร์ เรื่องนี้ลูกควรจะปรึกษากับพวกเราสักหน่อยถึงจะถูก”ถังว่านหลี่ก็พยายามพูดโน้มน้าวหลงยวนเป็นใครกัน?คนรุ่นหลังที่เก่งกาจของตระกูลหลง แล้วก็เป็นคุณชายที่มีชื่อเสียงมากในเมืองจิง อายุไม่ถึงสามสิบปีก็ได้เป็นยอดฝีมือระดับเซียนเทียน แถมยังอยู่ในตำแหน่งสูงในสำนักหลงผานอีกด้วยอัจฉริยะวัยเยาว์แบบนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้หญิงที่ร่ำรวยตั้งเท่าไหร่ที่นับถือและคลั่งไคล้เป็นเทพเจ้าแต่ลูกสาวของตัวเองยิ่งกว่า ไม่เพียงไม่มีค่าพอให้ชายตามองเท่านั้น คิดไม่ถึงว่ายังถอนหมั้นด้วยตัวเองอีกต่อให้หลินเฟิงดีแค่ไหน ก็เทียบกับหลงยวนไม่ได้ รวมถึงเบื้องหลังของเขาอีกด้วย“เรื่องงานแต่งของฉัน ฉันตัดสินใจเองได้ ไม่ใช่คนอื่นมาชี้นิ้วสั่งการและยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะต้องเสียสละตัวฉันเองเพื่อตระกูลถัง”ใบหน้าของถังหว่านไร้อารมณ์ความรู้สึกหากเป็นเมื่อก่อน เพื่อประโยชน์ของตระกูลและความเจริญของตระกูลถัง บางทีเธออาจจะยอมรับการแต่งงาน และสามารถยอมรับการจัดการของตระกูลก็ได้สุดท้ายไม่ว่าจะมองจากด้านไหนก็ตาม หลงยวนก็เป็นคนที่ดีมาก ๆและเหมาะจะเป็นคนที่ได้รับเลือกของเธอลักษณะที่สง่างาม นิสัยที่ตรงไปต
สำนักหลักทั้งสี่ได้ล้อมปราบปรามหญิงแห่งเมืองหนานไห่อยู่สามปีก็สังหารเธอไม่ได้ ไปมาไร้ร่องรอย เธอจะไปสังหารแห่งเมืองหนานไห่ภายในหนึ่งเดือนได้ยังไง?”แม้แต่ผู้ที่แข็งแกร่งแดนแปรภาพออกลงมือก็ไม่สามารถจับแห่งเมืองหนานไห่ได้แล้วเธอจะทำอะไรได้?......ในเวลานี้ ภายในอ่าวเทียนสุ่ยหลี่ฮุ่ยหรานหวีผมแต่งตัวง่าย ๆและกำลังจะออกไปทำงาน หลินเฟิงก็มาขวางเธอไว้“การโฆษณารีสอร์ทที่พวกคุณทำเป็นยังไงบ้าง?”“นี่เพิ่งผ่านไปหนึ่งสัปดาห์เองนะ”หลี่ฮุ่ยหรานกลอกตาไปที่หลินเฟิง ในดวงตามีความออดอ้อนซุกซน ทำให้หัวใจของหลินเฟิงกระตุกทันทีหลินเฟิงที่ยากจะต่อต้านอ้อมกอดที่วู่วามของเธอ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มีอะไรที่จัดการไม่ได้ แล้วต้องการให้ผมออกตัวไหม?”“จัดการไม่ได้เหรอ....”เมื่อได้ยินความกังวลของหลินเฟิง หลี่ฮุ่ยหรานก็ขมวดคิ้ว และหลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ส่ายหน้า“ไม่ ไม่มีหรอก เรื่องการแจกโบรชัวร์มอบให้ฉันกับถังหว่านก็ได้แล้ว คุณรีบไปจัดการเรื่องฟาร์มทางนั้นเถอะ”“ไม่มีจริง ๆ?”หลินเฟิงเข้าใกล้และหรี่ตาลง“จริงสิ....”เห็นได้ชัดเลยว่าหลี่ฮุ่ยหรานโกหกไม่เก่ง สุดท้ายเธอก็ทำท่าทาง
หลังจากหลินเฟิงขับรถไปส่งหลินเสวี่ยฮุ่ยกับฟ่านหลิงเยว่ที่มหาวิทยาลัยแล้ว เขานั่งอยู่ในรถกดโทรเบอร์ส่วนตัวที่หลี่ฮุ่ยหรานทิ้งไว้ให้เขา“ฮัลโหล”ปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงที่เหนื่อยล้าอ่อนเพลียมาก ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นอิ่นนั่วเจีย“คุณหนูอิ่นนั่วเจีย ผมเองหลินเฟิง”หลินเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบง่ายว่า “คุณหนูอิ่นนั่วเจียช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง? คุณมีเวลาออกมาดื่มไหม?”เดิมทีหลินเฟิงไม่ได้คาดหวังมากนักที่จะเชิญดาราดังขนาดนี้ออกมาได้ เขาเพียงหาหัวข้อพูดคุยเท่านั้นแต่คิดไม่ถึงว่าอิ่นนั่วเจียเงียบไปไม่กี่วินาทีก็ตอบกลับว่า “ที่ไหน?”“เอ่อ......”สิ่งนี้ทำให้หลินเฟิงไปต่อไม่เป็น“สถานที่เหรอ......ไดนาสตี้บาร์แล้วกัน”หลินเฟิงพูดชื่อที่เขานึกขึ้นได้ในขณะนั้น อิ่นนั่วเจียที่อยู่อีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดให้มากความ“ได้ ฉันรู้แล้ว”พูดจบเธอก็วางสายไปหลินเฟิงรู้สึกกระอักกระอ่วน พร้อมเกาหัวตัวเองเดิมทีเขาต้องการใช้คําเชิญเพื่อเปิดหัวข้อสนทนา แต่เขาไม่ได้คิดว่าดาราดังจะรับคำเชิญจากเขาจริงๆหรือว่าเขาก็มีเสน่ห์ดึงดูดขนาดนี้จริง ๆ เหรอ?หลินเฟิงแตะคางและยิ้มเล็กน้อย ทำได้แค่ขับรถมายบัคตรงไปไ