หลังจากหลินเฟิงขับรถไปส่งหลินเสวี่ยฮุ่ยกับฟ่านหลิงเยว่ที่มหาวิทยาลัยแล้ว เขานั่งอยู่ในรถกดโทรเบอร์ส่วนตัวที่หลี่ฮุ่ยหรานทิ้งไว้ให้เขา“ฮัลโหล”ปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงที่เหนื่อยล้าอ่อนเพลียมาก ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นอิ่นนั่วเจีย“คุณหนูอิ่นนั่วเจีย ผมเองหลินเฟิง”หลินเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบง่ายว่า “คุณหนูอิ่นนั่วเจียช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง? คุณมีเวลาออกมาดื่มไหม?”เดิมทีหลินเฟิงไม่ได้คาดหวังมากนักที่จะเชิญดาราดังขนาดนี้ออกมาได้ เขาเพียงหาหัวข้อพูดคุยเท่านั้นแต่คิดไม่ถึงว่าอิ่นนั่วเจียเงียบไปไม่กี่วินาทีก็ตอบกลับว่า “ที่ไหน?”“เอ่อ......”สิ่งนี้ทำให้หลินเฟิงไปต่อไม่เป็น“สถานที่เหรอ......ไดนาสตี้บาร์แล้วกัน”หลินเฟิงพูดชื่อที่เขานึกขึ้นได้ในขณะนั้น อิ่นนั่วเจียที่อยู่อีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดให้มากความ“ได้ ฉันรู้แล้ว”พูดจบเธอก็วางสายไปหลินเฟิงรู้สึกกระอักกระอ่วน พร้อมเกาหัวตัวเองเดิมทีเขาต้องการใช้คําเชิญเพื่อเปิดหัวข้อสนทนา แต่เขาไม่ได้คิดว่าดาราดังจะรับคำเชิญจากเขาจริงๆหรือว่าเขาก็มีเสน่ห์ดึงดูดขนาดนี้จริง ๆ เหรอ?หลินเฟิงแตะคางและยิ้มเล็กน้อย ทำได้แค่ขับรถมายบัคตรงไปไ
ในตอนนี้เอง อันธพาลคนที่นั่งอยู่บนพื้นตะโกนขึ้นเสียงดัง“ใครหาเรื่อง?”ชายหัวล้านคนหนึ่งที่อยู่ใกล้เคาเตอร์บาร์ขยับเข้ามาใกล้ หลังจากที่เขามองตามสายตาของลูกน้องไปยังคนที่มาหาเรื่องเขารีบหยิบผ้าขี้ริ้วที่อยู่ใกล้กับเคาเตอร์บาร์ขึ้นมา และปาไปที่ใบหน้าของลูกน้อง“แม่งเอ๊ย บอกให้แกดื่มน้อยหน่อย ๆ แกก็ไม่ฟัง แกอยากตายก็อย่าลากฉันไปด้วย!”“กินเยี่ยแมวไปนิดหน่อย แม่งจำคุณหลินไม่ได้แล้วเหรอ?”“คุณหลิน คุณหลินไหน?”เห็นได้ชัดว่าอันธพาลที่นั่งอยู่บนพื้นยังไม่รู้ตัวผ่านไปครู่หนึ่ง เขาถึงนึกได้ว่าคุณหลินคนไหน ทันใดนั้นก็คุกเข่าตรงที่เท้าของหลินเฟิงในทันที“คุณหลิน ผมผิดไปแล้ว ขอโทษขอโทษ เมื่อครู่ผมจำคุณไม่ได้จริง ๆ หลิวหย่งพี่ใหญ่ของพวกผมเคยสั่งเอาไว้ ถ้าหากคุณหลินมาที่นี่ให้ใช้จ่ายฟรี...”“ไปเถอะ ครั้งหน้าอย่าม่อผู้หญิงซี้ซั้วแบบนี้อีก”“ถ้าให้ฉันเห็นอีก นายตายแน่”หลินเฟิงก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับอันธพาลคนนี้ เห็นได้ชัดว่าไอ้หมอนี่ดื่มเหล้าเยอะไปหน่อย สติจึงเลือนลางในตอนนี้ถูกหลินเฟิงข่มขู่ เขาก็ได้สติจากแอลกอฮอร์ในทันทีจากนั้นรีบวิ่งหนีหางจุกตูดไป“หึหึ คุณหลิน คิดไม่ถึงว่าชื
“ผมหลินเฟิงไม่ใช่คนที่ไม่ตอบแทนบุญคุณ บอกมาเถอะ ช่วงนี้คุณพบเจอปัญหายุ่งยากอะไรหรือเปล่า ถ้าผมสามารถช่วยได้ ก็จะช่วยคุณอย่างแน่นอน”“แต่คุณก็ต้องสัญญาด้วยว่า จะเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโฮมสเตย์ของผม”รอยยิ้มของหลินเฟิงทำให้ความสงสัยในแววตาของอิ่นนั่วเจียค่อย ๆหายไปรอยยิ้มที่แสร้งว่าเข้มแข็งบนใบหน้าของเธอ ก็ค่อย ๆกลายเป็นความกลัดกลุ้ม“คุณหลิน เรื่องนี้คุณก็ช่วยฉันไม่ได้”“แต่ ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนอะไร”“ดังนั้นฉันก็จะเล่าเรื่องที่พบเจอในช่วงนี้ให้คุณฟัง พร้อมกับเป็นการระบายอารมณ์ส่วนตัวของฉันด้วย”อิ่นนั่วเจียดื่มเหล้าอีกแก้วจากนั้น เธอก็เริ่มพูดถึงเรื่องราวที่พบเจอในช่วงนี้ให้หลินเฟิงได้ฟังปรากฏว่าอิ่นนั่วเจียไม่เพียงแต่จะไม่กลั่นแกล้งคนอื่นในที่ทำงานแล้ว แต่กลับเป็นเธอเองที่ถูกรังแกในที่ทำงานบริษัทที่เธอทำงานอยู่คือเล่อเจียเอ็นเตอร์เทนเม้นท์จำกัด เจ้าของบริษัท คือ หูตัวโหย่ว ซึ่งถือเป็นมหาอำนาจเล็ก ๆในหัวตงและหูตัวโหย่วคนนี้ก็อยากจะได้ร่างกายของอิ่นนั่วเจีย เรื่องนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นในวันสองวันจนกระทั่งก่อนหน้านี้ที่หลินเฟิงพบกับอิ่นนั่วเจียกันครั้งแรก ที่หลินเฟิงเอาชนะคน ๆ
เหยาปินนั่งลงแล้วดื่มเหล้าอึกใหญ่ ถึงได้ผ่อนคลายลง ก่อนจะมองไปทางหลินเฟิง“เกี่ยวกับคุณอิ่นนั่วเจีย”“อะไร? อิ่นนั่วเจีย? ซูเปอร์สตาร์ของประเทศมังกรงั้นเหรอ?” เหยาปินมองอิ่วนั่วเจียอย่างตะลึงงัน ด้วยสายตาที่ไม่สามารถอธิบายอะไรได้“ทำไม พวกคุณรู้จักกันเหรอ?” หลินเฟิงเอ่ยถามอย่างสงสัย“ไม่ใช่ ฉันไม่รู้จักคุณชายท่านนี้”อิ่นนั่วเจียส่ายหน้าปฏิเสธ“ฮาฮา พวกเราไม่รู้จักกันหรอก เพียงแต่บังเอิญนิดหน่อย”เหยาปินยิ้ม ก่อนจะพูดว่า “คนที่ผมไล่ตามเมื่อสักครู่ ก็คือนักบัญชีจางจากบริษัทนายหน้าของคุณอิ่นนั่วเจียคนนี้”“เกิดอะไรขึ้น?”หลินเฟิงเริ่มสนใจ และเอ่ยถามขึ้นอย่างรวดเร็ว“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็แค่นักบัญชีจางยักยอกเงินหลวงและช่วยเจ้านายเปิดบัญชีปลอม ส่งผลให้บริษัทที่ถูกซื้อกิจการอย่างไม่ถูกต้อง”เหยาปินยิ้มแล้วพูดว่า “นิติบุคคลของบริษัทนี้ชื่อว่าหูตัวโหย่ว เขาหนีไปแล้ว ทิ้งไว้แค่นักบัญชีแบบนี้ให้รับโทษ”“อะไรนะ?”เมื่อได้ยินประโยคนี้ อิ่นนั่วเจียก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะมองไปทางเหยาปินอย่างไม่อยากจะเชื่อและพูกว่า “นี่...คุณ...เหยา เล่อเจียเอ็นเตอร์เทนเม้นท์จำกัดไม่ได้ถูกบริษัทตระกูลซ
เมื่อได้ยินคำแนะนำของหลินเฟิง อิ่นนั่วเจียก็ตกตะลึงไปทันทีเธอคิดไม่ถึงจริง ๆเลยว่า หลินเฟิงจะมีความมั่นใจในการต่อสู้กับตระกูลซือหม่า?แน่นอน ว่าสิ่งที่เธอคาดไม่ถึงอีกเรื่องก็คือ หลินเฟิงยังจะไปล่วงเกินตระกูลหลงในเวลาเดียวกันอีกด้วย?หลินเฟิงไม่ได้สนใจสายตาตกตะลึงของอิ่นนั่วเจีย และสยังคงวางแผนต่อไปว่า “ผมวางแผนที่จะสร้างโฮมสเตย์บริเวณชานเมืองเจียงโจว ให้เป็นสวนแบบระบบนิเวศ”“ถึงขนาดสามารถก่อสร้างเป็นโรงถ่ายภาพยนตร์และโทรทัศน์แบบธรรมชาติได้”“มีคุณ ราชินีวงการภาพยนตร์แห่งเมืองจิงคนนี้ที่คนลงมือด้วยตัวเอง ผมก็สามารถลงทุนในการถ่ายทำภาพยนตร์ให้แก่คุณได้เช่นกัน และการถ่ายทำก็ทำภายในโฮมสเตย์ของผมเอง”“ถือโอกาสให้มคุณทำงานฟาร์มธรรมดา ๆบ้าง อย่างเช่น การปลูกและเก็บชา เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีกับผู้คน และยังสามารถโปรโมตโฮมสเตย์ของผมได้อีกด้วย” “ ถึงตอนนั้นก็ยังสามารถดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปและกลุ่มทัวร์ได้ เพียงแต่จะต้องลำบากคุณให้ทำงานเพิ่มอีกสักหน่อย.....”สมองของหลินเฟิงกำลังวิ่งอย่างรวดเร็ว โดยที่ปากก็ยังแจกแจงคำพูดเกี่ยวกับแนวคิดต่าง ๆภายในสมองของเขาสิ่งนี้ทำให้สายตาของอิ
ถึงขั้นที่ในใจของเธอรู้สึกเฝ้ารอเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นแต่สุดท้ายหลินเฟิงเพียงแค่พาเธอกลับไปส่งที่คฤหาสน์หรูของเธอเท่านั้นจริง ๆนี่จึงทำให้ลึก ๆ ในใจของอิ่นนั่วเจียเกิดความผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเธอครุ่นคิดถึงเหตุผลของความผิดหวัง ทันใดนั้นก็ทำให้เธอเขินอายจนหน้าแดง และล้มคว่ำไปบนเตียงไม่กล้าเงยหน้าเมื่อออกมาจากคฤหาสน์หรูของอิ่นนั่วเจีย หลินเฟิงก็อารมณ์ดีอย่างมากเขาเดินทางไปที่เมืองหนิงโจว ตัวเองได้รับแก่นสารจวี้คังมา สามารถทำตามสัญญาที่จะสร้างโฮมสเตย์ให้เป็นจริงได้ ถึงขั้นที่เกินความต้องการและก็ดึงอิ่นนั่วเจียมาเข้าร่วมได้อาศัยสถานการณ์ในช่วงนี้ โฮมสเตย์ของเขาไม่อยากมีชื่อเสียงก็ไม่เป็นไปไม่ได้แต่ความคิดบางอย่าง ต้องรอให้หลินเฟิงกลับไปยังจุดสูงสุดแล้วค่อยพิจารณาดังนั้นหลังออกมาจากคฤหาสน์หรูของอิ่นนั่วเจีย หลินเฟิงก็โทรศัพท์ไปหาหลี่ฮุ่ยหรานก่อน บอกเธอว่าเรื่องของอิ่นนั่วเจีย เขาได้จัดการแล้วไม่รอให้หลี่ฮุ่ยหรานถามรายละเอียด หลินเฟิงก็วางสายไป และขับรถไปที่สำนักไป๋เกาที่นอกสำนักไป๋เกา หลินเฟิงไม่ได้เห็นรถมายบัครุ่นเดียวกับของตัวเอง ดูท่าวันนี้จางเจียหนิงไม่ได้มาทำงาน
“พรวด!”เหมือนกับได้ยินเสียงคำรามของหลินเฟิง ภายในจุดตันเถียน จู่ ๆ ปรากฏหยดน้ำเขียวมรกขึ้นมาหนึ่งหยดหลินเฟิงตกตะลึงอย่างมาก ถ้าหากมีสิ่งของปะปนเข้าไปในจุดตันเถียนจะไม่ดีแน่ แต่ไม่นานนัก เขาก็วางใจแล้วเพราะว่าหยดน้ำนี้ไม่ใช่สิ่งอื่นใด เป็นพลังชี่แท้บริสุทธิ์ที่อยู่ภายในร่างกายของหลินเฟิงกำลังภายในค่อย ๆ แปรเปลี่ยนจากระดับเซียนเทียนเป็นพลังชี่แท้และหลังจากที่ผู้อยู่ในระดับเซียนเทียนเข้าสู่แดนแปรเทพ สุดท้ายกลายเป็นพลังชี่แท้ที่มีลักษณะคล้ายของเหลวถ้าหากพูดว่ากำลังภายในที่เปลี่ยนเป็นพลังชี่แท้สามารถฆ่าคนที่อยู่ไกลออกไปสิบก้าวได้ ส่วนพลังชี่แท้ที่เป็นของเหลวนี้ กลับมีประสิทธิภาพที่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าใจได้ไม่เพียงระยะของพลังชี้แท้ที่ปล่อยออกมาจากร่างกาย แต่พละกำลังของชี่แท้ที่ปล่อยออกมานั้นก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ถึงขั้นที่พลังชี่แท้ของเหลวที่วิชานิ้วส่งอกไป สามารถโจมตีทะลุแผ่นเหล็กที่อยู่ห่างออกไปร้อยเมตร น่ากลัวยิ่งกว่ากระสุนปืนธรรมดาเสียอีกพูดได้ว่าเป็นซูเปอร์แมนที่แท้จริงสัตว์ประหลาดรูปร่างมนุษย์หลังจากที่ชี่แท้เหลวที่อยู่ภายในร่างกายของหลินเฟิงยิ่งอยู่ยิ่งม
กลับกันนั้น ยายืดอายุขัยสีเขียวโปร่งใสหนึ่งหม้อก็ถูกเขาเก็บใส่ขวดทำทุกอย่างนี้เสร็จ หลินเฟิงถึงได้โล่งอกอย่างถึงที่สุดมองดูสีท้องฟ้าข้างนอก เป็นช่วงกลางดึก มีดวงดาวเต็มไปหมดแล้วและห้องของเขา ไม่เพียงบนผนังมีรูขนาดใหญ่ที่มีลมรั่ว เฟอร์นิเจอร์ทั้งบ้านก็พังทลาย ไม่มีสักชิ้นที่สมบูรณ์แบบหลินเฟิงเดินออกไปข้างนอก พบว่าภายในบ้านเงียบสงบ ไม่มีใครสักคนมีเพียงกระดาษโน้ตที่หลี่ฮุ่ยหรานทิ้งเอาไว้เธอกลัวจะรบกวนหลินเฟิง ดังนั้นคืนนี้จึงไปพักที่โรงแรมพร้อมกับหลินเสวี่ยฮุ่ยและคนอื่น ๆในตู้เย็นมีอาหารที่จ้าวเฉียวอวิ๋นตั้งใจทำให้เขามองดูกระดาษโน้ตนี้ หลินเฟิงทั้งรู้สึกซาบซึ้งและก็หลุดยิ้มออกมา ในใจมีความรู้สึกอบอุ่นจากการมีครอบครัวที่แท้จริงหลินเฟิงยืดกล้ามเนื้อเล็กน้อย ทั่วทั้งตัวเสียงดังกร่อบแกร่บเขาเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ เมื่อออกมา ก็หยิบอาหารที่จ้าวเฉียวอวิ๋นเตรียมเอาไว้ออกมา และเริ่มกลืนกินเข้าไปในตอนที่หลินเฟิงทานอาหาร จู่ ๆ เขาก็นึกอะไรได้ จากนั้นก็ค้นหาโทรศัพท์ของตัวเองภายในห้องที่เละเทะยังดีที่ ถึงแม้หน้าจอโทรศัพท์จะแตก แต่อย่างน้อยก็ไม่ส่งผลทบต่อการที่หลินเฟิงมองดูหน้าจอ