“ฆ่าคน” หลินเฟิงน้ำเสียงเย็นชาเสิ่นหานเข้าใจในทันที: “เข้าใจแล้วครับ คุณชายหลิน ผมจะออกเดินทางเดี๋ยวนี้”......ในตอนนี้หลี่ว์เจิ้งหยางก็หนีกลับไปที่ตระกูลหลี่ว์ด้วยความร้อนรนหลี่ว์เฉิงเลี่ยงเห็นเขากระวนกระวายขนาดนี้ ใบหน้าก็ยังมีรอยฝ่ามือที่แดงก่ำจึงรับรู้ได้ว่าเขาถูกหลินเฟิงสั่งสอนแล้ว“แกลักพาตัวหลี่เสวี่ยหรานเหรอ?” หลี่ว์เฉิงเลี่ยงไม่มีเวลาให้คิดมาก จึงรีบถามขึ้นหลี่ว์เจิ้งหยางหายใจหอบ: “ใช่ ผมใกล้จะจัดการหลี่ฮุ่ยหรานได้แล้ว ก็ถูกไอ้เวรหลินเฟิงคนนั้นขัดจังหวะผมอีก”พูดจบเขาก็ชกกำปั้นไปบนโต๊ะระบายความโมโหที่อยู่ในใจ“แกนะแก...”หลี่ว์เฉิงเลี่ยงชี้ลูกชายของเขาที่ไม่เชื่อฟังคำสั่ง: “เรื่องแบบนี้ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดคือความใจร้อน ตอนนี้แกผลักให้หลี่ฮุ่ยหรานไปข้างกายหลินเฟิงอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว”“แล้วจะยังไง? อย่างมากพวกเราก็แค่ฆ่าหลินเฟิงซะ”หลี่ว์เจิ้งหยางพูดเหยียดหยามหลี่ว์เฉิงเลี่ยงชะงักงัน: “ฆ่าหลินเฟิง? แกเอาอะไรไปฆ่า?”หลี่ว์เจิ้งหยางยิ้มมุมปากเล็กน้อย: “หึ พ่อ พ่อลืมไปแล้วเหรอว่าคุณหนูตระกูลเซี่ยงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับผม จากที่ผมรับรู้ คุณหนูตระกูลเซี่ยงเ
ที่หลินเฟิงมาในครั้งนี้ก็จะชำระสะสางแค้นกับตระกูลหลี่ว์ เขาก็ไม่ได้คิดที่จะหลบซ่อนอยู่แล้วจากนั้นก็ถีบประตูของตระกูลหลี่ว์ให้เปิดออกในทันทีเสียงดังสนั่นทำให้คนของตระกูลหลี่ว์ตื่นตระหนกบอดี้การ์ดจำนวนมากกรูกันออกมาจากคฤหาสน์ และล้อมรอบทั้งสองคนเอาไว้พ่อลูกหลี่ว์เฉิงเลี่ยงก็เดินออกมา เมื่อเห็นหลินเฟิง หลี่ว์เจิ้งหยางก็หัวเราะด้วยความเหยียดหยามเป็นอย่างมาก: “ไอ้สกุลหลิน แกกล้ามาจริง ๆ ด้วยสินะ”เขาไม่เชื่อว่า คนของตระกูลตัวเองเยอะแยะขนาดนี้ จะจัดการหลินเฟิงคนนี้ไม่ได้“หุบปาก”หลี่ว์เฉิงเลี่ยงตะคอกด้วยความโมโหและหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง: “คุณหลิน ไม่ทราบว่าดึก ๆ ดื่น ๆ มาที่ตระกูลหลี่ว์มีธุระอะไรเหรอครับ?”“มาเอาชีวิตต่ำ ๆ ของลูกชายคุณยังไงล่ะ” หลินเฟิงพูดอย่างไม่รีบร้อน แต่ในน้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยพลังทำลายหลี่ว์เฉิงเลี่ยงขมวดคิ้ว: “คุณหลิน เรื่องในวันนี้เป็นความผิดของเจิ้งหยางจริง ๆ ผมขอโทษคุณ ณ ที่ตรงนี้ด้วย ไม่ทราบว่าคุณจะปล่อยเจิ้งหยางไปสักครั้งจะได้ไหมครับ? ให้โอกาสเขาได้เปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่”“ถ้าหากว่าขอโทษแล้วมีประโยชน์งั้นจะมีตำรวจเอาไว้ทำอะไร?”หลินเฟิงพูดด้วยน้ำเ
ในตอนนี้หลินเฟิงพูดเสียงเย็นชาขึ้นมา: “อย่ามัวเสียเวลา ให้เวลาคุณจัดการสามนาที”เสิ่นหานพูดขึ้นทันที: “ไม่ต้องสามนาที หนึ่งนาทีผมก็จัดการเสร็จแล้ว”“แม่งเอ๊ย วันนี้ฉันจะดูสักหน่อยว่านายมีความสามารถอะไรกันแน่ถึงได้กล้าพูดจาสามหาว”เว่ยอู๋เหินตวาดด้วยน้ำเสียงเดือดดาลเขาส่งพลังไปที่เท้าในทันที เขาถีบไปที่หน้าของเสิ่นหานเหมือนกับเสือดุลงจากภูเขาฝ่าเท้ามีลมโหมกระหน่ำหลี่ว์เจิ้งหยางทั้งตกตะลึงทั้งดีใจ: “สุดยอดมาก”เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ปรมาจารย์ที่พ่อของเขาหามาจะสุดยอดขนาดนี้วินาทีต่อมา เสิ่นหานขยับเขยื้อนทันทีมือของเขาเหมือนกับกุญแจมือที่ล็อกข้อเท้าของเว่ยอู๋เหินเอาไว้ออกแรงมือเหมือนกับเท้าเหยี่ยวทันที“อ้าก…” เว่ยอู๋เหินร้องอย่างอนาถในทันทีเสิ่นหานปล่อยหมัดไปที่หัวเข่าของเขา“แกร่ก”เสียงดังก้องเว่ยอู๋เหินตกลงจากกลางอากาศทันทีเขากอดขาข้างขวาของตัวเองและกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น“อ้าก...ขาของฉัน ขาของฉัน”เว่ยอู๋เหินสีหน้าซีดเซียว เหงื่อซึมออกมา และส่งเสียงตะโกนที่จะขาดใจออกมาคนของตระกูลหลี่ว์ก็ตกตะลึงจนหน้าถอดสี“นี่...นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?” หลี่ว์เฉิงเลี่ยงตกตะลึงตาค
หลินเฟิงออกแรงฝ่ามือเล็กน้อยเสียงดัง “แกร่ก” จากนั้นเสียงของหลี่ว์เจิ้งหยางก็หยุดลงทันทีเขาตายตาไม่หลับ“อ้าก...” หลี่ว์เฉิงเลี่ยงเห็นลูกชายของตัวเองตายอย่างน่าอนาถ ก็ส่งเสียงร้องโอดครวญออกมาอย่างขาดใจ“หลินเฟิง แกไม่ได้ตายดี ฉันแม่งสู้สุดชีวิตกับแกแล้ว”หลี่ว์เฉิงเลี่ยงดวงตาแดงก่ำ และเต็มไปด้วยเส้นเลือด จากนั้นก็แผดเสียงใส่หลินเฟิง: “ใครก็ได้ ฆ่ามันให้ฉันซะ ฆ่ามันซะ”บอดี้การ์ดของตระกูลหลี่ว์เห็นแบบนี้ก็พากันชักอาวุธออกมา ดาบเหล็กแต่ละเล่มที่แวววับทำให้คนรู้สึกตาลายจริง ๆคนนับสิบพุ่งไปทางหลินเฟิงเสิ่นหานกำลังจะลงมือ แต่กลับถูกหลินเฟิงห้ามเอาไว้“วันนี้ ฉันจะให้พวกเขาได้รับรู้หน่อยว่า อะไรที่เรียกว่ากำลังที่แท้จริง”หลินเฟิงตวาดด้วยน้ำเสียงโมโห ลมพายุใต้ฝ่าเท้าก่อตัวขึ้นชายเสื้อปลิวว่อนส่งเสียงดังเขากระทืบเท้าทันที และพุ่งไปทางกลุ่มคนราวกับกระสุนปืนใหญ่หมัดหนึ่งถูกปล่อยออก คนสี่คนถูกต่อยจนกระเด็นออกไปทันที น้ำหนักหลายร้อยกิโลกรัมไม่สามารถรองรับหมัดของหลินเฟิงเอาไว้ได้ด้วยซ้ำคมดาบที่แหลมคมฟาดลงมา หลินเฟิงใช้นิ้วมือดีดเบา ๆ ดาบเหล็กก็หักในทันทีชี่แท้หมุนเวียน จุด
หลินเสวี่ยฮุ่ยรู้สึกหมดคำพูด อีกทั้งแต่ละคนยังสวยขนาดนี้“คุณเป็นอะไรกับเขาคะ?” หลินเสวี่ยฮุ่ยถามลองเชิง“ฉันเป็นภรรยาของเขา” หลี่ฮุ่ยหรานตอบตามตรง“หือ?” หลินเสวี่ยฮุ่ยสีหน้างุนงง“ทำไมเหรอ?” หลี่ฮุ่ยหรานมองเธอด้วยความประหลาดใจหลินเสวี่ยฮุ่ยส่ายหน้าติดต่อกัน: “ไม่ ไม่มีอะไรค่ะ ก็แค่ก่อนหน้านี้ก็มีคนบอกว่าเป็นภรรยาของหลินเฟิง...”“ฉันก็แค่สงสัยว่าพี่หลินเฟิงมีภรรยากี่คนกันแน่”หลี่ฮุ่ยหรานมุมปากกระตุกเล็กน้อย ไม่ต้องคิดเธอก็รู้แล้ว: “คนคนนั้นชื่อถังหว่านสินะ?”“คุณรู้ได้อย่างไรคะ?”หลี่ฮุ่ยหรานยิ้มบาง: “ไม่มีอะไร ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ภรรยาของหลินเฟิงด้วยซ้ำ คุณถูกเธอหลอกแล้ว”“อ่อใช่ คุณคือ...”“ฉันคือน้องสาวของหลินเฟิง ฉันชื่อหลินเสวี่ยฮุ่ยค่ะ”“อ๋อ...”หลี่ฮุ่ยหรานพูดด้วยความลึกซึ้งกินใจ: “งั้นฉันก็คือพี่สะใภ้ของคุณ คุณช่วยไปเรียกหลินเฟิงให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?”ถึงแม้เธอจะไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าหลินเฟิงมีน้องสาวอะไรด้วย แต่คนผู้นี้ก็นามสกุลหลิน เธอจึงไม่ได้คิดอะไรมากหลินเสวี่ยฮุ่ยพยักหน้า“งั้นคุณนั่งรอสักครู่ ฉันจะไปเรียกพี่หลินเฟิงเดี๋ยวนี้ค่ะ”หลี่ฮุ่ยหรานมาถึงห้องรับ
ตัวเขาก็ตกอยู่ในความลังเลอย่างหนึ่งในตอนนี้เองริงโทนโทรศัพท์ก็ดังขึ้นกะทันหัน หลินเฟิงรู้สึกเหมือนมีตัวช่วยตกลงมาจากสวรรค์ในทันทีเขารีบรับสายโทรศัพท์ อีกฝ่ายของโทรศัพท์มีเสียงของฉินอิ๋งดังขึ้น: “คุณหลิน ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนคะ?”“ผมอยู่ที่บ้าน ทำไมเหรอ?” หลินเฟิงพูดถาม“คือแบบนี้ คุณนายถังอยากจะเจรจากับคุณเรื่องบริษัทเภสัชกรรมเชิงถังสักหน่อยค่ะ ดังนั้นจึงไหว้วานให้ฉันติดต่อคุณ เธออยากจะพบหน้ากับคุณหน่อยค่ะ” ฉินอิ๋งพูดขึ้นทันทีดวงตาคมกริบของหลินเฟิงหรี่ตาลง เขาแทบจะเข้าใจได้ในทันที คุณนายถังหลบเลี่ยงถังหว่าน ดังนั้นถึงได้ให้ฉินอิ๋งติดต่อเขาเขาพูดถาม: “ตอนนี้ถังหว่านอยู่ที่ไหน?”ฉินอิ๋งพูดด้วยความเก้กัง: “ฉันก็ไม่รู้ค่ะ พี่หว่านเอ๋อ วันนี้ออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา”“คุณคือหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท ดังนั้นพวกเขาถึงได้อยากจะเจรจากับคุณ”“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” หลินเฟิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ: “ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ”เขาก็ไม่เข้าใจว่าถังหว่านกำลังทำอะไรอยู่กันแน่หลังจากวางสาย เขาหันหน้าไปพูดกับหลี่ฮุ่ยหราน: “ผมมีธุระนิดหน่อย ต้องออกไปข้างนอก”“เกี่ยวกับ
“ทำไมกัน?”หลินเฟิงนั่งไขว่ห้าง และพูดอย่างเอื่อยเฉื่อย: “หุ้นของผมถังหว่านเป็นคนให้ผม ถ้าหากจะเอาหุ้นกลับไป ก็ควรจะเป็นถังหว่านมาพูดคุยกับผม คุณไม่มีสิทธิ์คุยกับบผมเรื่องนี้”ถังอวิ๋นเฟิงโมโหเป็นอย่างมาก หลินเฟิงคนนี้ไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสินะ“แกแม่ง....”ถังว่านหลี่ลุกขึ้นยืนทันทีแล้วพูดไกล่เกลี่ยและหัวเราะหึหึ: “เอาล่ะเอาล่ะ...อวิ๋นเฟิงคุณใจเย็นก่อนนะ”หลินเสวี่ยเยี่ยนขมวดคิ้วพูด: “หลินเฟิง ตอนนี้ฉันกำลังคุยกับคุณในฐานะแม่ของถังหว่าน ที่ฉันทำแบบนี้เพราะได้ใคร่ครวญอย่างรอบคอบแล้ว”“ใคร่ครวญอย่างรอบคอบอะไรไม่ลองบอกกับผมดู?” หลินเฟิงถามขึ้นทันที“พอแล้ว”ในตอนนี้เอง ผู้ชายชุดดำที่นั่งอยู่บนที่นั่งตวาดเสียงแข็ง: “วันนี้ฉันมาที่นี่ ไม่ได้มาฟังพวกคุณพูดจาไร้สาระกัน”เขาหันหน้ามองไปทางหลินเฟิงแล้วถามอย่างดูถูก: “นายก็คือหลินเฟิง?”“ถูกต้อง”ตอนนี้หลินเฟิงก็เริ่มจ้องมองคนผู้นี้เลือดลมล้นเหลือ กำลังภายในแน่นหนา ดูท่าทางเหมือนกับเป็นปรมาจารย์คนหนึ่ง“คุณคือ?”ถังอวิ๋นเฟิงพูดขึ้นทันที: “ท่านนี้คือคุณเฉิน เฉินเหวินหย่วนผู้การตระกูลเฉิน”เมื่อได้ยินว่าเป็นตระกูลเฉิน หลินเฟิ
“ฉันดูแล้วนายอยากรนหาที่ตายสินะ” เฉินเหวินหย่วนตวาดเสียงดังฝ่ามือจับโต๊ะเอาไว้แน่น และยกขึ้นทันทีโต๊ะทำงานไม้เนื้อแข็งถูกเขายกลอยขึ้นและปาไปทางหลินเฟิงทันทีคนตระกูลถังตกใจจนพากันถอยออกไปมีเพียงหลินเฟิงที่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้เขายกฝ่ามือขึ้นช้า ๆ จากนั้นกดลงไปบนโต๊ะเบา ๆ โต๊ะทำงานไม้เนื้อแข็งตกลงอีกครั้งทันทีเสียงสั่นสะเทือนก้องหูดัง “โครม”เฉินเหวินหย่วนรู้สึกตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงจะมีความสามารถแบบนี้หลินเฟิงถือแก้วน้ำชาไว้ในมือและพูดเสียงแข็ง: อายุเยอะแล้ว อย่าอารมณ์ร้อนขนาดนั้น ดื่มน้ำชาลดอุณหภูมิหน่อย”เมื่อพูดจบ แก้วน้ำชาที่อยู่ในมือก็ลอยไปทางเฉินเหวินหย่วนความเร็วราวกับธนูที่แยกออกจากสายธนูเฉินเหวินหย่วนกำลังภายในแข็งตัว ฝ่ามือตบแก้วชาจนแตกแต่น้ำชาที่อยู่ภายในแก้วน้ำชากลับกลายเป็นหยดน้ำ พุ่งยิงไปทางเขาเหมือนกับลูกกระสุนอย่างไรอย่างนั้นเฉินเหวินหย่วนไม่ได้ใส่ใจด้วยซ้ำ ไม่คิดด้วยซ้ำว่าหยดน้ำเหล่านี้จะสามารถทำร้ายเขาได้จนกระทั่งหยดน้ำแทงทะลุผิวหนังของเขา เขาถึงได้รับรู้ถึงความอันตรายแต่น่าเสียดายที่สายไปแล้วเฉินเหวินหย่วนโซเซทันที เกือบจะยืนไม่ไหว