หลินเฟิงจ้องมองไป คนที่มาถึงก็คือหลิวไฮ่เทาเขาพูดอย่างเย็นชา: “ไม่มีอะไร ก็แค่มีไอ้พวกไม่ดูตาไม้ตาเรือใส่ความผมว่าทำแจกันของเขาแตก แล้วก็หาคนกลุ่มหนึ่งมาสั่งสอนผม”“อะไรนะ? มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอครับ?”หลิวไฮ่เทาเดือดดาลอย่างมากคิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าใส่ความผู้มีพระคุณที่ช่วยรักษาพ่อของเขา แบบนี้จะยอมได้อย่างไร?“พวกนายเป็นใครกัน? ถึงได้กล้าลงมือทำร้ายคน?” หลิวไฮ่เทามองไปทางหานเต๋อหย่งและคนอื่น ๆ จากนั้นก็ตวาดด้วยน้ำเสียงโมโห“เกี่ยวอะไรกับแกด้วย? รีบไสหัวไปซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะสั่งสอนแกด้วย”หานเต๋อหย่งตวาดด้วยน้ำเสียงโมโห เขาไม่ได้เห็นหลิวไฮ่เทาอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ“นาย...”หลิวไฮ่เทาโมโหเป็นอย่างมาก อย่างน้อยเขาก็เป็นถึงลูกชายของท่านผู้ว่าหลิวนะคิดไม่ถึงว่าจะถูกพวกเสเพลกระจอก ๆ ด่าเข้าให้“คุณฟาง”เขาหันหน้ามองไปทางผู้ชายที่อยู่ข้างหลังคนผู้นี้ก็คือฟางเหวินบอดี้การ์ดของหลิวไฮ่เทา เขาเข้าใจได้ในทันทีจากนั้นก็วิ่งตรงไปทางหานเต๋อหย่งอย่างรวดเร็วลูกน้องที่อยู่รอบ ๆ เห็นแบบนี้แล้วอยากจะขัดขวางเอาไว้แต่ในตอนที่เพิ่งจะสัมผัสถึงตัวของฟางเหวินพวกเขาก็ถูกชกจนกระเด็นออกไป
หลี่ว์เจิ้งหยางถูกตบจนมึนงงเล็กน้อย ถึงแม้ว่าในใจจะไม่พอใจอย่างมาก แต่เมื่อมองดูฟางเหวินที่อยู่ด้านข้าง เขาก็ทำได้แค่อดกลั้นความโมโหเอาไว้หานเต๋อหย่งได้ยินคำพูดนี้ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ: “อะไรนะ? ไอ้สกุลหลี่ว์ แกแม่งกล้าหลอกฉันเหรอวะ? คุณชายท่านนี้ อันที่จริงผมก็ถูกหลอกเหมือนกันนะครับ”“หุบปาก” หลิวไฮ่เทาถลึงตาใส่เขาหานเต๋อหย่งตกใจจนไม่กล้าพูดอีกหลี่ว์เจิ้งหยางอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ พูดขึ้นมา: “เรื่องนี้โทษผมเองครับ โทษผม ในเมื่อเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน งั้นเรื่องนี้ก็ช่างมันเถอะครับ”“ช่างมัน?”หลิวไฮ่เทาพูดเสียงเย็นชา: “นายใส่ความเพื่อนของฉันแล้วคิดจะปล่อยผ่านไปแบบนี้เหรอ? ขอโทษเพื่อนของฉันซะ”“อะไรนะครับ?”หลี่ว์เจิ้งหยางชะงักงัน อย่างไรซะเขาก็เป็นถึงคุณชายของตระกูลหลี่ว์แถมยังเป็นประธานบริษัท จะให้ขอโทษผู้ชายหน้าตัวเมียอย่างมัน นี่มันเหมาะสมที่ไหนกันล่ะ“ให้ผมขอโทษเขา?”“หรือนายมีข้อโต้แย้งเหรอ?” หลิวไฮ่เทาตวาดด้วยความโมโหในตอนนี้ฟางเหวินก็เดินไปด้านข้างของเขาหลี่ว์เจิ้งหยางกัดฟัน วันนี้ถ้าไม่ขอโทษก็คงจะเลี่ยงการถูกกระทืบอย่างหนักไม่ได้“ไม่ ไม่มีข้อโต้แย้งครับ”เขาทำได้แค่ฝื
“ไม่จำเป็นครับ ครั้งนี้เป็นงานวันเกิดของคุณปู่ของผม จะรบกวนให้คุณหลิวช่วยเหลือได้อย่างไร” หลินเฟิงยิ้มแล้วพูดปฏิเสธอย่างสุภาพ“คุณปู่?” หลิวไฮ่เทาได้ยินแบบนี้ก็ตกตะลึงอย่างมากทำไมเขาถึงไม่รู้ว่าหลินเฟิงมีคุณปู่ด้วย?หลินเฟิงพูดอธิบาย: “คุณปู่ของอดีตภรรยาของผม ท่านมีบุญคุณต่อผมอย่างมาก ถึงแม้ผมจะหย่าร้างกับอดีตภรรยาแล้ว แต่ว่างานวันเกิด ผมก็ยังต้องไป”“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”หลิวไฮ่เทาประสานมือแล้วพูดขึ้น: “คุณหลินเฟิงเป็นคนที่รู้จักบุญคุณคนจริง ๆ นะครับ”“พูดตามตรงนะครับคุณหลิน สถานที่นี้ถึงแม้จะเป็นแหล่งขายวัตถุโบราณ แต่ก็ไม่ได้มีของแท้อะไร ในบ้านของผมมีของสะสมอยู่มากมาย”“อีกอย่างปกติแล้วพ่อของผมก็มีความชอบในการเก็บสะสมวัตถุโบราณอยู่แล้ว ของที่บ้านของผมเป็นของจริงแน่นอน คุณเลือกของสักสองชิ้นไปได้ตามใจชอบเลยครับ”หลินเฟิงคิดไม่ถึงว่าหลิวไฮ่เทาจะใจกว้างขนาดนี้แต่มีคนแนะนำให้ ก็ดีกว่าตัวเองสุ่มสี่สุ่มห้าหาอยู่ตรงนี้“นี่...เกรงใจมาก ๆ เลยครับ”หลิวไฮ่เทายิ้มแล้วพูด: “คุณหลิน ดูคุณพูดซะ คุณเป็นถึงผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตพ่อของผมนะครับ วัตถุโบราณสองชิ้นแลกกับชีวิตคุณพ่อของผ
หลินเฟิงส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น: “งานฉลองวันเกิดของคุณปู่ยังเหลืออีกหลายวัน รายละเอียดสถานที่ยังไม่ได้กำหนดครับ”หลิวกั๋วฮุยพูดขึ้นทันที: “หือ? งั้นไม่สู้ไปจัดที่โรงแรมอิ๋งปินเมืองเจียงโจวดีไหมครับ? สถานที่นี้มาตรฐานสูงพอสมควร คุณปู่จะต้องชอบแน่นอนครับ”โรงแรมอิ๋งปินเมืองเจียงโจวรับผิดชอบต้อนรับและบริการลูกค้านอกโดยเฉพาะ บางครั้งก็รับงานเลี้ยงขนาดใหญ่อยู่บ้างเพียงแต่ต้องทำการนัดหมายล่วงหน้าสองเดือนมีเส้นสายของหลิวกั๋วฮุย การนัดหมายก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วแต่หลินเฟิงก็ถอนหายใจแล้วพูดขึ้น: “ไม่ต้องหรอกครับ งานเลี้ยงในครั้งนี้ผมไม่ใช่ผู้รับผิดชอบ คนของตระกูลหลี่เป็นคนจัดแจงทั้งหมด”“เอาไว้ครั้งหน้าที่มีโอกาสนะครับ...”“อ๋อ...งั้นก็ได้ครับ”ทั้งสามคนพูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง เขาถึงได้กลับไปเมื่อส่งหลินเฟิงกลับไป หลิวกั๋วฮุยก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันทีโทรไปหาถังหว่าน: “คุณถัง เรื่องงานฉลองวันเกิดของคุณปู่ของหลินเฟิงคุณทราบไหมครับ?”“เอ่อ? ไม่ทราบนะคะ หลินเฟิงมีคุณปู่ที่ไหนกันคะ?” ถังหว่านที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์พูดด้วยความสงสัย“อ๋อ ไม่ใช่คุณปู่ของหลินเฟิงครั
เลขาผู้ว่าได้พบกับหลี่ฮุ่ยหรานก็ยิ้มบาง ๆ: “คุณหลี่ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันครับ ผมเหลียงอัน เคยได้ยินมานานแล้วว่าคุณหลี่ฉลาดและสวยงามอย่างมาก วันนี้ได้พบก็โดดเด่นจริง ๆ ด้วยครับ”หลี่ฮุ่ยหรานชะงักงัน และยิ้มด้วยความเก้กังตอนนี้ตัวเองมีชื่อเสียงขนาดนี้แล้วเหรอ? เลขาผู้ว่าก็ยังเคยได้ยินชื่อของเธอด้วย?“เอาเถอะค่ะ เลขาเหลียงพวกเราอย่ามัวแต่ยืนเฉยอยู่ที่หน้าประตูเลยค่ะ มีอะไรพวกเราเข้าไปคุยกันในบ้านเถอะค่ะ” จางซินพูดขึ้นทันทีหลี่ฮุ่ยหรานก็ตั้งสติขึ้นมา และรีบพยักหน้าพูดขึ้น: “ใช่ค่ะ ใช่ค่ะ เลขาเหลียงพวกเราเข้าไปคุยกันในบ้านเถอะค่ะ”เหลียงอันกลับส่ายหน้าพูดขึ้น: “ไม่ต้องครับ ที่ผมมาในครั้งนี้เพื่อจะมาทำธุระแทนท่านผู้ว่า”หลี่ฮุ่ยหรานถามด้วยความระมัดระวัง: “ไม่ทราบว่าท่านผู้ว่ามีรับสั่งอะไรคะ?”เหลียงอันยิ้มพูด: “คุณหลี่ไม่ต้องวิตกกังวลครับ เป็นเรื่องมงคล ท่านผู้ว่าได้ยินว่าเป็นวันเกิดของคุณปู่ตระกูลหลี่ จึงได้จัดแจงห้องส่วนตัวเทียนหลงที่ชั้นบนสุดของโรงแรมอิ๋งปินเมืองเจียงโจวให้พวกคุณได้ใช้”“ค่าใช้จ่ายทุกอย่างมีท่านผู้ว่าเป็นคนชำระ”“ห๊ะ?”ข่าวนี้ทำให้คนตระกูลหลี่ตกตะลึงเป็นอย่างม
“ยังนิ่งอึ้งอะไรกันอยู่? ไปส่งบัตรเชิญเถอะ บอกกับทุกคนว่า สถานที่จัดงานฉลองวันเกิดของคุณปู่อยู่ที่โรงแรมอิ๋งปิน”หลี่ฮุ่ยหรานกวาดสายตามองทุกคนรอบ ๆ แล้วพูดด้วยความฮึกเหิม......ไม่กี่วันต่อมา งานฉลองวันเกิดของคุณปู่ตระกูลหลี่จัดขึ้นตามที่กำหนดไว้ที่จัดคือโรงแรมอิ๋งปินเมืองเจียงโจว ที่ได้มีการบอกกล่วงหน้าจากหลิวกั๋วฮุย โรงแรมอิ๋งปินคึกคักเป็นอย่างมากการตกแต่งไม่ขอว่าดีที่สุดแต่ขอว่าต้องแพงที่สุด หลัก ๆ ก็คือหรูหราหลี่ฮุ่ยหรานสวมชุดราตรีแหวกขาสีดำขาสวยเรียวยาวทั้งสองข้างวับ ๆ แวม ๆ เธอยืนต้อนรับแขกเหรื่อที่เดินทางมาร่วมฉลองงานวันเกิดที่หน้าประตูห้องจัดเลี้ยงเมื่อก่อนพวกตระกูลเล็ก ๆ ที่ไม่สนใจใยดีต่อตระกูลหลี่ ครั้งนี้ก็ให้ความสำคัญเป็นพิเศษในเมื่อสามารถจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมอิ๋งปินได้นั้นต้องไม่ใช่คนธรรมดา แน่ๆเถ้าแก่วัยกลางคนที่หัวล้านตรงกระหม่อม ถือของขวัญเอาไว้และเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว: “คุณหลี่ คุณแอบซ่อนไว้ได้มิดชิดมากจริง ๆ นะครับ”“นึกไม่ถึงว่าจะจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมอิ๋งปิน ทำไมถึงไม่แจ้งผมให้เร็วกว่านี้หน่อยครับ”หลี่ฮุ่ยหรานยิ้มบางแล้วพูดขึ้น: “เถ้าแก่อู๋เกรงใ
“คุณมาได้ ฉันก็รู้สึกดีใจมาก”หลี่ฮุ่ยหรานอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ แล้วพูดขึ้นมา: “แน่นอน คุณปู่ก็ยิ่งดีใจ”เธอยังอยากจะอธิบายเรื่องเข้าใจผิดเมื่อครั้งที่แล้วกับหลินเฟิงสักหน่อย แต่กลับไม่รู้จะเอ่ยปากอย่างไรหลินเฟิงกลับไม่ได้มองเธอสักนิด เขาหันหลังเดินไปทางห้องโถงใหญ่“อุ๊ย คุณเอาของขวัญอะไรมาน่ะ?” หลี่ว์เจิ้งหยางที่ยืนอยู่ตรงประตูยิ้มแล้วถามขึ้นหลินเฟิงเหลือบตามองเขา: “ผมเอาของขวัญอะไรมา หรือว่าต้องรายงานกับคุณด้วยเหรอ?”หลี่ว์เจิ้งหยางหัวเราะเยาะแล้วพูดขึ้น: “หึหึ วันนี้เป็นวันเกิดแปดสิบปีของคุณปู่ ผมกลัวว่าของขวัญของคุณจะเอาออกมาโชว์ไม่ได้น่ะสิ ผมให้คุณยืมเงินหน่อยไหม?”หลินเฟิงกวาดตามองกล่องของขวัญที่อยู่ในมือของเขา ดูความเล็กใหญ่แล้ว เหมือนว่ายังเป็นแจกันดอกไม้เขาจึงยิ้มออกมาทันที: “ทำไม? ยังมอบแจกันดอกไม้อีกเหรอ? ระหว่างทางระวังหน่อยล่ะ อย่าทำให้แตกอีก”“แม่ง...”หลี่ว์เจิ้งหยางได้ยินคำพูดนี้ ก็กอดของขวัญที่อยู่ในมือเอาไว้แน่นด้วยสัญชาตญาณหลินเฟิงหัวเราะเยาะแล้วเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงขณะเดียวกัน หลี่ไห่ซานกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะหลัก เขาหรี่ตาลง หลับตาพักเหนื่อยงานที่จ้อกแจ้
“คุณชายหลี่ว์ คุณมาได้สักทีนะคะ รีบนั่งรีบนั่ง” จางกุ้ยหลานรีบดึงหลี่ว์เจิ้งหยางมานั่งที่ด้านข้างตัวเองจางซินกับหลี่จื้อเชาที่อยู่ด้านข้างทั้งรินน้ำ ทั้งยื่นบุหรี่ให้นี่เป็นความพิเศษที่หลินเฟิงไม่เคยได้รับมาก่อนจากนั้นจางกุ้ยหลานก็มองไปทางหลี่ไห่ซานแล้วพูดขึ้น: “คุณปู่ ครั้งนี้สามารถจัดงานฉลองวันเกิดที่โรงแรมอิ๋งปินได้ เป็นความดีความชอบของคุณชายหลี่ว์เลยนะ”“คุณจะต้องทำความสนิทสนมกับคุณชายหลี่ว์ให้มากขึ้นนะ”คุณปู่ตระกูลหลี่พูดด้วยความหงุดหงิด: “สนิทสนมกับผีน่ะสิ ฉันไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะจัดงานในสถานที่แบบนี้ ถ้าให้ฉันพูดนะไม่จัดงานยังจะดีกว่า”“เอ๊ะ ทำไมคุณถึงเป็นแบบนี้นะ? ถ้าหากคุณไม่จัดงานคนอื่นจะไม่พูดเหรอว่าพวกเราผู้น้อยอกตัญญู” จางกุ้ยหลานพูดสั่งสอนหลินเฟิงขมวดคิ้วทันที กฎเกณฑ์ของโรงแรมอิ๋งปินเขาก็พอรู้อยู่บ้าง เขาไม่เชื่อหรอกว่าหลี่ว์เจิ้งหยางจะมีความสามารถนี้“โรงแรมอิ๋งปินนี้เขาเป็นคนจองเหรอ?” หลินเฟิงถามด้วยความสงสัย“พูดจาไร้สาระ ถ้าไม่ใช่พี่หลี่ว์ของฉัน แล้วจะเป็นนายหรือไง?” หลี่จื้อเชาถามกลับจางซินก็พูดตามขึ้นมา: “เลขาท่านผู้ว่ามาบอกที่ตระกูลหลี่ด้วยตัวเองเล