หลินเฟิงส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น: “งานฉลองวันเกิดของคุณปู่ยังเหลืออีกหลายวัน รายละเอียดสถานที่ยังไม่ได้กำหนดครับ”หลิวกั๋วฮุยพูดขึ้นทันที: “หือ? งั้นไม่สู้ไปจัดที่โรงแรมอิ๋งปินเมืองเจียงโจวดีไหมครับ? สถานที่นี้มาตรฐานสูงพอสมควร คุณปู่จะต้องชอบแน่นอนครับ”โรงแรมอิ๋งปินเมืองเจียงโจวรับผิดชอบต้อนรับและบริการลูกค้านอกโดยเฉพาะ บางครั้งก็รับงานเลี้ยงขนาดใหญ่อยู่บ้างเพียงแต่ต้องทำการนัดหมายล่วงหน้าสองเดือนมีเส้นสายของหลิวกั๋วฮุย การนัดหมายก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วแต่หลินเฟิงก็ถอนหายใจแล้วพูดขึ้น: “ไม่ต้องหรอกครับ งานเลี้ยงในครั้งนี้ผมไม่ใช่ผู้รับผิดชอบ คนของตระกูลหลี่เป็นคนจัดแจงทั้งหมด”“เอาไว้ครั้งหน้าที่มีโอกาสนะครับ...”“อ๋อ...งั้นก็ได้ครับ”ทั้งสามคนพูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง เขาถึงได้กลับไปเมื่อส่งหลินเฟิงกลับไป หลิวกั๋วฮุยก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันทีโทรไปหาถังหว่าน: “คุณถัง เรื่องงานฉลองวันเกิดของคุณปู่ของหลินเฟิงคุณทราบไหมครับ?”“เอ่อ? ไม่ทราบนะคะ หลินเฟิงมีคุณปู่ที่ไหนกันคะ?” ถังหว่านที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์พูดด้วยความสงสัย“อ๋อ ไม่ใช่คุณปู่ของหลินเฟิงครั
เลขาผู้ว่าได้พบกับหลี่ฮุ่ยหรานก็ยิ้มบาง ๆ: “คุณหลี่ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันครับ ผมเหลียงอัน เคยได้ยินมานานแล้วว่าคุณหลี่ฉลาดและสวยงามอย่างมาก วันนี้ได้พบก็โดดเด่นจริง ๆ ด้วยครับ”หลี่ฮุ่ยหรานชะงักงัน และยิ้มด้วยความเก้กังตอนนี้ตัวเองมีชื่อเสียงขนาดนี้แล้วเหรอ? เลขาผู้ว่าก็ยังเคยได้ยินชื่อของเธอด้วย?“เอาเถอะค่ะ เลขาเหลียงพวกเราอย่ามัวแต่ยืนเฉยอยู่ที่หน้าประตูเลยค่ะ มีอะไรพวกเราเข้าไปคุยกันในบ้านเถอะค่ะ” จางซินพูดขึ้นทันทีหลี่ฮุ่ยหรานก็ตั้งสติขึ้นมา และรีบพยักหน้าพูดขึ้น: “ใช่ค่ะ ใช่ค่ะ เลขาเหลียงพวกเราเข้าไปคุยกันในบ้านเถอะค่ะ”เหลียงอันกลับส่ายหน้าพูดขึ้น: “ไม่ต้องครับ ที่ผมมาในครั้งนี้เพื่อจะมาทำธุระแทนท่านผู้ว่า”หลี่ฮุ่ยหรานถามด้วยความระมัดระวัง: “ไม่ทราบว่าท่านผู้ว่ามีรับสั่งอะไรคะ?”เหลียงอันยิ้มพูด: “คุณหลี่ไม่ต้องวิตกกังวลครับ เป็นเรื่องมงคล ท่านผู้ว่าได้ยินว่าเป็นวันเกิดของคุณปู่ตระกูลหลี่ จึงได้จัดแจงห้องส่วนตัวเทียนหลงที่ชั้นบนสุดของโรงแรมอิ๋งปินเมืองเจียงโจวให้พวกคุณได้ใช้”“ค่าใช้จ่ายทุกอย่างมีท่านผู้ว่าเป็นคนชำระ”“ห๊ะ?”ข่าวนี้ทำให้คนตระกูลหลี่ตกตะลึงเป็นอย่างม
“ยังนิ่งอึ้งอะไรกันอยู่? ไปส่งบัตรเชิญเถอะ บอกกับทุกคนว่า สถานที่จัดงานฉลองวันเกิดของคุณปู่อยู่ที่โรงแรมอิ๋งปิน”หลี่ฮุ่ยหรานกวาดสายตามองทุกคนรอบ ๆ แล้วพูดด้วยความฮึกเหิม......ไม่กี่วันต่อมา งานฉลองวันเกิดของคุณปู่ตระกูลหลี่จัดขึ้นตามที่กำหนดไว้ที่จัดคือโรงแรมอิ๋งปินเมืองเจียงโจว ที่ได้มีการบอกกล่วงหน้าจากหลิวกั๋วฮุย โรงแรมอิ๋งปินคึกคักเป็นอย่างมากการตกแต่งไม่ขอว่าดีที่สุดแต่ขอว่าต้องแพงที่สุด หลัก ๆ ก็คือหรูหราหลี่ฮุ่ยหรานสวมชุดราตรีแหวกขาสีดำขาสวยเรียวยาวทั้งสองข้างวับ ๆ แวม ๆ เธอยืนต้อนรับแขกเหรื่อที่เดินทางมาร่วมฉลองงานวันเกิดที่หน้าประตูห้องจัดเลี้ยงเมื่อก่อนพวกตระกูลเล็ก ๆ ที่ไม่สนใจใยดีต่อตระกูลหลี่ ครั้งนี้ก็ให้ความสำคัญเป็นพิเศษในเมื่อสามารถจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมอิ๋งปินได้นั้นต้องไม่ใช่คนธรรมดา แน่ๆเถ้าแก่วัยกลางคนที่หัวล้านตรงกระหม่อม ถือของขวัญเอาไว้และเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว: “คุณหลี่ คุณแอบซ่อนไว้ได้มิดชิดมากจริง ๆ นะครับ”“นึกไม่ถึงว่าจะจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมอิ๋งปิน ทำไมถึงไม่แจ้งผมให้เร็วกว่านี้หน่อยครับ”หลี่ฮุ่ยหรานยิ้มบางแล้วพูดขึ้น: “เถ้าแก่อู๋เกรงใ
“คุณมาได้ ฉันก็รู้สึกดีใจมาก”หลี่ฮุ่ยหรานอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ แล้วพูดขึ้นมา: “แน่นอน คุณปู่ก็ยิ่งดีใจ”เธอยังอยากจะอธิบายเรื่องเข้าใจผิดเมื่อครั้งที่แล้วกับหลินเฟิงสักหน่อย แต่กลับไม่รู้จะเอ่ยปากอย่างไรหลินเฟิงกลับไม่ได้มองเธอสักนิด เขาหันหลังเดินไปทางห้องโถงใหญ่“อุ๊ย คุณเอาของขวัญอะไรมาน่ะ?” หลี่ว์เจิ้งหยางที่ยืนอยู่ตรงประตูยิ้มแล้วถามขึ้นหลินเฟิงเหลือบตามองเขา: “ผมเอาของขวัญอะไรมา หรือว่าต้องรายงานกับคุณด้วยเหรอ?”หลี่ว์เจิ้งหยางหัวเราะเยาะแล้วพูดขึ้น: “หึหึ วันนี้เป็นวันเกิดแปดสิบปีของคุณปู่ ผมกลัวว่าของขวัญของคุณจะเอาออกมาโชว์ไม่ได้น่ะสิ ผมให้คุณยืมเงินหน่อยไหม?”หลินเฟิงกวาดตามองกล่องของขวัญที่อยู่ในมือของเขา ดูความเล็กใหญ่แล้ว เหมือนว่ายังเป็นแจกันดอกไม้เขาจึงยิ้มออกมาทันที: “ทำไม? ยังมอบแจกันดอกไม้อีกเหรอ? ระหว่างทางระวังหน่อยล่ะ อย่าทำให้แตกอีก”“แม่ง...”หลี่ว์เจิ้งหยางได้ยินคำพูดนี้ ก็กอดของขวัญที่อยู่ในมือเอาไว้แน่นด้วยสัญชาตญาณหลินเฟิงหัวเราะเยาะแล้วเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงขณะเดียวกัน หลี่ไห่ซานกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะหลัก เขาหรี่ตาลง หลับตาพักเหนื่อยงานที่จ้อกแจ้
“คุณชายหลี่ว์ คุณมาได้สักทีนะคะ รีบนั่งรีบนั่ง” จางกุ้ยหลานรีบดึงหลี่ว์เจิ้งหยางมานั่งที่ด้านข้างตัวเองจางซินกับหลี่จื้อเชาที่อยู่ด้านข้างทั้งรินน้ำ ทั้งยื่นบุหรี่ให้นี่เป็นความพิเศษที่หลินเฟิงไม่เคยได้รับมาก่อนจากนั้นจางกุ้ยหลานก็มองไปทางหลี่ไห่ซานแล้วพูดขึ้น: “คุณปู่ ครั้งนี้สามารถจัดงานฉลองวันเกิดที่โรงแรมอิ๋งปินได้ เป็นความดีความชอบของคุณชายหลี่ว์เลยนะ”“คุณจะต้องทำความสนิทสนมกับคุณชายหลี่ว์ให้มากขึ้นนะ”คุณปู่ตระกูลหลี่พูดด้วยความหงุดหงิด: “สนิทสนมกับผีน่ะสิ ฉันไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะจัดงานในสถานที่แบบนี้ ถ้าให้ฉันพูดนะไม่จัดงานยังจะดีกว่า”“เอ๊ะ ทำไมคุณถึงเป็นแบบนี้นะ? ถ้าหากคุณไม่จัดงานคนอื่นจะไม่พูดเหรอว่าพวกเราผู้น้อยอกตัญญู” จางกุ้ยหลานพูดสั่งสอนหลินเฟิงขมวดคิ้วทันที กฎเกณฑ์ของโรงแรมอิ๋งปินเขาก็พอรู้อยู่บ้าง เขาไม่เชื่อหรอกว่าหลี่ว์เจิ้งหยางจะมีความสามารถนี้“โรงแรมอิ๋งปินนี้เขาเป็นคนจองเหรอ?” หลินเฟิงถามด้วยความสงสัย“พูดจาไร้สาระ ถ้าไม่ใช่พี่หลี่ว์ของฉัน แล้วจะเป็นนายหรือไง?” หลี่จื้อเชาถามกลับจางซินก็พูดตามขึ้นมา: “เลขาท่านผู้ว่ามาบอกที่ตระกูลหลี่ด้วยตัวเองเล
“ห้าล้านบาทยังไม่แพงอีกเหรอ?” หลี่จื้อเชาอุทานออกมา: “ไม่เสียแรงที่เป็นคุณชายหลี่ว์ เงินห้าล้านก็ยังนับว่าเป็นเงินเล็กน้อย”“โอ๊ย ทำให้คุณชายหลี่ว์ลำบากเลยค่ะ”จางกุ้ยหลานใบหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นก็หันหน้ามองไปทางคุณปู่แล้วพูดขึ้นมา: “คุณปู่ คุณดูสิ นี่เป็นของขวัญที่คุณชายหลี่ว์มอบให้คุณนะคะ”หลี่ไห่ซานล้วงแว่นตาขยายออกมาจากในกระเป๋าทันที เมื่อจ้องมองลวดลายที่อยู่บนแจกันดอกไม้ เขาก็ถามขึ้นด้วยความสงสัยอย่างมาก: “นี่เป็นเครื่องลายครามของสมัยไหน?”หลี่ว์เจิ้งหยางยิ้มเล็กน้อย: “ก็แค่เครื่องปั้นดินเผาของราชวงศ์ชิงครับ คุณปู่ชอบไหมครับ?”หลี่ไห่ซานพยักหน้า: “ไม่เลว ไม่เลว...”ถึงแม้เขาจะไม่ชอบหลี่ว์เจิ้งหยาง แต่สำหรับวัตถุโบราณระดับนี้เขารู้สึกชื่นชอบเป็นอย่างมากหลินเฟิงขมวดคิ้วในทันที: “นี่คือเครื่องปั้นดินเผาสมัยราชวงศ์ชิง?”“ผมดูแล้วไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่นะ?”หลี่ว์เจิ้งหยางตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปทางหลินเฟิงด้วยความกระวนกระวาย: “ไอ้หนุ่มหมายความว่าอย่างไร?”เครื่องลายครามก่อนหน้านี้ถูกเขาทำแตกจนแหลกละเอียด ครั้งนี้เขาก็ซื้อของลอกเลียนแบบมาจริง ๆ นั่นแหละแต่ร้านขายบอกเอาไว้แล
“ฉันดูหน่อยสิ?” ทุกคนเห็นคุณปู่ชื่นชอบขนาดนี้ ก็รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากว่าหลินเฟิงมอบของอะไรให้กันแน่ต่างพากันยื่นหน้าออกไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นภาพเขียนพู่กันจีน ในใจก็ยิ่งรู้สึกผิดหวังอย่างมากจางกุ้ยหลานกลอกตาไปมา: “คุณปู่ ของสิ่งนี้ก็นับว่าเป็นของดีได้ด้วยเหรอ?”“จริงด้วย ก็แค่ภาพเขียนพู่กันจีนกระจอก ๆ มูลค่ายังไม่เท่าแจกันเครื่องลายครามที่คุณชายหลี่ว์มอบให้เลย” หลี่จื้อเชาเบะปากพูดคุณปู่ตระกูลหลี่ขมวดคิ้วแน่น: “ภาพเขียนพู่กันจีนกระจอก ๆ? นี่เป็นลายมือการเขียนของหวังซีจื่อ แกไม่เคยเรียนหนังสือเหรอ? ถึงไม่รู้ว่าหวังซีจื่อคือใคร?”จางซินโบกมือ: “เขาบอกว่าใช่ก็ใช่เหรอ? หนูยังพูดว่าเป็นของจิ๋นซีฮ่องเต้ได้เลย”“หึหึ...”หลี่เจิ้งหยางยิ้มบางในทันที: “คุณปู่ พูดตามตรงนะครับ ภาพเขียนพู่กันจีนอันที่จริงทำของปลอมได้ง่ายที่สุดแล้วครับ”“เพราะว่าตัวอักษรเป็นสิ่งที่ลอกเลียนแบบได้ง่ายมาก และสิ่งของที่มีอายุเกิดหนึ่งพันปี กระดาษแผ่นนี้จะเก็บรักษาเอาไว้ได้ดีขนาดนี้ได้อย่างไรครับ?”“จากที่ผมดู ภาพเขียนพู่กันจีนภาพนี้ เป็นของลอกเลียนแบบ”จางกุ้ยหลานและคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าติดต่อกัน: “ถูกต้อง
“ฮ่าฮ่าฮ่า...” ได้ยินคำพูดนี้ของคุณอวี๋ คนอื่น ๆ ก็พากันหัวเราะเสียงดังขึ้นมาในตอนนี้เอง หลี่ฮุ่ยหรานก็ต้อนรับแขกเสร็จแล้ว เธอเห็นคนในครอบครัวของเธอพูดไปหัวเราะไป เธอก็ดีใจมาก“นี่เกิดอะไรขึ้นเหรอ? มีเรื่องอะไรถึงได้ทำให้ทุกคนดีใจขนาดนี้?”หลี่จื้อเชารีบพูดอธิบายให้พี่สาวของตัวเองฟัง: “พี่ พี่ไม่รู้อะไร ไอ้หลินเฟิงคนนี้บอกว่าของขวัญที่เขามอบให้คุณปู่เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของหวังซีจื่อ”“คุณอวี๋เขาไม่ได้ดูด้วยซ้ำ แต่ก็รู้แล้วว่าเป็นของปลอม”หลี่ฮุ่ยหรานขมวดคิ้ว: “นี่เป็นเพราะอะไร?”“เพราะว่าผลงานชิ้นที่แท้จริงแขวนอยู่ที่ห้องทำงานของท่านผู้ว่าหลิวน่ะสิ ฮ่าฮ่าฮ่า...” จางซินกุมท้องแล้วหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็งเขาเกือบจะล้มลงไปหลี่ฮุ่ยหรานเหลือบมองหลินเฟิง และสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เธอก็สามารถเข้าใจหลินเฟิงได้เดาว่าคงอยากแสดงออกต่อหน้าคุณปู่สักหน่อย แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกผู้อาวุโสอวี๋เปิดโปง“เอาเถอะ ก็แค่ภาพเขียนพู่กันภาพหนึ่งไม่ใช่เหรอ เดาว่าหลินเฟิงก็คงจะถูกคนหลอกมา”“ใช่ไหมหลินเฟิง?”เธอยังอยากจะช่วยหลินเฟิงกู้หน้า ทำให้หลินเฟิงไม่ต้องอับอายขนาดนั้นแต่หลินเฟิงกลับไม่รับความหวั
“ระหว่างตระกูลใหญ่ เรื่องที่ต้องห้ามมากที่สุดก็คือสร้างความแค้นเล็กๆ แล้วทำลายเรื่องสำคัญ เพิ่มช่องว่างและขัดขวางความสัมพันธ์”แววตาของหลงยวนลึกซึ้ง แล้วเอ่ยอย่างเย็นชาว่า :“แต่ผมไม่เหมือนกัน สิ่งที่ผมจะทำไม่ใช่มองหาความแค้นเล็กๆ แต่เป็นการสร้างหมากรุกขึ้นมา”“หากแผนของหลงเซียวสำเร็จ อย่างมากก็แค่ให้ตระกูลถังรู้สึกหวาดกลัวและออกจากเมืองจิงไป”เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของหลงยวน พ่อบ้านก็สับสนเล็กน้อย“สี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิง หากไม่อยู่ในเมืองจิง แบบนั้นยังจะเรียกว่าสี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิงได้อย่างไร?”“ผิดแล้ว”หลงยวนพูดอย่างเย็นชาว่า :“สิ่งที่เรียกว่าสี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิง ไม่ได้เป็นเพียงอำนาจที่คุณเห็นแค่ภายนอกเท่านั้น”“ยกตัวอย่าง ตระกูลหลินที่แทบจะสูญหายไปแล้ว”“คฤหาสน์ที่เมืองจิงของตระกูลหลินที่ตั้งอยู่นั้นแทบจะรกร้าง มีใยแมงมุมอยู่เต็มไปหมด และไม่มีใครทำความสะอาด แต่คุณกล้าพูดไหมว่าตระกูลหลินไม่ใช่หนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวย?”“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไร้เดียงสาเกินไป”หลงยวนเงยหน้า สายตาแสดงความลุ่มลึกออกมา“สี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิง เบื้องหลังของทุกตระกูลต่
เมืองจิง คฤหาสน์ตระกูลหลงเวลานี้หลงยวนถือหนังสือคัมภีร์ไว้ในมือ พร้อมกับเดินท่องบทไปมานี่คือการลงโทษที่ผู้นำตระกูลหลงมอบให้กับเขาก่อนหน้านี้ และเขาจะต้องท่องคัมภีร์ห้าสิบเล่มให้ได้ จึงจะปล่อยให้เขาออกไปข้างนอกได้อีกครั้งหลงยวนก็ไม่โต้แย้งแม้แต่น้อย และอยู่ที่นี่ตลอดทั้งวันเพื่อท่องหนังสือคัมภีร์“คุณชายหลงยวน เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”ในเวลานี้ พ่อบ้านตระกูลหลงเข้ามาในห้องหนังสือด้วยท่าทางตื่นตระหนก“เกิดอะไรขึ้น?”หลงยวนจำเป็นต้องท่องให้เสร็จเรียบร้อยนั้น ถึงได้หันไปมองทางพ่อบ้านตระกูลหลงคนนั้นถึงแม้ว่าใบหน้าของพ่อบ้านตระกูลหลงจะเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แต่หลงยวนกลับไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร ถึงขั้นที่ไม่สามารถอ่านความคิดจากใบหน้าของเขาได้เลย“คุณชายหลงหยวน เมื่อครู่พวกเราได้รับแจ้งจากตระกูลซือหม่าว่าคุณหนูหลงเซียวถูกฆ่าตายแล้ว!”“ที่เทียนจวิ้นเอ็นเตอร์เทนเมนท์จำกัด!”พ่อบ้านตระกูลหลงหน้าตาเศร้าเสียใจ“ถูกคนฆ่า?!”ในแววตาของหลงยวนมีความเย็นชาวาบผ่าน เขาจ้องมองไปที่พ่อบ้านตระกูลหลงและพูดว่า :“เล่าที่มาที่ไปทั้งหมดให้ผมฟังหน่อยสิ”“คุณชายหลงยวน คือแบบนี้ครับ ก่อนหน้านี้คุณหนูห
เขาในฐานะผู้นำตระกูลถัง จึงมองเป้าหมายของคนเหล่านี้ออกในฐานะผู้ทำการค้าที่แท้จริง คนเหล่านี้ไม่อยากเปิดศึกกับตระกูลหลง อยากจะปกป้องถิ่นฐานของตัวเองเอาไว้ถ้าหากจะเปิดศึก งั้นก็หวังว่าจะยื้อเวลาเอาไว้ให้ได้เต็มที่แต่ถังเจี้ยนหยวนรู้ว่า หากเป็นแบบนี้ต่อไป ก็เป็นการยืนรอความตายชัดๆ แต่คนเหล่านี้หัวโบราณเกินไปยินยอมยืนรอความตาย ก็จะไม่ยอมขาดทุนนี่เป็นสันดานเลวที่มีเฉพาะผู้ทำการค้า“เอาล่ะ ถังจวิน นายออกไปเถอะ ฉันรู้แล้ว ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง”ถังเจี้ยนหยวนโบกมือ บอกให้ถังจวินออกไปถังจวินทำความเคารพ และหันหลังเดินจากไป“เฮ้อ...”ถังเจี้ยนหยวนกลับมานั่งลงตรงตำแหน่งของผู้นำตระกูล จากนั้นก็ถอนหายใจออกมายาวๆตระกูลหลงทำขนาดนี้แล้ว แต่ตระกูลถังยังคงแตกแยกกัน ทุกคนต่างหวาดกลัวตัวเองจะเสียหาย ดังนั้นไม่มีความคิดที่จะรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อมาสู้รบกับตระกูลหลงด้วยซ้ำต้องรู้ไว้ว่าตระกูลถังในฐานะตระกูลการค้าสามารถกลายเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ในเมืองจิงประเทศมังกรได้ เช่นนั้นเรื่องที่มีอิทธิพลก็ไม่ใช่เรื่องเท็จแต่รูปแบบของตระกูลถังแตกต่างจากตระกูลอื่นๆ เป็นอย่างมาก
“ตู้ไหว”หลินเฟิงมองตู้ไหวที่จะหนีไป จากนั้นฉีกยิ้มพูดว่า:“ช่างเถอะ เอาเป็นว่า คุณไม่มีทางเสียใจภายหลังแน่นอน”“อืม หวังว่าเป็นงั้นนะครับ”ตู้ไหวมองไปทางหลินเฟิงแล้วเผยรอยยิ้มลำบากใจออกมา จากนั้นพาลูกน้องของตัวเองหนีจากทั้งหมดเหลือเพียงถังจวินที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และคนตระกูลหลงที่กลายเป็นซอสเนื้อ“หลินเฟิง คนเหล่านั้นเป็นใครกัน?!”“วันนี้นายจำเป็นต้องบอกกับฉัน!”ถังจวินโมโหจนมุ่งหน้าเข้ามา และดึงคอเสื้อของหลินเฟิงเค้นถามหลงเซียวตายแล้วถ้าหากไม่มีเหตุไม่คาดฝันอะไร หน่วยลับของตระกูลถังก็จะต้องตกเป็นผู้รับเคราะห์ในเวลาแบบนี้ไม่มีใครเชื่อว่านักเลงที่ผ่านมากลุ่มหนึ่งจู่ๆ เกิดความคิดจะฆ่าหลงเซียวของตระกูลหลงมีแต่จะเชื่อว่าเป็นฝีมือของหน่วยลับตระกูลถังนี่มันเป็นการจับถังจวินและหน่วยลับตระกูลถังคนอื่นๆ ขึ้นเตาเผาอย่างไม่ต้องสงสัยถึงเวลาคนชั้นสูงของตระกูลถังถามขึ้นมา พวกเขาอธิบายได้ไม่ชัดเจนด้วยซ้ำ“ฮ่าฮ่าฮ่า...”เห็นท่าทางลนลานของถังจวิน หลินเฟิงยิ้มอย่างสบายอกสบายใจ และส่ายหน้าพูดว่า:“เป็นสุนัขรับใช้จนติดนิสัยแล้วเหรอ?”“พวกนายคิดว่าใครก็เป็นเหมือนพวกนายงั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้คุ้มกันตระกูลหลง หลงเซียวก็โมโหจนจมูกเกือบบิดเบี้ยว เธอชี้ไปทางสมุนและนักเลงที่ใบหน้าโหดเหี้ยมที่ตามมาอยู่ด้านหลัง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า:“นายดูพวกเขาสิ ท่าทางเหมือนคนไม่กล้าแตะต้องฉันงั้นเหรอ?”“ถ้าพวกนายกล้าไม่สนใจฉัน พวกนายรู้ถึงจุดจบแน่!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำขู่ของหลงเซียว ผู้คุ้มกันคนนี้หน้าเสียเหมือนกินแมลงวันเข้าไป ทั้งๆ ที่ตัวเองสามารถหนีไปได้ แต่กลับต้องพาตัวถ่วงอย่างหลงเซียวไปด้วย สุดท้ายก็ถูกล้อมเอาไว้แน่นอนว่า เขาก็ไม่กล้าทอดทิ้งหลงเซียวถ้าหากนักเลงพวกนี้กล้าฆ่าหลงเซียวจริงๆ งั้นที่ตัวเองทิ้งหลงเซียวไว้แล้วหนีไป ก็ถือว่าเป็นโทษประหารชีวิตไม่มีทางที่จะรอดชีวิตไปได้อย่างแน่นอนแต่…เมื่อมองดูสมุนกับนักเลงที่โผเข้ามาอย่างดุดันโดยรอบนั้น เขาคิดว่า ตัวเองไม่มีทางรอดไปได้ภายใต้การโจมตีของคนเหล่านี้แน่นอนดังนั้นก็ทำได้แค่ตัดสินใจตายก็ตายสิ ไม่ว่ายังไงก็ตายอยู่ดี!เขาล้วงอาวุธออกมาจะต่อต้าน แต่ก็ถูกสมุนและพวกนักเลงฟันจนเละเป็นเนื้อสับ“พวกนาย…พวกนายจะทำอะไร?!”ถังจวินและคนอื่นๆ ที่เดินไกลออกไปแล้วเห็นภาพที่วุ่นวายแบบนี้ ก็ขับรถกลับมาทันที“เรื่
“นาย ถังหว่าน ทุกคนที่อยู่ข้างกายของนาย ฉันไม่มีทางปล่อยพวกเขาไป! ฉันสาบาน!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำขู่ที่ตรงไปตรงมาของหลงเซียวแบบนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกโมโหอย่างมากเขาหันมองไปทางถังจวินและพูดตวาดว่า:“นายได้ยินแล้วยัง?! ถังจวิน หน่วยลับของพวกนายมีหน้าที่ปกป้องตระกูลถังไม่ใช่เหรอ?”“หลงเซียวคนนี้จะจัดการตระกูลถังของพวกนาย! ทำไมนายยังยืนโง่อยู่ตรงนั้นอีก?! ในหัวสมองพวกนายใส่ขี้เลื่อยเอาไว้งั้นเหรอ?!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำด่าทอของหลินเฟิง ถังจวินก็มีสีหน้านิ่งเฉย“หลินเฟิง นี่คือความแค้นส่วนตัวของนายกับคุณหลงเซียว ถ้าหากนายอยากยืมมือเราฆ่าคน งั้นฉันก็พูดได้แค่ว่านายเดินหมากผิดแล้ว”“ไอ้เชี่ย!”หลินเฟิงโมโหที่ไร้ความสามารถ เขาแทบอยากจะมัดหน่วยลับของตระกูลถังเอาไว้ด้วยกันแล้วจุดไฟเผาให้หมดไป“คนอื่นเอามีดจ่อคอพวกนายแล้ว นายจะไม่ตอบโต้จริงๆ งั้นเหรอ? ต้องให้คนเขาแทงนายให้ตาย นายถึงจะรู้จักดิ้นรนงั้นเหรอ?!”หลินเฟิงพูดมาถึงขนาดนี้แล้วแต่ถังจวินก้ยังคงนิ่งไม่ขยับเขยื้อน“คำสั่งแรกของหน่วยลับตระกูลถังในการดำเนินตามคำสั่งก็คือคำสั่งของคนระดับสูงของตระกูลถัง ไม่ใช่คนนอกอย่างนาย”ถังจวินมอ
“ตระกูลถัง...เฮ้อ ตระกูลถัง...”ทันใดนั้น ถังหว่านนึกถึงคำพูดที่หลงเซียวพูดกับเธอในตอนที่อยู่ชั้นใต้ดินเมื่อครู่นี้ขึ้นมากะทันหัน“ยังไงพวกหัวโบราณของตระกูลถังของเธอ ไม่มีทางกล้าแตกหักกับตระกูลหลงของเรา”“จุดอ่อนของตระกูลถังฉันตรวจสอบชัดเจนตั้งนานแล้ว”“ต่อให้วันนี้เธอตายอยู่ที่นี่ ก็ไม่มีคนใส่ใจ”“พวกเขาอาจจะยังเฝ้าถิ่นฐานของตัวเองอยู่ เป็นกังวลที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ตระกูลหลงจะแตกหักกับพวกเขาอยู่ละมั้ง?”นึกถึงตรงนี้ ถังหว่านถึงแม้จะยิ้มอยู่ แต่ในใจกลับโศกเศร้าถึงที่สุดคนตระกูลถังของเธอทำไมถึงเห็นแก่ประโยชน์ระยะสั้นแบบนี้?ยอมประนีประนอมเต็มที่ ก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองจะบุกไปก็ไม่กล้าจะถอยหลังก็กลัว ผลลัพธ์สุดท้าย ก็ต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูด้วยน้ำมือของตัวเองต่อให้ก่อนหน้านี้นิสัยที่โฉดชั่วเสมือนหมาป่าของหลงยวนปรากฏออกมา หลินเฟิงออกหน้าช่วยเหลือ พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งแม้แต่นิดและก็ไม่ได้เกิดความรู้สึกหวาดกลัวในภายหลังคิดเพียงแค่ว่าอยู่รอดไปวันๆ“เศษสวะ”ถังหว่านด่าออกมาเสียงต่ำ“คุณว่าอะไรนะ?”ถังจวินคิดว่าตัวเองได้ยินผิด“ฉันพูดว่าพวกนายเป็นพวกเศษสว
เมื่อเห็นหลินเฟิงปรากฏตัว ถังหว่านถึงได้โล่งอก“หลินเฟิง นายกำลังทำอะไร?”“จริงด้วย ทำไมไม่ปกป้องคุณหนูถังหว่าน นายทำอะไรอยู่ที่ด้านล่างคนเดียว?!”ถังจวินและหน่วยลับคนอื่นๆ เห็นหลินเฟิง ก็เปลี่ยนเป้าหมาย พากันตำหนิหลินเฟิงว่าปกป้องได้ไม่ดีหลินเฟิงคิดไม่ถึงว่าคนเหล่านี้จะเล่นงานเขาก่อนจึงโมโหจนส่งผลกระทบกระเทือน รู้สึกเจ็บปอดรุนแรง และไอออกมาเป็นเลือด“หลินเฟิง คุณไม่เป็นไรนะ?!”ถังหว่านตกใจอย่างมาก รีบเข้าไปประคองเขาเธอเขม่นถังจวินและหน่วยลับจากนั้นพูดว่า:“เมื่อครู่ฉันบอกกับพวกนายไปหลายรอบแล้ว!”“หลินเฟิงกำลังสู้รบอย่างสุดชีวิตอยู่กับยอดฝีมือตระกูลหลง เป็นอันตรายอย่างมาก ทำไมพวกนายไม่ลงไปช่วยเขา?!”“แต่หลังจากเขาเอาชนะมาได้อย่างยากลำบาก ยังจะกล่าวโทษเขาอีก?!”“คุณหนูถังหว่านขออภัยด้วย พวกเราจะเป็นต้องปกป้องความปลอดภัยของคุณก่อน” ถังจวินขมวดคิ้วเล็กน้อยเหมือนว่าเขาไม่รู้สึกยินดีที่เห็นหลินเฟิงยังมีชีวิตอยู่เห็นหลินเฟิงมีชีวิตรอดเดินออกมาจากลิฟต์ ในความคลุมเครือ หลินเฟิงสังเกตได้ว่าในสายตาของชายคนนี้เผยความผิดหวังออกมาเล็กน้อย“หึ เรื่องพวกนี้ไม่สำคัญหรอก”หลินเฟิงด
หลินเฟิงออกแรงเงยหน้าขึ้นรอให้เขามองเห็นสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจน นัยน์ตากลับหดลงทันทีเป็นเพราะหลงต้างที่ข่มเขาเอาไว้โดยสิ้นเชิงเมื่อครู่นี้ ภายใต้กระบวนท่าที่เขาปล่อยออกมาอย่างน่าหวาดกลัวขนาดนี้ ก็ยังถูกราชาหลินแห่งตอนใต้บีบคอเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวห้อยอยู่กลางอากาศอย่างง่ายดายขนาดนี้เหมือนกับราชาหลินแห่งตอนใต้ไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ออกมาด้วยซ้ำ“นี่มัน...”“ดูให้ดีนะไอ้หนุ่ม มือข้างเดียวแบบนี้เรียกว่ามือระเบิดมังกร(หลง ภาษาจีนแปลว่ามังกร คำพ้องเสียง) ปู่ของนายสอนฉันมา เอาไว้ใช้ฆ่าคนของตระกูลหลง”น้ำเสียงของราชาหลินแห่งตอนใต้เรียบเฉยอย่างมากแต่หลงต้างกลับกลอกตาไปมา ขาสองข้างดิ้นรนไม่หยุด ทั้งร่างกายชักกระตุกเหมือนถูกไฟช็อต“ฉันรู้ว่านายอยากจะถามอะไร ทำไมถึงเรียกวิชานี้ว่ามือระเบิดมังกรใช่ไหม? นั่นก็เพราะว่า...”“ราชาหลินแห่งตอนใต้ คุณกล้า...”“พรวด!”ร่างกายของหลงต้างขยายออกเหมือนกับลูกโป่งทันที จากนั้นก็ระเบิดออก หมอกเลือดกระจายออก เลือดตกลงเหมือนฝนตก“ดู ระเบิดแล้วใช่ไหม?”ราชาหลินแห่งตอนใต้ยิ้มและหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง“นี่...นี่จะเป็นไปได้ยังไง...”หลินเฟิงสีห