หลังจากหัวเราะเบาๆ สุดท้ายก็เป็นการหัวเราะอย่างลำพองใจ“ฮ่าฮ่าฮ่า…ฉันรู้แล้ว”“คุณหลงซวี่จวิน เกิดอะไรขึ้นกับหลินเฟิงกันแน่ครับ?”สยงเทียนคังเห็นเพียงแค่หลงซวี่จวินหัวเราะ กลับไม่ตอบคำถาม จึงรีบถามอย่างร้อนรน:“หึหึ ไอ้หมอนี่อวดฉลาดแต่กลับถูกความฉลาดของตนนำโทษมาให้!”หลงซวี่จวินใบหน้ายิ้มแย้มจ้องมองหลินเฟิงที่หายใจหอบและพูดว่า:“เมื่อครู่เขาฝืนรับฝ่ามือของเฝิงอวี้อู่ ในตอนที่ลมปราณของทั้งสองคนประสานกัน เขายังได้รับผลกระทบจากพิษที่ปะทุขึ้นในร่างของเฝิงอวี้อู่ด้วย!”“นายเคยพูดไว้ว่า ยาพิษของนายใช้จัดการยอดฝีมือที่ใช้ชี่แท้โดยเฉพาะ ถูกต้องไหม?”“ถูกต้องครับ”สยงเทียนคังพยักหน้าด้วยความงุนงง“งั้นก็ถูกแล้ว”หลงซวี่จวินยิ้มพูดว่า:“เห็นได้ชัดว่าหลินเฟิงคนนี้ไม่รู้ตัวว่าเขาถูกพลังชี่แท้ของเฝิงอวี้อู่โจมตีเข้าสู่ภายในร่างกาย ตอนนี้เขาก็ถูกพิษแล้ว!”“ฮ่าฮ่าฮ่า งั้นก็ดีมากเลย!”สยงเทียนคังดวงตาเป็นประกาย แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าคุณหลงซวี่จวินหมายถึงอะไร แต่เข้าใจประโยคสุดท้ายก็พอแล้วนั่นก็คือ…หลินเฟิงก็ถูกพิษแล้ว!“เช่นนั้นคุณหลงซวี่จวิน ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะกำจัดหลินเฟิงสินะครั
“ตลาดมืด ยาโลหิตปลิดชีพ ผลิตจากสำนักร้อยพิษ”หลินเฟิงเงยหน้าขึ้น เช็ดเลือดออกจากมุมปาก มีประกายแสงในดวงตาหลังจากหลินเฟิงพูดชื่อ “ยาโลหิตปลิดชีพ” นี้ออกมา สีหน้าของหลงซวี่จวินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเขารู้ชื่อยาพิษนี้ได้อย่างไร?ต้องรู้ไว้ว่า ยาพิษนี้เป็นของลับที่ตลาดมืดอย่างแน่นอน เอาออกไปข้างนอกมีแค่ไม่กี่คนที่รู้จักถึงขั้นที่เขาหลงซวี่จวิน ก็ได้ฟังมาจากสยงเทียนคัง“หึหึ…พรวด”หลินเฟิงกระอักเลือดออกมา ฉีกยิ้มออกมาและพูดว่า:“คุณดูแปลกใจมากที่ผมรู้ชื่อยาพิษชนิดนี้? หึหึ เรื่องนี้คุณต้องถามคนทรยศของสำนักร้อยพิษที่ตายในมือของผมแล้วล่ะ เขาเผลอทิ้งหนังสือพิษไว้ให้ผม”“ดังนั้นยาพิษของสำนักร้อยพิษ ไม่มีประโยชน์ต่อผม”“ไม่มีประโยชน์?”หลงซวี่จวินแอบมองไปรอบด้าน สัมผัสได้ถึงความไม่เป็นสมดุลของพลังชี่แท้ของหลินเฟิง จึงยิ้มเยาะให้หลินเฟิงเช่นเดียวกันและพูดว่า:“ถ้าหากไม่มีประโยชน์ นายก็คงไม่เจ็บปวดขนาดนี้หรอก”“ถูกต้อง”หลินเฟิงพยักหน้าพูดว่า:“ผมโดนพิษจริงๆ นั่นแหละ และก็ไม่มีวิธีแก้พิษชั่วคราว แต่ว่า…เรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการที่ผมฆ่าคุณ!”พูดจบ จู่ๆ หลินเฟิงก็กระโดดขึ้น
“หือ!”หลงซวี่จวินไม่สามารถยิ้มเยาะได้อีกต่อไป เขาไม่ได้รู้สึกถึงพลังงานชี่แท้จากหมัดของหลินเฟิงเลยเมื่อครู่นี้หลินเฟิงใช้เพียงแค่พลังร่างกายของตัวเอง ก็เกิดพลังมหาศาล ทำให้เกราะป้องกันของเขาพังทลายทันทีคนทั้งคนก็ลอยขึ้นบนท้องฟ้าเหมือนกับกระสอบผุพัง“นี่…เป็นไปได้ยังไง!”“แค่ขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่าน เขาจะ…เดี๋ยวก่อน หรือว่า…หรือว่าช่วงนี้เขาบรรลุขั้นแล้ว?”“แต่ต่อให้บรรลุ ก็ไม่ควร…”หลงซวี่จวินยังไม่ทันได้ตั้งตัว มือใหญ่ข้างหนึ่งก็บีบคอของเขาไว้ ทำให้เขาหายใจแทบไม่ออกพลังชี่แท้ในเส้นลมปราณทั่วร่างกายหายไปทันทีความรู้สึกแบบนี้ทรมานอย่างถึงที่สุด ตอนนี้หลงซวี่จวินอยากโจมตีกลับ แต่ไม่สามารถขับเคลื่อนพลังชี่แท้ในร่างกายได้ด้วยซ้ำและเมื่อเทียบร่างกาย เขาก็รู้สึกหน้ามืดหัวหมุน ฝ่ามือของหลินเฟิงที่อยู่ตรงหน้าเขาเหมือนคีมหนีบเหล็ก เขาดึงไม่ออกด้วยซ้ำและในตอนนี้ในสายตาของผู้ชมทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ หลงซวี่จวินก็เหมือนกับหมาตาย ถูกหลินเฟิงยกขึ้นกลางอากาศ พยายามดิ้นรนสุดชีวิตแต่ไม่สามารถหลุดพ้นไปได้ภายใต้การช่วยเหลือของพี่สาว เฝิงไฉ่อิ๋งฟื้นสติกลับมาได้ไม่น้อย เมื่อเห็
หลงซวี่จวินกดเสียงทุ้มต่ำ พูดอย่างเย็นชาว่า:“แค่นายคนเดียว ยังคิดอยากจะสู้กับตระกูลหลงและสำนักหลงผานของพวกเรา? ฉันเตือนให้นายตายใจซะเถอะ!”“ผู้นำตระกูลหลงของฉันมีอำนาจที่ไม่มีใครเทียบได้ ถ้าหากทำให้เขามาถึงที่นี่ด้วยตัวเอง นายต้องตายโดยไม่มีที่ให้ฝังศพอย่างแน่นอน!”“นายยังมีเวลาอีกสิบวินาที!”หลินเฟิงเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก พึมพำอย่างไร้ความรู้สึก“หลินเฟิง ตอนนี้นายควรคุกเข่าให้ฉัน ไม่แน่ฉันอาจจะเห็นแก่ที่นายมีความสามารถโดดเด่น ไม่คิดเล็กคิดน้อยเรื่องในอดีต และแนะนำนายให้กับสำนักหลงผานก็ได้”เห็นได้ชัดว่าหลงซวี่จวินไม่กลัวคำขู่ของหลินเฟิงเขาพูดเกลี้ยกล่อมต่อว่า:“ต่อไปสำนักหลงผานของเราจะครอบครองทั่วทั้งประเทศมังกร! แม้กระทั่งทั่วทั้งโลก!”“เส้นทางสู่ศิลปะการต่อสู้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น นายไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหลังศิลปะการต่อสู้คืออะไร!”“เพียงแค่นายปล่อยฉันไป และคุกเข่าสวามิภักดิ์อย่างว่าง่าย ฉันก็จะบอกความลับที่ยิ่งใหญ่ให้กับนาย…”“เวลาถึงแล้ว”หลินเฟิงส่ายหน้าด้วยความเสียดาย“หลินเฟิง แกจะทำอะไร? แกกล้าฆ่าฉันงั้นเหรอ? ถ้าแกกล้าแตะต้องฉันแม้แต่ปลายข
หลินเฟิงเหลือบมองเฝิงไฉ่อิ๋งที่ก้มหน้าลง และเฝิงไฉ่เซวียนที่เผยสีหน้าอ้อนวอนออกมา จึงหยุดชะงัก และส่ายหน้าพูดว่า:“เรื่องระหว่างเราสองตระกูลเป็นความเข้าใจผิด ต่างเป็นเพราะถูกตระกูลสยงยุยง!”พูดจบ หลินเฟิงไอ้เป็นเลือด และเดินลงจากเวทีการท้าดวลที่จัตุรัสเมืองเจิ้งเต๋อเที่ยงวันนี้ สุดท้ายก็พลิกสถานการณ์อย่างแปลกประหลาดแบบนี้ม่านก็ปิดลงทั้งการประลอง จากการประชาสัมพันธ์ที่ใหญ่โตจนถึงขั้นยุติการรบ เริ่มต้นดี ตอนท้ายกลับปล่อยวาง ทำให้ผู้ชมไม่พอใจนี่ไม่เหมือนกับการดวลกันของผู้แข็งแกร่งศิลปะการต่อสู้เลยด้วยซ้ำ แต่กลับดูเหมือนเป็นละครเวทีมากกว่าแต่ผลที่ตามมาจากการแสดงละครเวทีเรื่องนี้ก็ร้ายแรงพอสมควรทางด้านตระกูลเฝิงเฝิงอวี้อู่หมดสติ เป็นตายร้ายดียังไม่แน่ชัด ถูกเฝิงไฉ่เซวียนและคนอื่นๆ หามกลับหนิงโจวด้วยสภาพย่ำแย่ถึงแม้เฝิงอวี้อู่ยังคงรักษาตำแหน่งอันดับสองลำดับสวรรค์เอาไว้ได้ แต่พูดได้ว่าชื่อเสียงตกต่ำลงคนจำนวนมากแสดงความผิดหวังต่อตระกูลเฝิงในครั้งนี้ถึงที่สุดกลับกันนั้น ช่วงนี้หลินเฟิงมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้น แม้แต่ตระกูลหลี่ก็ได้รับความสนใจไม่น้อยหลี่ซื่อกรุ๊ปเจริญรุ่งเรือง
หลังจากอธิบาซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลินเสวี่ยฮุ่ยถึงได้นั่งลงที่ด้านข้างหลินเฟิงด้วยท่าทางประชดประชันเล็กน้อยเธอกอดอก อยากจะเห็นว่าสาวสวยที่มาในครั้งนี้คือใคร“คุณหลิน สวัสดีค่ะ”คนที่เข้าประตูมา คือผู้หญิงที่ท่าทางระมัดระวังเป็นพิเศษ สวมชุดจีนโบราณเรียบง่าย โค้งตัวแสดงความเคารพหลินเฟิงช้าๆหลินเฟิงกลับงุนงงเล็กน้อยผู้หญิงคนนี้ใบหน้ามีการแต่งหน้า อ่อนโยนและสง่างาม บนหน้าผากยังมีปานแดงกลีบดอกท้อสามกลีบ ดูเหมือนหญิงสาวสวยในจิตรกรรมฝาผนังสมัยราชวงศ์ถังโบราณแห่งประเทศมังกรความนุ่มนวลและงาดงามี และร่องลึกตรงหน้าอกทำให้ผู้คนแทบไม่อยากละสายตาต่อให้เป็นหลินเฟิง ก็เหม่อลอยเล็กน้อยทันที“ว้าว สวยจัง…”หลินเสวี่ยฮุ่ยวินาทีก่อนยังอิจฉาเล็กน้อย วินาทีต่อมาก็ถลึงตาโตชื่นชม“หึหึ ขอบคุณค่ะ”ผู้หญิงพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นมองไปทางหลินเฟิงและพูดว่า:“คุณหลิน ฉันคือหนีซางรองผู้นำของหอดอกไม้สำนักจิ่วเซียวแห่งเมืองหนานไห่ ได้ยินคุณงามความดีของคุณหลินในช่วงนี้ ดังนั้นจึงอยากมาเยี่ยมเยือนถึงที่ และมาพบหน้าสักหน่อย”“สำนักจิ่วเซียว?”หลินเฟิงได้ยินชื่อนี้ ในหัวก็ครุ่นคิดอย่างรวดเร็วทันใดนั้นก็ตั
ในทางกลับกันคือคาดเดาได้ตั้งนานแล้วว่าหลินเฟิงจะตอบกลับแบบนี้ เธอจึงยิ้มบางและพูดว่า:“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันก็ขอตัวนะคะ”“อืม”เห็นแผ่นหลังของหนีซางหายไปจากห้องรับแขก หลินเฟิงก็ครุ่นคิดอย่างละเอียดเมื่อครู่หนีซางคนนี้ได้เตือนหลินเฟิงหลายๆ เรื่องอย่างเห็นได้ชัดประเทศมังกร เป็นที่ที่มีคนเก่งมากมายเรื่องที่ก่อนหน้านี้เขากำจัดหลงซวี่จวิน เห็นได้ชัดว่าดึงดูดความสนใจจากคนจำนวนมากถึงขั้นที่ภายใต้การบอกเป็นนัยของหนีซาง มีบุคคลใหญ่โตเตรียมจะลงมือต่อเขาแล้วแต่หลินเฟิงไม่มีทางกลัวหรอกสิ่งเดียวที่เขากังวล กลัวว่าคนเหล่านี้จะไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ลงมือต่อคนข้างกายเขาในตอนที่หลินเฟิงคิดแบบนี้ จู่ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมา“อาจารย์หลินเฟิง! แย่แล้ว พ่อกับคุณน้าจ้าวถูกคนจับตัวไปแล้ว!”คนที่เรียกหลินเฟิงว่าอาจารย์ อีกทั้งยังเป็นเสียงของเด็กผู้หญิงอีกฝ่ายของโทรศัพท์ก็คืออวี๋จื่อเสวียนนั่นเอง“อะไรนะ?!”ได้ยินเสียงร้อนรนของอวี๋จื่อเสวียนในโทรศัพท์ หลินเสวี่ยฮุ่ยที่อยู่ข้างๆ ก็เด้งตัวขึ้นทันทีน้าจ้าวที่อวี๋จื่อเสวียนพูดถึง ก็คือจ้าวเฉียวอวิ๋น แม่บุญธรรมของหลินเสวี่ยฮุ่ยน
หลินเฟิงขับรถมาที่ชานเมืองเจิ้งเต๋ออย่างรวดเร็วเขาหาวัดซานเสินที่ทรุดโทรมได้โดยที่ไม่เปลืองแรงมากนักเพยงแต่ยังไม่ได้เข้าไป ก็สัมผัสได้ถึงลมปราณอาฆาตที่ผิดปกติในที่นี้ได้แล้วนี่จึงทำให้หลินเฟิงระมัดระวังอย่างมากถ้าหากเดาไม่ผิด คนที่ลักพาตัวจ้าวเฉียวอวิ๋นกับอาอวี๋มาที่นี่ พุ่งมาที่เขาคำพูดนี้อันที่จริงไม่แม่นยำเลย พุ่งเป้ามาที่ชีพจรมังกรต่างหากคิดถึงตรงนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกเสียใจภายหลังแล้วดูท่าชีพจรมังกรมีความสำคัญอย่างมาก ทำให้กองกำลังต่างๆ ของประเทศมังกรพากันลงมือแล้วไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือลึกลับ หรือจะเป็นสำนักใหญ่โตที่เปิดเผยตัวต่อภายนอกถึงขั้นที่ผู้ว่าเมืองจิง ในยุทธจักร และฝ่ายราชการ ต่างก็เข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์วุ่นวายครั้งนี้แล้วในเมื่อสำนักจิ่วเซียวมาหาเขาได้ เช่นนั้นคนอื่นๆ ก็สามารถหาได้เช่นกันหลินเฟิงกับหลี่ซื่อกรุ๊ปในฐานะศูนย์กลางของความโกลาหลทั้งหมดพวกเขาจะต้องดึงดูดคำข่มขู่และความสนใจจากกองกำลังต่างๆ ที่ทั้งเปิดเผยและซ่อนตัวชีพจรมังกรเป็นของดีแต่ตอนนี้หลินเฟิงไม่ได้ตัวคนเดียว ชีพจรมังกรนี้เขาปกป้องไม่ไหวคิดถึงตรงนี้ หลินเฟิงก็มีความคิดที่จะค่อยๆ
เขาฝังเข็มโดนใช้ใจอย่างมาก แต่ละเข็มฝังลงไปได้อย่างแม่นยำในที่สุดหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวฝังเข็มสุดท้ายลงบนหน้าอกของเฝิงอวี้อู่ ความมืดบนใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ลดลงอย่างน่าอัศจรรย์แม้แต่ลมหายใจก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย“เอ๊ะ?”เมื่อเห็นภาพนี้ เฝิงหลีที่อยู่ไกลออกไปดูตกใจ“นี่คือยาล้างพิษ แม้จะไม่ได้ผลเท่ากับยาของอาจารย์ของผม แต่ก็เป็นแบบจำลองที่วิจัยออกมาโดยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของผม”ขณะพูด หมอเทวดาเลี่ยวยัดยาเม็ดสีเหลืองขนาดเท่าลำไยเข้าไปในปากของเฝิงอวี้อู่ยาเม็ดนี้ทานเข้าไปแล้วจะน้ำลายไหล ในสายตาของทุกคน ยาเม็ดนั้นกลายเป็นลูกบอลสีเหลืองไหลลงคอของเฝิงอวี้อู่ทันทีส่วนเฝิงอวี้อู่กลับไอสองครั้งในขณะที่หมดสติใบหน้าก็แดงก่ำอย่างผิดปกติ“ได้ผลจริงๆ ด้วย!”เห็นลูกชายของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฝิงชางตื่นเต้นมากจนเขาคุกเข่าให้หมอเทวดาเลี่ยวทันที“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาเลี่ยว ก่อนหน้านี้คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆ!”เฝิงชางเห็นภาพนี้ คิดว่าลูกชายของตัวเองรอดแล้ว เมื่อครู่เป็นแค่คำถ่อมตัวของหมอเทวดาเลี่ยวและในตอนนี้หมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเพราะวิธีการที่
เมื่อดูแบบนี้ เป็นที่น่าตื่นตะลึงหัวใจของหมอเทวดาเลี่ยวก็กระตุกมองแค่ใบหน้า ก็รู้ว่าคุณชายเฝิงอยู่ได้ไม่นานแล้ว หน้าผากเต็มไปด้วยอากาศสีดำ ใบหน้าดูเหมือนตายแล้ว นี่มันถูกพิษที่ไหนกันนี่เป็นการยื้อลมหายใจสุดท้ายด้วยซ้ำ!หากปล่อยลมหายใจสุดท้ายนี้ออกมา คุณชายตระกูลเฝิงคงจะตายไปนานแล้ว“เป็นยังไงบ้าง? หมอเทวดาเลี่ยว?”เฝิงชางและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ รีบถามด้วยความกังวลนี่คือลูกชายของเขา ยังเป็นความหวังสำหรับอนาคตของตระกูลเฝิงของพวกเขาอีกด้วย ตอนนี้เห็นลูกชายกลายเป็นแบบนี้ หัวใจของเฝิงชางแทบจะแตกสลาย“ผู้นำตระกูลเฝิงไม่ต้องร้อนใจ”หน้าผากของหมอเทวดาเลี่ยวเต็มไปด้วยเหงื่อถ้าหากพูดว่าเมื่อครู่เขายังรู้สึกว่าตัวเองมีความหวัง สามารถใช้ความคิดส่วนตัวของตัวเองได้ แต่ตอนนี้ หัวใจของเขาจมลงสู่ก้นบึ้งแค่มองรูปลักษณ์ภายนอกของคุณชายเฝิง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้อาจารย์ของเขามา เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถช่วยกลับมาได้“เฮ้อ…”หมอเทวดาเลี่ยวถอนหายใจ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน“พิษที่คุณชายเฝิงโดนได้แทรกซึมเข้าอวัยวะภายในแล้ว เกรงว่ากระเพาะทะลุลำไส้เน่าไปแล้ว เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย”“ผมทำ
ไม่ต้องพูดถึงหมอเทวดาเลี่ยวที่มีสถานะอันสูงส่งเลยพูดไร้สาระมากกว่านี้ นั่นก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัวถ้าอีกฝ่ายโกรธและปฏิเสธที่จะทำการรักษา ตระกูลเฝิงจะหันไปพึ่งใครได้?หรือว่าจะไปหาหลินเฟิงคนนั้นงั้นเหรอ?“เมืองเจิ้งเต๋อ?”หมอเทวดาเลี่ยวตกตะลึงเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าช่วงนี้หลินเฟิงอยู่ที่เมืองเจิ้งเต๋อ แต่เมื่อเห็นท่าทางของตระกูลเฝิงในเวลานี้ เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้จึงทำได้แค่พยักหน้า ความสงสัยนี้วางเอาไว้ก่อนในเมื่อเมืองเจิ้งเต๋อมีคนมากมาย แต่คนที่สามารถกำเริบเสิบสานที่ตระกูลเฝิงได้กลับมีไม่เยอะหมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกสงสัยเป็นธรรมดา“หึหึ หมอเทวดาเลี่ยว เชิญทางด้านนี้ครับ”เฝิงชางนำทางอยู่ข้างหน้า พาหมอเทวดาเลี่ยวไปที่ชั้นลอยโบราณ ทุกคนเพิ่งผลักประตูเขาไปก็ได้รับกลิ่นหอมที่รุนแรงของยา“อืม? เทียนหลงเสียน เจิ้นเฟิงจือ…”ยังไม่ได้เข้าห้อง หมอเทวดาเลี่ยวก็ย่นปลายจมูก ได้กลิ่นหอมอันล้ำค่าของสมุนไพรสมบัติล้ำค่าจำนวนมากได้ยินหมอเทวดาเลี่ยวพูดชื่อยาสมุนไพรมากกว่าสิบชนิดที่ไม่ขาดไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงชางและเฟิงเอ้อค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นรีบพยักหน้าพูดว่า:“หมอเทวดา
“เดี๋ยวนะไอ้หนุ่ม สมองของนายไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”“ชู่วชู่วชู่ว อย่าเพิ่งพูด ให้ไอ้หมอนี่พูดพร่ำเพ้อไปเถอะ ให้หมอเทวดาเลี่ยวกราบเขา พรวด...”ทั้งสองคนพากันหัวเราะจนปวดท้องเนื่องด้วยคำพูดโอ้อวดของหลินเฟิงหมอเทวดาเลี่ยวมีสถานะอะไร?ทำไมจะต้องคุกเข่ากราบให้นายเด็กหนุ่มที่ไม่มีชื่อเสียง และอวดดีอย่างบ้าระห่ำแบบนี้ด้วย?เขายิ้มบางพูดว่า:“ถ้าหากผมพูดได้ไม่ถูกต้อง เช่นนั้นผมจะคุกเข่ากราบทั้งสองท่าน ชีวิตน้อยๆ ของผมก็จะปล่อยให้พวกคุณสองคนจัดการ”“แต่ถ้าหากผมพูดถูกต้อง...”หลินเฟิงมองไปทางทั้งสองคนและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า:“พวกคุณคุกเข่าลง และคลานจากตรงนี้ไปที่หน้าประตูจวนตระกูลเฝิง อีกทั้งขณะที่คลาน จะต้องเลียนแบบหมาเห่าด้วย เป็นยังไง?”เห็นหลินเฟิงเล่นจริง ผู้คุ้มกันทั้งสองนิ่งอึ้งเล็กน้อยพวกเขาเห็นสีหน้าที่จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของหลินเฟิง ในใจก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยดูยังไง ไอ้หมอนี่ก็ตั้งใจล่อให้พวกเขาติดกับชัดๆแต่ว่าการเดิมพันเกินเหตุไปหน่อยไหมให้หมอเทวดาเลี่ยว หมอเทวดาเมืองจิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังกราบตรงหน้าเขา อีกทั้งขอร้องให้เขาลงมือรักษา?เรื่องแบบนี้พูดออกไปใคร
“คุณท่านรอง ไอ้หมอนี่พาลเกเรที่ตระกูลเฝิงของเราครับ!”“ใช่ครับคุณท่านรอง ไอ้หมอนี่กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!””วันนี้พวกเราจะปิดประตูตีสุนัข สั่งสอนเขาอย่างดีสักหน่อย!”“หุบปาก”ฟังถึงตรงนี้ เฝิงเอ้อจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเหลือบมองหลินเฟิง ไม่ได้พูดขอโทษอะไร แต่กลับมองไปทางลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงและพูดอย่างเย็นชาว่า:“ผู้ที่มาเยือนคือแขก ตระกูลเฝิงของเราจะให้คนนอกหัวเราะเยาะไม่ได้”“แยกย้ายไปให้หมด!”“แต่ว่าคุณท่านรอง...”“ทำไม?”เฝิงเอ้อถลึงตาใส่ และพูดด้วยความโมโห:“ไม่ฟังคำสั่งของฉันงั้นเหรอ?”“......”เห็นเฝิงเอ้อแสดงอำนาจ ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงที่อยู่ในเหตุการณ์ทำได้แค่ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ และพากันแยกย้าย ก่อนจะเดินออกไป ก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่หลินเฟิง“คุณหลินเฟิง ไม่ว่าคุณจะมองตระกูลเฝิงของเรายังไง ลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมาอบรมสั่งสอน”“หวังว่าคุณจะเข้าใจ”หลังจากพูดคำเหล่านี้จบ เฝิงเอ้อก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหลินเฟิงได้ยินแบบนี้ ก็รู้ว่าเฝิงเอ้อคนนี้ไม่ได้รู้สึกคาดหวังอะไรต่อเขาเลยสักนิด สำหรับเรื่องที่หลินเฟิงพูดว่าสามารถแก้พิษให้อวี
หลินเฟิงตามกลุ่มคนตระกูลเฝิงมาที่ตึกเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังตรงสวนหลังบ้าน ยังไม่ได้เข้าประตู หลินเฟิงก็เห็นหมอเทวดาเลี่ยวที่ถูกคนกลุ่มหนึ่งติดตามมาเขาไม่ได้เข้าไปทักทาย แต่ยืนอยู่นอกกลุ่มคนเพราะว่าผู้คุ้มกันของตระกูลเฝิงสองคนจับตาดูเขาอยู่ตลอดพวกเขาสองคนอนุญาตให้หลินเฟิงรออยู่ตรงนี้เท่านั้น ไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปยุ่งวุ่นวายในเมื่อเฝิงอวี้อู่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงและอำนาจมากที่สุดในตระกูลเฝิงพวกเขาได้ยินมานานแล้วว่า สภาพครึ่งเป็นครึ่งตายของคุณชายเฝิงอวี้อู่ในตอนนี้ เป็นฝีมือของหลินเฟิงถึงแม้หลินเฟิงไม่ได้เป็นคนวางยา และหลินเฟิงก็ชี้แจงแล้วว่า เขาไม่ใช่คนชั่วช้าต่ำทรามที่ใช้แผนลวงทำร้ายคนอื่นแต่ความโมโหแบบนี้ยังคงมีอยู่และยิ่งเป็นคนชั้นล่างของตระกูลเฝิง ผลกระทบแบบนี้ก็ยิ่งมีมากดังนั้นเหล่าผู้คุ้มกันตระกูลเฝิง จึงยังคงมีท่าทางไม่เป็นมิตรต่อหลินเฟิงเป็นอย่างมากถึงขั้นที่มีลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงจำนวนมากขยับเข้ามา อยากจะประลองฝีมือกับหลินเฟิง ลองดูว่าหลินเฟิงแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆ หรือไม่ถ้าหากไม่ได้ผู้คุ้มกันตระกูลเฝิงขวางไว้ ตรงนี้คงเกิดการปะทะครั้งใหญ่ขึ้นตั้งนานแล
“ง่ายมาก”หลินเฟิงยืดอก พูดด้วยความมั่นใจว่า:“ผมช่วยแก้พิษให้เฝิงอวี้อู่ ส่วนคุณ บอกเบาะแสะของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊กับผม เป็นยังไง?”“พรวด”คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงเพิ่งพูดแบบนี้จบ เฝิงหลีที่อยู่ข้างๆ ก็หัวเราะออกมาเขามองไปทางหลินเฟิงด้วยความเยาะหยันและพูดว่า:“คุณหลินคนนี้ คุณคงไม่ได้คิดว่าพวกเราโง่เหมือนกับคุณหรอกนะ? ใครจะเชื่อคำพูดไร้สาระของคุณได้?”“ผมได้พูดกำชับหลายครั้งแล้วว่า ยาโลหิตปลิดชีพเป็นยาพิษพิเศษของสำนักร้อยพิษ ไม่ใช่ผู้อาวุโสของเราแก้พิษก็ไม่มีทางแก้ได้”“ส่วนคุณพูดจาโอ้อวดอยู่ตรงนี้ ไม่กลัวว่าฟ้าจะผ่าลิ้นบ้างเหรอ?”เผชิญหน้ากับการเยาะหยันของเฝิงหลี หลินเฟิงไม่ได้รู้สึกโกรธเพียงแค่ส่ายหน้าช้าๆ พูดว่า:“ผู้นำตระกูลเฝิง ผมมองออกถึงความลำบากใจของคุณ”“ไม่สู้เอาแบบนี้ คุณพาผมไปพบเฝิงอวี้อู่ตอนนี้ รักษาหายไม่หาย ก็คิดบัญชีกับผมได้”“ถ้าหากรักษาหาย คุณก็บอกเบาะแสของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊กับผม แต่ถ้าหากรักษาไม่หาย...ผมก็จะติดเชื้อพิษ และก็จะต้องตายเพราะคำพูดโอ้อวดของผม”“เป็นยังไง?”ได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองของหลินเฟิง เฝิงชางนิ่งอึ้งเล็กน้อย
“ขู่นายนี่แหละ จะทำไม?”เฝิงเอ้อก็ไม่เสแสร้งแล้ว เขาชักดาบสะท้อนแสงเล่มใหญ่ออกมาจากด้านหลัง ฟันไปบนโต๊ะเสียงดังปึง จ้องมองหลินเฟิงด้วยความดุดันและพูดอย่างโมโหว่า:“วันนี้ถ้านายพูดไม่ชัดเจน นายก็อย่าได้คิดจะออกจากตระกูลเฝิงเลย!”“พรวด...”ในตอนที่บรรยากาศค่อยๆ เปลี่ยนไปตึงเครียดเฝิงหลีที่อยู่ข้างๆ กลับหลุดหัวเราะออกมากระทันหัน“นายหัวเราะอะไร?!”เฝิงเอ้อไม่พอใจอย่างมากเป้าหมายที่เขาข่มขู่หลินเฟิงแบบนี้ ก็เพราะไม่อยากให้ไอ้หมอนี่สมหัวงถ้าหากสามารถได้รับวิธีการรักษาอวี้อู่จากตัวหลินเฟิง งั้นพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องมอบตัวหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ออกไปแล้วเมื่อเป็นแบบนี้ ก็จะได้ไม่ต้องมีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มพันธมิตรบู๊แล้วและก็ไม่ต้องทิ้งจุดอ่อนเอาไว้แต่ทว่าแม้แต่เรื่องที่แม้แต่เฝิงเอ้อยังสามารถคิดได้ เฝิงหลีจะคิดไม่ได้ได้อย่างไร?เขากวาดตามองหลินเฟิงด้วยความเหยียดหยาม และก็มองไปทางเฝิงเอ้ออีกครั้ง:“ฉันว่านะพี่รอง ฉันเคยพูดไว้แล้ว พิษที่อวี้อู่โดนคือยาโลหิตปลิดชีพ พิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลก”“บนโลกนี้แล้ว นอกจากผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษ ก็ไม่มีใครสามารถแก้พิษนี้ได้แล้ว”“ไอ้ห
“ที่คุณหลินพูดถึง ไม่ทราบว่ารับการไหว้วานมาจากใคร? ตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ทำไม?”ตอบกลับด้วยคำถามง่ายๆเตะบอลกลับมาที่เท้าของหลินเฟิงใหม่อีกครั้ง“ได้รับการไหว้วานจากพ่อของผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ สำหรับเรื่องที่ตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ทำไมนั้น...”หลินเฟิงหยุดชะงัก ในหัวครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว และยิ้มบางพูดว่า:“ตอนเด็กผมเคยมีหมั้นหมายกับผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ ที่มาตามหาในวันนี้ เพื่อให้การหมั้นหมายเสร็จสมบูรณ์”“หือ?”เฝิงชางนิ่งอึ้งเล็กน้อยผู้นำของกลุ่มพันธมิตรบู๊มีหมั้นหมายแล้วงั้นเหรอ? ภายในกลุ่มพันธมิตรบู๊ก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนไม่ใช่ว่าไอ้หมอนี่พูดจาซี้ซั้วหรอกนะ?เฝิงชางหรี่ตาลง ในใจครุ่นคิดไม่หยุดส่วนทางด้านหลินเฟิงเขาจำเป็นต้องหาข้ออ้างที่สมเหตุสมผล หาสถานะที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เพื่อที่จะให้เขาตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรไม่อย่างนั้นคุณจะเข้ายุ่งเรื่องภายในของกลุ่มพันธมิตรบู๊ได้อย่างไร?ในตอนนี้เอง หลินเฟิงก็มีข้ออ้างแล้วหยินหลิงเป็นหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรของพวกคุณ เป็นเรื่องภายในของกลุ่มพันธมิตรบู๊ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเท็จแต่ฉันตามหาคู่หมั้นของตัวเอง มีปัญหาไ