ประโยคนี้ของหลินเฟิงพูดออกมาอย่างน่าเกรงขามมากถังหว่านได้ยินดังนั้นก็โล่งอกในทันที: “ได้ยินคุณพูดแบบนี้ ฉันก็ไม่กลัวแล้ว”“อีกเดี๋ยวฉันยังต้องไปบริษัทสักหน่อย พวกคุณสองคนก็ไปกับฉันด้วยนะ ถือว่าดูแลความปลอดภัยให้กับฉันแล้วกัน”ช่วงนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเอาไว้หน่อยก็ดีหลินเฟิงก็ไม่ได้ขัดอะไรยังไงซะตัวเองกลับโรงแรมไปก็ไม่มีอะไรให้ทำกลับมาถึงบริษัทเชิงถังฉินอิ๋งไม่เพียงจะเป็นบอดี้การ์ดของถังหว่านแล้วยังเป็นผู้ช่วยประจำตัวของเธออีกด้วย ช่วงเวลาปกติยังสามารถช่วยเธอจัดการเอกสารบ้างแน่นอนว่าเธอก็ติดตามถังหว่านไปที่ห้องทำงานด้วยเช่นกันส่วนหลินเฟิงไม่เข้าใจการบริหารบริษัทเลย การจะเข้าไปในห้องทำงานก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรจึงไปที่ห้องพักผ่อนแขกวีไอพีคนเดียวสถานที่แห่งนี้เงียบสงบมาก เขาหาที่สบายๆ เพื่อหลับตาพักสมองและฝึกรวมลมปราณภายในไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ประตูห้องพักผ่อนแขกวีไอพีถูกคนผลักเปิดออกหลินเฟิงลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ และคนที่มานั้นก็คือเลี่ยวกั๋วต้งเพียงแต่ว่าครั้งนี้เขามาเพียงลำพังห้องพักผ่อนแขกวีไอพีทั้งใหญ่มีเพียงหลินเฟิงอยู่คนเดียว เลี่ยวกั๋วต้งมองไปก็เห็น
เลี่ยวกั๋วต้งพูดอย่างภาคภูมิใจ: “คุณถัง จริงแล้วผมมาในครั้งนี้ก็เพื่อตั้งใจจะมาแนะนำคนที่มีความสามารถคนหนึ่งให้กับคุณครับ”ถังหว่านสงสัยจนอึ้งพูดไม่ออก: “คนที่มีความสามารถ?”เลี่ยวกั๋วต้งตบหน้าอกแล้วพูดขึ้น: “คนนี้เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังเลยนะครับ ความสามารถส่วนตัวสูงมาก”ถังหว่านยิ้ม: “ผู้บริหาระดับสูงของบริษัทเชิงถังก็จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังทั้งนั้นนะ ประเด็นนี้อธิบายอะไรไม่ได้หรอกนะคะ”เลี่ยวกั๋วตงพูดต่อไปว่า: “แต่คนนี้เป็นหลานเขยของจางเต๋อหลินเชียวนะครับ ชื่อเสียงของจางเต๋อหลินคุณถังคงจะเคยได้ยินมาก่อนสินะครับ?”“ซืด...”ถังหว่ายหายใจเข้าด้วยความตกตะลึง แน่นอนว่าเธอรู้จักจางเต๋อหลินแม้แต่จางเจียหนิง เธอก็รู้จักไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเจ้าเด็กคนนั้นจะแฟนด้วยทว่าคนที่สามารถเป็นถึงหลานเขยของจางเต๋อหลินได้ ระดับวิชาแพทย์ของคนนี้น่าจะไม่เลวเลยตัวเองกำลังจะก่อตั้งบริษัทการแพทย์และเภสัชอยู่พอดี และเป็นตอนที่อยากได้คนที่มีความสามารถทางด้านการแพทย์แบบนี้มาก“ถ้าสิ่งที่คุณพูดมาเป็นความจริง เขามาทำงานได้ตลอดเวลาเลยนะ”เลี่ยวกั๋วต้งถามกลับ: “งั้นไม่รู้ว่าคุณถังจะยอมให้เขาทำงาน
“เป็นพ่อสื่อ?”จางเต๋อหลินตกตะลึงหลานสาวของตัวเองก็อายุไม่น้อยแล้วจริงๆ แต่เธอกลับไม่คิดอยากจะแต่งงานเลยสักนิดตัวเองรีบร้อนไปด้วยก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีห้ามใจตัวเองไม่ได้จึงต้องถามออกมาด้วยความอยากรู้: “ไม่ทราบว่าคุณเลี่ยวต้องการแนะนำคุณชายของตระกูลไหนให้ผมครับ?”เลี่ยวกั๋วต้งตอบ: “จริงๆ ฝ่ายชายก็ไม่ถือว่าเป็นลูกชายจากตระกูลร่ำรวยอะไรหรอกครับ แต่ผมกล้ายืนยันว่าความสำเร็จในอนาคตของเขาจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนครับ”จะว่าไป หลี่ซื่อกรุ๊ปยังไม่ถึงขั้นสำหรับกลุ่มระดับบนของเจียงโจวแต่ตอนนี้พวกเขาได้ร่วมมือกับถังหว่าน ความสำเร็จในอนาคตนั้นไร้ขีดจำกัด“นี่...”จางเต๋อหลินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย พูดแบบนี้แสดงว่าอีกฝ่ายก็เป็นแค่คนธรรมดาไร้กำลังอำนาจแม้ว่าตัวเองจะไม่ได้เป็นคนหัวสูงเลือกปฏิบัติ แต่อย่างน้อยครอบครัวของทั้งสองฝ่ายก็จะต้องมีสังคมและฐานะที่เท่าเทียมกันสิหลานสาวสุดรักของตัวเองจะไปแต่งงานกับคนแบบนี้ไม่ได้!เลี่ยวกั๋วต้งรีบอธิบาย: “หมอเทวดาจางครับ คุณอย่าดูว่าเด็กคนนี้จะไม่มีภูมิหลังอะไรครับ อายุก็เพิ่งจะยี่สิบต้นๆ แต่เขาได้เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของถังหว่านแล้วนะครับ”“ความส
“หลินเฟิง?” จางเจียหนิงประหลาดใจเล็กน้อยเธอเคยเจอหลินเฟิงแล้ว ทักษะทางการแพทย์สูงมากจริงๆแต่ทำไมเขาถึงอยากจะนัดดูตัวกับตัวเองล่ะ เขาก็ไม่ใช่ว่าไม่มีช่องทางติดต่อของตัวเองนะ อยากสารภาพก็บอกตัวเองโดยตรงก็ได้นะ“เขาพูดเองเหรอคะ?”จางเต๋อหลินส่ายหัว: “เลี่ยวกั๋วต้งเป็นคนบอกปู่ ปู่ว่าหลินเฟิงน่าจะเป็นคนให้เขาช่วยมาเป็นพ่อสื่อให้”“หลินเฟิงคนนี้ก็ถือว่าค่อนข้างทางการดีนะ รู้จักหาพ่อสื่อด้วย”ในหัวของจางเจียหนิงผุดภาพของหลินเฟิงขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงจะมีทักษะทางการแพทย์ที่ล้ำเลิศ และหน้าตาก็ดี หุ่นก็ดีด้วยตรงกับสเปคในอุดมคดีของตัวเองเป๊ะเลยถ้าได้คบกับเขาก็ไม่เลวเหมือนกันนะก่อนหน้านี้เธอไม่เคยคิดถึงปัญหานี้เลย วันนี้หลินเฟิงฝากให้คนมาเป็นพ่อสื่อให้ ดูเหมือนว่าเขาแอบหลงรักตัวเองตั้งนานแล้วและก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหลงรักมาตั้งแต่เมื่อไหร่พอคิดแบบนี้มุมปากของจางเจียหนิงก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มออกมาด้วยความดีใจดูเหมือนว่าตัวเองแค่ต้องพยายามพัฒนาตัวเองให้ดี ไม่ช้าก็เร็วก็จะมีผู้ชายที่เก่งและดีมองเห็นตัวตนของตัวเอง“เสี่ยวหนิง เลี่ยวกั๋วต้งเป็นพ่อสื่อด้วยตัวเอง ต้อง
จางกุ้ยหลานรีบพยักหน้าต่อเนื่องไม่หยุด: “ก็ใช่ค่ะ ก็ใช่”“จริงสิ กุ้ยหลาน ช่วงนี้ผมจัดตั้งบริษัทเสริมความงามขึ้น ที่ปรึกษาทางเทคนิคก็คือเพื่อนของผมที่เรียนจบจากประเทศเมริก”เลี่ยวกั๋วต้งเวลานี้พูดด้วยสีหน้าจริงจัง: “เครื่องมือทั้งหมดก็นำเข้ามาจากประเทศเมริก หากเข้าตลาดแล้วจะต้องดังระเบิดทั่วเจียงโจวแน่นอน”“แต่เพื่อนผมถือหุ้นไว้สูงมาก ผมกลัวว่าอนาคตจะคุมบริษัทไม่ได้”“ผมหวังว่าคุณจะช่วยผมได้”จางกุ้ยหลานนคิดไม่ถึงว่าเลี่ยวกั๋วต้องจะต้องการความช่วยเหลือจากตัวเอง เธอพูดออกไปอย่างไม่ลังเลยเลยว่า: “กั๋วต้ง คุณก็พูดเกรงใจมากเลยนะ มีอะไรต้องการให้ฉันช่วย คุณก็บอกฉันมาได้เลย”“ฉันต้องคิดหาทางช่วยคุณให้ได้เลย”เลี่ยวกั๋วต้งพูดอย่างโศกเศร้า: “ผมอยากยืมเงินคุณสักหน่อย ช่วยผมเพิ่มทุนหุ้นของผมหน่อย และให้คุณก็กลายเป็นผู้ถือหุ้นด้วย”“ถ้าเป็นแบบนี้ นโยบายเล็กใหญ่ในอนาคตของบริษัท เราสองคนก็สามารถปรึกษาหารือกันได้”จางกุ้ยหลานตกใจมาก ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเลี่ยวกั๋วต้งยังให้หุ้นของตัวเองไม่ได้มองตัวเองเป็นคนนอกเลยลองคิดดูอีกทีเขาเป็นคนช่วยรักษาหน้าให้กับลูกสาวตัวเองก่อน ทั้งยังช่วยลูกชายข
พอเห็นหลินเฟิง จางเจียหนิงก้มหน้าด้วยความเขินอายในทันทีจางเต๋อหลินยิ้มร่าด้วยความสดใส: “คุณหลิน มาเร็วจริงๆ นะครับ ในเมื่อมาถึงแล้วงั้นก็เข้าไปด้วยกันเถอะครับ!”“เอิ่ม...พอได้ครับ ผมก็เพิ่งจะเลิกงาน”จางเต๋อหลินพยักหน้า: “คุณหลินงานยุ่งมากสินะครับ ช่วงนี้ยังเลื่อนขั้นไปเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของคุณถังอีกด้วย อนาคตก้าวไกลเลยนะครับ”หลินเฟิงโบกไม้โบกมือ: “ที่ไหนกันครับ หมอเทวดาจางชมกันเกินไปแล้วครับ”แต่ตัวเองไม่ใช่ที่ปรึกษาส่วนตัว แต่เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวต่างหากคิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะแพร่ออกไปเร็วขนาดนี้ จนไปเข้าหูของจางเต๋อหลินแล้ว“คุณหลินครับ ในเมื่อมาแล้ว เราก็รีบเข้าไปกันเถอะครับ”“ไป...ไปไหนครับ?”“ทานข้าวไงครับ!” จางเต๋อหลินหัวเราะเหอะๆหลินเฟิงทำหน้างุนงง และยังคิดว่าจางเต๋อหลินเชิญตัวเองทานข้าวแล้วทำไมไม่โทรหาตัวเองก่อนทว่าในเมื่อเขาเชื้อเชิญแล้วเขาจะปฏิเสธก็ไม่ดีพอดีตัวเองก็ยังไม่ได้กินข้าว“ได้สิครับ! ผมขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนครับ เดี๋ยวไปนะครับ”จางเต๋อหลินพูดขึ้น: “โอเคครับ งั้นเราไปรอคุณหลินที่ห้องรับรองก่อนนะครับ”เขาเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าหลินเฟิงสวมแค
เลี่ยวกั๋วตงพูดอธิบาย: “ใช่ครับ เหวินเชาได้เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของคุณถังแล้วครับ และจะเข้าทำงานในวันพรุ่งนี้แล้ว”จางเต๋อหลินได้ยินดังนั้น ก็ตบไปที่หน้าผากในทันทีหน้ามืดตามัวไปหมด เกือบจะเป็นลมไปทั้งตรงนั้นตัวเองเลอะเลือนจริงๆ ตอนนั้นก็น่าจะถามชื่ออีกฝ่าย!พลาดแล้วๆ...หลี่เหวินเชายกแก้วเหล้าหัวเราะฮิๆ และพูดขึ้น: “หมอเทวดาจางครับ ต่อไปเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ ท่านสบายใจได้ครับ ผมรับรองว่าจะดีกับเจียหนิง”“ผมจะรักเธอตลอดไป ตลอดไปครับ....”เขาพูดยังไม่จบ จางเจียหนิงนับแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วสาดใส่หน้าของเขาตะคอกด้วยความโกรธ: “เงียบปากไปนะ”หลี่เหวินเชาถูกสาดจนทำหน้างงไปหมด เสื้อเชิ้ตสีขาวเปียกไปด้วยไวน์แดงในทันที“แก...”ในใจอยากจะระเบิดอารมณ์โกรธออกมา แต่เห็นจางเต๋อหลินที่อยู่ข้างๆ จึงทำได้เพียงกลั้นอารมณ์นี้เอาไว้“นี่...เจียหนิง ทำไมหนูทำแบบนี้ล่ะ?”จางกุ้ยหรานเห็นลูกชายของตัวเองโดนปฏิบัติแบบไม่เป็นธรรมจึงลุกขึ้นยืนสั่งสอนออกไปเธอหันไปมองจางเต๋อหลิน: “หมอเทวดาจางคะ ครอบครัวของเราแม้จะไม่มีชื่อเสียงอะไร แต่ท่านจะตามใจหลานสาวของท่านแบบนี้ไม่ได้นะคะ”“แม่คะ...”
“คุณหลินครับ วันนี้ผมเจอคุณหนูฮุ้ยหรานด้วยครับ”จางเต๋อหลินหัวเราะเหอะๆ : “ผมประหลาดมาตลอดเลยนะครับว่าคนที่ยอดเยี่ยมแบบนี้อย่างคุณหลิน คุณหนูฮุ้ยหรานถึงได้หย่ากับคุณล่ะ?”หลินเฟิงคิดไม่ถึงว่าเขาจะถามเรื่องนี้จางเจียหนิงที่อยู่ข้างๆ ก็เงี่ยหูตั้งใจฟังเหมือนกันหลังหลินเฟิงเงียบไปครู่หนึ่งก็พูดขึ้น: “เป้าหมายของตระกูลหลี่คือการเป็นตระกูลระดับแนวหน้าของเจียงโจว ผมในตอนนี้ให้ความช่วยเหลืออะไรตระกูลหลี่ไม่ได้เลย จะหย่ากับผมก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ”เรื่องเหล่านี้ไม่มีค่าอะไรให้ต้องปิดบังเอาไว้จางกุ้ยหลานได้เอาตัวเขาไปดูถูกไปทั่วแล้ว คนที่อยากรู้แค่ไปถามก็รู้แล้ว“นี่...”จางเต๋อหลินยังคงคิดว่าการหย่าร้างระหว่างหลินเฟิงและหลี่ฮุ้ยหรานต้องมีเรื่องอะไรในใจที่พูดยากคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเพราะตระกูลหลี่ดูถูกหลินเฟิง“ตระกูลหลี่นี่ช่างมีตาหามีแววไม่จริงๆ เลย...” จางเต๋อหลินถอนหายใจแล้วพูดจางเจียหนิงที่อยู่ข้างก็ยิ่งพยักหน้าไม่หยุด“จริงสิ คุณหลินครับ ในเมื่อคุณหย่าร้างกับคุณหนูหลี่แล้ว งั้นก็น่าจะคิดถึงความสุขในอนาคตไว้ด้วยนะครับ”จางเต๋อหลินลูบเคราเบาๆ และพูดขึ้น: “ผมน่ะ รู้จักผู้หญิง