ทั้งหมดนี้สามารถอธิบายได้เลยว่าทำไมเมื่อวานจางเต๋อหลินถึงโกรธมากขนาดนั้นคาดว่าเลี่ยวกั๋วต้งคงจะไม่ได้บอกว่าคนที่นัดบอดให้เป็นใคร “ถ้าถังหว่านรู้ว่าคนที่เลี่ยวกั๋วตงจะแนะนำให้เป็นนาย เธอคงจะเตะนายตายแน่”หลี่เหวินเชาชี้หน้าของหลินเฟิงและตะโกนด่าอย่างหยาบคาย “หุบปากของนายไปซะ” “ถังหว่านได้ตอบรับฉันเข้าทำงานแล้ว ฉันว่านายคงจะอิจฉาฉันล่ะสิ”หลินเฟิงส่ายหัวอย่างเอือมระอา “ถังหว่านยอมรับนายเข้าทำงาน นั่นก็เพราะว่านายเป็นลูกเขยของหมอเทวดาจาง แต่ตอนนี้นายยังเป็นอยู่ไหม?”เขาต้องชื่นชมเลยว่า เลี่ยวกั๋วต้งฉลาดมากในการปกปิดความจริงคนทั่วไปอาจจะถูกเขาหลอกเข้าได้จริง ๆ แต่ว่าน่าเสียดาย ที่จางเต๋อหลินมีจุดตัดกับหลี่ไห่ซาน ดังนั้นเขาย่อมรู้จักหลานชายของเขาเป็นอย่างดี “นาย......ฉันไม่ใช่แล้วมันจะทำไม? ฉันก็มีความสามารถไม่ใช่รึไง?” หลี่เหวินเชาตะคอกออกมาด้วยความโกรธหลินเฟิงเห็นว่าเขาหัวรั้นมากจึงขี้เกียจที่จะโน้มน้าวใจของเขาอีกต่อไปหันหลังกลับแล้วเดินไปทางบริษัทหลี่เหวินเชาไม่ลดละ รีบเดินตามเขาไปทันทีเมื่อมาถึงหน้าลิฟต์ หลี่เหวินเชาก็รีบก้าวแทรก เข้าไปในลิฟต์ก่อนทันทีขวางกัน
ทั้งสามคนเคยพบกันมาก่อนหน้านี้แล้วครั้งแรกที่โรงแรมเทียนอวี่ ที่หลี่เหวินเชาคิดว่าถังหว่านเป็นคู่นอนที่หลินเฟิงชวนมาด้วย คิดไม่ถึงว่าเรื่องราวกลับตาลปัตร หลินเฟิงกลับเป็นผู้ชายของถังหว่านแทน แต่ว่าทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้วในอดีตตอนนี้หลี่เหวินเชาต้องการจะหางานทำ ต่อให้เขาจะต้องเป็นผู้ชายของถังหว่าน เขาเองก็เต็มใจและยินดีเช่นกัน เมื่อถังหว่านเห็นว่าคนที่มาเป็นอดีตน้องภรรยาของหลินเฟิง เธอก็ความดันสูงขึ้นมาทันที เธอเข้าใจในทันทีว่าทำไมหลินเฟิงถึงบอกเธอว่าอย่าตั้งความหวังไว้สูง “คุณ......คุณคือคนที่เลี่ยวกั๋วต้งแนะนำมาอย่างงั้นเหรอ?”ภายในใจของเธอยังแอบจินตนาการไว้อยู่เล็ก ๆ โดยหวังว่าหลี่เหวินเชาจะไม่ใช่คนคนนั้นหลี่เหวินเชาพยักหน้าซ้ำ ๆ และได้ทำลายความฝันอันสวยหรูของถังหว่านไปอย่างไม่มีชิ้นดี “แฟนของคุณคือจางเจียหนิงใช่ไหม?”หลี่เหวินเชาส่ายหัว “ตอนนี้ยังไม่ใช่......” “ตอนนี้ยังไม่ใช่คุณหมายความว่ายังไง?” ถังหว่านขมวดคิ้ว “เมื่อวานผมไปนัดบอดกับจางเจียหนิงแล้ว แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้พูดกันจริงจัง”หลี่เหวินเชากล่าวเสริม “แต่คุณถังได้โปรดเชื่อผมเถอะ ผมยังมีค
หลี่เหวินเชาพยายามดิ้นขัดขืนและตะโกนออกมาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคนหลับกลอกตามองบน “หลี่ซื่อกรุ๊ปอะไรนั่น ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน” “รีบออกไปจากที่นี่ซะ ถ้าคุณยังกล้าก่อเรื่องวุ่นวายอีก อย่าหาว่าพวกเราไม่ปราณี” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกระตุกไม้ปราบจลาจลออกมา ชี้ไปที่หน้าของหลี่เหวินเชาและตวาดเสียงดัง “พวกแก......พวกแกคอยดูเถอะ” หลี่เหวินเชาเช็ดเลือดกำเดาที่ไหล และจากไปด้วยความโกรธเมื่อวานในเวลานี้เขายังจินตนาการอยู่เลยว่าตัวเองจะเดินไปถึงจุดสุดยอดของชีวิต ได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ดีพร้อมไปทั้งหน้าตาและชาติตระกูล คิดไม่ถึงเลยว่าเพียงแค่วันเดียว นัดบอดก็ล่ม งานก็ยังไม่ได้อีก ความขมขื่นนี้เขากลืนมันไม่ลงจริง ๆหลินเฟิงกลับมาที่ห้องทำงานถังหว่านที่ในตอนนี้กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเธอ เอามือคลึงขมับของเธอตรงจุดไท่หยางอย่างสิ้นหวังเมื่อเห็นสภาพของเธอ หลินเฟิงจึงชวนเธอคุยว่า “คุณไม่เห็นจำเป็นต้องโกรธขนาดนั้นก็ได้นี่?”ถังหว่านมือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น “จะไม่ให้ฉันโกรธได้ยังไง? เลี่ยวกั๋วต้งไอ้สารเลวนี่กล้าเล่นตลกกับฉัน” “ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนละกัน” หลินเฟิงปลอบใ
เมื่อฉินอิ๋งได้ยินดังนั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วพร้อมกับครุ่นคิด “เป้าหมายของอีกฝ่ายควรจะเป็นอาจารย์เหลียง แล้วทำไมถึงทำสิ่งที่ไม่มีเหตุผลแบบนี้?”ถังหยุนเหลยหันไปมองอาจารย์เหลียงที่เหมือนจะหมดลมหายใจไปแล้วยังไงยังงั้นแล้วพูดขึ้น “อืม...ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วพวกเราควรจะรีบแยกตัวออกจากวงล้อมนี้โดยเร็วที่สุด”แน่นอนว่าฉินอิ๋งเองก็คิดที่จะทำอย่างนั้นโดยเร็วที่สุด แต่ปัญหาตอนนี้ก็คือร่างของอาจารย์เหลียงถูกแทงหลายครั้ง และเพิ่งจะห้ามเลือดได้เมื่อกี้จำนวนคนฝั่งเราก็มีน้อยการที่จะพาคนที่บาดเจ็บอยู่นั้นฝ่าวงล้อมออกไปนั้นยากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย “ทำแบบนั้นไม่ไหว ร่างกายของอาจารย์เหลียงได้รับบาดเจ็บสาหัสและโอกาสที่พวกเราจะฝ่าวงล้อมออกไปได้นั้นน้อยเกินไป พวกเราควรรออยู่ที่นี่เพื่อรับความช่วยเหลือจะดีกว่า”ถังหยุนเหลยกลับไม่คิดแบบนั้น “ถ้าอย่างนั้นเอาอย่างนี้ละกัน พวกคุณเอาตำรับยาของอาจารย์เหลียงส่งมาให้ผมก่อน แล้วผมจะนำพวกคุณทุกคนฝ่าวงล้อมนี้ออกไปด้วยกำลังทั้งหมดของผม” “ตำรับยานี้มีความสำคัญอย่างมาก จะให้ตกไปอยู่ในมือของคนอื่นไม่ได้โดยเด็ดขาด”ฉินอิ๋งนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็รู้
เธอคิดอยู่นานมากแต่ก็นึกไม่ออกสักทีว่าในเจียงโจวใครกันที่จะมีอำนาจมากเช่นนี้ และสามารถเรียกนักฆ่าหลายร้อยคนให้มารวมกันได้ “แน่นอนว่า ลูกสาวแห่งจวนผู้ว่าราชการ ใครบ้างจะไม่รู้จัก?”ชายสวมหน้ากากพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยเล็กน้อย “น่าเสียดาย ที่ลูกสาวแห่งจวนผู้ว่าราชการผู้สูงส่ง เต็มใจที่จะเป็นแข้งเป็นขาให้กับถังหว่าน” “ทำไมคุณต้องลดตัวลงด้วยล่ะ?”ชายสวมหน้ากากเปลี่ยนหัวข้อบทสนทนา และพูดอย่างหลอกหล่อ “สู้คุณมาร่วมมือกับพวกเรา หลังจากที่กำจัดถังหว่านแล้ว คุณก็จะได้บริหารบริษัทเชิงถัง” “ถึงตอนนั้น อิทธิพลของคุณจะต้องเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน และจะได้มีสิทธิ์มีเสียงในจวนผู้ว่าราชการอีกด้วย”ถังหยุนเหลยที่อยู่ด้านข้างเองก็เสริมขึ้นเพื่อโน้มน้าวว่า “คุณหนูฉิน อาจารย์จินเล็งเห็นความสามารถของคุณมากนะ หากคุณร่วมมือกับพวกเรา คุณจะสูงส่งขึ้นอย่างพุ่งทะยานแน่นอน หรือไม่อย่างนั้นก็มีแต่จะต้องตายสถานเดียวเท่านั้น” “ถุ้ย”ฉินอิ๋งจ้องไปที่ถังหยุนเหลย ด้วยสีหน้าด่าทออย่างรังเกียจ “คุณคิดว่าทุกคนจะชอบเป็นคนทรยศเหมือนกับคุณอย่างงั้นเหรอ?” “คุณมันก็เป็นเพียงแค่ลูกนอกสมรสของหัวหน้าตระกูลถัง คุณหนูถ
ชายสวมหน้ากากลุกขึ้นยืน แววตาคู่นั้นของเขาจ้องมองไปยังหลินเฟิง“คุณหลิน คุณแข็งแรงมาก แต่ที่นี่ผมมีคนเป็นร้อย คุณคิดว่าจะมีชีวิตออกไปจากที่นี่ได้เหรอ?”“ไม่สู้มาเข้าร่วมกลุ่มแล้วรุ่งโรจน์ไปกับเราล่ะ”"แกคิดว่าแกเป็นใคร?"หลินเฟิงตอบอย่างดูถูก“คู่ควรแล้วเหรอที่จะมาพูดโน้มน้าวฉัน?”มุมปากของชายสวมหน้ากากกระตุกเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเขาจะเย่อหยิ่งได้ขนาดนี้“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ตายซะ”ชายที่สวมหน้ากากโบกมือออกคำสั่งนักฆ่าจำนวนนับไม่ถ้วน กำลังโจมตีที่เขาอย่างบ้าคลั่งหลินเฟิงไม่มีความกลัวเลยสักนิดเดียวเขาตะโกนด้วยความโกรธและวิ่งฝ่าเข้าไปในฝูงชนความโชคดีภายในของเขา ความเร็วนั้นเร็วถึงขั้นสุดต่อยออกไปหนึ่งหมัด ลมก็พัดแรงขึ้นทันทีพริบตาเดียวก็มีคนถูกซัดจนปลิวออกไปนักฆ่ากลุ่มนี้ไม่สามารถต้านทานทุกท่วงท่าของหลินเฟิงได้ชายสวมหน้ากากเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันทีร่างกายของหลินเฟิงดั่งมังกรน้ำ เคลื่อนไหวไปมาท่ามกลางผู้คนชายที่สวมหน้ากากตกใจ "จับผู้หญิงคนนั้นไว้"เขาถึงได้เข้าใจว่าจุดประสงค์ของหลินเฟิงคือการช่วยชีวิตของฉินหยิงคนที่จับฉินหยิง
หลินเฟิง ไม่ให้โอกาสเขาหายใจ รีบพุ่งไปข้างหน้าเขาอย่างรวดเร็ว"ตายซะ"ชายสวมหน้ากากได้ตะโกนออกไปเขาดึงปกเสื้อด้วยมือซ้าย เสื้อกันลมบนตัวของเขาก็โบกสะบัดทันทีเข็มเงินที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อก็ถูกเหวี่ยงออกไปทันทีมันซัดลงมาเหมือนฝนที่ตกกระหน่ำหลินเฟิงโบกมีดเหล็กในมือต้านไว้มืออีกข้างกั้นใบหน้าของตัวเองไว้เข็มเงินชิ้นใหญ่ถูกซัดออกไปทันทีแต่ยังมีเข็มเงินจำนวนหนึ่งติดอยู่ในร่างกายของเขาเมื่อชายสวมหน้ากากเห็นแบบนี้ ก็ยิ้มมุมปากอย่างได้ใจ "เจ้าหนู โดนเข็มเงินสามเล่มของฉันเข้า วันนี้แกได้ตายแน่นอน"“ไม่มีใครถอนพิษของฉันได้ ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ ก็ตัดแขนตัวเองแล้วคุกเข่าขอร้องฉันซะ”หลินเฟิงรู้สึกหนาวสั่นข้างในทันทีพิษนี้ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมากเป็นเงาเทียนซวงที่ถังหว่านตกลงไปครั้งนี้ต้องเป็นคนที่วางยาพิษถังหว่านแน่ๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ปล่อยให้เขาหนีไปได้ความโกรธของหลินเฟิงปะทุออกมาจากก้นบึ้งของใจ ฟันทุกอย่างขาดออกเป็นท่อนๆ ด้วยกำลังมีดที่มีชายสวมหน้ากากตกใจมาก คาดไม่ถึงว่าชายหนุ่มคนนี้ยังสามารถใช้พลังงานภายในของเขาได้เขาหลบโดยไม่ลังเลและตะโกนบอกถังหยุนเหล่
ในใจถังหยุนเหลยไม่มีแม้แต่ความกลัว "แล้วไงล่ะ ถึงยังไงในวันนี้คุณก็ต้องตายอยู่แล้ว"หลินเฟิงส่ายหัวอย่างเบื่อหน่ายแล้วพูดว่า "เจ้าหนู ฉันแนะนำว่าคุณอย่ายิง ไม่งั้นเจ้าบ้านตระกูลถังก็ไม่สามารถรับประกันช่วยชีวิตคุณไว้ได้"“และปืนของคุณทำร้ายฉันไม่ได้หรอก”"ฮ่าๆๆๆ......"ถังหยุนเหลยหัวเราะเสียงดัง "แกนี่มันหนังหนาจริงๆ?"ดวงตาของหลินเฟิงเต็มไปด้วยความมั่นใจ "ไม่งั้น คุณลองดูไหม?"ถังหยุนเหลยจ้องมอง และรู้สึกได้ว่าหลินเฟิงไม่กลัวปืนของเขาจริงๆทั้งสองฝ่ายเงียบไปชั่วขณะ มีเพียงเสียงลมที่พัดซ่าๆในป่าอันเงียบสงบเส้นประสาททั้งสองฝ่ายขาดผึง“ปัง” เสียงปืนดังขึ้นไฟพุ่งออกมาจากลำปืนของถังหยุนเหลยทันใดนั้น หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไป คว้ามันและหันหลังกลับอย่างสง่างามหยุดอยู่ที่เดิมมือขวากำหมัดแน่นแล้วค่อยๆยืดออก"คุณ......"ถังหยุนเหลย ตกใจดวงตาของเขาเบิกกว้างดวงตาคู่หนึ่งมองสำรวจยังร่างกายของหลินเฟิง บนร่างกายของเขาไม่มีบาดแผลเลยแม้แต่นิดเดียวชายหนุ่มคนนี้...ใช้มือเปล่าจับกระสุนได้จริงหรือ?นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?“ฉันบอกแล้วว่าคุณฆ่าฉันไม่ได้หรอก”ดวงตาของหลินเฟิงเต็มไป