“ไม่ได้นะ ท่าผู้นำ ไม่สามารถปล่อยอาว่านหลี่ไปกับพวกเขาได้!”“ใช่แล้วท่านผู้นำ อย่างมากพวกคุณกับพวกเขาจะต้องต่อสู้กันจนตายทั้งสองฝ่าย!”“ใช่ พวกเราไม่กลัวตาย!”เมื่อเห็นกลุ่มศิษย์น้องของตระกูลถังที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ทันใดนั้นใบหน้าของถังเจี้ยนหยวนก็เย็นชาขึ้นมาทันที“สู้กันจนตายทั้งสองฝ่าย? เหอะ พูดง่ายนักนะ!”“พวกแกเคยคิดหรือเปล่า หากต้องมีปัญหากับผู้ว่ารัฐมนตรีเมืองจิง แล้วตระกูลถังของพวกเราจะมีผลกระทบขนาดแค่ไหน?!”“ไม่ต้องพูดว่าพวกเรายากที่จะรับมือกับนักบู๊ไของกลุ่มพันธมิตรบู๊ได้ ราวกับผู้ว่าโกรธ แล้วระดมกำลังทหารไปทั่งทั้งเมืองจิงอย่างนั้นตระกูลถังของเราคงจะจบลงอย่างแท้จริงแล้ว!”“ถึงตอนนั้น...”ถังเจี้ยนหยวนมองไปรอบ ๆ ก่อนจะพูดอย่างเฉยเมยว่า :“พวกเราไม่เพียงแต่จะล้างความอัปยศไม่ได้แล้ว แต่ยังถูกฆ่าด้วยน้ำมือของคนอื่น!”“ศัตรูของพวกเรา คงจะกังวลที่พวกเราไม่หาเรื่องตายไปซะ”“เขาหวังว่าพวกเราจะปะทะกับกลุ่มพันธมิตร!”ถังเจี้ยนหยวนตะโกนประโยคนี้ออกมา ทันใดนั้นก็ทำให้คนตระกูลถังทุกคนที่อยู่โดยรอบตกใจกันทันที“แต่ว่า....ท่านผู้นำ แล้วพวกเราจะยอมรับความพ่ายแพ่งั้นเหรอ?”
ด้วยเหตุนี้ ทุกคนในตระกูลถังจึงทำได้เพียงเฝ้าดูถังว่านหลี่ถูกนักบู๊กลุ่มพันธมิตรสองคนลากออกไปอย่างรุนแรงโดยช่วยอะไรไม่ได้“พ่อเอ๊ย!”หลินเสวี่ยเยี่ยนอยากจะไล่ตามไป แต่กลับถูถังเจี้ยนหยวนขวางเอาไว้“น้องสะใภ้ ฉันรู้ว่าคุรไม่สบายใจ แต่.....อย่าเศร้าไปเลย พวกเราจะต้องหาหลักฐานให้เจอโดยเร็วที่สุด....” เมื่อถังเจี้ยนหยวนพูดออกมาแบบนี้ สีหน้าของตัวเขาเองก็ดูทำอะไรไม่ถูกอย่างยิ่ง และไม่มีสิทธิ์เกลี้ยกล่อมอะไรได้“หยิงหลิง!”หลินเฟิงไล่ตามออกไป โดยที่ทุกคนในตระกูลถังต่างก็ไม่ทันสังเกตการตะโกนของหลินเฟิงทำให้หยินหลิงตกตะลึงไปชั่วครู่ เธอชะงักเล้กน้อย ก่อนที่รอยยิ้มแข็ง ๆจะปรากฏบนใบหน้าก่อนจะค่อย ๆหันหลังกลับไปถ้าเป็นไปได้ หยินหลิงก็ไม่อยากเจอหลินเฟิงในสถานการณ์แบบนี้สิ่งนี้จะทำให้เธอดูเหมือนเป็นคนเลือดเย็นอย่างไม่ต้องสงสัยหลังจากแยกทางกันมานาน เธอก็ไม่อยากทิ้งความรู้สึกไม่ดีแบบนี้ไว้ในใจของหลินเฟิง“พี่....หลินเฟิง มีอะไรหรือเปล่า?”“เขา”หลินเฟิงยื่นนิ้วไปชี้ถังว่านหลี่ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีนักว่า :“อาถังว่านหลี่ เขาถูกใส่ร้ายจริง ๆ”“เขาถูกวางยาพิษปรสารท ไม่
ถึงแม้พวกเขาไม่รู้ว่าหลินเฟิงกับหยินหลิงคุยอะไรกันแต่ประโยคสุดท้าย พวกเขาได้ยินแล้วนั่นก็คือหยินหลิงคิดที่จะรับข้อเสนอของหลินเฟิง ปกป้องถังว่านหลี่แทนเขาเป็นเวลาสองวันอย่ามองเวลาแค่สองวัน นี่เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ต้องรู้ไว้ว่า ผู้ว่ารัฐมนตรีประจำเมืองจิงมีพลังอำนาจมากแค่ไหนกัน?ลูกสาวของเขาถูกลวนลามต่อหน้าสาธารณะ ความแค้นแบบนี้ จะยอมให้ยืดเวลาออกไปสองวันแล้วค่อยแก้แค้นได้อย่างไร?ไม่แน่ พวกเขาเพิ่งจะพาตัวถังว่านหลี่ไป จากนั้นถังว่านหลี่ก็ถูกฆ่าตายในทันทีส่วนหยินหลิงที่เป็นเจ้าแห่งพันธมิตรบู๊คนนี้ ดูภายนอกยิ่งใหญ่แต่มากสุด ก็แค่รปภ. ระดับสูงก็เท่านั้นเองเพียงแค่ว่าสิ่งที่เธอรักษาความปลอดภัย ก็คือเมืองเจิง หัวใจของทั้งประเทศมังกรผิดใจกับผู้ว่ารัฐมนตรีประจำเมืองจิง เธอก็จะเดือดร้อนเช่นกันดังนั้นได้ยินหยินหลิงรับปากหลินเฟิง นักบู๊ของกลุ่มพันธมิตรบู๊และเหล่าผู้อาวุโสพากันสีหน้าเปลี่ยนไป รีบเข้ามาห้ามปรามไว้“ผู้นำ ไม่ได้นะ!”“จริงด้วยผู้นำ ถ้าหากคุณทำแบบนี้ ก็เท่ากับล่วงเกินผู้ว่ารัฐมนตรีประจำเมืองจิง นี่...นี่จะส่งผลเสียต่ออนาคตของคุณนะ!”ผลลัพธ์ของการที่เธอป
ขณะพูดเขาก็มองไปทางผู้ชายที่หน้าตาคมเข้มคนหนึ่งที่ตรงด้านหลัง“ถังจวิน นายเรียกรวมตัวหน่วยลับอย่างเร่งด่วน ตามหลินเฟิงไป”“แบบนี้ต่อให้เกิดอะไรขึ้นก็สามารถดูแลกันได้”หลินเฟิงเดิมทีอยากจะปฏิบัติการตามลำพังคนเดียว แต่เป็นเพราะเขาไม่คุ้นถนนเสรีที่ว่านั่น ดังนั้นก็ทำได้เพียงยอมรับข้อเสนอของถังเจี้ยนหยวนไม่นานนัก หน่วยลับของตระกูลถังก็รวมตัวกันพร้อม และออกเดินทางตระกูลถังระยะห่างจากถนนเสรีไม่ได้ใกล้นักเมื่อไปถึงถนนเสรี ท้องฟ้าก็มืดค่ำแล้วตอนนี้ถนนเสรีที่ว่านั้นคึกคักเป็นอย่างมาก ชายหญิงที่เดินผ่านไปมาไม่ได้หลบเลี่ยง ถึงขั้นที่สามารถทำเรื่องน่าอับอายตรงที่ตรอกซอกซอยข้างถนนได้รอบด้านมีเสียงตะโกนเรียกลูกค้า อีกทั้งเสียงดื่มเหล้าสังสรรค์ และเสียงสบถด่าที่หยาบคาย หลินเฟิงเดินเข้าไปในถนนเสรี กลับดูโดดเด่นเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเข้าถนนเสรี ก็ได้บอกกับพวกถังจวินเอาไว้แล้วว่าให้แยกกันปฏิบัติการ“หนุ่มหล่อ มาเที่ยวเล่นไหม?”ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่แต่งตัวสวยหยาดเยิ้มยืนอยู่ที่ตรงถนนอย่างสง่าผ่าเผย นิ้วมือคีบบุหรี่ และส่งสายตาแพรวพราวให้หลินเฟิง“มาสิสุดหล่อ สาวๆ ของเราที่นี่เหมาะสมที่สุดแ
แต่ก็มีเรื่องหนึ่งที่หลินเฟิงต้องยอมรับถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ได้เผยใบหน้าออกมา แต่เมื่อดูรูปร่างแล้ว ก็เป็นสาวสวยที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าหลี่ฮุ่ยหรานและถังหว่านเลยขาเรียวยาวที่เหมือนกับหิมะที่อยู่ใต้โต๊ะ และหน้าท้องที่เปลือยเปล่าและราบเรียบ ราวกับงูน้ำ เพียงแค่ท่าทางเดินของเธอ ก็ยิ่งทำให้จิตใจของผู้คนลุกเป็นไฟได้ผู้ชายทั่วไปคงจะไม่สามารถทนกับการรุกเข้าหาของผู้หญิงแบบนี้ได้เกรงว่านับจากนี้ไป คงจะตกหลุมพรางของเธอเข้าซะแล้วน่าเสียดาย ถึงแม้ว่าหลินเฟิงจะชอบเธอก็ตาม แต่ก็ไม่ได้รังเกียจที่จะมองดูบ่อย ๆแต่ตอนนี้สถานการณ์ฉุกเฉิน เขาเสียเวลาไม่ได้ความปลอดภัยในตอนนี้ของถังหว่านยังไม่แน่นอน“นี่ ฉันรู้ว่าคุณมีคำถามมากมายที่จะถาม แต่ก่อนที่จะถาม คุณจำเป็นต้องดื่มเหล้าแก้งนี้ก่อน ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่มตอบคำถามอะไรคุณทั้งนั้น”ผู้หญิงผลักเหล้าแก้วนี้ไปด้านหน้าของหลินเฟิง ในแววตาแสดงถึงความปรารถนาที่อันตรายออกมา“เร็วสิ ดื่มมันเข้าไป”เสียงของผู้หญิงคล้ายกับมีพลังทำให้คนหลงใหล หลินเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปทางเหล้าแก้วนั้น“ฮึ”เพียงแค่ไม่แน่ใจ หลินเฟิงก็กลับมามีสติอีกครั้ง
“เทพธิดาฉู่ เราพูดคุยก็ต้องระวังกันสักหน่อย”ชายนักบู๊ที่เป็นผู้นำ พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า :“คุณหนูหลงเซียวเป็นผู้สืบทอดสายตรงของตระกูลหลง หากได้ยินไปถึงหูของเธอเข้า เกรงว่ามันจะไม่เอื่อผลต่อคุณนะ”“ฮา....”ใครจะรู้ว่าเทพธิดาฉู่นั้นไม่สนใจเลย แถมยังโบกมือพร้อมกับพูดอย่างเกียจคร้านว่า :“เอาล่ะ วันนี้ฉันอารมณ์ดีมาก เลยไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับความไร้มารยาทของพวกคุณ เพียงแต่ว่า ฉันชอบผู้ชายตรงหน้าคนนี้ของฉันมา ในถนนเสรี ไม่อนุญาตให้ใครแตะต้องเขาได้ทั้งนั้น”“พวกคุณออกไปเถอะ”“หืม?”เห็นได้ชัดกว่านักบู๊เหล่านี้ลังเลกันเล็กน้อยดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้เกรงกลัวเทพธิดาฉู่กันมากนัก ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่มองหน้ามองตากันและตัดสินใจที่จะลงมือกันไปแล้ว“เหอะ!”นักบู๊คนหนึ่งเดินออกมา เขาคือยอดฝีมือระดับเซียนเทียนขั้นสูงสุดนักบู๊คนนี้ชี้ไปทางเทพธิดาฉู่ ก่อนะพูดอย่างเย็นชาว่า :“ผู้หญิงประเทศเวน่าอย่างคุณ อย่าได้โลภเกินไปนัก วันนี้เราจำเป็นต้องจับหลินเฟิงไป ใครก็ไม่สามารถขวางตระกูลหลงของเราได้!”“ใช่แล้ว เทพธิดาฉู่ ถ้าหากคุณยังอยากจะให้ถนนเสรีแห่งนี้ของคุณอยู่ต่อไป ก็หลีกทางไปดี ๆและ
“ที่อยู่ที่นี่ คุณไปหาด้วยตัวเองเถอะ จะเจอหรือเปล่า ทั้หมดก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง”ผู้หญิงค่อย ๆดันข้อความไปที่ด้านหน้าของหลินเฟิงแถมบนข้อความอักษรนี้ก็ติดกลิ่นที่หอมเป็นพิเศษมาจากร่างกายของตัวเธออีกด้วย“เพราะอะไรถึงช่วยผม?”หลินเฟิงไม่เชื่อเรื่องไร้สาระที่เธอสนใจตัวเองสายตาที่ยังคงเย็นชา“เฮ้อ ทำไมคุณถึงไม่เชื่อล่ะ? ฉันชอบคุณจริง ๆและชอบมาตั้งนานแล้วด้วย”ผู้หญิงยิ้มหวาน พร้อมกับพูดว่า :“แน่นอนว่า หลังจากนี้ฉันอาจจะมีเรื่องที่จะถามคุณ....อ่อไม่สิ คุณหลินเฟิง คุณสามารถคิดว่าเรื่องในวันนี้ ถือว่าเป็นการลงทุนที่ฉันมีต่อคุณ”“ถือว่าคุณติดหนี้น้ำใจของฉัน”“คุณจะแน่ใจได้ยังไงว่าผมจะตอบแทนน้ำใจของคุณ?”หลังจากที่เงียบไปเล็กน้อย หลินเฟิงก็ตอบกลับอย่างเฉยเมย“ฮาฮา พี่สุดหล่อ ไม่ใช่คนที่ไม่รักษาคำพูด ข้อนี้ ฉันรู้ดีกว่าใคร ๆ”“ฮา ในเมื่อเป็นอย่างนี้...”หลินเฟิงก็คว้าเหล้าแก้วนั้นที่อยู่บนโต๊ะ ก่อนจะดื่มทั้งหมดทีเดียว“งั้นน้ำใจในวันนี้ ผมหลินเฟิงติดหนี้คุณเอาไว้ ค่อยใช้คืนวันอื่น!”เมื่อพูดจบ หลินเฟิงก็โบกมือแล้วจากไป“ฮาฮา....”เทพธิดาฉู่มองร่างหลินเฟิงที่จากไป ก่อนจะยิ้ม
“ถ้าหากพวกคุณมีแผนการที่ดีกว่าก็เอาออกมา ไม่อย่างนั้น ก็หุบปากแล้วทำตามอย่างว่าง่ายซะ!”เห็นหลินเฟิงมีท่าทางแบบนี้ พวกหน่วยลับก็ส่งเสียงไม่พอใจออกมาทันที แต่ถังจวินตอนนี้ความกดดันล้นหลาม เขาจ้องมองหลินเฟิงและพูดว่า:“ฉันคิดว่าคุณหลินพูดได้มีเหตุผลอยู่บ้าง พวกเราคนเยอะ แยกออกจากกัน เหมาะสมที่จะหาเบาะแสที่สุดแล้ว”“พี่จวิน แต่ว่า...”“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น”ถังจวินตำหนิลูกน้อง จากนั้นเลิกคิ้ว พูดอย่างเรียบเฉย:“อีกทั้งที่อยู่ในมือของพวกเราระยะทางไมได้ไกลจากพวกเรามากนัก พวกเราหาเบาะแสให้พบเร็วหน่อย ก็สามารถถือโอกาสกลับมาหนุนกำลังหลินเฟิงได้เร็วขึ้น”“ถูกต้องไหม?”ถังจวินมองไปทางหลินเฟิงด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ถูกต้อง”หลินเฟิงพยักหน้า“ได้ งั้นลงมือปฏิบัติการ!”ถังจวินโบกมือ หน่วยลับของตระกูลถังก็เริ่มปฏิบัติการในทันที มุ่งหน้าไปยังที่อยู่ที่หลินเฟิงให้ไว้ส่วนหลินเฟิงก็ตามไปที่เทียนจวิ้นเอ็นเตอร์เทนเมนท์จำกัดด้วยความร้อนใจ......ในขณะเดียวกันนั้น ณ เทียนจวิ้นเอ็นเตอร์เทนเมนท์จำกัดถังหว่านได้เดินทางมาถึงที่นี่แล้วเธอถูกผู้หญิงที่ชื่อเทพธิดาฉู่บอกต่อว่า หากเธอต้องการช่วยพ่อขอ
“หลินเฟิง ฉันไม่อยากถามว่าลูกชายของฉันทำผิด หรือว่าเป็นความผิดของนาย”“ในเมื่อฉันเป็นพ่อของเจียงปิน จะตีสุนัขก็ยังต้องดูเจ้าของ ผมจะมองดูลูกชายของตัวเองถูกคนทำให้พิการไม่ได้ แถมยังประนีประนอมกับคนร้าย”“ในเมื่อฉันสู้นายไม่ไหว งั้นก็มีคนที่สู้กับนายได้!”เจียงจี้ถงส่งเสียงไม่พอใจและพูดอย่างเรียบเฉยว่า:“ฉันจะนำเรื่องนี้ไปบอกคุณเผิงกวงฉี่!”“ด้วยมิตรภาพอันยาวนานของฉันกับคุณเผิง หลินเฟิง นายไม่สู้ถือโอกาสทำลายท่อนล่างของตัวเองอย่างว่าง่าย จากนั้นก็กลับบ้านกับฉั คุกเข่าขอโทษลูกชายของฉัน!”“ไม่แน่นายอาจจะยังรักษาชีวิตต่ำๆ ของนายเอาไว้ได้”“ไม่อย่างนั้น…หึ”“ถูกต้อง เพียงแค่คุณเผิงกวงฉี่ลงมือ หลินเฟิง นายก็รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด”ถังฮั่วก็ยิ้มเยาะพูดขึ้นมาดูท่าถังฮั่วคนนี้ เห็นได้ชัดว่าอยากใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของเจียงจี้ถง เกาะติดเผิงกวงฉี่ถ้าหากเผิงกวงฉี่ลงมือจัดการหลินเฟิง งั้นหลินเฟิงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยมีแต่ถังฮั่วที่เป็นแบบนี้ด้วยเส้นสายและความมั่งคั่งของเผิงกวงฉี่ จะฆ่าหลินเฟิงให้ตาย นั่นเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไม่ใช่เหรอ?ถึงเวลาเขาไม่ต้องลงมือ ก็สามารถเอาชีวิตของห
ในทางกลับกัน เขากลับถูกหลินเฟิงกดไว้กับเก้าอี้ไว้อย่างแรงการกดครั้งนี้ทำให้กระดูกทั่วทั้งตัวผู้อำนายการเจียงส่งเสียงดังกรอบแกรบออกมาทันที ราวกับว่าไม่สามารถรับน้ำหนักได้“อึก...”ผู้อำนวยการเจียงในเวลานี้ก็เหมือนกับภูเขาไฟที่ใกล้จะระเบิด แต่กลับถูกใครบางคนกดลงอย่างแรง จนใบหน้าแดงก่ำแล้วเลือกก็แทบจะพุ่งออกมาจากรูขุมขนในทันที“ผู้อำนวยการเจียง ไม่ต้องรีบร้อน รอให้ผมอธิบายให้คุณฟังว่าลูกชายของคุณนั้นทำอะไรลงไป มันก็ยังไม่สายเกินไปที่คุณจะโกรธ”หลินเฟิงยิ้มพร้อมกับตบที่ไหล่ของเขาเจียงจี้ถงในเวลานี้ถึงกับพูดอะไรไม่ออกอีกเลย เขาจ้องมองหลินเฟิงอย่างเอาเป็นเอาตาย และอยากจะรู้ว่าหลินเฟิงยังจะพูดอะไรออกมาอีก“ลูกชายของคุณนะ เป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่งเลยนะ”หลินเฟิงทำเสียงจุ๊จุ๊ จากนั้นก็เล่าเรื่องราวอันรุ่งโรจน์ ของเจียงปินที่มหาวิทยาลัยเจียงโจว ให้พ่อของเขาได้ฟังอีกครั้งก่อนที่จะได้พบกับน้องสาวของหลินเฟิงจากนั้นก็ใส่ร้ายหลินเฟิงต่อหน้าบรรดาบัณฑิต และคุยโวว่าคนใหญ่คนโตทั้งหมดเป็นเขาที่เรียกมาจากนั้นก็ถูกจางเต๋อหลินตบต่อหน้าทุกคนสุดท้ายก็โกรธมากจนกลับไปพาผู้คนมาใช้ความรุนแรงกั
หลินเฟิงแตะคางพร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นในขณะที่กำลังทวนความจำ“หรือว่าจะเป็นแพทย์วัยกลางคนที่เคยคุยกับถังฮั่วก่อนหน้านี้หรือเปล่า?”หลินเฟิงยังไม่ทันจะคิดได้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็รีบอธิบายให้หลินเฟิงฟังว่าผู้อำนวยการเจียงมีลักษณะอย่างไรชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าเหลี่ยมและสวมใส่สูทลายทางสีดำ.....หลินเฟิงตกตะลึงไปเล็กน้อย นี่ไม่ใช่แพทย์วัยกลางคนที่ตัวเองมองแล้วรู้สึกคุ้นเคยหรอกเหรอ?เพียงแต่....“เพราะอะไรเขาถึงต้องการขัดการฉัน? ฉันไปทำให้เขาโกรธงั้นเหรอ?”หลินเฟิงยังคงเอ่ยถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่อไปเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยังคงตอบอย่างตรงไปตรงมาเช่นกันเพื่อที่จะมีชีวิต เขาจึงบอกความจริงทุกอย่างให้หลินเฟิงได้ฟัง“หลังจากที่คุณชายถังฮั่วอธิบายก็รู้ว่าคุณก็คือหลินเฟิง คุณทำให้ลูกชายของผู้อำนวยการเจียงต้องสูญเสียร่างกายส่วนล่างไป เพราะอย่างนั้นผู้อำนวยการเจียงจึงอยากจะให้พวกเราแก้แค้นคุณ....”“พวกคุณไม่ใช่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเผิงกวงฉี่ใช่ไหม? ทำไมต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขาด้วยล่ะ?”หลินเฟิงเอ่ยถามด้วยความอยากรู้“ใช่...พวกเราเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอด
ไม่มีอะไรที่จารึกอยู่ในความทรงจำได้ดียิ่งกว่าเป็นแผลเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีจิตใจชั่วร้าย แต่หลินเฟิงก็ไม่ได้หลบเลี่ยง ก่อนจะจ้องมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับเซียนเทียนด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ในขณะที่ตัวเองกำลังจะถูกต่อยเข้าที่ใบหน้าถึงขั้นที่หลินเฟิงไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ในการป้องกันก็ตาม“แกร่ก!”เมื่อได้ยินเสียงแตก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับเซียนเทียนก็แสดงความภาคภูมิใจออกมาทันที ดูเหมือนว่ากระดูกจมูกของหลินเฟิงจะถูกหักน้ำมือของเขาเข้าซะแล้วแต่ไม่นาน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เพราะว่าเขารับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดแปล๊บ ๆขึ้นมาตรงบริเวณกระดูกนิ้วของตัวเองเมื่อรอให้เขาจ้องมองดู ก็พบว่าสิ่งที่หักนั้นไม่ใช่กระดูกจมูกของหลินเฟิง แต่กลับเป็นนิ้วทั้งสี่ของตัวเอง“อ้าก_____!”สิบนิ้วเชื่อมต่อกับหัวใจ และความเจ็บปวดที่พามานั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถรับได้ไหวยิ่งกว่านั้น การชกไปเต็มกำลังของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ได้ทำให้กระดูกนิ้วของตัวเองหักทั้งหมดในทันทีแรงสะเทือนสะท้อนกลับ ทำให้ข้อมือและแขนของเขาทั้งหมดกลายเป็นโคลนที่ไม่มีกระดูกมารองรับเจ้าห
“คุณชายถัง ฉันจะกล้าหลอกคุณได้ยังไง?”“ไอ้หมอนั่นพูดเรื่องไร้สาระ เพื่อที่จะทำให้คุณเสียสมาธิ คุณอย่าติดกับเขาล่ะ!”ได้ยินผู้หญิงคนนี้พูดมีเหตุผล แต่การแสดงออกของร่างกายก็เหมือนกับที่หลินเฟิงกล่าวไว้ ถังฮั่วระมัดระวังมากขึ้นจากั้นออกไปอย่างรวดเร็ว เขาแอบหาแพทย์แผนจีนวัยกลางคนหน้าเหลี่ยมที่อยู่มาท่ามกลางกลุ่มคนอย่างลับๆ และถามเสียงเบาว่า:“ผู้อำนวยการเจียง คุณดูร่างกายของผม มีความผิดปกติจริงๆ ใช่ไหม?”หมอหน้าเหลี่ยมคนนี้ ก็คือผู้อำนวยการเจียงและโรงพยาบาลเมืองเจิ้งเต๋อที่เขาทำงานอยู่ และก็เป็นหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่เมืองเจิ้งเต๋อเขาสามารถมาร่วมงานประมูลในวันนี้ได้ก็เป็นเพราะโรงพยาบาลที่เขาสังกัดอยู่ เป็นหนึ่งในธุรกิจของเผิงกวงฉี่พูดได้ว่า ทั่วทั้งหัวตง เขาเป็นผู้ที่มีสถานะต่ำที่สุดในกลุ่มคนเหล่านี้ เป็นเพียงแค่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเขามาร่วมงานได้ เป็นเพียงเพราะเผิงกวงฉี่บังเอิญเลือกเมืองเจิ้งเต๋อเป็นสถานที่จัดงานไม่อย่างนั้นเขาไม่มีสิทธิเข้าร่วมหรอกแต่ในเมืองเจิ้งเต๋อ ผู้อำนวยการเจียงก็ยังมีอำนาจอยู่บ้างเห็นคุณชายตระกูลถังขยับเข้ามาใกล้ ผู้อำนวยการเจียงรีบยิ้มให้ และยื
“อะไรนะ?!”ได้ยินคำพูดนี้ ถังฮั่วมองไปทางคู่ควงที่อยู่ข้างๆ ด้วยความตะลึงงันผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขาเพิ่งพบในไนท์คลับแห่งหนึ่ง จากที่เธอบอก ครอบครัวของเธอทุกข์ยากอย่างมาก พ่อติดการพนัน แม่หนีออกจากบ้าน ยังมีน้องชายสองคนที่เรียนหนังสือไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปทำงานในไนท์คลับแต่ถังฮั่วไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่ผู้หญิงคนนี้หน้าตาสวย จึงก็เล่นสนุกสักวันสองวันแต่คิดไ่ม่ถึงว่าหลินเฟิงจะพูดว่าผู้หญิงคนนี้มีโรคจึงทำให้ถังฮั่วตกตะลึงทันที สีหน้าก็เปลี่ยนไปไม่เป็นธรรมชาติ“นายพูดซี้ซั้วอะไร?! คุณต่างหากที่เป็นโรค ป่วยกันทั้งครอบครัว!”ถูกหลินเฟิงพูดแทงใจดำ ผู้หญิงคนนี้ก็กระวนกระวายแล้วหลังจากที่กระวนกระวาย ปฏิกิริยาตอบสนองแรกของเธอคือหันมาด่าทอหลินเฟิงคำพูดของหลินเฟิง ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นมุ่งความสนใจไปที่ผู้หญิงและถังฮั่วได้สำเร็จ“หึหึ มีโรคหรือไม่ ผมดูแค่แวบแรกก็รู้แล้ว ในเมื่ออาการป่วยของเผิงกวงฉี่เป็นผมที่รักษาหาย พวกคุณไม่จำเป็นต้องสงสัยวิชาแพทย์ของผม”หลินเฟิงหัวเราะเยาะได้ยินแบบนี้ ทั้งงานเสียงดังเกรียวกราวไปหมด“อะไรนะ? คุณรักษาอาการป่วยของเผิงกวงฉี่?!”“เดี๋ยวนะ
“หึ ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน”ถังฮั่วไม่ยอมเสียโอกาสที่จะซ้ำเติมอยู่แล้ว เขาหัวเราะเยาะและพูดว่า:“ไอ้หมอนี่ถือว่าตัวเองเป็นผู้ชายของถังหว่าน แมงดาแบบนี้ คู่ควรที่จะเข้าร่วมงานประมูลการกุศลระดับสูงแบบนี้ด้วยเหรอ?”“หลินเฟิง ถ้าผมเป็นคุณ ผมคงกุมหน้าหนีไปแล้ว แทนที่จะไร้ยางอายอยู่ตรงนี้”“ทำให้ตระกูลถังของฉันอับอายจริงๆ”ได้ยินความคิดเห็นของถังฮั่ว แขกที่อยู่ในเหตุการณ์พากันมองไปทางหลินเฟิงโดยเฉพาะตอนที่พบว่าชุดสูทบนตัวของเขาเป็นแค่ “ของราคาถูก” ที่ราคาไม่กี่พันบาท ก็ส่งเสียงัวเราะเยาะออกมาหลายรูปแบบ“ไม่ใช่หรอกมั้ง มีคนกล้าแอบอ้างชื่อของตระกูลถังจริงๆ เหรอ?”“คุณไม่ได้ยินคุณชายถังฮั่วพูดเหรอ? เป็นผู้ชายที่เกาะถังหว่านตระกูลถัง”“จุ๊จุ๊จุ๊ไม่น่าแปลกใจเลย”เมื่อเผชิญกับการซุบซิบนินทารอบตัว จีอวิ๋นเจี๋ยสีหน้าดุดัน เดินเข้าไปขวางอยู่ข้างหน้าหลินเฟิงแล้วพูดว่า:“คุณชายหลินท่านนี้คือเพื่อนของฉันจี้อวิ๋นเจี๋ย ใครกล้ามีปัญหากับคณชายหลิน งั้นก็เท่ากับมีปัญหากับฉันจีอวิ๋นเจี๋ย!”ได้ยินคำพูดนี้ เสียงหัวเราะเยาะที่อยู่รอบๆ ก็ลดลงเล็กน้อยแต่เสียงอื่นๆก็ค่อยๆ ดังขึ้นมา“ไม่ใช่หรอกมั้ง ออก
กวงเผิงฉี่ไม่เสียแรงที่เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตงวงการที่เขาว่า เป็นวงการที่คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้บุคคลใหญ่โตที่มาเข้าร่วงงานประมูลการกุศล มีทั้งในแวดวงการเมือง ธุรกิจ และการทหาร มีทั้งคนรวยและขุนนางราชการ อำนาจล้นฟ้าถึงขั้นที่หลินเฟิงยังได้พบกับตัวแทนของตระกูลซือหม่า ตระกูลหลง และตระกูลจี คนเหล่านี้กำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องโถง บรรยากาศดูกลมกลืนมาก เสียงหัวเราะดังขึ้นไม่หยุดหลินเฟิงเห็นคนเยอะขนาดนี้ ก็ไม่ได้คิดจะเข้าร่วม เขาอยากจะหาที่นั่งลงเพื่อรอเผิงกวงฉี่ปรากฏตัวออกมากลับคิดไม่ถึงว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก้าวเข้ามาขวางหลินเฟิง“สวัสดีครับ คุณผู้ชายท่านนี้ เชิญแสดงบัตรเชิญของคุณด้วย”“บัตรเชิญ?”หลินเฟิงนิ่งอึ้งเล็กน้อยเขาถึงนึกขึ้นได้ว่า เมื่อครู่เขาออกมาด้วยความรีบร้อน มัวแต่สนใจถังหว่านที่เร่งรัด จนลืมบัตรเชิญที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำยังไงดีล่ะ?ถ้ากลับไปเอาตอนนี้ จะไม่ทันเวลาแล้วหลินเฟิงเงียบขรึมครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้ามองไปทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและยิ้มพูดว่า:“ผมมีบัตรเชิญ แต่ผมรีบออกมา กลับลืมพามาด้วย ไม่ทราบว่าให้ความสะดวกหน่อยได้ไ
“เป็นยังไงบ้าง? แผลคุณหายแล้วยัง?”“หายก็หายแล้วนั่นแหละ แต่ยังมีรอยแผลเป็นนิดหน่อย”ถังหว่านส่งเสียงไม่พอใจเล็กน้อย“ฉันไม่อยากให้หลี่ฮุ่ยหรานเห็นหรอกนะ ยังไงซะ ถ้าคิดถึงฉัน ก็ทำตัวดีๆ รออีกสักหน่อย”“อืม”หลินเฟิงวางสายโทรศัพท์และคิดอยู่ครู่หนึ่งเดิมทีเขาอยากไปกับหลี่ฮุ่ยหราน แต่เมื่อคิดว่าหลี่ฮุ่ยหรานงานยุ่งขนาดนี้ เขาอย่าไปเพิ่มความวุ่นวายให้เธอเลย“จ้าวเทียนหัว เตรียมรถให้ฉันคันหนึ่ง”หลินเฟิงโทรศัพท์ไปหาจ้าวเทียนหัว เมื่อจ้าวเทียนหัวได้ยิน กลับลำบากใจเป็นครั้งแรก“คุณชายหลิน ผมไม่มีสาขาย่อยที่เมืองเจิ้งเต๋อ ถ้าจะจัดเตรียมรถ เกรงว่าคงหารถที่เหมาะสมกับสถานะของคุณไม่ได้ชั่วคราว…”ได้ยินคำพูดนี้ หลินเฟิงส่ายหน้ายิ้มพูดว่า:“แค่ยานพาหนะเอง ไม่ต้องเอารถที่ดีอะไร นายรีบเตรียมให้หน่อยก็พอแล้ว”“ก็ได้รับ”จ้าวเทียนหัวขานรับ จากนั้นผ่านไปไม่นาน รถยนต์ออดี้ คันหนึ่งจอดอยู่ใต้ตึกของหลี่ซื่อกรุ๊ปหลินเฟิงก็ไม่ได้เลือกอะไรเพียงแต่หลังจากที่เขานำของขวัญที่ถังหว่านเตรียมเอาไว้ออกไปก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงนำหยกจิ้งจอกมีตำหนิที่ได้รับจากต่งเทียนไป๋ติดตัวไปด้วยถึงแม้หยกจิ้งจอกจะม