“เทพธิดาฉู่ เราพูดคุยก็ต้องระวังกันสักหน่อย”ชายนักบู๊ที่เป็นผู้นำ พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า :“คุณหนูหลงเซียวเป็นผู้สืบทอดสายตรงของตระกูลหลง หากได้ยินไปถึงหูของเธอเข้า เกรงว่ามันจะไม่เอื่อผลต่อคุณนะ”“ฮา....”ใครจะรู้ว่าเทพธิดาฉู่นั้นไม่สนใจเลย แถมยังโบกมือพร้อมกับพูดอย่างเกียจคร้านว่า :“เอาล่ะ วันนี้ฉันอารมณ์ดีมาก เลยไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับความไร้มารยาทของพวกคุณ เพียงแต่ว่า ฉันชอบผู้ชายตรงหน้าคนนี้ของฉันมา ในถนนเสรี ไม่อนุญาตให้ใครแตะต้องเขาได้ทั้งนั้น”“พวกคุณออกไปเถอะ”“หืม?”เห็นได้ชัดกว่านักบู๊เหล่านี้ลังเลกันเล็กน้อยดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้เกรงกลัวเทพธิดาฉู่กันมากนัก ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่มองหน้ามองตากันและตัดสินใจที่จะลงมือกันไปแล้ว“เหอะ!”นักบู๊คนหนึ่งเดินออกมา เขาคือยอดฝีมือระดับเซียนเทียนขั้นสูงสุดนักบู๊คนนี้ชี้ไปทางเทพธิดาฉู่ ก่อนะพูดอย่างเย็นชาว่า :“ผู้หญิงประเทศเวน่าอย่างคุณ อย่าได้โลภเกินไปนัก วันนี้เราจำเป็นต้องจับหลินเฟิงไป ใครก็ไม่สามารถขวางตระกูลหลงของเราได้!”“ใช่แล้ว เทพธิดาฉู่ ถ้าหากคุณยังอยากจะให้ถนนเสรีแห่งนี้ของคุณอยู่ต่อไป ก็หลีกทางไปดี ๆและ
“ที่อยู่ที่นี่ คุณไปหาด้วยตัวเองเถอะ จะเจอหรือเปล่า ทั้หมดก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง”ผู้หญิงค่อย ๆดันข้อความไปที่ด้านหน้าของหลินเฟิงแถมบนข้อความอักษรนี้ก็ติดกลิ่นที่หอมเป็นพิเศษมาจากร่างกายของตัวเธออีกด้วย“เพราะอะไรถึงช่วยผม?”หลินเฟิงไม่เชื่อเรื่องไร้สาระที่เธอสนใจตัวเองสายตาที่ยังคงเย็นชา“เฮ้อ ทำไมคุณถึงไม่เชื่อล่ะ? ฉันชอบคุณจริง ๆและชอบมาตั้งนานแล้วด้วย”ผู้หญิงยิ้มหวาน พร้อมกับพูดว่า :“แน่นอนว่า หลังจากนี้ฉันอาจจะมีเรื่องที่จะถามคุณ....อ่อไม่สิ คุณหลินเฟิง คุณสามารถคิดว่าเรื่องในวันนี้ ถือว่าเป็นการลงทุนที่ฉันมีต่อคุณ”“ถือว่าคุณติดหนี้น้ำใจของฉัน”“คุณจะแน่ใจได้ยังไงว่าผมจะตอบแทนน้ำใจของคุณ?”หลังจากที่เงียบไปเล็กน้อย หลินเฟิงก็ตอบกลับอย่างเฉยเมย“ฮาฮา พี่สุดหล่อ ไม่ใช่คนที่ไม่รักษาคำพูด ข้อนี้ ฉันรู้ดีกว่าใคร ๆ”“ฮา ในเมื่อเป็นอย่างนี้...”หลินเฟิงก็คว้าเหล้าแก้วนั้นที่อยู่บนโต๊ะ ก่อนจะดื่มทั้งหมดทีเดียว“งั้นน้ำใจในวันนี้ ผมหลินเฟิงติดหนี้คุณเอาไว้ ค่อยใช้คืนวันอื่น!”เมื่อพูดจบ หลินเฟิงก็โบกมือแล้วจากไป“ฮาฮา....”เทพธิดาฉู่มองร่างหลินเฟิงที่จากไป ก่อนจะยิ้ม
“ถ้าหากพวกคุณมีแผนการที่ดีกว่าก็เอาออกมา ไม่อย่างนั้น ก็หุบปากแล้วทำตามอย่างว่าง่ายซะ!”เห็นหลินเฟิงมีท่าทางแบบนี้ พวกหน่วยลับก็ส่งเสียงไม่พอใจออกมาทันที แต่ถังจวินตอนนี้ความกดดันล้นหลาม เขาจ้องมองหลินเฟิงและพูดว่า:“ฉันคิดว่าคุณหลินพูดได้มีเหตุผลอยู่บ้าง พวกเราคนเยอะ แยกออกจากกัน เหมาะสมที่จะหาเบาะแสที่สุดแล้ว”“พี่จวิน แต่ว่า...”“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น”ถังจวินตำหนิลูกน้อง จากนั้นเลิกคิ้ว พูดอย่างเรียบเฉย:“อีกทั้งที่อยู่ในมือของพวกเราระยะทางไมได้ไกลจากพวกเรามากนัก พวกเราหาเบาะแสให้พบเร็วหน่อย ก็สามารถถือโอกาสกลับมาหนุนกำลังหลินเฟิงได้เร็วขึ้น”“ถูกต้องไหม?”ถังจวินมองไปทางหลินเฟิงด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ถูกต้อง”หลินเฟิงพยักหน้า“ได้ งั้นลงมือปฏิบัติการ!”ถังจวินโบกมือ หน่วยลับของตระกูลถังก็เริ่มปฏิบัติการในทันที มุ่งหน้าไปยังที่อยู่ที่หลินเฟิงให้ไว้ส่วนหลินเฟิงก็ตามไปที่เทียนจวิ้นเอ็นเตอร์เทนเมนท์จำกัดด้วยความร้อนใจ......ในขณะเดียวกันนั้น ณ เทียนจวิ้นเอ็นเตอร์เทนเมนท์จำกัดถังหว่านได้เดินทางมาถึงที่นี่แล้วเธอถูกผู้หญิงที่ชื่อเทพธิดาฉู่บอกต่อว่า หากเธอต้องการช่วยพ่อขอ
“พวกนายปล่อยเธอเถอะ”หลงเซียวโบกมือ บอกให้ผู้คุ้มกันตระกูลหลงที่จับเธอไว้ปล่อยถังหว่านสถานการณ์ในตอนนี้ใครแข็งแกร่งใครอ่อนแอลัดเจนเป็นอย่างมากถ้าหากถังหว่านไม่ใช่คนโง่ งั้นก็ไม่มีทางที่จะกล้าต่อต้านเป็นอย่างที่หลงเซียวคิดไว้ ถังหว่านไม่ได้ทำอะไรที่รุนแรงเกินไป แต่กลับจ้องมองหลงเซียวตาเขม็น“อย่ามองฉันแบบนี้ถังหว่าน”หลงเซียวยิ้มอย่างสนุกสนาน:“ฉันทำแบบนี้ ก็เพียงแค่เพราะตอบแทนการดูถูกเหยียดหยามที่ตระกูลถังมีต่อฉันก็เท่านั้นเอง”“ดูถูกเหยียดหยามงั้นเหรอ?”ถังหว่านหัวเราะเยาะและพูดว่า:“คุณหลงเซียว ฉันจำได้ว่าตอนที่คุณถูกกังขังอยู่ที่ตระกูลถัง ตระกูลถังของเรารับรองอาหารการกินของคุณเป็นอย่างดี นอกจากไม่ให้คุณออกไปข้างนอก ความต้องการอย่างอื่นก็ตอบสนองคุณอย่างเต็มที่”“เอาการดูถูกเหยียดหยามมาจากไหนกัน?”“พวกเธอจำกัดอิสระของฉัน นั่นก็คือการเหยียดหยามฉัน เหยียดหยามต่อตระกูลหลง!”หลงเซียวฉีกยิ้มตะโกนขึ้นประโยคหนึ่ง จากนั้นสีหน้าก็ผ่อนคลายลงเรื่อยๆ“ถังหว่าน ต้องรู้ไว้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราเดิมทีไม่ควรเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้เธอก็จะต้องกลายเป็นพี่สะใภ้ของฉัน”“เดิมทีพวกเร
ดูท่าหลงเซียวคนนี้ตั้งใจที่จะเหยียดหยามเธอให้ได้ ถึงได้ตั้งเงื่อนไขที่เกินเหตุแบบนี้“หึหึ เธอไม่อยากถอดก็ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็มีเวลาอีกยาวนาน เพียงแค่ไม่รู้ว่า...พ่อของเธอจะทนกับเครื่องมือที่ใช้ทรมานได้กี่ยกน่ะสิ?”หลงเซียวมองไปทางผู้คุ้มกันคนหนึ่งของตระกูลหลงที่อยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าไม่ใส่ใจ“อ่อใช่ เสี่ยวเจิ้ง ได้ยินว่าทางด้านกลุ่มพันธมิตรบู๊ไต่สวนนักโทษมีวิธีการที่พิเศษอย่างมาก”“ดึงเล็บอะไรแค่ระดับเบสิค ยังมีการลงโทษที่ทารุณอย่างควักลูกตา ถลกหนังขลึงเป็นแผ่นเหมือนหนังหมู จุ๊จุ๊ แค่คิดก็ทำให้คนรู้สึกกลัวแล้ว!”“ถูกต้องแล้วคุณหนู”ผู้คุ้มกันที่นามสกุลเจิ้งคนนั้นยิ้มพูดเสริมว่า:“ได้ยินว่าทางด้านกลุ่มพันธมิตรบู๊เป็นเพราะมีนักบู๊จำนวนมาก ดังนั้นจะยืดลมหายใจสุดท้ายของนักโทษไว้ไม่ให้เขาตาย และจะให้เขาดูตัวเองถูกแล่เนื้อและตัดอวัยวะไปทีละส่วนอย่างช้าๆ จนกว่าจะ...”“พอแล้ว!”ในที่สุด ถังหว่านก็อดทนไม่ไหวต่อไปแล้วในหัวของเธอปรากฏภาพรอยยิ้มที่อบอุ่นของถังว่านหลี่ออกมาไม่หยุดเธอรู้จักนิสัยของพ่อตัวเองดีที่สุด พ่อของเธอไม่ใช่คนบ้ากามอย่างแน่นอน ต้องเป็นเพราะถูกคนอื่นใส่ร้ายแน่ๆแ
โดยเฉพาะพวกผู้ชาย ภายใต้ความลุ่มหลงมัวเมา พวกเขาชื่นชมรูปร่างที่เร่าร้อนของถังหว่าน สายตาที่อยู่ภายใต้หน้ากากเต็มไปด้วยความกระหายและความหยาบโลน“ดูท่าเรื่องราวไม่สามารถเจรจาได้แล้ว งั้นฉันก็ขออภัยด้วยที่ไม่เล่นด้วยแล้ว!”จู่ๆ ถังหว่านก็พลิกตัวลุกขึ้นจากพื้น จากนั้นก็กระโดดขึ้นสูง พยายามหลบหนีเข้าไปในฝูงชนเห็นได้ชัดว่าถึงแม้ก่อนหน้านี้กำลังภายในจะถูกยาพิษทำลายไปแล้ว แต่ภายใต้ความช่วยเหลือของยาของหลินเฟิง ตอนนี้ถังหว่านก็ก้าวเข้าสู่เส้นทางนักบู๊ใหม่อีกครั้งถึงแม้จะไม่ได้แข็งแกร่งสักเท่าไหร่ แต่ก็ชนะตรงที่ลงมืออย่างฉับพลันตั้งแต่ที่ถังหว่านเข้ามาข้างใน ก็แสดงความอ่อนแออยู่ตลอดรู้ว่าคืนนี้ไม่มีทางได้รับสิ่งอื่นจากหลงเซียว ดังนั้นตอนนี้จึงต้องหนีออกจากสถานที่อันตรายให้ได้เร็วที่สุดเป็นดี“หือ?! นังนี่...”หลงเซียวเห็นถังหว่านจู่ๆ ก็เกิดคิดหนี เธอกลับลุกขึ้นยืนจากโซฟาช้าๆเมื่อเผชิญหน้ากับแผนการของถังหว่านแบบนี้ ถึงแม้เธอจะประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ลนลาน และถึงขั้นที่พูดอย่างนึกสนุกว่า:“ถังหว่าน เธอคงไม่คิดว่าเธอจะหนีไปได้จริงๆ หรอกนะ?”เป็นอย่างที่คิดไม่นานนัก ถังหว่า
“วางใจได้ ฉันไม่มีทางให้เธอตาย”หลงเซียวตบไหล่ของถังหว่าน และยิ้มพูดว่า:“แต่ว่า ก็แค่ต้องจ่ายค่าเสียหายเยอะหน่อยก็เท่านั้นเอง”ได้ยินคำพูดของหลงเซียว ถังหว่านถลึงตาโตทันทีนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอสัมผัสถึงความหวาดกลัวใช่แล้ว หวาดกลัวผู้หญิงคนนั้นที่หยิ่งยโส สง่างาม สวยหยาดเยิ้มมาโดยตลอด กลับรู้สึกไร้ที่พึ่ง หวาดกลัว ถึงขั้นที่เจ็บปวดแบบนี้เป็นครั้งแรก “ไม่...ไม่เอา...”ถังหว่านใบหน้าตื่นตระหนก“เธอไม่อยากถอดเองไม่ใช่เหรอ? งั้นก็ให้ฉันช่วยเธอ!”บอกให้คนที่อยู่ซ้ายขวาออกแรงจับถังหว่านเอาไว้ หลงเซียวยื่นมีดเล่มเล็กที่อยู่ในมือออกไป กรีดเสื้อคลุมของถังหว่านโดยตรง เผยให้เห็นผิวพรรณขาวผ่องกับชุดชั้นในสีขาวล้วน“เอ๊ะ? คิดไม่ถึงเลยนะถังหว่าน ภายนอกเธอใจกล้าหน้าด้านขนาดนี้ ภายในกลับรักสงวนมากเลยนะ!”“ไม่คิดว่าจะใส่ชุดชั้นในของเด็กสาวแบบนี“เธอคงไม่ได้บริสุทธิ์หรอกนะ?”เห็นถังหว่านกัดฟันไม่พูดจา หลงเซียวเหมือนได้รับของที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง เธอหัวเราะเสียงดังอย่างไม่อยากจะเชื่อ และมองไปทางซ้ายขวาและพูดว่า:“ทุกๆ ท่าน ถังหว่านของตระกูลถังคนนี้ คุณหนูตระกูลถังที่มีชื่อเสียงอย่าง
“ตึง”เป็นเพราะความเจ็บปวดที่รุนแรงถังหว่านจึงหมดสติ ล้มลงบนพื้น“หึหึ อ่อนแอเกินไปแล้ว ฉันยังไม่ได้ลงมืออย่างเต็มที่ก็ไม่ไหวซะแล้ว ดูท่าเธอคงจะฝืนได้แค่ไม่กี่วัน”“แต่ไม่เป็นไร ที่ฉันเห็นก็คือท่าทางสติแตก และท่าทางเสียใจของเธอ”หลงเซียวโยนมีดเล่มเล็กที่เปื้อนเลือด โบกมือพูดกับผู้คุ้มกันตระกูลหลงที่อยู่รอบๆ:“จับเธอแขวนบนเวที ฉันจะเลือกผู้โชคดีคนที่หนึ่ง”“ครับ!”บอดี้การ์ดสองคนหิ้วปีกถังหว่านที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ย ใบหน้าเต็มไปด้วยบาดแผล ลากไปบนเวทีที่มีแสงไฟวิบวับ จากนั้นจับเธอแขวนขึ้นที่สูง“น้ำ”หลงเซียวจุดบุหรี่ นั่งลงบนโซฟา ไขว่ห้างชื่นชมภาพที่อยู่ตรงหน้า“ซ่า!”บอดี้การ์ดคนหนึ่งยกน้ำมากะละมังหนึ่ง สาดไปทางถังหว่านโดยตรงทำให้ถังหว่านที่หมดสติไปตื่นขึ้นมาอีก“ถังหว่าน ในตอนปกติเธอหยิ่งยโสมากๆ ตอนนี้ทำไมดูเหมือนเป็ดตกน้ำเลย สภาพน่าอนาถแบบนี้ ทำให้คนอยากหัวเราะเสียจริง”“เธอเห็นคนเหล่านี้ที่อยู่ด้านล่างเวทีแล้วยัง?”หลงเซียวยื่นมือออกมาพูดแนะนำ:“คนเหล่านี้ก็คือจำนวนลูกค้าที่เธอต้องต้อนรับในคืนนี้ พวกเขาแต่ละคน จะสับเปลี่ยนกันมารักใคร่เอ็นดูเธอ”“อีกทั้งเธอสามารถวางใจไ
“หลินเฟิง ฉันไม่อยากถามว่าลูกชายของฉันทำผิด หรือว่าเป็นความผิดของนาย”“ในเมื่อฉันเป็นพ่อของเจียงปิน จะตีสุนัขก็ยังต้องดูเจ้าของ ผมจะมองดูลูกชายของตัวเองถูกคนทำให้พิการไม่ได้ แถมยังประนีประนอมกับคนร้าย”“ในเมื่อฉันสู้นายไม่ไหว งั้นก็มีคนที่สู้กับนายได้!”เจียงจี้ถงส่งเสียงไม่พอใจและพูดอย่างเรียบเฉยว่า:“ฉันจะนำเรื่องนี้ไปบอกคุณเผิงกวงฉี่!”“ด้วยมิตรภาพอันยาวนานของฉันกับคุณเผิง หลินเฟิง นายไม่สู้ถือโอกาสทำลายท่อนล่างของตัวเองอย่างว่าง่าย จากนั้นก็กลับบ้านกับฉั คุกเข่าขอโทษลูกชายของฉัน!”“ไม่แน่นายอาจจะยังรักษาชีวิตต่ำๆ ของนายเอาไว้ได้”“ไม่อย่างนั้น…หึ”“ถูกต้อง เพียงแค่คุณเผิงกวงฉี่ลงมือ หลินเฟิง นายก็รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด”ถังฮั่วก็ยิ้มเยาะพูดขึ้นมาดูท่าถังฮั่วคนนี้ เห็นได้ชัดว่าอยากใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของเจียงจี้ถง เกาะติดเผิงกวงฉี่ถ้าหากเผิงกวงฉี่ลงมือจัดการหลินเฟิง งั้นหลินเฟิงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยมีแต่ถังฮั่วที่เป็นแบบนี้ด้วยเส้นสายและความมั่งคั่งของเผิงกวงฉี่ จะฆ่าหลินเฟิงให้ตาย นั่นเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไม่ใช่เหรอ?ถึงเวลาเขาไม่ต้องลงมือ ก็สามารถเอาชีวิตของห
ในทางกลับกัน เขากลับถูกหลินเฟิงกดไว้กับเก้าอี้ไว้อย่างแรงการกดครั้งนี้ทำให้กระดูกทั่วทั้งตัวผู้อำนายการเจียงส่งเสียงดังกรอบแกรบออกมาทันที ราวกับว่าไม่สามารถรับน้ำหนักได้“อึก...”ผู้อำนวยการเจียงในเวลานี้ก็เหมือนกับภูเขาไฟที่ใกล้จะระเบิด แต่กลับถูกใครบางคนกดลงอย่างแรง จนใบหน้าแดงก่ำแล้วเลือกก็แทบจะพุ่งออกมาจากรูขุมขนในทันที“ผู้อำนวยการเจียง ไม่ต้องรีบร้อน รอให้ผมอธิบายให้คุณฟังว่าลูกชายของคุณนั้นทำอะไรลงไป มันก็ยังไม่สายเกินไปที่คุณจะโกรธ”หลินเฟิงยิ้มพร้อมกับตบที่ไหล่ของเขาเจียงจี้ถงในเวลานี้ถึงกับพูดอะไรไม่ออกอีกเลย เขาจ้องมองหลินเฟิงอย่างเอาเป็นเอาตาย และอยากจะรู้ว่าหลินเฟิงยังจะพูดอะไรออกมาอีก“ลูกชายของคุณนะ เป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่งเลยนะ”หลินเฟิงทำเสียงจุ๊จุ๊ จากนั้นก็เล่าเรื่องราวอันรุ่งโรจน์ ของเจียงปินที่มหาวิทยาลัยเจียงโจว ให้พ่อของเขาได้ฟังอีกครั้งก่อนที่จะได้พบกับน้องสาวของหลินเฟิงจากนั้นก็ใส่ร้ายหลินเฟิงต่อหน้าบรรดาบัณฑิต และคุยโวว่าคนใหญ่คนโตทั้งหมดเป็นเขาที่เรียกมาจากนั้นก็ถูกจางเต๋อหลินตบต่อหน้าทุกคนสุดท้ายก็โกรธมากจนกลับไปพาผู้คนมาใช้ความรุนแรงกั
หลินเฟิงแตะคางพร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นในขณะที่กำลังทวนความจำ“หรือว่าจะเป็นแพทย์วัยกลางคนที่เคยคุยกับถังฮั่วก่อนหน้านี้หรือเปล่า?”หลินเฟิงยังไม่ทันจะคิดได้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็รีบอธิบายให้หลินเฟิงฟังว่าผู้อำนวยการเจียงมีลักษณะอย่างไรชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าเหลี่ยมและสวมใส่สูทลายทางสีดำ.....หลินเฟิงตกตะลึงไปเล็กน้อย นี่ไม่ใช่แพทย์วัยกลางคนที่ตัวเองมองแล้วรู้สึกคุ้นเคยหรอกเหรอ?เพียงแต่....“เพราะอะไรเขาถึงต้องการขัดการฉัน? ฉันไปทำให้เขาโกรธงั้นเหรอ?”หลินเฟิงยังคงเอ่ยถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่อไปเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยังคงตอบอย่างตรงไปตรงมาเช่นกันเพื่อที่จะมีชีวิต เขาจึงบอกความจริงทุกอย่างให้หลินเฟิงได้ฟัง“หลังจากที่คุณชายถังฮั่วอธิบายก็รู้ว่าคุณก็คือหลินเฟิง คุณทำให้ลูกชายของผู้อำนวยการเจียงต้องสูญเสียร่างกายส่วนล่างไป เพราะอย่างนั้นผู้อำนวยการเจียงจึงอยากจะให้พวกเราแก้แค้นคุณ....”“พวกคุณไม่ใช่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเผิงกวงฉี่ใช่ไหม? ทำไมต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขาด้วยล่ะ?”หลินเฟิงเอ่ยถามด้วยความอยากรู้“ใช่...พวกเราเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอด
ไม่มีอะไรที่จารึกอยู่ในความทรงจำได้ดียิ่งกว่าเป็นแผลเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีจิตใจชั่วร้าย แต่หลินเฟิงก็ไม่ได้หลบเลี่ยง ก่อนจะจ้องมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับเซียนเทียนด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ในขณะที่ตัวเองกำลังจะถูกต่อยเข้าที่ใบหน้าถึงขั้นที่หลินเฟิงไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ในการป้องกันก็ตาม“แกร่ก!”เมื่อได้ยินเสียงแตก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับเซียนเทียนก็แสดงความภาคภูมิใจออกมาทันที ดูเหมือนว่ากระดูกจมูกของหลินเฟิงจะถูกหักน้ำมือของเขาเข้าซะแล้วแต่ไม่นาน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เพราะว่าเขารับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดแปล๊บ ๆขึ้นมาตรงบริเวณกระดูกนิ้วของตัวเองเมื่อรอให้เขาจ้องมองดู ก็พบว่าสิ่งที่หักนั้นไม่ใช่กระดูกจมูกของหลินเฟิง แต่กลับเป็นนิ้วทั้งสี่ของตัวเอง“อ้าก_____!”สิบนิ้วเชื่อมต่อกับหัวใจ และความเจ็บปวดที่พามานั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถรับได้ไหวยิ่งกว่านั้น การชกไปเต็มกำลังของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ได้ทำให้กระดูกนิ้วของตัวเองหักทั้งหมดในทันทีแรงสะเทือนสะท้อนกลับ ทำให้ข้อมือและแขนของเขาทั้งหมดกลายเป็นโคลนที่ไม่มีกระดูกมารองรับเจ้าห
“คุณชายถัง ฉันจะกล้าหลอกคุณได้ยังไง?”“ไอ้หมอนั่นพูดเรื่องไร้สาระ เพื่อที่จะทำให้คุณเสียสมาธิ คุณอย่าติดกับเขาล่ะ!”ได้ยินผู้หญิงคนนี้พูดมีเหตุผล แต่การแสดงออกของร่างกายก็เหมือนกับที่หลินเฟิงกล่าวไว้ ถังฮั่วระมัดระวังมากขึ้นจากั้นออกไปอย่างรวดเร็ว เขาแอบหาแพทย์แผนจีนวัยกลางคนหน้าเหลี่ยมที่อยู่มาท่ามกลางกลุ่มคนอย่างลับๆ และถามเสียงเบาว่า:“ผู้อำนวยการเจียง คุณดูร่างกายของผม มีความผิดปกติจริงๆ ใช่ไหม?”หมอหน้าเหลี่ยมคนนี้ ก็คือผู้อำนวยการเจียงและโรงพยาบาลเมืองเจิ้งเต๋อที่เขาทำงานอยู่ และก็เป็นหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่เมืองเจิ้งเต๋อเขาสามารถมาร่วมงานประมูลในวันนี้ได้ก็เป็นเพราะโรงพยาบาลที่เขาสังกัดอยู่ เป็นหนึ่งในธุรกิจของเผิงกวงฉี่พูดได้ว่า ทั่วทั้งหัวตง เขาเป็นผู้ที่มีสถานะต่ำที่สุดในกลุ่มคนเหล่านี้ เป็นเพียงแค่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเขามาร่วมงานได้ เป็นเพียงเพราะเผิงกวงฉี่บังเอิญเลือกเมืองเจิ้งเต๋อเป็นสถานที่จัดงานไม่อย่างนั้นเขาไม่มีสิทธิเข้าร่วมหรอกแต่ในเมืองเจิ้งเต๋อ ผู้อำนวยการเจียงก็ยังมีอำนาจอยู่บ้างเห็นคุณชายตระกูลถังขยับเข้ามาใกล้ ผู้อำนวยการเจียงรีบยิ้มให้ และยื
“อะไรนะ?!”ได้ยินคำพูดนี้ ถังฮั่วมองไปทางคู่ควงที่อยู่ข้างๆ ด้วยความตะลึงงันผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขาเพิ่งพบในไนท์คลับแห่งหนึ่ง จากที่เธอบอก ครอบครัวของเธอทุกข์ยากอย่างมาก พ่อติดการพนัน แม่หนีออกจากบ้าน ยังมีน้องชายสองคนที่เรียนหนังสือไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปทำงานในไนท์คลับแต่ถังฮั่วไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่ผู้หญิงคนนี้หน้าตาสวย จึงก็เล่นสนุกสักวันสองวันแต่คิดไ่ม่ถึงว่าหลินเฟิงจะพูดว่าผู้หญิงคนนี้มีโรคจึงทำให้ถังฮั่วตกตะลึงทันที สีหน้าก็เปลี่ยนไปไม่เป็นธรรมชาติ“นายพูดซี้ซั้วอะไร?! คุณต่างหากที่เป็นโรค ป่วยกันทั้งครอบครัว!”ถูกหลินเฟิงพูดแทงใจดำ ผู้หญิงคนนี้ก็กระวนกระวายแล้วหลังจากที่กระวนกระวาย ปฏิกิริยาตอบสนองแรกของเธอคือหันมาด่าทอหลินเฟิงคำพูดของหลินเฟิง ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นมุ่งความสนใจไปที่ผู้หญิงและถังฮั่วได้สำเร็จ“หึหึ มีโรคหรือไม่ ผมดูแค่แวบแรกก็รู้แล้ว ในเมื่ออาการป่วยของเผิงกวงฉี่เป็นผมที่รักษาหาย พวกคุณไม่จำเป็นต้องสงสัยวิชาแพทย์ของผม”หลินเฟิงหัวเราะเยาะได้ยินแบบนี้ ทั้งงานเสียงดังเกรียวกราวไปหมด“อะไรนะ? คุณรักษาอาการป่วยของเผิงกวงฉี่?!”“เดี๋ยวนะ
“หึ ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน”ถังฮั่วไม่ยอมเสียโอกาสที่จะซ้ำเติมอยู่แล้ว เขาหัวเราะเยาะและพูดว่า:“ไอ้หมอนี่ถือว่าตัวเองเป็นผู้ชายของถังหว่าน แมงดาแบบนี้ คู่ควรที่จะเข้าร่วมงานประมูลการกุศลระดับสูงแบบนี้ด้วยเหรอ?”“หลินเฟิง ถ้าผมเป็นคุณ ผมคงกุมหน้าหนีไปแล้ว แทนที่จะไร้ยางอายอยู่ตรงนี้”“ทำให้ตระกูลถังของฉันอับอายจริงๆ”ได้ยินความคิดเห็นของถังฮั่ว แขกที่อยู่ในเหตุการณ์พากันมองไปทางหลินเฟิงโดยเฉพาะตอนที่พบว่าชุดสูทบนตัวของเขาเป็นแค่ “ของราคาถูก” ที่ราคาไม่กี่พันบาท ก็ส่งเสียงัวเราะเยาะออกมาหลายรูปแบบ“ไม่ใช่หรอกมั้ง มีคนกล้าแอบอ้างชื่อของตระกูลถังจริงๆ เหรอ?”“คุณไม่ได้ยินคุณชายถังฮั่วพูดเหรอ? เป็นผู้ชายที่เกาะถังหว่านตระกูลถัง”“จุ๊จุ๊จุ๊ไม่น่าแปลกใจเลย”เมื่อเผชิญกับการซุบซิบนินทารอบตัว จีอวิ๋นเจี๋ยสีหน้าดุดัน เดินเข้าไปขวางอยู่ข้างหน้าหลินเฟิงแล้วพูดว่า:“คุณชายหลินท่านนี้คือเพื่อนของฉันจี้อวิ๋นเจี๋ย ใครกล้ามีปัญหากับคณชายหลิน งั้นก็เท่ากับมีปัญหากับฉันจีอวิ๋นเจี๋ย!”ได้ยินคำพูดนี้ เสียงหัวเราะเยาะที่อยู่รอบๆ ก็ลดลงเล็กน้อยแต่เสียงอื่นๆก็ค่อยๆ ดังขึ้นมา“ไม่ใช่หรอกมั้ง ออก
กวงเผิงฉี่ไม่เสียแรงที่เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตงวงการที่เขาว่า เป็นวงการที่คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้บุคคลใหญ่โตที่มาเข้าร่วงงานประมูลการกุศล มีทั้งในแวดวงการเมือง ธุรกิจ และการทหาร มีทั้งคนรวยและขุนนางราชการ อำนาจล้นฟ้าถึงขั้นที่หลินเฟิงยังได้พบกับตัวแทนของตระกูลซือหม่า ตระกูลหลง และตระกูลจี คนเหล่านี้กำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องโถง บรรยากาศดูกลมกลืนมาก เสียงหัวเราะดังขึ้นไม่หยุดหลินเฟิงเห็นคนเยอะขนาดนี้ ก็ไม่ได้คิดจะเข้าร่วม เขาอยากจะหาที่นั่งลงเพื่อรอเผิงกวงฉี่ปรากฏตัวออกมากลับคิดไม่ถึงว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก้าวเข้ามาขวางหลินเฟิง“สวัสดีครับ คุณผู้ชายท่านนี้ เชิญแสดงบัตรเชิญของคุณด้วย”“บัตรเชิญ?”หลินเฟิงนิ่งอึ้งเล็กน้อยเขาถึงนึกขึ้นได้ว่า เมื่อครู่เขาออกมาด้วยความรีบร้อน มัวแต่สนใจถังหว่านที่เร่งรัด จนลืมบัตรเชิญที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำยังไงดีล่ะ?ถ้ากลับไปเอาตอนนี้ จะไม่ทันเวลาแล้วหลินเฟิงเงียบขรึมครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้ามองไปทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและยิ้มพูดว่า:“ผมมีบัตรเชิญ แต่ผมรีบออกมา กลับลืมพามาด้วย ไม่ทราบว่าให้ความสะดวกหน่อยได้ไ
“เป็นยังไงบ้าง? แผลคุณหายแล้วยัง?”“หายก็หายแล้วนั่นแหละ แต่ยังมีรอยแผลเป็นนิดหน่อย”ถังหว่านส่งเสียงไม่พอใจเล็กน้อย“ฉันไม่อยากให้หลี่ฮุ่ยหรานเห็นหรอกนะ ยังไงซะ ถ้าคิดถึงฉัน ก็ทำตัวดีๆ รออีกสักหน่อย”“อืม”หลินเฟิงวางสายโทรศัพท์และคิดอยู่ครู่หนึ่งเดิมทีเขาอยากไปกับหลี่ฮุ่ยหราน แต่เมื่อคิดว่าหลี่ฮุ่ยหรานงานยุ่งขนาดนี้ เขาอย่าไปเพิ่มความวุ่นวายให้เธอเลย“จ้าวเทียนหัว เตรียมรถให้ฉันคันหนึ่ง”หลินเฟิงโทรศัพท์ไปหาจ้าวเทียนหัว เมื่อจ้าวเทียนหัวได้ยิน กลับลำบากใจเป็นครั้งแรก“คุณชายหลิน ผมไม่มีสาขาย่อยที่เมืองเจิ้งเต๋อ ถ้าจะจัดเตรียมรถ เกรงว่าคงหารถที่เหมาะสมกับสถานะของคุณไม่ได้ชั่วคราว…”ได้ยินคำพูดนี้ หลินเฟิงส่ายหน้ายิ้มพูดว่า:“แค่ยานพาหนะเอง ไม่ต้องเอารถที่ดีอะไร นายรีบเตรียมให้หน่อยก็พอแล้ว”“ก็ได้รับ”จ้าวเทียนหัวขานรับ จากนั้นผ่านไปไม่นาน รถยนต์ออดี้ คันหนึ่งจอดอยู่ใต้ตึกของหลี่ซื่อกรุ๊ปหลินเฟิงก็ไม่ได้เลือกอะไรเพียงแต่หลังจากที่เขานำของขวัญที่ถังหว่านเตรียมเอาไว้ออกไปก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงนำหยกจิ้งจอกมีตำหนิที่ได้รับจากต่งเทียนไป๋ติดตัวไปด้วยถึงแม้หยกจิ้งจอกจะม