แต่ก็มีเรื่องหนึ่งที่หลินเฟิงต้องยอมรับถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ได้เผยใบหน้าออกมา แต่เมื่อดูรูปร่างแล้ว ก็เป็นสาวสวยที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าหลี่ฮุ่ยหรานและถังหว่านเลยขาเรียวยาวที่เหมือนกับหิมะที่อยู่ใต้โต๊ะ และหน้าท้องที่เปลือยเปล่าและราบเรียบ ราวกับงูน้ำ เพียงแค่ท่าทางเดินของเธอ ก็ยิ่งทำให้จิตใจของผู้คนลุกเป็นไฟได้ผู้ชายทั่วไปคงจะไม่สามารถทนกับการรุกเข้าหาของผู้หญิงแบบนี้ได้เกรงว่านับจากนี้ไป คงจะตกหลุมพรางของเธอเข้าซะแล้วน่าเสียดาย ถึงแม้ว่าหลินเฟิงจะชอบเธอก็ตาม แต่ก็ไม่ได้รังเกียจที่จะมองดูบ่อย ๆแต่ตอนนี้สถานการณ์ฉุกเฉิน เขาเสียเวลาไม่ได้ความปลอดภัยในตอนนี้ของถังหว่านยังไม่แน่นอน“นี่ ฉันรู้ว่าคุณมีคำถามมากมายที่จะถาม แต่ก่อนที่จะถาม คุณจำเป็นต้องดื่มเหล้าแก้งนี้ก่อน ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่มตอบคำถามอะไรคุณทั้งนั้น”ผู้หญิงผลักเหล้าแก้วนี้ไปด้านหน้าของหลินเฟิง ในแววตาแสดงถึงความปรารถนาที่อันตรายออกมา“เร็วสิ ดื่มมันเข้าไป”เสียงของผู้หญิงคล้ายกับมีพลังทำให้คนหลงใหล หลินเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปทางเหล้าแก้วนั้น“ฮึ”เพียงแค่ไม่แน่ใจ หลินเฟิงก็กลับมามีสติอีกครั้ง
“เทพธิดาฉู่ เราพูดคุยก็ต้องระวังกันสักหน่อย”ชายนักบู๊ที่เป็นผู้นำ พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า :“คุณหนูหลงเซียวเป็นผู้สืบทอดสายตรงของตระกูลหลง หากได้ยินไปถึงหูของเธอเข้า เกรงว่ามันจะไม่เอื่อผลต่อคุณนะ”“ฮา....”ใครจะรู้ว่าเทพธิดาฉู่นั้นไม่สนใจเลย แถมยังโบกมือพร้อมกับพูดอย่างเกียจคร้านว่า :“เอาล่ะ วันนี้ฉันอารมณ์ดีมาก เลยไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับความไร้มารยาทของพวกคุณ เพียงแต่ว่า ฉันชอบผู้ชายตรงหน้าคนนี้ของฉันมา ในถนนเสรี ไม่อนุญาตให้ใครแตะต้องเขาได้ทั้งนั้น”“พวกคุณออกไปเถอะ”“หืม?”เห็นได้ชัดกว่านักบู๊เหล่านี้ลังเลกันเล็กน้อยดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้เกรงกลัวเทพธิดาฉู่กันมากนัก ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่มองหน้ามองตากันและตัดสินใจที่จะลงมือกันไปแล้ว“เหอะ!”นักบู๊คนหนึ่งเดินออกมา เขาคือยอดฝีมือระดับเซียนเทียนขั้นสูงสุดนักบู๊คนนี้ชี้ไปทางเทพธิดาฉู่ ก่อนะพูดอย่างเย็นชาว่า :“ผู้หญิงประเทศเวน่าอย่างคุณ อย่าได้โลภเกินไปนัก วันนี้เราจำเป็นต้องจับหลินเฟิงไป ใครก็ไม่สามารถขวางตระกูลหลงของเราได้!”“ใช่แล้ว เทพธิดาฉู่ ถ้าหากคุณยังอยากจะให้ถนนเสรีแห่งนี้ของคุณอยู่ต่อไป ก็หลีกทางไปดี ๆและ
“ที่อยู่ที่นี่ คุณไปหาด้วยตัวเองเถอะ จะเจอหรือเปล่า ทั้หมดก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง”ผู้หญิงค่อย ๆดันข้อความไปที่ด้านหน้าของหลินเฟิงแถมบนข้อความอักษรนี้ก็ติดกลิ่นที่หอมเป็นพิเศษมาจากร่างกายของตัวเธออีกด้วย“เพราะอะไรถึงช่วยผม?”หลินเฟิงไม่เชื่อเรื่องไร้สาระที่เธอสนใจตัวเองสายตาที่ยังคงเย็นชา“เฮ้อ ทำไมคุณถึงไม่เชื่อล่ะ? ฉันชอบคุณจริง ๆและชอบมาตั้งนานแล้วด้วย”ผู้หญิงยิ้มหวาน พร้อมกับพูดว่า :“แน่นอนว่า หลังจากนี้ฉันอาจจะมีเรื่องที่จะถามคุณ....อ่อไม่สิ คุณหลินเฟิง คุณสามารถคิดว่าเรื่องในวันนี้ ถือว่าเป็นการลงทุนที่ฉันมีต่อคุณ”“ถือว่าคุณติดหนี้น้ำใจของฉัน”“คุณจะแน่ใจได้ยังไงว่าผมจะตอบแทนน้ำใจของคุณ?”หลังจากที่เงียบไปเล็กน้อย หลินเฟิงก็ตอบกลับอย่างเฉยเมย“ฮาฮา พี่สุดหล่อ ไม่ใช่คนที่ไม่รักษาคำพูด ข้อนี้ ฉันรู้ดีกว่าใคร ๆ”“ฮา ในเมื่อเป็นอย่างนี้...”หลินเฟิงก็คว้าเหล้าแก้วนั้นที่อยู่บนโต๊ะ ก่อนจะดื่มทั้งหมดทีเดียว“งั้นน้ำใจในวันนี้ ผมหลินเฟิงติดหนี้คุณเอาไว้ ค่อยใช้คืนวันอื่น!”เมื่อพูดจบ หลินเฟิงก็โบกมือแล้วจากไป“ฮาฮา....”เทพธิดาฉู่มองร่างหลินเฟิงที่จากไป ก่อนจะยิ้ม
“ถ้าหากพวกคุณมีแผนการที่ดีกว่าก็เอาออกมา ไม่อย่างนั้น ก็หุบปากแล้วทำตามอย่างว่าง่ายซะ!”เห็นหลินเฟิงมีท่าทางแบบนี้ พวกหน่วยลับก็ส่งเสียงไม่พอใจออกมาทันที แต่ถังจวินตอนนี้ความกดดันล้นหลาม เขาจ้องมองหลินเฟิงและพูดว่า:“ฉันคิดว่าคุณหลินพูดได้มีเหตุผลอยู่บ้าง พวกเราคนเยอะ แยกออกจากกัน เหมาะสมที่จะหาเบาะแสที่สุดแล้ว”“พี่จวิน แต่ว่า...”“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น”ถังจวินตำหนิลูกน้อง จากนั้นเลิกคิ้ว พูดอย่างเรียบเฉย:“อีกทั้งที่อยู่ในมือของพวกเราระยะทางไมได้ไกลจากพวกเรามากนัก พวกเราหาเบาะแสให้พบเร็วหน่อย ก็สามารถถือโอกาสกลับมาหนุนกำลังหลินเฟิงได้เร็วขึ้น”“ถูกต้องไหม?”ถังจวินมองไปทางหลินเฟิงด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ถูกต้อง”หลินเฟิงพยักหน้า“ได้ งั้นลงมือปฏิบัติการ!”ถังจวินโบกมือ หน่วยลับของตระกูลถังก็เริ่มปฏิบัติการในทันที มุ่งหน้าไปยังที่อยู่ที่หลินเฟิงให้ไว้ส่วนหลินเฟิงก็ตามไปที่เทียนจวิ้นเอ็นเตอร์เทนเมนท์จำกัดด้วยความร้อนใจ......ในขณะเดียวกันนั้น ณ เทียนจวิ้นเอ็นเตอร์เทนเมนท์จำกัดถังหว่านได้เดินทางมาถึงที่นี่แล้วเธอถูกผู้หญิงที่ชื่อเทพธิดาฉู่บอกต่อว่า หากเธอต้องการช่วยพ่อขอ
“พวกนายปล่อยเธอเถอะ”หลงเซียวโบกมือ บอกให้ผู้คุ้มกันตระกูลหลงที่จับเธอไว้ปล่อยถังหว่านสถานการณ์ในตอนนี้ใครแข็งแกร่งใครอ่อนแอลัดเจนเป็นอย่างมากถ้าหากถังหว่านไม่ใช่คนโง่ งั้นก็ไม่มีทางที่จะกล้าต่อต้านเป็นอย่างที่หลงเซียวคิดไว้ ถังหว่านไม่ได้ทำอะไรที่รุนแรงเกินไป แต่กลับจ้องมองหลงเซียวตาเขม็น“อย่ามองฉันแบบนี้ถังหว่าน”หลงเซียวยิ้มอย่างสนุกสนาน:“ฉันทำแบบนี้ ก็เพียงแค่เพราะตอบแทนการดูถูกเหยียดหยามที่ตระกูลถังมีต่อฉันก็เท่านั้นเอง”“ดูถูกเหยียดหยามงั้นเหรอ?”ถังหว่านหัวเราะเยาะและพูดว่า:“คุณหลงเซียว ฉันจำได้ว่าตอนที่คุณถูกกังขังอยู่ที่ตระกูลถัง ตระกูลถังของเรารับรองอาหารการกินของคุณเป็นอย่างดี นอกจากไม่ให้คุณออกไปข้างนอก ความต้องการอย่างอื่นก็ตอบสนองคุณอย่างเต็มที่”“เอาการดูถูกเหยียดหยามมาจากไหนกัน?”“พวกเธอจำกัดอิสระของฉัน นั่นก็คือการเหยียดหยามฉัน เหยียดหยามต่อตระกูลหลง!”หลงเซียวฉีกยิ้มตะโกนขึ้นประโยคหนึ่ง จากนั้นสีหน้าก็ผ่อนคลายลงเรื่อยๆ“ถังหว่าน ต้องรู้ไว้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราเดิมทีไม่ควรเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้เธอก็จะต้องกลายเป็นพี่สะใภ้ของฉัน”“เดิมทีพวกเร
ดูท่าหลงเซียวคนนี้ตั้งใจที่จะเหยียดหยามเธอให้ได้ ถึงได้ตั้งเงื่อนไขที่เกินเหตุแบบนี้“หึหึ เธอไม่อยากถอดก็ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็มีเวลาอีกยาวนาน เพียงแค่ไม่รู้ว่า...พ่อของเธอจะทนกับเครื่องมือที่ใช้ทรมานได้กี่ยกน่ะสิ?”หลงเซียวมองไปทางผู้คุ้มกันคนหนึ่งของตระกูลหลงที่อยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าไม่ใส่ใจ“อ่อใช่ เสี่ยวเจิ้ง ได้ยินว่าทางด้านกลุ่มพันธมิตรบู๊ไต่สวนนักโทษมีวิธีการที่พิเศษอย่างมาก”“ดึงเล็บอะไรแค่ระดับเบสิค ยังมีการลงโทษที่ทารุณอย่างควักลูกตา ถลกหนังขลึงเป็นแผ่นเหมือนหนังหมู จุ๊จุ๊ แค่คิดก็ทำให้คนรู้สึกกลัวแล้ว!”“ถูกต้องแล้วคุณหนู”ผู้คุ้มกันที่นามสกุลเจิ้งคนนั้นยิ้มพูดเสริมว่า:“ได้ยินว่าทางด้านกลุ่มพันธมิตรบู๊เป็นเพราะมีนักบู๊จำนวนมาก ดังนั้นจะยืดลมหายใจสุดท้ายของนักโทษไว้ไม่ให้เขาตาย และจะให้เขาดูตัวเองถูกแล่เนื้อและตัดอวัยวะไปทีละส่วนอย่างช้าๆ จนกว่าจะ...”“พอแล้ว!”ในที่สุด ถังหว่านก็อดทนไม่ไหวต่อไปแล้วในหัวของเธอปรากฏภาพรอยยิ้มที่อบอุ่นของถังว่านหลี่ออกมาไม่หยุดเธอรู้จักนิสัยของพ่อตัวเองดีที่สุด พ่อของเธอไม่ใช่คนบ้ากามอย่างแน่นอน ต้องเป็นเพราะถูกคนอื่นใส่ร้ายแน่ๆแ
โดยเฉพาะพวกผู้ชาย ภายใต้ความลุ่มหลงมัวเมา พวกเขาชื่นชมรูปร่างที่เร่าร้อนของถังหว่าน สายตาที่อยู่ภายใต้หน้ากากเต็มไปด้วยความกระหายและความหยาบโลน“ดูท่าเรื่องราวไม่สามารถเจรจาได้แล้ว งั้นฉันก็ขออภัยด้วยที่ไม่เล่นด้วยแล้ว!”จู่ๆ ถังหว่านก็พลิกตัวลุกขึ้นจากพื้น จากนั้นก็กระโดดขึ้นสูง พยายามหลบหนีเข้าไปในฝูงชนเห็นได้ชัดว่าถึงแม้ก่อนหน้านี้กำลังภายในจะถูกยาพิษทำลายไปแล้ว แต่ภายใต้ความช่วยเหลือของยาของหลินเฟิง ตอนนี้ถังหว่านก็ก้าวเข้าสู่เส้นทางนักบู๊ใหม่อีกครั้งถึงแม้จะไม่ได้แข็งแกร่งสักเท่าไหร่ แต่ก็ชนะตรงที่ลงมืออย่างฉับพลันตั้งแต่ที่ถังหว่านเข้ามาข้างใน ก็แสดงความอ่อนแออยู่ตลอดรู้ว่าคืนนี้ไม่มีทางได้รับสิ่งอื่นจากหลงเซียว ดังนั้นตอนนี้จึงต้องหนีออกจากสถานที่อันตรายให้ได้เร็วที่สุดเป็นดี“หือ?! นังนี่...”หลงเซียวเห็นถังหว่านจู่ๆ ก็เกิดคิดหนี เธอกลับลุกขึ้นยืนจากโซฟาช้าๆเมื่อเผชิญหน้ากับแผนการของถังหว่านแบบนี้ ถึงแม้เธอจะประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ลนลาน และถึงขั้นที่พูดอย่างนึกสนุกว่า:“ถังหว่าน เธอคงไม่คิดว่าเธอจะหนีไปได้จริงๆ หรอกนะ?”เป็นอย่างที่คิดไม่นานนัก ถังหว่า
“วางใจได้ ฉันไม่มีทางให้เธอตาย”หลงเซียวตบไหล่ของถังหว่าน และยิ้มพูดว่า:“แต่ว่า ก็แค่ต้องจ่ายค่าเสียหายเยอะหน่อยก็เท่านั้นเอง”ได้ยินคำพูดของหลงเซียว ถังหว่านถลึงตาโตทันทีนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอสัมผัสถึงความหวาดกลัวใช่แล้ว หวาดกลัวผู้หญิงคนนั้นที่หยิ่งยโส สง่างาม สวยหยาดเยิ้มมาโดยตลอด กลับรู้สึกไร้ที่พึ่ง หวาดกลัว ถึงขั้นที่เจ็บปวดแบบนี้เป็นครั้งแรก “ไม่...ไม่เอา...”ถังหว่านใบหน้าตื่นตระหนก“เธอไม่อยากถอดเองไม่ใช่เหรอ? งั้นก็ให้ฉันช่วยเธอ!”บอกให้คนที่อยู่ซ้ายขวาออกแรงจับถังหว่านเอาไว้ หลงเซียวยื่นมีดเล่มเล็กที่อยู่ในมือออกไป กรีดเสื้อคลุมของถังหว่านโดยตรง เผยให้เห็นผิวพรรณขาวผ่องกับชุดชั้นในสีขาวล้วน“เอ๊ะ? คิดไม่ถึงเลยนะถังหว่าน ภายนอกเธอใจกล้าหน้าด้านขนาดนี้ ภายในกลับรักสงวนมากเลยนะ!”“ไม่คิดว่าจะใส่ชุดชั้นในของเด็กสาวแบบนี“เธอคงไม่ได้บริสุทธิ์หรอกนะ?”เห็นถังหว่านกัดฟันไม่พูดจา หลงเซียวเหมือนได้รับของที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง เธอหัวเราะเสียงดังอย่างไม่อยากจะเชื่อ และมองไปทางซ้ายขวาและพูดว่า:“ทุกๆ ท่าน ถังหว่านของตระกูลถังคนนี้ คุณหนูตระกูลถังที่มีชื่อเสียงอย่าง
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ
“ตอนนี้ ฉันถามพวกนายตอบ”หลินเฟิงค่อยๆ เดินเข้าไปหาจวงฉุน เหยียดมองลงที่ชายผู้ล้มอยู่บนพื้น และตกใจจนหน้าซีดเผือด“คุณ...คุณว่ามาครับ คุณว่า...ผม...ผมจะบอกคุณทุกอย่าง”จวงฉุนในตอนนี้รู้สึกกลัวจนสติแตก ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่“เมื่อวาน อุปกรณ์ไฮเอนด์ล็อตหนึ่งของหลี่ซื่อกรุ๊ป ถูกคนขโมยและทำลายระหว่างทาง...”“เป็นฝีมือพวกผม!”เมื่อจวงฉุนได้ยินเช่นนี้ น้ำตาก็เริ่มไหลออกมา รีบยอมรับทันทีเขากราบหลินเฟิงไม่หยุดและพูดว่า:“ขอโทษครับคุณหลิน เรื่องนี้พวกเราเป็นคนทำจริงๆ แต่เราแค่ถูกใช้เป็นปืนเท่านั้น! หลงซิ่วจากตระกูลหลงสั่งให้พวกเราทำ เขาสั่งให้พวกเราทำ พวกเราก็ไม่กล้าขัดคำสั่งนะครับ!”การได้ยินคำวิงวอนของจวงฉุนซึ่งแทบจะเป็นเหมือนการขอความเมตตาเริ่นโหย่วไฉที่อยู่ข้างๆ ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอต้องรู้ไว้ว่า ผู้ชายคนนี้เคยคุยโม้กับเขามาก่อนว่า เขาทำได้ดีแค่ไหนและเผาผลาญมันได้คล่องแคล่วแค่ไหนท่าทางหยิ่งยโส มีท่าทางเหมือน “ถูกบังคับ” ที่ไหนกัน?แต่ตอนนี้เริ่นโหย่วไฉไม่กล้าที่จะพูดอะไรเกรงว่าจะเดินตามรอยของสวีโจวการตายแบบนี้ มันน่าหวาดกลัวมากเกินไป ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยด้วยซ
“พวกเราไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวอยู่ในเมืองเจิ้งเต๋ออีกต่อไป!”“ทุกคนฟังคำสั่งของฉัน ลุย!”คำสั่งของจวงฉุนมีน้ำหนักมากกว่าคำสั่งของสวีโจวอย่างเห็นได้ชัดไม่ใช่แค่เพราะเงื่อนไขที่จวงฉุนเสนอมาดึงดูดพวกเขามากเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะพวกเขาไม่เคยรู้ถึงความสามารถของหลินเฟิงว่าเป็นอย่างไรกันแน่คนธรรมดาหลายคนรวมกันอาจเปรียบเป็นขงเบ้งได้ในความคิดของพวกเขา ความสามารถของหลินเฟิงเป็นอย่างไรกันแน่ พวกเขาก็มองไม่เห็นแต่สิ่งที่เป็นความจริงคือพวกเขากลับสามารถมองเห็นข้อได้เปรียบของพวกเขาจากจำนวนคนบวกกับพลังอำนาจของหลงซิ่วด้วยหลังจากครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ที่เดิม นักบู๊ตระกูลหลงประมาณสิบกว่าคนในที่สุดก็ตัดสินใจได้แล้ว และล้อมรอบหลินเฟิงเอาไว้ทีละคนวันนี้สู้ดูสักตั้งถ้าไม่สำเร็จก็ต้องตาย!"แม่งเอ๊ย จวงฉุนไอ้สารเลวตัวน้อย!"ในที่เกิดเหตุมีเพียงสวีโจวเท่านั้น ที่รู้ว่าการปิดล้อมครั้งนี้เป็นการไปตายโดยที่ไม่ต้องคิดด้วยซ้ำเขาเกลียดจวงฉุนมาก จนถึงขั้นมีความคิดอยากฆ่าเขาด้วยซ้ำแต่ทว่าจวงฉุนกลับแสยะยิ้มมองดูสวีโจว และพูดอย่างเย็นชา:“สวีโจว อย่าทำเป็นเสแสร้งอยู่ตรงนี้ รอให้ภารกิจในครั้งน
"อะ......"จางฉุนไม่เข้าใจว่าหลินเฟิงกำลังพูดอะไร เขาพาคนเหล่านี้มาที่นี่ เป้าหมายเพียงเพื่อจับตัวอิ่นนั่วเจียไปเขารู้ว่าหลินเฟิงเป็นนักบู๊และจัดการยากสักหน่อยเพราะงั้นถึงเรียกคนของตัวเองมาแต่อะไรที่เรียกว่า “พาผู้กระทำความผิดมาตรงหน้าเขาโดยตรง” ?ในตอนนี้เอง สวีโจวที่อยู่ไกลออกไปก็คำรามออกมาอย่างกะทันหัน“นาย... ฉันจำได้ นายคือหลินเฟิง! นายคือ... นายคือคนของหลี่ซื่อกรุ๊ป! หลินเฟิงหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ป!”"อะไรนะ?"เมื่อได้ยินชื่อนี้ จางฉุนก็หันหน้ามองไปที่หลินเฟิงด้วยสีหน้าที่น่าเหลือเชื่อเพราะเขาเคยได้ยินชื่อหลินเฟิงเขาได้ยินมาจากหลงซิ่วว่า ข้อห้ามประการเดียวในการปฏิบัติการครั้งนี้คือการปะทะกับหลินเฟิงตัวซวยคนนี้หลงซิ่วเตือนจางฉุนซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ระวังหลินเฟิงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะพัฒนาไปเกินความคาดหมายของเขา“โอ้? ดูท่าพวกคุณจะรู้จักผม”หลินเฟิงเดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มจากนั้นรัศมีแห่งความหวาดกลัวก็ค่อยๆ แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา อุณหภูมิทั่วทั้งห้องทำงานก็ลดลงมากกว่าสิบองศาในพริบตาเดียวแม้แต่ชาที่มีไอร้อนลอยออกมาเมื่อครู่นี้บนโต๊ะ
“บ้าเอ๊ย ทนไม่ไหวแล้ว!”จวงฉุนรีบถีบประตูห้องทำงานของหัวหน้าโรงงานทันทีสิ่งแรกที่เขาเห็นคือเริ่นโหย่วไฉที่เหงื่อไหลท่วมตัวและยืนอยู่ตรงนั้นอย่างโง่เขลาและอิ่นนั่วเจียผู้มีเสน่ห์กำลังนั่งอยู่บนโซฟา“อิอิอิ…”จวงฉุนเลียริมฝีปากและเผยรอยยิ้มหื่นกามออกมาทันทีตอนนี้เขาโยนคำพูดของเริ่นโหย่วไฉไปไกลโพ้นทันที เพียงแค่จ้องมองไปที่หุบเขาที่คอเสื้อของอิ่นนั่วเจียแล้วแสยะยิ้มพูดว่า:“คุณอิ่นนั่วเจีย ผมมารับคุณแล้ว”"โอ้?"ใครจะไปรู้ว่ารอยยิ้มของจวงฉุนไม่ได้ทำให้อิ่นนั่วเจียตกใจหรืองุนงง เธอยิ้มให้จวงฉุนแล้วพูดว่า:"ฉันรอคุณมานานแล้ว""รอผม?"จวงฉุนตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะออกมา“ที่แท้คุณหญิงอิ่นนั่วเจียก็สนใจผมด้วย ดังนั้นการเตรียมการทั้งหมดนี้เกินความจำเป็นไปแล้ว!”ขณะที่จวงฉุนกำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง สวีโจวที่เดินเข้ามาเห็นอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้เถ้าแก่ในห้องทำงาน สีหน้าของเขาดูตกตะลึงเล็กน้อย“พี่สวี มีอะไรหรือเปล่า?”นักบู๊ตระกูลหลงที่อยู่ด้านหลังเขาเห็นท่าทางแปลกๆ ของสวีโจว จึงรีบถามแต่สวีโจวกลับไม่สนใจคนข้างหลังเขา กลับก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขน