หลี่อิงเฉิงมองชายคนนี้ที่ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา เห็นได้ชัดว่าเขากำลังยิ้มอยู่ แต่กลับทำให้เขาหวาดกลัวอย่างไม่มีสติ และมันไม่ได้ดีไปกว่าการได้เห็นรอยยิ้มของราชาพญายมเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าเขาจะทำเรื่องปล้นและฆ่าแบบนี้มาไม่น้อยก็ตามแต่กลับไม่เคยเห็นการต่อสู้เพียงฝ่ายเดียวเหมือนกับหลินเฟิงมาก่อนเลยสิ่งนี้ทิ้งเงามืดไว้ในจิตใจลึก ๆของหลี่อิงเฉิง“แก...อย่าเข้ามา!”ไม่รู้ว่าหลี่อิงเฉิงคว้ากริชจากที่ไหนออกมา ก่อนจะจับหลี่เยว่หรูให้มาอยู่ในมือของตัวเอง แล้วจ่อกริชไว้ที่ลำคอของเธอ“ถ้าแกเข้ามาอีก ฉันจะฆ่าเธอซะ!”กริชถูกกดลงที่ต้นคอของหลี่เยวหรูโดยตรง ก่อนที่เลือดจะค่อย ๆหยดลงมาจากเส้นเลือดที่ถูกตัดเมื่อได้คำขู่ที่อ่อนแอของหลี่อิงเฉิง หลินเฟิงก็ยกมือและพูดว่า“คุณคิดว่าผมจะสนใจความเป็นคามตายของเธอหรือเปล่าล่ะ?”หลี่เยว่หรูที่ถูกหลี่อิงเฉิงจับเป็นตัวเอาไว้ ก็รู้สึกหวาดกลัวจากจนใบหน้าขาวซีดและมีอาการสั่งเทา ก่อนจะร้องขอความช่วยเหลือจากหลินเฟิงเป็นระยะ ๆจนจาฟังไม่เข้าใจ“ช่วย...ช่วยฉันด้วย ขอร้อง หลิน...หลิน...”“เอ๊ะ คุณหลี่เยว่หรู อย่ามาขอร้องผมเลย เกรงว่าตัวคุณเองก็คงรู้ดีกว่าใคร ๆว่าก่
“ไม่...ไม่!”หลี่ก่วงเฉิงเดิมคิดว่าสามารถถือโอกาสหลบหนีไปได้ แต่คิดไม่ถึงว่าในตอนที่เขาจะปีนขึ้นรถสำเร็จ และหนีรอดไปได้ กลับถูกหลินเฟิงลากกลับไปอีกครั้งเมื่อเห็นว่าความหวังที่จะรอดชีวิตห่างไกลตัวเองออกไป หลี่ก่วงเฉิงดิ้นรนเหมือนคุ้มคลั่งแต่นี่ไม่มีประโยชน์แม้แต่นิดหลินเฟิงเหยียบแขนของเขาจนหัก ทำให้เขาได้รับการปฏิบัติเหมือนอย่างหลี่อิงเฉิงทันใดนั้นเขาเหมือนกับหมาตาย ไม่มีแรงดิ้นรนอีกด้วยซ้ำ“ให้ผมดูหน่อย ควรจะจัดการพวกคุณอย่างไรดีนะ?”มองดูหลี่ก่วงเฉิงกับหลี่อิงเฉิงสองพี่น้องที่ทรุดนั่งอยู่บนพื้น หลินเฟิงหันไปมองหลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่ในรถอันที่จริงหลินเฟิงเป็นกังวลความรู้สึกของหลี่ฮุ่ยหรานถ้าหากตามปกติ สวะแบบนี้เขาไม่มีทางไว้ชีวิตอย่างแน่นอน ฆ่าทิ้งซะให้หมดเรื่องแต่ในเมื่อสองคนนี้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับหลี่ฮุ่ยหราน ยิ่งเป็นลูกชายแท้ๆ ของนายท่านหลี่ไห่เจียงฆ่าพวกเขาทิ้งไปแบบนี้โดยตรง ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก“ขอร้องคุณล่ะ คุณหลิน อ่อไม่ ท่านหลิน ขอร้องคุณไว้ชีวิตผมด้วย ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของหลี่ก่วงเฉิงนะครับ!”ตอนนี้หลี่อิงเฉิงไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องอีกแล้
“เอาล่ะ ในเมื่อเป็นแบบนี้...”ในตอนที่หลินเฟิงหันหน้ามองไปทางหลี่ฮุ่ยหราน คิดว่าควรจะพาสองคนนี้ไปที่ตระกูลหลี่ได้อย่างไร ข้างๆ กลับมีเสียงกรีดร้องตะโกนที่แสบแก้วหูของหลี่เยว่หรู“ไปตายเถอะ!”“เอื้อกกกก!”หลินเฟิงหันหน้ามองไปพบอย่างกะทันหันว่าหลี่เยว่หรูไม่รู้เก็บมีดสปาต้ามาจากที่ไหน ถือโอกาสในตอนที่เขาหันหน้ากลับไป ในตอนที่ไม่ได้สังเกต เธอก็ฟันไปที่คอของหลี่อิงเฉิงโดยตรงมีดนี้ถูกฟันลงไปแบบนี้ แต่ทว่าหลี่อิงเฉิงไม่ทันได้ตั้งตัวในปากอมเลือดไว้ มองหลี่เยว่หรูที่หายใจหอบด้วยความเหลือเชื่อ สามในสี่ของรอบคอของเขาถูกหลี่เยว่หรูฟันขาดหลี่อิงเฉิงถลึงตาโตชักกระตุกดิ้นรน เห็นได้ชัดว่าไม่รอดแล้ว“เธอทำอะไรน่ะ?!”หลินเฟิงเพิ่งตัดสินใจพาเดนมนุษย์สองคนนี้กลับไปที่ตระกูลหลี่ กลับพบว่าหลี่เยว่หรูแอบโจมตีหลี่อิงเฉิง ฟันศีรษะของเขาจนขาด“แฮ่กแฮ่กแฮ่ก...”หลี่เยว่หรูถือมีดสปาต้าไว้ หายใจหอบนั่งทรุดลงบนพื้นและหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”“สมควร แกสวมควรแล้วล่ะ! แกแม่งหลอกฉัน! แกสมควรแล้ว!”หลี่เยว่หรูด่าทอเสียงดังใส่หลี่เยว่เฉิงที่ตายตาไม่หลับ ส่วนหลินเฟิงรู้สึกเงียบต่อภา
อันที่จริงจ้าวเทียนหวาก็ทุ่มเทให้กับฟาร์มนี้ไปไม่น้อยเลยการก่อสร้างโฮมสเตย์ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจ้าวเทียนหวาเพื่อที่จะผลักดันโครงการนี้สร้างให้สำเร็จส่วนใหญ่จ้าวเทียนหวาใช้ทรัพยากรของบริษัทเทียนหัวอินเตอร์เนชั่นแนล และยังส่งทีมงานหลายสิบคนมาดำเนินการก่อสร้างในเวลาเดียวกันโชคดีที่คราวนี้หลี่ก่วงเฉิงและหลี่อิงเฉิงไม่ได้เผาอาคารกับวิลล่าที่พวกเขาสร้างขึ้นไม่อย่างนั้น จ้าวเทียนหวาคงจะนำคนส่วนของตัวเองพุ่งเข้าไปแล้วในขณะนี้เมื่อได้ยินว่าคนเหล่านี้ถูกหลินเฟิงจัดการไปแล้ว จ้าวเทียนหวาก็พ่นลมหายใจออกมาด้วยความไม่พอใจและวางสายไปโดยที่ไม่พูดอะไรเมื่อมาถึงตระกูลหลี่ หลินเฟิงก็มองเห็นนายท่านหลี่ไห่เจียงและผู้มีตำแหน่งสูงคนอื่น ๆที่รออยู่ตรงประตูใหญ่ รวมทั้งหลี่ก่วงเฉิงและผู้ตำแหน่งสูงของตระกูลหลี่หลี่หยวน หลี่ฟางและคนอื่น ๆต่างก็อยู่กันทั้งหมดแม้แต่หลิ่วเยว่ฟางกับโจวอวี้เฟิ่งและคนอื่น ๆก็ออกมาเหมือนกันแวบแรกที่เห็นพวกเขา หลินเฟิงก็เข้าใจว่า ทางด้านนี้หลี่ฮุ่ยหรานได้โทรมาหาพวกเขาล่วงหน้าแล้วโจวอวี้เฟิ่งในขณะนี้มีความกังวลราวกับมดที่อยู่บนหม้อไฟถ้าลูกสาวของเธอเป็นอะไรไป
“หลี่ฮุ่ยหรานบอกว่าเยว่หรูโทรบอกให้เธอมาที่นี่ เธอมีหลักฐานหรือเปล่า?!”“พ่อ กงเฉิง อย่าไปเชื่อในสิ่งที่พวกเขาพูดอยู่ฝ่ายเดียวนะ!”“ใครบ้างไม่รู้ว่าหลินเฟิงสามารถต่อสู้ได้?”โจวอวี้เฟิ่งพูดคำพวกนี้ ก่อนจะมองไปทางหลี่ก่วงเฉิงที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นพร้อมกับใบหน้าที่กระตุกเขาไม่รู้จริง ๆนั้นแหละเพราะว่าเขาเคยถามเรื่องของหลินเฟิงกับโจวอวี้เฟิ่ง ก่อนจะประเมินและได้คำตอบเพียงสี่คำเท่านั้น“อดีตสามีที่ไร้ประโยชน์”คำนี้ก็เป็นสาเหตุที่ก่อนหน้านี้หลี่ก่วงเฉิงเผชิญหน้ากับหลินเฟิงได้อย่างไร้ยางอายแบบนั้นแต่เขากลับไม่รู้ว่าอดีตสามีคนนี้เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของโจวอวี้เฟิ่งที่มีต่อหลินเฟิงเท่านั้นมันไม่ได้หมายความว่าหลินเฟิงจะไร้ประโยชน์จริง ๆเรื่องนี้ จนกระทั่งตอนนี้เขามองดูโจวอวี้เฟิ่งถึงได้เข้าใจทันใดนั้นในใจก็รู้สึกเกลียดชังอย่างมากคำพูดของโจวอวี้เฟิ่งยังไม่จบ ก่อนที่เธอจะมองไปรอบ ๆและพูดว่า“หลินเฟิงกับหลี่ฮุ่ยหรานเป็นอะไรสำหรับพวกเรา? เป็นคนนอก!”“แม้ว่าพวกเราจะยอมรับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้เป็นคนของตระกูลหลี่เมืองเจียนหนาน คำพูดของคนนอกทั้งสองคนมัน
“อะไรนะ?!”“นี่...นี่มันไม่เหมือนกับที่หลี่ฮุ่ยหรานพูดเหรอ?!”“ฝ่ายไหนที่พูดเรื่องจริงกันแน่?!”“ถ้าอย่างนั้นหลี่ฮุ่ยหรานก็ต้องเจ้าเล่ห์มากเลยนะสิ?!”เมื่อได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ที่วุ่นวายของคนตระกูลหลี่ที่อยู่โดยรอบ หลินเฟิงที่ไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ แต่กลับมองไปที่หลี่เยว่หรูที่อยู่ในอ้อมแขนของโจวอวี้เฟิ่ง พร้อมกับพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า“หลี่เยว่หรู คนเราควรจะมีจิตสำนึก ฉันไม่รู้ว่าเธอจะฟังเข้าใจหรือเปล่า แต่วันนี้ฉันก็ช่วยชีวิตเธอเอาไว้นะ”“หากตอบแทนคุณด้วยการบูชาโทษ คราวหน้า...เกรงว่าคงจะไม่มีอะไรดีแบบนี้อีก”หลี่เยว่หรูที่ไม่กล้าสบตากับหลินเฟิง พร้อมกับพูดอย่างดันทุรังว่า“คุณคิดเอาเองฝ่ายเดียว ฉันต้องการให้คุณช่วยฉันตอนไหน?!”หลี่เยว่หรูลบความจำในการขอความช่วยเหลือจากหลินเฟิงก่อนหน้านี้ไปโดยสิ้นเชิงโจวอวี้เฟิ่งชี้ไปที่หลินเฟิง และตะโกนพูดไปทางคนตระกูลหลี่ที่อยู่โดยรอบว่า“ดูสิ ทุกคนดูให้ดี!”“ช่างเป็นคนที่อวดดีจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าจะข่มขู่ลูกสาวของฉันต่อหน้าทุกคนในตระกูลหลี่ของพวกเราที่นี่อย่างโจ่งแจ้ง!”“ยังจะมีความยุติธรรมอีกงั้นเหรอ?!”“คราวนี้ ใครพูดความจริง ใครโกหก ก็
นี่เป็นฟาร์มที่เขาจัดการบริหารมาครึ่งชีวิตเขามีความผูกพันธ์ต่อฟาร์มอย่างลึกซึ้ง ไม่อย่างนั้น เขาคงจะเปลี่ยนสถานที่ที่ทิวทัศน์งดงามจับตาแห่งนี้ให้กลายเป็นโรงงานตั้งนานแล้วหลังจากเห็นลูกชายของตัวเองยอมรับว่า เขาเป็นคนเผาฟาร์ม นายท่านหลี่ไห่เจียงน้ำตาไหลด้วยความเสียใจเห็นนายท่านจะยืนหยัดไม่ไหวแล้วหลี่กงเฉิงขมวดคิ้ว อยากจะดึงโทรศัพท์กลับมา ไม่ให้นายท่านหลี่ไห่เจียงดูต่อแต่ใครจะคิดว่าคุณปู่ตระกูลหลี่ดื้อรั้นอย่างมาก จะดูให้ตบให้ได้ดังนั้นจึงจนปัญญา ทุกคนทำได้แค่ดูเป็นเพื่อนคุณปู่ตระกูลหลี่ต่อไปหลังจากนั้นก็เป็นการเปิดศึกของหลินเฟิงเพราะทิศทางไม่ถูกต้อง ดังนั้นเครื่องบันทึกการขับขี่ถ่ายไม่ติด เพียงแต่เห็นภาพที่หลี่อิงเฉิงใช้มีดข่มขู่หลี่เยว่หรูพอดี“ถ้าแกกล้าเข้ามา ฉันจะฆ่าเธอซะ!”ในวิดีโอ ท่าทางโหดร้ายทารุณของหลี่อิงเฉิงชัดเจนแจ่มแจ้ง ส่วนหลี่เยว่หรูที่ถูกเขาควบคุมไว้ กลับตกใจจนหน้าซีดเซียวจากนั้นขอความช่วยเหลือไปทางหลินเฟิงไม่หยุด“ช่วย…ช่วยช่วยช่วยฉัน ขอร้องคุณล่ะ หลิน…หลิน…”เห็นภาพนี้ คนตระกูลหลี่ส่งสายตาของตัวเองไปทางหลี่เยว่หรู ส่วนในตอนนี้หรี่เยว่หรูเหมือนเถ้าที
“เธอยังอยากขอความเมตตาอีกงั้นเหรอ?”คุณปู่ตระกูลหลี่เหลือบมองโจวอวี้เฟิ่งอย่างเย็นชา และพูดเรียบๆ: “โจวอวี้เฟิ่ง ลงโทษด้วยกฎตระกูลเช่นกัน ห้าสิบแส้ ตบหน้าหนึ่งร้อยครั้ง!”“อ๊ะ?!”โจวอวี้เฟิ่งได้ยินนายท่านหลี่ไห่เจียงลงโทษโดยไม่อ่อนข้อให้แม้แต่น้อย คนทั้งคนทรุดนั่งลงบนพื้น ในดวงตาเลื่อนลอยทันทีสุดท้าย เธอถูกผู้คุ้มกันของตระกูลหลี่หิ้วปีกไปสุดท้ายยังมีหลี่ก่วงเฉิงที่ยังมีชีวิตรอดมาได้นายท่านหลี่ไห่เจียงส่งสายตาไปทางลูกชายเดียรัจฉานของตัวเอง ความสงสารสุดท้ายในสายตาได้หายสาบสูญไปโดยสิ้นเชิง จากนั้นส่ายหน้าพูดว่า:“ตอนนั้นพี่ใหญ่ตำหนิฉัน บอกว่าฉันมีภรรยาหลายคนเกินไป และตอนนั้นฉันกลับคิดว่า ภรรยาเยอะ ก็จะได้เพิ่มลูกชายให้ตระกูล ทำให้ตระกูลหลี่เจริญรุ่งเรือง”“ตอนนี้ดูแล้ว….หึ…”นายท่านหลี่ไห่เจียงยิ้มอย่างขมขื่น มองไปทางหลี่กงเฉิงพูดว่า:“ลูกหลานเยอะแยะ แต่กลับไม่มีสักคนที่ใช้การได้ มีเพียงกงเฉิงยังถือว่าแบ่งแยกผิดชอบชั่วดีได้ เข้าใจสถานการณ์โดยรวม”จากนั้น นายท่านหลี่ไห่เจียงก็มองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานอีก และพูดอย่างชื่นใจ:“เดิมทีฉันแต่งตั้งฮุ่ยหรานให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกผู้นำตระก
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ
“ตอนนี้ ฉันถามพวกนายตอบ”หลินเฟิงค่อยๆ เดินเข้าไปหาจวงฉุน เหยียดมองลงที่ชายผู้ล้มอยู่บนพื้น และตกใจจนหน้าซีดเผือด“คุณ...คุณว่ามาครับ คุณว่า...ผม...ผมจะบอกคุณทุกอย่าง”จวงฉุนในตอนนี้รู้สึกกลัวจนสติแตก ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่“เมื่อวาน อุปกรณ์ไฮเอนด์ล็อตหนึ่งของหลี่ซื่อกรุ๊ป ถูกคนขโมยและทำลายระหว่างทาง...”“เป็นฝีมือพวกผม!”เมื่อจวงฉุนได้ยินเช่นนี้ น้ำตาก็เริ่มไหลออกมา รีบยอมรับทันทีเขากราบหลินเฟิงไม่หยุดและพูดว่า:“ขอโทษครับคุณหลิน เรื่องนี้พวกเราเป็นคนทำจริงๆ แต่เราแค่ถูกใช้เป็นปืนเท่านั้น! หลงซิ่วจากตระกูลหลงสั่งให้พวกเราทำ เขาสั่งให้พวกเราทำ พวกเราก็ไม่กล้าขัดคำสั่งนะครับ!”การได้ยินคำวิงวอนของจวงฉุนซึ่งแทบจะเป็นเหมือนการขอความเมตตาเริ่นโหย่วไฉที่อยู่ข้างๆ ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอต้องรู้ไว้ว่า ผู้ชายคนนี้เคยคุยโม้กับเขามาก่อนว่า เขาทำได้ดีแค่ไหนและเผาผลาญมันได้คล่องแคล่วแค่ไหนท่าทางหยิ่งยโส มีท่าทางเหมือน “ถูกบังคับ” ที่ไหนกัน?แต่ตอนนี้เริ่นโหย่วไฉไม่กล้าที่จะพูดอะไรเกรงว่าจะเดินตามรอยของสวีโจวการตายแบบนี้ มันน่าหวาดกลัวมากเกินไป ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยด้วยซ
“พวกเราไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวอยู่ในเมืองเจิ้งเต๋ออีกต่อไป!”“ทุกคนฟังคำสั่งของฉัน ลุย!”คำสั่งของจวงฉุนมีน้ำหนักมากกว่าคำสั่งของสวีโจวอย่างเห็นได้ชัดไม่ใช่แค่เพราะเงื่อนไขที่จวงฉุนเสนอมาดึงดูดพวกเขามากเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะพวกเขาไม่เคยรู้ถึงความสามารถของหลินเฟิงว่าเป็นอย่างไรกันแน่คนธรรมดาหลายคนรวมกันอาจเปรียบเป็นขงเบ้งได้ในความคิดของพวกเขา ความสามารถของหลินเฟิงเป็นอย่างไรกันแน่ พวกเขาก็มองไม่เห็นแต่สิ่งที่เป็นความจริงคือพวกเขากลับสามารถมองเห็นข้อได้เปรียบของพวกเขาจากจำนวนคนบวกกับพลังอำนาจของหลงซิ่วด้วยหลังจากครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ที่เดิม นักบู๊ตระกูลหลงประมาณสิบกว่าคนในที่สุดก็ตัดสินใจได้แล้ว และล้อมรอบหลินเฟิงเอาไว้ทีละคนวันนี้สู้ดูสักตั้งถ้าไม่สำเร็จก็ต้องตาย!"แม่งเอ๊ย จวงฉุนไอ้สารเลวตัวน้อย!"ในที่เกิดเหตุมีเพียงสวีโจวเท่านั้น ที่รู้ว่าการปิดล้อมครั้งนี้เป็นการไปตายโดยที่ไม่ต้องคิดด้วยซ้ำเขาเกลียดจวงฉุนมาก จนถึงขั้นมีความคิดอยากฆ่าเขาด้วยซ้ำแต่ทว่าจวงฉุนกลับแสยะยิ้มมองดูสวีโจว และพูดอย่างเย็นชา:“สวีโจว อย่าทำเป็นเสแสร้งอยู่ตรงนี้ รอให้ภารกิจในครั้งน
"อะ......"จางฉุนไม่เข้าใจว่าหลินเฟิงกำลังพูดอะไร เขาพาคนเหล่านี้มาที่นี่ เป้าหมายเพียงเพื่อจับตัวอิ่นนั่วเจียไปเขารู้ว่าหลินเฟิงเป็นนักบู๊และจัดการยากสักหน่อยเพราะงั้นถึงเรียกคนของตัวเองมาแต่อะไรที่เรียกว่า “พาผู้กระทำความผิดมาตรงหน้าเขาโดยตรง” ?ในตอนนี้เอง สวีโจวที่อยู่ไกลออกไปก็คำรามออกมาอย่างกะทันหัน“นาย... ฉันจำได้ นายคือหลินเฟิง! นายคือ... นายคือคนของหลี่ซื่อกรุ๊ป! หลินเฟิงหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ป!”"อะไรนะ?"เมื่อได้ยินชื่อนี้ จางฉุนก็หันหน้ามองไปที่หลินเฟิงด้วยสีหน้าที่น่าเหลือเชื่อเพราะเขาเคยได้ยินชื่อหลินเฟิงเขาได้ยินมาจากหลงซิ่วว่า ข้อห้ามประการเดียวในการปฏิบัติการครั้งนี้คือการปะทะกับหลินเฟิงตัวซวยคนนี้หลงซิ่วเตือนจางฉุนซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ระวังหลินเฟิงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะพัฒนาไปเกินความคาดหมายของเขา“โอ้? ดูท่าพวกคุณจะรู้จักผม”หลินเฟิงเดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มจากนั้นรัศมีแห่งความหวาดกลัวก็ค่อยๆ แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา อุณหภูมิทั่วทั้งห้องทำงานก็ลดลงมากกว่าสิบองศาในพริบตาเดียวแม้แต่ชาที่มีไอร้อนลอยออกมาเมื่อครู่นี้บนโต๊ะ
“บ้าเอ๊ย ทนไม่ไหวแล้ว!”จวงฉุนรีบถีบประตูห้องทำงานของหัวหน้าโรงงานทันทีสิ่งแรกที่เขาเห็นคือเริ่นโหย่วไฉที่เหงื่อไหลท่วมตัวและยืนอยู่ตรงนั้นอย่างโง่เขลาและอิ่นนั่วเจียผู้มีเสน่ห์กำลังนั่งอยู่บนโซฟา“อิอิอิ…”จวงฉุนเลียริมฝีปากและเผยรอยยิ้มหื่นกามออกมาทันทีตอนนี้เขาโยนคำพูดของเริ่นโหย่วไฉไปไกลโพ้นทันที เพียงแค่จ้องมองไปที่หุบเขาที่คอเสื้อของอิ่นนั่วเจียแล้วแสยะยิ้มพูดว่า:“คุณอิ่นนั่วเจีย ผมมารับคุณแล้ว”"โอ้?"ใครจะไปรู้ว่ารอยยิ้มของจวงฉุนไม่ได้ทำให้อิ่นนั่วเจียตกใจหรืองุนงง เธอยิ้มให้จวงฉุนแล้วพูดว่า:"ฉันรอคุณมานานแล้ว""รอผม?"จวงฉุนตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะออกมา“ที่แท้คุณหญิงอิ่นนั่วเจียก็สนใจผมด้วย ดังนั้นการเตรียมการทั้งหมดนี้เกินความจำเป็นไปแล้ว!”ขณะที่จวงฉุนกำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง สวีโจวที่เดินเข้ามาเห็นอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้เถ้าแก่ในห้องทำงาน สีหน้าของเขาดูตกตะลึงเล็กน้อย“พี่สวี มีอะไรหรือเปล่า?”นักบู๊ตระกูลหลงที่อยู่ด้านหลังเขาเห็นท่าทางแปลกๆ ของสวีโจว จึงรีบถามแต่สวีโจวกลับไม่สนใจคนข้างหลังเขา กลับก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขน