“เอาล่ะ ในเมื่อเป็นแบบนี้...”ในตอนที่หลินเฟิงหันหน้ามองไปทางหลี่ฮุ่ยหราน คิดว่าควรจะพาสองคนนี้ไปที่ตระกูลหลี่ได้อย่างไร ข้างๆ กลับมีเสียงกรีดร้องตะโกนที่แสบแก้วหูของหลี่เยว่หรู“ไปตายเถอะ!”“เอื้อกกกก!”หลินเฟิงหันหน้ามองไปพบอย่างกะทันหันว่าหลี่เยว่หรูไม่รู้เก็บมีดสปาต้ามาจากที่ไหน ถือโอกาสในตอนที่เขาหันหน้ากลับไป ในตอนที่ไม่ได้สังเกต เธอก็ฟันไปที่คอของหลี่อิงเฉิงโดยตรงมีดนี้ถูกฟันลงไปแบบนี้ แต่ทว่าหลี่อิงเฉิงไม่ทันได้ตั้งตัวในปากอมเลือดไว้ มองหลี่เยว่หรูที่หายใจหอบด้วยความเหลือเชื่อ สามในสี่ของรอบคอของเขาถูกหลี่เยว่หรูฟันขาดหลี่อิงเฉิงถลึงตาโตชักกระตุกดิ้นรน เห็นได้ชัดว่าไม่รอดแล้ว“เธอทำอะไรน่ะ?!”หลินเฟิงเพิ่งตัดสินใจพาเดนมนุษย์สองคนนี้กลับไปที่ตระกูลหลี่ กลับพบว่าหลี่เยว่หรูแอบโจมตีหลี่อิงเฉิง ฟันศีรษะของเขาจนขาด“แฮ่กแฮ่กแฮ่ก...”หลี่เยว่หรูถือมีดสปาต้าไว้ หายใจหอบนั่งทรุดลงบนพื้นและหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”“สมควร แกสวมควรแล้วล่ะ! แกแม่งหลอกฉัน! แกสมควรแล้ว!”หลี่เยว่หรูด่าทอเสียงดังใส่หลี่เยว่เฉิงที่ตายตาไม่หลับ ส่วนหลินเฟิงรู้สึกเงียบต่อภา
อันที่จริงจ้าวเทียนหวาก็ทุ่มเทให้กับฟาร์มนี้ไปไม่น้อยเลยการก่อสร้างโฮมสเตย์ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจ้าวเทียนหวาเพื่อที่จะผลักดันโครงการนี้สร้างให้สำเร็จส่วนใหญ่จ้าวเทียนหวาใช้ทรัพยากรของบริษัทเทียนหัวอินเตอร์เนชั่นแนล และยังส่งทีมงานหลายสิบคนมาดำเนินการก่อสร้างในเวลาเดียวกันโชคดีที่คราวนี้หลี่ก่วงเฉิงและหลี่อิงเฉิงไม่ได้เผาอาคารกับวิลล่าที่พวกเขาสร้างขึ้นไม่อย่างนั้น จ้าวเทียนหวาคงจะนำคนส่วนของตัวเองพุ่งเข้าไปแล้วในขณะนี้เมื่อได้ยินว่าคนเหล่านี้ถูกหลินเฟิงจัดการไปแล้ว จ้าวเทียนหวาก็พ่นลมหายใจออกมาด้วยความไม่พอใจและวางสายไปโดยที่ไม่พูดอะไรเมื่อมาถึงตระกูลหลี่ หลินเฟิงก็มองเห็นนายท่านหลี่ไห่เจียงและผู้มีตำแหน่งสูงคนอื่น ๆที่รออยู่ตรงประตูใหญ่ รวมทั้งหลี่ก่วงเฉิงและผู้ตำแหน่งสูงของตระกูลหลี่หลี่หยวน หลี่ฟางและคนอื่น ๆต่างก็อยู่กันทั้งหมดแม้แต่หลิ่วเยว่ฟางกับโจวอวี้เฟิ่งและคนอื่น ๆก็ออกมาเหมือนกันแวบแรกที่เห็นพวกเขา หลินเฟิงก็เข้าใจว่า ทางด้านนี้หลี่ฮุ่ยหรานได้โทรมาหาพวกเขาล่วงหน้าแล้วโจวอวี้เฟิ่งในขณะนี้มีความกังวลราวกับมดที่อยู่บนหม้อไฟถ้าลูกสาวของเธอเป็นอะไรไป
“หลี่ฮุ่ยหรานบอกว่าเยว่หรูโทรบอกให้เธอมาที่นี่ เธอมีหลักฐานหรือเปล่า?!”“พ่อ กงเฉิง อย่าไปเชื่อในสิ่งที่พวกเขาพูดอยู่ฝ่ายเดียวนะ!”“ใครบ้างไม่รู้ว่าหลินเฟิงสามารถต่อสู้ได้?”โจวอวี้เฟิ่งพูดคำพวกนี้ ก่อนจะมองไปทางหลี่ก่วงเฉิงที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นพร้อมกับใบหน้าที่กระตุกเขาไม่รู้จริง ๆนั้นแหละเพราะว่าเขาเคยถามเรื่องของหลินเฟิงกับโจวอวี้เฟิ่ง ก่อนจะประเมินและได้คำตอบเพียงสี่คำเท่านั้น“อดีตสามีที่ไร้ประโยชน์”คำนี้ก็เป็นสาเหตุที่ก่อนหน้านี้หลี่ก่วงเฉิงเผชิญหน้ากับหลินเฟิงได้อย่างไร้ยางอายแบบนั้นแต่เขากลับไม่รู้ว่าอดีตสามีคนนี้เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของโจวอวี้เฟิ่งที่มีต่อหลินเฟิงเท่านั้นมันไม่ได้หมายความว่าหลินเฟิงจะไร้ประโยชน์จริง ๆเรื่องนี้ จนกระทั่งตอนนี้เขามองดูโจวอวี้เฟิ่งถึงได้เข้าใจทันใดนั้นในใจก็รู้สึกเกลียดชังอย่างมากคำพูดของโจวอวี้เฟิ่งยังไม่จบ ก่อนที่เธอจะมองไปรอบ ๆและพูดว่า“หลินเฟิงกับหลี่ฮุ่ยหรานเป็นอะไรสำหรับพวกเรา? เป็นคนนอก!”“แม้ว่าพวกเราจะยอมรับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้เป็นคนของตระกูลหลี่เมืองเจียนหนาน คำพูดของคนนอกทั้งสองคนมัน
“อะไรนะ?!”“นี่...นี่มันไม่เหมือนกับที่หลี่ฮุ่ยหรานพูดเหรอ?!”“ฝ่ายไหนที่พูดเรื่องจริงกันแน่?!”“ถ้าอย่างนั้นหลี่ฮุ่ยหรานก็ต้องเจ้าเล่ห์มากเลยนะสิ?!”เมื่อได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ที่วุ่นวายของคนตระกูลหลี่ที่อยู่โดยรอบ หลินเฟิงที่ไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ แต่กลับมองไปที่หลี่เยว่หรูที่อยู่ในอ้อมแขนของโจวอวี้เฟิ่ง พร้อมกับพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า“หลี่เยว่หรู คนเราควรจะมีจิตสำนึก ฉันไม่รู้ว่าเธอจะฟังเข้าใจหรือเปล่า แต่วันนี้ฉันก็ช่วยชีวิตเธอเอาไว้นะ”“หากตอบแทนคุณด้วยการบูชาโทษ คราวหน้า...เกรงว่าคงจะไม่มีอะไรดีแบบนี้อีก”หลี่เยว่หรูที่ไม่กล้าสบตากับหลินเฟิง พร้อมกับพูดอย่างดันทุรังว่า“คุณคิดเอาเองฝ่ายเดียว ฉันต้องการให้คุณช่วยฉันตอนไหน?!”หลี่เยว่หรูลบความจำในการขอความช่วยเหลือจากหลินเฟิงก่อนหน้านี้ไปโดยสิ้นเชิงโจวอวี้เฟิ่งชี้ไปที่หลินเฟิง และตะโกนพูดไปทางคนตระกูลหลี่ที่อยู่โดยรอบว่า“ดูสิ ทุกคนดูให้ดี!”“ช่างเป็นคนที่อวดดีจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าจะข่มขู่ลูกสาวของฉันต่อหน้าทุกคนในตระกูลหลี่ของพวกเราที่นี่อย่างโจ่งแจ้ง!”“ยังจะมีความยุติธรรมอีกงั้นเหรอ?!”“คราวนี้ ใครพูดความจริง ใครโกหก ก็
นี่เป็นฟาร์มที่เขาจัดการบริหารมาครึ่งชีวิตเขามีความผูกพันธ์ต่อฟาร์มอย่างลึกซึ้ง ไม่อย่างนั้น เขาคงจะเปลี่ยนสถานที่ที่ทิวทัศน์งดงามจับตาแห่งนี้ให้กลายเป็นโรงงานตั้งนานแล้วหลังจากเห็นลูกชายของตัวเองยอมรับว่า เขาเป็นคนเผาฟาร์ม นายท่านหลี่ไห่เจียงน้ำตาไหลด้วยความเสียใจเห็นนายท่านจะยืนหยัดไม่ไหวแล้วหลี่กงเฉิงขมวดคิ้ว อยากจะดึงโทรศัพท์กลับมา ไม่ให้นายท่านหลี่ไห่เจียงดูต่อแต่ใครจะคิดว่าคุณปู่ตระกูลหลี่ดื้อรั้นอย่างมาก จะดูให้ตบให้ได้ดังนั้นจึงจนปัญญา ทุกคนทำได้แค่ดูเป็นเพื่อนคุณปู่ตระกูลหลี่ต่อไปหลังจากนั้นก็เป็นการเปิดศึกของหลินเฟิงเพราะทิศทางไม่ถูกต้อง ดังนั้นเครื่องบันทึกการขับขี่ถ่ายไม่ติด เพียงแต่เห็นภาพที่หลี่อิงเฉิงใช้มีดข่มขู่หลี่เยว่หรูพอดี“ถ้าแกกล้าเข้ามา ฉันจะฆ่าเธอซะ!”ในวิดีโอ ท่าทางโหดร้ายทารุณของหลี่อิงเฉิงชัดเจนแจ่มแจ้ง ส่วนหลี่เยว่หรูที่ถูกเขาควบคุมไว้ กลับตกใจจนหน้าซีดเซียวจากนั้นขอความช่วยเหลือไปทางหลินเฟิงไม่หยุด“ช่วย…ช่วยช่วยช่วยฉัน ขอร้องคุณล่ะ หลิน…หลิน…”เห็นภาพนี้ คนตระกูลหลี่ส่งสายตาของตัวเองไปทางหลี่เยว่หรู ส่วนในตอนนี้หรี่เยว่หรูเหมือนเถ้าที
“เธอยังอยากขอความเมตตาอีกงั้นเหรอ?”คุณปู่ตระกูลหลี่เหลือบมองโจวอวี้เฟิ่งอย่างเย็นชา และพูดเรียบๆ: “โจวอวี้เฟิ่ง ลงโทษด้วยกฎตระกูลเช่นกัน ห้าสิบแส้ ตบหน้าหนึ่งร้อยครั้ง!”“อ๊ะ?!”โจวอวี้เฟิ่งได้ยินนายท่านหลี่ไห่เจียงลงโทษโดยไม่อ่อนข้อให้แม้แต่น้อย คนทั้งคนทรุดนั่งลงบนพื้น ในดวงตาเลื่อนลอยทันทีสุดท้าย เธอถูกผู้คุ้มกันของตระกูลหลี่หิ้วปีกไปสุดท้ายยังมีหลี่ก่วงเฉิงที่ยังมีชีวิตรอดมาได้นายท่านหลี่ไห่เจียงส่งสายตาไปทางลูกชายเดียรัจฉานของตัวเอง ความสงสารสุดท้ายในสายตาได้หายสาบสูญไปโดยสิ้นเชิง จากนั้นส่ายหน้าพูดว่า:“ตอนนั้นพี่ใหญ่ตำหนิฉัน บอกว่าฉันมีภรรยาหลายคนเกินไป และตอนนั้นฉันกลับคิดว่า ภรรยาเยอะ ก็จะได้เพิ่มลูกชายให้ตระกูล ทำให้ตระกูลหลี่เจริญรุ่งเรือง”“ตอนนี้ดูแล้ว….หึ…”นายท่านหลี่ไห่เจียงยิ้มอย่างขมขื่น มองไปทางหลี่กงเฉิงพูดว่า:“ลูกหลานเยอะแยะ แต่กลับไม่มีสักคนที่ใช้การได้ มีเพียงกงเฉิงยังถือว่าแบ่งแยกผิดชอบชั่วดีได้ เข้าใจสถานการณ์โดยรวม”จากนั้น นายท่านหลี่ไห่เจียงก็มองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานอีก และพูดอย่างชื่นใจ:“เดิมทีฉันแต่งตั้งฮุ่ยหรานให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกผู้นำตระก
เผชิญหน้ากับคำขู่ของคุณปู่ตระกูลหลี่ หลิ่วเยว่ฟางทำได้แค่ก้มหน้า ไม่กล้าพูดอีกแม้แต่ประโยคเดียวมองดูคนตระกูลหลี่ที่อยู่รอบๆ เผยสีหน้าไม่ยอมแพ้ออกมา หลินเฟิงรู้ว่า ถ้าหากตอนนี้ให้หลี่ฮุ่ยหรานเป็นผู้สืบทอดผู้นำตระกูล เกรงว่าไม่สามารถเอาชนะทุกคนได้เมื่อครู่คำพูดของหลิ่วเยว่ฟาง ก็คือสะท้อนให้เห็นภาพของทัศนคติของคนตระกูลหลี่ถึงแม้จะเห็นแก่หน้าของนายท่านหลี่ไห่เจียง ทุกคนไม่กล้าต่อต้านอย่างโจ่งแจ้ง แต่ลับหลังไม่ให้ความร่วมมือหลี่ฮุ่ยหราน งั้นต่อไปการทำงานของหลี่ฮุ่ยหรานก็จะดำเนินการไปได้ยากพวกเขาจำเป็นต้องเอาความสามารถที่แท้จริงๆ ออกมาเห็นแบบนี้ หลินเฟิงประสานมือคารวะนายท่านหลี่ไห่เจียง“คุณปู่หลี่ไห่เจียง”“ก่อนหน้านี้ผมกับฮุ่ยหรานเคยเดิมพันกับท่านเอาไว้ ถ้าหากฟาร์มของพวกเราสามารถทำกำไรได้ภายในสองเดือน ทำเงินได้ถึงห้าพันล้านบาท เช่นนั้นฮุ่ยหรานก็คือผู้สืบทอดผู้นำตระกูลคนต่อไป”“ผมคิดว่าคนเราถ้าหากผิดคำพูด ก็ไม่สามารถมีจุดยืนในสังคมได้ ดังนั้นการเดิมพันของพวกเรายังคงมีผลอยู่”“หือ?”ได้ยินคำพูดเหล่านี้ของหลินเฟิง นายท่านหลี่ไห่เจียงงงงันเล็กน้อยเพราะว่าเขาคิดไม่ถึงว่าตัวเองไ
ในเมื่อพวกเขาคิดไม่ออกว่าหลินเฟิงจะสามารถทำเงินห้าพันล้านผ่านการทำโฮมสเตย์ ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนได้อย่างไรอีกทั้งถ้าหากหลินเฟิงออกจากเมืองเจียงโจว เช่นนั้นตระกูลหลี่ก็จะควบคุมตระกูลหลี่มณฑลเจียงหนานได้อีกครั้งนายท่านหลี่ไห่เจียงก็ไม่สามารถพูดอะไรได้นี่ตรงกับความต้องการของพวกเขาพอดี“ในเมื่อเป็นแบบนี้ เรื่อในวันนี้ก็พอเท่านี้แหละ หลินเฟิง ฮุ่ยหราน หวังว่าพวกเธอจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง”พูดจบประโยคสุดท้าย นายท่านหลี่ไห่เจียงก็หันหลังเดินกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลหลี่“หลินเฟิง”หลี่ฮุ่ยหรานยังคงเหมือนกับเมื่อก่อนมองดูคนตระกูลหลี่พากันเดินจากไป เธอก็ได้เปิดเผยสีหน้าที่แท้จริงของตัวเองออกมาสักที จับชายเสื้อของหลินเฟิงไว้ พูดด้วยท่าทางน่าสงสาร:“ทำได้จริงๆ งั้นเหรอ? เรา...พวกเราทำไม่ได้หรอกมั้ง...นั่นเป็นเงินห้าพันล้านบาทเชียวนะ!”เห็นประธานสาวภูเขาน้ำแข็งในอดีตตอนนี้กลับเผยสีหน้าท่าทางเหมือนสาวน้อยที่ได้รับความไม่ยุติธรรมเป็นอย่างยิ่งออกมา ต่างกับภาพลักษณ์ภายนอกของผู้หญิงแกร่งที่เด็ดเดี่ยวมีความมั่นใจเมื่อครู่นี้หลินเฟิงอดยิ้มออกมาไม่ได้“คนบ้า คุณยิ้มอะไรน่ะ?!”หลี่ฮุ่ยหรานห
ได้ยินการวิเคราะห์ของหลินเฟิง เฝิงเอ้อกับเฝิงชางถลึงตาโตทันที“เฝิงหลี?!”หรือว่าเมื่อครู่เฝิงหลีถือโอกาสตอนที่พวกเขาไม่ได้สังเกต วางยาพิษเฝิงอวี้อู่เป็นครั้งที่สองงั้นเหรอ?!ดังนั้นหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวเพิ่งรักษาจนดีขึ้นเล็กน้อย ก็ได้อาการหนักขึ้นทันที ?“ไอ้สารเลว ผมจะไปจับตัวเขามาถามเดี๋ยวนี้!”เฝิงเอ้ออารมณ์ร้อน ตะโกนเสียงดังด้วยความโมโหทันที“หยุดก่อน!”เฝิงชางกลับตะโกนเสียงดัง จ้องมองเฝิงเอ้อแล้วพูดว่า:“หรือว่านายอยากให้ตระกูลเฝิงของเราตายงั้นเหรอ?”“ไม่พูดก่อนว่านี่เป็นคำพูดของไอ้หมอนี่ฝ่ายเดียว ต่อให้ไอ้หนุ่มคนนี้พูดจริง หรือว่าพวกเราจะแตกหักกับเฝิงหลีจริงๆ งั้นเหรอ?!”“ถ้าหากไอ้หมอนี่รักษาไม่หาย งั้นพวกเราตระกูลเฝิงจะทำยังไง?!”เผชิญหน้ากับการสอบถามของเฝิงชาง เฝิงเอ้อนิ่งอึ้งอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายก็โมโหจนทรุดนั่งลงกับพื้น“แม่งเอ๊ย แบนี้ก็ไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่ได้ ทำให้ผมโมโหตายไปเลยเถอะ!”เมื่อเห็นว่าน้องรองของตัวเองโมโหขนาดนี้ เฝิงชางก็รู้สึกเชื่อความสามารถของหลินเฟิงขึ้นมาเล็กน้อย เขาจึงรีบถามว่า:“หลินเฟิง ถ้าหากคุณสามารถรักษาอวี้อู่กับหมอเทวดาเลี่ยวจนหายได
เลี่ยวจื้อหมิงอายุเยอะขนาดนี้ ถูกพวกเขาทำแบบนี้ ยังไงก็ต้องอายุสั้นลงสองปี“หลินเฟิง ผมเตือนคุณว่าทางที่ดีอย่างวู่วาม”“ยาพิษนี้แม้แต่หมอเทวดาเลี่ยวก็โดนโดยที่ไม่ระวัง ทางที่ดีนายช่างใจให้ดีเฝิงชางสีหน้าเย็นชา“หึ ไม่ฟังคำเตือนของผม ตอนนี้เสนอตัวออกมาแสร้งเป็นคนดีงั้นเหรอ?”หลินเฟิงไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ อะไรต่อผู้นำตระกูลเฝิง เขาสามารถอยู่ที่นี่ได้ เป็นเพราะผลประโยชน์ล้วนๆ“เพียงแค่ผมช่วยเฝิงอวี้อู่ให้รอดได้ คุณก็จะบอกข่าวของหยินหลิงให้กับผมใช่ไหม?”“หยินหลิง?”ผู้นำตระกูลเฝิงนิ่งอึ้ง“ผู้นำตระกูล หยินหลิงก็คือชื่อของผู้นำตระกูลกลุ่มพันธมิตรบู๊”เฝิงเอ้อที่อยู่ข้างๆ รีบพูดขึ้น“......”สีหน้าของเฝิงชางอึดอัดเล็กน้อย ในเมื่อเมื่อครู่เขาบอกตำแหน่งของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ไปแล้ว อยู่ที่เรือนด้านหลังของตระกูลเฝิงของพวกเขาคราวนี้ หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊น่าจะถูกเขาพาตัวไปแล้วเป้าหมายก็เพื่อมอบให้กับผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษต่อให้เป็นแบบนี้ เฝิงชางพยักหน้าพูดว่า:“แต่ตอนนี้บวกกับหมอเทวดาเลี่ยว ในเมื่อคุณสามารถช่วยลูกชายของผมให้รอดได้ งั้นก็ช่วยหมอเทวดาเลี่ยวด้วยคงไม่ยากใช่
“เร็ว! น้องรอง อย่ามัวแต่ยืนอยู่ รีบไปเชิญอาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยว!”“พี่ใหญ่ อาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยวเป็นยอดฝีมือคนไหนกัน เขาไม่ได้พูด พวกเราจะรู้ได้ยังไง?!”เฝิงเอ้อที่ยืนอยู่ตรงประตูก็งุนงงเช่นเดียวกันหมอเทวดาลั่วตายอยู่ที่ตระกูลเฝิงของพวกเขา เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่แล้วเฝิงเอ้อรู้ดีเช่นกัน“พี่ใหญ่ เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว พี่มอบตัวหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรออกมาอย่างว่าง่ายดีกว่า แบบนี้ผมยังสามารถขอร้องให้ผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษถอนพิษให้ได้ ไม่อย่างนั้น จะไม่ทันการณ์แล้วจริงๆ!”เฝิงหลีใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์“ได้...ฉันมอบตัวให้! ฉันมอบให้!”เฝิงชางร้อนใจแล้ว ถ้าหากแค่ลูกชายของเขา งั้นเขายังสามารถสงบสติเลือกที่จะรับหรือไม่รับได้ และคิดถึงอนาคตของตระกูลแต่ชีวิตของหมอเทวดาเลี่ยงกลับไม่สามารถผิดพลาดได้หากเมื่อหมอเทวดาเลี่ยวเสียชีวิต พวกเขาตระกูลเฝิงก็จบสิ้นแล้ว“หึหึ วางใจเถอะพี่ใหญ่ มีผมอยู่ หมอเทวดาเลี่ยวกับหลานอวี้อู่ ไม่มีทางเป็นอันตรายอย่างแน่นอน”เฝิงหลียิ้มอย่างลำพองใจมากที่สุดแผนการของเขาในที่สุดก็สำเร็จแล้วต่อไป ผู้นำตระกูลของตระกูลเฝิงก็จะกลายเป็นเขาเฝิงหลีต
เฝิงอวี้อู่สงบลงแล้วแต่ตอนนี้สีหน้าของเขากลับดูแย่ลงกว่าเดิม ลมหายใจก็เปลี่ยนไปอ่อนแรง ถึงขั้นมีแต่ถอนหายใจ ไม่มีหายใจเข้าผิวทั่วตัวเริ่มคล้ำขึ้น“หมอเทวดาเลี่ยว นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!”เฟิงชางวิตกกังวลมากจนไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อครู่ลูกชายของเขาเพิ่งดีขึ้น มันแย่ลงอีกแล้วเหรอ?“ผมดูหน่อย!”หมอเทวดาเลี่ยวถอดเข็มเงินที่เจาะเข้าไปในเส้นลมปราณหลักของเฝิงอวี้อู่ออกโดยตรง ใส่ไว้ในมือแล้วหมุน สีหน้าก็เปลี่ยนไป“หมอเทวดาเลี่ยวเป็นอะไรเหรอครับ?”เฝิงชางขยับเข้ามาถามใกล้ๆ ส่วนเฝิงเอ้อที่อยู่ไกลออกไปกลับเหม่อลอยเล็กน้อยเพราะว่าในตอนนี้จู่ๆ เขาก็นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของหลินเฟิงขึ้นมาได้“อย่าลืมบอกหมอเทวาดาเลี่ยว ห้ามใช้มือสัมผัสเข็มเงินโดยตรง พิษนี้ต่อให้โดนแค่ผิวหนัง ก็ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว”“หมอเทวดาเลี่ยว!”เฟิงเอ้ออดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา“หือ?”หมอเทวดาเลี่ยวกับเฝิงชางหันหน้ามาส่วนเฟิงเอ้อยังคงยื่นมือออกไป เขาต้องการพูดสิ่งที่หลินเฟิงเตือนไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ดูไม่เหมาะสมนักหมอเทวดาเลี่ยวไม่รู้ว่ามันมีพิษเหรอ ต้องให้นายเตือนด้วย?สุดท้ายเฝิงเอ้ออ้าปาก แต่สุดท้ายก็ส่ายหน
เขาฝังเข็มโดนใช้ใจอย่างมาก แต่ละเข็มฝังลงไปได้อย่างแม่นยำในที่สุดหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวฝังเข็มสุดท้ายลงบนหน้าอกของเฝิงอวี้อู่ ความมืดบนใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ลดลงอย่างน่าอัศจรรย์แม้แต่ลมหายใจก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย“เอ๊ะ?”เมื่อเห็นภาพนี้ เฝิงหลีที่อยู่ไกลออกไปดูตกใจ“นี่คือยาล้างพิษ แม้จะไม่ได้ผลเท่ากับยาของอาจารย์ของผม แต่ก็เป็นแบบจำลองที่วิจัยออกมาโดยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของผม”ขณะพูด หมอเทวดาเลี่ยวยัดยาเม็ดสีเหลืองขนาดเท่าลำไยเข้าไปในปากของเฝิงอวี้อู่ยาเม็ดนี้ทานเข้าไปแล้วจะน้ำลายไหล ในสายตาของทุกคน ยาเม็ดนั้นกลายเป็นลูกบอลสีเหลืองไหลลงคอของเฝิงอวี้อู่ทันทีส่วนเฝิงอวี้อู่กลับไอสองครั้งในขณะที่หมดสติใบหน้าก็แดงก่ำอย่างผิดปกติ“ได้ผลจริงๆ ด้วย!”เห็นลูกชายของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฝิงชางตื่นเต้นมากจนเขาคุกเข่าให้หมอเทวดาเลี่ยวทันที“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาเลี่ยว ก่อนหน้านี้คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆ!”เฝิงชางเห็นภาพนี้ คิดว่าลูกชายของตัวเองรอดแล้ว เมื่อครู่เป็นแค่คำถ่อมตัวของหมอเทวดาเลี่ยวและในตอนนี้หมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเพราะวิธีการที่
เมื่อดูแบบนี้ เป็นที่น่าตื่นตะลึงหัวใจของหมอเทวดาเลี่ยวก็กระตุกมองแค่ใบหน้า ก็รู้ว่าคุณชายเฝิงอยู่ได้ไม่นานแล้ว หน้าผากเต็มไปด้วยอากาศสีดำ ใบหน้าดูเหมือนตายแล้ว นี่มันถูกพิษที่ไหนกันนี่เป็นการยื้อลมหายใจสุดท้ายด้วยซ้ำ!หากปล่อยลมหายใจสุดท้ายนี้ออกมา คุณชายตระกูลเฝิงคงจะตายไปนานแล้ว“เป็นยังไงบ้าง? หมอเทวดาเลี่ยว?”เฝิงชางและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ รีบถามด้วยความกังวลนี่คือลูกชายของเขา ยังเป็นความหวังสำหรับอนาคตของตระกูลเฝิงของพวกเขาอีกด้วย ตอนนี้เห็นลูกชายกลายเป็นแบบนี้ หัวใจของเฝิงชางแทบจะแตกสลาย“ผู้นำตระกูลเฝิงไม่ต้องร้อนใจ”หน้าผากของหมอเทวดาเลี่ยวเต็มไปด้วยเหงื่อถ้าหากพูดว่าเมื่อครู่เขายังรู้สึกว่าตัวเองมีความหวัง สามารถใช้ความคิดส่วนตัวของตัวเองได้ แต่ตอนนี้ หัวใจของเขาจมลงสู่ก้นบึ้งแค่มองรูปลักษณ์ภายนอกของคุณชายเฝิง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้อาจารย์ของเขามา เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถช่วยกลับมาได้“เฮ้อ…”หมอเทวดาเลี่ยวถอนหายใจ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน“พิษที่คุณชายเฝิงโดนได้แทรกซึมเข้าอวัยวะภายในแล้ว เกรงว่ากระเพาะทะลุลำไส้เน่าไปแล้ว เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย”“ผมทำ
ไม่ต้องพูดถึงหมอเทวดาเลี่ยวที่มีสถานะอันสูงส่งเลยพูดไร้สาระมากกว่านี้ นั่นก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัวถ้าอีกฝ่ายโกรธและปฏิเสธที่จะทำการรักษา ตระกูลเฝิงจะหันไปพึ่งใครได้?หรือว่าจะไปหาหลินเฟิงคนนั้นงั้นเหรอ?“เมืองเจิ้งเต๋อ?”หมอเทวดาเลี่ยวตกตะลึงเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าช่วงนี้หลินเฟิงอยู่ที่เมืองเจิ้งเต๋อ แต่เมื่อเห็นท่าทางของตระกูลเฝิงในเวลานี้ เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้จึงทำได้แค่พยักหน้า ความสงสัยนี้วางเอาไว้ก่อนในเมื่อเมืองเจิ้งเต๋อมีคนมากมาย แต่คนที่สามารถกำเริบเสิบสานที่ตระกูลเฝิงได้กลับมีไม่เยอะหมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกสงสัยเป็นธรรมดา“หึหึ หมอเทวดาเลี่ยว เชิญทางด้านนี้ครับ”เฝิงชางนำทางอยู่ข้างหน้า พาหมอเทวดาเลี่ยวไปที่ชั้นลอยโบราณ ทุกคนเพิ่งผลักประตูเขาไปก็ได้รับกลิ่นหอมที่รุนแรงของยา“อืม? เทียนหลงเสียน เจิ้นเฟิงจือ…”ยังไม่ได้เข้าห้อง หมอเทวดาเลี่ยวก็ย่นปลายจมูก ได้กลิ่นหอมอันล้ำค่าของสมุนไพรสมบัติล้ำค่าจำนวนมากได้ยินหมอเทวดาเลี่ยวพูดชื่อยาสมุนไพรมากกว่าสิบชนิดที่ไม่ขาดไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงชางและเฟิงเอ้อค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นรีบพยักหน้าพูดว่า:“หมอเทวดา
“เดี๋ยวนะไอ้หนุ่ม สมองของนายไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”“ชู่วชู่วชู่ว อย่าเพิ่งพูด ให้ไอ้หมอนี่พูดพร่ำเพ้อไปเถอะ ให้หมอเทวดาเลี่ยวกราบเขา พรวด...”ทั้งสองคนพากันหัวเราะจนปวดท้องเนื่องด้วยคำพูดโอ้อวดของหลินเฟิงหมอเทวดาเลี่ยวมีสถานะอะไร?ทำไมจะต้องคุกเข่ากราบให้นายเด็กหนุ่มที่ไม่มีชื่อเสียง และอวดดีอย่างบ้าระห่ำแบบนี้ด้วย?เขายิ้มบางพูดว่า:“ถ้าหากผมพูดได้ไม่ถูกต้อง เช่นนั้นผมจะคุกเข่ากราบทั้งสองท่าน ชีวิตน้อยๆ ของผมก็จะปล่อยให้พวกคุณสองคนจัดการ”“แต่ถ้าหากผมพูดถูกต้อง...”หลินเฟิงมองไปทางทั้งสองคนและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า:“พวกคุณคุกเข่าลง และคลานจากตรงนี้ไปที่หน้าประตูจวนตระกูลเฝิง อีกทั้งขณะที่คลาน จะต้องเลียนแบบหมาเห่าด้วย เป็นยังไง?”เห็นหลินเฟิงเล่นจริง ผู้คุ้มกันทั้งสองนิ่งอึ้งเล็กน้อยพวกเขาเห็นสีหน้าที่จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของหลินเฟิง ในใจก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยดูยังไง ไอ้หมอนี่ก็ตั้งใจล่อให้พวกเขาติดกับชัดๆแต่ว่าการเดิมพันเกินเหตุไปหน่อยไหมให้หมอเทวดาเลี่ยว หมอเทวดาเมืองจิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังกราบตรงหน้าเขา อีกทั้งขอร้องให้เขาลงมือรักษา?เรื่องแบบนี้พูดออกไปใคร
“คุณท่านรอง ไอ้หมอนี่พาลเกเรที่ตระกูลเฝิงของเราครับ!”“ใช่ครับคุณท่านรอง ไอ้หมอนี่กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!””วันนี้พวกเราจะปิดประตูตีสุนัข สั่งสอนเขาอย่างดีสักหน่อย!”“หุบปาก”ฟังถึงตรงนี้ เฝิงเอ้อจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเหลือบมองหลินเฟิง ไม่ได้พูดขอโทษอะไร แต่กลับมองไปทางลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงและพูดอย่างเย็นชาว่า:“ผู้ที่มาเยือนคือแขก ตระกูลเฝิงของเราจะให้คนนอกหัวเราะเยาะไม่ได้”“แยกย้ายไปให้หมด!”“แต่ว่าคุณท่านรอง...”“ทำไม?”เฝิงเอ้อถลึงตาใส่ และพูดด้วยความโมโห:“ไม่ฟังคำสั่งของฉันงั้นเหรอ?”“......”เห็นเฝิงเอ้อแสดงอำนาจ ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงที่อยู่ในเหตุการณ์ทำได้แค่ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ และพากันแยกย้าย ก่อนจะเดินออกไป ก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่หลินเฟิง“คุณหลินเฟิง ไม่ว่าคุณจะมองตระกูลเฝิงของเรายังไง ลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมาอบรมสั่งสอน”“หวังว่าคุณจะเข้าใจ”หลังจากพูดคำเหล่านี้จบ เฝิงเอ้อก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหลินเฟิงได้ยินแบบนี้ ก็รู้ว่าเฝิงเอ้อคนนี้ไม่ได้รู้สึกคาดหวังอะไรต่อเขาเลยสักนิด สำหรับเรื่องที่หลินเฟิงพูดว่าสามารถแก้พิษให้อวี