“ไม่...ไม่!”หลี่ก่วงเฉิงเดิมคิดว่าสามารถถือโอกาสหลบหนีไปได้ แต่คิดไม่ถึงว่าในตอนที่เขาจะปีนขึ้นรถสำเร็จ และหนีรอดไปได้ กลับถูกหลินเฟิงลากกลับไปอีกครั้งเมื่อเห็นว่าความหวังที่จะรอดชีวิตห่างไกลตัวเองออกไป หลี่ก่วงเฉิงดิ้นรนเหมือนคุ้มคลั่งแต่นี่ไม่มีประโยชน์แม้แต่นิดหลินเฟิงเหยียบแขนของเขาจนหัก ทำให้เขาได้รับการปฏิบัติเหมือนอย่างหลี่อิงเฉิงทันใดนั้นเขาเหมือนกับหมาตาย ไม่มีแรงดิ้นรนอีกด้วยซ้ำ“ให้ผมดูหน่อย ควรจะจัดการพวกคุณอย่างไรดีนะ?”มองดูหลี่ก่วงเฉิงกับหลี่อิงเฉิงสองพี่น้องที่ทรุดนั่งอยู่บนพื้น หลินเฟิงหันไปมองหลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่ในรถอันที่จริงหลินเฟิงเป็นกังวลความรู้สึกของหลี่ฮุ่ยหรานถ้าหากตามปกติ สวะแบบนี้เขาไม่มีทางไว้ชีวิตอย่างแน่นอน ฆ่าทิ้งซะให้หมดเรื่องแต่ในเมื่อสองคนนี้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับหลี่ฮุ่ยหราน ยิ่งเป็นลูกชายแท้ๆ ของนายท่านหลี่ไห่เจียงฆ่าพวกเขาทิ้งไปแบบนี้โดยตรง ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก“ขอร้องคุณล่ะ คุณหลิน อ่อไม่ ท่านหลิน ขอร้องคุณไว้ชีวิตผมด้วย ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของหลี่ก่วงเฉิงนะครับ!”ตอนนี้หลี่อิงเฉิงไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องอีกแล้
“เอาล่ะ ในเมื่อเป็นแบบนี้...”ในตอนที่หลินเฟิงหันหน้ามองไปทางหลี่ฮุ่ยหราน คิดว่าควรจะพาสองคนนี้ไปที่ตระกูลหลี่ได้อย่างไร ข้างๆ กลับมีเสียงกรีดร้องตะโกนที่แสบแก้วหูของหลี่เยว่หรู“ไปตายเถอะ!”“เอื้อกกกก!”หลินเฟิงหันหน้ามองไปพบอย่างกะทันหันว่าหลี่เยว่หรูไม่รู้เก็บมีดสปาต้ามาจากที่ไหน ถือโอกาสในตอนที่เขาหันหน้ากลับไป ในตอนที่ไม่ได้สังเกต เธอก็ฟันไปที่คอของหลี่อิงเฉิงโดยตรงมีดนี้ถูกฟันลงไปแบบนี้ แต่ทว่าหลี่อิงเฉิงไม่ทันได้ตั้งตัวในปากอมเลือดไว้ มองหลี่เยว่หรูที่หายใจหอบด้วยความเหลือเชื่อ สามในสี่ของรอบคอของเขาถูกหลี่เยว่หรูฟันขาดหลี่อิงเฉิงถลึงตาโตชักกระตุกดิ้นรน เห็นได้ชัดว่าไม่รอดแล้ว“เธอทำอะไรน่ะ?!”หลินเฟิงเพิ่งตัดสินใจพาเดนมนุษย์สองคนนี้กลับไปที่ตระกูลหลี่ กลับพบว่าหลี่เยว่หรูแอบโจมตีหลี่อิงเฉิง ฟันศีรษะของเขาจนขาด“แฮ่กแฮ่กแฮ่ก...”หลี่เยว่หรูถือมีดสปาต้าไว้ หายใจหอบนั่งทรุดลงบนพื้นและหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”“สมควร แกสวมควรแล้วล่ะ! แกแม่งหลอกฉัน! แกสมควรแล้ว!”หลี่เยว่หรูด่าทอเสียงดังใส่หลี่เยว่เฉิงที่ตายตาไม่หลับ ส่วนหลินเฟิงรู้สึกเงียบต่อภา
อันที่จริงจ้าวเทียนหวาก็ทุ่มเทให้กับฟาร์มนี้ไปไม่น้อยเลยการก่อสร้างโฮมสเตย์ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจ้าวเทียนหวาเพื่อที่จะผลักดันโครงการนี้สร้างให้สำเร็จส่วนใหญ่จ้าวเทียนหวาใช้ทรัพยากรของบริษัทเทียนหัวอินเตอร์เนชั่นแนล และยังส่งทีมงานหลายสิบคนมาดำเนินการก่อสร้างในเวลาเดียวกันโชคดีที่คราวนี้หลี่ก่วงเฉิงและหลี่อิงเฉิงไม่ได้เผาอาคารกับวิลล่าที่พวกเขาสร้างขึ้นไม่อย่างนั้น จ้าวเทียนหวาคงจะนำคนส่วนของตัวเองพุ่งเข้าไปแล้วในขณะนี้เมื่อได้ยินว่าคนเหล่านี้ถูกหลินเฟิงจัดการไปแล้ว จ้าวเทียนหวาก็พ่นลมหายใจออกมาด้วยความไม่พอใจและวางสายไปโดยที่ไม่พูดอะไรเมื่อมาถึงตระกูลหลี่ หลินเฟิงก็มองเห็นนายท่านหลี่ไห่เจียงและผู้มีตำแหน่งสูงคนอื่น ๆที่รออยู่ตรงประตูใหญ่ รวมทั้งหลี่ก่วงเฉิงและผู้ตำแหน่งสูงของตระกูลหลี่หลี่หยวน หลี่ฟางและคนอื่น ๆต่างก็อยู่กันทั้งหมดแม้แต่หลิ่วเยว่ฟางกับโจวอวี้เฟิ่งและคนอื่น ๆก็ออกมาเหมือนกันแวบแรกที่เห็นพวกเขา หลินเฟิงก็เข้าใจว่า ทางด้านนี้หลี่ฮุ่ยหรานได้โทรมาหาพวกเขาล่วงหน้าแล้วโจวอวี้เฟิ่งในขณะนี้มีความกังวลราวกับมดที่อยู่บนหม้อไฟถ้าลูกสาวของเธอเป็นอะไรไป
“หลี่ฮุ่ยหรานบอกว่าเยว่หรูโทรบอกให้เธอมาที่นี่ เธอมีหลักฐานหรือเปล่า?!”“พ่อ กงเฉิง อย่าไปเชื่อในสิ่งที่พวกเขาพูดอยู่ฝ่ายเดียวนะ!”“ใครบ้างไม่รู้ว่าหลินเฟิงสามารถต่อสู้ได้?”โจวอวี้เฟิ่งพูดคำพวกนี้ ก่อนจะมองไปทางหลี่ก่วงเฉิงที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นพร้อมกับใบหน้าที่กระตุกเขาไม่รู้จริง ๆนั้นแหละเพราะว่าเขาเคยถามเรื่องของหลินเฟิงกับโจวอวี้เฟิ่ง ก่อนจะประเมินและได้คำตอบเพียงสี่คำเท่านั้น“อดีตสามีที่ไร้ประโยชน์”คำนี้ก็เป็นสาเหตุที่ก่อนหน้านี้หลี่ก่วงเฉิงเผชิญหน้ากับหลินเฟิงได้อย่างไร้ยางอายแบบนั้นแต่เขากลับไม่รู้ว่าอดีตสามีคนนี้เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของโจวอวี้เฟิ่งที่มีต่อหลินเฟิงเท่านั้นมันไม่ได้หมายความว่าหลินเฟิงจะไร้ประโยชน์จริง ๆเรื่องนี้ จนกระทั่งตอนนี้เขามองดูโจวอวี้เฟิ่งถึงได้เข้าใจทันใดนั้นในใจก็รู้สึกเกลียดชังอย่างมากคำพูดของโจวอวี้เฟิ่งยังไม่จบ ก่อนที่เธอจะมองไปรอบ ๆและพูดว่า“หลินเฟิงกับหลี่ฮุ่ยหรานเป็นอะไรสำหรับพวกเรา? เป็นคนนอก!”“แม้ว่าพวกเราจะยอมรับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้เป็นคนของตระกูลหลี่เมืองเจียนหนาน คำพูดของคนนอกทั้งสองคนมัน
“อะไรนะ?!”“นี่...นี่มันไม่เหมือนกับที่หลี่ฮุ่ยหรานพูดเหรอ?!”“ฝ่ายไหนที่พูดเรื่องจริงกันแน่?!”“ถ้าอย่างนั้นหลี่ฮุ่ยหรานก็ต้องเจ้าเล่ห์มากเลยนะสิ?!”เมื่อได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ที่วุ่นวายของคนตระกูลหลี่ที่อยู่โดยรอบ หลินเฟิงที่ไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ แต่กลับมองไปที่หลี่เยว่หรูที่อยู่ในอ้อมแขนของโจวอวี้เฟิ่ง พร้อมกับพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า“หลี่เยว่หรู คนเราควรจะมีจิตสำนึก ฉันไม่รู้ว่าเธอจะฟังเข้าใจหรือเปล่า แต่วันนี้ฉันก็ช่วยชีวิตเธอเอาไว้นะ”“หากตอบแทนคุณด้วยการบูชาโทษ คราวหน้า...เกรงว่าคงจะไม่มีอะไรดีแบบนี้อีก”หลี่เยว่หรูที่ไม่กล้าสบตากับหลินเฟิง พร้อมกับพูดอย่างดันทุรังว่า“คุณคิดเอาเองฝ่ายเดียว ฉันต้องการให้คุณช่วยฉันตอนไหน?!”หลี่เยว่หรูลบความจำในการขอความช่วยเหลือจากหลินเฟิงก่อนหน้านี้ไปโดยสิ้นเชิงโจวอวี้เฟิ่งชี้ไปที่หลินเฟิง และตะโกนพูดไปทางคนตระกูลหลี่ที่อยู่โดยรอบว่า“ดูสิ ทุกคนดูให้ดี!”“ช่างเป็นคนที่อวดดีจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าจะข่มขู่ลูกสาวของฉันต่อหน้าทุกคนในตระกูลหลี่ของพวกเราที่นี่อย่างโจ่งแจ้ง!”“ยังจะมีความยุติธรรมอีกงั้นเหรอ?!”“คราวนี้ ใครพูดความจริง ใครโกหก ก็
นี่เป็นฟาร์มที่เขาจัดการบริหารมาครึ่งชีวิตเขามีความผูกพันธ์ต่อฟาร์มอย่างลึกซึ้ง ไม่อย่างนั้น เขาคงจะเปลี่ยนสถานที่ที่ทิวทัศน์งดงามจับตาแห่งนี้ให้กลายเป็นโรงงานตั้งนานแล้วหลังจากเห็นลูกชายของตัวเองยอมรับว่า เขาเป็นคนเผาฟาร์ม นายท่านหลี่ไห่เจียงน้ำตาไหลด้วยความเสียใจเห็นนายท่านจะยืนหยัดไม่ไหวแล้วหลี่กงเฉิงขมวดคิ้ว อยากจะดึงโทรศัพท์กลับมา ไม่ให้นายท่านหลี่ไห่เจียงดูต่อแต่ใครจะคิดว่าคุณปู่ตระกูลหลี่ดื้อรั้นอย่างมาก จะดูให้ตบให้ได้ดังนั้นจึงจนปัญญา ทุกคนทำได้แค่ดูเป็นเพื่อนคุณปู่ตระกูลหลี่ต่อไปหลังจากนั้นก็เป็นการเปิดศึกของหลินเฟิงเพราะทิศทางไม่ถูกต้อง ดังนั้นเครื่องบันทึกการขับขี่ถ่ายไม่ติด เพียงแต่เห็นภาพที่หลี่อิงเฉิงใช้มีดข่มขู่หลี่เยว่หรูพอดี“ถ้าแกกล้าเข้ามา ฉันจะฆ่าเธอซะ!”ในวิดีโอ ท่าทางโหดร้ายทารุณของหลี่อิงเฉิงชัดเจนแจ่มแจ้ง ส่วนหลี่เยว่หรูที่ถูกเขาควบคุมไว้ กลับตกใจจนหน้าซีดเซียวจากนั้นขอความช่วยเหลือไปทางหลินเฟิงไม่หยุด“ช่วย…ช่วยช่วยช่วยฉัน ขอร้องคุณล่ะ หลิน…หลิน…”เห็นภาพนี้ คนตระกูลหลี่ส่งสายตาของตัวเองไปทางหลี่เยว่หรู ส่วนในตอนนี้หรี่เยว่หรูเหมือนเถ้าที
“เธอยังอยากขอความเมตตาอีกงั้นเหรอ?”คุณปู่ตระกูลหลี่เหลือบมองโจวอวี้เฟิ่งอย่างเย็นชา และพูดเรียบๆ: “โจวอวี้เฟิ่ง ลงโทษด้วยกฎตระกูลเช่นกัน ห้าสิบแส้ ตบหน้าหนึ่งร้อยครั้ง!”“อ๊ะ?!”โจวอวี้เฟิ่งได้ยินนายท่านหลี่ไห่เจียงลงโทษโดยไม่อ่อนข้อให้แม้แต่น้อย คนทั้งคนทรุดนั่งลงบนพื้น ในดวงตาเลื่อนลอยทันทีสุดท้าย เธอถูกผู้คุ้มกันของตระกูลหลี่หิ้วปีกไปสุดท้ายยังมีหลี่ก่วงเฉิงที่ยังมีชีวิตรอดมาได้นายท่านหลี่ไห่เจียงส่งสายตาไปทางลูกชายเดียรัจฉานของตัวเอง ความสงสารสุดท้ายในสายตาได้หายสาบสูญไปโดยสิ้นเชิง จากนั้นส่ายหน้าพูดว่า:“ตอนนั้นพี่ใหญ่ตำหนิฉัน บอกว่าฉันมีภรรยาหลายคนเกินไป และตอนนั้นฉันกลับคิดว่า ภรรยาเยอะ ก็จะได้เพิ่มลูกชายให้ตระกูล ทำให้ตระกูลหลี่เจริญรุ่งเรือง”“ตอนนี้ดูแล้ว….หึ…”นายท่านหลี่ไห่เจียงยิ้มอย่างขมขื่น มองไปทางหลี่กงเฉิงพูดว่า:“ลูกหลานเยอะแยะ แต่กลับไม่มีสักคนที่ใช้การได้ มีเพียงกงเฉิงยังถือว่าแบ่งแยกผิดชอบชั่วดีได้ เข้าใจสถานการณ์โดยรวม”จากนั้น นายท่านหลี่ไห่เจียงก็มองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานอีก และพูดอย่างชื่นใจ:“เดิมทีฉันแต่งตั้งฮุ่ยหรานให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกผู้นำตระก
เผชิญหน้ากับคำขู่ของคุณปู่ตระกูลหลี่ หลิ่วเยว่ฟางทำได้แค่ก้มหน้า ไม่กล้าพูดอีกแม้แต่ประโยคเดียวมองดูคนตระกูลหลี่ที่อยู่รอบๆ เผยสีหน้าไม่ยอมแพ้ออกมา หลินเฟิงรู้ว่า ถ้าหากตอนนี้ให้หลี่ฮุ่ยหรานเป็นผู้สืบทอดผู้นำตระกูล เกรงว่าไม่สามารถเอาชนะทุกคนได้เมื่อครู่คำพูดของหลิ่วเยว่ฟาง ก็คือสะท้อนให้เห็นภาพของทัศนคติของคนตระกูลหลี่ถึงแม้จะเห็นแก่หน้าของนายท่านหลี่ไห่เจียง ทุกคนไม่กล้าต่อต้านอย่างโจ่งแจ้ง แต่ลับหลังไม่ให้ความร่วมมือหลี่ฮุ่ยหราน งั้นต่อไปการทำงานของหลี่ฮุ่ยหรานก็จะดำเนินการไปได้ยากพวกเขาจำเป็นต้องเอาความสามารถที่แท้จริงๆ ออกมาเห็นแบบนี้ หลินเฟิงประสานมือคารวะนายท่านหลี่ไห่เจียง“คุณปู่หลี่ไห่เจียง”“ก่อนหน้านี้ผมกับฮุ่ยหรานเคยเดิมพันกับท่านเอาไว้ ถ้าหากฟาร์มของพวกเราสามารถทำกำไรได้ภายในสองเดือน ทำเงินได้ถึงห้าพันล้านบาท เช่นนั้นฮุ่ยหรานก็คือผู้สืบทอดผู้นำตระกูลคนต่อไป”“ผมคิดว่าคนเราถ้าหากผิดคำพูด ก็ไม่สามารถมีจุดยืนในสังคมได้ ดังนั้นการเดิมพันของพวกเรายังคงมีผลอยู่”“หือ?”ได้ยินคำพูดเหล่านี้ของหลินเฟิง นายท่านหลี่ไห่เจียงงงงันเล็กน้อยเพราะว่าเขาคิดไม่ถึงว่าตัวเองไ
จางกุ้ยหลานถูกหลอกให้ซื้อที่ดินแห่งนี้เอาไว้ นั่นก็คือที่ดินที่ฉู่ฮวาจิ่นบอกหลินเฟิงก่อนหน้านี้ว่า มูลค่าจะเพิ่มขึ้นไม่ใช่แค่สิบเท่าอย่ามองว่าหลินเฟิงตอนนี้ใช้เงินสองพันห้าร้อยล้านบาทซื้อที่ดินเอาไว้ผ่านไปอีกสองเดือน เกรงว่ามูลค่าของที่ดินแห่งนี้จะพุ่งขึ้นสูงด้วยความเร็วจรวด ไม่ใช่แค่เพียงสองหมื่นห้าพันล้านบาท!จางกุ้ยหลานกับจางซินและคนอื่นๆ ยังหัวเราะเยาะหลินเฟิงว่าเป็นคนโง่ที่ถูกหลอกให้ใช้จ่ายเงินเมื่อดูแบบนี้แล้ว อันที่จริงพวกเธอต่างหากที่เป็นคนโง่มากที่สุด ถ้าหากพวกเธอได้รับรู้ข่าวสารนี้ภายหลัง จะต้องโมโหจนโรคหัวใจกำเริบหลินเฟิงบอกเรื่องนี้กับหลี่ฮุ่ยหรานช้าๆหลี่ฮุ่ยหรานอ้าปากกว้างในทันที และมีใบหน้าตกตะลึง“นี่มันเรื่องจริงเหรอ?!”“น่าจะผิดพลาดไม่ได้”หลินเฟิงพยักหน้า เพื่อเป็นการยืนยัน แถมยังโทรศัพท์ไปหาจ้าวเว่ย ต่อหน้าหลี่ฮุ่ยหรานจ้าวเว่ยถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ผู้จัดการที่ควบคุมงานประมูล แต่ในฐานะพนักงานภายในหน่วยงานพัฒนาเมืองเจิ้งเต๋อ ก็ยังสามารถได้ยินข่าวคราวนโยบายอยู่บ้างเขาได้ยินการสอบถามของหลินเฟิง พูดขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย:“คุณหลิน เรื่องพื้นที่พักอาศัยผมไม่ท
รับสมัครพวกแก๊งเขี้ยวเขียวเหล่านี้ หลังจากที่หลินเฟิงจัดแจงพวกเขาให้พักอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้เพิ่งขึ้นรถ บนใบหน้าก็เผยความดิ้นรนที่แปลกประหลาดออกมา“เป็นอะไรไปหลินเฟิง มีตรงไหนผิดปกติงั้นเหรอ?”หลี่ฮุ่ยหรานรีบถามขึ้นมา“ไม่ใช่”หลินเฟิงมองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความประหลาดใจ สุดท้ายก็ทำการตัดสินใจ ทอดถอนใจพูดว่า:“ฉันพูดความจริงกับนายแล้วกัน วันนั้นลูกค้าที่ชื่อคุณฉู่คนนั้นของคุณ อันที่จริงคือมือสังหารหญิงอันดับหนึ่งของลำดับมืด”“อะไรนะ?!”หลี่ฮุ่ยหรานงุนงง ถึงแม้เธอคิดว่าคุณฉู่คนนั้นจะท่าทางไม่ธรรมดา อีกทั้งดูก็รู้ว่าเป็นคนที่มีเบื้องหลัง แต่พูดว่าเป็นมือสังหารหญิงอันดับหนึ่งของลำดับมืดความแตกต่างของสถานะนี้มันมากเกินไปหน่อยแล้วหลี่ฮุ่ยหรานตกตะลึงจนพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่งผ่านไปครู่ใหญ่ เธอถึงได้รู้สึกคอแห้งผาก มองไปทางหลินเฟิง และพูดขึ้นอย่างยากลำบาก: “ความหมายของคุณก็คือ...หลี่ซื่อกรุ๊ปล้มเลิกการร่วมมือกับเธองั้นเหรอ?”“ไม่ ผมไม่ได้หมายความแบบนี้”หลินเฟิงส่ายหน้าแล้วพูดเสียงเคร่งขรึมว่า:“เธอไม่ได้ตั้งใจปิดบังสถานะของเธอต่อหน้าผม แต่กลับบอกผมโดยตรงผ่านวิธีบางอย่าง“งั้นเธอ
หลินเฟิงโบกมือพูดว่า: “ฉันไม่มีความคิดที่จะเป็นหัวหน้าแก๊งอะไรหรอกนะ เพียงแคร ต่อไปพวกนายห้ามทำความชั่วอีก”หลินเฟิงจับทรงผมโมฮอร์กของจิ่วเทา และสะบัดไปมาจากนั้นพูดว่า:“ตัดผมให้เรียบร้อย ฉันจะส่งคนมารับช่วงต่อ ส่งชุดฟอร์มที่เหมือนกันมาให้พวกนาย นับตั้งแต่วันนี้ พวกนายก็คือสมาชิกหน่วยใต้ดินของหน่วยรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว!”“ฮะ?”จิ่งเทาตั้งตัวไม่ทัน“ฮะอะไรกันล่ะ? หรือว่าพวกนายไม่เต็มใจ?”หลินเฟิงกวาดตามองพวกอันธพาลเหล่านี้ พวกอันธพาลส่วนหนึ่งในนั้นคุกเข่าให้หลินเฟิงด้วยความซาบซึ้งทันทีในเมื่อการเป็นอันธพาล บางครั้งไม่ใช่ว่าพวกเขาอยากเป็นจริงๆแต่เป็นเพราะเกิดมาฐานะไม่ดี ไม่มีความรู้อะไร และก็ไม่มีความสามารถ ดังนั้นทำได้เพียงใช้ชีวิตไปวันๆแบบนี้สู้รบฆ่าฟันแต่ได้ยินข่าวที่พวกเขาถูกบริษัทใหญ่รับจ้าง คนจำนวนไม่น้อยมีสีหน้าต่อต้าน แต่ก็มีคนเผยความหวังออกมาเช่นกัน“คือว่า…หัวหน้าหลิน มี…มีเงินเดินไหม?”อันธพาลคนหนึ่งถามขึ้นกล้าๆ กลัวๆ“พูดไร้สาระ ประกันสังคม 5 รายการ และกองทุนที่อยู่อาศัย 1 รายการ แล้วยังมีเงินเบี้ยเลี้ยง เงินค่าอาหาร หรือถ้าพวกนายอยากคลอดลูกข ก
หลินเฟิงคิดไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยว่า : ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันมีเงื่อนไขในการ่วมมืออย่างหนึ่ง ไม่รู้ว่านายจะยอมฟังหรือเปล่า?” “ เงื่อนไขอะไร?”ท่านจิ่วตกตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะมองไปทางหลินเฟิงด้วยแสงแห่งความหวังที่ผุดขึ้นในใจหากไม่ต้องออกจากเมืองเจิ้งเต๋อ พวกเขาก็คงไม่อยากออกไปอย่างแน่นอน“ฉันจะจัดการแก๊งอีกสองแก๊งให้พวกนาย ทำให้พวกนายยังอยู่ในเมืองเจิ้งเต๋อต่อไปได้”“แน่นอน เงื่อนไขก็คือพวกนายจะต้องยอมเชื่อฟังหลี่ซื่อกรุ๊ป ซึ่งก็คือ....”หลินเฟิงชี้ไปที่หลี่ฮุ่ยหราน ก่อนจะพูดอย่างยิ้ม ๆว่า :“คนนี้ ประธานของหลี่ซื่อกรุ๊ป ประธานหลี่”“อ่ะ?!”หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกสับสนอันธพาลที่อยู่โยรอบ รวมถึงท่านจิ่วต่างก็รู้สึกสับสน“ทำไม? พวกนายไม่ยอมรับงั้นเหรอ?”หลินเฟิงขมวดคิ้วอย่างจงใจ“ยอมสิ ยอมแน่นอน เพื่อนและครอบครัวของพวกพี่น้องหลายๆ คนของพวกเราต่างก็อยู่ในเมืองเจิ้งเต๋อ เว้นแต่ไม่มีทางเลือก พวกเราก็ไม่ยอมออกไปจากเมืองเจิ้งเต๋อหรอก เพียงแต่...”ท่านจิ่วรู้สึกลำบากใจ“เพียงแต่อะไร?”“เพียงแต่....”ท่านจิ่วจ้องมองไปที่หลินเฟิง แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้จริง ๆเขาก็อยากจะพูดว
ดูเหมือนว่าอันธพาลแก๊งหมาป่าสีเลือดพวกนี้ต้องการที่จะหนีหลินเฟิงก้าวไปข้างหน้าขัดขวางทางหลบหนีของท่านจิ่วก็เลยได้แต่บอกว่าหลินเฟิงชื่นชมท่านจิ่วอย่างมากเขายอมรับว่า หมัดที่ตัวเขาเองเพิ่งจะปล่อยออกไปนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่เพราะหมดนี้ท่านจิ่วกลับสามารถรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของตัวเขาเองได้ในทันที และตัดสินว่าพวกเขานั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเฟิงการยอมรับความพ่ายแพ้อย่างไม่มีขอบเขตหากพูดจากมุมมองนี้ ท่านจิ่วก็เป็นคนที่ตรงไปตรงมาคนหนึ่ง“คิดจะหนี? จบแล้ว”หลินเฟิงพูดซ้ำกับสิ่งที่ท่านจิ่วเคยพูดไว้เหมือนเดิมทุกประการกลับคืนไป จากนั้นเขาก็ยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า :“ท่านจิ่ว...ที่นี่น่าจะไม่ใช่สมาชิกของแก๊งหมาป่าสีเลือดทั้งหมดหรอกใช่ไหม?”“อ่ะ?!”เมื่อได้ยินคำถามของหลินเฟิง ท่านจิ่วก็ถูกทำให้ตกใจจนเหงื่อแตกพลั่กหรือว่ายอดฝีมือคนนี้ต้องการจะจัดการกับแก๊งหมาป่าสีเลือด?เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบากพร้อมกับกัดฟันและพูดขึ้นว่า:“ท่านยอดฝีมือพูดถูก ที่นี่....ที่นี่เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆของแก๊งหมาป่าสีเลือดของพวกเราเท่านั้น”“จริง ๆแล้ว....เมื่อเร็ว ๆนี้แก๊งหมาป่าของพวกเ
เมื่อท่านจิ่วออกคำสั่ง อันธพาลพวกนี้ก็รีบพุ่งเข้าไปเพื่อที่จะฉีกหลินเฟิงเป็นชิ้น ๆ โดยตรง“ไอ้หนู ฉันชื่นชมความกล้าหาญของนายมากนะ ไม่รู้ว่านายเป็นใครมาจากไหนงั้นเหรอ?”ท่านจิ่วหรี่ตาลง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ดูอวดดีและมั่นใจอย่างมากคนนี้ ในใจของเขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อยหรือว่าเขาจะเป็นลูกชายของตระกูลที่มีอิทธิพลหรือเปล่า?หรือว่าเป็นลูกศิษย์ของสำนักหนานไห่?“ฉันคือ หลินเฟิง เป็นหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ป”เมื่อหลินเฟิงตะโกนชื่อนี้ออกมาด้วยความมั่นใจ แม้แต่ท่านจิ่วก็เกิดภาพลวงตาบางอย่างขึ้นมาชั่วขณะหนึ่งหลี่ซื่อกรุ๊ป? หลี่ซื่อกรุ๊ปอะไร?หรือว่าที่เขาถึงก็คือหลี่ซื่อกรุ๊ปของเมืองเจิ้งเต๋อ? อ่ะ? หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัย?ท่านจิ่วตั้งสติอยู่นาน ถึงได้เข้าใจหลังจากเข้าใจถึงตัวตนของหลินเฟิงแล้ว ความรู้สึกอับอาบขายหน้าก็ผูดขึ้นมาในใจเป็นมอันดับแรก ไอ้หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าอะไรนั้น ก็เป็นแค่ยามเฝ้าประตูไม่ใช่เหรอ? แค่งยามคนเดียวก็กล้าข่มขู่ฉันงั้นเหรอ?ทันใดนั้นท่านจิ่วก็โกรธขึ้นมาทันที ก่อนจะตะโกนไปทางหลินเฟิงว่า:“ไปเลย
พวกเขาทั้งหมดต่างก็ถือไม้เบสบอลและมีดสปาต้า พร้อมกับปิดกั้นทางของหลินเฟิงและหลี่ฮุ่ยหรานไว้ในชั่วพริบตา อาคารที่พักอาศัยทั้งตึกก็เปลี่ยนจากอาคารร้างเป็นครึกครื้นทันที“ฮึ่ม ฮึ่ม ฮึ่ม!”พร้อมกับเสียงเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์และเสียงร้องไม่กี่ครั้ง ก็มีอันธพาลขี่รถจักรยานต์นับสิบคนพุ่งเข้ามาจากด้านนอกของเขตที่พักอาศัยยางล้อรถเสียดสีกับพื้น ก่อนที่สพวกเขาจะหยุดลงที่ข้าง ๆหลินเฟิงและหลี่ฮุ่ยหรานในตอนนี้ทั้งสองคนไม่มีที่ให้ถอยกลับอีกแล้ว ทั้งสี่ทิศทางก็ถูกล้อมไว้อย่างแน่นหนา“ติดจะไปตอนนี้ ก็สายเกินไปแล้ว!”แล้วอันธพาลที่มีทรงผมโมฮอร์กก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง“ฮ่าฮ่าฮ่า....”อันธพาลที่อยู่โดยรอบต่างก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะของผู้คนนับร้อย ดังมากจนทำให้อาคารที่พักอาศัยโดยรอบถึงกับสั่นสะเทือน“พวกคุณคิดจะทำอะไร?!”หลี่ฮุ่ยหรานเข้าใจว่า พวกเขาได้เข้ามาในถ้ำของพวกโจรแล้วถึงแม้ในใจจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของหลินเฟิง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนจำนวนมากขนาดนี้ในเวลาเดียว ก็ทำให้หลี่ฮุ่ยหรานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า
“ฮ่าฮ่าฮ่า....”แต่คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่หลินเฟิงสำรวจทั้งกลุ่มเสร็จแล้ว จู่ ๆก็หัวเราะออกมาเสียงดังรอยยิ้มนี้ กลับทำให้พวกอันธพาลที่เข้ามาใกล้ ๆตกใจแทน“หลินเฟิง คุณเป็นอะไร?”หลี่ฮุ่ยหรานมองไปทางหลินเฟิงด้วยความกังวล หรือเป็นเพราะว่าจ่ายเงินสองพันห้าร้อยล้านบาทเพื่อซื้อที่ดินแย่ ๆแบบนี้ ก็เลยโกรธจนสติมีปัญหางั้นเหรอ?หลี่ฮุ่ยหรานที่คาดเดาความเป็นไปได้ต่าง ๆอยู่ในใจแต่เธอเห็นหลินเฟิงหัวกลับมา พร้อมกับยิ้มและกระพริบตาให้เธอและพูดว่า :“ถ้าหากผมเดาไม่ผิดละก็ ครั้งนี้แม่ของคุณจะต้องขาดทุนครั้งใหญ่”“อะไรนะ?”หลี่ฮุ่ยหรานเบิกตากว้างอย่างไม่เข้าใจในตอนนี้เธอรู้สึกหวาดกลัวอยู่เล็กน้อยจริง ๆว่าหลินเฟิงอาจจะมีปัญหาทางจิต“ที่ดินนี้ ไม่ถึงครึ่งเดือนก็ต้องถูกรื้อแล้ว เมืองเจิ้งเต๋อจะสร้างทางหลวงพิเศษที่ต้องผ่านทางจากตรงนี้พอดี!”หลินเฟิงหันหน้าไปมองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพูดขึ้นว่า :“คุณรู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร?”ไม่รอให้หลี่ฮุ่ยหรานตอบกลับ หลินเฟิงก็พูดขึ้นกับตัวเองว่า :“นี่หมายความว่า ราคาของที่ดินนี้จะต้องเพิ่มขึ้นมากว่าสิบเท่าอย่างแน่นอน! หึหึ ฮุ่ยหราน ครั้งนี้พวก
เมื่อเห็นที่อยู่ที่นี่ ใจของหลี่ฮุ่ยหรานก็จมดิ่งลงไปกว่าครึ่งการจราจรที่นี่ไม่ค่อยจะสะดวกสบายเท่าไหร่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอาคารสำนักงานหรือโรงงานเลย มันไม่มีทางที่จะเปิดได้เช่นกันยิ่งไม่ต้องพูดว่า....หลี่ฮุ่ยหรานยืนอยู่หน้าที่ดินที่อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองแห่งนี้ และภายในต่างก็เต็มไปด้วยอาคารที่พักอาศัยเก่า ๆที่ทรุดโทรมอาคารที่พักอาศัยจำนวนไม่น้อยที่มีอายุการใช้งานที่เกินกำหนดแล้วแม้แต่กำแพงก็ยังมีรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ และมีบางรอยที่ยังเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันทรุดโทรมมาหลายปีโดยไร้การซ่อมแซม“หลินเฟิง ที่อยู่นี่ สองพันห้าร้อยล้านบาทนะ! และตอนนี้มันก็อยู่ในมือของพวกเราแล้ว”หลี่ฮุ่ยหรานถอนหายใจด้วยความหดหู่มองจากมุมของเธอ เดิมทีที่ดินนี่ก็ไม่ได้มีค่าอะไรเลยจนกระทั่งผู้อาศัยภายในอาคารพักอาศัยต่างก็อพยพออกไปมากกว่าครึ่งแล้ว ทำให้บ้านมากมายกลายเป็นบ้านผีสิงไป“หึหึ มันก็ไม่แน่นอนหรอก”หลินเฟิงยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปเขตที่อยู่อาศัยแห่งนี้“รีบวางไพ่เร็วเข้าสิ นายแม่งมองอะไรอยู่ได้?”“เฮยจื่อ นายเห็นผีหรือไง?”ทั้งสองคนยังเดินไปไม่เท่าไหร่ ก็เห