"พอได้แล้ว"ฮ่องเต้โบกพระหัตถ์ขึ้นเพื่อให้องค์ชายรองและองค์รัชทายาทหยุดทะเลาะกันทั้งสองคนจึงทำได้เพียงเงียบเสียงลงองค์ชายรองสังเกตดูสีพระพักตร์ของฮ่องเต้ พบว่าแววตาของฮ่องเต้มืดมนลงไปไม่น้อยต่อมาฮ่องเต้จึงได้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา "หากวันที่ฝังศพของเจ้าเจ็ดแล้วพระชายาจ้านอ๋องยังไม่ปรากฏกาย จงถอนตำแหน่งพระชายาจ้านอ๋องของนางเสียและอย่าให้นางกลับมาอีก"...ภายในกระท่อมร้างเซี่ยเชียนฮวันเปิดเสื้อผ้าของชายหนุ่มออกเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่อยู่ตอนนี้ไม่ให้เสื้อผ้าของต้าเซี่ย ดูเหมือนกับเสื้อผ้าจากต่างถิ่นจากการคาดเดาของเซี่ยเชียนฮวัน คิดว่าเซียวเย่หลันคงจะสังหารชาวซีเหลียง แล้วอาศัยช่วงที่ดวงตาเขายังมองเห็น รีบถอดเสื้อผ้าของตนออกเปลี่ยนกับอีกฝ่าย ก่อนจะเอาร่างของอีกฝ่ายโยนลงไปที่เหว ใช้วิธีนี้ในการหลอกล่อชาวซีเหลียงว่าตนตกเหวตายไปแล้วปรากฏว่าอู่อันโหวและลูกน้องกลับพบศพของชาวซีเหลียงผู้นั้น ด้วยใบหน้าอันแหลกเหลวจึงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเซียวเย่หลัน ด้วยเหตุนี้จึงพาศพนั่นกลับเมืองหลวง"เฮ้อ เจ้าน่ะเกือบจะตายอยู่ในสถานที่รกร้างไร้ผู้คนแห่งนี้เสียแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น กลับเป็นคนอื่น
"เซียวเย่หลัน เจ้า เจ้าเป็นอะไรไป?!"เซี่ยเชียนฮวันสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ แล้วรีบเข้าไปใช้มือลูบเซียวเย่หลันที่กำลังกระตุกนางใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีกดเซียวเย่หลันไว้ที่พื้นแล้วจับชีพจรให้เขาด้วยความยากลำบากแย่แล้ว... ชีพจรของเขาดูยุ่งเหยิง เลือดกำลังไหลกลับ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป หลอดเลือดของเขาจะแตกตาย! เซี่ยเชียนฮวันกุมมือเซียวเย่หลันเอาไว้ด้วยน้ำตานองหน้า “เจ้าอดทนอีกสักหน่อยได้หรือไม่? ข้าขอร้องเจ้าเถิด ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้"เซียวเย่หลันใบหน้าซีดเผือด บัดนี้เขาไม่อาจควบคุมตนเองได้ นิ้วมือเขาสั่นคลอน แล้วใช้นิ้วเขียนไปยังฝ่ามือของนางราวกับกำลังเขียนคำบางคำตัวแรกเป็นตัวอักษรที่มีขีดค่อนข้างซับซ้อน เซี่ยเชียนฮวันครุ่นคิดอยู่เนิ่นนานจึงพบว่าเขาเขียนคำว่า "เซี่ย" (谢แปลว่าขอบคุณ)นางจึงรีบเอ่ยขึ้นว่า "เจ้าขอบคุณข้าตอนนี้คงยังเร็วเกินไป! หากเจ้าต้องการขอบคุณที่ข้าช่วยชีวิตเจ้า ก็อดทนอยู่ต่อ รอให้ข้าฝังเข็มสุดท้ายเสร็จก่อน เมื่อเจ้าหายดีแล้วค่อยขอบคุณข้าด้วยตนเองก็ไม่สาย!"จากนั้น เซียวเย่หลันก็เริ่มเขียนตัวอักษรตัวที่สองมือของเขาสั่นคลอน จึงทำให้เขียนได้ไม่ถนัดนัก เขาเขียนเพ
"เจ้าคือ..."เซียวเย่หลันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้งนับเสียงของเขาเบามากทั้งยังคลุมเครือ ด้วยความดังเสียงนี้ไม่อาจทำให้เซี่ยเชียนฮวันซึ่งเหนื่อยล้าบาททั้งวันตื่นขึ้นได้นางยังคงกุมมือเขาเอาไว้แน่นต่อให้นอนหลับสนิทก็ไม่ปล่อยเซียวเย่หลันหันหน้ากลับมาแม้เขาจะมองไม่เห็นบรรยากาศตรงหน้านี้ แต่เขารับรู้ได้ว่า สตรีนางนี้นอนเอนกายอยู่ข้างเขาราวกับสัตว์ตัวน้อย พิงมาที่บ่าของเขาได้ยินว่าหากคนเราสูญเสียทักษะการมองเห็น การรับกลิ่นและการได้ยินต่างๆ ไป สัญชาตญาณจะแข็งแกร่งมากขึ้นตอนนี้จู่ๆ เซียวเย่หลันก็มีความคิดอันแปลกประหลาดหนึ่งขึ้นมาสตรีที่นอนอยู่ข้างกายเขาตอนนี้ ให้ความรู้สึกอันคุ้นเคยเหลือเกิน ราวกับสตรีที่ใช้ร่างของตนในการช่วยเขาขับพิษเย็น และเป็นผู้ช่วยชีวิตเขาในครั้งนั้นแน่นอนเขารู้ว่าผู้มีพระคุณคนนั้นคือซูอวี้เออร์แต่ความคิดนี้ก็ยังวนเวียนอยู่ในใจของเขาไม่จางหายเขาจำเป็นต้องยอมรับว่าเขาไม่ชอบมีปฏิสัมพันธ์ทางร่างกายกับสตรีนัก รวมถึงซูอวี้เออร์ แต่สำหรับสตรีนางนี้แทบจะเข้ามานอนอยู่ในอ้อมกอดเขาแล้ว เขากลับไม่รู้สึกปฏิเสธใดๆ ทำให้เซียวเย่หลันแปลกใจเหลือเกินเพียงแต่ตอนนี้
“เซียวเย่หลัน ถ้าหากข้าไม่ใช่หลานสาวของไทเฮา และท่านไม่ใช่จ้านอ๋อง ท่านจะแต่งงานกับข้าอยู่รึไม่?”เซี่ยเชียนฮวันเท้าคาง แล้วมองเซียวเย่หลันอย่างยิ้มๆอย่างที่นางคาด เขาเพียงจดจ่ออยู่กับการกิน และไม่ตอบคำถามของนางหลังจากกินเสร็จ เขาก็เอียงศีรษะเล็กน้อย เพื่อรอให้เซี่ยเชียนฮวันป้อนคำต่อไป“ช่างเถอะ อย่างไรเสียท่านคงอยากจะแต่งงานกับซูอวี้เออร์” จู่ๆ เซี่ยเชียนฮวันก็หงุดหงิดขึ้นมา นางตบตะเกียบลงบนโต๊ะดังปัง แล้วกล่าวเสียดสีว่า “แต่ท่านไม่รู้อะไร ถ้าหากท่านมิใช่องค์ชาย ซูอวี้เออร์อะไรนั่นคงไม่แม้แต่จะชายตามองท่านเลย”เซียวเย่หลัน “…”ข้าวเขาล่ะ?รออยู่นานก็ไม่เห็นมีอะไรถึงแม้จะไม่ได้ยินและมองไม่เห็น แต่ยังสามารถสัมผัสความรู้สึกได้อย่างรางๆ ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ดูเหมือนจะโกรธคงไม่ใช่ว่าเบื่อหรือรู้สึกเหนื่อยกับตัวภาระอย่างเขาหรอกนะ...เซียวเย่หลันถอนหายใจออกมา แล้วก้มหน้าลง ขนตาหนาดุจปีกอีกาพลันหลุบต่ำปกปิดนัยน์ตาคม ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาดูเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก เซี่ยเชียนฮวันเห็นเขาก้มหน้า ก็เกิดความรู้สึกทนไม่ได้ขึ้นมาในใจ ก่อนจะกล่าวเสียงเบาว่า “เอาล่ะ รอกินข้าวเสร็จแล้ว ข้าจะออก
“หายากที่จะเห็นแม่นางน้อยอย่างเจ้าในสถานที่แบบนี้ เจ้ามาที่นี่เพื่อเก็บสมุนไพรโดยเฉพาหรือ?”บางทีชายชราคงไม่ได้พูดกับใครมานานเกินไป จึงพูดเป็นต่อยหอยเซี่ยเชียนฮวันจึงไม่อาจสลัดเขาได้ ทำได้แค่เดินไปเป็นเพื่อนเขา และพยักหน้าตอบ “ใช่แล้ว พ่อแม่ของข้าเปิดโรงหมออยู่ที่เมืองหลวง”“หือ ออกจากเมืองหลวงมาเก็บสมุนไพรที่นี่? นั่นมันไกลมากเลยนะ!” ชายชราอุทาน“เพราะข้าได้ยินมาว่ามีสมุนไพรหายากที่นี่ แต่หาอยู่นานก็หาไม่เจอ ท่านผู้เฒ่าอาศัยอยู่ที่นี่ คงรู้ว่าสมุนไพรเหล่านั้นเติบโตที่ไหน ไม่รู้ว่าพอจะแนะนำข้าได้หรือไม่”เซี่ยเชียนฮวันเอ่ยถึงชื่อสมุนไพรสองสามชนิดนางลอบสังเกตอีกฝ่าย แต่ไม่เห็นอะไรผิดปกติกับชายชรา แต่ในใจมักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ ถ้าหากชายชราผู้นี้สามารถพานางไปหาสมุนไพรได้ นั่นก็พิสูจน์ว่า เขาเป็นคนเก็บสมุนไพรที่อาศัยอยู่บนภูเขานี้จริงๆ ไม่ใช่ชาวซีเหลียงปลอมตัวมาหลังจากที่ชายชราได้ยินรายชื่อสมุนไพรของเซี่ยเชียนฮวัน เขาก็ตอบกลับมาแบบไม่ต้องคิดว่า “ไม่มีปัญหา ตามข้ามาได้เลย”“ขอบคุณมาก”เซี่ยเชียนฮวันเห็นท่าทางของเขาดูปกติมาก จึงค่อยๆ วางใจลงจากนั้น นางก็เดินตามชายชราเก
“เฮ้ ผู้หญิงคนนี้หน้าตาไม่เลวเลยนะ ก่อนจับกลับไป ทำไมพวกเราไม่ผลัดกันเล่นสักหน่อยล่ะ”“ดูให้ดี ท้องโตขนาดนี้ เอาอะไรมาเล่น”“ใครบอกว่าท้องโตแล้วเล่นไม่ได้? ข้ายังไม่เคยลองผู้หญิงท้องเลย ดังนั้นข้าอยากจะลองดูสักหน่อย ฮ่าๆ...”ชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเซี่ยเชียนฮวันอาจฟังไม่ออก แต่ดูจากสีหน้าของพวกเขาแล้ว ก็สามารถเดาออกว่าพวกเขากำลังหัวเราะอะไรกันนางเม้มปากแน่น ที่หว่างนิ้วแอบซ่อนเข็มเงินเอาไว้สองสามเล่ม เตรียมที่จะป้องกันตัวอีกฝ่ายมีคนมากเกินไป ถ้าหากมีแค่หนึ่งหรือสองคน นางก็ยังคงมีความมั่นใจ ว่าจะสามารถคว่ำอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้คนเหล่านี้กำลังล้อมรอบนางกับชายชรา ถึงแม้ว่านางจะใช้เข็มเงินจัดการไปสักคนสองคน แต่จะมีคนอื่นๆ เข้ามาแทนที่อย่างแน่นอน และสุดท้ายนางก็จะโดนจับหากตกอยู่ในมือชาวซีเหลียง เกรงว่าคงมีชีวิจอยู่ไม่สู้ตาย!“ลงมือ!”สิ้นเสียงคำสั่ง พวกเขาก็ถือดาบพุ่งเข้าหาเซี่ยเชียนฮวันเซี่ยเชียนฮวันยกมือขึ้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะสู้จนตัวตาย…“อ้าค!”ชายฉกรรจ์สองสามคนพลันกรีดร้องออกมาพร้อมกันก่อนจะล้มลงกับพื้น ราวกับควบคุมมือและเท้าไม่ได้ พวกเขาเกลือกกลิ
“ไปค้นร่างชาวซีเหลียงสิ พวกเขาพกยาแก้พิษมาเยอะมาก”เสิ่นหรงชี้ทางให้เซี่ยเชียนฮวันทันใดนั้นเซี่ยเชียนฮวันก็ตระหนักได้ขึ้นมาใช่แล้ว วันนี้โอกาสดีจับชาวซีเหลียงได้!บนร่างพวกเขาจะต้องมียาแก้ควันพิษแน่!คืนนั้นควันพิษกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งใช้เวลาหลายวันกว่าจะสลายไปจนหมด หากพวกเขาไม่มียาแก้พิษ ชะตากรรรมของพวกเขาก็จะเป็นแบบเดียวกับเซียวเย่หลันเวลาไม่คอยท่า เซี่ยเชียนฮวันรีบวิ่งไปค้นตัวพวกเขาทันที แน่นอนว่าพบขวดยาสองสามขวดนางเปิดขวดและดมมัน เพื่อตรวจสอบส่วนผสมของผงเหล่านี้ จากนั้นก็เก็บมันไว้ในตะกร้าไม้ไผ่ของตัวเองเมื่อนางเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ก็ไม่เห็นชายคนนั้นแล้วเซี่ยเชียนฮวันยืนขึ้นพร้อมกับตะกร้าในมือ แล้วบ่นพึมพำว่า “ยังไม่ทันได้ถามชื่อเลย...ช่างแปลกคนเสียจริง”จู่ๆ ก็มาปรากฏตัวอย่างลึกลับทุกครั้ง แล้วก็หายตัวไปอย่างเงียบๆไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของเขาคืออะไรแต่สรุปคือ ออกมาเก็บสมุนไพรในครั้งนี้แม้จะเจอสถานการณ์สุดระทึกไปบ้าง แต่ผลลัพธ์ค่อนข้างดี นับว่านางกับเซียวเย่หลันโชคดีมากเซี่ยเชียนฮวันถือตะกร้าสมุนไพรที่เสิ่นหรงมอบให้ แล้วเดินกลับไปที่กระท่อมมุงจาก“ข่าวดี ข้
ทางด้านเมืองหลวงนั้นได้กำหนดวันฝังพระศพของจ้านอ๋องเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นก็คือพรุ่งนี้ซึ่งเซี่ยเชียนฮวันไม่รู้เรื่องนี้ นางยังคงมีความสุขที่ได้ค้นพบยาแก้ควันพิษนางพบผ้าขาวสะอาดสองผืน และนำมาทำเป็นผ้าพันแผล ทายาแก้พิษลงบนผ้า ก่อนจะนำมาปิดตาเซียวเย่หลัน“คืนนี้ห้ามถอดผ้าผืนนี้ เชื่อข้าสิ พรุ่งนี้ท่านจะรู้สึกดีขึ้นมาก” นางกระซิบพูดแน่นอนว่ายาทานก็ไม่อาจมองข้ามได้ หลังจากเซี่ยเชียนฮวันประคองเซียวเย่หลันให้นอนลง นางก็ไปหยิบสมุนไพรและทำอาหารให้เขา กว่าจะทำทุกอย่างจนเสร็จ ก็ปาไปกลางดึกแล้วนางตักน้ำขึ้นมาจากบ่อน้ำ แล้วเดินไปหยุดอยู่ข้างๆ เซียวเย่หลัน“อะแฮ่ม ข้าอยากจะเช็ดตัวท่านสักหน่อย อย่างไรเสียท่านก็อยู่ข้างนอกมานาน ไหนจะซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดินอีก ถ้าหากไม่เช็ดตัว ข้า...ข้าเกรงว่าท่านจะมีเหา” เซี่ยเชียนฮวันพูด ขณะที่ใบหน้าเริ่มแดงก่ำขึ้นมานางปลอบใจตัวเองอย่างเงียบๆ ว่า มันเป็นเรื่องปกติที่จะเช็ดตัวให้คนป่วย เพียงแต่ว่าเรื่องแบบนี้ควรปล่อยให้พยาบาลทําแต่ตอนนี้ข้างกายของเซียวเย่หลันมีแค่นางเพียงคนเดียว มีแต่นางเท่านั้นที่ต้องทำงานให้หนักขึ้น ทั้งงานของหมอและงานของพยาบาล
“มันมาจากไหน?”เซียวเย่หลันถามเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว “ตงไหล!”“ตงไหล...”พอได้ยินชื่อสถานที่นี้ สีหน้าของเซียวเย่หลันก็ขรึมลงเล็กน้อย เขานึกถึงคนๆ หนึ่งเซี่ยเชียนฮวันเอ่ยชื่อของคนที่อยู่ในความคิดของเขาทันที “รู้สึกว่าบังเอิญมากใช่หรือไม่? ยาที่พวกฆาตกรให้เหยื่อกินเป็นผลผลิตพิเศษจากตงไหล ประจวบเหมาะกับตอนที่พวกเขาจับคนร้ายแถบชานเมืองนั้น ฉินจีที่มีสมญานามว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งตงไหลถูกส่งตัวไปที่วังหลัง” “ช่างบังเอิญมากจริงๆ”เซียวเย่หลันจ้องไปที่หญ้าที่ส่งกลิ่นคาวปลาตายบนโต๊ะ นิ้ววางอยู่เหนือริมฝีปากแล้วบีบจมูกเบาๆเรื่องราวมากมายจริงๆเขาไม่รู้สึกว่าพวกนี้เป็นเรื่องบังเอิญทั้งสองเรื่องนี้ อย่างไรเสียก็ต้องเกี่ยวข้องกันเซี่ยเชียนฮวันพูดว่า “แล้วก็ ข้าให้เพื่อนไปสืบดูแล้ว เป็นเพราะหญ้าโช่วผิงถูกคนเข้าใจว่าเป็นยายืดอายุขัย มีจอมยุทธ์มากมายที่จะใช้มันกลั่นเป็นยาเพื่อใช้บำรุงสำหรับการฝึกยุทธ์”“เพื่อนเจ้าคนไหน? ผู้ชายหรือผู้หญิง?”จุดสนใจของเซียวเย่หลันอยู่ตรงนี้เซี่ยเชียนฮวันกลอกตามองบนอย่างไม่สบอารมณ์ “เถ้าแก่เนี้ยที่หอฮัวเยว่!”“อืม”ผู้หญิง เช่นนั้นเซียวเย่ห
ซูอวี้เออร์สีหน้าแข็งค้างสมควรตายคิดไม่ถึงเลยว่าพวกโจรโฉดพวกนี้จะได้รับข่าวสารว่องไวเพียงนี้!นางยังนึกว่า พวกเขาควรจะเป็นพวกโจรกระจอกในยุทธภพ ไม่ค่อยมีความเข้าใจเกี่ยวกับราชวงศ์นัก และนางเพิ่งตั้งครรภ์ไม่นาน จากภายนอกแล้วก็ดูไม่ออกหากเป็นเช่นนี้ นางในตอนนี้ก็กลายเป็นแกะน้อยเข้าถ้ำเสือแล้วสิ??ในขณะที่ซูอวี้เออร์เหงื่อเปียกชุ่มไปทั้งตัวและกำลังคิดว่าจะรับมือต่ออย่างไรนั้น หัวหน้าชุดขาวก็เงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆๆ ไม่ต้องเป็นกังวลไป!”“เป้าหมายของพวกเราคือหญิงตั้งครรภ์ท้องโต เจ้าที่เพิ่งท้องแบบนี้ ทารกในครรภ์ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลย ไม่มีประโยชน์อะไรกับเราสักนิด” อีกคนหนึ่งพูดเสียงเย็น หัวหน้าชุดขาวตบไปที่บ่าของพรรคพวกตัวเอง “เอาล่ะ อย่าทำให้นางตกใจไปเลย พวกเรากำลังต้องการเลือดเนื้อเชื้อไขของราชวงศ์ต้าเซี่ยพอดี นางยังช่วยพวกเราได้อีกมาก”สีหน้าของพรรคพวกคนนั้นแสดงออกถึงความแปลกใจเล็กน้อยแต่ ที่แห่งนี้ คำพูดของหัวหน้าคนเดียวที่ถือเป็นคำตัดสินสูงสุดเขาได้ตัดสินใจจะร่วมมือกับซูอวี้เออร์แล้วซูอวี้เออร์เผยรอยยิ้มที่พึงพอใจออกมา “ตอนนี้ท่านอ๋องจะออกลาดตระเวนทุกคืน
ก่อนหน้านี้ เซียวจ้านได้พูดคุยกับนางหลายครั้งได้แสดงออกให้เห็นถึงความในใจอยู่บ้างแต่นางกลับไม่รู้เลยว่า เซียวจ้านนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้เป็นคนเอาแต่เล่นไม่เอาอ่าวอย่างที่เผยให้เห็นในรูปลักษณ์ภายนอก ตอนเด็กเขาก็ผ่านความเจ็บปวดมาไม่น้อยแต่พวกนั้นต่างก็เป็นการพูดคุยเปิดใจทั่วไปเซี่ยเชียนฮวันยืนยันได้ว่าระว่างนางกับเซียวจ้านนั้นไม่มีการข้ามเส้น มากที่สุดก็เรียกได้ว่าเป็นเพื่อน ไม่ได้เป็นเหมือนที่เซียวเย่หลันคิดนางแค่นเสียงเหอะ “เซียวเย่หลัน ข้าว่านะ เพราะเจ้าเคยแอบขโมย พอมองใครก็รู้สึกว่าเป็นโจรเสียหมด”“ข้าไม่เคยขโมยของใคร” เซียวเย่หลันถูกทำให้โกรธจนขำแล้วเซี่ยเชียนฮวันยกมุมปาก “ตัวเจ้ามีหญิงสาวมากมาย ซูอวี้เออร์นั้นข้าไม่นับแล้ว ยังมีหลี่จิ้งหย่าที่ชอบพอกันมาตั้งแต่เด็ก ผู้อื่นแต่งงานกับองค์ชายสองแล้ว เจ้ายังไปติดพันนางยากจะอธิบายได้ชัดเจนอยู่เลย”“เป็นเพราะว่าจิตใจของท่านอ๋องเองไม่บริสุทธิ์ ดังนั้น ถึงได้รู้สึกว่าระหว่างข้ากับองค์ชายห้านั้นพิเศษอย่างไรล่ะ”เซียวเย่หลันน้ำเสียงเย็นเยียบ “ตัวข้าไม่เคยติดพันกับหลี่จิ้งหย่าจนอธิบายไม่ได้”“งั้นหรือ? เช่นนั้นวันนั้นที่ข้าเห็น
“ข้าเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญ ไม่กลัวหรอก”เซี่ยเชียนฮวันปากแข็ง ดึงฝ่ามือออกจากมือของเซียวเย่หลันแล้วเริ่มชันสูตรศพทีละร่างหญิงสาวพวกนี้ตายเพราะเสียเลือดมากเกินไปพวกนางถูกกรีดร่างทั้งเป็น วิธีการทารุณมากแต่ที่แปลกคือ ภายในร่างของพวกนางกลับมีร่องรอยของยาอยู่ แต่ไม่ได้ถูกพิษอย่างที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพพูดพอเจ้าเมืองเห็นเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ เขาจึงบีบจมูกแล้วเดินไปด้านหน้าถามขึ้นว่า “พระชายาอ๋อง ท่านสังเกตพบสิ่งใดหรือไม่?”“จากที่ข้าสังเกต แทนที่จะพูดว่าพวกนางถูกพิษ ควรพูดว่าก่อนตาย พวกนางถูกคนกรอกยาชนิดหนึ่งให้กิน ไม่ถึงกับขั้นส่งผลร้ายต่อร่างกายมากนัก แต่ในเมื่อฆาตกรจะฆ่าพวกนางอยู่แล้ว เหตุใดต้องมากเรื่อง กรอกยาพวกนางด้วยเล่า”จุดที่เซี่ยเชียนฮวันคิดไม่ตกก็คือจุดนี้ในกระเพาะของทุกร่างล้วนมีเศษซากยาชนิดนี้เท่ากับว่า เรื่องนี้สำหรับฆาตกรแล้วเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้สำหรับฆาตกร ขั้นตอนนี้มีประโยชน์ต่อพวกเขาสูงสุดเซียวเย่หลันขมวดคิ้วเล็กน้อย “ยาชนิดนี้ทำขึ้นมาจากอะไรหรือ?”“น่าจะมีประโยชน์เพียงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่รายละเอียดต่างๆ ต้องรอให้ข้านำตั
“ใครน่ะ?!”เซี่ยเชียนฮวันตกใจเดินไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงมาอยู่ด้านหลังของนาง!พอนึกถึงเรื่องที่สตรีมีครรภ์หายตัวไปในช่วงนี้ ใจของเซี่ยเชียนฮวันก็เต้นตึกๆๆ รัวเป็นกลอง นางหันตัวขวับกลับมา นางก็ราดน้ำที่อยู่ในมือออกไปจนหมดจากนั้น...นางได้ทำให้ผมดกดำและเสื้อผ้าของเซียวเย่หลับเปียกไปหมดเซียวเย่หลันถูกน้ำราดทั้งหน้า หมดคำจะพูด ใช้มือเช็ดถูกแล้วพูดเสียงเย็น “การระมัดระวังตัวตลอดเวลานั้นเป็นเรื่องดี แต่ก็ไม่ต้องกลัวเป็นกระต่ายตื่นตูมไป”“ใครให้เจ้ามาไม่ให้เสียงสักนิดล่ะ มาอย่างกับผี ตกใจหมดเลย” เซี่ยเชียนฮวันเองก็อารมณ์ไม่ดี “แต่ก่อนเจ้าไม่มาโรงหมอไม่ใช่หรือ วันนี้วิ่งแจ้นมาที่นี่ทำไม?”“หากไม่ใช่เพราะเจ้าเมืองซุ่นเทียนมาขอแล้วขออีก ข้าเองก็คร้านจะมา”เซียวเย่หลันแสดงท่าทางรังเกียจเต็มที่ หยิบเอาผ้าออกมาเช็ดหน้าเซี่ยเชียนฮวันไม่เข้าใจ “เจ้าเมืองซุ่นเทียนขอร้องเจ้า? เขาเองก็อยากซื้อครีมบำรุงให้ฮูหยินของตนหรือ?”“พบศพเหยื่อสาวแถวชานเมืองหลวง ฝ่ายชันสูตรบอกว่าพวกนางถูกพิษ แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้แน่ชัดว่าเป็นพิษจากอะไร เจ้าเมืองซุ่นเทียนก็เลยอยากขอให้เจ้าช่วย”เซียวเย่หลันพูดอธิบายส
“รู้สิ ทำไมหรือ?”เซี่ยเชียนฮวันตะลึงตอนที่อยู่โรงหมอ นางได้ยินพวกชาวบ้านถกเถียงกันราวกับว่ามีหญิงสาวมากมายที่ถูกจับตัวหรือว่า ที่ฮ่องเต้เรียกตัวเซียวเย่หลันไปห้องทรงพระอักษรก็เพราะจะให้เขาตรวจสอบเรื่องนี้เซียวเย่หลันพูดเสียงทุ้มว่า “สตรีที่ถูกพวกเขาจับตัวไปล้วนเป็นสตรีมีครรภ์” “อะไรนะ???”เซี่ยเชียนฮวันอดตกใจไม่ได้!ตามหลักแล้ว สตรีที่ถูกจับตัวไปควรเป็นหญิงสาวอายุน้อย เหตุใดจึงเป็นสตรีมีครรภ์ล่ะ?“ตอนนี้ คนในเมืองหลวงในใจกระวนกระวาย เสด็จพ่อได้ออกประกาศห้ามออกจากเคหะสถานยามค่ำคืนแล้ว นับจากวันนี้เป็นต้นไป ข้าต้องนำทหารออกไปลาดตระเวนทุกคืน จนกว่าจะจับตัวพวกผู้ร้ายพวกนั้นได้”เซียวเย่หลันมองไปทางเซี่ยเชียนฮวันปราดหนึ่ง ยื่นมือไปบีบแก้มนาง “เจ้าดูแลเด็กน้อยในท้องของเจ้าให้ดี ช่วงนี้อย่าออกไปวิ่งพล่านที่ไหน ได้ยินไหม”“อื้อ”เซี่ยเชียนฮวันตอบอย่างว่าง่ายไม่แปลกที่เซียวเย่หลันไม่ยอมให้นางช่วยที่แท้ก็เพราะแค่มีครรภ์ก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว เพื่อปกป้องเด็กน้อยในท้อง นางต้องไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงเซี่ยเชียนฮวันไม่ได้พูดเรื่องไปช่วยอีกนางติดตามเซียวเย่หลันกลับจวนอ๋อง แล้ว
หลังจากที่ได้เห็นฉากพยานแมวในเหตุการณ์กับตาตัวเองแล้ว สุดท้ายฉินจีก็ยอมรับด้วยตัวเองแล้ว นางคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้ ตัวสั่นเทิ้มสีพระพักตร์ของฮ่องเต้เคร่งขึมดูแล้ว เป็นเหมือนดั่งที่เจ้าห้าพูดจริงๆ ด้วย ฉินจีตั้งใจปล่อยแมวไปทำให้เซี่ยเชียนฮวันตกใจไม่ว่าตอนนี้เขาจะลำเอียงรักและเอ็นดูฉินจีมากเพียงใด เรื่องนี้ข้องเกี่ยวกับลูกหลานของราชวงศ์ ไม่สามารถทำตัวเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้เหมือนเรื่องที่พวกนางสนมทั้งหลายแก่งแย่งความรักกัน เซียวเย่หลันเดินออกมา จ้องไปที่ฉินจีอย่างเย็นชา “ขอเสด็จพ่อลงโทษอย่างสาหัสด้วยพ่ะย่ะค่ะ”“ถ่ายทอดคำสั่ง ลำดับศักดิ์ของฉินจีลดขั้นลงเหลือเพียงไฉหนี่ว์ ถูกกักบริเวณในหอหลิวอินเป็นเวลาสามวัน ห้ามออกจากประตู”ฮ่องเต้กุมขมับ ไม่ได้มองไปทางฉินจีที่มีท่าทีน่าสงสารอีกทั้งลดลำดับศักดิ์ ทั้งถูกกักบริเวณ ถือว่าเป็นการให้เกียรติเซียวเย่หลันกับเซี่ยเชียนฮวันมากแล้ว เซี่ยเชียนฮวันยิ้มตาหยี “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ทรงให้ความยุติธรรมเพคะ”จากนั้น นางก็หันไปทางเซียวจ้าน ในดวงตาเรียวเล็กมีประกายแสงแสดงถึงความจริงจัง “และต้องขอบคุณน้องห้าด้วยที่พูดผดุงความยุติธรรมแก่ข้า”“น้
“ฝ่าบาท พระชายาจ้านอ๋องคงไม่ได้มีปัญหาที่ตรงนี้หรอกนะเพคะ”ฉินจีชี้ไปที่หัวของตัวเองฮ่องเต้โบกพระหัตถ์ “เอาล่ะ อย่าได้พูดเช่นนี้เลย”ฮ่องเต้ไม่ได้เอาความกับคำพูดส่งเดชของฉินจีอย่างไรเสีย การพูดตรงๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของฉินจี ก็เหมือนหมิงเฟยอย่างนั้นหากไม่ใช่เพราะชอบนิสัยเช่นนี้ของนาง ฮ่องเต้ก็คงไม่ลำเอียงชอบนางมากกว่าทว่า ฮ่องเต้เองก็รู้สึกว่าเซี่ยเชียนฮวันราวกับว่าสมองถูกกระทบกระเทือน กลับมาตั้งคำถามกับแมวอย่างเอาจริงเอาจัง ไม่รู้ว่านางจะมาไม้ไหนอีก“หากแมวตัวนั้นตอบคำถามของพระชายาจ้านอ๋องจริงๆ หม่อมฉันยอมรับโทษเพคะ” ฉินจีหัวเราะเยาะเย้ยเบาๆ“เจ้าเป็นคนพูดเองนะ” เซี่ยเชียนฮวันนั่งปัดมืออยู่ที่พื้น “เอาล่ะ เป็นแมวที่สัตย์ซื่อหน่อยซิ”“เหมียว เหมียว เหมียว?” เจ้าแมวขาวเอียงหัวเล็กน้อยเซียวเย่หลันเองก็ทนดูไม่ค่อยไหวแล้ว อยากจะลากตัวนางออกไปทันใดนั้น ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเซี่ยเชียนฮวันกำลังก่อเรื่องนั้น เจ้าแมวขาวกลับยื่นอุ้งมือออกมา!มันทำเหมือนที่เซี่ยเชียนฮวันพูดจริงๆ ด้วย ข่วนไปที่หยกห้อยเอวที่อยู่ด้านขวาผู้คนต่างสีหน้าเปลี่ยนสี“เป็นไปไม่ได้!” ฉินจีโพล่งออก
“ฝ่าบาททรงรอบรู้ หม่อมฉันเพียงแต่พูดความจริงเท่านั้น”ฉินจีหลุบตาลงฮ่องเต้มองไปที่เซียวจ้านแล้วพูดว่า “เจ้าห้า เจ้าเป็นคนมีมารยาทดีมาโดยตลอด ทำไมวันนี้ต้องมีปัญหากับฉินเออร์ด้วย”“ทูลเสด็จพ่อ ลูกไม่ได้ตั้งใจจะมุ่งเป้าไปที่ผู้ใด เพียงแต่เห็นฉินเจี๋ยอวี๋กับพระชายาจ้านอ๋องโต้เถียงกัน จากนั้นพระชายาจ้านอ๋องเกือบจะล้ม ซึ่งเลี่ยงไม่ได้ที่คนจะรู้สึกสงสัย”เซียวจ้านประกบมือคำนับแล้วกล่าวขึ้นในเวลานี้ ในที่สุดเซียวเย่หลันก็เอ่ยปากถามเซี่ยเชียนฮวันที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ล้มหรือเปล่า”“ไม่เป็นไร ไม่ตายหรอก”เซี่ยเชียนฮวันตอบอย่างไม่สบอารมณ์เซียวเย่หลันพูดไม่ออกสตรีที่ดูอ่อนแอกันคนภายนอกแต่กับคนในบ้านกลับหยาบคายใส่คนนี้นี่เขากำลังแสดงความเป็นห่วงนางชัดๆ แต่กลับพูดจายอกย้อนกับเขา“ฉินเอ๋อเพิ่งเข้าวังไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ หากมีตรงไหนล่วงเกินสะใภ้เจ็ด พวกเจ้าก็แค่ให้อภัยก็จบแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำให้ตึงเครียดขนาดนี้”ฮ่องเต้พูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการให้เรื่องนี้สงบลง ไม่ถือสาหาความผิดของฉินจีอย่างไรก็ตาม พอได้ยินเช่นนี้ฉินจีกลับตกใจเล็กน้อยเดิมทีนางคิดว่าฮ่องเต้จะไม่เพียงแต่ปกป้องนา