"เจ้าคือ..."เซียวเย่หลันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้งนับเสียงของเขาเบามากทั้งยังคลุมเครือ ด้วยความดังเสียงนี้ไม่อาจทำให้เซี่ยเชียนฮวันซึ่งเหนื่อยล้าบาททั้งวันตื่นขึ้นได้นางยังคงกุมมือเขาเอาไว้แน่นต่อให้นอนหลับสนิทก็ไม่ปล่อยเซียวเย่หลันหันหน้ากลับมาแม้เขาจะมองไม่เห็นบรรยากาศตรงหน้านี้ แต่เขารับรู้ได้ว่า สตรีนางนี้นอนเอนกายอยู่ข้างเขาราวกับสัตว์ตัวน้อย พิงมาที่บ่าของเขาได้ยินว่าหากคนเราสูญเสียทักษะการมองเห็น การรับกลิ่นและการได้ยินต่างๆ ไป สัญชาตญาณจะแข็งแกร่งมากขึ้นตอนนี้จู่ๆ เซียวเย่หลันก็มีความคิดอันแปลกประหลาดหนึ่งขึ้นมาสตรีที่นอนอยู่ข้างกายเขาตอนนี้ ให้ความรู้สึกอันคุ้นเคยเหลือเกิน ราวกับสตรีที่ใช้ร่างของตนในการช่วยเขาขับพิษเย็น และเป็นผู้ช่วยชีวิตเขาในครั้งนั้นแน่นอนเขารู้ว่าผู้มีพระคุณคนนั้นคือซูอวี้เออร์แต่ความคิดนี้ก็ยังวนเวียนอยู่ในใจของเขาไม่จางหายเขาจำเป็นต้องยอมรับว่าเขาไม่ชอบมีปฏิสัมพันธ์ทางร่างกายกับสตรีนัก รวมถึงซูอวี้เออร์ แต่สำหรับสตรีนางนี้แทบจะเข้ามานอนอยู่ในอ้อมกอดเขาแล้ว เขากลับไม่รู้สึกปฏิเสธใดๆ ทำให้เซียวเย่หลันแปลกใจเหลือเกินเพียงแต่ตอนนี้
“เซียวเย่หลัน ถ้าหากข้าไม่ใช่หลานสาวของไทเฮา และท่านไม่ใช่จ้านอ๋อง ท่านจะแต่งงานกับข้าอยู่รึไม่?”เซี่ยเชียนฮวันเท้าคาง แล้วมองเซียวเย่หลันอย่างยิ้มๆอย่างที่นางคาด เขาเพียงจดจ่ออยู่กับการกิน และไม่ตอบคำถามของนางหลังจากกินเสร็จ เขาก็เอียงศีรษะเล็กน้อย เพื่อรอให้เซี่ยเชียนฮวันป้อนคำต่อไป“ช่างเถอะ อย่างไรเสียท่านคงอยากจะแต่งงานกับซูอวี้เออร์” จู่ๆ เซี่ยเชียนฮวันก็หงุดหงิดขึ้นมา นางตบตะเกียบลงบนโต๊ะดังปัง แล้วกล่าวเสียดสีว่า “แต่ท่านไม่รู้อะไร ถ้าหากท่านมิใช่องค์ชาย ซูอวี้เออร์อะไรนั่นคงไม่แม้แต่จะชายตามองท่านเลย”เซียวเย่หลัน “…”ข้าวเขาล่ะ?รออยู่นานก็ไม่เห็นมีอะไรถึงแม้จะไม่ได้ยินและมองไม่เห็น แต่ยังสามารถสัมผัสความรู้สึกได้อย่างรางๆ ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ดูเหมือนจะโกรธคงไม่ใช่ว่าเบื่อหรือรู้สึกเหนื่อยกับตัวภาระอย่างเขาหรอกนะ...เซียวเย่หลันถอนหายใจออกมา แล้วก้มหน้าลง ขนตาหนาดุจปีกอีกาพลันหลุบต่ำปกปิดนัยน์ตาคม ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาดูเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก เซี่ยเชียนฮวันเห็นเขาก้มหน้า ก็เกิดความรู้สึกทนไม่ได้ขึ้นมาในใจ ก่อนจะกล่าวเสียงเบาว่า “เอาล่ะ รอกินข้าวเสร็จแล้ว ข้าจะออก
“หายากที่จะเห็นแม่นางน้อยอย่างเจ้าในสถานที่แบบนี้ เจ้ามาที่นี่เพื่อเก็บสมุนไพรโดยเฉพาหรือ?”บางทีชายชราคงไม่ได้พูดกับใครมานานเกินไป จึงพูดเป็นต่อยหอยเซี่ยเชียนฮวันจึงไม่อาจสลัดเขาได้ ทำได้แค่เดินไปเป็นเพื่อนเขา และพยักหน้าตอบ “ใช่แล้ว พ่อแม่ของข้าเปิดโรงหมออยู่ที่เมืองหลวง”“หือ ออกจากเมืองหลวงมาเก็บสมุนไพรที่นี่? นั่นมันไกลมากเลยนะ!” ชายชราอุทาน“เพราะข้าได้ยินมาว่ามีสมุนไพรหายากที่นี่ แต่หาอยู่นานก็หาไม่เจอ ท่านผู้เฒ่าอาศัยอยู่ที่นี่ คงรู้ว่าสมุนไพรเหล่านั้นเติบโตที่ไหน ไม่รู้ว่าพอจะแนะนำข้าได้หรือไม่”เซี่ยเชียนฮวันเอ่ยถึงชื่อสมุนไพรสองสามชนิดนางลอบสังเกตอีกฝ่าย แต่ไม่เห็นอะไรผิดปกติกับชายชรา แต่ในใจมักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ ถ้าหากชายชราผู้นี้สามารถพานางไปหาสมุนไพรได้ นั่นก็พิสูจน์ว่า เขาเป็นคนเก็บสมุนไพรที่อาศัยอยู่บนภูเขานี้จริงๆ ไม่ใช่ชาวซีเหลียงปลอมตัวมาหลังจากที่ชายชราได้ยินรายชื่อสมุนไพรของเซี่ยเชียนฮวัน เขาก็ตอบกลับมาแบบไม่ต้องคิดว่า “ไม่มีปัญหา ตามข้ามาได้เลย”“ขอบคุณมาก”เซี่ยเชียนฮวันเห็นท่าทางของเขาดูปกติมาก จึงค่อยๆ วางใจลงจากนั้น นางก็เดินตามชายชราเก
“เฮ้ ผู้หญิงคนนี้หน้าตาไม่เลวเลยนะ ก่อนจับกลับไป ทำไมพวกเราไม่ผลัดกันเล่นสักหน่อยล่ะ”“ดูให้ดี ท้องโตขนาดนี้ เอาอะไรมาเล่น”“ใครบอกว่าท้องโตแล้วเล่นไม่ได้? ข้ายังไม่เคยลองผู้หญิงท้องเลย ดังนั้นข้าอยากจะลองดูสักหน่อย ฮ่าๆ...”ชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเซี่ยเชียนฮวันอาจฟังไม่ออก แต่ดูจากสีหน้าของพวกเขาแล้ว ก็สามารถเดาออกว่าพวกเขากำลังหัวเราะอะไรกันนางเม้มปากแน่น ที่หว่างนิ้วแอบซ่อนเข็มเงินเอาไว้สองสามเล่ม เตรียมที่จะป้องกันตัวอีกฝ่ายมีคนมากเกินไป ถ้าหากมีแค่หนึ่งหรือสองคน นางก็ยังคงมีความมั่นใจ ว่าจะสามารถคว่ำอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้คนเหล่านี้กำลังล้อมรอบนางกับชายชรา ถึงแม้ว่านางจะใช้เข็มเงินจัดการไปสักคนสองคน แต่จะมีคนอื่นๆ เข้ามาแทนที่อย่างแน่นอน และสุดท้ายนางก็จะโดนจับหากตกอยู่ในมือชาวซีเหลียง เกรงว่าคงมีชีวิจอยู่ไม่สู้ตาย!“ลงมือ!”สิ้นเสียงคำสั่ง พวกเขาก็ถือดาบพุ่งเข้าหาเซี่ยเชียนฮวันเซี่ยเชียนฮวันยกมือขึ้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะสู้จนตัวตาย…“อ้าค!”ชายฉกรรจ์สองสามคนพลันกรีดร้องออกมาพร้อมกันก่อนจะล้มลงกับพื้น ราวกับควบคุมมือและเท้าไม่ได้ พวกเขาเกลือกกลิ
“ไปค้นร่างชาวซีเหลียงสิ พวกเขาพกยาแก้พิษมาเยอะมาก”เสิ่นหรงชี้ทางให้เซี่ยเชียนฮวันทันใดนั้นเซี่ยเชียนฮวันก็ตระหนักได้ขึ้นมาใช่แล้ว วันนี้โอกาสดีจับชาวซีเหลียงได้!บนร่างพวกเขาจะต้องมียาแก้ควันพิษแน่!คืนนั้นควันพิษกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งใช้เวลาหลายวันกว่าจะสลายไปจนหมด หากพวกเขาไม่มียาแก้พิษ ชะตากรรรมของพวกเขาก็จะเป็นแบบเดียวกับเซียวเย่หลันเวลาไม่คอยท่า เซี่ยเชียนฮวันรีบวิ่งไปค้นตัวพวกเขาทันที แน่นอนว่าพบขวดยาสองสามขวดนางเปิดขวดและดมมัน เพื่อตรวจสอบส่วนผสมของผงเหล่านี้ จากนั้นก็เก็บมันไว้ในตะกร้าไม้ไผ่ของตัวเองเมื่อนางเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ก็ไม่เห็นชายคนนั้นแล้วเซี่ยเชียนฮวันยืนขึ้นพร้อมกับตะกร้าในมือ แล้วบ่นพึมพำว่า “ยังไม่ทันได้ถามชื่อเลย...ช่างแปลกคนเสียจริง”จู่ๆ ก็มาปรากฏตัวอย่างลึกลับทุกครั้ง แล้วก็หายตัวไปอย่างเงียบๆไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของเขาคืออะไรแต่สรุปคือ ออกมาเก็บสมุนไพรในครั้งนี้แม้จะเจอสถานการณ์สุดระทึกไปบ้าง แต่ผลลัพธ์ค่อนข้างดี นับว่านางกับเซียวเย่หลันโชคดีมากเซี่ยเชียนฮวันถือตะกร้าสมุนไพรที่เสิ่นหรงมอบให้ แล้วเดินกลับไปที่กระท่อมมุงจาก“ข่าวดี ข้
ทางด้านเมืองหลวงนั้นได้กำหนดวันฝังพระศพของจ้านอ๋องเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นก็คือพรุ่งนี้ซึ่งเซี่ยเชียนฮวันไม่รู้เรื่องนี้ นางยังคงมีความสุขที่ได้ค้นพบยาแก้ควันพิษนางพบผ้าขาวสะอาดสองผืน และนำมาทำเป็นผ้าพันแผล ทายาแก้พิษลงบนผ้า ก่อนจะนำมาปิดตาเซียวเย่หลัน“คืนนี้ห้ามถอดผ้าผืนนี้ เชื่อข้าสิ พรุ่งนี้ท่านจะรู้สึกดีขึ้นมาก” นางกระซิบพูดแน่นอนว่ายาทานก็ไม่อาจมองข้ามได้ หลังจากเซี่ยเชียนฮวันประคองเซียวเย่หลันให้นอนลง นางก็ไปหยิบสมุนไพรและทำอาหารให้เขา กว่าจะทำทุกอย่างจนเสร็จ ก็ปาไปกลางดึกแล้วนางตักน้ำขึ้นมาจากบ่อน้ำ แล้วเดินไปหยุดอยู่ข้างๆ เซียวเย่หลัน“อะแฮ่ม ข้าอยากจะเช็ดตัวท่านสักหน่อย อย่างไรเสียท่านก็อยู่ข้างนอกมานาน ไหนจะซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดินอีก ถ้าหากไม่เช็ดตัว ข้า...ข้าเกรงว่าท่านจะมีเหา” เซี่ยเชียนฮวันพูด ขณะที่ใบหน้าเริ่มแดงก่ำขึ้นมานางปลอบใจตัวเองอย่างเงียบๆ ว่า มันเป็นเรื่องปกติที่จะเช็ดตัวให้คนป่วย เพียงแต่ว่าเรื่องแบบนี้ควรปล่อยให้พยาบาลทําแต่ตอนนี้ข้างกายของเซียวเย่หลันมีแค่นางเพียงคนเดียว มีแต่นางเท่านั้นที่ต้องทำงานให้หนักขึ้น ทั้งงานของหมอและงานของพยาบาล
ในตอนเช้าเซี่ยเชียนฮวันลืมตาขึ้นมาอย่างง่วงงุน ก่อนผลักแขนอันหนักอึ้งของชายคนนั้นออกนี่เกือบจะฆ่านางแล้วจริงๆนางรีบมาช่วยเขาด้วยความเมตตา พยายามล้างพิษให้เขา รักษาบาดแผลให้เขาแต่ปรากฎว่าเขากลับตอบแทนนางด้วยวิธีนี้! โชคดีที่เซียวเย่หลันอ่อนโยนและระมัดระวังเมื่อคืนนี้ จึงไม่มีผลกระทบต่อลูกน้อยในท้องนาง มิฉะนั้น นางจะฆ่าสุนัขตัวผู้ตัวนี้อย่างแน่นอนแต่ตอนนี้ เซี่ยเชียนฮวันปวดเอวไปหมด จนเกือบจะลุกไม่ขึ้น“โครกคราก...” คงเป็นเพราะใช้แรงมากจนเกินไป พอตื่นขึ้นมา ท้องนางถึงได้ส่งเสียงร้องโครกครากด้วยความหิวไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องออกไปหาผลไม้ป่าเพื่อสนองความหิวของตัวเองก่อนเซี่ยเชียนฮวันช่วยเซียวเย่หลันเปลี่ยนยาอย่างระมัดระวังอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ปิดประตู กุมเอว เดินขึ้นเขาด้วยท่าทางอ่อนปวกเปียกนางไม่กล้าเดินไปตามเส้นทางที่เคยเดินมาก่อน เพราะเกรงว่าจะบังเอิญพบกับชาวซีเหลียงอีก จึงเปลี่ยนเส้นทางไปหาผลไม้ป่ากิน“พระชายาจ้านอ๋อง!” เซี่ยเชียนฮวันเพิ่งจะยัดพุทราเข้าปาก จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกจากทางด้านหลังเมื่อหันกลับไปมอง ก็พบว่าเป็นอู่อันโหวที่ควบม้าเข้ามา“ท่
วันนี้ บ้านเรือนแต่ละหลังล้วนถูกปิด แม้แต่ร้านอาหารหรือร้านน้ำชาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเพราะวันนี้เป็นวันเคลื่อนพระศพของจ้านอ๋องฮ่องเต้ทรงมีรับสั่ง ให้ชาวต้าเซี่ยทุกคนแต่งกายไว้ทุกข์สิบวัน ใครละเมิดกฎจะถูกประหารชีวิตกระดาษเงินสีขาวปลิวว่อนไปตามถนน ขบวนเคลื่อนพระศพเป็นไปอย่างเคร่งขรึมและเงียบงัน เดินไปกลางถนนอย่างช้าๆองค์รัชทายาทและองค์ชายรองต่างขี่ม้าขนาบข้างขบวน เพื่อปกป้องโลงศพการให้สองคนนี้รับหน้าที่ส่งเสด็จ จะเห็นได้ว่า ฮ่องเต้ทรงให้ความสำคัญกับจ้านอ๋องมากเพียงใดทันใดนั้น ความเงียบของถนนก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงกีบม้า“เร็วเข้า รีบพาพระชายาลงมา!” อู่อันโหวโบกมือสั่งข้ารับใช้ข้ารับใช้รีบเข้าไปในรถม้า กลับเห็นสภาพของเซี่ยเชียนฮวันที่ถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ หากพาลงไปทั้งๆ แบบนี้คงดูไม่ดีแน่ คนอื่นอาจจะคิดว่าพวกเขาไปลักพาตัวพระชายามาแน่ๆ ดังนั้น ก่อนจะลงไป พวกเขาก็ใช้กริชตัดเชือกที่มัดขาของเซี่ยเชียนฮวันออกเซี่ยเชียนฮวันฉวยโอกาสนี้ชนพวกเขา แล้วกระโดดลงจากรถม้า! “พระชายา!” พวกเขาตะโกนไล่หลังเซี่ยเชียนฮวันวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว ก็พบกับขบวนเคลื่อนพระศพตรงหน้ากระดาษสี