“ซูหราน!”เสียงของฟู่จิ้นหานสั่นเครือไม่หยุดที่ปลายสาย ลู่ซิวหนิงตั้งใจเปิดเสียงให้ดัง เพื่อทำให้ฟู่จิ้นหานได้ยินเสียงของซูหรานเพียงแค่ได้ยินเขาเรียกชื่อ “ซูหราน” ลู่ซิวหนิงก็รู้สึกถึงความตึงเครียดของฟู่จิ้นหานแล้วลู่ซิวหนิงค่อย ๆ เหลือบไปมองซูหรานในตอนนี้ ซูหรานกำลังนั่งพิงอยู่ที่ห้องโดยสาร แววตาเริ่มมืดมัว เนื่องจากเมื่อสักครู่เธอได้ต่อสู้กับลู่ซิวหนิง ทำให้ศีรษะของเธอชนเข้ากับผนังของห้องโดยสาร และตรงบาดแผลก็กำลังมีเลือดไหลออกมาเดินทีเธอก็อ่อนแรงอยู่แล้ว ในตอนนี้ เธอยิ่งรู้สึกมึนงงมากขึ้นกว่าเดิมเหมือนว่าเธอจะได้ยินเสียงของฟู่จิ้นหานหัวของเธอเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้ความมึนงง เธอเรียกออกไปตามสัญชาตญาณว่า “สามี” จิตใต้สำนึกของเธอเริ่มจะไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไปแล้ว แม้แต่ลู่ซิวหนิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ร่างของเขาก็เริ่มสั่นไหวแล้วด้วยเช่นกัน และการมองเห็นของเธอก็ค่อย ๆ เบลอมากขึ้นเรื่อย ๆแต่เธอกลับรู้ตัวดี ว่าเธอจะหลับไม่ได้หากว่าเธอหลับ ก็เท่ากับปล่อยให้ลู่ซิวหนิงได้ทำตามใจชอบภายใต้ความมึนงง ซูหรานหยิกเนื้อที่ต้นขาอย่างแรง พยายามใช้ความเจ็บปวดเพื่อให้ตัวเ
เรื่องที่เขาหนีออกมาจากโรงพยาบาลจิตเวช ไม่มีใครรู้เลยสักคน!แต่ต่อให้ตอนนั้นจะไม่มีใครสังเกตเห็น พอหลังจบเรื่องก็จะต้องมีคนเห็นแน่นอนแววตาของลู่ซิวหนิงเปล่งประกายขึ้นเล็กน้อย และมีความกลัวที่เพิ่มขึ้น “คุณรู้จริง ๆ เหรอ?”ลู่ซิวหนิงยังคงทดสอบถามออกไปน้ำเสียงของฟู่จิ้นหานค่อนข้างเบา ปนกับเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นมา “แกเคยไปที่ตึกฟู่ซือกรุ๊ป เคยไปที่โรงแรมไห่เฉิง เคยไปที่โรงพยาบาลซินเหอ กระทั่ง......แกยังปลอมตัว แกปลอมตัวได้ดีมาก ขนาดซูหรานขึ้นรถที่แกขับ เธอก็ยังไม่รู้ตัว......”เขาสามารถพูดสิ่งเหล่านี้ออกได้ นั่นมันหมายถึงอะไรกันล่ะ?ลู่ซิวหนิงตัวสั่นเล็กน้อยเขารู้เรื่องทั้งหมดจริง ๆ!ไม่เพียงแค่รู้เท่านั้น แต่ยังปล่อยให้เขาอยู่ข้างนอก และไม่ได้ลงมืออะไรกับเขาอีกต่างหากฟู่จิ้นหาน......คิดจะทำอะไรกันแน่?แววตาของลู่ซิวหนิงเป็นประกาย เขาอดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “คุณจะทำอะไร?”“ฉันก็บอกแล้วไง ว่าฉันก็แค่ต้องการความสนุก ส่วนแก......ก็คือความสนุกของฉัน!”ฟู่จิ้นหานยิ้มเยาะอย่างเย็นชา ท่าทางดูไม่แยแสของเขา ลู่ซิวหนิงยิ่งรู้สึกมึนงง เขาพยายามคาดเดาว่า “ความสนุก” นี้คืออะไรกั
ลู่ซิวหนิงหรี่ตา แล้วมองไปที่ซูหราน เหมือนกำลังต้องการค้นหาความตั้งใจในใจของเธอเขาก็ไม่สามารถเข้าใจความคิดของคุณชายสามฟู่ได้ และเขาก็ยิ่งมองซูหรานไม่ออกด้วยเช่นกัน“ไหนลองพูดมาสิ” ลู่ซิวหนิงยังคงให้ความสนใจอยู่ในเมื่อมองไม่ออก งั้นก็ล้วงข้อมูลจากปากซูหรานมาสักหน่อยก็แล้วกัน แล้วค่อยตัดสินยิ่งไปกว่านั้น ซูหรานก็เพิ่งจะดื่มน้ำที่เขาให้ไป ร่างกายยังคงอ่อนแรง สติการรับรู้ยังไม่ปกติ แถมยังเสียเลือดไปมากอีกต่างหาก ซูหรานในตอนนี้มีสีหน้าที่ดูซีดเซียว ไม่มีกำลังจะโจมตีด้วยซ้ำ หรือต่อให้เขาคิดจะทำอะไร เธอก็แทบจะไม่มีแรงต่อต้านด้วยซ้ำลู่ซิวหนิงลดการระวังตัวลงดังนั้น ในขณะที่ซูหรานพูดด้วยเสียงที่ค่อนข้างเบา น้ำเสียงดูอ่อนแรง แม้ว่าลู่ซิวหนิงจะไม่พอใจเพราะฟังไม่ค่อยชัด แต่เขาก็ยังขยับตัวเข้าใกล้ซูหรานอยู่ดี“นายรู้ไหม? ฟู่จิ้นหาน เขาน่ะ......”ซูหรานขมวดคิ้ว ราวกับว่าไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดและอาการเวียนหัวได้ ร่างกายเริ่มไม่มั่นคงมากขึ้นเรื่อย ๆลู่ซิวหนิงกำลังถูกยั่วน้ำลายอย่างเห็นได้ชัดสัญชาตญาณบอกกับเขาว่า สิ่งที่ซูหรานกำลังจะพูด จะต้องเป็นจุดอ่อนของฟู่จิ้นหานแน่นอนแต่ประโ
แสงไฟที่สว่างจ้าทั่วท้องฟ้าทำให้รู้สึกแสบตาเป็นพิเศษเรือคายัคของลู่ซิวหนิงพายออกไปยังไม่ไกลมากนัก ท่ามกลางแรงระเบิดที่รุนแรง เรือคายัคถูกคลื่นทะเลซัดออกไปไกลพอสมควร จนเกือบจะพลิกคว่ำความตื่นตระหนกชั่วขณะ ทำให้เขาไม่ทันได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติที่อยู่เบื้องหลังแสงไฟลู่ซิวหนิงยากที่จะตั้งสติได้ ในขณะที่กำลังตกใจ เขาก็เห็นแสงไฟจากการระเบิด หลังจากที่อึ้งไปชั่วขณะ ใบหน้าที่เปื้อนเลือด และดวงตาของเขาก็เหลือเพียงความบ้าคลั่งเท่านั้นตามแผนที่วางเอาไว้ คนที่ควรจะถูกระเบิดตายที่นี่ก็คือคุณชายสามฟู่แต่ตอนนี้จะเป็นซูหรานก็เหมือนกัน!“ซูหรานเอ๋ย ซูหราน อย่าโทษฉันเลยนะ ใครใช้ให้อาสามไม่มาช่วยเธอ ฮ่า ฮ่า ๆ ๆ ๆ......”ลู่ซิวหนิงหัวเราะเสียงดังเขายังไม่ยอมแพ้ซูหรานตายแล้ว แต่ฟูจิ้นหานและซูอินยังอยู่อย่างสบายดี!ภาพของทั้งสองคนผุดขึ้นมาในหัวของเขา ดูเหมือนว่าเพราะข่าวการตายของซูหรานที่เกิดจากการระเบิด จะทำให้ความปรารถนาที่จะล้างแค้นในใจของเขาเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆในขณะเดียวกัน เขาถึงขั้นไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่ขาเลยแม้แต่น้อยเขาพายเรือคายัค และคิดวางแผนสำหรับสิ่งที่จะทำต่อไป
ภาพเหตุการณ์เรือระเบิดเมื่อสักครู่ผุดขึ้นมาในหัว ฟู่จิ้นหานสูดหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยท่าทีเย็นชา“คุณชายครับ จะจัดการกับคนคนนี้ยังไงดีครับ?”เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวของฉินฟั่งดังขึ้นหากไม่ใช่เพราะคุณชายจะเป็นคนจัดการเอง เมื่อกี้เขาคงจะพลิกเรือคายัคของลู่ซิวหนิงให้เขาจมน้ำไปแล้วฟู่จิ้นหานหลับตาลงเงียบ ๆ ชั่วขณะหนึ่งเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ทุกอารมณ์ก็ได้ถูกปกปิดเอาไว้หมดแล้วเขาหันหลัง และจ้องมองไปที่ลู่ซิวหนิงแววตานั้นเย็นยะเยือกเจาะลึกจนถึงกระดูก ราวกับลูกศร เหมือนกับมีดเหล็ก ในใจลู่ซิวหนิงสั่นสะท้านขึ้นมาในทันที และรีบขอความเมตตา:“อาสามครับ อาสามไว้ชีวิตผมเถอะนะครับ อาบอกว่าอาไม่ได้รักซูหรานไม่ใช่เหรอครับ? ตอนนี้เธอก็ตายไปแล้ว ถือเป็นเรื่องดีที่เธอจะไม่มาข้องเกี่ยวกับอาอีก อารู้ไหม? เมื่อกี้หลังจากที่วางสาย ซูหรานยังด่าอาอีกด้วย”“ใช่ เธอบอกว่าอาเป็นคนเลือดเย็น แต่ในความเป็นจริง เธอแค่เล่นละครตามน้ำไปกับอาก็เท่านั้น เธอ......”ลู่ซิวหนิงพยายามคิดหาวิธียุแยงสองคนนี้แต่ก็กลับพบว่า ใบหน้าของฟู่จิ้นหานยิ่งดูมืดมนและน่ากลัวมากกว่าเดิมแม้แต่ฉินฟั่งเองก็ไม่อยากที่จะฟัง
ในระหว่างที่กำลังครุ่นคิด จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวเบา ๆ จากด้านหลังหยางซูหันกลับไป และเห็นผู้ที่เดินมา สีหน้าของเขาค่อนข้างตกใจ “คุณปู่......”เป็นคุณท่านเย่ที่เดินมาคุณท่านเย่นั่งอยู่บนรถเข็น สีหน้าดูสงบและไม่มีการคลื่นไหวใด ๆ ดวงตาของท่านดูลึกราวกับบ่อน้ำที่ไร้ก้น ทำให้ผู้คนไม่สามารถมองเห็นอารมณ์ที่แท้จริงได้เลยหยางซูเรียกเขาเสียงดัง ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ยินอะไรเลยแต่หยางซูก็มั่นใจว่า คำพูดของลู่ซิวหนิงเมื่อสักครู่นั้น คุณท่านได้ยินหมดแล้วคุณท่านหยุดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังกลับอย่างไม่สะทกสะท้าน“คุณปู่......”หยางซูอยากที่จะวิ่งตามไป แต่กลับได้ยินเสียงของลู่ซิวหนิงที่ยังคงพูดต่ออยู่ข้างหลัง:“อาสามครับ ซูอินเป็นคนที่จะไม่หยุดจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย อาควรจะไปแก้แค้นเธอ เธอมีเจตนาร้ายต่อซูหรานมากกว่าผมเสียอีก อาควรดึงเธอฝังไปพร้อมกันกับซูหรานถึงจะถูก”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ก็ยังไม่สามารถปิดบังข้อเท็จจริงที่เพิ่งเกิดขึ้นได้เขาได้ระเบิดซูหรานจนตายอยู่กลางทะเลแววตาของฟู่จิ้นหานลึกราวกับบ่อที่ไร้ก้น เขาจ้องไปที่ลู่ซิวหนิงโดยไม่พูดอะไร ลู่ซิวหนิงเริ่มรู้สึกถึงความสิ้นห
ในตอนนี้ ความสนใจของทุกคนอยู่ที่ผ้าขาวผืนนี้ ซูอินรู้ว่าคงไม่มีใครสังเกตเห็นเธอเธอรีบเก็บความสุขบนใบหน้าไปอย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกัน ในฐานะหลานสาวแท้ ๆ ของคุณท่านเย่ เธอจึงต้องแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งออกมาให้ได้มากที่สุด“กะ......เกิดอะไรขึ้น?”ซูอินเปิดปากพูด ท่ามกลางลมทะเลที่ผัดโชยมา เสียงของเธอมีความสั่นไหวเล็กน้อย ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอแสดงถึงความไม่สบายใจเมื่อได้ยินเสียงของเธอ ทุกคนต่างหันมามองก็เห็นว่าซูอินกำลังจ้องมองมาทางนี้ ท่าทีของเธอราวกับว่าเธอคาดเดาอะไรบางอย่างได้ เมื่อเธอเดินเข้ามา ทุกย่างก้าวก็เหมือนจะสะดุดล้มได้ทุกเมื่อการแสดงนี้......เล่นได้ดีจริง ๆ!ภายตาแววตาที่ดูเคร่งขรึมของเย่ถิงเซิน มีความเกลียดชังแวบผ่านไปอย่างรวดเร็วหยางซูที่ไม่ได้อยู่ในฝูงชนก็อดที่จะหัวเราะเยาะในใจไม่ได้ ในตอนที่ซูอินปรากฏตัว เขาก็สังเกตเห็นเธอแล้ว และถึงขั้นเห็นด้วยตาตนเองว่าเธอเปลี่ยนจากความดีใจชั่วขณะเป็นความเศร้าสร้อยได้อย่างไรในตอนนี้ เมื่อมองดูเธอที่มีท่าทางเศร้าและอ่อนแรง ต่อให้หยางซูจะเคยเห็นหลายสิ่งบนโลกมามากมาย แต่เขาก็ยังรู้สึกตกใจอยู่ดีเขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว
เธอสังเกตเห็นเหมือนว่าถนนจะถูกระเบิด ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นในใจแต่เธอก็ไม่ได้คิดมากอะไรเมืองไห่เฉิง วิลล่าตระกูลเย่ทันทีที่ซูอินกลับมาถึง อาจเพราะเธอเสียใจมากเกินไป เธอจึงเป็นลมอีกครั้งคนทั้งวิลล่าต่างก็กำลังวิ่งวุ่นทำหน้าที่ของตัวเองกันอยู่ มีเพียงซูอินคนเดียวที่ “รับแรงกดดันไม่ไหว” แต่หลังจากที่เธอถูกส่งกลับไปที่ห้อง ท่าทีอ่อนแอก็หายไปในพริบตาเมื่อไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยแล้ว ในที่สุดซูอินก็มีโอกาสเธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และโทรหาหลินเยว่เยว่ทันทีอีกด้านของสายโทรศัพท์ หลินเยว่เยว่กำลังอยู่ในงานรื่นเริงที่ไหนสักแห่ง ทันทีที่เธอรับสายซูอิน เธอก็เดินไปหาที่เงียบ ๆ ทันที แต่ก็ยังไม่สามารถปกปิดเสียงรบกวนรอบข้างได้เสียงรบกวนดังผ่านโทรศัพท์เข้าหูซูอิน ซูอินขมวดคิ้วเล็กน้อย และน้ำเสียงของเธอก็มีความไม่พอใจเพิ่มขึ้นมา “เรื่องไปถึงไหนแล้ว?”ไม่จำเป็นต้องอธิบาย หลินเยว่เยว่ก็รู้ว่า “เรื่อง” ที่อีกฝ่ายพูดถึงนั้นคืออะไรหลินเยว่เยว่นึกถึงสิ่งที่ได้มาเมื่อสองชั่วโมงก่อน “พี่อินอิน สบายใจได้ ฉันได้ของมาแล้ว แล้วพี่จะใช้มันยังไง?”ถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่เคยดูเนื้อหา แต่พ