แสงไฟที่สว่างจ้าทั่วท้องฟ้าทำให้รู้สึกแสบตาเป็นพิเศษเรือคายัคของลู่ซิวหนิงพายออกไปยังไม่ไกลมากนัก ท่ามกลางแรงระเบิดที่รุนแรง เรือคายัคถูกคลื่นทะเลซัดออกไปไกลพอสมควร จนเกือบจะพลิกคว่ำความตื่นตระหนกชั่วขณะ ทำให้เขาไม่ทันได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติที่อยู่เบื้องหลังแสงไฟลู่ซิวหนิงยากที่จะตั้งสติได้ ในขณะที่กำลังตกใจ เขาก็เห็นแสงไฟจากการระเบิด หลังจากที่อึ้งไปชั่วขณะ ใบหน้าที่เปื้อนเลือด และดวงตาของเขาก็เหลือเพียงความบ้าคลั่งเท่านั้นตามแผนที่วางเอาไว้ คนที่ควรจะถูกระเบิดตายที่นี่ก็คือคุณชายสามฟู่แต่ตอนนี้จะเป็นซูหรานก็เหมือนกัน!“ซูหรานเอ๋ย ซูหราน อย่าโทษฉันเลยนะ ใครใช้ให้อาสามไม่มาช่วยเธอ ฮ่า ฮ่า ๆ ๆ ๆ......”ลู่ซิวหนิงหัวเราะเสียงดังเขายังไม่ยอมแพ้ซูหรานตายแล้ว แต่ฟูจิ้นหานและซูอินยังอยู่อย่างสบายดี!ภาพของทั้งสองคนผุดขึ้นมาในหัวของเขา ดูเหมือนว่าเพราะข่าวการตายของซูหรานที่เกิดจากการระเบิด จะทำให้ความปรารถนาที่จะล้างแค้นในใจของเขาเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆในขณะเดียวกัน เขาถึงขั้นไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่ขาเลยแม้แต่น้อยเขาพายเรือคายัค และคิดวางแผนสำหรับสิ่งที่จะทำต่อไป
ภาพเหตุการณ์เรือระเบิดเมื่อสักครู่ผุดขึ้นมาในหัว ฟู่จิ้นหานสูดหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยท่าทีเย็นชา“คุณชายครับ จะจัดการกับคนคนนี้ยังไงดีครับ?”เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวของฉินฟั่งดังขึ้นหากไม่ใช่เพราะคุณชายจะเป็นคนจัดการเอง เมื่อกี้เขาคงจะพลิกเรือคายัคของลู่ซิวหนิงให้เขาจมน้ำไปแล้วฟู่จิ้นหานหลับตาลงเงียบ ๆ ชั่วขณะหนึ่งเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ทุกอารมณ์ก็ได้ถูกปกปิดเอาไว้หมดแล้วเขาหันหลัง และจ้องมองไปที่ลู่ซิวหนิงแววตานั้นเย็นยะเยือกเจาะลึกจนถึงกระดูก ราวกับลูกศร เหมือนกับมีดเหล็ก ในใจลู่ซิวหนิงสั่นสะท้านขึ้นมาในทันที และรีบขอความเมตตา:“อาสามครับ อาสามไว้ชีวิตผมเถอะนะครับ อาบอกว่าอาไม่ได้รักซูหรานไม่ใช่เหรอครับ? ตอนนี้เธอก็ตายไปแล้ว ถือเป็นเรื่องดีที่เธอจะไม่มาข้องเกี่ยวกับอาอีก อารู้ไหม? เมื่อกี้หลังจากที่วางสาย ซูหรานยังด่าอาอีกด้วย”“ใช่ เธอบอกว่าอาเป็นคนเลือดเย็น แต่ในความเป็นจริง เธอแค่เล่นละครตามน้ำไปกับอาก็เท่านั้น เธอ......”ลู่ซิวหนิงพยายามคิดหาวิธียุแยงสองคนนี้แต่ก็กลับพบว่า ใบหน้าของฟู่จิ้นหานยิ่งดูมืดมนและน่ากลัวมากกว่าเดิมแม้แต่ฉินฟั่งเองก็ไม่อยากที่จะฟัง
ในระหว่างที่กำลังครุ่นคิด จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวเบา ๆ จากด้านหลังหยางซูหันกลับไป และเห็นผู้ที่เดินมา สีหน้าของเขาค่อนข้างตกใจ “คุณปู่......”เป็นคุณท่านเย่ที่เดินมาคุณท่านเย่นั่งอยู่บนรถเข็น สีหน้าดูสงบและไม่มีการคลื่นไหวใด ๆ ดวงตาของท่านดูลึกราวกับบ่อน้ำที่ไร้ก้น ทำให้ผู้คนไม่สามารถมองเห็นอารมณ์ที่แท้จริงได้เลยหยางซูเรียกเขาเสียงดัง ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ยินอะไรเลยแต่หยางซูก็มั่นใจว่า คำพูดของลู่ซิวหนิงเมื่อสักครู่นั้น คุณท่านได้ยินหมดแล้วคุณท่านหยุดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังกลับอย่างไม่สะทกสะท้าน“คุณปู่......”หยางซูอยากที่จะวิ่งตามไป แต่กลับได้ยินเสียงของลู่ซิวหนิงที่ยังคงพูดต่ออยู่ข้างหลัง:“อาสามครับ ซูอินเป็นคนที่จะไม่หยุดจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย อาควรจะไปแก้แค้นเธอ เธอมีเจตนาร้ายต่อซูหรานมากกว่าผมเสียอีก อาควรดึงเธอฝังไปพร้อมกันกับซูหรานถึงจะถูก”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ก็ยังไม่สามารถปิดบังข้อเท็จจริงที่เพิ่งเกิดขึ้นได้เขาได้ระเบิดซูหรานจนตายอยู่กลางทะเลแววตาของฟู่จิ้นหานลึกราวกับบ่อที่ไร้ก้น เขาจ้องไปที่ลู่ซิวหนิงโดยไม่พูดอะไร ลู่ซิวหนิงเริ่มรู้สึกถึงความสิ้นห
ในตอนนี้ ความสนใจของทุกคนอยู่ที่ผ้าขาวผืนนี้ ซูอินรู้ว่าคงไม่มีใครสังเกตเห็นเธอเธอรีบเก็บความสุขบนใบหน้าไปอย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกัน ในฐานะหลานสาวแท้ ๆ ของคุณท่านเย่ เธอจึงต้องแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งออกมาให้ได้มากที่สุด“กะ......เกิดอะไรขึ้น?”ซูอินเปิดปากพูด ท่ามกลางลมทะเลที่ผัดโชยมา เสียงของเธอมีความสั่นไหวเล็กน้อย ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอแสดงถึงความไม่สบายใจเมื่อได้ยินเสียงของเธอ ทุกคนต่างหันมามองก็เห็นว่าซูอินกำลังจ้องมองมาทางนี้ ท่าทีของเธอราวกับว่าเธอคาดเดาอะไรบางอย่างได้ เมื่อเธอเดินเข้ามา ทุกย่างก้าวก็เหมือนจะสะดุดล้มได้ทุกเมื่อการแสดงนี้......เล่นได้ดีจริง ๆ!ภายตาแววตาที่ดูเคร่งขรึมของเย่ถิงเซิน มีความเกลียดชังแวบผ่านไปอย่างรวดเร็วหยางซูที่ไม่ได้อยู่ในฝูงชนก็อดที่จะหัวเราะเยาะในใจไม่ได้ ในตอนที่ซูอินปรากฏตัว เขาก็สังเกตเห็นเธอแล้ว และถึงขั้นเห็นด้วยตาตนเองว่าเธอเปลี่ยนจากความดีใจชั่วขณะเป็นความเศร้าสร้อยได้อย่างไรในตอนนี้ เมื่อมองดูเธอที่มีท่าทางเศร้าและอ่อนแรง ต่อให้หยางซูจะเคยเห็นหลายสิ่งบนโลกมามากมาย แต่เขาก็ยังรู้สึกตกใจอยู่ดีเขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว
เธอสังเกตเห็นเหมือนว่าถนนจะถูกระเบิด ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นในใจแต่เธอก็ไม่ได้คิดมากอะไรเมืองไห่เฉิง วิลล่าตระกูลเย่ทันทีที่ซูอินกลับมาถึง อาจเพราะเธอเสียใจมากเกินไป เธอจึงเป็นลมอีกครั้งคนทั้งวิลล่าต่างก็กำลังวิ่งวุ่นทำหน้าที่ของตัวเองกันอยู่ มีเพียงซูอินคนเดียวที่ “รับแรงกดดันไม่ไหว” แต่หลังจากที่เธอถูกส่งกลับไปที่ห้อง ท่าทีอ่อนแอก็หายไปในพริบตาเมื่อไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยแล้ว ในที่สุดซูอินก็มีโอกาสเธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และโทรหาหลินเยว่เยว่ทันทีอีกด้านของสายโทรศัพท์ หลินเยว่เยว่กำลังอยู่ในงานรื่นเริงที่ไหนสักแห่ง ทันทีที่เธอรับสายซูอิน เธอก็เดินไปหาที่เงียบ ๆ ทันที แต่ก็ยังไม่สามารถปกปิดเสียงรบกวนรอบข้างได้เสียงรบกวนดังผ่านโทรศัพท์เข้าหูซูอิน ซูอินขมวดคิ้วเล็กน้อย และน้ำเสียงของเธอก็มีความไม่พอใจเพิ่มขึ้นมา “เรื่องไปถึงไหนแล้ว?”ไม่จำเป็นต้องอธิบาย หลินเยว่เยว่ก็รู้ว่า “เรื่อง” ที่อีกฝ่ายพูดถึงนั้นคืออะไรหลินเยว่เยว่นึกถึงสิ่งที่ได้มาเมื่อสองชั่วโมงก่อน “พี่อินอิน สบายใจได้ ฉันได้ของมาแล้ว แล้วพี่จะใช้มันยังไง?”ถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่เคยดูเนื้อหา แต่พ
“เธอก็คือเหยียนเหยียนใช่ไหม?” คุณท่านเย่จ้องมองที่รูปถ่ายด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างซับซ้อนนำภาพสองภาพออกมาเปรียบเทียบกัน “เห็นได้ชัดว่านี่คือคนสองคน......”คุณยายเองก็ไม่ได้แย่งรูปถ่ายมา เธอมองดูรูปทั้งสองใบ แต่สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความพึงพอใจ เหมือนกับกำลังมองเด็กที่เธอรักมาก ๆ คนหนึ่ง“จะเป็นคนสองคนได้อย่างไร? เห็น ๆ อยู่ว่าคือคนเดียวกัน คุณมองดูดวงตาคู่นี้สิ......มองยังไงก็คนเดียวกัน ต่างก็เป็นเหยียนเหยียนทั้งนั้น ฮึ ๆ เหยียนเหยียนยังคงเหมือนเมื่อก่อนไม่เคยเปลี่ยน”คุณท่านเย่มีสีหน้าตกใจเล็กน้อย ราวกับว่าเขาเพิ่งเข้าใจอะไรบางอย่างเขานิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะกล่าว “ขอบคุณ” คุณยาย และเดินออกจากห้องหนังสือไปคุณท่ายเย่เรียกเย่ถิงเซินมา ส่งซองเอกสารให้เขา พร้อมกับพูดกำชับเขาหนึ่งประโยคเย่ถิงเซินได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกงงงวยเล็กน้อยจนกระทั่งคุณท่านเย่ที่นั่งอยู่บนรถเข็นห่างออกไปไกลแล้ว เย่ถิงเซินถึงได้สติแต่หลังจากที่ได้สติกลับมา เขาก็จ้องไปที่ถุงเอกสารในมือ ข้อความที่คุณท่านกำชับนั้น ยังคงดังก้องอยู่ในหัว ก่อนที่เขาจะตกอยู่ในห้วงของความคิดอีกครั้งหนึ่ง......ข้างนอกได้มีข่าวลือเ
แต่ก็มองดูอยู่นาน สุดท้ายเธอก็ล้มเหลวเธอไม่สามารถมองเห็นความเป็นฉินเหยียนจากผู้หญิงตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย สายตาของเธอเริ่มมีความสงสัยมากขึ้น “เธอแน่ใจนะ ว่าเธอเป็นลูกสาวของเธอ?”สีหน้าของซูอินแข็งทื่อเธอรู้ว่า “เธอ” ที่เย่ซินพูดถึงคือฉินเหยียนเธอคิดไม่ถึงเลยว่า เย่ซินจะพูดตรงขนาดนี้ตัวเธอเองไม่เหมือนฉินเหยียน และยิ่งไม่ใช่ลูกสาวของเธอด้วยซ้ำอย่างไรก็ตาม ซูอินได้รีบกดความรู้สึกไม่มั่นใจที่เกิดขึ้นลงทันที และตอบกลับไปว่า “หนูไม่เคยเจอหน้าแม่มาก่อน แต่คุณตาก็ได้ทำการตรวจดีเอ็นเอแล้ว หนูเองก็ตกใจเหมือนกันค่ะ”ที่เธอจะสื่อก็คือ เธอมีสายเลือดของตระกูลเย่ และเป็นหลานสาวที่แท้จริงของตระกูลเย่ไม่มีผิดเพี้ยนเธอไม่ต้องการให้เย่ซินเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องในครอบครัวของเธอมากนัก ซูอินจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา และชี้ไปที่ซูหราน “อาซินเคยเจอคุณแม่ไหมคะ? เช่นนั้นอาก็จะต้องไปเจอพี่หรานหรานนะคะ ทุกคนต่างก็บอกว่าดวงตาของพี่หรานหรานเหมือนแม่ของหนูมาก”ซูอินไม่กลัวที่จะพูดถึงเรื่องนี้ออกมามีหลานสาวคนไหนบ้างที่คุณท่านเย่รับอุปการะมา แล้วมีดวงตาไม่เหมือนกับฉินเหยียน?เย่ซินขมวดคิ้ว และตกอยู่ใน
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”หยางซูจ้องมองไปที่ซูอิน เขาจะไม่บอกกับเธอ ว่าทนายคนนั้นได้อยู่ที่ไห่เฉิงเรียบร้อยแล้วทันทีที่คุณท่านกลับมาที่ไห่เฉิง ก็ได้ให้ทนายรีบมาที่นี่อย่างลับ ๆและการกระทำของซูอินในคืนนี้ ดูท่าแล้ว คุณท่านเองก็น่าจะมองสถานการณ์ออกตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนจากหยางซู ซูอินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมเธอไม่กล้าที่จะลำพองตัวมากเกินไป เหมือนว่าเธอจะรู้สึกพอใจมาก จึงถอนหายใจออกมา “การที่สามารถทำตามความปรารถนาของคุณปู่ได้ ก็ถือเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำเพื่อคุณปู่ได้แล้วล่ะค่ะ”ซูอินลดสายตาลง ให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความต้องการอะไรเลยจริง ๆแต่หยางซูกลับรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้แล้วในที่สุดหยางซูก็ไม่สามารถอดทนต่อความเกลียดชังในใจได้ เขาจึงอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงขอให้ซูอินออกไปก่อนเมื่อกลับมาถึงห้อง ซูอินก็รีบวางแผนทุกอย่างที่เหลือทันทีเช้าวันถัดมา ทั้งวิลล่าก็เริ่มวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อวานได้มีการกำหนดให้เผาศพวันนี้ก่อนเริ่มการเผาศพ ก็ควรไปสักการะร่างของผู้เสียชีวิตเสียก่อนภายในโลงแก้วคุณท่านนอนอยู่ข้างใน ใบหน้าดูมีชีว
คิดจะใช้มุกนี้อีกแล้วเหรอ?ตีเธอหรือด่าเธองั้นเหรอ?ในเมื่อเธอขอมาแบบนี้ เช่นนั้นเธอก็จะสนองความต้องการให้เธอได้สมใจเอง!“เธอ......” มานี่ซูหรานยังพูดไม่ทันจบ ฟู่จิ้นหานก็ได้ส่งสัญญาณให้ฉินฟั่งเสียก่อนเรื่องทำร้ายคนแบบนี้ ทำไมต้องให้ซูหรานเป็นคนลงมือด้วยตัวกันล่ะ?ฉินฟั่งก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น เขาก็ได้ตบหน้าซูอินไปหนึ่งทีเสียงเพี๊ยะดังขึ้น ไม่มีความปรานีใด ๆ ซูอินเดินเซจนแทบล้ม ยากที่จะทรงตัวเอาไว้ได้ ในหัวขาวโพลนไปหมด เหลือเพียงเสียงหึ่ง ๆ เท่านั้นใครกัน......ที่กล้าทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้? !ทันทีที่ซูอินได้สติกลับมา เธอจึงมองไปที่ฉินฟั่งด้วยความโกรธฉินฟั่งได้รับการฝึกฝนมา เขาได้ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งที่บริษัทชิงอวิ๋น แถมยังได้รับอิทธิพลจากฟูจิ้นหานที่มีความเด็ดขาดในการต่อสู้อีกด้วย เพียงแค่สายตาเดียว ความกดดันของซูอินก็ถูกลดทอนลงไปทันทีแต่จะให้ซูอินยอมได้อย่างไร?เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเย่ ฉินฟั่งคนนี้......ก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ข้างกายฟู่จิ้นหานเท่านั้นต่อให้การตบเธอจะเป็นความต้องการของฟู่จิ้นหาน แต่มีคนมากมายอยู่ด้วยขนาดนี้ ห
ไม่จำเป็นต้องแก้ไขพินัยกรรมงั้นเหรอ?ซูอินดีใจมาก รู้สึกเหมือนได้รับความมั่นใจมากขึ้นแน่นอนว่าขอแค่เธอยังเป็นลูกสาวของฉินเหยียนอยู่ คุณท่านเย่ก็จะเห็นแก่หน้าฉินเหยียน และยอมรับทุกอย่างที่เป็นเธอครั้งนี้ ไม่ว่าคุณท่านเย่จะรอดมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไงพินัยกรรมของคุณท่าน เมื่อกี้ทุกคนต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนกันหมดแล้วคุณท่านเย่ได้มอบทุกอย่างของตระกูลเย่ให้กับเธอ แม้ว่าวันนี้เธอจะยังไม่ได้รับช่วงต่อจากตระกูลเย่ แต่เธอก็ยังเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวอยู่ส่วนคนพวกนี้......ซูอินรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เมื่อนึกถึงวิดีโอเมื่อกี้แล้ว ซูอินจึงหันไปมองซูหรานที่อยู่ข้าง ๆ คุณท่านเย่ทันทีในตอนนี้ เธอไม่มีเวลามามัวคิดว่าคลิปวิดีโอนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการใช้ประโยชน์จากอำนาจเสียงของคุณท่าน เพื่อช่วยลบข้อครหาและปฏิเสธว่าคนในคลิปไม่ใช่เธอน้ำสกปรกนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้องสาดไปที่ซูหรานให้ได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซูอินก็ขมวดคิ้วทันที “หนูไม่สนใจของนอกกายพวกนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้าหากแม่ของหนูที่อยู่บนสวรรค์รู้ว่าหนูถูกใส่ร้ายด้วยคลิปวิดีโอนั้น จนทำ
น้ำเสียงนั้นดูทุ้มต่ำ แต่ก็มีความโกรธที่ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ปนอยู่ซูอินเงียบและไม่มีการตอบสนองอยู่นาน ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น ก็กลับมีสีหน้าที่ดูต่างกันออกไปพวกเขาเพิ่งจะได้ยินอะไรกันแน่?เย่ซินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะกอดแขนตัวเองแน่น ราวกับพยายามขับไล่ความหนาวของเมื่อครู่นี้ที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายออกไปเธอหูฝาดไปรึเปล่านะ?เสียงนั้นน่ะ คือเสียงของคุณท่านจริง ๆ!แต่เห็น ๆ อยู่ว่าคุณท่านเสียชีวิตไปแล้ว แล้วร่างก็กำลังนอนอยู่ในโลงแก้วอีกด้วย จะมีเสียงออกมาได้อย่างไร?แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “วิญญาณ” ขึ้นมา เย่ซินก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นตัวและเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ก็กลับยิ่งทำให้เย่ซือเหยียนมั่นใจในข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ได้ และเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าการแสดงในวันนี้มีซูอินที่เป็นเป้าหมาย!เย่ซือเหยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าทั้งเย่ถิงเซินและหยางซู พวกเขาสองคนไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ มากนักต่อเสียงของคุณปู่ในตอนนั้นเธอก็รู้ได้ในทันที ว่าทั้งสองคนเองก็มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วยเช่นกันส่วนซูอิน......ตอนนี้ ในหัวของซูอินมันขาวโพลนไปหมดเธอเ
หน้าตาที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนแอของซูอินแข็งทื่อทันทีชั่วขณะหนึ่ง เหมือนว่าหน้ากากนั้นของเธอจะถูกเจาะจนทะลุ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ “พี่ซู พี่หมายความว่ายังไง?”“ฮึ หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? น้องอินอิน เธอคงไม่คิดว่าทุกคนจะโง่กันหมดหรอกใช่ไหม? ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันก็เดาได้แล้ว ว่าเธอเป็นคนยังไง ต่อหน้าก็แสร้งทำตัวไร้เดียงสาและอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริง ใจกลับดำมืดเต็มไปด้วยแผนการ คุณสนุกกับการใช้หน้ากากที่เธอสร้างขึ้นมาหลอกลวงทุกคน ฉันก็เลยเล่นตามน้ำกับเธอไป แกล้งทำเป็นเชื่อในความดีและความไร้เดียงสาของเธอ”เสียงของหยางซูดังกึกก้องทั่วทั้งศาลาไว้ทุกข์ซูอินฟังแล้วก็รู้สึกบาดหูเป็นพิเศษในตอนนี้ ใบหน้าที่เคยแสดงความไร้เดียงสาของเธอก็เริ่มมีความโกรธปรากฏขึ้นมานิดหน่อยที่อยางซูจะบอกก็คือ ทุกสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอ มันเป็นเพียงแค่การแสดงอย่างนั้นน่ะเหรอ?แล้วที่เมื่อวานเขารับปากเธอว่าจะใช้เส้นสายเรียกทนายอู๋มาล่ะ มันเพื่ออะไรกัน?มีคนอื่นอยู่ด้วย ซูอินจึงไม่สะดวกที่จะถามออกมาแต่เมื่อเธอจ้องไปที่ตาของหยางซู กลับทำให้หยางซูเข้าใจในทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไร และคิดจะ
ฟู่จิ้นหานก้มหน้าสบตากับซูหรานแววตาของเธอดูมั่นคง มือที่กำเสื้อตรงหน้าอกของเขาก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ฟู่จิ้นหานรู้สึกกังวลในใจไม่หาย แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่สามารถขัดขืนซูหรานได้ฟู่จิ้นหานวางเธอลง แต่แขนของเขายังคงโอบเอวเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางที่เขาปกป้องเธอนี้ ทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความคิดที่แตกต่างกันออกไปคนที่ตกใจและประหลาดใจที่สุด ก็คือเย่ซินฟู่จิ้นหาน......ผู้นำคนใหม่ของฟู่ซือกรุ๊ปคนนี้ เย่ซินเคยเห็นมาก่อนเขาจัดการกับฟู่ซือกรุ๊ปด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันในจิงเฉิง แค่เธอได้ยินก็รู้สึกขนลุกทุกคนต่างก็พูดกันว่าฟู่จิ้นหานเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แววตาของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ บ้างก็เหลือบมองไปยังอีกด้าน แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นเฉียบขาดในทันทีท่าทีที่ฟู่จิ้นหานปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนี้พิเศษมากจริง ๆเย่ซินอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ้นหาน และนึกถึงชื่อที่พวกเขาเพิ่งจะเรียกเธอขึ้นมาเมื่อกี้หรานหราน......ซูหราน......เธอคือหลานสาวที่คุณท่านรับอุปการะมา
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเสียงของผู้หญิงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ ได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียดถึงจะฟังไม่ชัดเจนว่าเป็นของใคร แต่ก็กลับฟังออกว่าบรรยากาศค่อนข้างจะเข้มข้นภายใต้เสียงร้องของหญิงสาว กระทั่งการพูดด้วยคำพูดที่ดูเปิดเผยต่าง ๆ ทำให้คนที่อยู่ ณ ตรงนั้นแค่ได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วซูอินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และแอบบ่นลินเยว่เยว่ที่ทำการแปลงเสียง แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ต่อให้จะฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของซูหราน แต่ภาพที่ทุกคนเห็นก็เป็นซูหราน ยังไงก็มีผลลัพธ์เดียวกัน!ซูอินเหลือบมองไปที่เย่ถิงเซินเธออยากเห็นมากที่สุด ก็คือปฏิกิริยาของเย่ถิงเซินหลังจากที่เขาเห็นว่าคนในคลิปคือซูหราน แต่เย่ถิงเซินเพียงแค่ขมวดคิ้ว และมีสีหน้าที่ดูไม่พอใจเท่านั้น เขากลับไม่หยิบโทรศัพท์ออกมาสักทีดูเหมือนว่าเย่ซินจะตกใจกับภาพที่เธอเห็นมาก เธอจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์อย่างงงงวยภายในห้องไว้ทุกข์ เสียงของหญิงสาวยังคงดังกึกก้องอยู่ในบรรยากาศที่แปลกประหลาด ก็มีคนที่สองที่หยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดข้อความที่เพิ่งได้รับเมื่อสักครู่นี้อ่า......เสียงที่เหมือนกับก่อนหน้านี้ก็ดัง
“พวกเขาจะทำอะไร?”ในหัวเย่ซือเหยียนยังคงคิดไม่ตก ไม่สามารถคาดเดาภาพรวมของเรื่องราวได้เลยแต่เธอก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง: หากคุณท่านยังไม่ตายจริง ๆ เช่นนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็คือกับดักและกับดักนี้ ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อใครอย่างนั้นเหรอ?เย่ซิน? ตัวเธอ? หรือว่า......ซูอิน?เย่ซือเหยียนรู้สึกโชคดีที่เธอค้นพบเรื่องนี้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้น เธอก็อาจจะตกหลุมพรางไปด้วยส่วนซูอิน......ความเกลียดชังสะสมอยู่ในดวงตาของเย่ซือเหยียนไม่ว่ากับดักนี้จะถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับใครก็ตาม วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในตอนนั้นแทบจะในทันที เย่ซือเหยียนโทรหาสายสายหนึ่ง และสั่งการกับคนที่อยู่ปลายสายหนึ่งประโยค หลังจากวางสาย ในใจเย่ซือเหยียนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป......ในขณะเดียวกัน ณ ศาลาไว้ทุกข์ ซูอินยังคงเต็มไปด้วยความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอาการเป็นลมของเย่ซือเหยียนทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมากรอจนกระทั่งพ่อบ้านจัดแจงให้คนพาเย่ซือเหยียนออกไป ซูอินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทนายอู๋ แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกกลัวว่าจะมีคนเห็นความลนลานของเธอ เธอจึงไม่กล้าพู
ดูเหมือนว่า ผู้ที่อยู่ในที่นั้นนอกจากท่านท่านเย่แล้ว ก็มีเพียงเย่ถิงเซินเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้การกระทำนี้ ทำให้ซูอินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เธอคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเย่ และนอกจากนี้ ทนายความอู๋คนนี้เองก็เป็นพยานในการทำพินัยกรรมของคุณท่านเย่อีกด้วย เขาก็ควรจะรู้ว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากพินัยกรรมของคุณท่านคือใครเขาควรถามเธอ และให้เธอเป็นผู้ตัดสินใจสิถึงจะถูกเขากลับถือหางให้เย่ถิงเซินเป็นตัวหลักแต่ไม่นาน ซูอินก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ที่ทนายอู๋คนนี้เป็นคนที่มีตาแต่ไร้แวว รอให้ประกาศพินัยกรรมออกมาก่อน ว่าเธอคือผู้สืบทอดทรัพย์สินของตระกูลเย่ จะทำให้คนเหล่านี้ต้องตื่นตระหนกอีกครั้งแน่นอน“เชิญทนายประกาศได้เลยครับ”คำพูดของเย่ถิงเซินแต่ละคำ ทั้งหนักแน่นและชัดเจนทนายความอู๋เปิดถุงเอกสารที่ปิดผนึกเอาไว้ท่ามกลางสายตาของทุกคน และนำพินัยกรรมที่อยู่ข้างในออกมา“ฉัน เย่ชิงเหอ ทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉัน จะถูกสืบทอดโดย......”ทนายความอู๋กำลังอ่านเนื้อหาของพินัยกรรม ทุกคนในศาลาไว้ทุกข์ต่างก็ตั้งใจฟัง และเมื่อถึงจุดนี้ สีหน้าของทุกค
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”หยางซูจ้องมองไปที่ซูอิน เขาจะไม่บอกกับเธอ ว่าทนายคนนั้นได้อยู่ที่ไห่เฉิงเรียบร้อยแล้วทันทีที่คุณท่านกลับมาที่ไห่เฉิง ก็ได้ให้ทนายรีบมาที่นี่อย่างลับ ๆและการกระทำของซูอินในคืนนี้ ดูท่าแล้ว คุณท่านเองก็น่าจะมองสถานการณ์ออกตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนจากหยางซู ซูอินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมเธอไม่กล้าที่จะลำพองตัวมากเกินไป เหมือนว่าเธอจะรู้สึกพอใจมาก จึงถอนหายใจออกมา “การที่สามารถทำตามความปรารถนาของคุณปู่ได้ ก็ถือเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำเพื่อคุณปู่ได้แล้วล่ะค่ะ”ซูอินลดสายตาลง ให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความต้องการอะไรเลยจริง ๆแต่หยางซูกลับรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้แล้วในที่สุดหยางซูก็ไม่สามารถอดทนต่อความเกลียดชังในใจได้ เขาจึงอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงขอให้ซูอินออกไปก่อนเมื่อกลับมาถึงห้อง ซูอินก็รีบวางแผนทุกอย่างที่เหลือทันทีเช้าวันถัดมา ทั้งวิลล่าก็เริ่มวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อวานได้มีการกำหนดให้เผาศพวันนี้ก่อนเริ่มการเผาศพ ก็ควรไปสักการะร่างของผู้เสียชีวิตเสียก่อนภายในโลงแก้วคุณท่านนอนอยู่ข้างใน ใบหน้าดูมีชีว