ซูหรานชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นเสียงออดอ้อนของสามีตัวพ่อก็ดังก้องอยู่ข้างหูของเธอ“คืนนี้อย่าไปงานเลี้ยงเลยนะ”น้ำเสียงเย้ายวนทำให้คนจินตนาการไปไกลใบหน้าของซูหรานค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง อย่าไปงานเลี้ยงเหรอ? ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะกับเธอ......จู่ ๆ ความคิดและจินตนาการบางอย่างก็วนเวียนอยู่ในใจ หูก็เริ่มรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาซูหรานก้มหน้าลง ไม่กล้าที่จะจ้องหน้าเขาแล้วก็พูด “แบบนั้นมันไม่ดีเลยนะ”“ไม่ดียังไงเหรอ งั้นถ้างานเลี้ยงไม่มีอะไรต้องไป จะยังไปด้วยกันกับผม......”สามีตัวพ่อยิ่งพูดก็ยิ่งใจกล้ามากขึ้น ซูหรานจึงรีบปิดปากเขาไว้ในทันทีฟู่จิ้นหานอึ้งไปนิดหน่อย เมื่อริมฝีปากสัมผัสกับฝ่ามือของเธอ จู่ ๆ ก็มีความคิดแปลก ๆ เกิดขึ้นในใจ เมื่อเห็นซูหรานที่พยายามหลบตา ประกอบกับใบหน้าแดงก่ำ ก็ทำให้รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไรแผลง ๆ อยู่แล้วทันใดนั้นฟู่จิ้นหานก็หัวเราะออกมาเบา ๆเสียงหัวเราะนั้นทำให้ซูหรานตกใจ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นแววตาสนุกสนานของเขา“คุณคิดอะไรอยู่เหรอ?” แววตาของฟู่จิ้นหานยิ้มแย้ม ราวกับว่าเขามองเธอออกทะลุปรุโปร่งเมื่อซูหรานได้สติกลับมาแล้ว ก็รู้ว่าตัวเธอกำลังจินตนาการ
“ช่วยเหรอ?” นี่คงไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับสาวสวยหรอกนะ?จี้เยี่ยนโจวเอ่ยปากไม่กี่คำเขาก็เดาได้ในทันทีเขารู้จักฟู่จิ้นหานเป็นอย่างดี ผู้ชายคนนี้ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครก็สามารถจัดการได้หมด แต่ไม่ใช่กับสาวสวยที่ไม่มีวิธีจัดการอยากจะให้เขาช่วยเหรอ? นั่นคงไม่ได้หมายถึง วันนี้ตัวเขาจะได้มีโอกาสโชคดีได้รู้จักสาวน้อยคนสวยหรอกเหรอ?“ได้ได้ได้ เดิมทีคืนนี้ฉันก็ไม่อยากไปที่เอิกเกริกนั่นหรอกนะ แต่เห็นแกหน้านาย ฉันจะไปก็ได้”จี้เยี่ยนโจวรีบตอบตกลงด้วยความกระตือรือร้น......งานเลี้ยงต้อนรับหลานสาวของตระกูลเย่ในครั้งนี้ เย่ถิงเซินจะต้องจัดงานที่วิลล่าบนภูเขาของตระกูลเย่ในเมืองไห่เฉิงอย่างแน่นอนหนึ่งวันก่อนหน้านั้น คุณท่านเย่ก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว จากนั้นก็ถูกรับตัวไปที่วิลล่าหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล เย่ซือเหยียนก็เป็นคนที่คอยดูแลคุณท่านเย่อยู่ข้าง ๆ ตลอดในเวลานี้ที่งานเลี้ยงใกล้เข้ามา ระหว่างรอ เย่ซือเหยียนและคุณท่านเย่ก็ได้เลือกชุดที่จะใส่สำหรับงานเลี้ยงที่จะมาถึงเย่ถิงเซินที่อยู่ข้างนอกประตู สายตาจับจ้องไปที่คุณท่านเย่ด้วยความสับสนจากนั้นเขาก็เรียกหมอที่ดูแลอาการป่วยของคุณท่านเ
เมื่อได้ยินเธอพูดชื่อซูหรานออกมาจากปาก ซูอินก็รู้สึกประหลาดใจมากยังไม่ทันที่สมองของเธอจะเรียกสติกลับมา เย่ซือเหยียนก็จำเธอได้แล้ว“เธอนี่เอง” ริมฝีปากของเย่ซือเหยียนโค้งงอจนเห็นเป็นรอยยิ้มจาง ๆ ขึ้นมาวันที่เต็มไปด้วยการเยินยอและเอาใจแบบนี้ อีกนิดเดียวเธอก็แทบจะดูไม่ออกผู้หญิงที่แท้งในพิพิธภัณฑ์ในวันนั้นนี่ คือเธอไม่ใช่หรอกเหรอ?เธอมีเรื่องบาดหมางกันกับซูหรานนี่!“เธอกับซูหรานเป็นพี่น้องกันเหรอ?” เย่ซือเหยียนที่อยู่สถานีตำรวจในวันนั้น ก็พอจะรู้ความสัมพันธ์ของผู้หญิงแท้งลูกคนนั้นกับซูหรานมาบ้างแต่ในเวลานี้ ซูอินยังคงมีสีหน้างุนงงอยู่ เย่ซือเหยียนมองไปในตา จากนั้นก็ยกมุมปากขึ้นแล้วพูด “คุณหนูซูแท้งมานี่คะ ร่างกายดีขึ้นแล้วหรือยัง?”ทันใดนั้นซูอินก็ถึงกับสะดุ้ง นั่นทำให้เธอนึกออกในทันทีเธอคือผู้หญิงที่อยู่ในห้องน้ำเมื่อตอนนั้นนี่เองวันนั้นเธอเอาแต่สนใจแค่เรื่องที่จะใส่ร้ายซูหราน ไม่ได้ไปสนใจคนรอบๆ นัก แต่จากนั้นเธอก็ได้ยินลู่ซิวหนิงพูดว่า ก่อนที่ซูหรานจะเปิดเผยคลิปวิดีโอ ก็ยังมีผู้หญิงอีกคนที่เป็นพยานให้กับซูหรานด้วยที่แท้ก็เธอนี่เองสินะ!ท่าทางของซูอินดูไม่ค่อยเป็นธรร
บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบไปครู่หนึ่งซูอินจ้องมองเย่ซือเหยียน จดจ่อรอฟังคำตอบอย่างกระวนกระวายทันใดนั้น เย่ซือเหยียนก็ยิ้ม แล้วหันไปมองซูอิน “ใครบอกว่าฉันไม่ชอบกันล่ะ? ผู้หญิงที่สวยมากขนาดนั้น ถ้าพี่ชายฉันชอบ ฉันก็ชอบด้วย”แต่ถึงกระนั้น ซูอินก็กลับมองเห็นความหมายที่แท้จริงในดวงตาของเธอเธอไม่ชอบซูหราน!ฮึ! นั่นมันเยี่ยมไปเลย!ในใจของซูอินรู้สึกพออกพอใจมาก เธอไม่ได้ถามอะไรออกไปอีก เธอแค่หยุดการกระทำไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดกับผู้โชคดีที่อยู่ตรงหน้าของเธอคนนี้ “ต่อไปถ้าคุณมีเรื่องอะไร ก็สั่งอินอินได้ตลอดเลยนะคะ”ความหมายชัดเจนจนไม่อาจชัดเจนไปมากกว่านี้อีกแล้ว“ถ้าอย่างนั้นคงต้องรบกวนเธอแล้วล่ะ” เย่ซือเหยียนพูดพร้อมรอยยิ้มฟู่จิ้นหานใส่ใจซูหรานมากขนาดนั้น เช่นนั้นเธอก็เท่ากับถูกกำหนดให้เป็นศัตรูกับซูหรานแต่สำหรับบางเรื่อง หากมีตัวช่วยหน่อยก็น่าจะสะดวกกว่าหลังจากที่ซูอินออกจากห้องด้วยความพอใจ เย่ซือเหยียนก็ได้ทำการเปลี่ยนชุดในตอนที่ซูหรานมาถึง ท้องฟ้าก็มืดสนิท แต่ที่วิลล่ากลับยังคงสว่างไสวเย่ถิงเซินเห็นซูหรานเดินเข้ามาจากระยะไกล เขาพูดอะไรบางอย่างกับแขกที่อยู่ข้าง ๆ เขา จาก
“ลู่ซิวหนิง นี่นายคิดจะทำอะไรกันแน่?”ซูหรานไม่เคยปิดบังความรู้สึกรังเกียจเขาเอาไว้เลยแม้แต่น้อยลู่ซิวหนิงนึกถึงสิ่งที่คุณย่าของเขากำชับ หลังจากที่กลับมาจากบ้านตระกูลซูวันนั้น ก็ไม่รู้ว่าคุณย่าเป็นอะไรไป เธอพยายามเตือนไม่ให้เขาคบหากับอินอินหลายต่อหลายครั้งถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งที่ซูหรานพูดขึ้นที่บ้านตระกูลซูในวันนั้น คุณย่าก็คงจะไม่เกลียดอินอินมากขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้ทุกอย่างเป็นความผิดของซูหรานพอคิดแบบนั้น ลู่ซิวหนิงก็มองซูหรานด้วยสายตาที่ดุดันมากยิ่งขึ้น “ฉันก็มาเตือนเธอไงล่ะ อย่าคิดเล่นลูกไม้อะไรทำร้ายอินอินอีก และวันนี้ก็เป็นวันที่คุณท่านเย่จะรับหลานสาวคนใหม่ ส่วนเธอก็เก็บเอามารยาร้อยเล่มเกวียนนั่นของเธอไปซะ” ซูหราน “? ? ?”ถ้าไม่ใช่เพราะว่าสีหน้าของเขาในตอนนี้ไม่ได้น่ารำคาญมากขนาดนั้นเธอคงคิดว่าลู่ซิวหนิงเป็นนักบุญผู้ยิ่งใหญ่หาใครเปรียบไปแล้วห้ามคิดเล่นลูกไม้ทำร้ายซูอินอย่างนั้นสินะ?แล้วก็เลิกยั่วยวนคนอื่นด้วยใช่ไหม?“ไสหัวไปไกล ๆ ส้นเท้าเลยไป จะสาระแนอะไรเบอร์นั้น พ่อแม่รู้เรื่องปะเนี่ย?”ซูหรานสบตากับลู่ซิวหนิง หากที่นี่ไม่ได้กำลังจะจัดงานมงคลอยู่ล่ะก็ เธอคงใช้เท้า
ซูหรานกรีดร้องด้วยความตกใจ แต่ในไม่ช้า ก็มีมือใหญ่อีกข้างปิดปากของเธอเอาไว้เสียงกรีดร้องหยุดลงในทันทีซูหรานได้กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างรุนแรง จากนั้นเสียงทุ้มต่ำของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นเหนือหัวของเธอ “อย่าเสียงดัง ไม่งั้นจะดึงดูดผู้คนมาได้ ถ้าเกิดมาเห็นผมกับคุณเข้า พรุ่งนี้คุณกับผมคงได้ขึ้นข่าวหน้าหนึ่ง” ฟู่จิ้นหานจงใจใช้เสียงทุ้มต่ำแต่เขากลับหวังให้คนมาแอบถ่ายพวกเขามากกว่าเสียอีกแต่พอนึกขึ้นได้ว่าซูหรานเกลียด “คุณชายสามฟู่” มากแค่ไหน ฟู่จิ้นหานจึงทำได้เพียงข่มใจเอาไว้เท่านั้นเขากะว่าคืนนี้จะทำให้ซูหรานกับ “คุณชายสามฟู่” ได้ทำความรู้จักกันดี ๆ ถ้าหากสามารถเปลี่ยนความคิดแง่ลบที่ซูหรานมีต่อเขาได้ก็คงจะดีเป็นอย่างที่คิด คำพูดของเขาทำให้ซูหรานสงบลงมากกลิ่นแอลกอฮอล์ทำให้เธอนึกถึงคืนนั้นในบ้านพักตระกูลลู่โดยไม่รู้ตัวร่างของคุณชายสามฟู่เองก็มีกลิ่นแอลกอฮอล์ที่แรงแบบนี้เหมือนกัน“คะ......คุณคือใคร?”ซูหรานถามออกไปอย่างระมัดระวัง “คุณ......คุณคงไม่ทำร้ายฉันหรอกใช่ไหม?”ไม่มีคำตอบใด ๆ ออกมาจากความมืดนั้นซูหรานกลืนน้ำลายและพูดต่อว่า “คุณ......คุณใจเย็น ๆ นะคะ ที่นี่คือวิลล่าตระ
“คุณไปได้แล้ว!”เสียงของฟู่จิ้นหานดูเหมือนจะกำลังปกปิดบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ ไม่นานก็กลับมาเย็นชาทันทีปฏิกิริยาที่เปลี่ยนกะทันหันทำให้ซูหรานรู้สึกแปลกมากยิ่งขึ้น“คุณ......”“หรือคุณไม่อยากไป? ในเมื่อเป็นอย่างนั้น......”ซูหรานยังไม่ทันได้พูดจบ จู่ ๆ ฟู่จิ้นหานก็มองไปทางซูหราน พร้อมกับนัยน์ตาสีดำสนิทของเขา ยิ่งทำให้เขาดูเหมือนเป็นสัตว์นักล่ามากยิ่งขึ้นไปอีกหัวใจของซูหรานสั่นไหว“ไปค่ะ ฉันจะไปแล้ว ฉันจะไปตอนนี้เลยค่ะ”ซูหรานยิ้มแห้ง ๆ ราวกับว่าเธอกลัวว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเธอจะเปลี่ยนใจ และไม่ยอมให้เธอจากไปร่างของซูหรานค่อย ๆ หายไปจากสายตา ฟู่จิ้นหานยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจึงถอดหน้ากากบนใบหน้าของเขาออกซูหรานเดินเข้าไปหาฝูงชนบริเวณทางแยกข้าง ๆ เย่ซือเหยียนก็ค่อย ๆ เดินออกมาเธอได้ยินมาว่าฟู่จิ้นหานอยู่แถวนี้ ดังนั้นเธอจึงมาที่นี่ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะพบเข้ากับซูหรานเมื่อกี้เธออยู่กับฟู่จิ้นหานงั้นเหรอ?เธอขมวดคิ้วเข้าเล็กน้อย เย่ซือเหยียนยังคงเดินตรงเข้าไปข้างใน ในที่สุดเธอก็เห็นฟู่จิ้นหานที่อยู่ใต้กำแพงดอกไม้ ไม่นานเธอก็สามารถยืนยันการคาดเดาของเธอได้ทันทีแต่เธอก็ก
หลังจากที่เย่ถิงเซินพูดจบ เขาก็มองไปทางซูหรานด้วยรอยยิ้มซูหรานกลับทำอะไรไม่ถูกอย่างสิ้นเชิงคุณปู่งั้นเหรอ?ชายชราคือคุณปู่ของเย่ถิงเซิน? เช่นนั้นเขาก็คือคุณท่านจากตระกูลเย่แห่งจิงเฉิงน่ะสิ?นอกจากนี้......เธอยังเป็นคนที่เขาอยากพามาให้คุณปู่รู้จักงั้นเหรอ?นี่เธอเข้าใจอะไรผิดอยู่รึเปล่านะ?คงไม่ได้หมายถึงจะพาเธอมาพบครอบครัวอะไรแบบนั้นหรอกมั้ง?ซูหรานหายใจเข้าลึก ๆ พยายามเลี่ยงสายตาของเย่ถิงเซิน และบอกกับตัวเองในใจว่า ต้องไม่ใช่การพามาเจอครอบครัวอะไรทำนองนั้นแน่นอนเธอกับพี่ใหญ่เย่เป็นเพื่อนกัน การที่เพื่อนพาเพื่อนมาเจอผู้อาวุโส ก็ถือเป็นเรื่องปกติแต่ในฐานะผู้ชมอย่างจี้เยี่ยนโจว กลับรู้สึกตกใจไม่น้อยในเวลานี้สายตาที่เย่ถิงเซินมองซูหราน ไม่สามารถบอกได้จริง ๆ ว่าเขาบริสุทธิ์ใจกับซูหรานทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่า ไม่ใช่ว่าเย่ถิงเซินจริงจังกับซูหรานหรอกใช่ไหม?เวรเอ้ย!ปฏิกิริยาแรกของจี้เยี่ยนโจวคือ ความสัมพันธ์ระหว่างฟู่จิ้นหานกับเย่ถิงเซินไม่มีทางกลับมาคืนดีกันได้แน่และครั้งนี้ ซูหรานก็ไม่เหมือนกับอาเหยียนในปีนั้นด้วยความรักของเย่ถิงเซินที่มีต่ออาเหยียนนั้นมีมากว่าค