ไห่ถงยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง แล้วลากจ้านหยินให้เดินตามสัญชาตญาณนี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดเชียวนะจ้านหยินใช้โอกาสนี้เป็นฝ่ายจับมือไห่ถงเอาไว้ แล้วพาเธอเดินแทนเดินๆอยู่ เขาก็ประสานนิ้วมือเข้ากับเธออืม ความรู้สึกที่ได้เดินจับมือเล็กๆของเมีย นี่มันดีจริงๆ!คนที่ไม่มีประสบการณ์ด้านความรักอย่างจ้านหยิน แล้วก็ดันเป็นผู้ชายที่ชอบเก๊กเย่อหยิ่งอีก พอจับมือเมียได้สำเร็จ ภายในใจก็หวานชื่นราวกับกินน้ำผึ้งเข้าไปไห่ถงสัมผัสได้ว่าเขาจับมือของเธอแน่น ก็ก้มมองมือที่ประสานกันสิบนิ้วของทั้งสอง เป็นเขาที่กำมือเธอแน่นเธอลอบปรายตามองจ้านหยิน ก็เห็นใบหน้าของเขายังเย็นชาเย่อหยิ่งดังปกติ แล้วแอบพูดอยู่ในใจ "หลอกแต๊ะอั๋งหน้าตายเลยนะ"ดังนั้น เธอจึงใช้นิ้วโป้งลูบไล้ไปบนฝ่ามือของเขาสองสามที ตอนที่เขาหันมามองเธอ เธอก็แสร้งทำเป็นมองไปข้างหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉยเรื่องหลอกแต๊ะอั๋งหน้าตายน่ะ เธอก็ไม่แพ้หรอกมุมปากของจ้านหยินยกยิ้มเขาชอบนิสัยแบบนี้ของไห่ถงจริงๆไม่อาย อยากทำอะไรก็ทำ"รอให้เรื่องของพี่สาวคุณคลี่คลาย ถ้าว่างเมื่อไหร่ ผมจะพาคุณมาพักที่นี่อีกสักสองสามวัน"เขาชี้ไปที่วิลล่าที่ทำจากไม้เหล่านั้นซึ่งอยู
ไห่ถงรู้ดีว่าเธอรักนายน้อยจ้านมากขนาดไหน จึงไม่อยากจะพูดอะไรเยอะเกี่ยวกับหัวข้อนี้ เดี๋ยวซางเสี่ยวเฟยจะเสียใจ ก็รีบเปลี่ยนเรื่องคุยคุยไปคุยมา ซางเสี่ยวเฟยก็พูดถึงเรื่องที่ตัวเองกำลังจะทำตอนนี้ เธอพูด "พี่ใหญ่กลัวว่าถ้าฉันว่าก็จะคิดถึงนายน้อยจ้าน แล้วจะยิ่งเศร้ามากขึ้น เลยให้งานฉันมาทำ ให้ฉันทำทุกวิถีทางเพื่อตามหาคุณน้า""คุณน้าของคุณ?"ไห่ถงไม่ได้รู้เรื่องราวในครอบครัวของตระกูลชางนัก รู้แต่ว่าเป็นตระกูลชั้นนำรองลงมาจากตระกูลจ้านคนของตระกูลชางคนเดียวที่รู้จัก ก็คือซางเสี่ยวเฟย"ไห่ถง จะว่าไปคุณแม่ของฉันกับพวกเธอสองพี่น้องหน้าตาเหมือนกันมาก คุณตาคุณยายของฉันก็เสียไปนานแล้ว ไม่มีญาติคนไหนยอมรับเลี้ยงคุณแม่กับคุณน้า จนสุดท้ายท่านทั้งสองต้องถูกส่งไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นระยะนึง เพราะคุณน้าของฉันยังเด็ก ไม่รู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ แถมยังหน้าตาน่ารัก ก็เลยถูกคู่สามีภรรยาที่มีฐานะแต่ไม่มีลูกรับเลี้ยงไป""เหลือคุณแม่ของฉันที่ยังอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่ท่าคิดถึงคุณน้าอยู่ตลอด หลังจากโตแล้วคุณแม่ของฉันมีกำลังมาพอ ก็เริ่มตามหาคุณน้า แต่จนปัญญาสมัยก่อนการจะตามหา
"ตอนที่คุณแม่กับคุณน้าแยกจากกัน สองสาวพี่น้องถ่ายรูปด้วยกันรูปนึง ทั้งคู่ต่างคนต่างเก็บรูปถ่ายเอาไว้คนละใบ น่าเสียดายที่รูปถ่ายใบนั้นของคุณน้าถูกคู่สามีภรรยาที่เก็บไปเลี้ยงคู่แรกเผาจนมอดไหม้""คุณแม่ยังเก็บรูปถ่ายเอาไว้อยู่ ผ่านมาหลายสิบปี ต่อให้ท่านจะรักษาไว้อย่างดีแค่ไหน แต่ก็วิเคราะห์ใบหน้าไม่ง่าย พี่ชายฉันก็เคยโพสต์รูปลงในโซเชียลมีเดีย แต่ก็ไม่มีข่าวคราวเลยแม้แต่น้อย ถ้าคิดจะตามหาคุณน้า ก็นอกซะจากลูกสาวลูกชายของท่านหน้าตาเหมือนท่าน แล้วบังเอิญว่าคุณแม่ของฉันเห็นเข้า ถึงจะสามารถตามหาคุณน้าเจอ"ไม่งั้นก็ยากที่จะหาเจอแต่โอกาสแบบนั้นก็แทบจะเป็นศูนย์"สวรรค์ไม่รังแกคนที่มีความพยายาม เสี่ยวเฟย พวกคุณจะต้องเจอคุณน้าในสักวันนึง"นอกจากจะให้กำลังใจซางเสี่ยวเฟย ไห่ถงก็ช่วยอะไรไม่ได้อีกตระกูลชางมีเงินมีอำนาจมีเส้นสาย พลิกแผ่นดินหามานานหลายปีก็ยังหาคุณน้าของตระกูลชางไม่เจอ แล้วเธอที่ไม่มีทั้งอำนาจทั้งเส้นสาย ก็ยิ่งไม่มีปัญญา"หวังว่าจะได้เจอคุณน้าของฉันเร็วๆ คุณแม่จะได้พบหน้าน้องสาวอีกครั้ง ไห่ถง ถ้าเธอรู้ว่ามีใครที่ถูกรับไปเลี้ยง ช่วยบอกฉันหน่อยนะ ฉันจะไม่ปล่อยผ่านความเป็นไปได้ไปแม้แ
ซางเสี่ยวเฟยพูดด้วยความตื้นตัน "ไห่ถง ถ้าเธอช่วยพวกเราหาคุณน้าจนพบ เธฮก็คือผู้มีพระคุณต่อครอบครัวของเรา ครอบครัวเราจะตอบแทนเธออย่างดีที่สุด""พวกเราเป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้น ฉันก็แค่คิดถึงแม่ของฉัน ถ้าแม่ของฉันยังมีชีวิตอยู่ ฉันกับพี่สาวก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยแม่ตามหาญาติพี่น้องเหมือนกัน"แม่เสียชีวิตไปสิบกว่าปีแล้ว ความทรงจำที่ไห่ถงมีต่อแม่ก็ไม่ได้ลึกซึ้งขนาดนั้นแล้ว โชคดีที่พี่สาวหน้าตาเหมือนแม่ เวลาที่มองหน้าพี่เธอถึงจำหน้าตาของแม่ได้"ไห่ถง ฉันไม่รบกวนเธอเดทกับสามีแล้ว เที่ยวให้สนุก จัดงานแต่งเมื่อไหร่ต้องบอกฉันนะ ฉันจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้เธอ"ซางเสี่ยวเฟยหยอกไห่ถงสองประโยค จากนั้นก็เป็นฝ่ายวางสายไป"คุณหนูซางคนนั้นอีกแล้วหรอ?"จ้านหยินถามราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไร"อืม ตอนแรกเสี่ยวเฟยกะจะมาเที่ยวกับพวกเรา แต่พอได้ยินว่าฉันอยู่กับคุณ เธอก็เลยไม่อยากมา"จ้านหยินลอบสบถเย็นชาในใจ "ก็ยังคิดได้บ้าง!""ความจริงเสี่ยวเฟยนิสัยดีมาก เจ้านายของพวกคุณ..." พอคิดว่านายน้อยจ้านสวมแหวนแต่งงานขนาดนั้น ไห่ถงก็ถอนหายใจ "ทั้งสองคนคงไม่มีวาสนาต่อกัน""พวกคุณคุยอะไรกัน? ผมได้ยินคุณพ
"นั่นมันแน่นอน ฉันยังต้องขึ้นศาลกับพวกเขาเพื่อทวงบ้านกลับคืนมาให้ได้!""ในเมื่อมั่นใจขนาดนี้ ก็ไม่ต้องดาวน์แล้ว วันนี้เราออกมาเที่ยว ก็ต้องเที่ยวให้สนุกสิ เรื่องในอดีตที่ค้างคาไว้ไม่ได้แก้ไข ค่อยๆจัดการไปทีละเรื่อง เดี๋ยวก็จะหมดไปเอง"เขาดึงไห่ถงแนบชิดแผงอก กอดไว้ในอ้อมแขน แล้วพูดเสียงทุ้มต่ำ "ยังมีผมอยู่นะ ต่อให้โลกจะถล่มก็ไม่ต้องกลัว ผมจะช่วยคุณแบกไว้เอง"ไห่ถงไม่ได้ขัดขืน เธออิงแอบลงตรงแผงอกของเขาเงียบๆ ผ่านไปชั่วครู่ เธอจึงออกจากอ้อมกอดของเขาใบหน้าแดงเล็กน้อย"คนตั้งเยอะแยะ"จ้านหยินเอามือของเธอมาจับราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จับมือเธอแล้วเดินต่อไปข้างหน้า "เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ได้แอบคบกันสักหน่อย จะกลัวคนเยอะทำไม?"ไห่ถง "...""ไม่น่าล่ะพี่ฉันถึงเอาแต่บอกให้ฉันทำดีกับคุณ" เขาใช้การกระทำเอาชนะใจของพี่สาวได้ตั้งนานแล้วหลังจากแต่งงาน สองสามีภรรยาได้อยู่ร่วมกัน ไห่ถงก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้ถึงแม้จะมีข้อเสีย แต่ข้อดีก็มากกว่าข้อเสีย แล้วอีกอย่างทุกคนก็มีข้อเสียกันทั้งนั้น แม้กระทั่งเธอที่มีข้อเสียอยู่เต็มตัวเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องใหญ่ๆ จ้านหยินดีกว่าไอ้สารเลวโจวหงหลินนั่นม
ไห่ถงก็ไม่ได้โง่ที่คุณยายกับป้าเหลียงเดินไปไกล ก็เพราะอยากจะสร้างโอกาสให้สองสามีภรรยาได้อยู่กันตามลำพังไม่ง่ายนักที่จ้านหยินจะไม่ปฏิเสธและทิ้งระยะห่างกับเธออย่างเย็นชา ไห่ถงจึงเอนจอยไปกับรสชาติหอมหวานของการเดทสองสามีภรรยาเดินจับมือกัน เที่ยวชมสวนสไตล์จีนโบราณ ไห่ถงชอบสวนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายย้อนยุคและคลาสสิคแบบนี้ที่สุด"จ้านหยิน""อืม"จิตใจของจ้านหยินไม่ได้อยู่ที่วิว เขาคอยแอบมองหญิงสาวที่อยู่ข้างกายตลอดเวลาเมื่อได้ยินว่าไห่ถงเรียกเขา เขาก็หยุดฝีเท้าแล้วหันไปมองเธอด้วยสีหน้านิ่งๆ ประหนึ่งว่าเมื่อกี้เขากำลังมองเบื้องหน้าอยู่ ไม่ได้แอบมองเธอแบบนั้น"คุณทำงานอยู่ที่จ้านซื่อกรุ๊ป รู้ไหมว่ากิจการในเครือบริษัทของพวกคุณมีอะไรบ้าง? อย่างรีสอร์ทฮิลนี่ เจ้านายของคุณลงทุนไปกี่ที่?"จ้านหยินครุ่นคิด แล้วว่า "บริษัทของเรามีสาขาย่อยอยู่ในแต่ละเมืองใหญ่ๆ มีทั้งลงทุนและดำเนินกิจการในทุกอุตสาหกรรม แต่อย่างรีสอร์ทฮิล ลงทุนสร้างไปแค่สองที่ เพราะเลือกที่ดินลำบาก การจะลงทุนสร้างรีสอร์ทฮิลแบบนี้ ต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาล""รีสอร์ทฮิลแห่งนี้บริษัทของผมลงทุนเองทั้งหมด ส่วนรีสอร์ทที่อยู่ในเมือง
ใครๆก็บอกว่าคุณผู้หญิงในตระกูลร่ำรวยไม่เป็นมิตร แต่คุณยายจ้านกลับเป็นกันเองมาก เหมือนกับคนแก่ทั่วๆไป สวมผ้าที่สวมใส่ก็เย็บซ่อมแล้วซ่อมอีก ดูยังไงก็ไม่เหมือนคุณผู้หญิงในตระกูลคนรวยเลยสักนิดสายตาของจ้านหยินลึกล้ำ เขาลูบศีรษะของเธอ น้ำเสียงทุ้มต่ำ "คุณเป็นคนที่อยู่กับความเป็นจริง ไม่เพ้อฝัน""ฉันเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับความเป็นจริง ถ้าจะฝัน ก็ต้องดูว่าฝันอะไร ถ้าเป็นฝันเลื่อนลอยอะไรแบบนั้น ฝันไปก็เสียเวลานอนหลับสนิทเปล่าๆ"จ้านหยินเม้มปาก ไม่พูดอะไรเดินเที่ยวชมอยู่ครึ่งค่อนวัน สองสามีภรรยาจึงพบกับพวกคุณยายจ้านอาหารกลางวันถูกสะสางที่ร้านอาหาร ร้านอาหารร้านนั้นก็เป็นสไตล์ย้อนยุค ถ้าสิ่งอำนวยความสะดวกด้านในไม่ทันสมัย ไห่ถงคงนึกว่าตัวเองย้อนเวลาทะลุมิติไปโรงเตี้ยมแล้ววันนี้หยางหยางมีความสุขสุดๆคุณยายจ้านกับป้าเหลียงพาเขาไปให้อาหารปลา เขาอยากได้อาหารปลาเท่าไหร่ก็ซื้อให้เท่าที่ต้องการ สรุปก็คือให้เขาป้อนอาหารปลาจนอารมณ์ค้างไปเลยเล่นสนุกเกินไปก็ทำให้เหนื่อยง่าย ยังไม่ทันจะกินข้าวเสร็จ หยางหยางก็หลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมกอดของไห่ถง"อาจ้าน ยายก็อายุมากแล้ว เดินไปไหนได้ไม่ไกลหรอก ตอนบ่าย ห
เวลาแห่งความสนุกมักผ่านไปเร็วเพียงพริบตา ก็จบลงไปแล้วหนึ่งวันไห่ถงเดินเที่ยวชมทั้งวัน หลังจากถึงบ้าน ก็อาบน้ำ แล้วทิ้งศีรษะลงนอนคุณยายจ้านเห็นว่าเธอกลับไปในห้องของตัวเอง ยังคิดว่าจะสร้างอุบายเล่นละคร แต่ใครจะคิดเมื่อคุณยายจ้านเดินเข้าห้องไป ไห่ถงก็หลับปุ๋ยไปแล้ว ทำให้คุณยายจ้านไม่มีโอกาสได้เล่นละครสมใจเมื่อออกมาจากห้องของไห่ถง ก็เห็นหลานชายกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แม้ว่าจะใจลอย แต่คุณยายจ้านก็โกรธเธอเดินเข้าไปหยิบรีโมทมาจากในมือของจ้านหยิน แล้วตำหนิเขาว่า "กลับมาถึงบ้าน แกกลายเป็นคนพูดไม่เป็น ทำไม่เป็นแล้วหรือไง?"จ้านหยินมองคุณยายของตัวเอง แล้วพูดอย่างใสซื่อ "ก็กลับมาซะขนาดนี้แล้ว จะให้ผมพูดอะไร? ทำอะไรอีก?"วันนี้เขาได้ผลตอบแทนงามมากได้จับมือไห่ถง จับทั้งวันไห่ถงมีเรื่องอะไรก็เล่าให้เขาฟังแล้วด้วย ความเชื่อใจที่มีต่อเขาก็เริ่มลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆคุณยายจ้าน "...""คุณยาย วันนี้เที่ยวมาทั้งวัน คุณยายก็เหนื่อยแล้วสินะ ผมให้ป้าเหลียงไปช่วยคุณยายเก็บกวาดห้องรับแขก?"คุณยายจ้านถอนหายใจ แล้วตอบรับคำสั้นๆไม่ต้องรอให้จ้านหยินออกปากสั่ง ป้าเหลียงก็เก็บกวาดห้องรับแขก
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้