......ระหว่างทางไปรีสอร์ทฮิลแถบชานเมือง ไห่ถงโทรหาเสี่ยวจวิน "เสี่ยวจวิน วันนี้ฉันจะไปพักผ่อนเป็นเพื่อนคุณยาย คงกลับร้านไม่ได้ ฝากด้วยนะ"เซินเสี่ยวจวินพูดยิ้มๆ "ไม่เป็นไร เธอไปพักผ่อนเป็นเพื่อนคุณยายจ้านให้ดีๆเถอะ ที่ร้านมีฉันคอยดูอยู่ เป็นปกติดีทุกอย่าง"ถึงยังไงพรุ่งนี้ก็สุดสัปดาห์แล้วปกติวันสุดสัปดาห์พวกเขาไม่เปิดร้าน ถ้าเปิด ก็เป็นเพราะไห่ถงต้องรีบถักงานที่ร้านหลังจากจบการสนทนา เซินเสี่ยวจวินก็พึมพำกับตัวเอง "ชีวิตหลังแต่งงานของถงถงสนุกขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ""พี่จวิน"เสียงเรียกอันคุ้นเคยดังขึ้น ใบหน้าขี้เล่นของเซินเสี่ยวจวินตึงขึ้นมาทันทีเธอมองจางเหนียนเซิงเดินเข้ามา แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์นัก "เหนียนเซียง ที่พี่พูดกับนายไปครั้งที่แล้ว ฟังเข้าสมองบ้างไหม? ต่อไปนี้ไม่ต้องมาที่นี่อีก ระหว่างนายกับถงถงมันเป็นไปไม่ได้!"ไม่เจอเพียงไม่กี่วัน จางเหนียนเซิงก็ดูอิดโรยนิดหน่อย ขอบตาของเขาดำคล้ำมาก แถมยังมีหนวดขึ้น เขาในตอนนี้ไม่เหมือนหนุ่มน้อยอายุยี่สิบสองเลยสักนิดเห็นญาติน้องที่อยู่ในสภาพนี้ เซินเสี่ยวจวินก็รู้สึกปวดใจความรักเป็นอาวุธที่ทำร้ายคนในรูปแบบจังต้องไม่ได้จางเหนี
ตระกูลจางเป็นตระกูลสามีของป้าแท้ๆของเธอ ตั้งแต่เด็กๆเซินเสี่ยวจวิน็เห็นมากับตาตัวเองว่าป้าตาเผชิญความยากลำบากมากมายขนาดไหน ครอบครัวเซินของพวกเขาร่ำรวยจากการประกอบธุรกิจรื้อถอน ที่บ้านมีบ้านให้เช่ามากมาย ทรัพย์สินเกือบพันล้าน แต่ป้าของเธอกลับแต่งเข้าตระกูลไฮโซไปด้วยความยากลำบากยิ่งไห่ถงก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเซินเสี่ยวจวินไม่ได้ด้อยค่าไห่ถง แต่เธอแค่พูดตามความเป็นจริง"พี่ไห่ถง...""ไห่ถงไปเดทกับสามีของเธอ"สีหน้าของจางเหนียนเซิงซีดในทันทีไม่นานเขาก็ตามหาเงาของไห่ถงในร้าน เซินเสี่ยวจวินปล่อยให้เขาเดินหาให้ทั่วทุกซอกทุกมุมตามสะดวกเมื่อจางเหนียนเซิงหาไห่ถงไม่เจอ จึงยอมเชื่อคำพูดของญาติพี่ ไห่ถงไม่อยู่ที่ร้านจริงๆเขาจึงจากไปด้วยร่างที่ไร้วิญญาณเซินเสี่ยวจวินถอนหายใจอีกครั้งหวังว่าเหนียนเซียงจะหลุดพ้นให้เร็วที่สุด อย่าทำเรื่องงี่เง่าบ้าระห่ำเพราะความรักเธอที่เป็นคนกลาง ก็ยิ่งลำบากใจมากเธอสงสารความรักของญาติน้อง แต่ก็พยายามอย่างมากที่จะปกป้องเพื่อนรัก ถึงไม่ยอมให้น้องชายเข้ามาแทรกกลางในชีวิตแต่งงานของเพื่อนณ รีสอร์ทฮิลแถบชานเมืองจ้านหยินและคุณย่าไม่ได้มาในฐานะนายน้อยและค
ไห่ถงยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง แล้วลากจ้านหยินให้เดินตามสัญชาตญาณนี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดเชียวนะจ้านหยินใช้โอกาสนี้เป็นฝ่ายจับมือไห่ถงเอาไว้ แล้วพาเธอเดินแทนเดินๆอยู่ เขาก็ประสานนิ้วมือเข้ากับเธออืม ความรู้สึกที่ได้เดินจับมือเล็กๆของเมีย นี่มันดีจริงๆ!คนที่ไม่มีประสบการณ์ด้านความรักอย่างจ้านหยิน แล้วก็ดันเป็นผู้ชายที่ชอบเก๊กเย่อหยิ่งอีก พอจับมือเมียได้สำเร็จ ภายในใจก็หวานชื่นราวกับกินน้ำผึ้งเข้าไปไห่ถงสัมผัสได้ว่าเขาจับมือของเธอแน่น ก็ก้มมองมือที่ประสานกันสิบนิ้วของทั้งสอง เป็นเขาที่กำมือเธอแน่นเธอลอบปรายตามองจ้านหยิน ก็เห็นใบหน้าของเขายังเย็นชาเย่อหยิ่งดังปกติ แล้วแอบพูดอยู่ในใจ "หลอกแต๊ะอั๋งหน้าตายเลยนะ"ดังนั้น เธอจึงใช้นิ้วโป้งลูบไล้ไปบนฝ่ามือของเขาสองสามที ตอนที่เขาหันมามองเธอ เธอก็แสร้งทำเป็นมองไปข้างหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉยเรื่องหลอกแต๊ะอั๋งหน้าตายน่ะ เธอก็ไม่แพ้หรอกมุมปากของจ้านหยินยกยิ้มเขาชอบนิสัยแบบนี้ของไห่ถงจริงๆไม่อาย อยากทำอะไรก็ทำ"รอให้เรื่องของพี่สาวคุณคลี่คลาย ถ้าว่างเมื่อไหร่ ผมจะพาคุณมาพักที่นี่อีกสักสองสามวัน"เขาชี้ไปที่วิลล่าที่ทำจากไม้เหล่านั้นซึ่งอยู
ไห่ถงรู้ดีว่าเธอรักนายน้อยจ้านมากขนาดไหน จึงไม่อยากจะพูดอะไรเยอะเกี่ยวกับหัวข้อนี้ เดี๋ยวซางเสี่ยวเฟยจะเสียใจ ก็รีบเปลี่ยนเรื่องคุยคุยไปคุยมา ซางเสี่ยวเฟยก็พูดถึงเรื่องที่ตัวเองกำลังจะทำตอนนี้ เธอพูด "พี่ใหญ่กลัวว่าถ้าฉันว่าก็จะคิดถึงนายน้อยจ้าน แล้วจะยิ่งเศร้ามากขึ้น เลยให้งานฉันมาทำ ให้ฉันทำทุกวิถีทางเพื่อตามหาคุณน้า""คุณน้าของคุณ?"ไห่ถงไม่ได้รู้เรื่องราวในครอบครัวของตระกูลชางนัก รู้แต่ว่าเป็นตระกูลชั้นนำรองลงมาจากตระกูลจ้านคนของตระกูลชางคนเดียวที่รู้จัก ก็คือซางเสี่ยวเฟย"ไห่ถง จะว่าไปคุณแม่ของฉันกับพวกเธอสองพี่น้องหน้าตาเหมือนกันมาก คุณตาคุณยายของฉันก็เสียไปนานแล้ว ไม่มีญาติคนไหนยอมรับเลี้ยงคุณแม่กับคุณน้า จนสุดท้ายท่านทั้งสองต้องถูกส่งไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นระยะนึง เพราะคุณน้าของฉันยังเด็ก ไม่รู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ แถมยังหน้าตาน่ารัก ก็เลยถูกคู่สามีภรรยาที่มีฐานะแต่ไม่มีลูกรับเลี้ยงไป""เหลือคุณแม่ของฉันที่ยังอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่ท่าคิดถึงคุณน้าอยู่ตลอด หลังจากโตแล้วคุณแม่ของฉันมีกำลังมาพอ ก็เริ่มตามหาคุณน้า แต่จนปัญญาสมัยก่อนการจะตามหา
"ตอนที่คุณแม่กับคุณน้าแยกจากกัน สองสาวพี่น้องถ่ายรูปด้วยกันรูปนึง ทั้งคู่ต่างคนต่างเก็บรูปถ่ายเอาไว้คนละใบ น่าเสียดายที่รูปถ่ายใบนั้นของคุณน้าถูกคู่สามีภรรยาที่เก็บไปเลี้ยงคู่แรกเผาจนมอดไหม้""คุณแม่ยังเก็บรูปถ่ายเอาไว้อยู่ ผ่านมาหลายสิบปี ต่อให้ท่านจะรักษาไว้อย่างดีแค่ไหน แต่ก็วิเคราะห์ใบหน้าไม่ง่าย พี่ชายฉันก็เคยโพสต์รูปลงในโซเชียลมีเดีย แต่ก็ไม่มีข่าวคราวเลยแม้แต่น้อย ถ้าคิดจะตามหาคุณน้า ก็นอกซะจากลูกสาวลูกชายของท่านหน้าตาเหมือนท่าน แล้วบังเอิญว่าคุณแม่ของฉันเห็นเข้า ถึงจะสามารถตามหาคุณน้าเจอ"ไม่งั้นก็ยากที่จะหาเจอแต่โอกาสแบบนั้นก็แทบจะเป็นศูนย์"สวรรค์ไม่รังแกคนที่มีความพยายาม เสี่ยวเฟย พวกคุณจะต้องเจอคุณน้าในสักวันนึง"นอกจากจะให้กำลังใจซางเสี่ยวเฟย ไห่ถงก็ช่วยอะไรไม่ได้อีกตระกูลชางมีเงินมีอำนาจมีเส้นสาย พลิกแผ่นดินหามานานหลายปีก็ยังหาคุณน้าของตระกูลชางไม่เจอ แล้วเธอที่ไม่มีทั้งอำนาจทั้งเส้นสาย ก็ยิ่งไม่มีปัญญา"หวังว่าจะได้เจอคุณน้าของฉันเร็วๆ คุณแม่จะได้พบหน้าน้องสาวอีกครั้ง ไห่ถง ถ้าเธอรู้ว่ามีใครที่ถูกรับไปเลี้ยง ช่วยบอกฉันหน่อยนะ ฉันจะไม่ปล่อยผ่านความเป็นไปได้ไปแม้แ
ซางเสี่ยวเฟยพูดด้วยความตื้นตัน "ไห่ถง ถ้าเธอช่วยพวกเราหาคุณน้าจนพบ เธฮก็คือผู้มีพระคุณต่อครอบครัวของเรา ครอบครัวเราจะตอบแทนเธออย่างดีที่สุด""พวกเราเป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้น ฉันก็แค่คิดถึงแม่ของฉัน ถ้าแม่ของฉันยังมีชีวิตอยู่ ฉันกับพี่สาวก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยแม่ตามหาญาติพี่น้องเหมือนกัน"แม่เสียชีวิตไปสิบกว่าปีแล้ว ความทรงจำที่ไห่ถงมีต่อแม่ก็ไม่ได้ลึกซึ้งขนาดนั้นแล้ว โชคดีที่พี่สาวหน้าตาเหมือนแม่ เวลาที่มองหน้าพี่เธอถึงจำหน้าตาของแม่ได้"ไห่ถง ฉันไม่รบกวนเธอเดทกับสามีแล้ว เที่ยวให้สนุก จัดงานแต่งเมื่อไหร่ต้องบอกฉันนะ ฉันจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้เธอ"ซางเสี่ยวเฟยหยอกไห่ถงสองประโยค จากนั้นก็เป็นฝ่ายวางสายไป"คุณหนูซางคนนั้นอีกแล้วหรอ?"จ้านหยินถามราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไร"อืม ตอนแรกเสี่ยวเฟยกะจะมาเที่ยวกับพวกเรา แต่พอได้ยินว่าฉันอยู่กับคุณ เธอก็เลยไม่อยากมา"จ้านหยินลอบสบถเย็นชาในใจ "ก็ยังคิดได้บ้าง!""ความจริงเสี่ยวเฟยนิสัยดีมาก เจ้านายของพวกคุณ..." พอคิดว่านายน้อยจ้านสวมแหวนแต่งงานขนาดนั้น ไห่ถงก็ถอนหายใจ "ทั้งสองคนคงไม่มีวาสนาต่อกัน""พวกคุณคุยอะไรกัน? ผมได้ยินคุณพ
"นั่นมันแน่นอน ฉันยังต้องขึ้นศาลกับพวกเขาเพื่อทวงบ้านกลับคืนมาให้ได้!""ในเมื่อมั่นใจขนาดนี้ ก็ไม่ต้องดาวน์แล้ว วันนี้เราออกมาเที่ยว ก็ต้องเที่ยวให้สนุกสิ เรื่องในอดีตที่ค้างคาไว้ไม่ได้แก้ไข ค่อยๆจัดการไปทีละเรื่อง เดี๋ยวก็จะหมดไปเอง"เขาดึงไห่ถงแนบชิดแผงอก กอดไว้ในอ้อมแขน แล้วพูดเสียงทุ้มต่ำ "ยังมีผมอยู่นะ ต่อให้โลกจะถล่มก็ไม่ต้องกลัว ผมจะช่วยคุณแบกไว้เอง"ไห่ถงไม่ได้ขัดขืน เธออิงแอบลงตรงแผงอกของเขาเงียบๆ ผ่านไปชั่วครู่ เธอจึงออกจากอ้อมกอดของเขาใบหน้าแดงเล็กน้อย"คนตั้งเยอะแยะ"จ้านหยินเอามือของเธอมาจับราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จับมือเธอแล้วเดินต่อไปข้างหน้า "เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ได้แอบคบกันสักหน่อย จะกลัวคนเยอะทำไม?"ไห่ถง "...""ไม่น่าล่ะพี่ฉันถึงเอาแต่บอกให้ฉันทำดีกับคุณ" เขาใช้การกระทำเอาชนะใจของพี่สาวได้ตั้งนานแล้วหลังจากแต่งงาน สองสามีภรรยาได้อยู่ร่วมกัน ไห่ถงก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้ถึงแม้จะมีข้อเสีย แต่ข้อดีก็มากกว่าข้อเสีย แล้วอีกอย่างทุกคนก็มีข้อเสียกันทั้งนั้น แม้กระทั่งเธอที่มีข้อเสียอยู่เต็มตัวเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องใหญ่ๆ จ้านหยินดีกว่าไอ้สารเลวโจวหงหลินนั่นม
ไห่ถงก็ไม่ได้โง่ที่คุณยายกับป้าเหลียงเดินไปไกล ก็เพราะอยากจะสร้างโอกาสให้สองสามีภรรยาได้อยู่กันตามลำพังไม่ง่ายนักที่จ้านหยินจะไม่ปฏิเสธและทิ้งระยะห่างกับเธออย่างเย็นชา ไห่ถงจึงเอนจอยไปกับรสชาติหอมหวานของการเดทสองสามีภรรยาเดินจับมือกัน เที่ยวชมสวนสไตล์จีนโบราณ ไห่ถงชอบสวนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายย้อนยุคและคลาสสิคแบบนี้ที่สุด"จ้านหยิน""อืม"จิตใจของจ้านหยินไม่ได้อยู่ที่วิว เขาคอยแอบมองหญิงสาวที่อยู่ข้างกายตลอดเวลาเมื่อได้ยินว่าไห่ถงเรียกเขา เขาก็หยุดฝีเท้าแล้วหันไปมองเธอด้วยสีหน้านิ่งๆ ประหนึ่งว่าเมื่อกี้เขากำลังมองเบื้องหน้าอยู่ ไม่ได้แอบมองเธอแบบนั้น"คุณทำงานอยู่ที่จ้านซื่อกรุ๊ป รู้ไหมว่ากิจการในเครือบริษัทของพวกคุณมีอะไรบ้าง? อย่างรีสอร์ทฮิลนี่ เจ้านายของคุณลงทุนไปกี่ที่?"จ้านหยินครุ่นคิด แล้วว่า "บริษัทของเรามีสาขาย่อยอยู่ในแต่ละเมืองใหญ่ๆ มีทั้งลงทุนและดำเนินกิจการในทุกอุตสาหกรรม แต่อย่างรีสอร์ทฮิล ลงทุนสร้างไปแค่สองที่ เพราะเลือกที่ดินลำบาก การจะลงทุนสร้างรีสอร์ทฮิลแบบนี้ ต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาล""รีสอร์ทฮิลแห่งนี้บริษัทของผมลงทุนเองทั้งหมด ส่วนรีสอร์ทที่อยู่ในเมือง