"ซื้ออาหารเช้าใช้เงินไม่มาก พี่อย่าห่วงเลย ฉันมีเกณฑ์อยู่ในใจ"รายได้ของไห่ถงนั้นไม่ได้น้อย เธอสามารถช่วยพี่สาวได้ แต่จะไม่นํารายได้ทั้งหมดของเธอมาใช้จ่ายเพราะเธอยังต้องการเก็บเงินซื้อบ้าน"หยางหยางกินหรือยัง?"ไห่ถงถามพลางเอามือลูบหน้าผากของโจวหยาง อุณหภูมิร่างกายเขาเป็นปกติ"ดื่มนมไปแล้ว พี่ยังต้มโจ๊กกระดูกหมูอยู่ รอให้โจ๊กต้มเสร็จค่อยป้อนให้เขากิน จะได้ไม่หิว"ไห่หลิงดูแลลูกชายเป็นอย่างดี"พี่ จ้านหยินจะกลับมาในอีกสองวัน วันเสาร์นี้พ่อแม่เขาจะมา พี่กับพี่เขยก็ไปหมิงหยวนฮวา การ์เด้นในวันนั้นเพื่อพบกับพ่อแม่ของเขานะ พี่ช่วยบอกพี่เขยหน่อย"เมื่อได้ยินแล้ว ไห่หลิงจึงพูดด้วยความดีใจว่า "น้องเขยกลับมาจากธุระแล้วเหรอ?""เขาบอกว่าจะกลับบ้านในคืนวันศุกร์""ได้ ฉันจะบอกพี่เขยให้"น้องสาวของเธอแต่งงานกะทันหันและไห่หลิงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น น้องเอาแต่โกหกและยังไม่ได้แสดงออกชัดเจน เธอกังวลมากว่าน้องสาวแต่งงานกับคนผิดจริง ๆ แล้วน้องเขยหน้าตาเป็นยังไง เธอก็ยังไม่เคยเห็นในฐานะผู้ปกครองของน้องสาว เธอให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากอยู่บ้านพี่สาวได้สักพัก ไห่ถงต้องไปทำงานหลังจากน้องสาวจากไป
"ผมเห็นคุณจ่ายเงินในร้านขายเสื้อผ้า คุณซื้อเสื้อผ้าอีกแล้วเหรอ? แถมยังซื้อแพงขนาดนั้นอีก! ใช้เงินไปห้าพันกว่าบาทในครั้งเดียว คุณประหยัดค่าใช้จ่ายหน่อยได้ไหม? คิดว่าผมหาเงินง่ายเหรอ?""ผมยังต้องจ่ายค่าผ่อนบ้าน ยังต้องให้เบี้ยยังชีพพ่อแม่ผมด้วย หยางหยางยังต้องกินนมผง ค่าผ้าอ้อมอะไรต่ออะไรล้วนเป็นรายจ่ายทั้งนั้น คุณไม่มีรายได้พึ่งพาแค่รายได้จากผมคนเดียว คุณยังไม่ประหยัดเงินสักหน่อย ไม่รู้จักเห็นใจผมบ้างเลย"ไห่หลิงหยุดรอให้สามีตําหนิจบ เธออธิบายว่า "ถงถงบอกว่าน้องเขยจะกลับมาในวันศุกร์ วันเสาร์ผู้ใหญ่สองฝั่งจะมาพบหน้ากันเพื่อทานอาหาร ฉันเป็นญาติของถงถง ต้องสร้างความประทับใจที่ดีให้กับครอบครัวน้องเขย เสื้อผ้าเมื่อก่อนมันใส่ไม่พอดีตัวแล้ว ต้องซื้อใหม่สองชุดแค่นั้น""ฉันซื้อสูทและเน็คไทชุดใหม่ให้คุณด้วย หงหลิน สุดสัปดาห์นี้เราจะไม่กลับไปบ้านแม่ของคุณแล้ว"หลังจากโจวหงหลินฟังคําอธิบายของเธอแล้ว เขาพึมพําอะไรบางอย่างเบา ๆ ไห่หลิงไม่ได้ยินอย่างชัดเจนและถามเขาว่า "หงหลิน คุณพูดอะไร?""ไม่ได้พูดอะไร เจอพ่อแม่น้องเขยก็ต้องแต่งตัวดีหน่อย แต่ไม่เห็นต้องซื้อ 2 ชุดเลย ชุดเดียวก็พอแล้ว อีกอย่างคุณร
เธอสนุกกับการได้รับความรัก การให้ดอกไม้และรับของขวัญจากเจ้านาย เธอจะรับทุกอย่าง แต่อย่างมากที่เธอจะมอบให้เขากลับได้มีเพียงการจูบเท่านั้น เธอยังคงมีขอบเขตและสร้างกำแพงกับเขาอยู่ไม่ใช่ว่าเธอนั้นใสซื่อ แต่เธอกระตุ้นความโหยหาของโจวหงหลินอยู่สิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่การเป็นชู้ แต่ต้องการเป็นภรรยาของโจวหงหลินแต่โจวหงหลินกับภรรยาของเขารักกันมาหลายปีและยังเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยกัน คนที่ชื่อไห่หลิงเคยเป็นผู้อํานวยการฝ่ายการเงินของบริษัทนี้มาก่อน แต่เมื่อเธอเข้าทำงานที่บริษัท ไห่หลิงก็ลาออกไปเป็นแม่บ้านแล้วเหย่เจียนีไม่เคยเจอไห่หลิงมาก่อน แต่จากการบอกเล่าผ่านเพื่อนร่วมงาน เธอรู้ว่าไห่หลิงให้กําเนิดลูกชายแก่โจวหยางหลังจากแต่งงานเพียงหนึ่งปี หลังจากนั้นก็อยู่บ้านดูแลลูกมาตลอด และยังเล่าอีกว่าหลังจากไห่หลิงให้กําเนิดลูกชาย เธอก็กลายเป็นคนอ้วนที่มีรูปร่างเหมือนลูกบอลเธอยังเคยได้ยินโจวหงหลินบ่นว่าภรรยาอ้วนเหมือนหมูมากกว่าหนึ่งครั้งเย่เจียนีนินทาว่าร้ายในใจว่า "ไห่หลิงเป็นผู้หญิงโง่จริง ๆ ต่อให้แต่งงานแล้วก็ต้องระวังรักษารูปร่าง ถ้าอ้วนเป็นลูกบอล ผู้ชายคนไหนยังจะชอบอีก"ไม่ต้องโทษเธอที่เ
ตอนนั้นเองขบวนรถหรูก็ค่อย ๆ ขับเคลื่อนเข้ามา หนึ่งในนั้นเป็นโรลส์รอยซ์ซึ่งเป็นรถประจำตัวของจ้านหยิน รถหรูจอดบริเวณริมทาง จ้านหยินกดลดหน้าต่างลง เมื่อเห็นชายหนุ่มที่มีบาดแผลเป็นเอกลักษณ์ก็ตะโกนขึ้น "ตงหมิง นายมาทำอะไรที่นี่?""ลงมาซื้อของแป๊บเดียว ไม่คิดว่าจะมีคนมาขูดโดนรถฉัน""จับตัวคนที่ขูดรถนายไม่ได้เหรอ?"จ้านหยินเอ่ยต่อทันที "อยากให้ฉันช่วยหาตัวคนที่ทำรถนายไหม?""ไม่ต้อง ฉันได้เบอร์โทรศัพท์ของเธอมาแล้ว รอรถซ่อมเสร็จ ค่อยไปเอาค่าชดใช้จากเธอ ขอแค่อยู่ในกวนเฉิง ยังไงซะก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือของลู่ตงหมิงหรอก"ลู่ตงหมิงกลับเข้ามาในรถและสตาร์ทอย่างรวดเร็ว พร้อมพูดกับจ้านหยินว่า "ไปเถอะ"จ้านหยินได้ยินแบบนั้น ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขากดปิดหน้าต่าง จากนั้นขบวนรถหรูก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ววัน ๆ หนึ่งผ่านไปเร็วราวสายน้ำไหลเพียงพริบตาเดียวก็เป็นเวลาพลบค่ำหลังจากนักเรียนเลิกเรียนกันแล้ว เดิมทีไห่ถงตั้งใจจะเข้าครัวไปเตรียมอาหารเย็นสำหรับเธอและเสี่ยวจวิน แต่กลับมีสายเรียกเข้าจากพี่สาว"ถงถง พี่นั่งคิดมาทั้งวัน ไม่มีทางอื่นแล้วจริง ๆ พี่ว่าพี่ต้องบอกเธอแล้วล่ะ""พี่ มีเรื่องอะไรคะ?"
จ้านหยินเงียบไปคนที่ขูดโดนรถของลู่ตงหมิงเมื่อตอนกลางวันเห็นทีจะเป็นพี่ภรรยาที่เขาไม่เคยเห็นหน้าค่าตาโดยแน่แท้"คุณจ้าน นี่ก็ดึกมากแล้ว ฉันขอตัวเข้าห้องไปนอนก่อนนะคะ"แม้จะเป็นฝ่ายปลอบใจพี่สาว แต่ถึงยังไงซะตัวเองก็ไม่ได้รู้ชะตากรรมที่แน่ชัด เพราะแบบนั้นลึก ๆ แล้วไห่ถงก็รู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อยเธอเอ่ยกับจ้านหยินสั้น ๆ ก่อนจะเข้าห้องไปจ้านหยินอ้าปากราวกับอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หญิงสาวเข้าห้องไปแล้วดอกไม้ที่อยู่บนระเบียงพวกนั้น... พรุ่งนี้เช้าเมื่อเธอตื่นมาเห็นก็คงจะจัดแจงเองนั่นแหละแต่จ้านหยินรู้สึกแปลก ๆ ภายในใจ มันเหมือนกับเขาอุตส่าห์ทำความดีแล้วก็หวังว่าจะได้รับคำชมจากเธอสักหน่อย"คุณจ้าน"ประตูห้องเปิดออกอีกครั้ง ไห่ถงยืนอยู่ตรงบานประตู เธอถามเขา "คุณซื้อเครื่องซักผ้ามาเหรอคะ? เท่าไรน่ะ?""สองเครื่องก็สามหมื่นห้าพันบาท"ไห่ถงเทียบราคากับเครื่องในบ้านของพี่สาว รู้สึกว่าราคาเครื่องซักผ้าที่จ้านหยินซื้อมาถือว่าสมเหตุสมผลอยู่ เธอจึงไม่ได้ว่าอะไรต่อ"ไห่ถง"จ้านหยินรีบรั้งเธอเอาไว้ ก่อนที่เธอจะปิดประตูลงเป็นครั้งที่สอง"เรื่องพี่สาวไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก ถ้าเงินไม่พอก็ขอ
“เรื่องเล็กน่ะขี้เกียจเรียกประกัน จ้านหยิน ทำไมอยู่ ๆ มาถามเรื่องนี้?”จ้านหยินเงียบไปอึดใจ ก่อนบอกจะว่า "ผู้หญิงที่ขูดโดนรถนายเมื่อตอนกลางวันคือพี่สาวแท้ ๆ ของคนที่ช่วยชีวิตยายฉัน พวกเธอมีอยู่กันแค่สองพี่น้อง ผู้หญิงคนนั้นตอนนี้เป็นแม่บ้าน ไม่ได้ทำงาน พอเธอรู้ตัวว่าขูดโดนรถนาย ก็เครียดจนขนาดว่าจะต้องขายบ้านขายรถเพื่อเอาเงินมาชดใช้"ลู่ตงหมิงเอ่ย "...บังเอิญจังแฮะ ดันเป็นพี่สาวของผู้มีพระคุณของคุณยายของนายซะได้ ว่าแต่ไปรู้มาได้ยังไง?"จ้านหยินรีบปั้นน้ำเป็นตัว "ยายของฉันชอบผู้หญิงคนนั้นมาก ท่านชอบไปเที่ยวเล่นกับเธอบ่อย ๆ พอเห็นอีกฝ่ายท่าทางไม่ค่อยสู้ดี ยายฉันก็เลยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ผู้หญิงแซ่ไห่คนนั้นก็เลยเล่าให้ท่านฟัง""แซ่ไห่เหมือนกันจริง ๆ สินะ ผู้หญิงที่ขูดโดนรถฉันชื่อไห่หลิง ผู้มีพระคุณของคุณยายนายชื่ออะไรนะ?""ไห่ถง""แค่ฟังชื่อก็รู้เลยว่าเป็นพี่น้องกันชัวร์ ในเมื่อเป็นพี่สาวของคนที่ช่วยชีวิตคุณยายของนาย งั้นฉันก็จะไม่เอาความแล้วกัน เงินแค่นั้นฉันไม่ได้อยากได้อยู่แล้ว แค่ว่าในฐานะผู้เสียหาย ถ้าฉันทำใจป๋า ปล่อยผ่านไปเฉย ๆ เธอก็คงจะไม่ได้รับบทเรียน ดีไม่ดีคราวหน้าอาจจะไป
คืนนั้นไห่ถงนอนไม่หลับเพราะฝันทั้งคืน เพราะงั้นเช้าในวันต่อมาเธอจึงรู้สึกเหนื่อยล้ามากหญิงสาวทำกิจวัตรเช่นเดิมทุกวัน คือซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าที่ซื้อมาเมื่อคืนก่อนจะตากมันบนระเบียงจังหวะนั้นเองที่เธอเพิ่งสังเกตเห็นว่าตรงระเบียงมีบาร์สแตนเลสขนาดยาวที่ติดตั้งเอาไว้เพื่อให้เธอตากเสื้อผ้า อีกทั้งบริเวณระเบียงกว้าง ๆ นั้นยังเต็มไปด้วยกระถางดอกไม้หลากหลายชนิด โดยหลายกระถางนั้นได้ผลิดอกแล้ว และบางส่วนก็เตรียมจะบานในอีกไม่ช้า ทุกกระถางไม่ว่าจะเป็นดอกเล็กหรือใหญ่ ล้วนเป็นดอกไม้ชนิดที่กลีบหนาและทับซ้อนกันหลายชั้นกระถางดอกไม้เหล่านั้นดึงความสนใจของไห่ถงได้ในเสี้ยววินาทีหลังจากตากเสื้อผ้าเสร็จ เธอก็นำชั้นวางที่ซื้อมาเมื่อวานตอนเช้ามาประกอบจนเสร็จ จากนั้นก็ย้ายกระถางดอกไม้เหล่านั้นขึ้นมาวางบนชั้นหลังจากง่วนอยู่กับการขนย้ายอยู่พักหนึ่ง เธอก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังจ้องเธออยู่ ทันทีที่แหงนหน้าขึ้นไป ก็สบตาเข้ากับดวงตาสีดำลึกล้ำของจ้านหยิน สายตาของชายหนุ่มทั้งแหลมคมและเยือกเย็นดีที่แต่งงานกันมาได้หลายวัน เพราะแบบนั้นไห่ถงจึงเคยชินกับท่าทางเย็นชาของอีกฝ่ายแล้ว"อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณจ้าน"
"มีอะไรคะ คุณจ้าน?"ไห่ถงมองเขาจากด้านนอกระเบียงจ้านหยินเดินมายังระเบียงพร้อมกัดปาท่องโก๋ไปด้วย "เรื่องพี่สาวของคุณ เลิกกังวลได้แล้วล่ะ เพราะรถที่พี่คุณไปขูดโดนเป็นรถของลูกค้าคนสำคัญในบริษัทผมเอง เมื่อคืนนึกขึ้นได้ผมเลยติดต่อหาคุณลู่ เห็นเขาบอกว่าค่าซ่อมประมาณห้าหกหมื่นเท่านั้น"ถึงจะบอกว่าตอนนี้หญิงสาวแกล้งสนใจกับการจัดวางกระถางดอกไม้ แต่จ้านหยินก็ดูออกว่าสีหน้าท่าทางของเธอไม่ค่อยปกติ เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนคงจะนอนไม่หลับและสาเหตุเดียวก็คงเป็นเรื่องของพี่สาวไห่ถงเงยหน้ามองเขา เห็นอีกฝ่ายกัดปาท่องโก๋ด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ พลางก็คิดในใจว่าไม่เลือกกินแบบนี้ ค่อยเลี้ยงง่ายหน่อย พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า "คุณแน่ใจได้ยังไงว่าเป็นรถของลูกค้าคุณ?"ขนาดพี่สาวของเธอยังไม่รู้ชื่อแซ่ของเจ้าของรถด้วยซ้ำ รู้แค่ว่าอีกฝ่ายเป็นคนใหญ่คนโต มีรอยแผลเป็นน่ากลัวบนหน้า ซึ่งหยางหยางก็กลัวผู้ชายคนนั้นมาก"เมื่อวานนี้ตอนกลางวันคุณลู่มาที่บริษัท แล้วผมก็เป็นคนออกไปรับ ตอนนั้นเห็นรถของเขามีรอยขูดผมเลยถามไถ่ไปหน่อย คุณลู่บอกว่าเป็นผู้หญิงเข็นรถเข็นเด็กมาขูดโดนน่ะ""แล้วเมื่อคืนตอนที่คุณเล่าให้ผมฟัง ผมก็มานั่งคิด