เธอสนุกกับการได้รับความรัก การให้ดอกไม้และรับของขวัญจากเจ้านาย เธอจะรับทุกอย่าง แต่อย่างมากที่เธอจะมอบให้เขากลับได้มีเพียงการจูบเท่านั้น เธอยังคงมีขอบเขตและสร้างกำแพงกับเขาอยู่ไม่ใช่ว่าเธอนั้นใสซื่อ แต่เธอกระตุ้นความโหยหาของโจวหงหลินอยู่สิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่การเป็นชู้ แต่ต้องการเป็นภรรยาของโจวหงหลินแต่โจวหงหลินกับภรรยาของเขารักกันมาหลายปีและยังเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยกัน คนที่ชื่อไห่หลิงเคยเป็นผู้อํานวยการฝ่ายการเงินของบริษัทนี้มาก่อน แต่เมื่อเธอเข้าทำงานที่บริษัท ไห่หลิงก็ลาออกไปเป็นแม่บ้านแล้วเหย่เจียนีไม่เคยเจอไห่หลิงมาก่อน แต่จากการบอกเล่าผ่านเพื่อนร่วมงาน เธอรู้ว่าไห่หลิงให้กําเนิดลูกชายแก่โจวหยางหลังจากแต่งงานเพียงหนึ่งปี หลังจากนั้นก็อยู่บ้านดูแลลูกมาตลอด และยังเล่าอีกว่าหลังจากไห่หลิงให้กําเนิดลูกชาย เธอก็กลายเป็นคนอ้วนที่มีรูปร่างเหมือนลูกบอลเธอยังเคยได้ยินโจวหงหลินบ่นว่าภรรยาอ้วนเหมือนหมูมากกว่าหนึ่งครั้งเย่เจียนีนินทาว่าร้ายในใจว่า "ไห่หลิงเป็นผู้หญิงโง่จริง ๆ ต่อให้แต่งงานแล้วก็ต้องระวังรักษารูปร่าง ถ้าอ้วนเป็นลูกบอล ผู้ชายคนไหนยังจะชอบอีก"ไม่ต้องโทษเธอที่เ
ตอนนั้นเองขบวนรถหรูก็ค่อย ๆ ขับเคลื่อนเข้ามา หนึ่งในนั้นเป็นโรลส์รอยซ์ซึ่งเป็นรถประจำตัวของจ้านหยิน รถหรูจอดบริเวณริมทาง จ้านหยินกดลดหน้าต่างลง เมื่อเห็นชายหนุ่มที่มีบาดแผลเป็นเอกลักษณ์ก็ตะโกนขึ้น "ตงหมิง นายมาทำอะไรที่นี่?""ลงมาซื้อของแป๊บเดียว ไม่คิดว่าจะมีคนมาขูดโดนรถฉัน""จับตัวคนที่ขูดรถนายไม่ได้เหรอ?"จ้านหยินเอ่ยต่อทันที "อยากให้ฉันช่วยหาตัวคนที่ทำรถนายไหม?""ไม่ต้อง ฉันได้เบอร์โทรศัพท์ของเธอมาแล้ว รอรถซ่อมเสร็จ ค่อยไปเอาค่าชดใช้จากเธอ ขอแค่อยู่ในกวนเฉิง ยังไงซะก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือของลู่ตงหมิงหรอก"ลู่ตงหมิงกลับเข้ามาในรถและสตาร์ทอย่างรวดเร็ว พร้อมพูดกับจ้านหยินว่า "ไปเถอะ"จ้านหยินได้ยินแบบนั้น ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขากดปิดหน้าต่าง จากนั้นขบวนรถหรูก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ววัน ๆ หนึ่งผ่านไปเร็วราวสายน้ำไหลเพียงพริบตาเดียวก็เป็นเวลาพลบค่ำหลังจากนักเรียนเลิกเรียนกันแล้ว เดิมทีไห่ถงตั้งใจจะเข้าครัวไปเตรียมอาหารเย็นสำหรับเธอและเสี่ยวจวิน แต่กลับมีสายเรียกเข้าจากพี่สาว"ถงถง พี่นั่งคิดมาทั้งวัน ไม่มีทางอื่นแล้วจริง ๆ พี่ว่าพี่ต้องบอกเธอแล้วล่ะ""พี่ มีเรื่องอะไรคะ?"
จ้านหยินเงียบไปคนที่ขูดโดนรถของลู่ตงหมิงเมื่อตอนกลางวันเห็นทีจะเป็นพี่ภรรยาที่เขาไม่เคยเห็นหน้าค่าตาโดยแน่แท้"คุณจ้าน นี่ก็ดึกมากแล้ว ฉันขอตัวเข้าห้องไปนอนก่อนนะคะ"แม้จะเป็นฝ่ายปลอบใจพี่สาว แต่ถึงยังไงซะตัวเองก็ไม่ได้รู้ชะตากรรมที่แน่ชัด เพราะแบบนั้นลึก ๆ แล้วไห่ถงก็รู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อยเธอเอ่ยกับจ้านหยินสั้น ๆ ก่อนจะเข้าห้องไปจ้านหยินอ้าปากราวกับอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หญิงสาวเข้าห้องไปแล้วดอกไม้ที่อยู่บนระเบียงพวกนั้น... พรุ่งนี้เช้าเมื่อเธอตื่นมาเห็นก็คงจะจัดแจงเองนั่นแหละแต่จ้านหยินรู้สึกแปลก ๆ ภายในใจ มันเหมือนกับเขาอุตส่าห์ทำความดีแล้วก็หวังว่าจะได้รับคำชมจากเธอสักหน่อย"คุณจ้าน"ประตูห้องเปิดออกอีกครั้ง ไห่ถงยืนอยู่ตรงบานประตู เธอถามเขา "คุณซื้อเครื่องซักผ้ามาเหรอคะ? เท่าไรน่ะ?""สองเครื่องก็สามหมื่นห้าพันบาท"ไห่ถงเทียบราคากับเครื่องในบ้านของพี่สาว รู้สึกว่าราคาเครื่องซักผ้าที่จ้านหยินซื้อมาถือว่าสมเหตุสมผลอยู่ เธอจึงไม่ได้ว่าอะไรต่อ"ไห่ถง"จ้านหยินรีบรั้งเธอเอาไว้ ก่อนที่เธอจะปิดประตูลงเป็นครั้งที่สอง"เรื่องพี่สาวไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก ถ้าเงินไม่พอก็ขอ
“เรื่องเล็กน่ะขี้เกียจเรียกประกัน จ้านหยิน ทำไมอยู่ ๆ มาถามเรื่องนี้?”จ้านหยินเงียบไปอึดใจ ก่อนบอกจะว่า "ผู้หญิงที่ขูดโดนรถนายเมื่อตอนกลางวันคือพี่สาวแท้ ๆ ของคนที่ช่วยชีวิตยายฉัน พวกเธอมีอยู่กันแค่สองพี่น้อง ผู้หญิงคนนั้นตอนนี้เป็นแม่บ้าน ไม่ได้ทำงาน พอเธอรู้ตัวว่าขูดโดนรถนาย ก็เครียดจนขนาดว่าจะต้องขายบ้านขายรถเพื่อเอาเงินมาชดใช้"ลู่ตงหมิงเอ่ย "...บังเอิญจังแฮะ ดันเป็นพี่สาวของผู้มีพระคุณของคุณยายของนายซะได้ ว่าแต่ไปรู้มาได้ยังไง?"จ้านหยินรีบปั้นน้ำเป็นตัว "ยายของฉันชอบผู้หญิงคนนั้นมาก ท่านชอบไปเที่ยวเล่นกับเธอบ่อย ๆ พอเห็นอีกฝ่ายท่าทางไม่ค่อยสู้ดี ยายฉันก็เลยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ผู้หญิงแซ่ไห่คนนั้นก็เลยเล่าให้ท่านฟัง""แซ่ไห่เหมือนกันจริง ๆ สินะ ผู้หญิงที่ขูดโดนรถฉันชื่อไห่หลิง ผู้มีพระคุณของคุณยายนายชื่ออะไรนะ?""ไห่ถง""แค่ฟังชื่อก็รู้เลยว่าเป็นพี่น้องกันชัวร์ ในเมื่อเป็นพี่สาวของคนที่ช่วยชีวิตคุณยายของนาย งั้นฉันก็จะไม่เอาความแล้วกัน เงินแค่นั้นฉันไม่ได้อยากได้อยู่แล้ว แค่ว่าในฐานะผู้เสียหาย ถ้าฉันทำใจป๋า ปล่อยผ่านไปเฉย ๆ เธอก็คงจะไม่ได้รับบทเรียน ดีไม่ดีคราวหน้าอาจจะไป
คืนนั้นไห่ถงนอนไม่หลับเพราะฝันทั้งคืน เพราะงั้นเช้าในวันต่อมาเธอจึงรู้สึกเหนื่อยล้ามากหญิงสาวทำกิจวัตรเช่นเดิมทุกวัน คือซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าที่ซื้อมาเมื่อคืนก่อนจะตากมันบนระเบียงจังหวะนั้นเองที่เธอเพิ่งสังเกตเห็นว่าตรงระเบียงมีบาร์สแตนเลสขนาดยาวที่ติดตั้งเอาไว้เพื่อให้เธอตากเสื้อผ้า อีกทั้งบริเวณระเบียงกว้าง ๆ นั้นยังเต็มไปด้วยกระถางดอกไม้หลากหลายชนิด โดยหลายกระถางนั้นได้ผลิดอกแล้ว และบางส่วนก็เตรียมจะบานในอีกไม่ช้า ทุกกระถางไม่ว่าจะเป็นดอกเล็กหรือใหญ่ ล้วนเป็นดอกไม้ชนิดที่กลีบหนาและทับซ้อนกันหลายชั้นกระถางดอกไม้เหล่านั้นดึงความสนใจของไห่ถงได้ในเสี้ยววินาทีหลังจากตากเสื้อผ้าเสร็จ เธอก็นำชั้นวางที่ซื้อมาเมื่อวานตอนเช้ามาประกอบจนเสร็จ จากนั้นก็ย้ายกระถางดอกไม้เหล่านั้นขึ้นมาวางบนชั้นหลังจากง่วนอยู่กับการขนย้ายอยู่พักหนึ่ง เธอก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังจ้องเธออยู่ ทันทีที่แหงนหน้าขึ้นไป ก็สบตาเข้ากับดวงตาสีดำลึกล้ำของจ้านหยิน สายตาของชายหนุ่มทั้งแหลมคมและเยือกเย็นดีที่แต่งงานกันมาได้หลายวัน เพราะแบบนั้นไห่ถงจึงเคยชินกับท่าทางเย็นชาของอีกฝ่ายแล้ว"อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณจ้าน"
"มีอะไรคะ คุณจ้าน?"ไห่ถงมองเขาจากด้านนอกระเบียงจ้านหยินเดินมายังระเบียงพร้อมกัดปาท่องโก๋ไปด้วย "เรื่องพี่สาวของคุณ เลิกกังวลได้แล้วล่ะ เพราะรถที่พี่คุณไปขูดโดนเป็นรถของลูกค้าคนสำคัญในบริษัทผมเอง เมื่อคืนนึกขึ้นได้ผมเลยติดต่อหาคุณลู่ เห็นเขาบอกว่าค่าซ่อมประมาณห้าหกหมื่นเท่านั้น"ถึงจะบอกว่าตอนนี้หญิงสาวแกล้งสนใจกับการจัดวางกระถางดอกไม้ แต่จ้านหยินก็ดูออกว่าสีหน้าท่าทางของเธอไม่ค่อยปกติ เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนคงจะนอนไม่หลับและสาเหตุเดียวก็คงเป็นเรื่องของพี่สาวไห่ถงเงยหน้ามองเขา เห็นอีกฝ่ายกัดปาท่องโก๋ด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ พลางก็คิดในใจว่าไม่เลือกกินแบบนี้ ค่อยเลี้ยงง่ายหน่อย พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า "คุณแน่ใจได้ยังไงว่าเป็นรถของลูกค้าคุณ?"ขนาดพี่สาวของเธอยังไม่รู้ชื่อแซ่ของเจ้าของรถด้วยซ้ำ รู้แค่ว่าอีกฝ่ายเป็นคนใหญ่คนโต มีรอยแผลเป็นน่ากลัวบนหน้า ซึ่งหยางหยางก็กลัวผู้ชายคนนั้นมาก"เมื่อวานนี้ตอนกลางวันคุณลู่มาที่บริษัท แล้วผมก็เป็นคนออกไปรับ ตอนนั้นเห็นรถของเขามีรอยขูดผมเลยถามไถ่ไปหน่อย คุณลู่บอกว่าเป็นผู้หญิงเข็นรถเข็นเด็กมาขูดโดนน่ะ""แล้วเมื่อคืนตอนที่คุณเล่าให้ผมฟัง ผมก็มานั่งคิด
น้องเขยกลับช่วยสอบถามให้ เดาว่าน่าจะไปขอความเห็นใจจากคุณลู่ด้วย คุณลู่ถึงได้ผ่อนปรนค่าเสียหายให้เธอแน่นอนว่า เงินจำนวนสี่ห้าหมื่นสำหรับเธอตอนนี้มันเป็นเงินก้อนใหญ่ แต่ก็คิดซะว่าจ่ายสำหรับบทเรียนราคาแพงไปแล้วกัน ต่อจากนี้ออกไปข้างนอกก็ต้องระวังให้มาก อย่าได้เที่ยวไปเฉียดรถหรูหราหมาเห่าแบบนั้นอีกเด็ดขาด!"สามีเธอใกล้จะกลับมาแล้วใช่ไหม?""ค่ะ พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว""งั้นก็ดี มะรืนพี่จะไปกับพี่เขย เธอจะทำอาหารเองใช่ไหม? เดี๋ยวพี่ไปช่วย"ไห่หลิงใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาวแค่สองคนมาตลอดหลายปี แน่นอนว่าเรื่องงานครัวเป็นอะไรที่ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปากสำหรับเธอ เพียงแต่ตอนนี้เธอกำลังมีลูกเล็กเด็กแดง ไหนจะไม่มีรายได้เหมือนเมื่อก่อนอีก เธอจึงได้แต่อยู่บ้านทำหน้าที่เป็นแม่ศรีเรือนตามคำสั่งของสามีสองพี่น้องพูดคุยสัพเพเหระกันอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะวางสายไป"คุณจ้าน คุณต้องอยู่ทำงานดึกทุกวันเลยหรอคะ?""มีอะไรหรือเปล่าครับ?""อีกไม่กี่วันก็วันหยุดสุดสัปดาห์แล้ว คุณย่ากับคุณพ่อคุณแม่คุณจะมาทานข้าวที่บ้าน แล้วบ้านเราก็โล่งโจ้งมาก ๆ ฉันเลยคิดว่าวันสองวันนี้เราออกไปดูเฟอร์นิเจอร์กันไหมคะ ซื้ออะไรที่จำเป็
เมื่อคืนนี้ ไห่ถงตั้งใจรอจ้านหยินกลับบ้านจนถึงเที่ยงคืน และตกปากรับคำเรียบร้อยว่าเช้าวันเสาร์จะไปซื้อวัตถุดิบที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วยกัน เมื่อคืนวานไห่ถงโทรศัพท์หาคุณยายจ้าน จึงรู้ว่าวันนี้ครอบครัวฝั่งสามีจะมากันหลายคน อาจต้องเตรียมโต๊ะไว้สองถึงสามโต๊ะ เพราะบรรดาน้องชายของจ้านหยินก็จะแห่กันมาด้วยคุณยายจ้านจะสื่อว่า เธอกับจ้านหยินจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ก็หมายถึงเธอได้กลายเป็นสะใภ้ของตระกูลจ้านอย่างเต็มตัว นอกจากจะต้องพบญาติผู้ใหญ่ ก็ต้องให้คนรุ่นเดียวกันมาทักทายพี่สะใภ้ใหญ่ด้วย ไม่ใช่ว่าไปเจอกันข้างนอกแล้วไม่รู้ว่าใครเป็นใครเพราะวัตถุดิบที่ต้องไปซื้อวันนี้เยอะมาก ๆ ขืนไปคนเดียวก็กลัวจะหิ้วกลับมาไม่ไหว เธอจึงเรียกให้จ้านหยินขับรถไปด้วย แบบนั้นต่อให้เหมาหมดห้างก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหิ้วไม่ไหวเหตุการณ์ราวกับเดจาวู เป็นเวลาหกโมงเช้า ที่จ้านหยินสะดุ้งตื่นเพราะเสียงสายเรียกเข้าของไห่ถงจ้านหยินที่อารมณ์คุกรุ่นเป็นอย่างมาก ทำได้แค่อดทนแล้วอดทนเล่าจนแทบจะกลายเป็นพระจำศีล ไม่โวยวายใส่ไห่ถง"คุณจ้านคะ"น้ำเสียงของไห่ถงเย็นสนใส ทำให้เขารู้สึกสบายหูจ้านหยินบีบนวดหว่างคิ้ว เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น "
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้