จ้านหยินเงียบไปคนที่ขูดโดนรถของลู่ตงหมิงเมื่อตอนกลางวันเห็นทีจะเป็นพี่ภรรยาที่เขาไม่เคยเห็นหน้าค่าตาโดยแน่แท้"คุณจ้าน นี่ก็ดึกมากแล้ว ฉันขอตัวเข้าห้องไปนอนก่อนนะคะ"แม้จะเป็นฝ่ายปลอบใจพี่สาว แต่ถึงยังไงซะตัวเองก็ไม่ได้รู้ชะตากรรมที่แน่ชัด เพราะแบบนั้นลึก ๆ แล้วไห่ถงก็รู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อยเธอเอ่ยกับจ้านหยินสั้น ๆ ก่อนจะเข้าห้องไปจ้านหยินอ้าปากราวกับอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หญิงสาวเข้าห้องไปแล้วดอกไม้ที่อยู่บนระเบียงพวกนั้น... พรุ่งนี้เช้าเมื่อเธอตื่นมาเห็นก็คงจะจัดแจงเองนั่นแหละแต่จ้านหยินรู้สึกแปลก ๆ ภายในใจ มันเหมือนกับเขาอุตส่าห์ทำความดีแล้วก็หวังว่าจะได้รับคำชมจากเธอสักหน่อย"คุณจ้าน"ประตูห้องเปิดออกอีกครั้ง ไห่ถงยืนอยู่ตรงบานประตู เธอถามเขา "คุณซื้อเครื่องซักผ้ามาเหรอคะ? เท่าไรน่ะ?""สองเครื่องก็สามหมื่นห้าพันบาท"ไห่ถงเทียบราคากับเครื่องในบ้านของพี่สาว รู้สึกว่าราคาเครื่องซักผ้าที่จ้านหยินซื้อมาถือว่าสมเหตุสมผลอยู่ เธอจึงไม่ได้ว่าอะไรต่อ"ไห่ถง"จ้านหยินรีบรั้งเธอเอาไว้ ก่อนที่เธอจะปิดประตูลงเป็นครั้งที่สอง"เรื่องพี่สาวไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก ถ้าเงินไม่พอก็ขอ
“เรื่องเล็กน่ะขี้เกียจเรียกประกัน จ้านหยิน ทำไมอยู่ ๆ มาถามเรื่องนี้?”จ้านหยินเงียบไปอึดใจ ก่อนบอกจะว่า "ผู้หญิงที่ขูดโดนรถนายเมื่อตอนกลางวันคือพี่สาวแท้ ๆ ของคนที่ช่วยชีวิตยายฉัน พวกเธอมีอยู่กันแค่สองพี่น้อง ผู้หญิงคนนั้นตอนนี้เป็นแม่บ้าน ไม่ได้ทำงาน พอเธอรู้ตัวว่าขูดโดนรถนาย ก็เครียดจนขนาดว่าจะต้องขายบ้านขายรถเพื่อเอาเงินมาชดใช้"ลู่ตงหมิงเอ่ย "...บังเอิญจังแฮะ ดันเป็นพี่สาวของผู้มีพระคุณของคุณยายของนายซะได้ ว่าแต่ไปรู้มาได้ยังไง?"จ้านหยินรีบปั้นน้ำเป็นตัว "ยายของฉันชอบผู้หญิงคนนั้นมาก ท่านชอบไปเที่ยวเล่นกับเธอบ่อย ๆ พอเห็นอีกฝ่ายท่าทางไม่ค่อยสู้ดี ยายฉันก็เลยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ผู้หญิงแซ่ไห่คนนั้นก็เลยเล่าให้ท่านฟัง""แซ่ไห่เหมือนกันจริง ๆ สินะ ผู้หญิงที่ขูดโดนรถฉันชื่อไห่หลิง ผู้มีพระคุณของคุณยายนายชื่ออะไรนะ?""ไห่ถง""แค่ฟังชื่อก็รู้เลยว่าเป็นพี่น้องกันชัวร์ ในเมื่อเป็นพี่สาวของคนที่ช่วยชีวิตคุณยายของนาย งั้นฉันก็จะไม่เอาความแล้วกัน เงินแค่นั้นฉันไม่ได้อยากได้อยู่แล้ว แค่ว่าในฐานะผู้เสียหาย ถ้าฉันทำใจป๋า ปล่อยผ่านไปเฉย ๆ เธอก็คงจะไม่ได้รับบทเรียน ดีไม่ดีคราวหน้าอาจจะไป
คืนนั้นไห่ถงนอนไม่หลับเพราะฝันทั้งคืน เพราะงั้นเช้าในวันต่อมาเธอจึงรู้สึกเหนื่อยล้ามากหญิงสาวทำกิจวัตรเช่นเดิมทุกวัน คือซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าที่ซื้อมาเมื่อคืนก่อนจะตากมันบนระเบียงจังหวะนั้นเองที่เธอเพิ่งสังเกตเห็นว่าตรงระเบียงมีบาร์สแตนเลสขนาดยาวที่ติดตั้งเอาไว้เพื่อให้เธอตากเสื้อผ้า อีกทั้งบริเวณระเบียงกว้าง ๆ นั้นยังเต็มไปด้วยกระถางดอกไม้หลากหลายชนิด โดยหลายกระถางนั้นได้ผลิดอกแล้ว และบางส่วนก็เตรียมจะบานในอีกไม่ช้า ทุกกระถางไม่ว่าจะเป็นดอกเล็กหรือใหญ่ ล้วนเป็นดอกไม้ชนิดที่กลีบหนาและทับซ้อนกันหลายชั้นกระถางดอกไม้เหล่านั้นดึงความสนใจของไห่ถงได้ในเสี้ยววินาทีหลังจากตากเสื้อผ้าเสร็จ เธอก็นำชั้นวางที่ซื้อมาเมื่อวานตอนเช้ามาประกอบจนเสร็จ จากนั้นก็ย้ายกระถางดอกไม้เหล่านั้นขึ้นมาวางบนชั้นหลังจากง่วนอยู่กับการขนย้ายอยู่พักหนึ่ง เธอก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังจ้องเธออยู่ ทันทีที่แหงนหน้าขึ้นไป ก็สบตาเข้ากับดวงตาสีดำลึกล้ำของจ้านหยิน สายตาของชายหนุ่มทั้งแหลมคมและเยือกเย็นดีที่แต่งงานกันมาได้หลายวัน เพราะแบบนั้นไห่ถงจึงเคยชินกับท่าทางเย็นชาของอีกฝ่ายแล้ว"อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณจ้าน"
"มีอะไรคะ คุณจ้าน?"ไห่ถงมองเขาจากด้านนอกระเบียงจ้านหยินเดินมายังระเบียงพร้อมกัดปาท่องโก๋ไปด้วย "เรื่องพี่สาวของคุณ เลิกกังวลได้แล้วล่ะ เพราะรถที่พี่คุณไปขูดโดนเป็นรถของลูกค้าคนสำคัญในบริษัทผมเอง เมื่อคืนนึกขึ้นได้ผมเลยติดต่อหาคุณลู่ เห็นเขาบอกว่าค่าซ่อมประมาณห้าหกหมื่นเท่านั้น"ถึงจะบอกว่าตอนนี้หญิงสาวแกล้งสนใจกับการจัดวางกระถางดอกไม้ แต่จ้านหยินก็ดูออกว่าสีหน้าท่าทางของเธอไม่ค่อยปกติ เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนคงจะนอนไม่หลับและสาเหตุเดียวก็คงเป็นเรื่องของพี่สาวไห่ถงเงยหน้ามองเขา เห็นอีกฝ่ายกัดปาท่องโก๋ด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ พลางก็คิดในใจว่าไม่เลือกกินแบบนี้ ค่อยเลี้ยงง่ายหน่อย พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า "คุณแน่ใจได้ยังไงว่าเป็นรถของลูกค้าคุณ?"ขนาดพี่สาวของเธอยังไม่รู้ชื่อแซ่ของเจ้าของรถด้วยซ้ำ รู้แค่ว่าอีกฝ่ายเป็นคนใหญ่คนโต มีรอยแผลเป็นน่ากลัวบนหน้า ซึ่งหยางหยางก็กลัวผู้ชายคนนั้นมาก"เมื่อวานนี้ตอนกลางวันคุณลู่มาที่บริษัท แล้วผมก็เป็นคนออกไปรับ ตอนนั้นเห็นรถของเขามีรอยขูดผมเลยถามไถ่ไปหน่อย คุณลู่บอกว่าเป็นผู้หญิงเข็นรถเข็นเด็กมาขูดโดนน่ะ""แล้วเมื่อคืนตอนที่คุณเล่าให้ผมฟัง ผมก็มานั่งคิด
น้องเขยกลับช่วยสอบถามให้ เดาว่าน่าจะไปขอความเห็นใจจากคุณลู่ด้วย คุณลู่ถึงได้ผ่อนปรนค่าเสียหายให้เธอแน่นอนว่า เงินจำนวนสี่ห้าหมื่นสำหรับเธอตอนนี้มันเป็นเงินก้อนใหญ่ แต่ก็คิดซะว่าจ่ายสำหรับบทเรียนราคาแพงไปแล้วกัน ต่อจากนี้ออกไปข้างนอกก็ต้องระวังให้มาก อย่าได้เที่ยวไปเฉียดรถหรูหราหมาเห่าแบบนั้นอีกเด็ดขาด!"สามีเธอใกล้จะกลับมาแล้วใช่ไหม?""ค่ะ พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว""งั้นก็ดี มะรืนพี่จะไปกับพี่เขย เธอจะทำอาหารเองใช่ไหม? เดี๋ยวพี่ไปช่วย"ไห่หลิงใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาวแค่สองคนมาตลอดหลายปี แน่นอนว่าเรื่องงานครัวเป็นอะไรที่ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปากสำหรับเธอ เพียงแต่ตอนนี้เธอกำลังมีลูกเล็กเด็กแดง ไหนจะไม่มีรายได้เหมือนเมื่อก่อนอีก เธอจึงได้แต่อยู่บ้านทำหน้าที่เป็นแม่ศรีเรือนตามคำสั่งของสามีสองพี่น้องพูดคุยสัพเพเหระกันอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะวางสายไป"คุณจ้าน คุณต้องอยู่ทำงานดึกทุกวันเลยหรอคะ?""มีอะไรหรือเปล่าครับ?""อีกไม่กี่วันก็วันหยุดสุดสัปดาห์แล้ว คุณย่ากับคุณพ่อคุณแม่คุณจะมาทานข้าวที่บ้าน แล้วบ้านเราก็โล่งโจ้งมาก ๆ ฉันเลยคิดว่าวันสองวันนี้เราออกไปดูเฟอร์นิเจอร์กันไหมคะ ซื้ออะไรที่จำเป็
เมื่อคืนนี้ ไห่ถงตั้งใจรอจ้านหยินกลับบ้านจนถึงเที่ยงคืน และตกปากรับคำเรียบร้อยว่าเช้าวันเสาร์จะไปซื้อวัตถุดิบที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วยกัน เมื่อคืนวานไห่ถงโทรศัพท์หาคุณยายจ้าน จึงรู้ว่าวันนี้ครอบครัวฝั่งสามีจะมากันหลายคน อาจต้องเตรียมโต๊ะไว้สองถึงสามโต๊ะ เพราะบรรดาน้องชายของจ้านหยินก็จะแห่กันมาด้วยคุณยายจ้านจะสื่อว่า เธอกับจ้านหยินจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ก็หมายถึงเธอได้กลายเป็นสะใภ้ของตระกูลจ้านอย่างเต็มตัว นอกจากจะต้องพบญาติผู้ใหญ่ ก็ต้องให้คนรุ่นเดียวกันมาทักทายพี่สะใภ้ใหญ่ด้วย ไม่ใช่ว่าไปเจอกันข้างนอกแล้วไม่รู้ว่าใครเป็นใครเพราะวัตถุดิบที่ต้องไปซื้อวันนี้เยอะมาก ๆ ขืนไปคนเดียวก็กลัวจะหิ้วกลับมาไม่ไหว เธอจึงเรียกให้จ้านหยินขับรถไปด้วย แบบนั้นต่อให้เหมาหมดห้างก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหิ้วไม่ไหวเหตุการณ์ราวกับเดจาวู เป็นเวลาหกโมงเช้า ที่จ้านหยินสะดุ้งตื่นเพราะเสียงสายเรียกเข้าของไห่ถงจ้านหยินที่อารมณ์คุกรุ่นเป็นอย่างมาก ทำได้แค่อดทนแล้วอดทนเล่าจนแทบจะกลายเป็นพระจำศีล ไม่โวยวายใส่ไห่ถง"คุณจ้านคะ"น้ำเสียงของไห่ถงเย็นสนใส ทำให้เขารู้สึกสบายหูจ้านหยินบีบนวดหว่างคิ้ว เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น "
เดินช้อปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตอยู่สองชั่วโมงจึงกลับบ้านจ้านหยินเคยชินกับการมีรถหรูคอยรับส่ง และแม้ว่าปกติเขาจะออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ทั้งฝึกมวยและกังฟู แต่การไปเดินซื้อของกับไห่ถงเพียงสองชั่วโมง ไหนจะต้องทำหน้าที่หิ้ววัตถุดิบ นี่ก็เล่นทำเอาเขาเหนื่อยไม่น้อยเขายอมเซ็นเอกสารเป็นพันเล่ม หรือนั่งประชุมแบบไม่มีวันสิ้นสุดเสียยังดีกว่ามาช้อปปิ้งกับผู้หญิงเมื่อจอดรถเสร็จ ไห่ถงยังไม่ทันลงจากรถสายเรียกเข้าจากคุณยายจ้านก็ดังขึ้นจนต้องกดรับ"ไห่ถง อยู่บ้านกันไหมลูก? ตอนนี้พวกเราถึงหน้าบ้านกันแล้ว"ไห่ถงเผยรอยยิ้ม "คุณยาย พวกหนูเพิ่งกลับมาจากซุปเปอร์มาเก็ตค่ะ คุณยายรอแป๊บนึงนะคะ เดี๋ยวพวกหนูเดินไปรับค่ะ""หนูกับอาจ้านไปซุปเปอร์มาเก็ตงั้นหรอ?"คุณยายจ้านฟังด้วยความร่าเริง พลางก็คิดว่าหลานชายคนโตผู้แสนเย็นและเย่อหยิ่ง ถึงขั้นยอมลดความโอหังแล้วไปซุปเปอร์มาเก็ตกับไห่ถงเนี่ยนะให้หลานชายตัวดีแสร้งทำเป็นคนยากจน ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้หัดใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาบ้าง"ค่ะ ไปซื้อของสำหรับใช้ทำอาหารน่ะค่ะ""ปกติอาจ้านก็เอาแต่ทำงาน โตจนป่านนี้ยังไม่เคยไปเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตเลย หนูพาไปก็ถูกต้องแล้ว ไห่ถง
จิตนาการภาพนั้นไม่ออกเลยจริง ๆ"ทุกคนพึงระลึกเอาไว้ให้ดี ห้ามเปิดเผยสถานะที่แท้จริงเด็ดขาด อย่าลืมว่าไห่ถงไม่รู้ ลูกชาย อีกเดี๋ยวแกสองสามีภรรยาก็บอกไปว่าไม่มีเงินบำนาญ อาศัยปลูกผักปลูกหญ้าขาย หาเงินประทังชีวิตแบบนี้แล้วกัน""ก่อนมากรับปากกันดิบดี จำเอาไว้ซะ ขืนโป๊ะกันขึ้นมา อาจ้านคิดบัญชีกับพวกแก ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกนะ"ตอนนี้คุณยายจ้านรู้สึกว่าการที่หลานชายคนโตเดินหมากมาถึงจุดนี้นับว่าสนุกมากจริง ๆ เพราะงั้นหญิงชราจึงเลือกที่จะเล่นละครตามหลายชายตัวดีต่อไปหญิงชรายังยืนยันนอนยันว่าไห่ถงเป็นผู้หญิงที่ดีคนนึง ไม่ใช่คนที่จะหวังปอกลอกเงินทองแน่นอน เธออายุจนปูนนี้แล้ว ไม่มีทางดูคนพลาด"ครับ"ทุกคนตกปากรับคำ สำหรับพวกเขาแล้วไห่ถงไม่นับว่าเป็นคนแปลกหน้า เพราะถึงยังไงไห่ถงก็เคยช่วยชีวิตคุณยายจ้านเอาไว้ ตอนนั้นคนที่ขอบคุณไห่ถงก็ยังเป็นลูกชายกับสะใภ้คนโตของคุณยายจ้านด้วยซ้ำแม่ของจ้านหยินไม่ค่อยหืออืออะไร แน่นอนว่าหล่อนไม่สนับสนุนให้ลูกชายคนโตแต่งงานกับไห่ถง แต่ในเมื่อคุณยายจ้านสามารถพูดให้คนเย่อหยิ่งอย่างลูกชายหล่อนยอมโอนอ่อนได้ หล่อนก็คงไม่มีปัญญาอะไรจะไปห้ามเรื่องที่ไห่ถงช่วยคุณยา