ไห่หลิงหัวเราะเยาะเย้ย “เขาไม่ได้ยืนกรานในระบบ AA หรอกเหรอ ฉันแค่ทำตามที่เขาพูด พอเขาโกรธก็สามารถลงไม้ลงมือกับฉัน ถ้าพวกคุณเห็นเขาแล้วใจสลายแบบนี้ พวกคุณไม่เห็นเหรอว่าฉันถูกเขาทุบตี?”“ลูกชายของคุณถูกเลี้ยงดูมาโดยพ่อแม่ ฉันไม่มีพ่อแม่ค่อยอบรมสั่งสอน? ใช่ไง พ่อแม่ของฉันก็ตายไปแล้ว และถึงแม้ว่าฉันจะเป็นเด็กไม่มีพ่อแม่ แต่ฉันก็ไม่ยอมให้คุณรังแกและทุบตีฉัน”“จะเข้ามาทีละคนหรือจะมาพร้อมกัน? เชิญเข้ามาเลย วันนี้ฉันจะทิ้งคำหยาบคายไว้ที่นี่ ฉันไม่อยากยุ่งกับพวกคุณอีกต่อไป แค่พูดว่า อย่าใช้ความรุนแรงในครอบครัว ฉันไม่ใช่คนที่ถูกรังแกง่ายๆ! ถ้าพวกคุณกล้ารังแกฉันและทุบตีฉัน แม้ว่าฉันจะตายฉันก็จะฉุดกระชากครอบครัวของคุณให้ตายตามกันไปด้วย!'"“โจวหงหลิน ฉันเคยบอกไปแล้วว่า ถ้าแกกล้าทุบตีฉัน เว้นแต่แกจะฆ่าฉันทันที อย่าเผลอหลับไป เพราะฉันจะสับแกเป็นเนื้อบด!”ไห่หลิงจ้องตาขวางให้ครอบครัวของสามีหากพวกเขากล้าเข้ามาพร้อมกัน เธอก็จะตายไปพร้อมกับพวกเขา!ครอบครัวของโจว: "..."“ปากร้าย ปากร้าย ไร้เหตุผล!”พ่อโจวด่าไห่หลิงสองสามคำก่อนจะพูดกับลูกชายว่า "หงหลิน กลับบ้านกับพ่อแม่กันเถอะ"วันนี้โจวหงหลินก็ก
โจวหงหลินเห็นว่าครอบครัวของเขารู้เรื่องนี้และไม่ได้ตำหนิอะไร เขาพูดว่า "หลังจากคลอดลูก ตัวของไห่หลิงก็อ้วนขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่ชอบเธออีกต่อไปแล้ว เจียนีเป็นคนที่เข้าอกเข้าใจ ยังเด็กและสวย ผมคิดว่าผมรักเธอจริงๆ"แม่โจวพูดตรงไปตรงมาว่า "สิ่งที่คนอื่นให้คุณค่าคือสถานะและรายได้ของแก หากแกยังเป็นเพียงพนักงานธรรมดาๆ เหมือนเมื่อก่อน ใครจะให้ความสำคัญกับแก"“แม้ว่าไห่หลิงจะค่อนข้างแข็งแกร่งและทุบตีแกแบบนี้ พูดตามตรง เธอแต่งงานกับแกมาหลายปีแล้ว ดูแลแกเป็นอย่างดี และเก็บกวาดบ้านได้ดีมาก เธออดทนต่อความยากลำบาก รู้วิธีการใช้ชีวิตและจัดการบ้าน แกเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนั้น แต่เธอก็ดูไม่ดีเท่าไห่หลิง”แม้ว่าแม่โจวจะชอบลูกชายของเธอ แต่สำหรับการประเมินไห่หลิงของเธอก็ยุติธรรมเช่นกัน“เมื่อแกแต่งงานแกควรแต่งงานกับคนมีคุณธรรม หงหลินเมื่อแกออกไปเล่นนอกบ้าน แม่จะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แต่ถ้าแกอยากแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น แกต้องระวังเพื่อไม่ให้เสียใจในอนาคต"มีกี่คนแล้วที่ละทิ้งคู่ครองคนเดิมและแต่งงานกับคู่รักของตน แต่พวกเขาไม่ได้ทำตามความปรารถนาของตนความจริงแล้ว แม่โจวพอใจกับสถานการณ์ปัจจุบันของลูกชายมาก แต่เ
“รบกสนเธอแล้วล่ะ”เซินเสี่ยวจวินยิ้มและพูดว่า "ทำไมเราถึงสุภาพกันขนาดนี้ เมื่อก่อนเธอเป็นคนปิดร้าน และฉันคิดว่าเอาเปรียบเธอซะอีก ตอนนี้เราเสมอกันแล้วนะ ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้น"ไห่ถงก็ไม่ได้เกรงใจอะไรกับเพื่อนรักเช่นกัน เธอหยิบเสื้อผ้าที่ซื้อมาบอกลาเพื่อนแล้วเดินออกจากร้านหนังสือ เธอเปิดประตูรถและวางเสื้อผ้าบนที่นั่งผู้โดยสารแล้วพูดกับจ้านหยินว่า "คุณกลับบ้านก่อน แล้วฉันจะขี่จักรยานไปตลาดเพื่อซื้อของชำ ถ้าคุณรู้วิธีซาวข้าวและหุงข้าว คุณก็ซาวข้าวและหุงข้าว ถ้าไม่รู้ ก็รอจนกว่าฉันจะซื้อของเสร็จ แล้วกลับไปค่ะ”จ้านหยินเหลือบมองจักรยานไฟฟ้าของเธอแล้วพูดว่า "รถคันใหม่ของเธออยู่ที่ไหน?"“ฉันออกมาสาย เพราะกลัวรถติดจึงขี่จักรยานไฟฟ้ามาค่ะ”ไห่ถงสวมหมวกกันน็อคแล้วพูดว่า "ฉันไปก่อนนะคะ"โดยไม่รอให้จ้านหยินพูดอีกต่อ เธอก็ขี่จักรยานไฟฟ้าแล้วจากไปจ้านหยิน "..."บางครั้งเธอก็แสดงท่าทีมีชีวิตชีวา ซึ่งขัดกับความสุขุมของเขาเมื่อมองดูเสื้อผ้าบนที่นั่งผู้โดยสารอีกครั้ง จ้านหยินก็หยิบมันขึ้นมาและพลิกดูและพบว่ามันเป็นเสื้อผ้าของผู้ชาย เขาขมวดคิ้วและถาม “เธอซื้อเสื้อผ้าให้คนป่าที่ไหนกัน?”หลังจ
หลังจากที่เซินเสี่ยวจวินพูดออกมา เขาก็มองไปที่ลูกพี่ลูกน้องด้วยความสงสัยและถามว่า "เหนียนเซิง นายกำลังถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?"จางเหนียนเซิงไม่เคยยอมรับว่าเขามีใจให้ไห่ถงและหวังว่าเธอจะหย่าร้าง เขาโกหกและพูดว่า "ผมแค่เป็นห่วงและห่วงใยพี่ไห่ถง ไม่มีเจตนาอื่นใด พี่ไห่ถงนั้นเก่งกาจมาก ถ้าสามีไม่ชอบเธอ ก็หย่าเร็วๆจะดีกว่า ถ้าได้เจอผู้ชายคนอื่นที่เข้าใจชื่นชมเธอ จะมีชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน”“ใช่แล้ว ไห่ถงเป็นคนดีมาก ฉันเชื่อว่าคุณจ้านจะหลงรักไห่ถง บางทีเขาอาจจะถูกดึงดูดมากกว่าไห่ถง”เซินเสี่ยวจวินรอคอยวันที่เพื่อนจะมีความสุขขึ้นเรื่อยๆหัวใจของจางเหนียนเซิงนั้นอึดอัดไม่สามารถบอกลูกพี่ลูกน้องได้ว่าเขาหลงรักไห่ถงกลัวลูกพี่ลูกน้องบอกคุณแม่ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาอายุน้อยกว่าพี่ไห่ถงเล็กน้อย แต่พี่ไห่ถงแต่งงานแล้ว แม้ว่าเธอจะหย่าร้าง และคุณแม่ของเขาจะไม่ยอมรับพี่ไห่ถงเพื่อที่จะมั่นใจอย่างเต็มที่ จางเหนียนเซิงก็ระมัดระวังอย่างมากที่จะซ่อนความรู้สึกของตัวเองและไม่กล้าให้คนอื่นรู้พระอาทิตย์อัสดงตกลงสู่ทะเล และตาข่ายท้องฟ้าสีดำก็ตกลงบนพื้นโลกอย่างช้า และราตรีก็มาถึงอย่างเงียบๆหมิงหยวนฮว
จ้านหยินรู้สึกหดหู่เล็กน้อย แต่ในอีกความคิด น้องสองแนำนำงานฝีมือของไห่ถง และไห่ถงก็มีรายได้เสริม ตอนนี้ไห่ถงเป็นภรรยาของเขา แสดงว่าเรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน อารมณ์หดหู่ของจ้านหยินก็ดีขึ้นเมื่อไห่ถงทำอาหารเสร็จแล้ว เธอก็หยิบจานทั้งหมดออกมาและวางไว้บนโต๊ะอาหารทั้งคู่นั่งลงและทานอาหารเย็นด้วยกันจ้านหยินอารมณ์ดีและกินค่อนข้างดีต้องชมไห่ถงทักษะการทำอาหารของเธอดีมาก เขารู้สึกอร่อยมากหลังอาหารเย็น เมื่อล้างจานไห่ถงก็หยิบถุงที่บรรจุเสื้อผ้ามาจากโซฟา หยิบออกจากถุง ยื่นให้จ้านหยิน แล้วพูดว่า "คุณจ้าน คุณช่วยลองเสื้อผ้าสองชุดนี้หน่อยว่าพอดีไหม?"“คุณช่วยฉันไว้มาก แค่เลี้ยงข้าวเย็นให้คุณ ฉันคิดว่ามันยังไม่เพียงพอ ก็เลยซื้อเสื้อผ้าใหม่สองชุด และเนคไทสีดำสองชิ้นที่คุณชอบ”จ้านหยินเดามานานแล้วว่าเป็นเสื้อผ้าของเขา แต่เขาพยายามทำเฉย เขาหยิบเสื้อผ้าแล้วพลิกดูและถามเธอว่า "คุณรู้ได้อย่างไรว่าผมใส่ไซส์อะไร?"“ถามคุณยายมาค่ะ”จ้านหยินเงียบไป“ลองใส่ดูไหมคะ?”“ไม่จำเป็น ผมว่าใส่ได้”เธอมักจะเลือกสีที่เขาชอบซื้อมา“ครั้งต่อไปที่คุณซื้อของให้ฉัน หากคุณไม่แน่ใจก็ถามผมได้เลย”อย่าไปถามคุณยาย
มีคนเดินอยู่ในหมู่บ้านเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นพ่อแม่ จูงลูก และยังมีคู่หนุ่มสาวจับมือกันแสดงความสนิทสนมกันทั้งคู่ยังคงเดินไหล่ชิดไหล่กันเมื่อเห็นความใกล้ชิดของผู้อื่น และทั้งคู่ก็ไม่กล้าที่จะยื่นมือออกไปอย่างไรก็ตามอัตราการหันกลับมามองคู่สามีภรรยาสองคนนี้ นั้นสูงเป็นพิเศษ เพราะผู้ชายหล่อและผู้หญิงสวยในที่สุด ไห่ถงก็หยุดที่สนามเด็กเล่นในหมู่บ้านและพูดกับชายที่อยู่ข้างๆ เขาว่า "มานั่งดูเด็กๆ กันที่นี่ดีกว่า"เธอชอบเด็กมากเธอรักหลานชายโจวหยางจ้านหยินยังคงเงียบและเดินตามเธอไปบนม้านั่งหินอย่างเงียบ ๆ“ถ้ามีหยางหยางอยู่ด้วย เขาคงจะมีช่วงเวลาที่ดีอย่างแน่นอน”จ้านหยินตอบแค่อืมไห่ถงหันศีรษะไปมองเขา จ้านหยินรู้สึกงงเล็กน้อยเมื่อเธอมองเขาแบบนี้ แต่เธอก็ถามเธออย่างตั้งรับว่า "คุณมองฉันแบบนี้ทำไม?"“ดูรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหลาของคุณสิ มองอีกสองครั้งก็น่ามอง”จ้านหยิน "..."“คุณจ้านหน้าตาดีและเก่งมาก บ่งบอกว่ายีนของคุณดีมาก หากคุณมีลูกในอนาคต คุณจะต้องเก่งและฉลาดอย่างแน่นอน”“คุณอยากมีลูกกับฉันไหม”ไห่ถงยิ้มและพูดว่า "คุณยายมักจะแนะนำให้ฉันผลักคุณลงและให้หลานสาวของเธอกอด"เมื่อได้ยิ
จ้านหยิน "..."เขาไม่รู้จะคุยกับเธอเรื่องอะไรจริงๆคู่รักหนุ่มสาวรอบข้างที่เพิ่งแต่งงานใหม่หวานดั่งน้ำผึ้งเดินเคียงข้างกันอย่างแน่นแฟ้น คู่รักที่มีลูกมักจะให้ความสำคัญกับลูกมากกว่าและมีเรื่องให้พูดคุยกันมากกว่าต่างจากพวกเขาที่ไม่มีทั้งความรู้สึกและลูกเลย การพูดคุยเป็นเรื่องยากมากเมื่อเห็นจ้านหยินพร้อมด้วยสีหน้าตะกุกตะกัก ไห่ถงก็ยิ้มและยืนขึ้น เธอดึงจ้านหยินขึ้นมาทันทีแล้วพูดว่า "ไปเถอะ กลับไปเถอะ จะได้ไม่รู้สึกอึดอัดไปซะทั้งหมด เหมือนฉันจะพุ่งเข้าหาคุณทุกเมื่อ"“ไห่ถง คุณเป็นผู้หญิงนะ!”“เป็นผู้หญิงแล้วจะเป็นอะไรไป? พูดไปก็ไม่ทำให้มีทองงอกออกมา”ไห่ถงดึงเขาออกไป เพียงดึงชายเสื้อและไม่สัมผัสมือของเขา กลัวว่าเขาจะล้างมือหลายร้อยครั้งเมื่อเขากลับถึงบ้าน“คุณไม่ได้ดูการค้นหาที่ร้อนแรงเมื่อไม่กี่วันก่อน มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับนายน้อยจ้านและลูกสาวของตระกูลซาง คุณหนูซางชอบนายน้อยจ้านดังนั้นเธอจึงสารภาพกับเขาและติดตามเขาอย่างเปิดเผย ผู้ชายจะไล่ตามผู้หญิงที่พวกเขาชอบ และผู้หญิงจะไล่ตามผู้ชายที่ตนชอบ ทั้งหมดเพื่อไล่ตามรักแท้""ฉันประทับใจคุณหนูซางมาก และเธอก็ช่วยฉันโดยอ้อม แม้ว่าเธอจะไ
ไห่ถง: "... ไม่ว่าจะอยู่ในบริษทัเล็กหรือใหญ่ โอกาสที่จะเห็นเจ้านายนั้นก็น้อยมาก เจ้านายของพวกคุณเป็นคนจริง... อืม สูงส่งและลึกลับด้วย"ไม่มีรูปถ่ายของนายน้อยจ้านในอินเตอร์เน็ตเลยนายน้อยจ้านมีบอดี้การ์ดคอยติดตามเขาทั้งเข้าและออก ครั้งล่าสุดในงานเลี้ยงมีบอดี้การ์ดมากเกินไป และผู้คุ้มกันนั้นทั้งสูงและสง่า เธอและเพื่อนเขย่งเท้าจนสุดเท้า ก็ไม่เห็นว่านายน้อยจ้านหน้าตาเป็นอย่างไรเมื่อคิดว่าจ้านหยินทำงานที่จ้านซื่อกรุ๊ปและยังคงเป็นพนักงานธรรมดา ดังนั้นจึงแทบไม่ได้พบเห็นนายน้อยจ้านเลย ความสมดุลทางจิตใจของไห่ถงก็กลับมาจ้านหยินไม่พูดอะไรต่อเขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะประเมินเขาอย่างไร เขามักจะทำสิ่งต่าง ๆ ตามความต้องการของเขาเองทั้งคู่คุยกันเรื่องนายน้อยจ้านเป็นประเด็นหบัก จากนั้นจึงกลับไปที่อาคาร B ที่พวกเขาอาศัยอยู่บอดี้การ์ดของจ้านหยินเดินไปรอบๆ บริเวณ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ติดตามนายน้อยและนายหญิงอย่างใกล้ชิดก็ตาม อย่างไรก็ตามไม่ว่าทั้งคู่จะไปที่ไหน พวกเขาก็ติดตามพวกเขาและไม่ปล่อยให้คู่หนุ่มสาวคลาดสายตาแน่นอนว่าไห่ถงไม่รู้ ว่าเธอถูกจับตามองมาตลอดเธอหันศีรษะไปโดยไม่ตั้งใจและเห็นผู้คุ้มก