เป็นเพราะว่า เธอหยิ่งเกินไป จนทำให้ลืมตัว และถูกบันทึกเสียงการบทสนทนาในขณะที่กำลังมีความสุขการดำเนินการหลังจากนี้ ได้ถูกจ้านหยินและภรรยาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อกลับถึงบ้าน จ้านหยินก็แปลงร่างเป็นลูกหมาตัวน้อยๆ ของไห่ถง และติดตามเธอไปทุกที่ไห่ถงกำลังถือชุดนอน และเตรียมจะเข้าห้องน้ำ เขาก็ตามไปด้วย"จ้านหยิน นายน้อยจ้าน คุณอยากจะพูดอะไรก็พูดออกมาตรงๆ พวกเราเป็นสามีภรรยากัน ดังนั้นไม่มีเรื่องอะไรต้องปิดบังกันและต้องทำให้ชัดเจน"ไห่ถงหยุดที่ประตูห้องน้ำและพิงประตู มองจ้านหยินด้วยรอยยิ้ม “หลังกจากกลับมาจากการลงบันทึกประจำวันแล้ว คุณก็กลายเป็นเงาของฉัน ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหน คุณก็ตามฉันไปด้วย”"ถงถง ในอนาคตคุณต้องพาบอดี้การ์ดออกไปข้างนอกด้วย โอเคไหม? ฉันจะจัดบอดี้การ์ดสี่คนให้ติดตามคุณ และสลับหมุนเวียนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะปลอดภัย ฉันรับปากด้วยว่า ถ้าคุณเจอเรื่องอันตราย พวกเขาจะต้องรายงานฉัน ไม่ให้พวกเขาเฝ้าตาดูคุณอย่างเดียว""แม้ว่าคุณจะมีทักษะศิลปะการต่อสู้อยู่บ้าง แต่ถ้าคู่ต่อสู้เป็นระดับผู้เชี่ยวชาญล่ะ? คุณมีแต่จะเสียเปรียบ"จ้านหยินไม่คิดว่า เธอจะถูกคนสกัดร
"ถงถงไม่ต้องกดดันตัวเองไปเลยนะ พวกเราแค่ป้องกันไว้ก่อน นอกจากนี้คนในแววดวงหลายคนก็พาบอดี้การ์ดออกไปข้างนอกด้วย ตระกูลไหนบ้างที่ไม่มีบอดี้การ์ดเยอะ?"ไห่ถงรู้สึกผิดมากและพูดว่า "ฉันแค่กลัวว่า ถ้าตระกูลหนิงตอบโต้ฉัน จะเล่งเป้าไปที่พี่กับหยางหยาง"แต่เธอไม่เสียใจที่ช่วยหนิงอวิ๋นชูหนิงซีฉีทำเกินไป"ไม่ต้องกังวล มีฉันอยู่ด้วย นอกจากนี้ ร้านของพี่คุณเช่าต่อมาจากตงหมิง ซึ่งในฐานะเจ้าของร้าน ตงหมิงมีความรับผิดชอบสูงมาก และจะไม่ปล่อยให้ผู้เช่ามีปัญหาแน่ และร้านค้าบนถนนสายครึ่งหนึ่งของเขาไม่เคยมีปัญหามาก่อนเลย"เพราะเมื่อก่อนลู่ตงหมิงเป็นอันธพาลข้างถนนแม้ว่าหลงผิด แล้วสำนึกตัวได้ แต่เขาก็ยังคงรู้จักคนมากมายข้างถนน และไม่มีใครกล้าเข้ามาในอาณาเขตของเขาและก่อปัญหาได้อย่างง่ายดายลู่ตงหมิงชอบหยางหยางมาก ถ้าใครกล้าแตะต้องหยางหยาง นั่นไม่ใช่การดึงหนวดเสือเหรอ?"คิดว่านอกจากแม่และลูกสาวหนิงแล้ว ก็แค่ญาตินิสัยแย่จากบ้านเกิดของคุณ ฉันจะบอกซูหนานและขอให้เขาส่งคนไปคอยจับตาดูสองครอบครัวนั้น หากมีเรื่องวุ่นวายใดๆ ก็ให้แจ้งให้พวกเราทราบทันที และจะได้เตรียมตัวไว้ล่วงหน้า"หลังจากพูดจบ จ้านหยินก็ถามภ
ซูหนานยิ้ม "จ้านหยิน นายไม่ใช่จ้านหยินที่ฉันรู้จักอีกต่อไปแล้ว เรื่องแบบนี้นายก็บอกประธานโมด้วย""ระหว่างทางกลับบ้าน ถงถงโดนคนมาขวางรถ"ซูหนานเริ่มสนใจจึ “ใครมันไม่มีตา ไม่กลัวรถพี่สะใภ้จะชนตายเหรอ? แอดมินโรงพยาบาลแล้วมั้ง”ช่วงเวลาหนึ่ง จ้านหยินไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือดีใจ"ตอนนี้ฉันสั่งคนไปช่วยนายตรวจสอบแล้วกัน""ไม่ต้อง รู้ตัวว่าเป็นใคร"“ใครเหรอ?” ซูหนานถามด้วยความอยากรู้ เผยให้เห็นนิสัยที่สอดรู้สอดเห็นและทักษะการคิดที่ล้ำเลิศ “คนที่คลั่งไคล้นาย?”จ้านหยิน: “คนที่คลั่งไคล้” เขาพูดออกไปตรงๆ “เป็นคุณหนูหนิง ลูกสาวคนที่สองของตระกูลหนิง”ซูหนานรู้ทันทีว่าเป็นตระกูลหนิงไหน เขาพูด "คุณหนูสองหนิงกับพี่สะใภ้ขัดแย้งกนใหญ่โตเลยสิ เพิ่งผ่านไปไม่กี่วันตั้งแต่ วันที่ประธานหนิงได้เข้ามาขอโทษนายเป็นการส่วนตัว และลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขา ก็ทำให้นายกับภรรยาขุ่นเคืองอีกครั้ง""จับตัวได้ยัง?""แจ้งตำรวจแล้ว พร้อมมีหลักฐาน ดังนั้นต้องถูกจับกุมก่อนเป็นอันดับแรก ซูหนาน ฉันบอกนายก็เพื่อขอความช่วยเหลือ ส่งคนไปสักสองสามคน เพื่อติดตามทุกความเคลื่อนไหวของประธานหนิงและภรรยาอย่างลับๆ รวมถึงญาตินิสัยแ
ไห่ถงไม่รู้ว่า ขณะที่เธออาบน้ำสามีของเธอได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้วหลังจากที่เธอเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นจ้านหยินกำลังนั่งอยู่บนเตียง เธอเดินไปกอดคอจ้านหยิน กดเขาลงบนเตียงขณะที่เธอจับเขาไว้"ที่รัก ฉันเมื่อย"จ้านหยินเตือนภรรยาอย่างอบอุ่นไห่ถงยิ้มและจูบใบหน้าเขาเบาๆ จากนั้นพลิกตัวไปบนเตียง เตะเขาเบาๆ ด้วยเท้า “ไปอาบน้ำเลย บนตัวมีแต่กลิ่นบุหรี่”"ฉันไม่ได้สูบบุหรี่""คนอื่นสูบก็ทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นเหมือนบุหรี่ใช่ไหม"จ้านหยินดมเสื้อผ้าของเขา แต่ไม่ได้กลิ่นบุหรี่เลย แต่ภรรยาบอกว่าถ้าตัวเขามีกลิ่นบุหรี่ เขาจึงทำได้แค่ไปห้องน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เท่านั้นเมื่อออกมาจากห้องน้ำ ไห่ถงก็หลับไปแล้วจ้านยินมองใบหน้าอันสงบสุขของเธอ และบางครั้งก็รู้สึกอิจฉาเธอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็สามารถกิน ดื่ม และนอนได้ตามปกติ โดยที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แถมยังหลับฝันดีอีกคนแบบนี้ เป็นคนไม่คิดมากและใจกว้าง ไม่ค่อยจะยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนานเกินไป และไม่เอากลับมาคิดเล็กคิดน้อยพูดง่ายก็คือ มองโลกในแง่ดี แม้ฟ้าถล่มก็ยังใช้เอามาเป็นผ้าห่มได้จ้านหยินก้มลงจูบใบหน้าของไห่ถง แล้วพูดว่า
เป็นคู่สามีภรรยากันมานานแค่ไหนแล้วหลังจากนั้นไม่นาน ไห่ถงออกจากห้องไป และเห็นคุณยายจ้านยังแกล้งทำเป็นรื้อค้นกล่อง ค้นตู้เพื่อหาแว่นสายตายาวที่ไม่เคยมีอยู่จริง ไห่ถงพูดว่า “คุณยาย ถ้าหาไม่เจอก็ช่างมันเถอะค่ะ ฉันจะพาคุณยายไปซื้อแว่นสายตายาวอันใหม่ทีหลัง”"ก็ได้ ฉันไม่หามันแล้ว ฉันอายุเยอะขนาดนี้ ความจงความจำฉันก็ไม่ค่อยดี มันถูกวางไว้ตรงนี้อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ฉันหาไม่เจอ หรือว่ามันมีขาเดินหนีไป"ไห่ถงยิ้ม"บางทีมันอาจมีปีก และกลายเป็นผีเสื้อแล้วบินหนีไป"คุณยายจ้านพูดน้ำเสียงเสียดาย "ฉันไม่เห็น มันตอนกลายเป็นผีเสื้อแล้วบินหนีไป"ไห่ถงรู้สึกขบขันกับท่าทางผู้สูงอายุของเธอ และไม่สามารถหยุดหัวเราะได้"คุณยาย เมื่อคืนกลับมาตอนไหน?""ยายกลับมาก่อนที่พวกหลานจะกลับมา เมื่อคืนนอนตั้งแต่หัวค่ำ เลยไม่รู้ว่า พวกหลานกลับมาตอนไหน"ไห่ถงไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อหลังจากทั้งสามคนทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว คุณยายจ้านบอกว่า จะออกไปคุยเล่นกับคนอื่นๆ ในชุมชน เธอจึงออกไปจากบ้าน และจ้านหยินก็พาไห่ถงไปส่งที่ร้านไห่ถงโทรศัพท์หาพี่สาวระหว่างทาง"พี่ วันนี้ธุรกิจเป็นไงบ้าง?""ดีมาก ฉันยุ
หยางหยางเป็นเด็กเชื่อฟังมาก ถึงอย่างไร เขาก็ยังเป็นเด็กที่อายุอ่นอกว่าสามขวบ และซุกซนเช่นกันวันนั้นเขาพาหยางหยางไปที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ๆ เพื่อเล่น เจ้าตัวน้อยเป็นซุกซนและวิ่งเล่นไปมา หากไม่ได้จับตามอง เขาก็จะวิ่งหนีไปไกล ซึ่งนั่นทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดว่าลูกชายของเขาหายไปโจวหงหลินรู้สึกกลัวหลังจากพาลูกชายออกไปเล่นก่อนหน้านั้น และไม่อยากพาลูกชายออกไปเล่นอีกครั้งแม้ว่าครั้งแรก จะเป็นข้ออ้างที่ต้องพาลูกชายไปเล่นที่สวนสาธารณะหยางหยางที่เข้าใจเรื่องราวได้ จึงถามว่า "พ่อต้องไปทำงานไหม?"โจวหงหลินโกหก "อืม พ่อต้องไปทำงานและหาเงิน"เขายังหางานไม่ได้เมื่อเห็นว่าไห่หลิงทำธุรกิจขนาดเล็ก และดูมีแววไปได้ดี จิตใจของโจวหงหลินก็กระชุ่มกระชวยขึ้น คิดว่าหลังจากที่เขากับเย่เจียนีแต่งงานกัน พวกเขาก็จะเปิดร้านร่วมกัน และเป็นนายของตัวเองไม่ต้องค่อยระมัดระวังคนอื่นจะคิดอย่างไร มีอิสระเป็นของตัวเองนั่นถ้าเขาเปิดร้าน จ้านหยินจะยังคงหมายหัวเขาต่อไปหรือไม่?สิ่งที่โจวหงหลินกลัวมากที่สุดก็คือ จ้านหยินจะไม่ปล่อยเขาไป ซึ่งนั่นจะทำให้เขาจะไม่สามารถทำอะไรได้เลยถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาก็จะขับรถรั
หยางหยางอาจจะยังไม่เข้าใจว่านี่คือธุรกิจ แต่เขารู้ว่าแม่ของเขา จะให้เพียงน้าเท่านั้นที่เป็นข้อยกเว้น และคนอื่นไม่มีข้อยกเว้นโจวหงหลินสำลักแ ละพูดทันที "หยางหยาง ฉันเป็นพ่อของแกนะ แกจะเอาคนแซ่ลู่มาเปรียบเทียบกับพ่อของแกได้อย่างไร นั่นมันคนนอก และคนแซ่ลู่ไม่ใช่คนดี เขาน่ากลัวมาก"หยางหยางพยักหน้าเห็นด้วย และพูดน่ารักๆ ออกมา "ลุงลู่เป็นคนน่ากลัวมาก แต่ลุงลู่ไม่ใช่คนเลว"เมื่อนึกถึงครั้งสุดท้ายที่เกลี้ยกล่อมลูกชาย เมื่อใดก็ตามที่ลู่ตงหมิงมาหาไห่หลิง เขาจะปล่อยให้ลูกชายสร้างปัญหา โจวหงหลินวกกลับมาที่หัวข้ออาหารเช้าอีกครั้ง และไม่ต้องการคุยกับลูกชายต่อไป เด็กน้อยดื้อรั้นมากเจ้าตัวน้อยพูดว่า ลุงลู่เป็นคนน่ากลัวมาก แต่ลุงลู่ไม่ใช่คนเลว ไม่ว่าเขาจะพยายามเปลี่ยนแปลงเรื่องต่างๆ ในฐานะพ่ออย่างไร เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนหยางหยางให้คล้อยตามได้"โอเค ฉันจะจ่ายเงินให้คุณ จ่ายแล้ว ไห่หลิง ฉันสังเกตเห็นว่าหลังจากหย่า คุณก็มีเงินใช้ไม่ขาดมือเลยนะ""ขี้เหนียว ทำไมต้องเถียงกับฉันทุกเรื่อง พูดได้ยังไงว่าพวกเราเคยเป็นสามีภรรยากัน"ขณะที่โจวหงหลินกำลังบ่นพรางไป ก็วางลูกชายลงแล้วหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา เข
โจวหงหลินยอมรับตัวเองว่า ในตอนแรกเขานิสัยแย่มาก อยากจะค่อยๆ บีบให้ไห่หลิงตัดขาดจากสังคม ไม่มีแหล่งรายได้ และกลายเป็นผู้หญิงที่ไม่น่าสนใจ ตอนที่อายุสามสิบหากเปรียบเทียบกับเหล่าแม่บ้านหลายคนที่ประสบกับสถานการณ์เช่นนี้เหมือนกัน ไห่หลิงเป็นคนที่เข้มแข็งมาก เธอตัดความสัมพันธ์กับโจวหงหลินอยากไม่เหลือเยื่อใยเธอไม่ได้คิดถึงลูกของเธอเลยเธอคิดว่าหากการแต่งงานล้มเหลว การหย่าร้างอาจส่งผลเสียต่อเด็ก ๆ ได้ แต่หากไม่หย่า คู่สามีภรรยาก็จะทะเลาะกันทุกวัน และครอบครัวจะไม่มีวันสงบสุข ซึ่งนั่นก็ส่งผลเสียต่อเด็ก ๆ ได้เช่นกันหย่าแล้วจะดีกว่า เธอดูแลลูกไปอยู่คนเดียวดีกว่า หากเธอสามารถสอนเขาได้อย่างดี เธอก็สามารถทำให้ลูกชายเป็นคนพึ่งพาตัวเองได้และมั่นใจในตัวเองได้เช่นกันป้าเหลียงหยิบเกี๋ยวทอดหนึ่งจานมา วางไว้ตรงหน้าโจวหงหลินโจวหงหลินหยุดความคิดของตัวเอง และคิดว่า ตอนนี้เขาใช้ชีวิตที่มีความสุขและหวานชื่นกับเจียนี แม้ว่าจะมีความขัดแย้งในครอบครัว แต่นั่นเป็นช่วงปรับตัวของเขากับเย่เจียนี เมื่อปรับตัวได้ดีแล้ว เขาก็จะใช้ชีวิตได้ดีกว่าไห่หลิงดังนั้น เขาจึงรับทานอาหารเช้าด้วยความสบายใจเขายังป้อนเกี๊ย
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้