อันธพาลคนนั้น เลือกที่จะฟังคำพูดของไห่ถงและโทรหาหนิงซีฉีไห่ถงขอให้บอดี้การ์ด 2 คนช่วยพยุงเขาขึ้นมาและโทรศัพท์ เพราะถ้านอนอยู่บนพื้นจะหายใจหอบหืดเมื่อถูกคุณแม่เร่งเร้าให้ติดต่ออันธพาล หนิงซีฉีก็ได้รับโทรศัพท์จากอันธพาล หทันที และพูดกับแม่ด้วยความดีใจว่า "คุณแม่ สายเข้า สายเข้า พวกเขาคงทำภารกิจที่ฉันมอบหมายให้เสร็จเรียบร้อยแล้วแน่เลย"เธอพูดและรับสายโทรศัพท์อย่างกระตือรือร้น"คุณหนูเจีย พวกเราทุบรถผู้หญิงคนนั้นและตีเธอ เธอถูกตีอย่างรุนแรงจนหมดสติ แต่ยังมีลมหายใจอยู่และไม่ตาย ช่วยจ่ายเงินงวดสุดท้ายให้เร็วทีสุดด้วย เพราะพวกเราต้องหนีออกจากกวนเฉิงทันที""แค่ไม่ตายก็พอ แกถ่ายรูปมาให้ฉันเห็นว่า พวกทำตามที่ฉันพูดจริงๆ แล้วฉันจะจ่ายเงินงวดสุดท้ายให้""หลังจากตีคนๆ นั้นจนหัวแตกและเลือดไหลแล้ว ก็กลัวจะว่าตายไปแล้ว เลยรีบวิ่งหนีออกมา และกล้าถ่ายรูปได้ยังไง รีบเอาเงินมาให้ซะ พวกเราต้องหนีเอาชีวิตรอดก่อน""แน่ใจแล้วเหรอว่า นั่นคือผู้หญิงที่ฉันพูดถึง? "หนิงซีฉีได้ยินมาว่าไห่ถงถูกตีจนเลือดไหลออกจากหัว และหมดสติ เธอรู้สึกตื่นเต้นมาก รู้สึกเหมือนกับว่า เธอได้ระบายความโกรธออกมาได้แล้วใครเป็นคน
"จ้านหยิน ฉันสบายดี แค่รถพัง"เมื่อไห่ถงลงจากรถ พวกอันธพาลก็กำลังทุบรถของเธออยู่แล้ว เธอและบอดี้การ์ดอีกสองคนจึงรีบจัดการพวกอันธพาลเหล่านี้ แต่ไม่สามารถช่วยรถของเธอเอาไว้ได้จ้านหยินเหลือบมองรถที่พังยับเยินแล้วพูดว่า “ขอแค่คนไม่เป็นไรก็พอแล้ว ถ้ารถพังก็เปลี่ยนคันใหม่”"รถคันนี้เป็นคันที่คุณให้ฉันเป็นของขวัญ""ฉันยังให้รถคุณเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ด้วย ดังนั้นคุณขับคันนั้นไปก่อน แล้วเอาคันนี้ไปส่งซ่อม"ไห่ถงพูด: "ฉันชอบยี่ห้อรถนี้"พูดเสียงเบาจ้านหยินพูดตรงๆ ว่า “พรุ่งนี้ฉันจะพาคุณไปซื้อรถคันใหม่ยี่ห้อเดียวกับคันนี้”เธอไม่ชอบอวดร่ำอวดรวย ในฐานะนายหญิงจ้าน เขาจะทำให้เธอพอใจไม่ว่าเธอจะต้องการชีวิตแบบไหน ตราบใดที่จ้านหยินคนนี้ยังอยู่ เขาก็สามรถทำทุกอย่างให้เธอพอใจได้"ถามยังว่า ใครเป็นคนบงการ?"จ้านหยินถามบอดี้การ์ด"น่าจะหนิงซีฉี?" ไห่ถงตอบไม่ใครในที่นี้ ที่เคยเจอกับหนิงซิฉีมาก่อน และเสียงของเธอก็ไม่คุ้นหูของพวกเขา แต่ไห่ทงกับหนิงซีฉีเคยเจอกันมาสองครั้ง และมีปากเสียงกันทั้งสองครั้ง โดยที่สามารถจำน้ำเสียงที่หยิ่งผยองและเสียงแปร๋นๆ ของเธอได้หนิงซีฉีไม่จ่ายเงินงวดสุดท้ายให้กั
เป็นเพราะว่า เธอหยิ่งเกินไป จนทำให้ลืมตัว และถูกบันทึกเสียงการบทสนทนาในขณะที่กำลังมีความสุขการดำเนินการหลังจากนี้ ได้ถูกจ้านหยินและภรรยาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อกลับถึงบ้าน จ้านหยินก็แปลงร่างเป็นลูกหมาตัวน้อยๆ ของไห่ถง และติดตามเธอไปทุกที่ไห่ถงกำลังถือชุดนอน และเตรียมจะเข้าห้องน้ำ เขาก็ตามไปด้วย"จ้านหยิน นายน้อยจ้าน คุณอยากจะพูดอะไรก็พูดออกมาตรงๆ พวกเราเป็นสามีภรรยากัน ดังนั้นไม่มีเรื่องอะไรต้องปิดบังกันและต้องทำให้ชัดเจน"ไห่ถงหยุดที่ประตูห้องน้ำและพิงประตู มองจ้านหยินด้วยรอยยิ้ม “หลังกจากกลับมาจากการลงบันทึกประจำวันแล้ว คุณก็กลายเป็นเงาของฉัน ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหน คุณก็ตามฉันไปด้วย”"ถงถง ในอนาคตคุณต้องพาบอดี้การ์ดออกไปข้างนอกด้วย โอเคไหม? ฉันจะจัดบอดี้การ์ดสี่คนให้ติดตามคุณ และสลับหมุนเวียนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะปลอดภัย ฉันรับปากด้วยว่า ถ้าคุณเจอเรื่องอันตราย พวกเขาจะต้องรายงานฉัน ไม่ให้พวกเขาเฝ้าตาดูคุณอย่างเดียว""แม้ว่าคุณจะมีทักษะศิลปะการต่อสู้อยู่บ้าง แต่ถ้าคู่ต่อสู้เป็นระดับผู้เชี่ยวชาญล่ะ? คุณมีแต่จะเสียเปรียบ"จ้านหยินไม่คิดว่า เธอจะถูกคนสกัดร
"ถงถงไม่ต้องกดดันตัวเองไปเลยนะ พวกเราแค่ป้องกันไว้ก่อน นอกจากนี้คนในแววดวงหลายคนก็พาบอดี้การ์ดออกไปข้างนอกด้วย ตระกูลไหนบ้างที่ไม่มีบอดี้การ์ดเยอะ?"ไห่ถงรู้สึกผิดมากและพูดว่า "ฉันแค่กลัวว่า ถ้าตระกูลหนิงตอบโต้ฉัน จะเล่งเป้าไปที่พี่กับหยางหยาง"แต่เธอไม่เสียใจที่ช่วยหนิงอวิ๋นชูหนิงซีฉีทำเกินไป"ไม่ต้องกังวล มีฉันอยู่ด้วย นอกจากนี้ ร้านของพี่คุณเช่าต่อมาจากตงหมิง ซึ่งในฐานะเจ้าของร้าน ตงหมิงมีความรับผิดชอบสูงมาก และจะไม่ปล่อยให้ผู้เช่ามีปัญหาแน่ และร้านค้าบนถนนสายครึ่งหนึ่งของเขาไม่เคยมีปัญหามาก่อนเลย"เพราะเมื่อก่อนลู่ตงหมิงเป็นอันธพาลข้างถนนแม้ว่าหลงผิด แล้วสำนึกตัวได้ แต่เขาก็ยังคงรู้จักคนมากมายข้างถนน และไม่มีใครกล้าเข้ามาในอาณาเขตของเขาและก่อปัญหาได้อย่างง่ายดายลู่ตงหมิงชอบหยางหยางมาก ถ้าใครกล้าแตะต้องหยางหยาง นั่นไม่ใช่การดึงหนวดเสือเหรอ?"คิดว่านอกจากแม่และลูกสาวหนิงแล้ว ก็แค่ญาตินิสัยแย่จากบ้านเกิดของคุณ ฉันจะบอกซูหนานและขอให้เขาส่งคนไปคอยจับตาดูสองครอบครัวนั้น หากมีเรื่องวุ่นวายใดๆ ก็ให้แจ้งให้พวกเราทราบทันที และจะได้เตรียมตัวไว้ล่วงหน้า"หลังจากพูดจบ จ้านหยินก็ถามภ
ซูหนานยิ้ม "จ้านหยิน นายไม่ใช่จ้านหยินที่ฉันรู้จักอีกต่อไปแล้ว เรื่องแบบนี้นายก็บอกประธานโมด้วย""ระหว่างทางกลับบ้าน ถงถงโดนคนมาขวางรถ"ซูหนานเริ่มสนใจจึ “ใครมันไม่มีตา ไม่กลัวรถพี่สะใภ้จะชนตายเหรอ? แอดมินโรงพยาบาลแล้วมั้ง”ช่วงเวลาหนึ่ง จ้านหยินไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือดีใจ"ตอนนี้ฉันสั่งคนไปช่วยนายตรวจสอบแล้วกัน""ไม่ต้อง รู้ตัวว่าเป็นใคร"“ใครเหรอ?” ซูหนานถามด้วยความอยากรู้ เผยให้เห็นนิสัยที่สอดรู้สอดเห็นและทักษะการคิดที่ล้ำเลิศ “คนที่คลั่งไคล้นาย?”จ้านหยิน: “คนที่คลั่งไคล้” เขาพูดออกไปตรงๆ “เป็นคุณหนูหนิง ลูกสาวคนที่สองของตระกูลหนิง”ซูหนานรู้ทันทีว่าเป็นตระกูลหนิงไหน เขาพูด "คุณหนูสองหนิงกับพี่สะใภ้ขัดแย้งกนใหญ่โตเลยสิ เพิ่งผ่านไปไม่กี่วันตั้งแต่ วันที่ประธานหนิงได้เข้ามาขอโทษนายเป็นการส่วนตัว และลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขา ก็ทำให้นายกับภรรยาขุ่นเคืองอีกครั้ง""จับตัวได้ยัง?""แจ้งตำรวจแล้ว พร้อมมีหลักฐาน ดังนั้นต้องถูกจับกุมก่อนเป็นอันดับแรก ซูหนาน ฉันบอกนายก็เพื่อขอความช่วยเหลือ ส่งคนไปสักสองสามคน เพื่อติดตามทุกความเคลื่อนไหวของประธานหนิงและภรรยาอย่างลับๆ รวมถึงญาตินิสัยแ
ไห่ถงไม่รู้ว่า ขณะที่เธออาบน้ำสามีของเธอได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้วหลังจากที่เธอเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นจ้านหยินกำลังนั่งอยู่บนเตียง เธอเดินไปกอดคอจ้านหยิน กดเขาลงบนเตียงขณะที่เธอจับเขาไว้"ที่รัก ฉันเมื่อย"จ้านหยินเตือนภรรยาอย่างอบอุ่นไห่ถงยิ้มและจูบใบหน้าเขาเบาๆ จากนั้นพลิกตัวไปบนเตียง เตะเขาเบาๆ ด้วยเท้า “ไปอาบน้ำเลย บนตัวมีแต่กลิ่นบุหรี่”"ฉันไม่ได้สูบบุหรี่""คนอื่นสูบก็ทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นเหมือนบุหรี่ใช่ไหม"จ้านหยินดมเสื้อผ้าของเขา แต่ไม่ได้กลิ่นบุหรี่เลย แต่ภรรยาบอกว่าถ้าตัวเขามีกลิ่นบุหรี่ เขาจึงทำได้แค่ไปห้องน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เท่านั้นเมื่อออกมาจากห้องน้ำ ไห่ถงก็หลับไปแล้วจ้านยินมองใบหน้าอันสงบสุขของเธอ และบางครั้งก็รู้สึกอิจฉาเธอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็สามารถกิน ดื่ม และนอนได้ตามปกติ โดยที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แถมยังหลับฝันดีอีกคนแบบนี้ เป็นคนไม่คิดมากและใจกว้าง ไม่ค่อยจะยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนานเกินไป และไม่เอากลับมาคิดเล็กคิดน้อยพูดง่ายก็คือ มองโลกในแง่ดี แม้ฟ้าถล่มก็ยังใช้เอามาเป็นผ้าห่มได้จ้านหยินก้มลงจูบใบหน้าของไห่ถง แล้วพูดว่า
เป็นคู่สามีภรรยากันมานานแค่ไหนแล้วหลังจากนั้นไม่นาน ไห่ถงออกจากห้องไป และเห็นคุณยายจ้านยังแกล้งทำเป็นรื้อค้นกล่อง ค้นตู้เพื่อหาแว่นสายตายาวที่ไม่เคยมีอยู่จริง ไห่ถงพูดว่า “คุณยาย ถ้าหาไม่เจอก็ช่างมันเถอะค่ะ ฉันจะพาคุณยายไปซื้อแว่นสายตายาวอันใหม่ทีหลัง”"ก็ได้ ฉันไม่หามันแล้ว ฉันอายุเยอะขนาดนี้ ความจงความจำฉันก็ไม่ค่อยดี มันถูกวางไว้ตรงนี้อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ฉันหาไม่เจอ หรือว่ามันมีขาเดินหนีไป"ไห่ถงยิ้ม"บางทีมันอาจมีปีก และกลายเป็นผีเสื้อแล้วบินหนีไป"คุณยายจ้านพูดน้ำเสียงเสียดาย "ฉันไม่เห็น มันตอนกลายเป็นผีเสื้อแล้วบินหนีไป"ไห่ถงรู้สึกขบขันกับท่าทางผู้สูงอายุของเธอ และไม่สามารถหยุดหัวเราะได้"คุณยาย เมื่อคืนกลับมาตอนไหน?""ยายกลับมาก่อนที่พวกหลานจะกลับมา เมื่อคืนนอนตั้งแต่หัวค่ำ เลยไม่รู้ว่า พวกหลานกลับมาตอนไหน"ไห่ถงไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อหลังจากทั้งสามคนทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว คุณยายจ้านบอกว่า จะออกไปคุยเล่นกับคนอื่นๆ ในชุมชน เธอจึงออกไปจากบ้าน และจ้านหยินก็พาไห่ถงไปส่งที่ร้านไห่ถงโทรศัพท์หาพี่สาวระหว่างทาง"พี่ วันนี้ธุรกิจเป็นไงบ้าง?""ดีมาก ฉันยุ
หยางหยางเป็นเด็กเชื่อฟังมาก ถึงอย่างไร เขาก็ยังเป็นเด็กที่อายุอ่นอกว่าสามขวบ และซุกซนเช่นกันวันนั้นเขาพาหยางหยางไปที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ๆ เพื่อเล่น เจ้าตัวน้อยเป็นซุกซนและวิ่งเล่นไปมา หากไม่ได้จับตามอง เขาก็จะวิ่งหนีไปไกล ซึ่งนั่นทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดว่าลูกชายของเขาหายไปโจวหงหลินรู้สึกกลัวหลังจากพาลูกชายออกไปเล่นก่อนหน้านั้น และไม่อยากพาลูกชายออกไปเล่นอีกครั้งแม้ว่าครั้งแรก จะเป็นข้ออ้างที่ต้องพาลูกชายไปเล่นที่สวนสาธารณะหยางหยางที่เข้าใจเรื่องราวได้ จึงถามว่า "พ่อต้องไปทำงานไหม?"โจวหงหลินโกหก "อืม พ่อต้องไปทำงานและหาเงิน"เขายังหางานไม่ได้เมื่อเห็นว่าไห่หลิงทำธุรกิจขนาดเล็ก และดูมีแววไปได้ดี จิตใจของโจวหงหลินก็กระชุ่มกระชวยขึ้น คิดว่าหลังจากที่เขากับเย่เจียนีแต่งงานกัน พวกเขาก็จะเปิดร้านร่วมกัน และเป็นนายของตัวเองไม่ต้องค่อยระมัดระวังคนอื่นจะคิดอย่างไร มีอิสระเป็นของตัวเองนั่นถ้าเขาเปิดร้าน จ้านหยินจะยังคงหมายหัวเขาต่อไปหรือไม่?สิ่งที่โจวหงหลินกลัวมากที่สุดก็คือ จ้านหยินจะไม่ปล่อยเขาไป ซึ่งนั่นจะทำให้เขาจะไม่สามารถทำอะไรได้เลยถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาก็จะขับรถรั