Share

บทที่ 152

Penulis: จิ้งซิง
“สวรรค์! เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้?”

“ข้าว่าแล้วทำไมถึงรู้สึกว่าวันเกิดของเวินซื่อปีนี้ดูไม่ชอบมาพากล ที่แท้วันนั้นไม่ใช่วันเกิดของนางจริง ๆ!”

“แล้วเป็นวันเกิดของใครกัน?”

“มีบุตรสาวแค่สองคน จะเป็นใครได้เล่า?”

“ซี้ด! ดูเหมือนว่าจะพบความลับบางอย่างที่สะเทือนเลือนลั่นไปทั่วหล้า!”

“หึๆ ที่แท้พี่สาวไม่ใช่พี่สาว น้องสาวไม่ใช่น้องสาว ละครเรื่องนี้ของจวนเจิ้นกั๋วกงสนุกครบรสจริง ๆ”

“อะไรนะ อะไรนะ? หมายความว่าอย่างไรกันแน่? ทำไมข้าดูเหมือนจะฟังไม่เข้าใจ?”

ยังมีคนไม่เข้าใจ จึงรีบสอบถามจากคนอื่น

คนที่เข้าใจแล้วต่างก็แสร้งทำเป็นฉลาดลุ่มลึก ต่างไม่พูดจา แต่กลับมองไปทางเวินเฉวียนเซิ่งทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ

ในขณะนี้สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งบึ้งตึงดำทะมึน เขาลุกพรวดขึ้น พลางก้าวสวบ ๆ เข้าไปหา แล้วคว้าเวินจื่อเยวี่ยไว้

เวินจื่อเยวี่ยถูกดึงจนสะดุดล้มลงชั่วขณะ เมื่อหันกลับมาเวินเฉวียนเซิ่งย่อมไม่พลาดท่าทางเหม่อจากสายตาของเขาอยู่แล้ว

“ดี ดี เวินซื่อ เจ้าเก่งมากจริง ๆ”

จนป่านนี้หากยังมองไม่ออกว่าลูกชายคนที่สามของตัวเองตกหลุมพรางเหมือนกับลูกชายคนที่สี่แล้วล่ะก็ เวินเฉวียนเซิ่งคงใช้ชีวิตมาถึงหลายสิบป
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (3)
goodnovel comment avatar
Pusanisa Nok Siriwuth
สนุกมากค่ะ สะใจการแก้แค้นของแม่ชีน้อย
goodnovel comment avatar
Gob Samorthong
อัพมาเยอะๆหน่อยนะะ
goodnovel comment avatar
WLFJ
สมน้ำหน้าพ่อนางเอก เลวจริงๆๆ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 153

    แต่ถึงกระนั้น เวินเฉวียนเซิ่งก็มั่นคงดุจขุนเขาไท่ซาน“ร้อนใจอะไรกัน นั่งลงก่อน”ภายใต้แรงกดดันจากสายตาของเวินเฉวียนเซิ่ง เวินเยวี่ยทำได้เพียงข่มความกังวลไว้ แล้วรีบนั่งลงต่อมาเวินเฉวียนเซิ่งก็ได้ส่งเวินจื่อเยวี่ยให้กับลูกชายคนโต “วันนี้เจ้าสามไม่ค่อยสบาย เจ้าใหญ่ เจ้าช่วยพาเขากลับไปก่อนแล้วคอยดูไว้ให้ดี อย่าปล่อยให้เขาเพ่นพ่าน”แม้ว่าเวินฉางอวิ้นจะมีข้อสงสัยอยู่บ้าง แต่ก็ยังรับปากแต่โดยดี “ขอรับ ท่านพ่อ”หลังจากที่เวินฉางอวิ้นพาเวินจื่อเยวี่ยไปแล้ว เวินเฉวียนเซิ่งถึงพูดกับเวินเยวี่ยอย่างเฉยชา “หากยังไม่มีหลักฐานอย่างแท้จริง ทุกอย่างก็เป็นเพียงการเดาที่ไม่มีมูล ตั้งสติให้ดี จะได้ไม่ถูกรบกวน”เมื่อเข้าใจแล้วเวินเยวี่ยก็กระจ่างในทันทีถูกต้อง ต่อให้เวินซื่อจะเปิดเผยวันเกิดของนางออกมาแล้วจะเป็นไรไป ตราบใดที่ไม่มีหลักฐานที่แน่นอน นางก็ยังคงเป็นบุตรสาวบุญธรรมของจวนเจิ้นกั๋วกงอยู่!พูดแบบนี้ก็จริง แต่เวินเยวี่ยมีหรือจะยอมเป็นเพียงบุตรสาวบุญธรรมเท่านั้น?นางกัดฟัน แล้วแอบจ้องเขม็งใส่เวินซื่อทั้งหมดนี้ต้องโทษนางสารเลวนั่น ขัดหูขัดตามากขึ้นทุกวันจริง ๆเวินอวี้จือและเวินจื่อเยวี่ยก็

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 154

    “อะไรคือเกิดไมตรีจิต?! ชุยเส้าเจ๋อ เจ้าอย่าเอาแต่อ้าปากก็ดูถูกความบริสุทธิ์ของผู้อื่น! ตัวเองไม่ได้เป็นคนขาวสะอาด ยังจะมีหน้าไปว่าคนอื่นอีก!”เวินซื่อยังไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ฉีเซิ่งก็พ่นไฟโทสะใส่ชุยเส้าเจ๋อยกใหญ่แทบจะถ่มน้ำลายรดหน้าเขาอยู่แล้ว“เจ้าพูดอะไรน่ะ?! เจ้าเก่งจริงก็พูดอีกครั้งสิ ใครไม่ได้เป็นคนขาวสะอาด!”“พูดถึงเจ้านั่นแหละ!”เวลานี้ฉีเซิ่งเห็นชุยเส้าเจ๋อแล้วรู้สึกขัดหูขัดตาไปหมด“ทำไมเล่า? ต้องการให้ข้าเปิดเผยอดีตอันน่ารังเกียจของเจ้า ให้ทุกคนฟังว่าก่อนหน้านี้เจ้าแอบลักเล็กขโมยน้อย แล้วยังยัดของกลางใส่ร้ายคนอื่นอย่างนั้นหรือ?”“เจ้าหุบปากซะ!”ชุยเส้าเจ๋อแค่ได้ยินคำพูดนี้ก็รู้แล้วว่าฉีเซิ่งกำลังพูดถึงเรื่องอะไรเขาโกรธจนหน้าแดงขึ้นมาทันใดนึกด่าทออยู่ในใจ ไอ้สารเลวคนไหนกล้าเอาเรื่องของข้าไปพูดข้างนอก!ถ้าให้เขารู้ล่ะก็ เขาจะฉีกคนผู้นั้นให้เป็นชิ้น ๆ แน่!จงหย่งโหวเห็นท่าเด็กสองคนนี้เหมือนกำลังต่อยตีกัน จึงลุกขึ้นเพื่อจะห้ามทัพแต่ปรากฏว่าเพิ่งจะขยับตัวก็ถูกเสนาบดีฉีดึงแขนไว้ “เฮ้อเหล่าชุย แค่เด็ก ๆ วิวาทกันโต้เถียงกันเท่านั้น ผู้ใหญ่อย่างเราจะเข้าไปยุ่งทำไม? ปล่อย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 155

    ทันทีที่ฉีเซิ่งได้ยินชื่อ ‘ชุยเส้าเจ๋อ’ ในเวลานี้ ก็โต้กลับด้วยความโมโหทันที “ท่านพ่อ วันหลังอย่าพูดถึงเจ้านั่นต่อหน้าข้าอีก แม้ว่าฉีเซิ่งผู้นี้จะเป็นลูกผู้ดีมีเงินที่เอาแต่เสวยสุขเหมือนกัน แต่ข้าจะไม่ทุเรศชั่วช้าเหมือนเขาเด็ดขาด”แอบลักเล็กขโมยน้อยยังไม่เท่าไหร่ แต่ตัวเองยังใส่ร้ายอดีตคู่หมั้น ช่างไร้ยางอายสิ้นดี!ฉีเซิ่งไม่มีสหายที่ไร้ยางอายเช่นนี้!ต้องรู้ว่าการขโมยของเป็นเพียงเรื่องของคุณธรรม แต่การใส่ร้ายผู้อื่นเป็นเรื่องของนิสัยใจคอวันนี้เขาไม่ได้ชี้หน้าชุยเส้าเจ๋อต่อหน้าธารกำนัลในงานเลี้ยง ด่าทอเขาว่าชั่วช้าขี้ขลาดก็นับว่าดีแค่ไหนแล้ว!“ได้ ๆ ๆ ไม่พูดก็ไม่พูด”เสนาบดีฉีลูบเครา หัวเราะเหอะ ๆ พูดว่า “แต่ว่า เจ้าก็อย่าทำอะไรมากจนเกินไป อย่างน้อยเขาก็เป็นบุตรชายคนเดียวของจงหย่งโหว ลุงก็เป็นถึงเจิ้นกั๋วกง ในเมื่อเรื่องนี้ท่านอ๋องได้ลงมือสั่งสอนไปแล้ว เจ้าก็อย่าไปเกลือกกลั้วอยู่ในบ่อโคลนนั้นอีกเลย”“เฮ้อ ท่านพ่อวางใจเถอะ ตอนนี้ข้าก็ขี้เกียจจะสนใจเขา ต่อไปลูกยังมีเรื่องอื่นต้องทำอีก”ฉีเซิ่งกล่าวอย่างอารมณ์ดี “ข้ารับปากแล้วว่าจะมอบของขวัญวันเกิดให้กับธิดาศักดิ์สิทธิ์ ก็ต้องจัด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 156

    ประโยคนี้ของเวินจื่อเยวี่ยทำให้เวินฉางอวิ้นตกอยู่ในความเงียบงันใช่แล้ว เขาเคยสงสัยจริง ๆก่อนวันเกิดของน้องห้า พวกเขาไม่เคยตระหนักเลยว่าลำดับของวันเกิดระหว่างน้องสาวทั้งสองจะมีปัญหาอะไรจนกระทั่งอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้นั้นได้เปิดโปงต่อหน้า พวกเขาถึงพบว่า เห็นได้ชัดว่าอายุเท่ากัน แต่วันเกิดของเวินเยวี่ยกลับอยู่ก่อนเวินซื่อ เดิมทีควรจะเป็นพี่สาวถึงจะถูก แต่กลับกลายเป็นน้องสาว เวินซื่อที่ควรจะเป็นน้องสาว กลับกลายเป็นพี่สาวและรายละเอียดเช่นนี้พวกเขาไม่เคยใส่ใจมาก่อนเวินฉางอวิ้นที่รู้สึกผิดอยู่ในใจก็เข้าใจสาเหตุได้อย่างรวดเร็วเพราะแม้แต่วันเกิดของน้องห้าพวกเขายังลืมไปแล้วเสียด้วยซ้ำไป แล้วจะสังเกตเห็นได้อย่างไร?แม้ว่าต่อมาบิดาจะอธิบายให้พวกเขาฟังว่า น้องหกเปลี่ยนวันถึงแก่กรรมของมารดามาเป็นวันเกิดแต่เรื่องแบบนี้เมื่อก่อนทำไมไม่เคยบอกพวกเขาเลย?รู้สึกไม่มีอะไรจึงไม่พูดหรือ?หรือว่า...ในนี้มันมีความลับบางอย่างที่ไม่สามารถเปิดเผยให้คนอื่นรู้ได้?หลังจากกลับไปในวันนั้นเวินฉางอวิ้นก็นอนไม่หลับทั้งคืน พลิกตัวไปมาแต่สุดท้ายเขาก็ยังใช้เวลาทั้งคืนเกลี้ยกล่อมตัวเองได้สำเร็จเขาคิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 157

    เวินจื่อเยวี่ยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ทำไมพูดกับพี่สามต้องตะกุกตะกักด้วย ข้างหลังซ่อนอะไรไว้หรือ?”เวินจื่อเยวี่ยหยิบของสิ่งนั้นออกมาอย่างระมัดระวังทันทีที่เวินจื่อเยวี่ยได้เห็น สองตาก็เป็นประกาย “นี่มันเป็ดทอดกรอบจากภัตตาคารเฟิ่งเซียนมิใช่หรือ? น้องหกตั้งใจไปซื้อมาให้พี่สามอย่างนั้นหรือ?”เวินเยวี่ยฉีกยิ้มออกมา “ใช่แล้วเจ้าค่ะ พี่สามกลับมาถึงเร็ว เยวี่ยเอ๋อร์คิดว่าท่านต้องกินไม่อิ่มแน่ ก็เลยอ้อมไปที่ภัตตาคารเฟิ่งเซียน เพื่อเอาเป็ดทอดกรอบที่พี่สามชอบที่สุดมาให้เจ้าค่ะ”เวินจื่อเยวี่ยที่ตั้งใจจะไปหาเวินฉางอวิ้นก็ไม่รีบร้อนออกจากเรือนแล้ว“ดี ๆ น้องหกช่างเอาใจใส่ จำได้ด้วยว่าพี่สามชอบกินอะไร”เวินจื่อเยวี่ยยิ้มอย่างมีความสุข “รีบเข้ามานั่งสิ พี่สามก็กำลังหิวอยู่พอดี เรามากินด้วยกันเถอะเจ้าค่ะ”หลังจากที่ทั้งสองนั่งลงแล้ว เวินจื่อเยวี่ยก็แกะกระดาษเคลือบน้ำมันที่ห่อเป็ดทอดกรอบเอาไว้อย่างอดใจไม่ไหวเวินเยวี่ยรีบโบกมือ “ไม่ล่ะ ไม่ล่ะ ข้ากินในงานเลี้ยงอิ่มแล้ว ตอนนี้กินไม่ลงจริง ๆ พี่สามกินเถอะ”เวินจื่อเยวี่ยย่อมไม่มีการระวังตัวกับน้องสาวที่ตัวเองรักมากที่สุดอยู่แล้วดังนั้นเมื่อเวิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 158

    แต่น่าเสียดายคนที่ออกมาพบเขาไม่ใช่เวินซื่อเวินเฉวียนเซิ่งเงยหน้าขึ้นมองคนที่เข้ามาหา แล้วถามด้วยเสียงเย็นชา “แล้วเวินซื่อล่ะ? ให้นางออกมาพบข้า”ม่อโฉวซือไท่กำลังหมุนลูกประคำในมือทีละเม็ด นางยืนอยู่บนขั้นบันไดที่ประตู มองลงมาที่เวินเฉวียนเซิ่ง“ผ่านไปหลายปีแล้ว เจ้ายังคงอวดดีจองหองเช่นเคย”ที่เอ่ยออกมาจากปากของม่อโฉวซือไท่ยิ่งเต็มไปด้วยคำพูดเหน็บแนมชัดเจนว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านางจะเป็นเจิ้นกั๋วกงผู้ทรงอำนาจในราชสำนักและประชาชน แต่นางกลับดูไม่เกรงกลัวเลยสักนิดแม้กระทั่งสายตาก็เต็มไปด้วยความเหยียดหยามที่มีต่ออีกฝ่าย“วันนี้ข้าไม่อยากพูดคุยเรื่องในอดีตกับเจ้า ตอนนี้พานางออกมาเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นเจ้าน่าจะรู้จักวิธีการของข้า”“วิธีการของเจ้า?”ม่อโฉวซือไท่กล่าวอย่างดูถูก “ที่เจ้าพูดถึงก็คือวิธีการที่ไร้ยางอายและต่ำช้าจนเหลือทนของเจ้าในตอนนั้นน่ะหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งมืดมนลงภายในชั่วแวบเดียวเขากำแส้ม้าในมือแน่น “ม่อโฉว อย่าลืมสิว่า เจ้าสามและเจ้าสี่ก็เป็นลูกของนางด้วย หรือว่าเจ้าจะปกป้องแค่คนคนเดียว แต่ไม่สนใจความเป็นความตายของอีกสองคนกระนั้นหรือ?!”“ก็มีพ่ออย่างเจ้า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 159

    “บัดนี้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาถึงพอดี เจิ้นจั๋วกงมีกิจอันใดก็ไปปรึกษากับท่านอ๋องดีกว่า หากถามข้า ข้าก็มีเพียงประโยคนั้น”หากต้องการเข้ามาในอารามสุ่ยเยว่ ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหากไม่มีพระบัญชาของฝ่าบาท สกุลเวินของพวกเขาก็อย่าได้คิดจะก้าวเข้ามาในอารามสุ่ยเยว่แม้เพียงครึ่งก้าวเวินเฉวียนเซิ่งกำแส้ม้าแน่นด้วยความโกรธทันทีอยากจะฟาดเป่ยเฉินหยวนที่ขัดหูขัดตาอยู่ข้าง ๆ ให้กระเด็นเหลือเกิน“ไม่จำเป็นแล้ว ในเมื่อเจ้ายืนกรานว่าต้องปฏิบัติตามกฎ เช่นนั้นข้าก็จะไปทูลขอฝ่าบาทเดี๋ยวนี้”เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยอย่างเย็นชา “ข้าอยากดูสิว่า คนเลือดเย็นที่กล้าวางยาพิษพี่ชายแท้ ๆ ทั้งสองของตัวเอง มีอะไรคู่ควรกับตำแหน่งธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่ฝ่าบาททรงพระราชทานยศให้ด้วยพระองค์เอง!”ว่าแล้วเวินเฉวียนเซิ่งก็กำลังจะหันหลังจากไปในขณะนี้ กองทัพธงดำหลายนายเพียง “แวบ” เดียวก็เข้ามาขวางอยู่หน้ารถม้าของจวนเจิ้นกั๋วจงแล้ว“เป่ยเฉินหยวน นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร?!”เวินเฉวียนเซิ่งหันหน้าไปจ้องมองอย่างโกรธเกรี้ยว“ไม่มีความหมายอะไร”ชายรูปงามบุ้ยปาก พลางโบกมือกล่าวว่า “ข้าแค่คิดว่าเจิ้นกั๋วกงอายุอานามขนาดนี้แล้ว การเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 160

    น่าเสียดายที่ต่อให้เวินเฉวียนเซิ่งจะมีลางสังหรณ์ไม่ดีสักแค่ไหน ก็ไม่มีเวลาที่จะเสียใจอีกแล้วเพราะหลังจากที่เวินซื่อขึ้นนั่งรถม้าของสกุลเวิน รถม้าก็ถูกกองทัพธงดำของเป่ยเฉินหยวนเข้าควบคุมทันทีตั้งแต่สารถีไปจนถึงองครักษ์ล้วนเป็นกองทัพธงดำทั้งสิ้นทำท่าราวกับจะไม่ยอมให้คนของสกุลเวินเข้าใกล้ได้แม้แต่นิดเดียวเวินเฉวียนเซิ่งที่เห็นฉากนี้ก็หน้าบึ้งทันที“นี่คือรถม้าของจวนเจิ้นกั๋วกงของข้านะ!”“ตอนนี้นี่คือรถม้าที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์กำลังนั่งแล้ว”เป่ยเฉินหยวนสีหน้าเจ้าเล่ห์ “แน่นอน ท่านสามารถเลือกที่จะขับไล่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ลงจากรถม้าก็ได้ แต่หลังจากนั้นธิดาศักดิ์สิทธิ์จะยินดีไปจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านอีกหรือไม่ ก็ไม่แน่ใจแล้ว”เวินเฉวียนเซิ่งหรี่ตาทั้งสองจ้องมองเขา เผยความอันตรายออกมาทางสายตาเป่ยเฉินหยวนบุ้ยปากอย่างไม่เกรงกลัว ปล่อยให้เขามองจนพอใจขณะนี้ เสียงอันหงุดหงิดใจของเวินซื่อก็ดังออกมาจากบนรถ...“ยังต้องรออีกนานแค่ไหนถึงจะไปได้? อย่ามัวชักช้าเสียเวลา”เป่ยเฉินหยวนยิ้มเล็กน้อย “ต้องถามท่านแล้วล่ะ ท่านเจิ้นกั๋วกง จะไปหรือว่าไม่ไป?”เวินเฉวียนเซิ่งทำเสียงฮึดฮัด “ไป”……สองชั่

Bab terbaru

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status