Share

บทที่ 159

Penulis: จิ้งซิง
“บัดนี้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาถึงพอดี เจิ้นจั๋วกงมีกิจอันใดก็ไปปรึกษากับท่านอ๋องดีกว่า หากถามข้า ข้าก็มีเพียงประโยคนั้น”

หากต้องการเข้ามาในอารามสุ่ยเยว่ ก็ต้องปฏิบัติตามกฎ

หากไม่มีพระบัญชาของฝ่าบาท สกุลเวินของพวกเขาก็อย่าได้คิดจะก้าวเข้ามาในอารามสุ่ยเยว่แม้เพียงครึ่งก้าว

เวินเฉวียนเซิ่งกำแส้ม้าแน่นด้วยความโกรธทันที

อยากจะฟาดเป่ยเฉินหยวนที่ขัดหูขัดตาอยู่ข้าง ๆ ให้กระเด็นเหลือเกิน

“ไม่จำเป็นแล้ว ในเมื่อเจ้ายืนกรานว่าต้องปฏิบัติตามกฎ เช่นนั้นข้าก็จะไปทูลขอฝ่าบาทเดี๋ยวนี้”

เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยอย่างเย็นชา “ข้าอยากดูสิว่า คนเลือดเย็นที่กล้าวางยาพิษพี่ชายแท้ ๆ ทั้งสองของตัวเอง มีอะไรคู่ควรกับตำแหน่งธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่ฝ่าบาททรงพระราชทานยศให้ด้วยพระองค์เอง!”

ว่าแล้วเวินเฉวียนเซิ่งก็กำลังจะหันหลังจากไป

ในขณะนี้ กองทัพธงดำหลายนายเพียง “แวบ” เดียวก็เข้ามาขวางอยู่หน้ารถม้าของจวนเจิ้นกั๋วจงแล้ว

“เป่ยเฉินหยวน นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร?!”

เวินเฉวียนเซิ่งหันหน้าไปจ้องมองอย่างโกรธเกรี้ยว

“ไม่มีความหมายอะไร”

ชายรูปงามบุ้ยปาก พลางโบกมือกล่าวว่า “ข้าแค่คิดว่าเจิ้นกั๋วกงอายุอานามขนาดนี้แล้ว การเ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
พรนภา
ตอนนี้สั้นมากเกินไปน้า
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 160

    น่าเสียดายที่ต่อให้เวินเฉวียนเซิ่งจะมีลางสังหรณ์ไม่ดีสักแค่ไหน ก็ไม่มีเวลาที่จะเสียใจอีกแล้วเพราะหลังจากที่เวินซื่อขึ้นนั่งรถม้าของสกุลเวิน รถม้าก็ถูกกองทัพธงดำของเป่ยเฉินหยวนเข้าควบคุมทันทีตั้งแต่สารถีไปจนถึงองครักษ์ล้วนเป็นกองทัพธงดำทั้งสิ้นทำท่าราวกับจะไม่ยอมให้คนของสกุลเวินเข้าใกล้ได้แม้แต่นิดเดียวเวินเฉวียนเซิ่งที่เห็นฉากนี้ก็หน้าบึ้งทันที“นี่คือรถม้าของจวนเจิ้นกั๋วกงของข้านะ!”“ตอนนี้นี่คือรถม้าที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์กำลังนั่งแล้ว”เป่ยเฉินหยวนสีหน้าเจ้าเล่ห์ “แน่นอน ท่านสามารถเลือกที่จะขับไล่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ลงจากรถม้าก็ได้ แต่หลังจากนั้นธิดาศักดิ์สิทธิ์จะยินดีไปจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านอีกหรือไม่ ก็ไม่แน่ใจแล้ว”เวินเฉวียนเซิ่งหรี่ตาทั้งสองจ้องมองเขา เผยความอันตรายออกมาทางสายตาเป่ยเฉินหยวนบุ้ยปากอย่างไม่เกรงกลัว ปล่อยให้เขามองจนพอใจขณะนี้ เสียงอันหงุดหงิดใจของเวินซื่อก็ดังออกมาจากบนรถ...“ยังต้องรออีกนานแค่ไหนถึงจะไปได้? อย่ามัวชักช้าเสียเวลา”เป่ยเฉินหยวนยิ้มเล็กน้อย “ต้องถามท่านแล้วล่ะ ท่านเจิ้นกั๋วกง จะไปหรือว่าไม่ไป?”เวินเฉวียนเซิ่งทำเสียงฮึดฮัด “ไป”……สองชั่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 161

    เมื่อเขากล่าวจบ แล้วจัดแจงเสื้อผ้า จากนั้นก้าวขาอย่างมั่นคงเข้าไปในจวนเจิ้นกั๋วกง เพื่อไปตามธิดาศักดิ์สิทธิ์ของเขาเวินเฉวียนเซิ่งที่ไม่เข้าใจคำพูดของเป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้วในใจยังคงระแวง “เจ้าเป่ยเฉินหยวนจำต้องตามเวินซื่อมาให้ได้ตกลงต้องการทำสิ่งใด?”ในไม่ช้า เวินเฉวียนเซิ่งได้รู้คำตอบอย่างรวดเร็วเวินซื่อกับเป่ยเฉินหยวนเข้ามาในจวนเจิ้นกั๋วกง เมื่อนั่งลงจึงเอ่ยถาม “ใต้เท้าเจิ้นกั๋วกง ตอนนี้ข้ากับอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาถึงแล้ว บังอาจถามสักคำคนสกุลเวินอยู่ในจวนทั้งหมดหรือไม่?”เวินเฉวียนเซิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อยกลับท่าทีการถามของเวินซื่อ แต่เนื่องด้วยเป่ยเฉินหยวนอยู่ข้างกาย สุดท้ายเขาไม่ได้ว่าอะไร“นอกจากบุตรชายคนโตฉางอวิ้นและบุตรชายคนรอง คนอื่นล้วนอยู่ในจวน”เวินฉางอวิ้นและเวินจื่อเฉินล้วนไปขอลาหยุดพวกเขาคนหนึ่งเป็นขุนนางในราชสำนัก อีกคนยังเล่าเรียนอยู่ในสำนักศึกษาเมื่อคืนเวินจื่อเยวี่ยถูกพิษจนหมดสติกะทันหัน ในครอบครัวน้องชายล้มลงสองคน ในฐานะพี่ใหญ่และพี่รองเวินฉางอวิ้นกับเวินจี่อเฉิงย่อมต้องกลับมาดูแลที่บ้านดังนั้นทั้งสองคนจึงไปขอลาหยุดตั้งแต่เช้า“เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 162

    อยากคลี่คลายเรื่องนี้นั้นง่ายมาก เวินซื่อแทบไม่ต้องคิดก็รู้ว่าพิษที่ทำให้เวินจื่อเยวี่ยกระอักเลือดหมดสติใครเป็นคนลงมือในงานเลี้ยงเมื่อคืน เวินจื่อเยวี่ยดูเหมือนยังดี ๆ อยู่ เพราะฉะนั้นพิษที่ว่าเขาอาจจะโดนตอนกลับมาแล้วก็ได้ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ภายในเวลาอันสั้น คนที่ลงมือวางยาพิษไม่น่าจะสามารถลบร่องรอยทั้งหมดออกไปได้ดังนั้นตอนนี้วิธีที่ง่ายที่สุดคือตรวจค้นทันที“เป็นไปไม่ได้!”เมื่อได้ยินคำขอของเวินซื่อ เวินเฉวียนเซิ่งปฏิเสธอย่างไม่ลังเล“จวนเจิ้นกั๋วกงของข้าใช่ว่าใครที่ไหนอยากตรวจค้นก็สามารถค้นได้ ต่อให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนอย่างท่านก็ไม่มีอำนาจนั้น!”เป่ยเฉินหยวนแค่นหัวเราะ เขาเตรียมเอ่ยปาก แต่เวินซื่อที่อยู่ข้างกันดึงชายเสื้อเขากะทันหันเป่ยเฉินหยวนนิ่งไปครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้ว่าอะไรส่วนคนที่กล่าวแทนเขาคือเวินซื่อเวินซื่อยิ้ม “อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนย่อมไม่มีอำนาจนั้น แต่ขอใต้เท้าเจิ้นกั๋วกงโปรดมองสถานะตอนนี้ของท่านให้ชัดเจน ไม่ใช่ข้ากับท่านอ๋องที่ต้องการมาจวนเจิ้นกั๋วกงให้ได้ แต่ท่านเป็นคนขอร้องให้พวกเรามา”“น้องห้า เหตุใดจึงปฏิบัติต่อท่านพ่อเช่นนี้...”เวินฉางอวิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 163

    แต่หลังจากเวินซื่อได้ยินคำพูดของเขา กลับส่ายหน้า “ไม่ต้อง ข้ารู้ว่าใครเป็นคนวางยาพิษ ดังนั้นครั้งนี้ข้าจัดการเอง”นางไม่เพียงจะจัดการเรื่องนี้ แต่จะจัดการผู้อยู่เบื้องหลังที่อวดดีคนนั้นด้วยท้าทายนางครั้งแล้วครั้งเล่า คิดว่านางเป็นแมวป่วยหรืออย่างไร?หากไม่สั่งสอนให้เข็ดหลาบเสียบ้าง เกรงว่าภายหลังคงไม่จบไม่สิ้นกันสักทีดังนั้นบทสรุปสุดท้ายคือ เวินซื่อมา เป่ยเฉินหยวนที่ไม่วางใจจึงตามมาด้วย“แน่นอน ใต้เท้าเจิ้นกั๋วกงสามารถปฏิเสธคำขอของข้าได้ แต่ท่านต้องตรึกตรองให้ดี อาการของคุณชายสามดูเหมือนจะหนักหนาสาหัส ก็ไม่รู้ว่าจะยืนหยัดได้อีกนานเท่าใด?”มุมปากเวินซื่อยกขึ้นเล็กน้อยยามนี้ทั้งที่นางสวมชุดสีฟ้าทะเล แต่วาจาที่กล่าวออกมากลับโหดร้ายทารุณกายสวมชุดโพธิสัตว์ ปากคาบดาบเปื้อนเลือดเมตตาหรือ?เมื่อมองเวินซื่อที่เป็นเช่นนี้ จิตใจเป่ยเฉินหยวนรู้สึกเพียงหวาดหวั่นไม่น้อยหัวใจที่อยู่ตรงหน้าอกยิ่งเต้นตึกตักระรัวไม่หยุดทั้งที่ก่อนหน้านี้สวดมนต์ให้เขาฟัง ยังบริสุทธิ์ไร้ราคี ราวกับเทพธิดามาเยือนโลกมนุษย์ทว่าเวินซื่อในยามนี้ยิ่งทำให้เขาไม่อาจถอนตัวเป่ยเฉินหยวนเผลอลูบหน้าอกตัวเองแย่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 164

    “หงอวี้ ด้านนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น เหตุใดด้านนอกจึงเอะอะเสียงดัง?”ภายในห้องของเวินอวี้จือ เวินเยวี่ยนั่งอยู่ข้างเตียง ขมวดคิ้วเอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์หงอวี้ย่อตัว “บ่าวจะออกไปดูเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”เพิ่งจะเดินไปถึงหน้าประตูห้อง นอกเรือนมีคนจำนวนหนึ่งเดินเข้ามา แต่ละคนสวมชุดเกราะสีดำ มีดาบตรงเอว ท่าทางดุดัน ทำให้หงอวี้ตกใจจนหน้าซีด“พวกเจ้าเป็นใคร? ที่นี่คือเรือนของคุณชายสี่แห่งจวนเจิ้นกั๋วกง พวกเจ้าบุกเข้ามาทำไม? !”“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนกับธิดาศักดิ์สิทธิ์เรียนเชิญ ให้คุณชายสี่และคุณหนูหกของพวกเจ้าไปเรือนส่วนหน้ากับพวกเรา”เวินเยวี่ยที่ได้ยินความเคลื่อนไหวผิดปกติรีบออกมาตรวจดู พลันได้ยินเข้าพอดี สีหน้านางเปลี่ยนเล็กน้อย “อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนหรือ?”เหตุใดชายผู้นั้นจึงมาอีกแล้ว?เวินเยวี่ยรู้แต่แรกว่าวันนี้เวินเฉวียนเซิ่งต้องพาตัวเวินซื่อกลับมาแน่นอน เพราะนี่คือแผนการของนางตั้งแต่แรกรอให้เวินซื่อกลับมาถึง นางจึงจะโยนความผิดเรื่องวางยาพิษทำร้ายพี่ชายไปให้เวินซื่อทั้งหมดแต่นึกไม่ถึงว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนจะตามมาด้วยเวินเยวี่ยกัดฟันกรอด แล้วเข้าไปสอบถาม “ไม่ทราบว่าท่านอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 165

    สำหรับการกระทำเล็กน้อยของนาง เวินซื่อได้แต่แค่นเสียง ไม่ได้อยู่ในสายตาเพราะตอนนี้เป็นเพียงการสั่งสอนเล็กน้อยเท่านั้น ต่อไปถึงจะเป็นรางวัลชิ้นใหญ่ที่นางมอบให้เวินเยวี่ย“ในเมื่อทุกคนมาครบแล้ว เช่นนั้นเริ่มกันเถอะ”เวินซื่อกล่าวเสียงเรียบ ตั้งแต่ต้นจนจบ นางไม่มองเวินจื่อเยวี่ยกับเวินอวี้จือบนพื้นแม้แต่ครั้งเดียวท่าทีเช่นนี้ทำให้เวินจื่อเฉินรู้สึกขมขื่นอยู่ในใจอย่างอดไม่ได้เป่ยเฉินหยวนหันมองเวินเฉวียนเซิ่ง “เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็น จากนี้ต้องรบกวนเจิ้นกั๋วกงไปตรวจค้นพร้อมข้า”เวินเฉวียนเซิ่งไม่พูดสิ่งใดแต่ในใจเวินเยวี่ยกลับกระตุกวาบ นางเอ่ยถามโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “ท่านพ่อ คนมากมายขนาดนี้จะทำสิ่งใดเจ้าคะ?”เวินเฉวียนเซิ่งถึงได้เอ่ยขึ้น “ท่านอ๋องกับธิดาศักดิ์สิทธิ์สงสัยว่าคนวางยาพิษอยู่ในจวน ดังนั้นจึงต้องตรวจค้น”สีหน้าเวินเยวี่ยเกือบจะควบคุมเอาไว้ไม่อยู่อะไรคือคนวางยาพิษอยู่ในจวน?ไม่ได้ชัดเจนว่าเป็นเวินซื่อแล้วหรือ?ทำไมออกไปเพียงครั้งเดียว ก็กลายเป็นต้องค้นจวนแล้วล่ะ? !ในใจเวินเยวี่ยเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีทันทีนางนึกย้อนไปอย่างละเอียดเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 166

    กระจกร้าวยากจะเหมือนเดิม...เวินจื่อเฉินชะงักอยู่ที่เดิมเขาไม่ต้องการคำนี้เขาต้องการกระจกร้าวกลับมาเหมือนเดิม จะกลายเป็นยากจะเหมือนเดิมได้อย่างไร?คำตอบนี้ทำให้เวินจื่อเฉินปวดใจ จนแทบจะยืนไม่ติดของขวัญที่เขามอบให้เวินซื่อคือกระจกหยกลายหงส์และนางฟ้าหนึ่งบาน อย่าว่าแต่เมืองหลวง ทั่วทั้งราชวงศ์ต้าหมิงก็มีเพียงไม่กี่บานเขารู้ตัวว่าทำให้น้องสาวไม่พอใจ น้องสาวจึงโกรธเขามากดังนั้นเขาแทบจะทุ่มหมดตัวเพื่อแลกมาจากสหาย ก็เพื่อมอบให้เวินซื่อเขาคิดว่า บางทีเช่นนี้อาจทำให้น้องสาวหายโกรธได้บ้าง?หากน้องสาวสามารถเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่บนของขวัญ จะยิ่งดีมากแต่เขานึกไม่ถึง เวินซื่อเข้าใจได้จริง ๆ แต่คำตอบที่เขาได้รับกลับทำให้เวินจื่อเฉินหวาดกลัว“ไม่ เพราะของขวัญไม่ดี พี่รองไม่เลือกให้ดี...”เวินจื่อเฉินมองเวินซื่อแล้วส่ายหน้าไม่หยุด เขาฝืนยิ้มพร้อมกล่าว “น้องห้าอย่าโกรธพี่ เดี๋ยวพี่รองจะเลือกให้เจ้าใหม่อีกหนึ่งชิ้น ไม่ ชิ้นเดียวไม่พอ ต้องเลือกหลายชิ้น น้องห้าเจ้าอยากได้สิ่งใด? พี่รองจะซื้อให้เจ้าหมดเลย!”ขอเพียงไม่เอ่ยคำพูดนั้น!เวินจื่อเฉินราวกับถูกสะกดเขามองเวินซื่อที่นั่งอย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 167

    เมื่อได้ยินหัวหน้ากองทัพธงดำกล่าวเช่นนี้ เวินฉางอวิ้นกับเวินจื่อเฉินไม่อาจขัดขวางได้แต่มองดูพวกเขายกน้องสามน้องสี่ออกไปพร้อมกันเพียงไม่นาน คนทั้งหมดไปถึงสถานที่แห่งหนึ่งเดิมทีแววตาเวินเยวี่ยไม่แยแส แต่เมื่อเริ่มเข้าไปใกล้สถานที่หนึ่งในไม่ช้าก็เริ่มเปลี่ยนไปโดยเฉพาะเมื่อเห็นทุกคนรายล้อมอยู่ตรงหน้าบ่อน้ำร้างด้านหลังห้องเก็บฟืน นางสั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อพวกนางมาถึง เป่ยเฉินหยวนกับเวินเฉวียนเซิ่งที่อยู่ข้างบ่อน้ำต่างทยอยเงยหน้ามอง“หาสิ่งใดพบหรือ?”เวินซื่อก้าวขาเข้าไป พลันเห็นถุงกระดาษไขที่ถูกนำออกมาจากบ่อน้ำร้าง สิ่งที่ถูกห่อไว้ด้านในคือเป็ดทอดกรอบครึ่งตัว“ให้คนตรวจสอบแล้ว พิษที่อยู่บนนี้กับพิษที่อยู่ในตัวคุณชายสามคือพิษชนิดเดียวกัน”เวินซื่อได้ยินดังนั้น อมยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ลงมือจากเป็ดทอดกรอบที่เวินจื่อเยวี่ยชอบกินมากที่สุด ดูท่าจะเข้าใจเขาไม่น้อย”เวินจื่อเฉินที่อยู่ด้านหลังเงยหน้ามองนางครั้งหนึ่งเวินเยวี่ยพยายามใจเย็นอย่าลนลาน อย่าลนลาน!ต่อให้หาเจอแล้วทำอะไรได้ ไม่มีใครยืนยันได้ว่านางเป็นคนทำ!“ยังมีอะไรอีก?”เวินซื่อเอ่ยถามเป่ยเฉินหยวนยิ้ม “ยังมีขวดยาขวดหน

Bab terbaru

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status