Share

บทที่ 164

Author: จิ้งซิง
“หงอวี้ ด้านนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น เหตุใดด้านนอกจึงเอะอะเสียงดัง?”

ภายในห้องของเวินอวี้จือ เวินเยวี่ยนั่งอยู่ข้างเตียง ขมวดคิ้วเอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์

หงอวี้ย่อตัว “บ่าวจะออกไปดูเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”

เพิ่งจะเดินไปถึงหน้าประตูห้อง นอกเรือนมีคนจำนวนหนึ่งเดินเข้ามา แต่ละคนสวมชุดเกราะสีดำ มีดาบตรงเอว ท่าทางดุดัน ทำให้หงอวี้ตกใจจนหน้าซีด

“พวกเจ้าเป็นใคร? ที่นี่คือเรือนของคุณชายสี่แห่งจวนเจิ้นกั๋วกง พวกเจ้าบุกเข้ามาทำไม? !”

“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนกับธิดาศักดิ์สิทธิ์เรียนเชิญ ให้คุณชายสี่และคุณหนูหกของพวกเจ้าไปเรือนส่วนหน้ากับพวกเรา”

เวินเยวี่ยที่ได้ยินความเคลื่อนไหวผิดปกติรีบออกมาตรวจดู พลันได้ยินเข้าพอดี สีหน้านางเปลี่ยนเล็กน้อย “อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนหรือ?”

เหตุใดชายผู้นั้นจึงมาอีกแล้ว?

เวินเยวี่ยรู้แต่แรกว่าวันนี้เวินเฉวียนเซิ่งต้องพาตัวเวินซื่อกลับมาแน่นอน เพราะนี่คือแผนการของนางตั้งแต่แรก

รอให้เวินซื่อกลับมาถึง นางจึงจะโยนความผิดเรื่องวางยาพิษทำร้ายพี่ชายไปให้เวินซื่อทั้งหมด

แต่นึกไม่ถึงว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนจะตามมาด้วย

เวินเยวี่ยกัดฟันกรอด แล้วเข้าไปสอบถาม “ไม่ทราบว่าท่านอ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
WLFJ
ยัยเวินเยี่ยแค้นอะไรนางเอกนักหนา ไม่เข้าใจ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 165

    สำหรับการกระทำเล็กน้อยของนาง เวินซื่อได้แต่แค่นเสียง ไม่ได้อยู่ในสายตาเพราะตอนนี้เป็นเพียงการสั่งสอนเล็กน้อยเท่านั้น ต่อไปถึงจะเป็นรางวัลชิ้นใหญ่ที่นางมอบให้เวินเยวี่ย“ในเมื่อทุกคนมาครบแล้ว เช่นนั้นเริ่มกันเถอะ”เวินซื่อกล่าวเสียงเรียบ ตั้งแต่ต้นจนจบ นางไม่มองเวินจื่อเยวี่ยกับเวินอวี้จือบนพื้นแม้แต่ครั้งเดียวท่าทีเช่นนี้ทำให้เวินจื่อเฉินรู้สึกขมขื่นอยู่ในใจอย่างอดไม่ได้เป่ยเฉินหยวนหันมองเวินเฉวียนเซิ่ง “เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็น จากนี้ต้องรบกวนเจิ้นกั๋วกงไปตรวจค้นพร้อมข้า”เวินเฉวียนเซิ่งไม่พูดสิ่งใดแต่ในใจเวินเยวี่ยกลับกระตุกวาบ นางเอ่ยถามโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “ท่านพ่อ คนมากมายขนาดนี้จะทำสิ่งใดเจ้าคะ?”เวินเฉวียนเซิ่งถึงได้เอ่ยขึ้น “ท่านอ๋องกับธิดาศักดิ์สิทธิ์สงสัยว่าคนวางยาพิษอยู่ในจวน ดังนั้นจึงต้องตรวจค้น”สีหน้าเวินเยวี่ยเกือบจะควบคุมเอาไว้ไม่อยู่อะไรคือคนวางยาพิษอยู่ในจวน?ไม่ได้ชัดเจนว่าเป็นเวินซื่อแล้วหรือ?ทำไมออกไปเพียงครั้งเดียว ก็กลายเป็นต้องค้นจวนแล้วล่ะ? !ในใจเวินเยวี่ยเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีทันทีนางนึกย้อนไปอย่างละเอียดเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 166

    กระจกร้าวยากจะเหมือนเดิม...เวินจื่อเฉินชะงักอยู่ที่เดิมเขาไม่ต้องการคำนี้เขาต้องการกระจกร้าวกลับมาเหมือนเดิม จะกลายเป็นยากจะเหมือนเดิมได้อย่างไร?คำตอบนี้ทำให้เวินจื่อเฉินปวดใจ จนแทบจะยืนไม่ติดของขวัญที่เขามอบให้เวินซื่อคือกระจกหยกลายหงส์และนางฟ้าหนึ่งบาน อย่าว่าแต่เมืองหลวง ทั่วทั้งราชวงศ์ต้าหมิงก็มีเพียงไม่กี่บานเขารู้ตัวว่าทำให้น้องสาวไม่พอใจ น้องสาวจึงโกรธเขามากดังนั้นเขาแทบจะทุ่มหมดตัวเพื่อแลกมาจากสหาย ก็เพื่อมอบให้เวินซื่อเขาคิดว่า บางทีเช่นนี้อาจทำให้น้องสาวหายโกรธได้บ้าง?หากน้องสาวสามารถเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่บนของขวัญ จะยิ่งดีมากแต่เขานึกไม่ถึง เวินซื่อเข้าใจได้จริง ๆ แต่คำตอบที่เขาได้รับกลับทำให้เวินจื่อเฉินหวาดกลัว“ไม่ เพราะของขวัญไม่ดี พี่รองไม่เลือกให้ดี...”เวินจื่อเฉินมองเวินซื่อแล้วส่ายหน้าไม่หยุด เขาฝืนยิ้มพร้อมกล่าว “น้องห้าอย่าโกรธพี่ เดี๋ยวพี่รองจะเลือกให้เจ้าใหม่อีกหนึ่งชิ้น ไม่ ชิ้นเดียวไม่พอ ต้องเลือกหลายชิ้น น้องห้าเจ้าอยากได้สิ่งใด? พี่รองจะซื้อให้เจ้าหมดเลย!”ขอเพียงไม่เอ่ยคำพูดนั้น!เวินจื่อเฉินราวกับถูกสะกดเขามองเวินซื่อที่นั่งอย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 167

    เมื่อได้ยินหัวหน้ากองทัพธงดำกล่าวเช่นนี้ เวินฉางอวิ้นกับเวินจื่อเฉินไม่อาจขัดขวางได้แต่มองดูพวกเขายกน้องสามน้องสี่ออกไปพร้อมกันเพียงไม่นาน คนทั้งหมดไปถึงสถานที่แห่งหนึ่งเดิมทีแววตาเวินเยวี่ยไม่แยแส แต่เมื่อเริ่มเข้าไปใกล้สถานที่หนึ่งในไม่ช้าก็เริ่มเปลี่ยนไปโดยเฉพาะเมื่อเห็นทุกคนรายล้อมอยู่ตรงหน้าบ่อน้ำร้างด้านหลังห้องเก็บฟืน นางสั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อพวกนางมาถึง เป่ยเฉินหยวนกับเวินเฉวียนเซิ่งที่อยู่ข้างบ่อน้ำต่างทยอยเงยหน้ามอง“หาสิ่งใดพบหรือ?”เวินซื่อก้าวขาเข้าไป พลันเห็นถุงกระดาษไขที่ถูกนำออกมาจากบ่อน้ำร้าง สิ่งที่ถูกห่อไว้ด้านในคือเป็ดทอดกรอบครึ่งตัว“ให้คนตรวจสอบแล้ว พิษที่อยู่บนนี้กับพิษที่อยู่ในตัวคุณชายสามคือพิษชนิดเดียวกัน”เวินซื่อได้ยินดังนั้น อมยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ลงมือจากเป็ดทอดกรอบที่เวินจื่อเยวี่ยชอบกินมากที่สุด ดูท่าจะเข้าใจเขาไม่น้อย”เวินจื่อเฉินที่อยู่ด้านหลังเงยหน้ามองนางครั้งหนึ่งเวินเยวี่ยพยายามใจเย็นอย่าลนลาน อย่าลนลาน!ต่อให้หาเจอแล้วทำอะไรได้ ไม่มีใครยืนยันได้ว่านางเป็นคนทำ!“ยังมีอะไรอีก?”เวินซื่อเอ่ยถามเป่ยเฉินหยวนยิ้ม “ยังมีขวดยาขวดหน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 168

    “เถ้าแก่ภัตตาคารเฟิ่งเซียนหรือ?”“ถูกต้อง เพื่อสะดวกต่อการซักถาม ข้ากับธิดาศักดิ์สิทธิ์ได้ส่งคนไปเชิญเถ้าแก่ภัตตาคารเฟิ่งเซียนมาที่นี่แล้ว”เป่ยเฉินหยวนยืนอยู่ข้างกายเวินซื่อ รูปร่างสูงใหญ่โน้มตัวปกคลุมร่างอรชรเล็กน้อย พร้อมกับยิ้มเหมือนนางแล้วมองดูทุกคนในสกุลเวิน“พวกเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเป็ดทอดกรอบนี่ต้องเป็นเป็ดทอดกรอบของภัตตาคารเฟิ่งเซียน?”สุดท้ายเวินเฉวียนเซิ่งทำใจไม่ได้ที่สุดท้ายเมื่อความจริงเปิดเผย บุตรสาวที่น่าสงสารของเขาคนนี้จะน่าเวทนาขนาดไหนดังนั้นจนมาถึงขนาดนี้แล้ว เวินเฉวียนเซิ่งก็ยังคิดหาวิธีช่วยเวินเยวี่ยปกปิดความจริงกระนั้นคนที่เขาต้องเผชิญหน้าในวันนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เขาจะกำราบอยู่ในกำมือ แต่เป็นสองคนที่แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเช่นเป่ยเฉินหยวนหากจะบอกว่าเขาเวินเฉวียนเซิ่งคือจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่ง ถ้างั้นเป่ยเฉินหยวนก็คือหมาป่าที่ดุร้ายโหดเหี้ยมตัวหนึ่งเขาสามารถทำให้เจิ้นกั๋วกงที่มีอำนาจล้นมือในราชสำนักยอมกล้ำกลืนก้มหัวต่อหน้า ไม่เพียงเพราะในมือเขามีทหารอยู่ในมือหลายแสนนาย ยังมีฝีมือฆ่าคนโดยไม่กระพริบตาของเขาเวินเฉวียนเซิ่งกล้าเคาะโต๊ะใส่เขา แ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 169

    เป่ยเฉินหยวนรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปแล้วเขาเป็นถึงอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่อยู่ใต้ผู้เดียวอยู่เหนือคนนับหมื่น มีแต่เขาที่เอ่ยปากใช้คนอื่น แต่ยามนี้เขากลับชอบความรู้สึกที่ถูกนางหนูคนนี้เรียกใช้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้นเมื่อเวินซื่อเอ่ยขึ้น เขาจึงเงยหน้าอย่างดีใจทันทีพร้อมทำท่าหากเวินเฉวียนเซิ่งไม่ลงมือ เขาจะเข้าไปช่วยจริง ๆ เวินเฉวียนเซิ่งจะปล่อยให้เขาช่วยได้อย่างไร?เวินเฉวียนเซิ่งสีหน้าถมึงทึงหลังจากลังเลอยู่สักครู่ เขาจึงหันมองผู้ที่หลบอยู่ด้านหลังเวินฉางอวิ้น จากนั้นท่ามกลางสายตาไม่อยากจะเชื่อของลูกชายหลายคน เขาเอ่ยชื่อคนคนหนึ่ง...“เยวี่ยเอ๋อร์ ออกมา”คำสั้นๆ เพียงสี่พยางค์ ทำให้เวินเยวี่ยก่นด่าเวินซื่ออยู่ในใจนับครั้งไม่ถ้วนนางแพศยา นางแพศยา นางแพศยา!สมควรตาย ทำไมตอนนั้นนางไม่วางยานางแพศยาเวินซื่อผู้นี้ให้ตายๆ ไปซะ? !ตอนนี้เวินเยวี่ยแทบอยากย้อนเวลากลับไปเมื่อสองเดือนก่อน อยากจะวางยาพิษเวินซื่อให้ตายก่อนที่นางจะออกจากจวนเจิ้นกั๋วกง!ตอนนั้นต่อให้ท่านพ่อรู้ว่านางเป็นคนวางยาพิษ ก็คงไม่ทำอะไรนางแน่นอนแต่ตอนนี้สายไปแล้ว คนชั่วผู้นี้อาศัยฐานะที่ฝ่าบาทพระราชทานให้ อาศั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 170

    เวินเยวี่ยกัดริมฝีปาก สมองแล่นอย่างบ้าคลั่งในที่สุดก็มีความคิดหนึ่งปรากฏ เหมือนนึกถึงบางอย่างผิวเผินนางยังแสร้งทำสีหน้าน่าสงสาร “เยวี่ยเอ๋อร์เองก็ไม่รู้ หงอวี้บอกข้าแค่ว่านางไม่สบาย อยากไปหาหมอ ส่วนเรื่องอื่นเยวี่ยเอ๋อร์ไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ หากพี่รองสงสัย ก็ให้หงอวี้ออกมา แล้วพี่รองถามนางต่อหน้าดีหรือไม่?”ระหว่างที่พูด นางแอบส่งสายตาที่บอกใบ้และเต็มไปด้วยการตักเตือนให้หงอวี้ที่อยู่ด้านข้างหงอวี้ที่เข้าใจทันทีร่างกายสั่นสะท้านไปทั้งตัวในขณะที่ทุกคนหันมองนาง นางเห็นกับตาว่าคุณหนูของนางอ้าปากพูดโดยไร้เสียงหลายคำอย่าลืมครอบครัวของเจ้าวินาทีนั้น หงอวี้ราวกับตกลงไปในหลุมน้ำแข็ง เย็นเยือกไปทั้งใจเสียงดังตุบ!สุดท้ายหงอวี้ที่ยอมรับชะตากรรมคุกเข่าลงพื้น พร้อมร้องไห้ “บ่าวทำเองเจ้าค่ะ ทุกอย่างไม่เกี่ยวกับคุณหนูของข้า...”“เป็ดทอดกรอบบ่าวไปซื้อในนามของคุณหนู ยาพิษบ่าวก็แอบวางยาเอง หลังจากวางยาแล้วบ่าวกลัวเรื่องจะแดงขึ้นมา จึงกำจัดยาพิษแล้วนำขวดไปซ่อนไว้ในห้องคุณชายสี่ ทุกสิ่งทุกอย่างบ่าวเป็นคนทำเองเจ้าค่ะ”“หงอวี้ นึกไม่ถึงว่าข้าเชื่อใจเจ้าขนาดนี้ เจ้ากลับกล้าวางยาพวกพี่ชายลับหลัง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 171

    “เอาละ ไม่ต้องพูดจาไร้สาระแล้ว”เวินเฉวียนเซิ่งได้ฟังมาถึงตรงนี้ รู้สึกว่าเรื่องราวก็คงจะประมาณนี้ เขาจึงขัดจังหวะคำพูดของนาง และตัดสินใจสรุปเรื่องราวทั้งหมด “ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะถูกตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้ว เห็นได้ชัดว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากบ่าวรับใช้ผู้นี้ที่ล่วงเกินผู้เป็นนาย คิดร้ายหมายเอาชีวิตผู้เป็นนาย ความผิดเช่นนี้ ต่อไปพวกข้าจะจัดการตามกฎของตระกูล ส่วนที่เหลือก็ไม่จำเป็นต้องรบกวนท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนและธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว”ทว่าพอเขากล่าวจบ ก็ได้ยินเวินซื่อเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “คุณหนูหก เจ้าไม่รู้อะไรเลยจริงๆ หรือ?”แน่นอนว่าเวินเยวี่ยยังคงแสร้งทำตัวน่าสงสารต่อไป “ไม่รู้จริงๆ ขอร้องพี่หญิงห้าท่าน...ธิดาศักดิ์สิทธิ์ได้โปรดอย่าได้มีอคติกับเยวี่ยเอ๋อร์ เพียงเพราะความเข้าใจผิดในอดีตเลย”นางจงใจกล่าวอย่างอ้อมค้อมเป็นอย่างยิ่งแต่คนอื่นๆ ที่ได้ยินกลับรู้สึกว่าเวินซื่อกำลังหาเรื่องจับผิดนางเวินฉางอวิ้นกำลังจะกล่าวอะไรบางอย่าง เวินซื่อก็หัวเราะออกมา “อคติอย่างนั้นหรือ? เจ้าคิดเช่นนั้นได้อย่างไร? ข้าไม่เคยแม้แต่จะชายตามองเจ้าด้วยซ้ำ”เมื่อเอ่ยคำพูดนี้ออกมา ทุกคนที่อยู่ในเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 172

    “พวกเขาพูดเหลวไหล...พวกเขากำลังพูดจาเหลวไหล!”“พวกเขากำลังใส่ร้ายข้า พี่หญิงห้า เหตุใดท่านถึงให้พวกเขามาใส่ร้ายข้า?!”เวินเยวี่ยกัดฟันแน่นยืนกราน พยายามที่จะแก้ต่างให้ตัวเอง แต่เวินซื่อกลับยิ้ม ไม่พูดอะไรเจ้าของร้านขายยาคนหนึ่งล้วงมือเข้าไปในอก หยิบกระดาษปึกหนึ่งออกมา “คิดว่าคุณหนูหกคงจะไม่ลืม สมุดเล่มนี้ที่เขียนไว้ในร้านยาของข้าเมื่อวานนี้กระมัง ถึงแม้ว่าชื่อและฐานะจะไม่เหมือนกับในมือของอีกสองคน แต่เวลาที่ซื้อยานั้นไม่มีทางผิดพลาด”เจ้าของร้านขายยาอีกสองคนก็หยิบสมุดในมือของพวกเขาออกมาเช่นกันหลังจากที่มอบให้เป่ยเฉินหยวนแล้ว เป่ยเฉินหยวนก็มอบให้กับเวินซื่อโดยตรงเวินซื่อดูสองสามครั้ง ก่อนจะให้คนนำไปมอบให้เวินเฉวียนเซิ่งเวินเฉวียนเซิ่งก้มลงกวาดตามองทีละแผ่น สุดท้ายเวินฉางอวิ้นที่ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อความจริงนี้ รับมาจากมือของท่านพ่อ หลังจากที่เขาเห็นเวลาที่ระบุไว้บนนั้นอย่างชัดเจนแล้ว เขาก็ค่อยๆ หลับตาลงทันใดนั้น หัวใจของเวินเยวี่ยก็กระตุกนางกรอกสมุดอะไรไปกัน แต่ชื่อและฐานะอะไรพวกนั้นที่นางเขียนลงไปล้วนเป็นของปลอม แบบนี้จะใช้เป็นหลักฐานได้อย่างไร?เป็นไปได้อย่างไร?!“ไม่!

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 310

    ขวานในมือของเวินจื่อเฉินชะงักงันในทันใดไม่ใช่เพราะประโยคสุดท้ายของเวินอวี้จือแต่เป็นเพราะเขานึกขึ้นได้อย่างฉับพลัน หากเวินเยวี่ยได้ขึ้นเป็นสนมจริง ด้วยอุปนิสัยของนาง คงไม่มีวันปล่อยน้องสาวของเขาไปเด็ดขาดแม้ว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนจะยินดีให้ท้ายน้องสาวของเขา แต่การสนับสนุนเช่นนี้จะอยู่ต่อไปได้นานแค่ไหน?หากต่อไปฝ่าบาทก็ยืนอยู่ข้างเวินเยวี่ย อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่เป็นฝ่ายปกป้องราชสำนักอยู่แล้ว จะปกป้องน้องสาวของเขาต่อไปหรือไม่?เวินจื่อเฉินนึกถึงความเป็นไปได้นั้น ต่อให้มีความเป็นไปได้น้อยมาก ก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าหากถึงเวลานั้นจริง ๆ เขาที่กลายเป็นสามัญชนแล้วจะปกป้องน้องสาวได้อย่างไรอีก?เวินจื่อเฉินก็รู้สึกหนาวสั่นทั้งตัวในทันใดเขาวางขวานลง แล้วหมุนตัวมองไปทางเวินอวี้จือ “ที่พวกเจ้าบอกว่าฝ่าบาทต้องการรับเวินเยวี่ยเข้าวังเป็นสนมนั้นเป็นเรื่องจริงหรือ?”“เป็นความจริงแน่นอน!”เวินจื่อเยวี่ยยืนขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า “เรื่องนี้ฝ่าบาทตรัสเองในงานเลี้ยงใหญ่ในวันเหมายันด้วยพระองค์เอง ถึงกับให้นางอยู่ในวังเพื่อเรียนรู้กฎระเบียบ รอให้นางเรียนรู้กฎระเบียบเสร็จสิ้นแล้วจะแต่งตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 309

    “เสียใจอะไร?”เวินจื่อเฉินขมวดคิ้ว มองดูทั้งสองด้วยความไม่เข้าใจ “ตอนนี้ข้ามีชีวิตที่ดีมาก”แม้ว่าจะตัดขาดจากความรุ่งโรจน์และมั่งคั่งของจวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว ใช้ชีวิตเหน็ดเหนื่อยขึ้นเล็กน้อย ยุ่งขึ้นเล็กน้อยแต่ชีวิตแบบนี้กลับทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายทางจิตใจอย่างที่ไม่เคยได้เจอมานานโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากถูกงูพิษกัดในครั้งนั้น เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ท่าทีของน้องสาวที่มีต่อเขาผ่อนคลายลงบ้างแล้วแม้ว่าเขาจะยังไปพบน้องสาวไม่ได้ แต่สิ่งของที่เขาส่งไปที่อารามสุ่ยเยว่ก็ไม่เคยถูกส่งคืนมาเวินจื่อเฉินรู้สึกว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ สักวันหนึ่งน้องสาวจะให้อภัยเขาดังนั้นเขาจึงไม่เสียใจ“พวกเจ้ามาหาข้าด้วยธุระอันใด? รีบบอกมาเร็ว อย่าทำให้ข้าเสียเวลาทำงานอีกเลย”ค่าจ้างของเขาในวันนี้จะคิดเป็นชั่วยามหากทำงานน้อยลง ค่าจ้างก็จะถูกคนอื่นหักไปเวินจื่อเฉินยังต้องการหาเงินให้มากขึ้นเพื่อซื้อขนมอบให้น้องสาว ไม่อยากให้ค่าจ้างของตัวเองถูกหักไปเวินจื่อเยวี่ยมองดูเวินจื่อเฉินในสภาพเช่นนี้ ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกรังเกียจ “ข้าว่านะพี่รอง ท่านดูสิว่าตอนนี้ท่านอยู่ในสภาพไหน? ผมคลุกฝุ่น

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 308

    สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งถอนกลับจากภายนอกอย่างช้า ๆ เขาเหลือบมองขาของเวินจื่อเยวี่ยอย่างเฉยชา“ยังไม่รู้ว่าเป็นนางจริง ๆ หรือเปล่า แต่คาดเดาว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับนางอย่างตัดไม่ขาด”“ข้ารู้อยู่แล้ว!”เวินจื่อเยวี่ยพูดอย่างโกรธเคือง “เวินซื่อจะไม่ปล่อยน้องหกไปแน่! คราวก่อนก็ใส่ร้ายน้องหกว่าขโมยกระดูกของท่านแม่ไป ตอนนี้แทนที่จะยอมรับผิดกลับเล่นงานฝ่ายตรงข้าม ซ้ำยังกล้าโกหกและร้องเรียนต่อฝ่าบาท ทำให้น้องหกถูกขังไว้ในวัง!”เมื่อได้ยินคำพูดครึ่งแรกของเวินจื่อเยวี่ย เวินเฉวียนเซิ่งก็นิ่งไปเล็กน้อยแต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไรสักอย่าง“ในเมื่อมีความเกี่ยวข้องกับเวินซื่อ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไม่ต้องไปหานางอีกหรือ?”เวินอวี้จือขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ค่อยอยากจะไปพบเวินซื่อสักเท่าใด“ถ้าพวกเจ้าไม่อยากไป ก็สามารถไปหาพี่รองของพวกเจ้าได้”เวินเฉวียนเซิ่งเสนอความคิดให้พวกเขาอย่างเฉยชาเมื่อเวินอวี้จือได้ยินดังนั้น ก็ลูบคางเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรขึ้นมาเวินจื่อเยวี่ยลังเลเล็กน้อย “พี่รองเขาจะตอบตกลงไหม?”ครั้งที่แล้วตอนที่เวินจื่อเฉินออกจากจวนเจิ้นกั๋วกง ก็เอะอะโวยวายกว่าพี่ใหญ่เสียอีกสีหน้ามีแว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 307

    “ท่านพ่ออีกคน ท่านก็เหมือนกัน ลูกรู้ว่าท่านลำเอียงเข้าข้างน้องหก แต่หัวใจของท่านก็อย่าเอนเอียงจนเกินไป!”เวินฉางอวิ้นจ้องเขม็งใส่บิดาท่านนี้ที่เขาเคยเคารพศรัทธามาโดยตลอดทั้ง ๆ ที่เคยเป็นแบบอย่างที่เขาอยากเดินตาม แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าอะไร ๆ ล้วนไม่จริง!ตัวตนของน้องหกก็ไม่จริงความรู้สึกของพ่อที่มีต่อแม่ก็ไม่จริงยังมีภาพลักษณ์พี่ชายที่ดีที่สุดในเมืองหลวงของเขา ก็ไม่จริงเช่นกัน!เขาไม่สมควรที่จะเรียกตัวเองแบบนั้น!เมื่อนึกขึ้นมาในตอนนี้ เขารู้สึกเสียใจมากจริง ๆทั้ง ๆ ที่เขาเป็นพี่ชายคนโตของครอบครัวนี้ แต่กลับไม่ห้ามน้องสาวออกบวช และไม่ได้เกลี้ยกล่อมน้องชายที่ออกจากบ้านให้กลับมาบัดนี้เมื่อเขาได้สติในที่สุด ก็ได้สูญเสียน้องห้าและน้องรองไปแล้วเวินฉางอวิ้นมองดูน้องชายสองคนที่เหลืออยู่ในบ้าน มองดูพวกเขาเหมือนกับตัวเองเมื่อก่อนทุกประการ ท่าทางไม่มีสติเลยแม้แต่นิดเดียวเขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “น้องสาม น้องสี่ ดูแลครอบครัวนี้ให้ดี หากพวกเจ้ายังไม่ได้สติอีกล่ะก็ ครอบครัวนี้ก็จะแตกแยกจริง ๆ แล้ว!น่าเสียดายที่เวินจื่อเยวี่ยไม่เข้าใจเวินอวี้จือก็ไม่เข้าใจเช่นกันพวกเขามองพี่ใหญ่ท

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 306

    การระเบิดคำถามอย่างกะทันหันของเวินฉางอวิ้น ทำให้ทั้งเวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือที่ตั้งใจจะคุยกับเวินจื่อเยวี่ยตกตะลึงไปเวินเฉวียนเซิ่งไม่ได้เอ่ยปาก เพียงแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางเหลือบมองเวินฉางอวิ้นเวินจื่อเยวี่ยเปิดปาก อยากจะพูดบางอย่างเพื่อโต้แย้ง แต่สุดท้ายก็แค่บ่นด้วยความอึดอัดใจ “นั่นจะโทษตัวนางก็ไม่ได้ และไม่ใช่พวกเราที่บีบบังคับให้นางออกจากจวนเจิ้นกั๋วกงให้ได้นี่”เวินฉางอวิ้นยิ้มเยาะ โยนมาให้เขาแล้ว พลางเอ่ยอย่างราบเรียบ “น้องสาม ดวงตาของเจ้าบอดแล้ว ข้าก็เช่นกัน พวกเราทุกคนก็เช่นเดียวกัน”“มีเพียงน้องรองเท่านั้นที่ได้สติแล้ว เขาเข้าใจทุกอย่าง ดังนั้นจึงไปจากบ้านหลังนี้โดยไม่ยอมหวนกลับเหมือนน้องห้า”“ได้สติอะไร แค่ออกไปเป็นคนโง่เท่านั้นเอง”เวินจื่อเยวี่ยกล่าวอย่างไม่แยแส“พี่ใหญ่ ท่านไม่ได้แอบไปดูหรือ? เขาออกจากจวนเจิ้นกั๋วกงของเรา แม้แต่ที่อยู่อาศัยของตัวเองยังหาไม่ได้ด้วยซ้ำ ทำได้เพียงออกไปสร้างกระท่อมฟางโทรม ๆ เหมือนขอทาน นี่น่ะหรือได้สติอย่างที่พี่ใหญ่ว่า? ข้าว่าเขาเป็นแค่เรื่องขำขันมากกว่า”แต่เวินฉางอวิ้นกลับเหลือบมองเขาด้วยสีหน้าเวทนา“เจ้าบอกว่าน้องรองเสียสติ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 305

    จวนเจิ้นกั๋วกงห้องหนังสือ“ท่านพ่อ พี่ใหญ่ ข้าไม่นึกเลยว่าพวกท่านจะปฏิบัติกับน้องหกแบบนี้!”“พวกท่านรู้ดีว่าวังหลังนั่นคือสถานที่อะไร รู้ดีว่าพระองค์เกรงกลัวจวนเจิ้นกั๋วกงของเราแค่ไหน พวกท่านยังกล้าวางใจทิ้งน้องหกไว้ที่นั่นอีก!”“ถ้าน้องหกอยู่ในวังถูกข่มเหงรังแกจะทำอย่างไร? หากพวกเราไม่ได้อยู่ใกล้ตัวนาง ใครจะสามารถปกป้องนางได้?!”“ได้ ได้! ในเมื่อพวกท่านไม่ไปหานาง ถ้าอย่างนั้นข้าจะไป!”“หากรู้ตั้งแต่แรกว่าวันนั้นหลังจากน้องหกตามพวกท่านเข้าวังไปแล้ว จะถูกพวกท่านทิ้งไว้ที่นั่นล่ะก็ ต่อให้ขาข้างนี้ของข้าต้องพิการก็จะตามพวกท่านเข้าวังไปด้วย!”สกุลเวินในเวลานี้เกิดการโต้เถียงใหญ่โตมาสองวันแล้ว เพราะเรื่องที่เวินเยวี่ยเข้าวังพูดให้ถูกก็คือ ส่วนใหญ่เป็นการโวยวายเพียงฝ่ายเดียวของเวินจื่อเยวี่ยเป็นหลักแม้ว่าเวินอวี้จือจะไม่เอะอะโวยวายเหมือนกับเวินจื่อเยวี่ย แต่ทุกครั้งเมื่อเวินจื่อเยวี่ยเสียงดัง โดยพื้นฐานเขาก็ยืนอยู่ข้างเวินจื่อเยวี่ยเสมอส่วนพ่อลูกคู่นี้เวินเฉวียนเซิ่งและเวินฉางอวิ้น ทั้งสองนั้นมีนิสัยใจคอเหมือนกัน ในตอนแรก ๆ ยังสามารถอดทนไว้ได้ อธิบายให้พวกเข้าฟังอย่างใจเย็น ไม่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 304

    เหลียงหมอมอคือคนเก่าคนแก่ที่อยู่ข้างกายองค์ไทเฮา และไทเฮาก็เจาะจงสั่งให้มาอบรมกฎเกณฑ์แก่เวินเยวี่ยดังนั้นนางจึงตอบปฏิเสธคำร้องขอของเวินเยวี่ยอย่างไม่ลังเล “ขออภัยด้วยคุณหนูหกสกุลเวิน เนื้อตัวของท่านมีกลิ่นอายชนบทมากเกินไป เพื่อให้ท่านได้เรียนรู้กฎเกณฑ์และกลายเป็นผู้สูงศักดิ์ในวังได้โดยเร็ว บ่าวจึงต้องเข้มงวดกับท่านเล็กน้อย”เมื่อได้ยินคำว่า “กลิ่นอายชนบทมากเกินไป” สีหน้าของเวินเยวี่ยก็บึ้งตึงขึ้นมาอย่างทนไม่ไหวทันทีนังแก่นี่กล้าดูหมิ่นนางได้อย่างไร?เวินเยวี่ยกัดฟันด้วยความโกรธ พลางข่มไฟโทสะไว้ “แต่ว่าพระองค์ตกหลุมรักข้าตั้งแต่แรกเห็น หากข้าไม่ทันระวังได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าในขณะที่เรียนรู้กฎเกณฑ์จากท่าน เกรงว่าหมอมอจะลำบากกระมัง?”ลูกไม้ตื้น ๆ แบบเวินเยวี่ยนี้ เหลียงหมอมอเคยเห็นมามากแล้วนางยิ้มเล็กน้อย “คุณหนูหกสกุลเวิน คำพูดของท่านนั้นไม่ถูกต้อง”เวินเยวี่ยไม่แยแส “ตรงไหนที่ไม่ถูกต้อง?”“ไม่มีตรงไหนถูกต้องเลย พระองค์ทรงตกหลุมรักท่านตั้งแต่แรกเห็น ต้องการรับท่านเข้าวังในฐานะพระสนม ดังนั้นถึงให้ท่านเข้ามาเรียนรู้กฎเกณฑ์ในตำหนักของไทเฮา แต่ตอนนี้ท่านไม่เพียงแต่ไม่ตั้งใจเรียนรู

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 303

    เวินฉางอวิ้นทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ“ไม่ใช่ขนมอบถั่วเขียวหรือ? ถ้าอย่างนั้นก็เป็นขนมกุ้ยฮวา?”รอยยิ้มบนใบหน้าของเวินซื่อสดใสขึ้น แต่ก็เย็นชาลงเช่นกัน “ขนมกุ้ยฮวา พี่ใหญ่แน่ใจหรือ? คิดว่าเป็นขนมกุ้ยฮวาจริงหรือ? ไม่อย่างนั้นพี่ใหญ่ลองเดาดูอีกครั้ง เพราะถึงอย่างไรทุกครั้งท่านก็เดาแม่นเช่นนี้เสมอ ทำไมไม่ลองดูหน่อยว่า น้องสาวที่น่ารำคาญอย่างข้าผู้นี้ มีของที่ไม่ชอบกินที่สุดมากน้อยแค่ไหนกันแน่?”ใบหน้าของเวินฉางอวิ้นซีดเผือดอีกครั้งในชั่วประเดี๋ยวเดียว“ช่างมันเถอะ ข้าชอบกินอะไรมันเกี่ยวอะไรกับพี่ใหญ่ด้วยเล่า เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ พี่ใหญ่จำไม่ได้ก็เป็นเรื่องปกติ”น้ำเสียงของเวินซื่อเต็มไปด้วยการเย้ยหยัน “เพราะถึงอย่างไรต่อให้ข้าไม่กิน แต่ก็ยังมีคนหนึ่งที่ชอบกินอย่างไรเล่า พี่ใหญ่รีบห่อกลับไปให้น้องสาวสุดที่รักผู้นั้นที่ท่านรักสุดหัวใจเถิด”“ไม่ใช่นะ...น้องห้าเจ้าฟังพี่ใหญ่อธิบายก่อน พี่ใหญ่ไม่ได้ตั้งใจซื้อขนมอบถั่วเขียวที่เจ้าเกลียดมาให้ เพียงแต่ตอนนั้นซื้อไปโดย...จิตใต้สำนึก”เวินฉางอวิ้นร้อนใจจนพูดจาไม่คล่อง พูดถึงตอนท้ายเขาเองยังรู้สึกอับอายยิ่งกว่าเดิมเมื่อคิดดูอย่างรอบคอบ ขนมอบถั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 302

    “หากข้ากล้าทำเช่นนั้น ข้าก็ไม่ใช่คน ขอให้ฟ้าผ่าลงทัณฑ์ข้า!”เวินฉางอวิ้นยืนรับรองอยู่ข้างนอกอารามสุ่ยเยว่เป็นเวลาครึ่งชั่วยามแล้ว ลำคอแทบแห้งผาก ซือไท่เหล่านั้นถึงผ่อนคลายลง รับปากว่าจะช่วยเข้าไปพูดให้เขาแต่น่าเสียดายเหล่าซือไท่รับปากว่าจะบอกให้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเวินซื่อจะตกลงออกไป“ไม่ไป”แค่สองคำที่มีกลับมาถึงเบื้องหน้าเวินฉางอวิ้นเวินฉางอวิ้นมีหรือจะยอมแพ้ง่าย ๆ เช่นนี้“เหล่าซือไท่ได้โปรดช่วยเกลี้ยกล่อมน้องสาวของข้าอีกครั้ง ข้าแค่อยากเห็นหน้านางเท่านั้น”“ไม่ได้ ธิดาศักดิ์สิทธิ์บอกไปแล้วว่าจะไม่พบท่านก็คือไม่พบท่าน ท่านอย่ามาเสียเวลาที่นี่เลยดีกว่า รีบกลับไปเสียเถอะ”เหล่าซือไท่ที่ไม่ถูกชะตากับจวนเจิ้นกั๋วกงอยู่แล้ว หลังจากส่งต่อคำพูดจบแล้วก็รีบขับไล่เขาทันที ไม่อยากให้เวินฉางอวิ้นอยู่หน้าอารามสุ่ยเยว่ของพวกนางนานไปกว่านี้แม้แต่นิดเดียวแต่พวกนางนึกไม่ถึงว่าวันนี้ขับไล่ไป แต่หลังจากนี้เวินฉางอวิ้นก็มาอีกทุกวันทันทีที่เสร็จงานในช่วงบ่าย ไม่ได้กลับไปที่จวนเจิ้นกั๋วกงด้วยซ้ำก็ตรงมาที่อารามสุ่ยเยว่เลยมาเคาะประตูทุกวัน รบกวนจนเหล่าซือไท่หาความสงบสุขไม่ได้สุดท้ายก็ต้อ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status