Share

บทที่ 170

Penulis: จิ้งซิง
เวินเยวี่ยกัดริมฝีปาก สมองแล่นอย่างบ้าคลั่งในที่สุดก็มีความคิดหนึ่งปรากฏ เหมือนนึกถึงบางอย่าง

ผิวเผินนางยังแสร้งทำสีหน้าน่าสงสาร “เยวี่ยเอ๋อร์เองก็ไม่รู้ หงอวี้บอกข้าแค่ว่านางไม่สบาย อยากไปหาหมอ ส่วนเรื่องอื่นเยวี่ยเอ๋อร์ไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ หากพี่รองสงสัย ก็ให้หงอวี้ออกมา แล้วพี่รองถามนางต่อหน้าดีหรือไม่?”

ระหว่างที่พูด นางแอบส่งสายตาที่บอกใบ้และเต็มไปด้วยการตักเตือนให้หงอวี้ที่อยู่ด้านข้าง

หงอวี้ที่เข้าใจทันทีร่างกายสั่นสะท้านไปทั้งตัว

ในขณะที่ทุกคนหันมองนาง นางเห็นกับตาว่าคุณหนูของนางอ้าปากพูดโดยไร้เสียงหลายคำ

อย่าลืมครอบครัวของเจ้า

วินาทีนั้น หงอวี้ราวกับตกลงไปในหลุมน้ำแข็ง เย็นเยือกไปทั้งใจ

เสียงดังตุบ!

สุดท้ายหงอวี้ที่ยอมรับชะตากรรมคุกเข่าลงพื้น พร้อมร้องไห้ “บ่าวทำเองเจ้าค่ะ ทุกอย่างไม่เกี่ยวกับคุณหนูของข้า...”

“เป็ดทอดกรอบบ่าวไปซื้อในนามของคุณหนู ยาพิษบ่าวก็แอบวางยาเอง หลังจากวางยาแล้วบ่าวกลัวเรื่องจะแดงขึ้นมา จึงกำจัดยาพิษแล้วนำขวดไปซ่อนไว้ในห้องคุณชายสี่ ทุกสิ่งทุกอย่างบ่าวเป็นคนทำเองเจ้าค่ะ”

“หงอวี้ นึกไม่ถึงว่าข้าเชื่อใจเจ้าขนาดนี้ เจ้ากลับกล้าวางยาพวกพี่ชายลับหลัง
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 171

    “เอาละ ไม่ต้องพูดจาไร้สาระแล้ว”เวินเฉวียนเซิ่งได้ฟังมาถึงตรงนี้ รู้สึกว่าเรื่องราวก็คงจะประมาณนี้ เขาจึงขัดจังหวะคำพูดของนาง และตัดสินใจสรุปเรื่องราวทั้งหมด “ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะถูกตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้ว เห็นได้ชัดว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากบ่าวรับใช้ผู้นี้ที่ล่วงเกินผู้เป็นนาย คิดร้ายหมายเอาชีวิตผู้เป็นนาย ความผิดเช่นนี้ ต่อไปพวกข้าจะจัดการตามกฎของตระกูล ส่วนที่เหลือก็ไม่จำเป็นต้องรบกวนท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนและธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว”ทว่าพอเขากล่าวจบ ก็ได้ยินเวินซื่อเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “คุณหนูหก เจ้าไม่รู้อะไรเลยจริงๆ หรือ?”แน่นอนว่าเวินเยวี่ยยังคงแสร้งทำตัวน่าสงสารต่อไป “ไม่รู้จริงๆ ขอร้องพี่หญิงห้าท่าน...ธิดาศักดิ์สิทธิ์ได้โปรดอย่าได้มีอคติกับเยวี่ยเอ๋อร์ เพียงเพราะความเข้าใจผิดในอดีตเลย”นางจงใจกล่าวอย่างอ้อมค้อมเป็นอย่างยิ่งแต่คนอื่นๆ ที่ได้ยินกลับรู้สึกว่าเวินซื่อกำลังหาเรื่องจับผิดนางเวินฉางอวิ้นกำลังจะกล่าวอะไรบางอย่าง เวินซื่อก็หัวเราะออกมา “อคติอย่างนั้นหรือ? เจ้าคิดเช่นนั้นได้อย่างไร? ข้าไม่เคยแม้แต่จะชายตามองเจ้าด้วยซ้ำ”เมื่อเอ่ยคำพูดนี้ออกมา ทุกคนที่อยู่ในเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 172

    “พวกเขาพูดเหลวไหล...พวกเขากำลังพูดจาเหลวไหล!”“พวกเขากำลังใส่ร้ายข้า พี่หญิงห้า เหตุใดท่านถึงให้พวกเขามาใส่ร้ายข้า?!”เวินเยวี่ยกัดฟันแน่นยืนกราน พยายามที่จะแก้ต่างให้ตัวเอง แต่เวินซื่อกลับยิ้ม ไม่พูดอะไรเจ้าของร้านขายยาคนหนึ่งล้วงมือเข้าไปในอก หยิบกระดาษปึกหนึ่งออกมา “คิดว่าคุณหนูหกคงจะไม่ลืม สมุดเล่มนี้ที่เขียนไว้ในร้านยาของข้าเมื่อวานนี้กระมัง ถึงแม้ว่าชื่อและฐานะจะไม่เหมือนกับในมือของอีกสองคน แต่เวลาที่ซื้อยานั้นไม่มีทางผิดพลาด”เจ้าของร้านขายยาอีกสองคนก็หยิบสมุดในมือของพวกเขาออกมาเช่นกันหลังจากที่มอบให้เป่ยเฉินหยวนแล้ว เป่ยเฉินหยวนก็มอบให้กับเวินซื่อโดยตรงเวินซื่อดูสองสามครั้ง ก่อนจะให้คนนำไปมอบให้เวินเฉวียนเซิ่งเวินเฉวียนเซิ่งก้มลงกวาดตามองทีละแผ่น สุดท้ายเวินฉางอวิ้นที่ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อความจริงนี้ รับมาจากมือของท่านพ่อ หลังจากที่เขาเห็นเวลาที่ระบุไว้บนนั้นอย่างชัดเจนแล้ว เขาก็ค่อยๆ หลับตาลงทันใดนั้น หัวใจของเวินเยวี่ยก็กระตุกนางกรอกสมุดอะไรไปกัน แต่ชื่อและฐานะอะไรพวกนั้นที่นางเขียนลงไปล้วนเป็นของปลอม แบบนี้จะใช้เป็นหลักฐานได้อย่างไร?เป็นไปได้อย่างไร?!“ไม่!

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 173

    เห็นได้ชัดว่าการล้อมอารามสุ่ยเยว่เกิดขึ้นก่อน ส่วนการสืบหาความจริงและการปกป้องเกิดขึ้นทีหลัง แต่เมื่อเป่ยเฉินหยวนเป็นคนพูด กลับกลายเป็นว่าเวินเฉวียนเซิ่งจงใจใส่ร้ายเสียอย่างนั้นสีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งพลันเปลี่ยนเป็นมืดมนอย่างยิ่ง“พวกท่านต้องการอะไรกันแน่?”เวินซื่อกล่าวอย่างใจเย็น “ข้าไม่ได้ต้องการอะไร ขอเพียงท่านเจิ้นกั๋วกงไม่ลำเอียง ไม่เข้าข้าง เพียงเท่านี้ก็พอ”แต่การไม่ลำเอียง ไม่เข้าข้าง...อดีตบิดาผู้นี้ของนางจะสามารถทำได้จริงๆ หรือ?หากนางยังไม่ได้ออกจากจวนเจิ้นกั๋วกง หากนางยังไม่ได้รับการแต่งตั้งจากฝ่าบาทให้เป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ หากวันนี้คนที่ก่อเรื่องเช่นนี้เป็นนาง เวินเฉวียนเซิ่งไม่มีทางที่จะลงโทษนางเพียงแค่กักบริเวณในโถงบรรพชนและให้สำนึกผิดเป็นแน่ดังนั้น วันนี้นางจะรอดูว่า บิดาผู้สูงส่งของนางจะสามารถไม่ลำเอียง ไม่เข้าข้างได้หรือไม่!เวินเฉวียนเซิ่งมองนางอย่างลึกซึ้งเมื่อเผชิญกับสายตาที่เต็มไปด้วยการพิจารณาและบีบบังคับ เวินซื่อไม่ยอมถอยแม้แต่น้อยในขณะที่บรรยากาศกำลังตึงเครียดอย่างยิ่ง ร่างกายสูงใหญ่ก็ก้าวเข้ามาขวางหน้าเวินซื่อในทันที“เจิ้นกั๋วกง นี่เป็นสายตาแบบ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 174

    เมื่อเผชิญกับสายตาที่ซับซ้อนของทุกคน เวินซื่อค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมามอง “มองข้าทำไมกัน คุณชายรองของท่านก็พูดแล้วมิใช่หรือว่าไม่ตายหรอก ดังนั้นรีบโบยเถอะ”น้ำเสียงของนางที่ราวกับไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ทำเอาเวินเยวี่ยโกรธจนแทบจะกระอักเลือดนางกล้าเร่งเร้า ไม่ได้ดูเลยหรือไรว่าใครที่จะโดนโบย!หากมิใช่ว่าตอนนี้มีคนอยู่มากมาย เวินเยวี่ยคงอยากจะพุ่งเข้าไปฉีกปากเวินซื่อเสียเดี๋ยวนี้ท้ายที่สุด ภารกิจอันหนักอึ้งในการลงโทษตามกฎประจำตระกูลนี้ ก็ตกเป็นหน้าที่ของเวินฉางอวิ้นเวินเฉวียนเซิ่งออกคำสั่ง เวินฉางอวิ้นเป็นคนลงมือ เหมือนกับเหตุการณ์เมื่อสองเดือนก่อนไม่มีผิดเพียงแต่ครั้งนี้ คนที่ถูกโบยเปลี่ยนจากนางกลายเป็นเวินเยวี่ยเวินฉางอวิ้นถือแส้ที่สะท้อนแสงเย็นเยียบอยู่ในมือ กลับรู้สึกว่าครั้งนี้ไม่รู้จะลงมืออย่างไรดีเขาอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองเวินซื่อ ดูเหมือนว่ายังอยากจะพูดขอความเห็นใจแทนเวินเยวี่ย หากน้องห้ายกโทษให้ บางทีน้องหกอาจจะไม่ต้องถูกโบยก็ได้“น้องห้า ถึงอย่างไรน้องหกก็เป็นน้องสาวของเจ้า หรือว่า...”เวินฉางอวิ้นพูดประโยคที่เคยพูดเหมือนเมื่อก่อนอย่างไม่รู้ตัว แต่ครั้งนี้เขากลับ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 175

    “ตุบ”“น้องหก!”เวินฉางอวิ้นรีบวางแส้ลง ประคองเวินเยวี่ยด้วยความระมัดระวัง “น้องหก เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ยังทนไหวหรือไม่?”เวินเยวี่ยหลับตา ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเวินเฉวียนเซิ่งรีบเดินไปหานาง อยากจะดูว่าโบยแรงเกินไปจริงๆ หรือไม่ เป่ยเฉินหยวนกลับหัวเราะเยาะ “คุณหนูหกของจวนท่านช่างอ่อนแอเสียจริง ทั้งที่เป็นบุตรสาวบุญธรรมที่เพิ่งถูกตามตัวกลับมาได้ไม่นาน แต่ร่างกายกลับบอบบางยิ่งกว่าบุตรสาวที่แท้จริงที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอมเสียอีก”น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “แค่ยี่สิบทีก็สลบไปแล้ว ไม่รู้ว่าตอนที่อู๋โยวถูกโบย นางทนถูกโบยห้าสิบทีนั้นมาได้อย่างไรกัน”น้ำเสียงของเขาดูเหมือนจะแฝงไปด้วยความโกรธเขาสั่งให้ลูกน้องไปสืบว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาเวินซื่อได้ประสบพบเจอกับอะไรบ้างในจวนเจิ้นกั๋วกง แม้จะสืบมาได้มากมาย แต่ก็ไม่พบที่มาของบาดแผลเหล่านั้นที่อยู่บนหลังของนาง บาดแผลที่เขาเห็นในวันที่เขาพบกับนางครั้งแรกที่นอกห้องทรงพระอักษรและในวันนี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว เดิมทีรอยแผลเหล่านั้นล้วนเกิดจากน้ำมือของญาติพี่น้องของนางเองนางทำผิดอะไรถึงต้องถูกโบยห้าสิบที?แส้แบบนั้น ฟาดลงบนร่า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 176

    เวินเฉวียนเซิ่งมองเวินซื่อและเป่ยเฉินหยวนด้วยสีหน้าเย็นชาอย่างยิ่ง“เรื่องวันนี้ข้าจดจำไว้แล้ว ตอนนี้คนก็ได้รับโทษแล้ว เช่นนั้นธิดาศักดิ์สิทธิ์ควรจะมอบยาแก้พิษออกมาได้หรือยัง?”เวินซื่อเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ท่านเจิ้นกั๋วกงต้องการยาแก้พิษ ไม่ใช่ว่าควรจะไปขอจากบุตรสาวคนเล็กของท่านหรือ? คนที่วางยาพิษคือนาง มิใช่ข้า”เวินเฉวียนเซิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ท่านรู้ว่าข้ากำลังพูดถึงอะไร”พิษที่ทำให้จื่อเยวี่ยกระอักเลือดจนหมดสติไปนั้นเป็นฝีมือของเยวี่ยเอ๋อร์ก็จริง แต่ก่อนหน้านั้นก็ยังมีพิษที่เวินซื่อลงมือกับเขาอยู่อีกพิษที่ล่อลวงจื่อเยวี่ย ทำให้เขาพูดจาพล่อยๆ ในงานเลี้ยง!เวินซื่อยิ้มเล็กน้อย “เหตุใดท่านเจิ้นกั๋วกงถึงได้ใส่ความข้าอีกแล้ว หมอผู้นี้ท่านเป็นคนเชิญมาเอง ท่านลองถามเขาด้วยตัวเองดูสิว่า ในร่างกายของคุณชายสามของจวนท่านมีพิษชนิดที่สองอยู่หรือไม่”เวินเฉวียนเซิ่งหรี่ตาลงเล็กน้อยจากนั้นเขาก็หันไปมองหมอชราผู้นั้น หมอชราก็ส่ายหน้าตามคาดเมื่อเห็นดังนั้น สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยจากนั้นเขาก็เอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จวนของข้าก็ไม่มีอะไรจะรั้งท่า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 177

    เวินจื่อเฉินเอ่ยถามด้วยแววตาที่คาดหวัง “ได้หรือไม่ น้องห้า?”“ไม่ได้”แต่เวินซื่อกลับทำลายความหวังของเขาอย่างไร้เยื่อใยสายตาของนางเย็นชา ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ “เหตุใดข้าต้องให้โอกาสเช่นนี้แก่ท่านด้วย?”ชาติที่แล้วนางก็เคยขอร้องนับครั้งไม่ถ้วน แต่มีใครเคยให้โอกาสนางบ้าง?!“ต่อไปอย่ามายุ่งกับข้าอีก”หลังจากพูดประโยคที่ตัดเยื่อใยนี้ เวินซื่อก็ยกเท้าก้าวผ่านเขาไป แล้วเดินออกจากที่นี่โดยตรงเหลือเพียงเวินจื่อเฉินที่ยืนอยู่ที่เดิมเพียงลำพัง ไม่สามารถดึงสติกลับมาได้เป็นเวลาเนิ่นนานหลังจากผ่านไปเนิ่นนานแล้ว เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาทำอย่างไรดี...เขาจะทำอย่างไรได้อีก?เวินจื่อเฉินที่ไม่สามารถหาวิธีใดๆ เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับน้องสาวของเขาได้อีกต่อไป ในตอนนี้เขารู้สึกสับสนเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง“...ท่านแม่ หากท่านยังอยู่ที่นี่ก็คงดี”ท่านแม่เก่งเรื่องง้อน้องสาวที่สุด ถ้าท่านแม่ยังอยู่ นางจะต้องสอนวิธีง้อน้องสาวให้กลับมาได้แน่ๆ ……ในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งหลังจากที่เวินซื่อออกจากจวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว ก็ขึ้นรถม้าอีกคันที่เป่ยเฉินหยวนจัดเตรียมไว้ให้นาง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 178

    เวินซื่อไม่คิดว่าเป่ยเฉินหยวนจะขอโทษนางเพราะเรื่องนี้เมื่อนางมองบุรุษตรงหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียใจและสำนึกผิด น้ำเสียงจริงใจเช่นนั้น หัวใจของนางก็หยุดเต้นไปชั่วขณะนางรีบหันหน้าหนี ไม่กล้ามองเป่ยเฉินหยวนมากนัก “ไม่...ไม่เป็นไร ตอนนั้นพวกเราก็ไม่ได้รู้จักกันอยู่แล้ว”ยิ่งไปกว่านั้น ก็แค่เดินสวนทางกันครั้งหนึ่ง เอ่อ ไม่สิ ก็ไม่เชิงว่าเดินสวนทางกันตอนนี้พอนึกย้อนกลับไปก็ยังจำได้ ตอนนั้นเพราะอาการของนางแย่มาก เกือบจะล้มลงตรงหน้าประตูห้องทรงพระอักษร ยังเป็นเป่ยเฉินหยวนที่ช่วยพยุงนางไว้“จริงสิ ข้าควรจะเป็นฝ่ายขอบคุณท่านต่างหาก หากท่านอ๋องไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยพยุงข้าไว้ เกรงว่าตอนนั้นข้าคงจะล้มลงไปแล้ว”นางยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า หากตอนนั้นนางล้มลงไปจริงๆ จะยังลุกขึ้นมาได้อีกหรือไม่?อย่างไรเสีย วันนั้นบาดแผลของนางก็สาหัสมากจริงๆเมื่อได้ยินเวินซื่อพูดเช่นนี้ เป่ยเฉินหยวนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแต่ไม่นานเขาก็ยิ้มออกมา ยื่นมือลูบศีรษะของเวินซื่อผ่านหมวกสีฟ้าทะเล “ไม่เป็นไร ไม่ปล่อยให้ท่านล้มหรอก”ตอนนั้นไม่มี ต่อไปก็จะไม่มีอีกเวินซื่อที่ถูกลูบศีรษะอย่างกะทันหันถึงกับชะงักอยู่ที

Bab terbaru

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status