Share

บทที่ 158

Author: จิ้งซิง
แต่น่าเสียดายคนที่ออกมาพบเขาไม่ใช่เวินซื่อ

เวินเฉวียนเซิ่งเงยหน้าขึ้นมองคนที่เข้ามาหา แล้วถามด้วยเสียงเย็นชา “แล้วเวินซื่อล่ะ? ให้นางออกมาพบข้า”

ม่อโฉวซือไท่กำลังหมุนลูกประคำในมือทีละเม็ด นางยืนอยู่บนขั้นบันไดที่ประตู มองลงมาที่เวินเฉวียนเซิ่ง

“ผ่านไปหลายปีแล้ว เจ้ายังคงอวดดีจองหองเช่นเคย”

ที่เอ่ยออกมาจากปากของม่อโฉวซือไท่ยิ่งเต็มไปด้วยคำพูดเหน็บแนม

ชัดเจนว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านางจะเป็นเจิ้นกั๋วกงผู้ทรงอำนาจในราชสำนักและประชาชน แต่นางกลับดูไม่เกรงกลัวเลยสักนิด

แม้กระทั่งสายตาก็เต็มไปด้วยความเหยียดหยามที่มีต่ออีกฝ่าย

“วันนี้ข้าไม่อยากพูดคุยเรื่องในอดีตกับเจ้า ตอนนี้พานางออกมาเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นเจ้าน่าจะรู้จักวิธีการของข้า”

“วิธีการของเจ้า?”

ม่อโฉวซือไท่กล่าวอย่างดูถูก “ที่เจ้าพูดถึงก็คือวิธีการที่ไร้ยางอายและต่ำช้าจนเหลือทนของเจ้าในตอนนั้นน่ะหรือ?”

สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งมืดมนลงภายในชั่วแวบเดียว

เขากำแส้ม้าในมือแน่น “ม่อโฉว อย่าลืมสิว่า เจ้าสามและเจ้าสี่ก็เป็นลูกของนางด้วย หรือว่าเจ้าจะปกป้องแค่คนคนเดียว แต่ไม่สนใจความเป็นความตายของอีกสองคนกระนั้นหรือ?!”

“ก็มีพ่ออย่างเจ้า
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
ต้องให้พระเอกชั้นจัดการไอ้พวกชั่วใจบอด
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 159

    “บัดนี้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาถึงพอดี เจิ้นจั๋วกงมีกิจอันใดก็ไปปรึกษากับท่านอ๋องดีกว่า หากถามข้า ข้าก็มีเพียงประโยคนั้น”หากต้องการเข้ามาในอารามสุ่ยเยว่ ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหากไม่มีพระบัญชาของฝ่าบาท สกุลเวินของพวกเขาก็อย่าได้คิดจะก้าวเข้ามาในอารามสุ่ยเยว่แม้เพียงครึ่งก้าวเวินเฉวียนเซิ่งกำแส้ม้าแน่นด้วยความโกรธทันทีอยากจะฟาดเป่ยเฉินหยวนที่ขัดหูขัดตาอยู่ข้าง ๆ ให้กระเด็นเหลือเกิน“ไม่จำเป็นแล้ว ในเมื่อเจ้ายืนกรานว่าต้องปฏิบัติตามกฎ เช่นนั้นข้าก็จะไปทูลขอฝ่าบาทเดี๋ยวนี้”เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยอย่างเย็นชา “ข้าอยากดูสิว่า คนเลือดเย็นที่กล้าวางยาพิษพี่ชายแท้ ๆ ทั้งสองของตัวเอง มีอะไรคู่ควรกับตำแหน่งธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่ฝ่าบาททรงพระราชทานยศให้ด้วยพระองค์เอง!”ว่าแล้วเวินเฉวียนเซิ่งก็กำลังจะหันหลังจากไปในขณะนี้ กองทัพธงดำหลายนายเพียง “แวบ” เดียวก็เข้ามาขวางอยู่หน้ารถม้าของจวนเจิ้นกั๋วจงแล้ว“เป่ยเฉินหยวน นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร?!”เวินเฉวียนเซิ่งหันหน้าไปจ้องมองอย่างโกรธเกรี้ยว“ไม่มีความหมายอะไร”ชายรูปงามบุ้ยปาก พลางโบกมือกล่าวว่า “ข้าแค่คิดว่าเจิ้นกั๋วกงอายุอานามขนาดนี้แล้ว การเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 160

    น่าเสียดายที่ต่อให้เวินเฉวียนเซิ่งจะมีลางสังหรณ์ไม่ดีสักแค่ไหน ก็ไม่มีเวลาที่จะเสียใจอีกแล้วเพราะหลังจากที่เวินซื่อขึ้นนั่งรถม้าของสกุลเวิน รถม้าก็ถูกกองทัพธงดำของเป่ยเฉินหยวนเข้าควบคุมทันทีตั้งแต่สารถีไปจนถึงองครักษ์ล้วนเป็นกองทัพธงดำทั้งสิ้นทำท่าราวกับจะไม่ยอมให้คนของสกุลเวินเข้าใกล้ได้แม้แต่นิดเดียวเวินเฉวียนเซิ่งที่เห็นฉากนี้ก็หน้าบึ้งทันที“นี่คือรถม้าของจวนเจิ้นกั๋วกงของข้านะ!”“ตอนนี้นี่คือรถม้าที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์กำลังนั่งแล้ว”เป่ยเฉินหยวนสีหน้าเจ้าเล่ห์ “แน่นอน ท่านสามารถเลือกที่จะขับไล่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ลงจากรถม้าก็ได้ แต่หลังจากนั้นธิดาศักดิ์สิทธิ์จะยินดีไปจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านอีกหรือไม่ ก็ไม่แน่ใจแล้ว”เวินเฉวียนเซิ่งหรี่ตาทั้งสองจ้องมองเขา เผยความอันตรายออกมาทางสายตาเป่ยเฉินหยวนบุ้ยปากอย่างไม่เกรงกลัว ปล่อยให้เขามองจนพอใจขณะนี้ เสียงอันหงุดหงิดใจของเวินซื่อก็ดังออกมาจากบนรถ...“ยังต้องรออีกนานแค่ไหนถึงจะไปได้? อย่ามัวชักช้าเสียเวลา”เป่ยเฉินหยวนยิ้มเล็กน้อย “ต้องถามท่านแล้วล่ะ ท่านเจิ้นกั๋วกง จะไปหรือว่าไม่ไป?”เวินเฉวียนเซิ่งทำเสียงฮึดฮัด “ไป”……สองชั่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 161

    เมื่อเขากล่าวจบ แล้วจัดแจงเสื้อผ้า จากนั้นก้าวขาอย่างมั่นคงเข้าไปในจวนเจิ้นกั๋วกง เพื่อไปตามธิดาศักดิ์สิทธิ์ของเขาเวินเฉวียนเซิ่งที่ไม่เข้าใจคำพูดของเป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้วในใจยังคงระแวง “เจ้าเป่ยเฉินหยวนจำต้องตามเวินซื่อมาให้ได้ตกลงต้องการทำสิ่งใด?”ในไม่ช้า เวินเฉวียนเซิ่งได้รู้คำตอบอย่างรวดเร็วเวินซื่อกับเป่ยเฉินหยวนเข้ามาในจวนเจิ้นกั๋วกง เมื่อนั่งลงจึงเอ่ยถาม “ใต้เท้าเจิ้นกั๋วกง ตอนนี้ข้ากับอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาถึงแล้ว บังอาจถามสักคำคนสกุลเวินอยู่ในจวนทั้งหมดหรือไม่?”เวินเฉวียนเซิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อยกลับท่าทีการถามของเวินซื่อ แต่เนื่องด้วยเป่ยเฉินหยวนอยู่ข้างกาย สุดท้ายเขาไม่ได้ว่าอะไร“นอกจากบุตรชายคนโตฉางอวิ้นและบุตรชายคนรอง คนอื่นล้วนอยู่ในจวน”เวินฉางอวิ้นและเวินจื่อเฉินล้วนไปขอลาหยุดพวกเขาคนหนึ่งเป็นขุนนางในราชสำนัก อีกคนยังเล่าเรียนอยู่ในสำนักศึกษาเมื่อคืนเวินจื่อเยวี่ยถูกพิษจนหมดสติกะทันหัน ในครอบครัวน้องชายล้มลงสองคน ในฐานะพี่ใหญ่และพี่รองเวินฉางอวิ้นกับเวินจี่อเฉิงย่อมต้องกลับมาดูแลที่บ้านดังนั้นทั้งสองคนจึงไปขอลาหยุดตั้งแต่เช้า“เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 162

    อยากคลี่คลายเรื่องนี้นั้นง่ายมาก เวินซื่อแทบไม่ต้องคิดก็รู้ว่าพิษที่ทำให้เวินจื่อเยวี่ยกระอักเลือดหมดสติใครเป็นคนลงมือในงานเลี้ยงเมื่อคืน เวินจื่อเยวี่ยดูเหมือนยังดี ๆ อยู่ เพราะฉะนั้นพิษที่ว่าเขาอาจจะโดนตอนกลับมาแล้วก็ได้ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ภายในเวลาอันสั้น คนที่ลงมือวางยาพิษไม่น่าจะสามารถลบร่องรอยทั้งหมดออกไปได้ดังนั้นตอนนี้วิธีที่ง่ายที่สุดคือตรวจค้นทันที“เป็นไปไม่ได้!”เมื่อได้ยินคำขอของเวินซื่อ เวินเฉวียนเซิ่งปฏิเสธอย่างไม่ลังเล“จวนเจิ้นกั๋วกงของข้าใช่ว่าใครที่ไหนอยากตรวจค้นก็สามารถค้นได้ ต่อให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนอย่างท่านก็ไม่มีอำนาจนั้น!”เป่ยเฉินหยวนแค่นหัวเราะ เขาเตรียมเอ่ยปาก แต่เวินซื่อที่อยู่ข้างกันดึงชายเสื้อเขากะทันหันเป่ยเฉินหยวนนิ่งไปครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้ว่าอะไรส่วนคนที่กล่าวแทนเขาคือเวินซื่อเวินซื่อยิ้ม “อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนย่อมไม่มีอำนาจนั้น แต่ขอใต้เท้าเจิ้นกั๋วกงโปรดมองสถานะตอนนี้ของท่านให้ชัดเจน ไม่ใช่ข้ากับท่านอ๋องที่ต้องการมาจวนเจิ้นกั๋วกงให้ได้ แต่ท่านเป็นคนขอร้องให้พวกเรามา”“น้องห้า เหตุใดจึงปฏิบัติต่อท่านพ่อเช่นนี้...”เวินฉางอวิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 163

    แต่หลังจากเวินซื่อได้ยินคำพูดของเขา กลับส่ายหน้า “ไม่ต้อง ข้ารู้ว่าใครเป็นคนวางยาพิษ ดังนั้นครั้งนี้ข้าจัดการเอง”นางไม่เพียงจะจัดการเรื่องนี้ แต่จะจัดการผู้อยู่เบื้องหลังที่อวดดีคนนั้นด้วยท้าทายนางครั้งแล้วครั้งเล่า คิดว่านางเป็นแมวป่วยหรืออย่างไร?หากไม่สั่งสอนให้เข็ดหลาบเสียบ้าง เกรงว่าภายหลังคงไม่จบไม่สิ้นกันสักทีดังนั้นบทสรุปสุดท้ายคือ เวินซื่อมา เป่ยเฉินหยวนที่ไม่วางใจจึงตามมาด้วย“แน่นอน ใต้เท้าเจิ้นกั๋วกงสามารถปฏิเสธคำขอของข้าได้ แต่ท่านต้องตรึกตรองให้ดี อาการของคุณชายสามดูเหมือนจะหนักหนาสาหัส ก็ไม่รู้ว่าจะยืนหยัดได้อีกนานเท่าใด?”มุมปากเวินซื่อยกขึ้นเล็กน้อยยามนี้ทั้งที่นางสวมชุดสีฟ้าทะเล แต่วาจาที่กล่าวออกมากลับโหดร้ายทารุณกายสวมชุดโพธิสัตว์ ปากคาบดาบเปื้อนเลือดเมตตาหรือ?เมื่อมองเวินซื่อที่เป็นเช่นนี้ จิตใจเป่ยเฉินหยวนรู้สึกเพียงหวาดหวั่นไม่น้อยหัวใจที่อยู่ตรงหน้าอกยิ่งเต้นตึกตักระรัวไม่หยุดทั้งที่ก่อนหน้านี้สวดมนต์ให้เขาฟัง ยังบริสุทธิ์ไร้ราคี ราวกับเทพธิดามาเยือนโลกมนุษย์ทว่าเวินซื่อในยามนี้ยิ่งทำให้เขาไม่อาจถอนตัวเป่ยเฉินหยวนเผลอลูบหน้าอกตัวเองแย่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 164

    “หงอวี้ ด้านนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น เหตุใดด้านนอกจึงเอะอะเสียงดัง?”ภายในห้องของเวินอวี้จือ เวินเยวี่ยนั่งอยู่ข้างเตียง ขมวดคิ้วเอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์หงอวี้ย่อตัว “บ่าวจะออกไปดูเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”เพิ่งจะเดินไปถึงหน้าประตูห้อง นอกเรือนมีคนจำนวนหนึ่งเดินเข้ามา แต่ละคนสวมชุดเกราะสีดำ มีดาบตรงเอว ท่าทางดุดัน ทำให้หงอวี้ตกใจจนหน้าซีด“พวกเจ้าเป็นใคร? ที่นี่คือเรือนของคุณชายสี่แห่งจวนเจิ้นกั๋วกง พวกเจ้าบุกเข้ามาทำไม? !”“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนกับธิดาศักดิ์สิทธิ์เรียนเชิญ ให้คุณชายสี่และคุณหนูหกของพวกเจ้าไปเรือนส่วนหน้ากับพวกเรา”เวินเยวี่ยที่ได้ยินความเคลื่อนไหวผิดปกติรีบออกมาตรวจดู พลันได้ยินเข้าพอดี สีหน้านางเปลี่ยนเล็กน้อย “อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนหรือ?”เหตุใดชายผู้นั้นจึงมาอีกแล้ว?เวินเยวี่ยรู้แต่แรกว่าวันนี้เวินเฉวียนเซิ่งต้องพาตัวเวินซื่อกลับมาแน่นอน เพราะนี่คือแผนการของนางตั้งแต่แรกรอให้เวินซื่อกลับมาถึง นางจึงจะโยนความผิดเรื่องวางยาพิษทำร้ายพี่ชายไปให้เวินซื่อทั้งหมดแต่นึกไม่ถึงว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนจะตามมาด้วยเวินเยวี่ยกัดฟันกรอด แล้วเข้าไปสอบถาม “ไม่ทราบว่าท่านอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 165

    สำหรับการกระทำเล็กน้อยของนาง เวินซื่อได้แต่แค่นเสียง ไม่ได้อยู่ในสายตาเพราะตอนนี้เป็นเพียงการสั่งสอนเล็กน้อยเท่านั้น ต่อไปถึงจะเป็นรางวัลชิ้นใหญ่ที่นางมอบให้เวินเยวี่ย“ในเมื่อทุกคนมาครบแล้ว เช่นนั้นเริ่มกันเถอะ”เวินซื่อกล่าวเสียงเรียบ ตั้งแต่ต้นจนจบ นางไม่มองเวินจื่อเยวี่ยกับเวินอวี้จือบนพื้นแม้แต่ครั้งเดียวท่าทีเช่นนี้ทำให้เวินจื่อเฉินรู้สึกขมขื่นอยู่ในใจอย่างอดไม่ได้เป่ยเฉินหยวนหันมองเวินเฉวียนเซิ่ง “เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็น จากนี้ต้องรบกวนเจิ้นกั๋วกงไปตรวจค้นพร้อมข้า”เวินเฉวียนเซิ่งไม่พูดสิ่งใดแต่ในใจเวินเยวี่ยกลับกระตุกวาบ นางเอ่ยถามโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “ท่านพ่อ คนมากมายขนาดนี้จะทำสิ่งใดเจ้าคะ?”เวินเฉวียนเซิ่งถึงได้เอ่ยขึ้น “ท่านอ๋องกับธิดาศักดิ์สิทธิ์สงสัยว่าคนวางยาพิษอยู่ในจวน ดังนั้นจึงต้องตรวจค้น”สีหน้าเวินเยวี่ยเกือบจะควบคุมเอาไว้ไม่อยู่อะไรคือคนวางยาพิษอยู่ในจวน?ไม่ได้ชัดเจนว่าเป็นเวินซื่อแล้วหรือ?ทำไมออกไปเพียงครั้งเดียว ก็กลายเป็นต้องค้นจวนแล้วล่ะ? !ในใจเวินเยวี่ยเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีทันทีนางนึกย้อนไปอย่างละเอียดเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 166

    กระจกร้าวยากจะเหมือนเดิม...เวินจื่อเฉินชะงักอยู่ที่เดิมเขาไม่ต้องการคำนี้เขาต้องการกระจกร้าวกลับมาเหมือนเดิม จะกลายเป็นยากจะเหมือนเดิมได้อย่างไร?คำตอบนี้ทำให้เวินจื่อเฉินปวดใจ จนแทบจะยืนไม่ติดของขวัญที่เขามอบให้เวินซื่อคือกระจกหยกลายหงส์และนางฟ้าหนึ่งบาน อย่าว่าแต่เมืองหลวง ทั่วทั้งราชวงศ์ต้าหมิงก็มีเพียงไม่กี่บานเขารู้ตัวว่าทำให้น้องสาวไม่พอใจ น้องสาวจึงโกรธเขามากดังนั้นเขาแทบจะทุ่มหมดตัวเพื่อแลกมาจากสหาย ก็เพื่อมอบให้เวินซื่อเขาคิดว่า บางทีเช่นนี้อาจทำให้น้องสาวหายโกรธได้บ้าง?หากน้องสาวสามารถเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่บนของขวัญ จะยิ่งดีมากแต่เขานึกไม่ถึง เวินซื่อเข้าใจได้จริง ๆ แต่คำตอบที่เขาได้รับกลับทำให้เวินจื่อเฉินหวาดกลัว“ไม่ เพราะของขวัญไม่ดี พี่รองไม่เลือกให้ดี...”เวินจื่อเฉินมองเวินซื่อแล้วส่ายหน้าไม่หยุด เขาฝืนยิ้มพร้อมกล่าว “น้องห้าอย่าโกรธพี่ เดี๋ยวพี่รองจะเลือกให้เจ้าใหม่อีกหนึ่งชิ้น ไม่ ชิ้นเดียวไม่พอ ต้องเลือกหลายชิ้น น้องห้าเจ้าอยากได้สิ่งใด? พี่รองจะซื้อให้เจ้าหมดเลย!”ขอเพียงไม่เอ่ยคำพูดนั้น!เวินจื่อเฉินราวกับถูกสะกดเขามองเวินซื่อที่นั่งอย

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 310

    ขวานในมือของเวินจื่อเฉินชะงักงันในทันใดไม่ใช่เพราะประโยคสุดท้ายของเวินอวี้จือแต่เป็นเพราะเขานึกขึ้นได้อย่างฉับพลัน หากเวินเยวี่ยได้ขึ้นเป็นสนมจริง ด้วยอุปนิสัยของนาง คงไม่มีวันปล่อยน้องสาวของเขาไปเด็ดขาดแม้ว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนจะยินดีให้ท้ายน้องสาวของเขา แต่การสนับสนุนเช่นนี้จะอยู่ต่อไปได้นานแค่ไหน?หากต่อไปฝ่าบาทก็ยืนอยู่ข้างเวินเยวี่ย อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่เป็นฝ่ายปกป้องราชสำนักอยู่แล้ว จะปกป้องน้องสาวของเขาต่อไปหรือไม่?เวินจื่อเฉินนึกถึงความเป็นไปได้นั้น ต่อให้มีความเป็นไปได้น้อยมาก ก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าหากถึงเวลานั้นจริง ๆ เขาที่กลายเป็นสามัญชนแล้วจะปกป้องน้องสาวได้อย่างไรอีก?เวินจื่อเฉินก็รู้สึกหนาวสั่นทั้งตัวในทันใดเขาวางขวานลง แล้วหมุนตัวมองไปทางเวินอวี้จือ “ที่พวกเจ้าบอกว่าฝ่าบาทต้องการรับเวินเยวี่ยเข้าวังเป็นสนมนั้นเป็นเรื่องจริงหรือ?”“เป็นความจริงแน่นอน!”เวินจื่อเยวี่ยยืนขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า “เรื่องนี้ฝ่าบาทตรัสเองในงานเลี้ยงใหญ่ในวันเหมายันด้วยพระองค์เอง ถึงกับให้นางอยู่ในวังเพื่อเรียนรู้กฎระเบียบ รอให้นางเรียนรู้กฎระเบียบเสร็จสิ้นแล้วจะแต่งตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 309

    “เสียใจอะไร?”เวินจื่อเฉินขมวดคิ้ว มองดูทั้งสองด้วยความไม่เข้าใจ “ตอนนี้ข้ามีชีวิตที่ดีมาก”แม้ว่าจะตัดขาดจากความรุ่งโรจน์และมั่งคั่งของจวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว ใช้ชีวิตเหน็ดเหนื่อยขึ้นเล็กน้อย ยุ่งขึ้นเล็กน้อยแต่ชีวิตแบบนี้กลับทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายทางจิตใจอย่างที่ไม่เคยได้เจอมานานโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากถูกงูพิษกัดในครั้งนั้น เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ท่าทีของน้องสาวที่มีต่อเขาผ่อนคลายลงบ้างแล้วแม้ว่าเขาจะยังไปพบน้องสาวไม่ได้ แต่สิ่งของที่เขาส่งไปที่อารามสุ่ยเยว่ก็ไม่เคยถูกส่งคืนมาเวินจื่อเฉินรู้สึกว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ สักวันหนึ่งน้องสาวจะให้อภัยเขาดังนั้นเขาจึงไม่เสียใจ“พวกเจ้ามาหาข้าด้วยธุระอันใด? รีบบอกมาเร็ว อย่าทำให้ข้าเสียเวลาทำงานอีกเลย”ค่าจ้างของเขาในวันนี้จะคิดเป็นชั่วยามหากทำงานน้อยลง ค่าจ้างก็จะถูกคนอื่นหักไปเวินจื่อเฉินยังต้องการหาเงินให้มากขึ้นเพื่อซื้อขนมอบให้น้องสาว ไม่อยากให้ค่าจ้างของตัวเองถูกหักไปเวินจื่อเยวี่ยมองดูเวินจื่อเฉินในสภาพเช่นนี้ ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกรังเกียจ “ข้าว่านะพี่รอง ท่านดูสิว่าตอนนี้ท่านอยู่ในสภาพไหน? ผมคลุกฝุ่น

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 308

    สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งถอนกลับจากภายนอกอย่างช้า ๆ เขาเหลือบมองขาของเวินจื่อเยวี่ยอย่างเฉยชา“ยังไม่รู้ว่าเป็นนางจริง ๆ หรือเปล่า แต่คาดเดาว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับนางอย่างตัดไม่ขาด”“ข้ารู้อยู่แล้ว!”เวินจื่อเยวี่ยพูดอย่างโกรธเคือง “เวินซื่อจะไม่ปล่อยน้องหกไปแน่! คราวก่อนก็ใส่ร้ายน้องหกว่าขโมยกระดูกของท่านแม่ไป ตอนนี้แทนที่จะยอมรับผิดกลับเล่นงานฝ่ายตรงข้าม ซ้ำยังกล้าโกหกและร้องเรียนต่อฝ่าบาท ทำให้น้องหกถูกขังไว้ในวัง!”เมื่อได้ยินคำพูดครึ่งแรกของเวินจื่อเยวี่ย เวินเฉวียนเซิ่งก็นิ่งไปเล็กน้อยแต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไรสักอย่าง“ในเมื่อมีความเกี่ยวข้องกับเวินซื่อ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไม่ต้องไปหานางอีกหรือ?”เวินอวี้จือขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ค่อยอยากจะไปพบเวินซื่อสักเท่าใด“ถ้าพวกเจ้าไม่อยากไป ก็สามารถไปหาพี่รองของพวกเจ้าได้”เวินเฉวียนเซิ่งเสนอความคิดให้พวกเขาอย่างเฉยชาเมื่อเวินอวี้จือได้ยินดังนั้น ก็ลูบคางเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรขึ้นมาเวินจื่อเยวี่ยลังเลเล็กน้อย “พี่รองเขาจะตอบตกลงไหม?”ครั้งที่แล้วตอนที่เวินจื่อเฉินออกจากจวนเจิ้นกั๋วกง ก็เอะอะโวยวายกว่าพี่ใหญ่เสียอีกสีหน้ามีแว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 307

    “ท่านพ่ออีกคน ท่านก็เหมือนกัน ลูกรู้ว่าท่านลำเอียงเข้าข้างน้องหก แต่หัวใจของท่านก็อย่าเอนเอียงจนเกินไป!”เวินฉางอวิ้นจ้องเขม็งใส่บิดาท่านนี้ที่เขาเคยเคารพศรัทธามาโดยตลอดทั้ง ๆ ที่เคยเป็นแบบอย่างที่เขาอยากเดินตาม แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าอะไร ๆ ล้วนไม่จริง!ตัวตนของน้องหกก็ไม่จริงความรู้สึกของพ่อที่มีต่อแม่ก็ไม่จริงยังมีภาพลักษณ์พี่ชายที่ดีที่สุดในเมืองหลวงของเขา ก็ไม่จริงเช่นกัน!เขาไม่สมควรที่จะเรียกตัวเองแบบนั้น!เมื่อนึกขึ้นมาในตอนนี้ เขารู้สึกเสียใจมากจริง ๆทั้ง ๆ ที่เขาเป็นพี่ชายคนโตของครอบครัวนี้ แต่กลับไม่ห้ามน้องสาวออกบวช และไม่ได้เกลี้ยกล่อมน้องชายที่ออกจากบ้านให้กลับมาบัดนี้เมื่อเขาได้สติในที่สุด ก็ได้สูญเสียน้องห้าและน้องรองไปแล้วเวินฉางอวิ้นมองดูน้องชายสองคนที่เหลืออยู่ในบ้าน มองดูพวกเขาเหมือนกับตัวเองเมื่อก่อนทุกประการ ท่าทางไม่มีสติเลยแม้แต่นิดเดียวเขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “น้องสาม น้องสี่ ดูแลครอบครัวนี้ให้ดี หากพวกเจ้ายังไม่ได้สติอีกล่ะก็ ครอบครัวนี้ก็จะแตกแยกจริง ๆ แล้ว!น่าเสียดายที่เวินจื่อเยวี่ยไม่เข้าใจเวินอวี้จือก็ไม่เข้าใจเช่นกันพวกเขามองพี่ใหญ่ท

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 306

    การระเบิดคำถามอย่างกะทันหันของเวินฉางอวิ้น ทำให้ทั้งเวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือที่ตั้งใจจะคุยกับเวินจื่อเยวี่ยตกตะลึงไปเวินเฉวียนเซิ่งไม่ได้เอ่ยปาก เพียงแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางเหลือบมองเวินฉางอวิ้นเวินจื่อเยวี่ยเปิดปาก อยากจะพูดบางอย่างเพื่อโต้แย้ง แต่สุดท้ายก็แค่บ่นด้วยความอึดอัดใจ “นั่นจะโทษตัวนางก็ไม่ได้ และไม่ใช่พวกเราที่บีบบังคับให้นางออกจากจวนเจิ้นกั๋วกงให้ได้นี่”เวินฉางอวิ้นยิ้มเยาะ โยนมาให้เขาแล้ว พลางเอ่ยอย่างราบเรียบ “น้องสาม ดวงตาของเจ้าบอดแล้ว ข้าก็เช่นกัน พวกเราทุกคนก็เช่นเดียวกัน”“มีเพียงน้องรองเท่านั้นที่ได้สติแล้ว เขาเข้าใจทุกอย่าง ดังนั้นจึงไปจากบ้านหลังนี้โดยไม่ยอมหวนกลับเหมือนน้องห้า”“ได้สติอะไร แค่ออกไปเป็นคนโง่เท่านั้นเอง”เวินจื่อเยวี่ยกล่าวอย่างไม่แยแส“พี่ใหญ่ ท่านไม่ได้แอบไปดูหรือ? เขาออกจากจวนเจิ้นกั๋วกงของเรา แม้แต่ที่อยู่อาศัยของตัวเองยังหาไม่ได้ด้วยซ้ำ ทำได้เพียงออกไปสร้างกระท่อมฟางโทรม ๆ เหมือนขอทาน นี่น่ะหรือได้สติอย่างที่พี่ใหญ่ว่า? ข้าว่าเขาเป็นแค่เรื่องขำขันมากกว่า”แต่เวินฉางอวิ้นกลับเหลือบมองเขาด้วยสีหน้าเวทนา“เจ้าบอกว่าน้องรองเสียสติ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 305

    จวนเจิ้นกั๋วกงห้องหนังสือ“ท่านพ่อ พี่ใหญ่ ข้าไม่นึกเลยว่าพวกท่านจะปฏิบัติกับน้องหกแบบนี้!”“พวกท่านรู้ดีว่าวังหลังนั่นคือสถานที่อะไร รู้ดีว่าพระองค์เกรงกลัวจวนเจิ้นกั๋วกงของเราแค่ไหน พวกท่านยังกล้าวางใจทิ้งน้องหกไว้ที่นั่นอีก!”“ถ้าน้องหกอยู่ในวังถูกข่มเหงรังแกจะทำอย่างไร? หากพวกเราไม่ได้อยู่ใกล้ตัวนาง ใครจะสามารถปกป้องนางได้?!”“ได้ ได้! ในเมื่อพวกท่านไม่ไปหานาง ถ้าอย่างนั้นข้าจะไป!”“หากรู้ตั้งแต่แรกว่าวันนั้นหลังจากน้องหกตามพวกท่านเข้าวังไปแล้ว จะถูกพวกท่านทิ้งไว้ที่นั่นล่ะก็ ต่อให้ขาข้างนี้ของข้าต้องพิการก็จะตามพวกท่านเข้าวังไปด้วย!”สกุลเวินในเวลานี้เกิดการโต้เถียงใหญ่โตมาสองวันแล้ว เพราะเรื่องที่เวินเยวี่ยเข้าวังพูดให้ถูกก็คือ ส่วนใหญ่เป็นการโวยวายเพียงฝ่ายเดียวของเวินจื่อเยวี่ยเป็นหลักแม้ว่าเวินอวี้จือจะไม่เอะอะโวยวายเหมือนกับเวินจื่อเยวี่ย แต่ทุกครั้งเมื่อเวินจื่อเยวี่ยเสียงดัง โดยพื้นฐานเขาก็ยืนอยู่ข้างเวินจื่อเยวี่ยเสมอส่วนพ่อลูกคู่นี้เวินเฉวียนเซิ่งและเวินฉางอวิ้น ทั้งสองนั้นมีนิสัยใจคอเหมือนกัน ในตอนแรก ๆ ยังสามารถอดทนไว้ได้ อธิบายให้พวกเข้าฟังอย่างใจเย็น ไม่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 304

    เหลียงหมอมอคือคนเก่าคนแก่ที่อยู่ข้างกายองค์ไทเฮา และไทเฮาก็เจาะจงสั่งให้มาอบรมกฎเกณฑ์แก่เวินเยวี่ยดังนั้นนางจึงตอบปฏิเสธคำร้องขอของเวินเยวี่ยอย่างไม่ลังเล “ขออภัยด้วยคุณหนูหกสกุลเวิน เนื้อตัวของท่านมีกลิ่นอายชนบทมากเกินไป เพื่อให้ท่านได้เรียนรู้กฎเกณฑ์และกลายเป็นผู้สูงศักดิ์ในวังได้โดยเร็ว บ่าวจึงต้องเข้มงวดกับท่านเล็กน้อย”เมื่อได้ยินคำว่า “กลิ่นอายชนบทมากเกินไป” สีหน้าของเวินเยวี่ยก็บึ้งตึงขึ้นมาอย่างทนไม่ไหวทันทีนังแก่นี่กล้าดูหมิ่นนางได้อย่างไร?เวินเยวี่ยกัดฟันด้วยความโกรธ พลางข่มไฟโทสะไว้ “แต่ว่าพระองค์ตกหลุมรักข้าตั้งแต่แรกเห็น หากข้าไม่ทันระวังได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าในขณะที่เรียนรู้กฎเกณฑ์จากท่าน เกรงว่าหมอมอจะลำบากกระมัง?”ลูกไม้ตื้น ๆ แบบเวินเยวี่ยนี้ เหลียงหมอมอเคยเห็นมามากแล้วนางยิ้มเล็กน้อย “คุณหนูหกสกุลเวิน คำพูดของท่านนั้นไม่ถูกต้อง”เวินเยวี่ยไม่แยแส “ตรงไหนที่ไม่ถูกต้อง?”“ไม่มีตรงไหนถูกต้องเลย พระองค์ทรงตกหลุมรักท่านตั้งแต่แรกเห็น ต้องการรับท่านเข้าวังในฐานะพระสนม ดังนั้นถึงให้ท่านเข้ามาเรียนรู้กฎเกณฑ์ในตำหนักของไทเฮา แต่ตอนนี้ท่านไม่เพียงแต่ไม่ตั้งใจเรียนรู

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 303

    เวินฉางอวิ้นทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ“ไม่ใช่ขนมอบถั่วเขียวหรือ? ถ้าอย่างนั้นก็เป็นขนมกุ้ยฮวา?”รอยยิ้มบนใบหน้าของเวินซื่อสดใสขึ้น แต่ก็เย็นชาลงเช่นกัน “ขนมกุ้ยฮวา พี่ใหญ่แน่ใจหรือ? คิดว่าเป็นขนมกุ้ยฮวาจริงหรือ? ไม่อย่างนั้นพี่ใหญ่ลองเดาดูอีกครั้ง เพราะถึงอย่างไรทุกครั้งท่านก็เดาแม่นเช่นนี้เสมอ ทำไมไม่ลองดูหน่อยว่า น้องสาวที่น่ารำคาญอย่างข้าผู้นี้ มีของที่ไม่ชอบกินที่สุดมากน้อยแค่ไหนกันแน่?”ใบหน้าของเวินฉางอวิ้นซีดเผือดอีกครั้งในชั่วประเดี๋ยวเดียว“ช่างมันเถอะ ข้าชอบกินอะไรมันเกี่ยวอะไรกับพี่ใหญ่ด้วยเล่า เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ พี่ใหญ่จำไม่ได้ก็เป็นเรื่องปกติ”น้ำเสียงของเวินซื่อเต็มไปด้วยการเย้ยหยัน “เพราะถึงอย่างไรต่อให้ข้าไม่กิน แต่ก็ยังมีคนหนึ่งที่ชอบกินอย่างไรเล่า พี่ใหญ่รีบห่อกลับไปให้น้องสาวสุดที่รักผู้นั้นที่ท่านรักสุดหัวใจเถิด”“ไม่ใช่นะ...น้องห้าเจ้าฟังพี่ใหญ่อธิบายก่อน พี่ใหญ่ไม่ได้ตั้งใจซื้อขนมอบถั่วเขียวที่เจ้าเกลียดมาให้ เพียงแต่ตอนนั้นซื้อไปโดย...จิตใต้สำนึก”เวินฉางอวิ้นร้อนใจจนพูดจาไม่คล่อง พูดถึงตอนท้ายเขาเองยังรู้สึกอับอายยิ่งกว่าเดิมเมื่อคิดดูอย่างรอบคอบ ขนมอบถั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 302

    “หากข้ากล้าทำเช่นนั้น ข้าก็ไม่ใช่คน ขอให้ฟ้าผ่าลงทัณฑ์ข้า!”เวินฉางอวิ้นยืนรับรองอยู่ข้างนอกอารามสุ่ยเยว่เป็นเวลาครึ่งชั่วยามแล้ว ลำคอแทบแห้งผาก ซือไท่เหล่านั้นถึงผ่อนคลายลง รับปากว่าจะช่วยเข้าไปพูดให้เขาแต่น่าเสียดายเหล่าซือไท่รับปากว่าจะบอกให้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเวินซื่อจะตกลงออกไป“ไม่ไป”แค่สองคำที่มีกลับมาถึงเบื้องหน้าเวินฉางอวิ้นเวินฉางอวิ้นมีหรือจะยอมแพ้ง่าย ๆ เช่นนี้“เหล่าซือไท่ได้โปรดช่วยเกลี้ยกล่อมน้องสาวของข้าอีกครั้ง ข้าแค่อยากเห็นหน้านางเท่านั้น”“ไม่ได้ ธิดาศักดิ์สิทธิ์บอกไปแล้วว่าจะไม่พบท่านก็คือไม่พบท่าน ท่านอย่ามาเสียเวลาที่นี่เลยดีกว่า รีบกลับไปเสียเถอะ”เหล่าซือไท่ที่ไม่ถูกชะตากับจวนเจิ้นกั๋วกงอยู่แล้ว หลังจากส่งต่อคำพูดจบแล้วก็รีบขับไล่เขาทันที ไม่อยากให้เวินฉางอวิ้นอยู่หน้าอารามสุ่ยเยว่ของพวกนางนานไปกว่านี้แม้แต่นิดเดียวแต่พวกนางนึกไม่ถึงว่าวันนี้ขับไล่ไป แต่หลังจากนี้เวินฉางอวิ้นก็มาอีกทุกวันทันทีที่เสร็จงานในช่วงบ่าย ไม่ได้กลับไปที่จวนเจิ้นกั๋วกงด้วยซ้ำก็ตรงมาที่อารามสุ่ยเยว่เลยมาเคาะประตูทุกวัน รบกวนจนเหล่าซือไท่หาความสงบสุขไม่ได้สุดท้ายก็ต้อ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status