Share

บทที่ 113

Penulis: จิ้งซิง
“น้องหก เรื่องนี้พี่สามของเจ้าพูดถูกจริงๆ”

เวินฉางอวิ้นก็ไม่เห็นด้วยที่เวินเยวี่ยจะนำของขวัญวันเกิดของตนเองออกมามอบให้

“แต่วันนี้เป็นวันเกิดของพี่หญิงห้า หากนางไม่ได้รับของขวัญแม้แต่ชิ้นเดียว นางจะต้องเสียใจมากแค่ไหนกัน?”

เวินเยวี่ยมองชะโงกข้ามไหล่ของเวินฉางอวิ้น พร้อมกับเอ่ยถ้อยคำที่แสดงความเป็นห่วงเป็นใย แต่สายตาที่มองเวินซื่อกลับเต็มไปด้วยความท้าทาย

“ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว จะมีอะไรให้เสียใจอีก? ในพิธีปักปิ่นก่อนหน้านี้ ก็ไม่ได้รับดอกไม้สักดอกเลยมิใช่หรือ?”

เวินจื่อเยวี่ยยิ้มเยาะแล้วพูดจาแทงใจดำออกมา

“ดังนั้นเวินซื่อเจ้าควรจะทำตัวดีๆ หน่อย หากเจ้ายอมเชื่อฟังแต่โดยดี ท่านพ่อและพวกเราก็ใช่ว่าจะมอบของขวัญวันเกิดชิ้นนี้ให้เจ้าไม่ได้”

เวินซื่อกล่าวด้วยความรำคาญ “ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่ต้องการ...”

“แท้จริงแล้วธรรมเนียมการอวยพรวันเกิดให้ผู้อื่นของจวนเจิ้นกั๋วกงก็คือมามือเปล่า แล้วยังต้องข่มขู่ผู้อื่นก่อน ถึงจะมอบของขวัญให้อย่างนั้นหรือ?”

เวลานี้ น้ำเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยก็ดังมาจากนอกเรือนอย่างกะทันหัน

เวินเฉวียนเซิ่งและคนอื่นๆ หันกลับไปมอง เห็นเพียงเป่ยเฉินหยวนท่านอ๋องผู้สำเร็
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 114

    ภายในกล่องบรรจุชุดเครื่องประดับศีรษะที่ประดับด้วยขนนกสีฟ้าอมเขียว ทองคำ และหยกอันหรูหราอลังการ ยิ่งกว่ากวานที่เวินฉางอวิ้นพวกเขาพี่น้องทั้งสี่เคยสั่งทำให้เวินซื่อเสียอีกดังนั้น ไม่ใช่แค่เวินซื่อ แม้แต่คนในสกุลเวินที่อยู่ข้างๆ เมื่อเห็นชุดเครื่องประดับศีรษะนี้ ต่างตกตะลึงไปตามๆ กันเวินเยวี่ยยิ่งรู้สึกอิจฉาจนกัดฟันกรอดหากนางเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ เครื่องประดับศีรษะเช่นนี้ก็ควรจะเป็นของนาง!แต่ตอนนี้นางเด็กสารเลวนี่กลับได้ไป!นางจะคู่ควรได้อย่างไร?!ทว่าเวินเยวี่ยไม่คาดคิดเลยว่า สิ่งที่ทำให้นางอิจฉายิ่งกว่ากำลังจะตามมา“ลองเปิดชิ้นนี้ดูอีกสิ”เป่ยเฉินหยวนยื่นกล่องอีกใบในมือให้กับเวินซื่อหลังจากวางชุดเครื่องประดับศีรษะอันหรูหราลงอย่างระมัดระวังแล้ว เวินซื่อจึงเปิดชิ้นที่เป่ยเฉินหยวนถืออยู่ในมือเมื่อเปิดออก เสื้อคลุมยาวปักลายผีเสื้อที่ทำมาจากผ้าไหมเสฉวนอันงดงามวิจิตรตระการตาก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคนสิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคือ บนเสื้อคลุมยาวปักลายผีเสื้อที่พับไว้อย่างเรียบร้อยนั้น ยังมีกิ่งดอกเหมยวางทับไว้อยู่ทั้งกวาน ทั้งเสื้อคลุมยาวหรูหรา สุดท้ายยังมีดอกไม้อีก...มาถึงตอนน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 115

    ในที่สุดนางก็จะเบ่งบานอย่างงดงามเวินซื่อจ้องมองกิ่งดอกเหมยนั้น ราวกับเข้าใจอะไรบางอย่าง ดวงตาของนางเป็นประกายระยิบระยับ เอ่ยด้วยเสียงเบาๆ “ขอบคุณท่านอ๋องสำหรับคำอวยพร”“ไม่คิดเลยว่าท่านอ๋องจะรู้เรื่องดอกไม้ได้ดีขนาดนี้ ดอกเหมย ช่างเหมาะกับพี่หญิงห้าจริงๆ ”ทันใดนั้น น้ำเสียงสดใสอ่อนหวานก็ดังขึ้นทำลายบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนเวินเยวี่ยเดินมาหยุดอยู่ตรงเวินซื่อ ใบหน้าของนางดูไร้เดียงสาและอยากรู้อยากเห็น พร้อมกับแทรกตัวเข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองคน “แต่ดอกเหมยที่บานก่อนกำหนดเช่นนี้หายากจริงๆ เยวี่ยเอ๋อร์ก็ชอบมากเหมือนกัน พี่หญิงห้าให้เยวี่ยเอ๋อร์ดูบ้างได้หรือไม่?”“ไม่ได้”สีหน้าของเวินซื่อเย็นชาทันที และปฏิเสธนางอย่างไม่ลังเล“ก็ได้ พี่หญิงห้าก็ยังคงเกลียดข้ามากอยู่ดี ช่างเถิด พี่หญิงห้าอย่าโกรธเลย หากท่านรังเกียจ เยวี่ยเอ๋อร์ไม่ดูแล้วก็ได้”เวินเยวี่ยแสดงสีหน้าผิดหวังออกมาในทันที จากนั้นจึงหันไปมองเป่ยเฉินหยวนด้วยความคาดหวัง “ท่านอ๋อง ไม่ทราบว่าท่านพอจะมีดอกเหมยอีกหรือไม่ เยวี่ยเอ๋อร์ไม่อยากแย่งพี่หญิงห้า เพียงแต่ชอบมากจริงๆ ถ้าท่านยินดีมอบให้เยวี่ยเอ๋อร์สักกิ่ง เยวี่ยเอ๋อร

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 116

    “ท่านอ๋องอาจจะยังไม่ทราบ” เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยปากอย่างช้าๆ “วันเกิดปัจจุบันของเยวี่ยเอ๋อร์ไม่ใช่วันเกิดที่แท้จริงของนาง แต่เป็นวันครบรอบวันตายของมารดาของนาง”“โอ้?”เป่ยเฉินหยวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แสดงสีหน้าไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด “เป็นวันครบรอบวันตาย เช่นนั้นเหตุใดจึงนำมาปะปนกับวันเกิดเล่า?”“เพียงเพื่อมิให้ในภายภาคหน้าเยวี่ยเอ๋อร์ลืมวันที่มารดาของนางเสียชีวิตไป จึงได้เปลี่ยนวันเกิดของเยวี่ยเอ๋อร์มาเป็นสองเดือนก่อนหน้านั้น และถ้าคำนวณตามวันเกิดที่แท้จริงของเยวี่ยเอ๋อร์แล้ว นางก็อายุน้อยกว่าเวินซื่อเล็กน้อย หากถือว่าเป็นน้องสาวก็ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม”“แค่เพียงเท่านี้หรือ?”“แค่เพียงเท่านี้”เวินเฉวียนเซิ่งตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยเวินเยวี่ยก็รีบพยักหน้า “ใช่แล้วๆ ท่านพ่อทำเช่นนี้ก็เพื่อเยวี่ยเอ๋อร์ ไม่คิดเลยว่าจะทำให้ท่านอ๋องเข้าใจผิด แต่วันเกิดที่แท้จริงของข้าก็ยังอีกสักพักจริงๆ ”เมื่อได้ยินเวินเยวี่ยยืนยันหนักแน่นเช่นนี้ เวินฉางอวิ้นและคนอื่นๆ ที่อยู่รอบข้างต่างมองหน้ากันทันทีจนกระทั่งวันนี้พวกเขาถึงได้รู้ว่า แท้จริงแล้ววันเกิดของน้องหกมีเบื้องหลังเช่นนี้เองแน่นอนว่าเป็นเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 117

    ในที่สุดเวินฉางอวิ้นและคนอื่นๆ ที่เข้าใจความหมายแฝงของเป่ยเฉินหยวนต่างหน้าซีดเผือดเวลานี้ พวกเขาถึงตระหนักได้ว่า คนที่อยู่ตรงหน้าคือท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ผู้มีอำนาจสูงสุดในราชสำนักรองจากฮ่องเต้ และยังเป็นเทพสงครามผู้สังหารศัตรูนับไม่ถ้วนในสนามรบและได้รับชัยชนะทุกครั้งกล้าล่วงเกินคนเช่นนี้ นั่นก็เหมือนรนหาที่ตาย!และเมื่อครู่น้องหกกับเจ้าสามยังกล้าพูดแทรกต่อปากต่อคำกับเป่ยเฉินหยวนครั้งแล้วครั้งเล่าอีก?คำพูดที่ว่าจะช่วยสั่งสอนแทนท่านพ่อของพวกเขาอะไรนั่น ชัดเจนว่าเป็นการข่มขู่!เวินจื่อเยวี่ยที่เข้าใจแล้วเช่นกันก็ทำได้เพียงกำหมัดแน่น ยืนอยู่ที่เดิม“เพียะ! เพียะ! เพียะ! เพียะ! เพียะ! ...”เวินเฉวียนเซิ่งก็ไม่ปรานีเขาตบหน้าลูกชายของตัวเองแต่ละครั้งอย่างแรงด้วยสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ไม่นานมุมปากของเวินจื่อเยวี่ยก็มีเลือดไหลออกมาเมื่อเห็นฉากนี้ เวินเยวี่ยก็อดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปหนึ่งก้าวบัดซบ ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่าผ่าเผยเหตุใดถึงใจแคบเช่นนี้?!ช่างอารมณ์แปรปรวนจริงๆ!จนถึงตอนนี้ เวินเยวี่ยถึงได้รู้สึกถึงความน่ากลัวของบุรุษที่ชื่อว่าเป่ยเฉินหยวนผู้นี้เขาสามาร

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 118

    “พอแล้วๆ เจิ้นกั๋วกง พอสมควรแล้ว”หลังจากที่เวินจื่อเยวี่ยโดนบิดาของตัวเองตบไปกว่าสามสิบครั้ง เป่ยเฉินหยวนจึงเอ่ยปากขึ้นในที่สุดพร้อมกับรอยยิ้ม “ข้าไม่ใช่คนขี้โมโหอะไร เพียงแค่ให้ท่านสั่งสอนบุตรชายหน่อยเท่านั้น เหตุใดท่านถึงได้ลงมือหนักขนาดนี้เล่า ดูสิ ท่านตบลูกชายจนหน้าเสียโฉมแล้ว น่าสงสารจริงๆ”เมื่อได้ยินคำพูดเสแสร้งของเป่ยเฉินหยวน เวินเฉวียนเซิ่งที่หยุดมือแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ เขารู้ว่าคนผู้นี้รับมือยากเพียงใด หากวันนี้ไม่สามารถทำให้เป่ยเฉินหยวนพอใจ เกรงว่าเส้นทางของเจ้าสามคงจะไม่ราบรื่นดังนั้นเวินเฉวียนเซิ่งจึงส่งสายตาให้เวินจื่อเยวี่ยอีกครั้งเวินจื่อเยวี่ยที่มีใบหน้าบวมปูดราวกับหัวหมู คุกเข่าลงกับพื้นเสียงดัง “ตุบ” แล้วเอ่ยกับเป่ยเฉินหยวนเบาๆ “กระหม่อมสำนึกผิดแล้ว ต่อไปจะไม่ทำอีก ท่านอ๋องโปรดอภัยให้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”นานๆ ทีจะได้เห็นเวินจื่อเยวี่ยพลาดท่าเสียทีแบบนี้ เวินซื่อจึงดูอย่างเพลิดเพลินแต่ในเวลานี้ จู่ๆ เป่ยเฉินหยวนกลับหันมามองนางเวินซื่อชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย “มีอะไรหรือ?”เป่ยเฉินหยวนเลิกคิ้วขึ้นพลางกล่าวขึ้น “ถามท่านว่าให้อภัยหรือไม่?”

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 119

    หรือว่าจะเป็นเศษดินเศษหญ้าที่กระเด็นเข้าตาตอนรดน้ำเมื่อครู่?ทว่าเหตุใดนางถึงไม่รู้สึกอะไรเลยล่ะ?ในขณะที่นางกำลังทำอะไรไม่ถูก เป่ยเฉินหยวนก็กล่าวขึ้นทันที “ตอนนี้ไม่มีแล้ว เมื่อครู่นี้ ตอนที่ท่านมองเวินจื่อเยวี่ยผู้นั้น ดวงตาของท่านเต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย ความโกรธ ความเกลียดชัง ความเสียใจ ความเจ็บปวด...”ทุกครั้งที่เขาพูดถึงอารมณ์แต่ละอย่าง สีหน้าอารมณ์ของเวินซื่อก็ค่อยๆ จางหายไปในที่สุด เป่ยเฉินหยวนก็เอ่ยถามนางด้วยเสียงเบาๆ “ท่านเจออะไรมาบ้างที่สกุลเวิน?”แน่นอนว่าเวินซื่อไม่มีทางตอบเขาหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ “ไม่คิดเลยว่าท่านอ๋องจะสังเกตได้ละเอียดเช่นนี้”“ข้าไม่ได้สังเกตอย่างละเอียด แต่ท่านไม่รู้ว่า เมื่อครู่นี้ ท่านแสดงอารมณ์ออกมาทางสายตาอย่างชัดเจนเพียงใด”ชัดเจนจนถึงขั้นทำให้ผู้อื่นไม่สามารถมองข้ามไปได้และเป่ยเฉินหยวนไม่ได้บอกเวินซื่อว่า นอกจากเขาแล้ว ยังมีอีกคนที่ดูเหมือนจะสังเกตเห็นเช่นกันเวินซื่อกำมือแน่น ก่อนจะหันไปมองทางอื่น “ขอบคุณท่านอ๋องที่คอยดูแลและปกป้องข้าตลอดช่วงเวลานี้ แต่ขออภัยด้วย บางเรื่องข้าคิดว่าเรายังไม่ถึงขั้นที่ต้องเปิดเผ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 120

    “วันนี้น่าเสียดายจริงๆ”บนรถม้าระหว่างทางกลับเมืองหลวง เวินฉางอวิ้นถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้น “หากท่านอ๋องไม่มา บางทีอาจจะได้พูดคุยกับน้องห้าดีๆ ก็ได้”เวินจื่อเยวี่ยที่กำลังทายาก็เอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด “ข้าว่านะพี่ใหญ่ จนถึงตอนนี้ท่านยังมองไม่ออกอีกหรือ? ต่อให้วันนี้ท่านอ๋องไม่มา เวินซื่อก็ไม่มีทางคุยกับพวกเราดีๆ หรอก”“พี่สามพูดถูก พี่ใหญ่ ต่อไปนี้ท่านอย่าพูดแบบนี้อีกเลย”เวินอวี้จือที่อยู่ภายในรถม้ากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าน้องหก”เวินฉางอวิ้นขมวดคิ้ว “พูดต่อหน้าน้องหกแล้วอย่างไรเล่า น้องหกใจดี และชอบพี่หญิงของนางมาโดยตลอด ต่อให้พูดเรื่องพวกนี้กับนาง นางก็ไม่ถือสาหรอก”เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ เวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือสองพี่น้องถึงเพิ่งรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า แท้จริงแล้วพี่ใหญ่ของพวกเขาเป็นคนหัวทึบจริงๆ “ก็เพราะว่าน้องหกใจดี พี่ใหญ่ท่านยิ่งไม่ควรพูดแบบนี้”เวินจื่อเยวี่ยเริ่มตำหนิพี่ใหญ่ของเขาอย่างไม่เกรงใจ “เวินซื่อไม่ใช่คนดีอะไร ต่อให้พี่ใหญ่เกลี้ยกล่อมนางกลับมา ต่อไปนางก็จะยังก่อเรื่องวุ่นวายในบ้าน ถ้าน้องหกได้รับบาดเจ็บอีกจะทำอย่างไร? เวินซื่อนางใช่ว่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 121

    “ท่านลุง น้องเยวี่ยเอ๋อร์ ในที่สุดพวกท่านก็กลับมาแล้ว”เวินฉางอวิ้นและพวกเขาเงยหน้าขึ้นมอง ถึงได้พบว่าชุยเส้าเจ๋อมาถึงจวนเจิ้นกั๋วกงแล้วไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ กำลังรอพวกเขาอยู่ข้างในชุยเส้าเจ๋อรีบก้าวเข้ามาต้อนรับ พร้อมกับยืนอยู่ข้างกายเวินเยวี่ยทันที ก่อนถามอย่างงุนงง “วันนี้พวกท่านไปไหนมา? ทำไมทุกคนไม่อยู่ในจวนตลอดช่วงบ่าย ฟ้ามืดแล้วถึงเพิ่งกลับมา”เมื่อได้ยินคำถามของเขา เวินฉางอวิ้นและคนอื่น ๆ ก็นิ่งไปชั่วขณะเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น แม้แต่ชุยเส้าเจ๋ออดีตคู่หมั้นที่เป็นเพื่อนเล่นตั้งแต่เยาว์วัยของเวินซื่อก็ลืมวันนี้ไปอย่างคาดไม่ถึงเวินจื่อเฉินอ่อนแรงมากกว่าเดิมเล็กน้อยมีเพียงเวินเยวี่ยที่ตอบเขาอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส “บ่ายวันนี้พวกเราไปที่อารามสุ่ยเยว่เพื่อฉลองวันเกิดให้พี่หญิงห้าเจ้าค่ะ”ทันทีที่ชุยเส้าเจ๋อได้ยินชื่อเวินซื่อ ก็มีสีหน้าไม่พอใจทันที“ทำไมถึงยังไปฉลองวันเกิดให้นางอีก?”“ไม่ได้มีแต่พวกเราที่ไป แม้แต่อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนก็ไปด้วยนะเจ้าคะ”เวินเยวี่ยพูดประโยคนี้ที่ดูเหมือนทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจสีหน้าท่าทางของชุยเส้าเจ๋อเปลี่ยนไปอย่างมาก “อะไรนะ?!

Bab terbaru

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status