มหาวิทยาลัย H
ตึก ตึก ตึก
เสียงกระทบของรองเท้าส้นสูงที่ก้าวอย่างรีบเร่งเข้ามาบริเวณใต้ตึกคณะบริหาร ร่างบางสมส่วนในชุดนักศึกษารัดรูป กระโปรงทรงเอ ใบหน้าสวยหวานราวตุ๊กตาบวกกับผิวขาวละเอียดของมิลินเรียกความสนใจจากกลุ่มนักศึกษาร่วมคณะที่นั่งอยู่บริเวณรอบได้เป็นอย่างดี
ร่างเล็กเดินสอดส่ายสายตามองหาเพื่อนรักของเธอที่คงนั่งรอเธออย่างหงุดหงิดแล้ว เพราะเธอมาถึงมหาวิทยาลัยสายกว่าเวลานัดเกือบ 30 นาที ทันทีที่เจอเพื่อนรักเธอก็รีบเร่งฝีเท้าตรงเข้าไปหา
“แฮก ๆ ขอโทษนะยัยคลี ฉันไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก” เธอกล่าวขอโทษขอโพยเพื่อนรักพลางยกมือไหว้ถูไปมาด้วยความรู้สึกผิด ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูของเธอทำเอาคลีโอกลอกตามองบนด้วยความเอือมระอา
“ชิ ไม่ต้องมาทำท่าน่าสงสาร ยัยลินเธอปล่อยฉันนั่งรอนานมาก!!”
“ขอโทษจริง ๆ แก เมื่อคืนกว่าจะเลิกงานดึกมากเลย กว่าฉันจะกลับถึงคอนโด กว่าจะอาบน้ำนอนอีก เกือบตี 3” เมื่อคืนเป็นเวรช่วยปิดร้านที่เธอทำงาน ทำให้ต้องอยู่รอลูกค้ากลับ เคลียร์โต๊ะ เก็บของ ปิดร้าน
“ก็เพราะรู้ไงฉันถึงขี้เกียจจะบ่นแกแล้ว เรียนไปทำงานไประวังร่างสวย ๆ นี่จะพังก่อนเรียนจบนะยะ” คลีโอบ่นเธอเช่นทุกครั้งแต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่เธอจะทำตาม หญิงสาวได้แต่ส่งยิ้มเจื่อน ๆ ให้เพื่อนรักที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“แกก็รู้ ฉันต้องหาเงินจ่ายค่าเทอม ค่ากิน ไหนจะเรื่องพ่อฉันอีก เลิกทำงานแล้วจะเอาตังที่ไหนกินหละ” เธอตอบพลางหยิบชีทสรุปเนื้อหาการเรียนในกระเป๋าส่งให้เพื่อน
“ก็บอกให้ยืมฉันไปก่อน แกเรียนจบเมื่อไหร่ทำงานก็ค่อยทยอยคืน หรือไม่ต้องคืนเลยก็ได้ ฉันไม่ซีเรียสเรื่องเงิน แต่ฉันเป็นห่วงแก” ยัยคลียังคงบ่นเธอต่อไปก่อนจะหยิบชีทที่เธอส่งให้ไปเปิดดู
“บ้าน่าแก ฉันรับไม่ได้หรอก”
“ก็แค่เอาเลขบัญชีมา ฉันโอนให้ จะรับไม่ได้อะไรของแก”
“เงินแกก็เงินแกสิ มาให้ฉันได้ยังไง แค่ความเป็นห่วงก็พอแล้ว” เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่เพื่อนเธอพยายามยัดเยียดมาให้เธอตลอดพอ ๆ กับเรื่องที่บ่นเธอเรื่องงาน แต่ปัญหาทางบ้านของเธอมันไม่ได้มีท่าทีจะจบลงง่าย ๆ ต่อให้จะขอยืมเงินเพื่อนเธอมา พ่อเธอก็คงใช้มันหมดลงอย่างรวดเร็วอยู่ดี เธอคงไม่มีปัญหาหาเงินมาคืนเพื่อนเธอในเร็ววันแน่ ๆ
“แต่งานใหม่ของแกอันนี้ฉันว่ามันไม่โอเคเลยวะ ทำไมไม่ทำที่คาเฟ่ต่อ ไม่ต้องเลิกดึก ไม่ต้องเสี่ยงกับพวกขี้เมาด้วย”
“ก็งานนี้มันก็ได้เงินเยอะกว่าไง เหนื่อยกว่าหน่อย แต่ก็ได้ทิปจากแขกเพิ่มอีก”
เธอเปลี่ยนงานมาเป็นเด็กเสิร์ฟที่ผับได้ 2 อาทิตย์แล้ว ก็ต้องปรับตัวเยอะหน่อยกับบรรดานักท่องราตรีที่เมามาย พยายามเข้ามาทำความรู้จักหรือลวนลามเธอแต่เธอก็พยายามเซฟตัวเองให้มากที่สุด อีกทั้งที่ผ่านมาก็ยังไม่มีเรื่องอะไร มากสุดแค่ถูกลูกค้าลูบแขนเธอตอนยกเหล้ามาเสิร์ฟ
“โอ๊ยนั่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่ได้ งั้นเปลี่ยนมาทำที่ผับพี่ชายฉันดีกว่าไหม อย่างน้อยฉันยังพอให้คนช่วยดูแลแกตอนทำงานได้”
เธอพอรู้มาว่าครอบครัวของคลีโอค่อนข้างมีฐานะมากจนถึงมากที่สุด บ้านของเธอมีตั้งแต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จนไปถึงธุรกิจสีเทา ๆ อย่างผับ บาร์ และชื่อเสียงของพี่ชายเธอทั้งเรื่องนิสัยและอำนาจที่เขามี ใคร ๆ ก็ต่างพูดกันว่าเป็นมาเฟียของเมืองไทยเลยทีเดียว
“น่า ๆ ฉันเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่เอง ออกตอนนี้ก็น่าเกลียด อีกอย่างก็ยังไม่เคยเจอพวกลูกค้านิสัยแย่ ๆ เอาไว้ถ้ามีปัญหาอะไร ฉันจะบอกแกคนแรกเลย โอเคไหม” เธอพยายามพูดจบประเด็นเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ
คลีโอมองมิลินด้วยสายตาเป็นห่วง เพื่อนเธอเป็นคนซื่อ ๆ ไม่ค่อยทันใคร แถมยังใจดีเกินไป จนชอบถูกคนอื่นเอาเปรียบเธออยู่บ่อย ๆ เธอกลัวว่ายิ่งไปทำงานในสถานที่อโคจรแบบนั้น เพื่อนเธอจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์แย่ ๆ ไม่ได้
“รีบเข้าห้องเรียนกันได้แล้ว อีก 5 นาทีจะเริ่มคลาสแล้ว” เธอมองนาฬิกาที่ข้อมือ รีบตัดบทชวนเพื่อนลุกจากโต๊ะใต้ตึกคณะเพื่อเข้าเรียน
“เพราะใครกันจ๊ะที่มาช้า ฉันอุตส่าห์รีบมาก่อนเพื่อจะยืมชีทสรุปของเธอไปซีร็อกซ์ แล้วไปกินข้าวก่อนเข้าเรียน”
“ฮือ ขอโทษจริงๆ แก นี่ได้กินอะไรรองท้องหรือยัง”
“ซื้อแซนด์วิชมากินแล้วย่ะ ไปกันเถอะ” คลีโอไม่ได้ว่าอะไรเธอต่อ พลางเก็บชีทสรุปที่ขอยืมจากเธอมาถือไว้ แล้วเก็บแก้วน้ำกับของบนโต๊ะไปทิ้งถังขยะแถวนั้น
“เรียนเสร็จอยู่รอฉันชีร็อกซ์ชีทสรุปเลย”
“ได้ ๆ เดี๋ยวรอเป็นเพื่อน เลี้ยงชานมไข่มุกไถ่โทษด้วย” เธอส่งยิ้มออดอ้อนเพื่อน แถมเสนอเลี้ยงชานมของโปรดของทั้งคู่ เพื่อให้เพื่อนเธออารมณ์ดีขึ้น
“ดีมากค่ะ รีบไปกันได้แล้ว จะเริ่มคลาสแล้ว” คลีโอตอบกลับด้วยท่าทางพอใจ
“เอาล่ะ จุดเมื่อกี้ทุกคนไปอ่านกันมาดี ๆ เพราะอาจจะมีออกสอบด้วย ถ้าไม่มีใครสงสัยตรงไหนแล้ววันนี้เลิกคลาสได้ครับ” เสียงของอาจารย์กล่าวปิดคลาส นักศึกษาทุกคนก็เริ่มเก็บของ ทยอยเดินออกจากห้อง
“โอ๊ยยยย นั่งจนเมื่อยไปหมดเลย” เพื่อนสาวที่นั่งข้าง ๆ บิดขี้เกียจพลางบ่นกระปอดกระแปดออกมา
“เอาน่า ใกล้สอบกลางภาคแล้ว ทน ๆ อีกนิดเดียวเอง” เธอปลอบ
“แหม๋ กลางภาค แล้วยังต้องเจอปลายภาคอีก ไหนจะธีสิสปีหน้าอีก หนทางยังอีกยาวไกล”
“จ้า ๆ ไปกินชานมไข่มุกเพิ่มพลังกันเถอะ”
ทั้งคู่เก็บของเข้ากระเป๋า แล้วลุกเดินออกจากห้องเรียนเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ หลังจากทั้งคู่รอรับชีทสรุปเนื้อหาการเรียนเสร็จ ก็ยืนกินชานมไข่มุกของโปรดกันอยู่บริเวณลาดจอดรถหน้าคณะบริหาร เรียกความสนใจจากหนุ่ม ๆ ที่เดินผ่านบริเวณนั้นให้หันมามอง เนื่องจากใบหน้าสวยของทั้งคู่
คลีโอเธอเคยเป็นถึงดาวคณะบริหารสมัยเข้ามาปี 1 สาวเปรี้ยว สวย รวย เก่ง มั่นใจในตัวเอง รูปร่างดีราวกับนางแบบ จนเป็นที่จับจ้องของหนุ่มๆ แทบทุกคนในมหาลัย แต่ด้วยใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าทางบ้านของหญิงสาวขึ้นชื่อเรื่องความโหด และอำนาจมืดที่มีในมือ ทำให้น้อยคนที่กล้าเข้ามาทำความรู้จักเธอ
ส่วนมิลินเป็นสาวหวาน ตัวเล็ก น่ารัก ขี้อาย ผิวขาวอมชมพู อีกทั้งหน้าอกหน้าใจที่ไม่ได้เล็กตามตัว จึงเป็นอีกหนึ่งสาวที่เป็นที่หมายปองของหนุ่ม ๆ ทั้งในและนอกมหาลัย
แม้จะมีหนุ่ม ๆ เข้ามาขายขนมจีบให้ตลอด แต่เพราะเธอต้องทั้งเรียนและทำงานไปพร้อมกัน ทำให้ไม่เคยมีเวลาสนใจเรื่องของความรัก ทำให้สองสาวโสดต่างสไตล์จึงถือเป็นแรร์ไอเทมประจำคณะไปโดยปริยาย แม้ปัจจุบันทั้งคู่จะเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 ไม่ใช่เฟรชชี่ ปี 1 ใสใส แล้วก็ตาม
“ขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวไปส่งที่ห้อง” คลีโอว่าพลางกดรีโมตปลดล็อกรถสปอร์ตสีขาวมุกคันหรูที่ทั้งคู่ยืนพิงกันอยู่
“เกรงใจแก เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับเองก็ได้”
“โอ๊ย อย่ามาลำไยค่ะ ยังไงก็ผ่านคอนโดแกอยู่แล้ว”
“แต่แกก็ต้องอ้อมไปส่งอยู่ดี เกรงใจ”
“ขึ้นรถ!! จะมาเกรงใจอะไร ฉันก็ไปส่งแกเกือบทุกวัน”
“ก็เพราะแบบนั้นแหละ ฉันเลยเกรงใจ” เธอบ่นอุบอิบ แต่ก็เปิดประตูข้างคนขับก้าวขึ้นไปนั่ง
“แกเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ผับชื่ออะไรนะ” คลีโอถามขึ้นโดยที่ยังขับรถไปด้วย สายตาคมสวยจับจ้องถนนด้านหน้า
“ที่ เดอะ กลาส รู้จักไหม”
“รู้จักสิยะ ผับนี้ดังพอ ๆ กับผับพี่ชายฉันเลย แต่ชื่อเสียงเจ้าของผับไม่ค่อยดีเท่าไหร่แกอย่าลืมนะ ถ้ามีปัญหาอะไรที่นั่นแกต้องบอกฉันคนแรก” คลีโอยังคงย้ำเรื่องที่ทำงานกับเธออีกครั้งด้วยความเป็นห่วง
“รับทราบค่าคุณแม่” เธอตอบรับเสียงใส จนเพื่อนสาวส่ายหัวเอือมระอาปนเอ็นดู
@เดอะ กลาสเสียงเพลงสากลบีทหนักๆ ที่ถูกเปิดโดยดีเจบนเวที ดังกระหึ่มทั่วบริเวณของผับหรู เหล่านักเที่ยวต่างดื่มน้ำเมาสีอำพัน วาดลวดลายโยกย้ายไปตามจังหวะเพลงมันส์ ๆส่วนหลักที่กินพื้นที่ประมาณ 3 ใน 4 เป็นโซนธรรมดาสำหรับคนทั่วไป ส่วนห้องกระจกทึบด้านหลัง เป็นโซน VIP ที่ค่าเปิดโต๊ะแพงมาก แต่ก็เหมาะกับพวกดารา นางแบบ เหล่าคนดัง หรือบุคคลมีชื่อเสียงเนื่องจากหากมองจากด้านนอกจะมองไม่เห็นด้านใน เห็นเป็นเพียงเงาสะท้อนเท่านั้น แต่ภายในห้องสามารถมองเห็นบรรยากาศภายในผับได้ โดยแต่ละห้องจะแยกกัน เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้าผู้คนที่อัดแน่นเบียดเสียดบริเวณโซนธรรมดาของผับ บวกกับแสงไฟวิบวับและเพลงที่ดังกระหึ่ม ทำเอามิลินที่คอยเดินจดออเดอร์จากลูกค้าและเสิร์ฟเครื่องดื่มเริ่มมึน แม้เธอจะไม่ได้ดื่มก็ตามเธอต้องพยายามเดินหลบเลี่ยงเพื่อไม่ให้ชนกับเหล่าลูกค้า ทั้งกันเครื่องดื่มในมือหก และปัญหาที่อาจเกิดด้วย“เฮ้อ” มิลินถอนหายใจออกมา ร่างเล็กยืนพิงอยู่กับบาร์เครื่องดื่ม ด้านข้างของตัวผับ หลังจากตอนนี้ยังไม่มีลูกค้าเรียก“เหนื่อยเหรอมิลิน ถอนหายใจเสียงดังเลย” เสียงของพี่ซี รุ่นพี่ที่ทำงานเดินเข้ามายังจุดเดียวกับเ
ไคโรก้าวเข้ามาในผับคู่แข่งอย่าง เดอะ กลาส เนื่องจากจู่ ๆ พวกเพื่อนของเขาก็เกิดอยากเปลี่ยนบรรยากาศซะงั้นตั้งแต่ร่างสูงเข้ามาที่ผับ สายตาของหญิงสาวหลายคน ก็มองมายังเขาแถมยังส่งสายตาเชิญชวนจนออกนอกหน้า เขาส่งสายตาเย็นชาก้าวเดินผ่านพวกสาว ๆ ไปอย่างไม่สนใจลีโอมือขวาของเขาเปิดประตูห้อง VIP ที่เพื่อนของเขาจองเอาไว้ ก่อนจะเห็นพวกเพื่อน ๆ ของเขาที่มากันครบทุกคนแล้ว“มึงมาช้า” วิคเตอร์หนึ่งในเพื่อนของเขาบ่นออกมาทันทีที่เห็นหน้าเขา“มึงมาช่วยเขาปิดผับ?” ลีออนถามเขาด้วยสีหน้ากวนตีนตามนิสัยของมัน“กูต้องเคลียร์งานที่ผับกูก่อนไหม”ไคโรตอบก่อนจะหยิบแก้วเครื่องดื่มที่สาวข้างกายลีออนชงส่งมาให้ ในห้องนี้นอกจากจะมีเพื่อนของเขาทั้งสามคน ก็ยังมีสาว ๆ ที่วิคเตอร์และลีออนเรียกเข้ามาดูแล“แต่นี่มันตี 1 อีกชั่วโมงเดียวผับก็ปิดแล้วไหม” ลีออนยังคงบ่นต่อไปไคโรไม่ได้สนใจจะตอบคำถามของลีออน เขามองไปยังภายนอกห้องกระจกที่เห็นโซนผับด้านนอก“ทำไมเลือกมาผับไอ้เควิน”“เบื่อผับมึงไง” วิคเตอร์ตอบ ก่อนจะหันกลับไปนัวเนียสาวที่เขาเรียกเข้ามาดูแล“ถือว่ามาดูคู่แข่งแล้วกัน”ไคโรส่ายหัวให้กับคำตอบของวิคเตอร์ ไอ้พวกนี้คงแค่อยา
@คอนโดมิลินแสงอาทิตย์ยามเช้าลอดผ่านผ้าม่านบางเข้ามากระทบร่างของหญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงนุ่ม ทำให้เธอเริ่มรู้สึกตัวตื่น“อื้ออออ~” ร่างเล็กของมิลินบิดขี้เกียจขับไล่ความง่วง เธอหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างเตียงขึ้นมาเพื่อดูเวลา“เกือบ 10 โมง แล้วเหรอเนี่ย”เธอบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ นอนมองเพดานสีขาวเหนือเตียง ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืน เธอขอลาออกกับผู้จัดการร้านที่ผับแล้ว พี่ผู้จัดการดูหงุดหงิดเล็กน้อยที่จู่ ๆ เธอมาขอลาออก หลังเพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียง 2 สัปดาห์ แต่ก็ไม่ได้รั้งอะไรเธอไว้มิลินยังไม่ได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เพื่อนสนิทอย่างคลีโอฟัง เธอกังวลว่าเพื่อนสาวจะไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปเพราะที่ผ่านมามีหลายครั้งที่คลีโอออกหน้าเอาเรื่องกับคนที่มารังแกเธอให้ หญิงสาวไม่อยากให้เพื่อนมีปัญหากับคนน่ากลัวแบบเควิน...ครืด ครืด-LINE-CLEO: ตื่นยางงงงงCLEO: ไปช็อปปิ้งเป็นเพื่อนหน่อยLin Lin: กี่โมง?CLEO: อีกชั่วโมงเดี๋ยวไปรับที่ห้องนะคะLin Lin: ยังไม่ได้รับปากว่าจะไปเลยอีกฝ่ายไม่ตอบกลับอะไรข้อความเธออีก แม้ข้อความที่เธอส่งไปจะขึ้นว่าอ่านแล้ว เห็นทีแบบนี้อีกฝ่ายคงไม่รั
@คอนโดคลีโอหลังจากทั้งคู่เดินซื้อของจนหมดแรง ต้องบอกว่ามีเพียงมิลินคนเดียวที่หมดแรง เพราะเพื่อนสาวของเธอยังคงมีเรี่ยวแรงเหลือเฟือ หากเธอไม่ออกปากรั้งไว้ก่อน เห็นทีจนค่ำเพื่อนเธอก็ยังซื้อไม่เสร็จคลีโอแปลงโฉมให้ร่างเล็กของเพื่อนอย่างปากว่าทั้งใบหน้าหวานถูกเครื่องสำอางลงเข้มกว่าทุกวัน เปลี่ยนจากสาวหวานเป็นสาวสวยแสนเซ็กซี่ ผมยาวตรงสีน้ำตาลเข้มของเธอก็ถูกดัดเป็นลอนใหญ่ๆที่ส่วนปลายผม เมื่อใส่ชุดเดรสสีดำที่เพิ่งถอยมาคู่กับรองเท้าส้นสูงแล้ว วันนี้เธอช่างดูสะดุดตากว่าเดิมมาก“สวยมากกกก!!” คลีโอกรีดร้องยินดี ยืนยิ้มมองผลงานชิ้นโบแดงมิลินจ้องมองเงาสะท้อนในกระจกบานใหญ่ด้วยความเคอะเขิน หญิงสาวในกระจกดูสวยจนเธอเองยังไม่แน่ใจว่าใช่ตัวเองหรือเปล่า“เยอะไปไหมแก” ร่างเล็กหันมาถามเพื่อน ไม่ค่อยมั่นใจกับภาพลักษณ์ใหม่“แกสวยมาก มั่นใจหน่อย วันนี้มาสนุกกันให้สุดเหวี่ยงค่ะ”คลีโอว่าจบก็หันไปเริ่มแต่งหน้าทำผมให้ตัวเอง ระหว่างรอเพื่อนสาวมิลินก็ถ่ายรูปภาพลุคใหม่นี้ เพื่อเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก แอบอมยิ้มมองภาพในโทรศัพท์ ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยแต่งตัวแต่งหน้าจัดเต็มเช่นนี้เลย ชีวิตเธอมีเพียงเรื่องเรียน และท
ไคโรนั่งมองสองสาวที่เริ่มลุกขึ้นเต้นจากชั้น 3 ของผับ ด้วยความไม่พอใจ ภายในห้องทำงานโอ่โถงสไตล์โมเดิร์น ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีดำตามรสนิยมของเขา ด้านหนึ่งของห้องเป็นกระจกทึบบานใหญ่ที่ด้านนอกจะมองไม่เห็น มีเพียงคนในห้องเท่านั้นที่จะมองเห็นภายนอกได้ แก้วเหล้าในมือถูกยกขึ้นมาดื่มเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ แต่มันไม่อาจช่วยลดความหงุดหงิดภายในใจได้เลยสองสาวไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองเรียกความสนใจจากผู้ชายในผับเขาแค่ไหน แม้จะส่งลูกน้องไปยืนเฝ้าแล้ว แต่สายตาโลมเลียที่พวกนั้นมองทั้งคู่ก็ทำให้เขาไม่พอใจอยู่ดีแขนเรียวที่ตึงแน่นไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนออกกำลังกายสม่ำเสมอยกขึ้น กำและคลายมือออกซ้ำ ๆ พลางก้มดูนาฬิกา เพิ่งจะ 5 ทุ่ม! เมื่อไหร่ทั้งคู่จะกลับกันเสียที อยู่แบบนี้เขาไม่มีสมาธิจะจดจ่อกับงานเลย..ก๊อก ก๊อก ก๊อก“ขออนุญาตครับ”ไม่รอให้คนในห้องตอบอะไรกลับมา ประตูก็ถูกเปิดเข้ามาแล้ว ไคโรไม่ได้ใส่ใจกับท่าทีไร้มารยาทของมือขวาคนสนิท“ของที่เตรียมจะส่งเรียบร้อย นายจะเข้าไปตรวจเช็คอีกทีไหม”“ถ้ามึงเช็คแล้ว ก็เตรียมส่งได้เลย” ร่างสูงตอบโดยไม่ได้ละสายตาไปจากร่างของคนตัวเล็กที่ร่อนสะโพกตามเสีย
“เธอ นี่เธอ” ไคโรพยายามสะกิดเรียกร่างบางที่ซบไหล่เขาอยู่ แต่หญิงสาวเพียงแค่ทำหน้ามุ่ย สะบัดศีรษะด้วยความรำคาญแต่ก็ไม่ได้รู้สึกตัวขึ้นมา“คุณหนูก็ไม่รู้สึกตัวครับ” ลีโอเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม หลังจากลองปลุกหญิงสาวข้างกายเช่นกัน“เฮ้อ~ ลำบากคนอื่นอีกแล้ว”ชายหนุ่มถอนหายใจ แต่ก็ใช้แขนแกร่งช้อนร่างเล็กในท่าเจ้าสาวไว้ในอ้อมแขน ก้าวขาเพื่อเดินออกจากร้าน เช่นเดียวกับมือขวาหนุ่มที่ต้องดูแลน้องสาวเขาแบบเดียวกัน“มึงขับรถยัยคลีไป” ว่าจบไคโรก็ก้าวไปยังรถสปอร์ตสีดำคันหรูของตัวเอง วางร่างในอ้อมแขนไว้บนเบาะหน้า เดินอ้อมขึ้นมานั่งประจำที่ เสียงเครื่องยนต์คำรามลั่น ก่อนรถสปอร์ตจะเคลื่อนออกไปจากลานจอดรถอย่างรวดเร็วไคโรเลี้ยวรถผ่านประตูเหล็กบานใหญ่ที่มีลูกน้องยืนเฝ้าอยู่ทั่วบริเวณบ้านสุดหรูสไตล์โมเดิร์น 3 ชั้นขนาดใหญ่สีขาว ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวกลางเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ล้อมไปด้วยกำแพงสูงเพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้านบ้านนี้เป็นบ้านที่เขาซื้อเอาไว้เมื่อเริ่มเข้าสู่วงการธุรกิจสีเทา เพื่อความเป็นส่วนตัวและครอบครัวของเขาจะอยู่อีกหลังแต่ด้วยทั้งพ่อกับแม่ของเขาอาศัยอยู่ต่างประเทศเป็นหลัก น้
ขณะมิลินนั่งทานข้าวต้มอยู่คนเดียวในห้องอาหารขนาดใหญ่ เพื่อนสาวก็เดินเข้ามาสมทบ หญิงสาวมองท่าเดินแปลก ๆ ของเพื่อนด้วยความสงสัย“ทำไมเดินแบบนั้น” ร่างเล็กขมวดคิ้วถามออกไป“...ละ ล้มมั้ง หรือเดินชนอะไรสักอย่าง จำไม่ได้”“ไม่เอาแล้วนะ ฉันภาพตัดไปเลย ยังดีที่พี่ชายแกเขาพากลับ”“อื้ม ฉันก็จำ...อะไรไม่ค่อยได้” คลีโอตอบเพื่อนเบา ๆ นั่งลงกินข้าวของตัวเอง ก่อนจะหันมามองมิลินอีกครั้ง“แกใส่เสื้อพี่ฉันเหรอ”..พรวด!“แค่ก ๆ ๆ” มิลินสำลักอาหารในปากด้วยความตกใจ ไอจนหน้าแดง รีบหยิบน้ำขึ้นมาดื่มเธอก้มหน้างุดมองเสื้อผ้าตัวเองอีกครั้ง รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเบา“ฉันจำไม่ได้เลย ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไงยังไม่รู้”“….”“....” เราทั้งคู่ต่างคนต่างเงียบ ได้แค่มองหน้ากันโดยไร้คำพูด“ไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรกับร่างกายตัวเองใช่ไหม” คลีโอย้ำถาม“ไม่มีปกติทุกอย่าง”“งั้นก็คง...ไม่มีอะไรหรอก ถึงพี่ชายฉันจะไม่ใช่คนดี แต่คงไม่เลวขนาดทำอะไรเพื่อนน้องสาวตัวเองตอนเมา...มั้ง” เพื่อนรักพยายามพูดให้เธอสบายใจ แม้สีหน้าตัวเองจะไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ก็ตาม“วันนี้ขอยืมเสื้อผ้าแกใส่กลับก่อนนะ”“ได้อยู่แล้
“ถ้าฉันไม่อยู่ ห้ามเธอเมาแบบนี้อีก” เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ ใบหน้าหล่ออยู่ห่างเธอไม่กี่นิ้ว เพียงแค่นั้นก็เรียกเสียงในอกซ้ายให้เต้นระรัวอย่างบ้าคลั่งจนใบหน้าหวานเห่อร้อนแดงก่ำ“….”“เข้าใจไหม” มาเฟียหนุ่มกล่าวถามย้ำเสียงเข้มขึ้น เธอจึงได้แต่พยักหน้ารับ สูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้หัวใจไม่รักดีสงบลงดวงตาคมไล่มองทั่วร่างหญิงสาว คิ้วหนาขมวดเป็นปม“ไม่มีเสื้อที่ใหญ่กว่านี้แล้ว?”“พี่น้ำหวานบอกว่าวันพรุ่งนี้จะเปลี่ยนตัวใหม่ให้ค่ะ วันนี้ให้ลินใส่ไปก่อน”“ก็เข้าใจนะว่ามันใหญ่ แต่จำเป็นต้องล้นขนาดนี้ไหม” ร่างสูงส่ายหัวปลงๆ เสยผมที่ตกปรกหน้าขึ้นลวกๆ พึมพำออกมาเสียงเบา“มะ...หมายถึงอะไรคะ” ใบหน้าหวานจ้องมองชายหนุ่มกลับ เมื่อเห็นสายตาคมเหลือบมองหน้าอก ก็ยกมือขึ้นบังเนินเนื้อนุ่มด้วยท่าทางตื่นตระหนก“ไปหาเสื้อมาใหม่ ถ้างั้นก็ไม่ต้องลงไปทำงาน”“แล้วลินจะหาจากไหนละคะ” ใบหน้าหวานง้ำงอไคโรส่ายหัวเหนื่อยใจกับคนตัวเล็ก แม้จะพยายามห้ามตัวเองไม่ให้สนใจอีกฝ่าย แต่ก็อดหวงร่างน้อยไม่ได้ เขาหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูมากดโทรออก“หาเสื้อใหม่ให้มิลินที เอาขึ้นมาบนห้องทำงานเลย” ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบอะไรกลับ เมื่
1 ปี ต่อมามิลินอยู่ในชุดสบายๆ สำหรับอยู่บ้าน นั่งกองอยู่กับพื้นในคอกกั้นเด็ก ใบหน้าหวานฉายแววเหน็ดเหนื่อย เธอเคยคิดว่าโชคดีที่ตลอดช่วงตั้งครรภ์แทบไม่มีอาการแพ้ท้อง และสามารถทำงานใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ทุกสิ่งกลับเปลี่ยนไปเมื่อคลอดลูกสาวออกมา 'มีอา'เด็กสาวตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มราวตุ๊กตา ดวงตากลมโตเช่นเดียวกับมารดาขนตาหนาเป็นแพ เส้นผมสีดำสนิทแต่ดวงตาได้เชื้อจากไคโรมาคือสีน้ำตาลทอง ช่วงแรกเกิดเธอเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย กินนมเสร็จก็นอนไม่งอแง แต่ช่วงหลังเมื่อมีอาเริ่มมีพัฒนาการมากขึ้นเด็กสาวกลับดื้อดึง หากไม่พอใจอะไรนิดหน่อยก็จะร้องไห้เสียบ้านแทบแตก แถมช่วงกลางคืนก็หลับยากและตื่นกลางดึกบ่อย ๆ ทำให้ขอบตาของคุณแม่คล้ำลงจนเห็นได้ชัด"แงๆๆๆๆๆ~"เสียงกรีดร้องไห้งอแงของเด็กน้อยดังลั่นคฤหาสน์อีกครั้ง มือน้อย ๆ ปัดป่ายไปทั่ว จับคว้าอะไรได้ก็จะปาทิ้งเสียหมด จนคุณแม่เริ่มท้อใจ"ร้องอะไรคะคนเก่ง มามี้ทำอะไรให้หนูไม่พอใจอีกหื้ม"ร่างเล็กอุ้มลูกสาวที่นอนดีดดิ้นบนพื้นนวมนิ่มของคอกกั้นขึ้นมาแนบอก โยกตัวกล่อมให้ลูกสาวหยุดร้อง พยายามนึกหาสาเหตุ เพราะเพิ่งให้นมและเปลี่ยนผ้าอ้อมไปใบหน้าเล็กแดงก่ำ น้ำตาห
1 เดือนผ่านไปตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความวุ่นวายอย่างที่สุด หลังจากไคโรทราบข่าวเรื่องการท้องของมิลิน ชายหนุ่มก็ยืนกรานให้จัดงานแต่งให้เร็วที่สุด เดือดร้อนไปถึงน้องสาวและว่าที่เจ้าสาวที่แทบจะต้องหยุดงานเพื่อเตรียมงานแต่งในระยะเวลากระชั้นชิดลลิสาและคริสเตียนบิดามารดาของไคโรบินกลับมาประเทศไทยทันทีที่ทราบข่าว และช่วยหญิงสาวเตรียมงานพิธีหมั้นในช่วงเช้าเรียบง่ายมีเพียงครอบครัวและคนสนิทมาร่วมงาน ส่วนตอนเย็นไคโรจัดเตรียมงานอย่างยิ่งใหญ่ในโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพ กลุ่มเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยมและมหาลัยถูกชวนมาหมด และยังกลุ่มลูกน้องอีกหลายร้อยคนที่ได้รับเกียรติให้มาร่วมยินดีด้วย ราวกับต้องการป่าวประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาแต่งงานมีลูกมีเมียแล้วพิธีการต่าง ๆ ถูกลดทอนให้น้อยลง เพื่อให้ไม่เจ้าสาวที่กำลังท้องกำลังไส้เหนื่อยจนเกินไป เน้นไปที่การฉลองดื่มสังสรรค์กันมากกว่าร่างเล็กในชุดเจ้าสาวเกาะอกสีขาวทำจากผ้าลูกไม้ มีผ้าชีฟองผืนบางปาดไหล่ทั้งสองข้าง ช่วงล่างเป็นกระโปรงพองยาว เส้นผมสีน้ำตาลเข้มถูกรวบเป็นมวยเตี้ย ๆ มีที่คาดผมประดับเพชรเม็ดเล็ก ๆ สวมไว้บนศีรษะ ใบหน้าหวานถูกแต
บริษัทของพิพัฒน์4 เดือนต่อมาตอนนี้มิลินเรียนจบอย่างเป็นทางการเรียบร้อย หญิงสาวยังคงช่วยงานที่บริษัทของบิดาต่อไป ปัญหาภายในบริษัทเริ่มคลี่คลายไปทีละอย่าง ทำให้การทำงานเป็นระบบระเบียบยิ่งขึ้นแต่กลับกันกับร่างกายเธอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโหมทำงานมากไปหรือเปล่า ช่วงนี้เธอถึงรู้สึกเหนื่อยและเพลียง่ายกว่าปกติ บางครั้งตั้งใจจะนำงานมาเคลียร์ต่อที่บ้าน แต่ 3 ทุ่มเธอก็เผลอหลับไปแล้วก๊อก ก๊อก"น้องลินคะ เที่ยงแล้วนะคะ ไม่ออกไปทานข้าวเหรอ"กิ่ง ผู้ช่วยของพิพัฒน์ชะโงกหน้าเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง เธอคอยช่วยเหลือมิลินตั้งแต่ช่วงฝึกงาน เมื่อได้เห็นความขยันตั้งใจจริงของหญิงสาวก็อดชื่นชมไม่ได้"อ๋อ เที่ยงแล้วเหรอ" ร่างเล็กหันมองนาฬิกาแขวนบนผนังห้องทำงานเล็ก เธอทำงานเพลินจนลืมเวลาเช่นเดิม แต่ตรงหน้ายังมีเอกสารอีกหลายปึกที่ต้องเคลียร์" ไม่เป็นไรค่ะ ลินยังไม่หิวเท่าไหร่ พี่กิ่งไปทานเถอะ""ไม่ได้นะคะน้องลิน แบบนี้จะเสียสุขภาพเอา...แบบนี้ดีกว่า เดี๋ยวพี่ซื้อเข้ามาเผื่อแล้วกันนะ""แฮะ ๆ ได้เลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ""น้องลินอยากกินอะไรไหม สั่งได้เลย""อะไรก็ได้เลยค่ะพี่กิ่ง""โอเคได้จ้า"กิ่งส่งยิ้มให้ลูกสาว
หลายเดือนผ่านไปตอนนี้มิลินและคลีโอเริ่มฝึกงานในเทอมสุดท้ายของ ปี 4 แล้ว แม้ตอนแรกจะตั้งใจออกไปหาที่ฝึกงานในบริษัทใหญ่ ๆ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แต่แฟนหนุ่มของเธอก็ไม่ยอมอนุญาต ทำให้สุดท้ายเธอจึงเลือกเข้าไปศึกษางานบริษัทผลิตและส่งออกอะไหล่เครื่องจักรของบิดาเธอแทนมิลินตั้งใจทำงานมาก ตั้งแต่ที่พิพัฒน์เลิกยุ่งเกี่ยวกับการพนัน เขาก็ตั้งหน้าตั้งตาฟื้นฟูกิจการที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ จนเริ่มกลับมาเฟื่องฟู แม้จะเป็นบริษัทขนาดกลาง ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมาก แต่เนื่องจากถูกปล่อยปละละเลยเป็นเวลานาน ทำให้ตอนนี้แม้หญิงสาวจะเข้ามาช่วย แต่ก็ยังมีปัญหาหลายอย่างภายในที่ต้องปรับเปลี่ยนแก้ไข"เป็นไงบ้างลูก เริ่มชินหรือยัง"พิพัฒน์ถามขึ้นมาหลังจากเปิดประตูเข้ามาในห้องแห่งหนึ่ง ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้เป็นห้องทำงานของลูกสาว"ค่ะ แต่ตัวเลขบัญชีย้อนหลังนี่น่าเวียนหัวมากเลยนะ เหมือนมีการแอบยักยอกสั่งซื้อของเข้ามาเกินกว่าที่ควร ซึ่งของบางอย่างไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น แถมยังเลือกซื้อจากเจ้าที่ราคาสูงกว่าตลาดทั่วไปอีก"ใบหน้าหวานเคร่งเครียดจริงจัง เพราะหากลองคำนวณดูแล้ว บริษัทของบิดาเธอศูนย์เสียเงินไปจำนว
มหาวิทยาลัย Hร่างเล็กของมิลินนั่งเลื่อนโทรศัพท์มือถืออ่านข้อมูลบาง อยู่ที่ใต้ตึกคณะบริหารระหว่างรอคลีโอที่ยังเดินทางมาไม่ถึงหลังจากเมื่อวันก่อนได้เปิดอกคุยกับไคโรเรื่องความกังวลของตัวเองแล้ว แต่เธอก็ยังอยากอ่านคำแนะนำวิธีรักษาชีวิตคู่ให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น เพราะไคโรก็เป็นแฟนคนแรกของเธอ มีอีกหลายเรื่องที่หญิงสาวไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับความรักและการมีแฟน"หื้มม อ่านอะไรน่ะ 'เคล็ดลับ' รักษาความรัก?"เสียงของเพื่อนสนิทดังขึ้นข้างหู พร้อมใบหน้าสวยชะโงกหน้าเข้ามาอ่านหัวข้อบทความที่เธอกำลังเลื่อนดู ทำให้มิลินสะดุ้งด้วยความตกใจ"ตกใจหมดเลยแก มาไม่ให้สุ้มให้เสียง" เธอหันไปตำหนิเพื่อนรักเบาไม่จริงจังคลีโอหัวเราะร่า ไหวไหล่เบา ๆ ก่อนจะเดินอ้อมมานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม"ยังไม่หายนอยด์เรื่องเมื่อวานเหรอไง ถึงมาอ่านอะไรแบบนี้""ก็ไม่เชิง...แกก็รู้ฉันไม่เคยมีแฟนมาก่อน ไม่รู้เลยว่าแฟนที่ดีควรทำตัวยังไง"เธอไว้ใจไคโรเต็มที่ แต่ก็อยากจะทำอะไรพิเศษขึ้นเล็กน้อย เพื่อเป็นการมัดใจชายหนุ่ม และเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเธอเองด้วย"อื้ม ถ้าทั่วๆ ไปก็คงเชื่อใจกัน มีอะไรคุยกันดี ๆ ใช้เหตุผล ไ
คฤหาสน์ไคโร"เป็นอะไรครับ ยังหน้ามุ่ยอยู่เลย" น้ำเสียงทุ้มออดอ้อนจนไม่เหลือคราบมาเฟียผู้เคร่งขรึมเอ่ยถามแฟนสาว ขณะคลอเคลียร่างบางในชุดนักศึกษาบนเตียงกว้าง"ละ...ลิน..."มิลินเม้มปาก หลบสายตาร้อนของแฟนหนุ่ม นึกหงุดหงิดตัวเองในใจที่ยังไม่อาจสลัดเรื่องเมื่อเย็นออกไปได้ เธอไม่มีความมั่นใจในตัวเองแม้แต่น้อย ยิ่งเห็นสาว ๆ ที่เขามาชายหนุ่มมีแต่สวย ๆ หน้าตาดี ก็แอบหวั่นใจ"เราตกลงกันแล้วนะ ว่าถ้ามีเรื่องอะไรไม่สบายเราจะคุยกัน""...""คิดอะไรอยู่ครับ?"ใบหน้าหวานแอบเศร้าลง เธอสูดหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกสติ และสุดท้ายก็ยอมเปิดปากเล่าความรู้สึกในใจให้ไคโรฟัง"ลินกลัว...กลัวว่าวันหนึ่งพี่จะเบื่อลิน""โถ่ จะเอาอะไรมาเบื่อ พี่หลงเราขนาดนี้ เราดูไม่ออกเหรอครับ"ไคโรยิ้มกว้างเมื่อได้ฟังคำพูดของแฟนสาว เขาใช้นิ้วยาวช้อนใบหน้าของคนตัวเล็กข้างใต้ร่างให้หันกลับมาสบตา"ก็กลัวว่าแค่หลงเฉย ๆ พอนานไปพี่จะเบื่อ ลินแค่ผู้หญิงธรรมดา ได้มาอยู่ข้างพี่นี่ก็เกินฝันแล้ว""ไม่เอา ทำไมชอบดูถูกตัวเอง ลินพิเศษกว่าทุก ๆ คนรู้ไหม ลินคือคนที่ทำให้หัวใจพี่เต้นแรง คนที่พี่อยากปกป้องดูแล คนที่พี่อยากให้มีแต่รอ
หลายเดือนผ่านไปความสัมพันธ์ของเธอและไคโรดำเนินไปตามปกติ ทั้งคู่แทบไม่เคยทะเลาะหรือมีปากเสียงกันเลย อาจจะด้วยมิลินเป็นคนหัวอ่อน ว่าง่าย ไม่จุกจิกจู้จี้ แต่ไคโรก็ทำหน้าที่แฟนอย่างดี เอาใส่ใจ เทคแคร์ ไม่เคยทำอะไรให้แฟนสาวไม่สบายใจแม้แต่น้อยเมื่อเดือนก่อนชายหนุ่มได้พาเธอไปอิตาลี เพื่อพบเจอพ่อแม่ของเขาแล้ว ซึ่งทั้งคู่ก็ใจดีและเป็นกันเองกับเธอมาก ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ราบรื่นเป็นอย่างดีครืด ครืด ครืดโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายของมิลินสั่นเบาๆ ขณะที่สองสาวเพื่อนรักกำลังเดินออกจากคลาสเรียน"แป๊บนะแก พี่ไคโรน่าจะโทรมา"มิลินหันไปบอกเพื่อนสาว ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู และก็ต้องอมยิ้มหวานเพราะสายที่โทรมาคือแฟนหนุ่มของเธอตามคาด"ค่ะพี่ไคโร"(เลิกเรียนหรือยังครับ)"เพิ่งเลิกพอดีเลยค่ะ ลินกับยัยคลีกำลังจะลงจากตึกกัน"(โอเค พี่เดินไปซื้อโกโก้ปั่นมาให้ รอหน้าคณะนะครับ)"ได้ค่ะ"ร่างเล็กก้มหน้างุด เขินอายทุกครั้งกับการเอาใส่ใจของชายหนุ่ม โดยมีสายตาล้อเลียนของคลีโอจ้องมองไม่วางตา"สวีทเว่อร์ มดจะไต่ขึ้นขาฉันแล้ว" ร่างสมส่วนอดเอ่ยปากแซวออกมาไม่ได้"แกก็ พูดเกินไป นี่จะไป
หลังจากทั้งคู่ทานดินเนอร์แสนโรแมนติกเสร็จก็จูงมือพากันกลับมายังห้อง แต่แล้วคู่รักเข้าใหม่ปลามันที่ควรสวีทหวานพูดจาภาษารักก็ต้องมายืนถกเถียงกันอยู่นานภายในห้องนอนหรูแทน"ไม่เอาจริง ๆ ลินไม่เชื่อพี่หรอก" มิลินหน้ามุ่ย มือเล็กถือเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ไม่ได้เดินเข้าห้องน้ำเสียที"พี่เคยผิดคำพูดเหรอครับ""ถ้าพี่ไคโรอาบพร้อมลิน พี่ไม่จบแค่อาบน้ำเฉย ๆ แน่""เห็นพี่เป็นคนแบบนั้นเหรอ" มาเฟียหนุ่มส่งสายตาออดอ้อน พยายามทำหน้าตาน่าสงสารหวังให้หญิงสาวยอมใจอ่อน"พี่ทำลินหลายรอบแล้วนะคะ ปล่อยลินอาบน้ำดี ๆ เถอะ""พี่ก็แค่อยากช่วยลินถูหลังไง อีกอย่างอาบพร้อมกันไม่ต้องเปลืองน้ำด้วย"ร่างเล็กกลอกตาขึ้นมองด้านบน เมื่อได้ฟังเหตุผลจากชายหนุ่ม เขาร่ำรวยเสียจนเรียกได้ว่าเป็นมหาเศรษฐีจะมากังวลอะไรกับค่าน้ำประปาของทางโรงแรม ฟังอย่างไรก็ดูเป็นแค่ข้ออ้างรังแกเธอมากกว่า"วันนี้ลินไม่ไหวแล้วจริงๆ นะคะ วันหลังได้ไหม" ถกเถียงกันอยู่นานแฟนหนุ่มหน้ามึนก็ไม่ยอมแพ้เสียที จนหญิงสาวต้องเดินเข้าไปใกล้ร่างสูง ท่อนแขนเรียวโอบเอวเขาไว้หลวมๆ พลางเกยคางบนแผงอกกำยำเงยหน้ามองชายหนุ่มตาปริบ
ท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสีเป็นแดงอมส้มของเวลาเกือบจะ 6 โมงเย็น หญิงสาวในชุดเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีฟ้าอ่อนด้านในสวมเสื้อกล้ามตัวเล็กสีขาวคู่กับกางเกงยีนขาสั่นสีซีด สายลมจากทะเลพัดจนผมสีน้ำตาลเข้มของเธอปลิวไสว จนต้องรวบมันเอาไว้ที่ไหล่ข้างหนึ่ง พลางหันไปส่งยิ้มหวานให้ตากล้องร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาข้างกายทั้งคู่เดินเล่นเลียบริมหาดส่วนตัวหน้าที่พัก มือเล็กอีกข้างหิ้วรองเท้าแตะหนีบสีขาวไปด้วย เม็ดทรายเนื้อละเอียดติดตามนิ้วเท้า น้ำเย็นเฉียบของทะเลกระทบผิวระลอกแล้วระลอกเล่าชายหนุ่มแต่งกายสบาย ๆ ด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว กระดุมเสื้อถูกปลดลงมา 3 เม็ด เผยให้เห็นแผงอกกำยำที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม ท่อนล่างสวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล แว่นกันแดดสีชารับกับจมูกที่โด่งเป็นสัน มุมปากยกขึ้นประดับด้วยรอยยิ้ม เมื่อมองหญิงสาวผ่านกล้องมือถือ แม้จะดูเรียบง่ายแต่ร่างกายสมบูรณ์แบบ พร้อมใบหน้าคมคายก็ทำให้เขาดูราวกับเป็นนายแบบที่หลุดออกมาจากรันเวย์เขาเก็บภาพมิลินอีกหลายรูปทุกจังหวะการขยับตัว หญิงสาวหันมาส่งยิ้มให้บ้าง บางครั้งก็หันมองเหม่อไปยังท้องทะเล ทุกอิริยาบถดูสวยงามน่ารักเป็นธรรมชาติ จนทำให้คนที่ไม่เคยต้องถ่าย