ขณะมิลินนั่งทานข้าวต้มอยู่คนเดียวในห้องอาหารขนาดใหญ่ เพื่อนสาวก็เดินเข้ามาสมทบ หญิงสาวมองท่าเดินแปลก ๆ ของเพื่อนด้วยความสงสัย
“ทำไมเดินแบบนั้น” ร่างเล็กขมวดคิ้วถามออกไป
“...ละ ล้มมั้ง หรือเดินชนอะไรสักอย่าง จำไม่ได้”
“ไม่เอาแล้วนะ ฉันภาพตัดไปเลย ยังดีที่พี่ชายแกเขาพากลับ”
“อื้ม ฉันก็จำ...อะไรไม่ค่อยได้” คลีโอตอบเพื่อนเบา ๆ นั่งลงกินข้าวของตัวเอง ก่อนจะหันมามองมิลินอีกครั้ง
“แกใส่เสื้อพี่ฉันเหรอ”
..พรวด!
“แค่ก ๆ ๆ” มิลินสำลักอาหารในปากด้วยความตกใจ ไอจนหน้าแดง รีบหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม
เธอก้มหน้างุดมองเสื้อผ้าตัวเองอีกครั้ง รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเบา
“ฉันจำไม่ได้เลย ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไงยังไม่รู้”
“….”
“....” เราทั้งคู่ต่างคนต่างเงียบ ได้แค่มองหน้ากันโดยไร้คำพูด
“ไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรกับร่างกายตัวเองใช่ไหม” คลีโอย้ำถาม
“ไม่มีปกติทุกอย่าง”
“งั้นก็คง...ไม่มีอะไรหรอก ถึงพี่ชายฉันจะไม่ใช่คนดี แต่คงไม่เลวขนาดทำอะไรเพื่อนน้องสาวตัวเองตอนเมา...มั้ง” เพื่อนรักพยายามพูดให้เธอสบายใจ แม้สีหน้าตัวเองจะไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ก็ตาม
“วันนี้ขอยืมเสื้อผ้าแกใส่กลับก่อนนะ”
“ได้อยู่แล้ว”
@คอนโดมิลิน
ลีโอและคลีโอเป็นคนมาส่งเธอกลับคอนโด หญิงสาวตัวเล็กทิ้งตัวลงบนโซฟากลางห้องนั่งเล่นขนาดเล็กทันทีที่ถึงห้องพัก
คอนโดนี้คุณแม่เคยซื้อเอาไว้ให้ตั้งแต่สมัยท่านมีชีวิตอยู่ หลังจากที่เสียไปตั้งแต่ 4 ปีก่อนด้วยโรคร้าย คุณพ่อของเธอก็เสียใจกับการจากไปของแม่ก็เริ่มหันมาติดสุรา เข้าบ่อนคาสิโน จนมีหนี้สินมากมาย เธอจึงจำเป็นต้องทำงานพาร์ทไทม์ตั้งแต่ม.6 พยายามหาเงินเพื่อผ่อนคอนโดที่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของแม่ด้วยตัวเอง
แม้ห้องจะเล็กแต่มันก็อยู่ในเมือง สะดวกแก่การเดินทางไปไหนมาไหน อีกทั้งยังใกล้มหาลัย ทำให้เธอไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านกับผู้เป็นพ่อ
มิลินก่ายหน้าผากมองเพดานห้องอย่างคิดไม่ตกเมื่อตอนที่เธออยู่บ้านพี่ชายคลีโอ เธอได้ขอยืมเสื้อผ้าเพื่อนเธอมาใส่ จึงได้พบรอยแดงหลายจุดบริเวณซอกคอและเนินอก อีกทั้งข้อสงสัยว่าทำไมเธอถึงได้สวมชุดพี่ชายเพื่อนหลับไปได้ ไม่รู้ว่าควรจะถามชายหนุ่มที่พาเธอกลับหรือเปล่า
“เฮ้ออออ...ถ้าวันนี้เจอกันอีกจะทำหน้ายังไงดีเนี้ย”
หญิงสาวใช้เวลาตลอดบ่ายไปกับการเก็บข้าวของทำความสะอาดห้อง เพื่อลดอาการฟุ้งซ่าน ก่อนจะนอนพักเอาแรง วันนี้เธอยังต้องออกไปทำงานอีก
..ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงดังขึ้นปลุกเธอขึ้น มือเล็กเอื้อมไปหยิบ ปรือตามองเบอร์แปลกที่ขึ้นโชว์
“สวัสดีค่ะ”
(วันนี้มาที่ร้าน 6 โมงเย็นนะ จะให้คนสอนงานให้ก่อน)
“คุณไคโรเหรอคะ ไปเอาเบอร์ลินมาจากไหนคะเนี้ย” เธอตาโตความง่วงหายไปเป็นปลิดทิ้งเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายคือใคร
(แค่เบอร์ทำไมฉันจะหาไม่ได้ ถ้าฉันอยากได้อะไร...ฉันต้องได้)
“เอ่อ...ค่ะ”
(ส่วนเรื่องเสื้อผ้า...) หญิงสาวใจเต้นขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงเสื้อเชิ้ตที่ตนสวมเมื่อเช้า
(…ใส่ชุดธรรมดามา ค่อยมาเปลี่ยนชุดฟอร์มที่ร้าน)
เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องเมื่อเช้าแต่มันก็ยังคงสร้างความข้องใจให้เธออยู่ดี
“คะคือ...คุณไคโรคะ”
(ว่าไง)
“คือเมื่อคืน...ลินทำอะไรเสียมารยาทหรือเปล่าคะ” เสียงหวานตะกุกตะกักถามออกไป
(หมายความว่าไง)
“ลินแค่สงสัย...ว่าทำไมลินถึงสวมเสื้อคุณไคโรได้อะค่ะ” หญิงสาวกลั้นใจถามออกไปในที่สุด คุยแบบนี้ดีกว่าต้องคุยกันซึ่งหน้า หากเธอทำอะไรแปลกๆ ออกไป
(หึ...) ไคโรแค่นหัวเราะเบาๆ นั้นก็ทำให้มิลินแอบหวั่นใจแล้ว
(ถ้าอยากรู้...มาคุยกันต่อหน้าสิ)
ชายหนุ่มวางสายไป ทิ้งคำพูดให้มิลินยิ่งครุ่นคิด ‘แค่บอกมาเลยไม่ง่ายกว่าเหรอไง’ ใบหน้าหวานบูดบึ้งตำหนิพี่ชายเพื่อนในใจ
@ZONIC PUB
เธอมาถึงยังผับหรูก่อนเวลานัดหมายเล็กน้อย ร่างเล็กก้าวเข้าไปด้านในที่เปิดไฟสว่างโร่ ทำให้บรรยากาศช่างแตกต่างกับช่วงเวลากลางคืนเป็นอย่างมาก มองเห็นการตกแต่งของร้านชัดเจนเป็นครั้งแรก
“น้องมิลินใช่ไหม” หญิงสาวสวมชุดพนักงานร้านคนหนึ่งเอ่ยทักเธอทันทีที่เธอเข้ามาในร้าน
“ใช่ค่ะ” ร่างเล็กตอบเสียงใสท่าทางแข็งขัน
“พี่ชื่อหวาน เป็นผู้จัดการร้าน เดี๋ยวจะพาเดินดูรอบร้าน แล้วก็จะแนะนำหน้าที่ของเราให้”
“รบกวนพี่หวานด้วยนะคะ”
พี่หวานอายุมากกว่าเธอ 3 ปี หญิงสาวพาเธอเดินดูบริเวณรอบร้านทั้งส่วนที่เธอเคยเห็นมาแล้ว และส่วนด้านหลังสำหรับพนักงานอีกทั้งแนะนำให้รู้จักกับพนักงานร้านคนอื่น ๆ ที่เริ่มทยอยเข้ามาทำงาน
“หน้าที่น้องมิลินก็ไม่มีอะไรมาก เห็นว่าเคยทำผับอื่นมาก่อนใช่ไหม”
“เคยทำที่เดอะ กลาส ค่ะ”
“ถ้าแบบนั้นก็ไม่มีปัญหางานก็คล้าย ๆ กันจดออเดอร์ลูกค้าเสิร์ฟของที่ลูกค้าสั่ง” พี่หวานยื่นชุดฟอร์มประจำร้านให้ พาเธอไปเปลี่ยนชุดยังส่วนด้านหลังร้าน
“เสื้อมันเล็กไปไหมเนี้ย” พี่หวานทำหน้าครุ่นคิด มองสำรวจพนักงานสาวคนใหม่ของร้าน
ร่างเล็กในชุดเสื้อเชิ้ตสีแดงเลือดหมูขลิบดำคู่กับกระโปรงทรงเอยาวขึ้นมาเหนือเข่า แม้จะไม่ได้ดูโป๊ แต่หน้าอกหน้าใจที่เกินตัว ก็แอบรั้งกระดุมชุดอยู่ไม่น้อย ผิวขาวตัดกับชุดสีแดงทำให้หญิงสาวดูน่ามอง เสียจนน้ำหวานที่เป็นผู้หญิงยังรู้สึกว่ามิลินเป็นผู้หญิงที่น่ารักมากทีเดียว
“ซ่อนรูปเหมือนกันนะเรา เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่หาตัวใหม่ให้แทนแล้วกัน วันนี้ใส่ตัวนี้ไปก่อน” พี่หวานยิ้มเอ่ยแซวร่างเล็ก
“ได้ค่ะ ไม่เป็นไร”
“ใช่ ๆ คุณไคโรบอกว่าถ้าเสร็จแล้วขึ้นไปพบคุณไคโรที่ห้องทำงานด้วยนะ” หญิงสาวหันกลับมาบอกร่างเล็กที่เดินตามอยู่ด้านหลัง ชี้มือขึ้นไปยังห้องกระจกที่อยู่ชั้น 3 ของร้าน
เธอตอบรับอย่างเสียไม่ได้ ทั้งที่ในใจอยากจะเลี่ยงการพบพี่ชายเพื่อนที่สุด
..ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา” เสียงทุ้มจากด้านในกล่าวอนุญาต เธอจึงเปิดประตูเข้าไปในห้อง
“ค่ะ คุณไคโรมีอะไรจะคุยกับลินเหรอคะ” ร่างเล็กยืนกุมมือ ก้มหน้าอยู่ไม่ห่างจากประตูถามเสียงสั่น เพราะท่าทางนิ่งๆ ของชายหนุ่ม แม้ใบหน้าคมสันของเขาจะหล่อเหลามาก แต่เธอก็อดเกร็งเวลาอยู่กับไคโรไม่ได้
“หื้ม ไม่ใช่เธอเหรอที่มีเรื่องอยากจะคุย” คิ้วหนาเลิกขึ้นอย่างกวนอารมณ์ ยกยิ้มบาง ๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานก้าวช้าๆ มายังจุดที่เธอยืน
“….”
“ไหนเมื่อคืนจำอะไรได้บ้าง” เสียงเย้าแหย่เอ่ยถามซ้ำเมื่อเธอเอาแต่ยืนนิ่งเม้มปาก
“ลินจำอะไรไม่ได้เลยค่ะ แค่ฝันนิดหน่อย แล้วก็มารู้สึกตัวตอนเช้าเลย” หญิงสาวกลั้นใจตอบ พยายามนึกย้อนถึงความฝันวาบหวามเมื่อคืน
“เหรอ แล้วฝันว่าอะไรล่ะ” ใบหน้าหวานแดงซ่านเมื่อคิดถึงรสจูบแสนดูดดื่มในความฝัน เธอถูกชายหนุ่มคนนั้นลูบไล้ไปทั่วทั้งตัว ไคโรกระตุกยิ้มมุมปากกับท่าทีเขินอายของหญิงสาว
“ไม่อยากรู้เหรอ...รอยที่คอมาได้ยังไง”
มิลินรีบยกมือขึ้นกุมร่องรอยแดงปริศนาที่คอ ดวงตากลมเบิกตากว้างเมื่อคาดว่าไคโรอาจจะเป็นเจ้าของรอยพวกนี้
“ละ...ลินไม่อยากรู้แล้วค่ะ”
“แต่ฉันอยากบอกนะ” ร่างสูงเริ่มขยับตัวมาใกล้ โน้มใบหน้าเข้ามา
กระซิบเสียงแหบพร่า ปลายจมูกโด่งสัมผัสกับใบหูจุดอ่อนไหวของเธอเบา ๆ สร้างความปั่นป่วนในช่องท้องเธอจนมิลินต้องผละตัวออกห่างชายหนุ่ม“….” เธอมองไคโรด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ
“อย่ามองฉันแบบนั้น เธอเริ่มก่อนนะ” ชายหนุ่มยอมถอยออกห่าง สองมือล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทีสบาย ๆ
กลายเป็นมิลินที่ขมวดคิ้วสับสนกับคำพูดของอีกฝ่าย
“ละ... ลินไปทำอะไรคุณคะ”
“เธอแก้ผ้ายั่วฉันไง จำไม่ได้เหรอ” ไคโรกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับ
สาวน้อยที่ยืนทำหน้าแตกตื่น พวงแก้มเห่อร้อนเมื่อได้ยินคำตอบภาพความฝันเมื่อคืนค่อย ๆ ย้อนกลับเข้ามาเป็นฉาก
‘จะทำอะไร’
‘อื้อออ ปล่อยลิน ลินจะอาบน้ำ’
‘เธอจะมาถอดชุดตรงนี้ไม่ได้’
‘ลินร้อน ลินจะถอด’
‘อย่ามาทดสอบความอดทนฉัน’
‘อะ...ส...เสียว’
‘เธอทำความอดทนฉันหมดแล้ว’
มิลินยกสองมือขึ้นมาปิดใบหน้าแดงก่ำเมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน มันไม่ได้เป็นความฝันเหรอเนี้ย ‘ทำบ้าอะไรลงไปเนี้ยมิลิน’ เธอทำได้เพียงก่นด่าตัวเองในใจ เผลอทำเรื่องน่าอายต่อหน้าพี่ชายเพื่อนได้อย่างไร แล้วต่อไปนี้จะมองหน้าเขาได้ยังไง
“นึกออกหรือยัง” ไคโรมองมิลินที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา ทำตัวไม่ถูก ด้วยสายตาเอ็นดู
หญิงสาวพยักหน้าตอบกลับเบา ๆ ไม่กล้าสบตาชายหนุ่มอีกต่อไป
ไคโรก้าวเข้ามายืนตรงหน้าร่างเล็กอีกครั้ง โน้มใบหน้าจนอยู่ระดับเดียวกับอีกฝ่าย มิลินเงยหน้าสบเข้ากับสายตามคม ที่มองอย่างแฝงความหมายบางอย่าง
“ถ้าฉันไม่อยู่ ห้ามเธอเมาแบบนี้อีก” เสียงทุ้มเอ่ยเบา ๆ ใบหน้าหล่ออยู่ห่างเธอไม่กี่นิ้ว เพียงแค่นั้นก็เรียกเสียงในอกซ้ายให้เต้นระรัวอย่างบ้าคลั่งจนใบหน้าหวานเห่อร้อนแดงก่ำ
“ถ้าฉันไม่อยู่ ห้ามเธอเมาแบบนี้อีก” เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ ใบหน้าหล่ออยู่ห่างเธอไม่กี่นิ้ว เพียงแค่นั้นก็เรียกเสียงในอกซ้ายให้เต้นระรัวอย่างบ้าคลั่งจนใบหน้าหวานเห่อร้อนแดงก่ำ“….”“เข้าใจไหม” มาเฟียหนุ่มกล่าวถามย้ำเสียงเข้มขึ้น เธอจึงได้แต่พยักหน้ารับ สูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้หัวใจไม่รักดีสงบลงดวงตาคมไล่มองทั่วร่างหญิงสาว คิ้วหนาขมวดเป็นปม“ไม่มีเสื้อที่ใหญ่กว่านี้แล้ว?”“พี่น้ำหวานบอกว่าวันพรุ่งนี้จะเปลี่ยนตัวใหม่ให้ค่ะ วันนี้ให้ลินใส่ไปก่อน”“ก็เข้าใจนะว่ามันใหญ่ แต่จำเป็นต้องล้นขนาดนี้ไหม” ร่างสูงส่ายหัวปลงๆ เสยผมที่ตกปรกหน้าขึ้นลวกๆ พึมพำออกมาเสียงเบา“มะ...หมายถึงอะไรคะ” ใบหน้าหวานจ้องมองชายหนุ่มกลับ เมื่อเห็นสายตาคมเหลือบมองหน้าอก ก็ยกมือขึ้นบังเนินเนื้อนุ่มด้วยท่าทางตื่นตระหนก“ไปหาเสื้อมาใหม่ ถ้างั้นก็ไม่ต้องลงไปทำงาน”“แล้วลินจะหาจากไหนละคะ” ใบหน้าหวานง้ำงอไคโรส่ายหัวเหนื่อยใจกับคนตัวเล็ก แม้จะพยายามห้ามตัวเองไม่ให้สนใจอีกฝ่าย แต่ก็อดหวงร่างน้อยไม่ได้ เขาหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูมากดโทรออก“หาเสื้อใหม่ให้มิลินที เอาขึ้นมาบนห้องทำงานเลย” ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบอะไรกลับ เมื่
“วันหลังเลิกงานแล้วรอฉัน เดี๋ยวฉันไปส่ง” ชายหนุ่มพูดทำลายความเงียบบนรถ“อย่าดีกว่าค่ะ ลินไม่อยากรบกวนคุณไคโรไปมากกว่านี้” มิลินตอบกลับเสียงเรียบชายหนุ่มละสายตาจากถนนหันมองใบหน้าหวานที่เสมองไปนอกหน้าต่าง ร่างสูงสับสนกับท่าทางห่างเหินของหญิงสาวตัวเล็ก“เป็นอะไร”“เปล่านี่ค่ะ ลินเป็นแค่พนักงาน คุณไคโรเป็นเจ้านายมารับส่ง ลินว่ามันดูไม่ค่อยดี” สาวน้อยหันมาจ้องกลับเขา ดวงตาคู่สวยไหววูบไปครู่หนึ่ง“แต่เธอก็เป็นเพื่อนน้องฉันด้วย” ชายหนุ่มตอบไม่เต็มเสียง“ฉันไปส่งดีแล้ว”“แต่คุณไคโรคงมีธุระอื่นด้วย คงไม่ว่างมาส่งลินได้ตลอดหรอกใช่ไหมคะ” เมื่อคิดถึงเรื่องที่พนักงานในร้านคุยกันก็อดหงุดหงิดใจไม่ได้ เผลอพูดเสียงแข็งออกไปตามอารมณ์ เธอพยายามรักษาระยะห่างจากเขาแล้ว เหตุใดชายหนุ่มกลับพยายามเข้ามาใกล้ชิดเธอ“ถ้าฉันไม่ว่าง ก็ให้กลับกับลูกน้องฉัน” เขาตอบกลับอย่างไม่คิดอะไร แต่ยิ่งสร้างความอึดอัดให้อีกฝ่าย“คุณไคโรทำแบบนี้ทำไมคะ” เธอตัดสินใจกลั้นใจถามออกไปในที่สุด“เรื่องอะไร”“ทำไมต้องคอยดูแล ใส่ใจลินเป็นพิเศษแบบนี้...”“…เพราะลินเป็นเพื่อนยัยคลีเหรอคะ” ใบหน้าหวานจ้องเขาจริงจัง แม้เ
มิลินฟุบใบหน้าลงบนต้นคอหนาอย่างหมดแรงหอบหายใจเข้าออกอยู่หลายครั้ง ปล่อยให้ชายหนุ่มโอบเอวเธอไว้“หยิบกระดาษเบาะหลังให้หน่อย” ไคโรเอ่ยเสียงเรียบ เมื่อเห็นหญิงสาวเริ่มหายเหนื่อยแล้ว“น้ำเธอเลอะเต็มกางเกงฉันหมดแล้ว”ร่างเล็กบนตักเม้นปากแน่นด้วยความเขินอาย เอื้อมมือไปหยิบกระดาษให้โดยดี ร่างสูงเช็ดทำความสะอาดแก่นกายที่ยังคงไม่ยอมหลับ ก่อนจะช่วยทำความสะอาดส่วนล่างให้เธอ“อื้อ” มิลินเผลอร้อง สะดุ้งเบา ๆ เมื่อชายหนุ่มสัมผัสโดนส่วนอ่อนไหว“อยากทำอีกไหม” ไคโรกระตุกยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของเธอ“มะ...ไม่แล้วค่ะ” เธอรีบส่ายหัว “ลินอยากกลับห้องแล้ว”“หึ”ชายหนุ่มไม่ได้ว่าอะไรต่อ เอี้ยวตัวไปหยิบสูทด้านหลังมาคลุมให้หญิงสาว เปิดประตูช้อนร่างเล็กบนตักลงจากรถ เขาปล่อยให้เธอยืนกับพื้นพลางมองสำรวจทั่วร่างเธออีกครั้ง“อะไรคะ”“กระโปรงเธอเลอะ ใส่คลุมไว้ก่อน” มิลินรีบซ่อนใบหน้าเห่อร้อน ก้มมองตัวเอง เสื้อสูทของชายหนุ่มยาวเลยกระโปรงที่เธอสวมอยู่ จึงช่วยปกปิดคราบน้ำรักเป็นดวงที่กระโปรงเธอได้“ขอบคุณค่ะ”ไคโรหันกลับเข้าไปในรถเอื้อมหยิบกระเป๋าใบเล็กที่ถูกวางทิ้งไว้ส่งให้หญิงสาว ก่อนจะล็อกรถหรู
..สวบ!!“อ๊ะ!!!” มิลินร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เกร็งตัวสะดุ้งเฮือก เมื่อจู่ ๆ นิ้วหนาก็กระแทกเข้ามาจนสุด หยดน้ำสีใสเอ่อรอบดวงตากลมอย่างสุดกลั้น“อื้มม…แน่นมาก” ชายหนุ่มครางต่ำด้วยความพอใจกับความตอดรัดของหญิงสาว กดนิ้วหนาแช่ไว้เพื่อให้เธอปรับตัว ไล่ซุกไซ้ซอกคอขาวให้หญิงสาวผ่อนคลาย“อย่าเกร็ง ปล่อยไปตามอารมณ์”“อะ…ลินเจ็บ เอาออกไม่ได้เหรอคะ” เธอพยายามขอร้อง แต่ถึงขั้นนี้แล้วชายหนุ่มมีหรือจะยอม“แค่นิ้วเอง ถ้าเป็นของจริงจะเจ็บกว่านี้”“ไม่เอาค่ะ” เธอรีบปฏิเสธเสียงแข็งเมื่อคิดถึงขนาดของแกนกายยักษ์ มันไม่มีทางเข้ามาในตัวเธอได้แน่ ๆ“ไม่ได้ถาม…แต่บอกให้เตรียมใจ” เสียงกระเส่ากระซิบตอบอย่างร้ายกาจที่ข้างใบหู มิลินหน้าร้อน เมื่อเขาเริ่มขยับนิ้วเข้าออกช้า ๆกางเกงนอนขาสั้นถูกรูดทิ้งไปแล้ว โดยที่นิ้วใหญ่ยังคาอยู่ในร่องสาว เปิดเปลือยสัดส่วนเบื้องล่างให้ชายหนุ่มได้ชื่นชม เขาแทรกเข่าอ้าเรียวขาเธอกว้างในท่าเดิมอีกครั้ง ส่งนิ้วร้ายเย้าหยอกกับส่วนลับเธอด้วยความเพลิดเพลิน“อื้อ!” ร่างเล็กหลับตาปี๋ เม้มปากแน่น ร้องในลำคอเบา ๆ..พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บมาเฟียหนุ่มมองเธอด้วยความลุ่มหลง เมื่อน้ำ
“อื้อออ” เสียงงัวเงียของมิลินเริ่มรู้สึกตัวตื่นมาในตอนเช้า รับรู้ถึงน้ำหนักที่พาดทับร่างเล็กของเธอไว้ ดวงตากลมโตค่อยๆ ปรือขึ้นปรับสายตากับแสงที่ลอดเข้ามาในห้องนอนเล็กใบหน้าหล่อเหลาคมคายอยู่ห่างจากเธอไม่กี่นิ้ว ทำให้หญิงสาวเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ก่อนจะเริ่มย้อนนึกถึงความเร่าร้อนของทั้งคู่เมื่อคืน มิลินหน้าเบ้หลับตาปี๋รู้สึกกระดากอาย เป็นอีกครั้งที่เธอถูกพี่ชายเพื่อนแสนเจ้าเล่ห์ล่อลวงจนเธอคล้อยตามไปกับรสสวาทแสนเร่าร้อนร่างกายเปล่าเปลือยของทั้งคู่เบียดชิดกันแน่นราวกับโหยหาความอบอุ่นของกันและกัน มิลินหน้าร้อนฉ่า เขินอายเป็นอย่างมาก เมื่อแก่นกายร้อนแนบชิดอยู่กับหน้าท้องแบนราบของเธอหญิงสาวค่อยๆ ยกแขนหนักที่พาดโอบรอบเอวออก ตั้งใจจะลุกขึ้นไปแต่งตัวให้เรียบร้อย..พรึ่บ!“อ๊ะ!” ร่างเล็กร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ ก็ถูกดึงรั้งกลับมาอยู่แนบอกชายหนุ่มเช่นเดิม“จะไปไหน...อยู่แบบนี้ต่ออีกสักพักก่อนสิ” ไคโรงึมงำออกมาโดยที่ยังไม่ได้ลืมตา“ละ...ลิน...มีเรียนค่ะ...คุณไคโรปล่อยก่อนเถอะค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงอึกอักด้วยความประหม่า ขนลุกเกรียว เมื่อร่างกายถูกมือหนาลูบไล้แผ่นหลังเธอเล่น“บอ
@มหาวิทยาลัย Hหลายวันต่อมา..“เฮ้อออ~ ทำไมยิ่งใกล้สอบ อาจารย์ยิ่งขยันให้งาน ไม่คิดจะให้พวกเราอ่านหนังสือสอบเหรอไง” คลีโอเดินบ่นหน้ามุ่ยออกมาเมื่อคลาสเลิก“แต่รอบนี้งานเยอะจริง แถมพร้อมใจกันสั่งทุกวิชาเลย” มิลินพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่เพื่อนพูด เดินคอตกหนักใจ เพราะเธอต้องทำหลายอย่างพร้อมๆ กัน“แกเถอะ ทั้งสอบ ทั้งรายงาน ไหนจะงานที่ร้านอีก” ร่างเพรียวหันมามองเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง“ก็ต้องสู้แหละ ทำไงได้”“ขอพี่ไคโรหยุดก่อนไหม ไว้ผ่านช่วงสอบค่อยกลับไปทำ”“ฉันเพิ่งเริ่มงานเองนะ…ไว้ถ้าไม่ไหวจริง ๆ จะลองคุยดูแล้วกัน” แม้จะพูดเช่นนั้น แต่เธอก็ไม่กล้าไปพูดเรื่องขอลาหยุดกับไคโรอยู่ดี“ไปหาขนมกินกันดีกว่า” คลีโอร้องเสนอไอเดีย “วันนี้แกหยุดใช่ไหม”“อื้อ เอางั้นก็ได้”สองสาวเดินกันออกมาจนใกล้ถึงบริเวณลานจอดรถของคณะบริหารแต่ด้วยตอนนี้เข้าสู่ช่วงเดือนเมษายนแล้ว ทำให้อากาศร้อนอบอ้าว เหงื่อเล็กๆ ซึมรอบกรอบหน้าเรียว ยิ่งสร้างความหงุดหงิดให้กับเพื่อนสาวขี้ร้อนของมิลินยิ่งขึ้น“อากาศเมืองไทยนี่ร้อนอย่างกับซ้อมตกนรก” ร่างเพรียวปลดกระดุมบนเม็ดหนึ่ง ยกปกเสื้อนักศึกษามาสะบัดเพื่อดับร้อน
มิลินนอนหมดแรงอยู่บนโซฟากลางห้องนั่งเล่น เธอมองสมุดบัญชีที่เหลือยอดเงินเพียงไม่กี่หมื่นก็รู้สึกท้อแท้ หลังจากที่เธอพูดคุยกับผู้เป็นพ่อแล้ว ทั้งสองคนก็ออกไปจัดการเรื่องขอถอนเงิน แต่ด้วยเงินที่ได้จากประกันชีวิตของแม่มีไม่ถึง 3 ล้าน ทำให้เธอต้องนำเงินเก็บที่ได้จากการทำงานมาตลอดหลายปีให้เขาไปด้วย“เฮ้ออออ~” ร่างเล็กที่ยังคงอยู่ในชุดนักศึกษาถอนหายใจระบายความหนักใจออกมาเฮือกใหญ่ นึกน้อยใจในโชคชะตาที่ต้องเผชิญ..ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ดเสียงกดรหัสประตูห้องของหญิงสาวดังขึ้น ทำให้เธอรีบลุกขึ้นมาจากโซฟาหันไปมองด้วยความตกใจ เนื่องจากเธอไม่รู้ว่าบุคคลด้านหลังประตูจะเป็นใครร่างเล็กกวาดตามองไปรอบห้องเพื่อมองหาอาวุธเอาไว้ป้องกันตัว แต่ก่อนที่เธอจะหาได้ ประตูห้องพักก็ถูกเปิดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ ทำให้หญิงสาวรีบเข้าไปคว้าแจกันดอกไม้ที่อยู่ใกล้มือมาถือเตรียมเอาไว้ จ้องมองผู้มาใหม่ด้วยความหวาดกลัว..กึก“เกิดอะไรขึ้น!!” ร่างสูงของไคโรชะงักทันทีเมื่อเห็นสภาพห้องเละเทะของหญิงสาว ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจก็จะเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราด เขาตวัดสายตามองหาร่างเล็กของเจ้าของห้องด้วยความเป็นห่วง ก็เห็นเธอยืนชิดมุมห้อ
1 สัปดาห์ต่อมา...“น้องลิน เสิร์ฟโต๊ะ 10 หน่อยจ้า”“ได้ค่ะ” เธอตอบรับอย่างขยันขันแข็งเธอยังมาทำงานที่ร้านของพี่ไคโรตามปกติ โดยมีชายหนุ่มคอยไปรับส่งตามที่เขาเคยบอกไว้ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อย ๆ พัฒนาไปช้า ๆ อดยอมรับไม่ได้ว่าชายหนุ่มทำให้เธอหวั่นไหวจนเธอเริ่มที่จะรู้สึกดีกับเขาขึ้นมาแล้วส่วนเรื่องปัญหาของพ่อเธอ มิลินทำได้เพียงปลงกับมัน เงินทองเป็นของนอกกาย หากไม่ตายก็หาใหม่ได้ เธอจึงกลับมาตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงินเช่นเดิม ได้แต่หวังว่าพ่อจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเธอเธอยกถาดเครื่องดื่มไปเสิร์ฟตามหน้าที่ วันนี้ลูกค้าก็ยังแน่นขนัดอย่างเช่นทุกวัน“น้องลิน ถาดนี้ของคุณไคโรนะ วานเอาขึ้นไปให้หน่อยจ้า” รุ่นพี่พนักงานยื่นถาดเครื่องดื่มมาให้เธอหลังจากเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ลูกค้าอื่นสักพัก เธอแอบรู้สึกเขินอายเมื่อจะต้องขึ้นไปหาชายหนุ่มเพียงลำพัง..ก๊อก ก๊อก ก๊อก“ขออนุญาตค่ะ” เธอเคาะประตู เรียกอีกฝ่ายเบาๆ“อื้ม เข้ามา”เธอเปิดประตูห้องทำงานของไคโร ชายหนุ่มนั่งอยู่บนโซฟา พาดขายาวบนโต๊ะตัวเตี้ยด้านหน้า เขาละสายตาจากมือถือในมือหันมามองหญิงสาว สายตาคมฉายแววกรุ้มกริ่ม ยกยิ้มมุมปากจ
1 ปี ต่อมามิลินอยู่ในชุดสบายๆ สำหรับอยู่บ้าน นั่งกองอยู่กับพื้นในคอกกั้นเด็ก ใบหน้าหวานฉายแววเหน็ดเหนื่อย เธอเคยคิดว่าโชคดีที่ตลอดช่วงตั้งครรภ์แทบไม่มีอาการแพ้ท้อง และสามารถทำงานใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ทุกสิ่งกลับเปลี่ยนไปเมื่อคลอดลูกสาวออกมา 'มีอา'เด็กสาวตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มราวตุ๊กตา ดวงตากลมโตเช่นเดียวกับมารดาขนตาหนาเป็นแพ เส้นผมสีดำสนิทแต่ดวงตาได้เชื้อจากไคโรมาคือสีน้ำตาลทอง ช่วงแรกเกิดเธอเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย กินนมเสร็จก็นอนไม่งอแง แต่ช่วงหลังเมื่อมีอาเริ่มมีพัฒนาการมากขึ้นเด็กสาวกลับดื้อดึง หากไม่พอใจอะไรนิดหน่อยก็จะร้องไห้เสียบ้านแทบแตก แถมช่วงกลางคืนก็หลับยากและตื่นกลางดึกบ่อย ๆ ทำให้ขอบตาของคุณแม่คล้ำลงจนเห็นได้ชัด"แงๆๆๆๆๆ~"เสียงกรีดร้องไห้งอแงของเด็กน้อยดังลั่นคฤหาสน์อีกครั้ง มือน้อย ๆ ปัดป่ายไปทั่ว จับคว้าอะไรได้ก็จะปาทิ้งเสียหมด จนคุณแม่เริ่มท้อใจ"ร้องอะไรคะคนเก่ง มามี้ทำอะไรให้หนูไม่พอใจอีกหื้ม"ร่างเล็กอุ้มลูกสาวที่นอนดีดดิ้นบนพื้นนวมนิ่มของคอกกั้นขึ้นมาแนบอก โยกตัวกล่อมให้ลูกสาวหยุดร้อง พยายามนึกหาสาเหตุ เพราะเพิ่งให้นมและเปลี่ยนผ้าอ้อมไปใบหน้าเล็กแดงก่ำ น้ำตาห
1 เดือนผ่านไปตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความวุ่นวายอย่างที่สุด หลังจากไคโรทราบข่าวเรื่องการท้องของมิลิน ชายหนุ่มก็ยืนกรานให้จัดงานแต่งให้เร็วที่สุด เดือดร้อนไปถึงน้องสาวและว่าที่เจ้าสาวที่แทบจะต้องหยุดงานเพื่อเตรียมงานแต่งในระยะเวลากระชั้นชิดลลิสาและคริสเตียนบิดามารดาของไคโรบินกลับมาประเทศไทยทันทีที่ทราบข่าว และช่วยหญิงสาวเตรียมงานพิธีหมั้นในช่วงเช้าเรียบง่ายมีเพียงครอบครัวและคนสนิทมาร่วมงาน ส่วนตอนเย็นไคโรจัดเตรียมงานอย่างยิ่งใหญ่ในโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพ กลุ่มเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยมและมหาลัยถูกชวนมาหมด และยังกลุ่มลูกน้องอีกหลายร้อยคนที่ได้รับเกียรติให้มาร่วมยินดีด้วย ราวกับต้องการป่าวประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาแต่งงานมีลูกมีเมียแล้วพิธีการต่าง ๆ ถูกลดทอนให้น้อยลง เพื่อให้ไม่เจ้าสาวที่กำลังท้องกำลังไส้เหนื่อยจนเกินไป เน้นไปที่การฉลองดื่มสังสรรค์กันมากกว่าร่างเล็กในชุดเจ้าสาวเกาะอกสีขาวทำจากผ้าลูกไม้ มีผ้าชีฟองผืนบางปาดไหล่ทั้งสองข้าง ช่วงล่างเป็นกระโปรงพองยาว เส้นผมสีน้ำตาลเข้มถูกรวบเป็นมวยเตี้ย ๆ มีที่คาดผมประดับเพชรเม็ดเล็ก ๆ สวมไว้บนศีรษะ ใบหน้าหวานถูกแต
บริษัทของพิพัฒน์4 เดือนต่อมาตอนนี้มิลินเรียนจบอย่างเป็นทางการเรียบร้อย หญิงสาวยังคงช่วยงานที่บริษัทของบิดาต่อไป ปัญหาภายในบริษัทเริ่มคลี่คลายไปทีละอย่าง ทำให้การทำงานเป็นระบบระเบียบยิ่งขึ้นแต่กลับกันกับร่างกายเธอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโหมทำงานมากไปหรือเปล่า ช่วงนี้เธอถึงรู้สึกเหนื่อยและเพลียง่ายกว่าปกติ บางครั้งตั้งใจจะนำงานมาเคลียร์ต่อที่บ้าน แต่ 3 ทุ่มเธอก็เผลอหลับไปแล้วก๊อก ก๊อก"น้องลินคะ เที่ยงแล้วนะคะ ไม่ออกไปทานข้าวเหรอ"กิ่ง ผู้ช่วยของพิพัฒน์ชะโงกหน้าเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง เธอคอยช่วยเหลือมิลินตั้งแต่ช่วงฝึกงาน เมื่อได้เห็นความขยันตั้งใจจริงของหญิงสาวก็อดชื่นชมไม่ได้"อ๋อ เที่ยงแล้วเหรอ" ร่างเล็กหันมองนาฬิกาแขวนบนผนังห้องทำงานเล็ก เธอทำงานเพลินจนลืมเวลาเช่นเดิม แต่ตรงหน้ายังมีเอกสารอีกหลายปึกที่ต้องเคลียร์" ไม่เป็นไรค่ะ ลินยังไม่หิวเท่าไหร่ พี่กิ่งไปทานเถอะ""ไม่ได้นะคะน้องลิน แบบนี้จะเสียสุขภาพเอา...แบบนี้ดีกว่า เดี๋ยวพี่ซื้อเข้ามาเผื่อแล้วกันนะ""แฮะ ๆ ได้เลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ""น้องลินอยากกินอะไรไหม สั่งได้เลย""อะไรก็ได้เลยค่ะพี่กิ่ง""โอเคได้จ้า"กิ่งส่งยิ้มให้ลูกสาว
หลายเดือนผ่านไปตอนนี้มิลินและคลีโอเริ่มฝึกงานในเทอมสุดท้ายของ ปี 4 แล้ว แม้ตอนแรกจะตั้งใจออกไปหาที่ฝึกงานในบริษัทใหญ่ ๆ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แต่แฟนหนุ่มของเธอก็ไม่ยอมอนุญาต ทำให้สุดท้ายเธอจึงเลือกเข้าไปศึกษางานบริษัทผลิตและส่งออกอะไหล่เครื่องจักรของบิดาเธอแทนมิลินตั้งใจทำงานมาก ตั้งแต่ที่พิพัฒน์เลิกยุ่งเกี่ยวกับการพนัน เขาก็ตั้งหน้าตั้งตาฟื้นฟูกิจการที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ จนเริ่มกลับมาเฟื่องฟู แม้จะเป็นบริษัทขนาดกลาง ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมาก แต่เนื่องจากถูกปล่อยปละละเลยเป็นเวลานาน ทำให้ตอนนี้แม้หญิงสาวจะเข้ามาช่วย แต่ก็ยังมีปัญหาหลายอย่างภายในที่ต้องปรับเปลี่ยนแก้ไข"เป็นไงบ้างลูก เริ่มชินหรือยัง"พิพัฒน์ถามขึ้นมาหลังจากเปิดประตูเข้ามาในห้องแห่งหนึ่ง ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้เป็นห้องทำงานของลูกสาว"ค่ะ แต่ตัวเลขบัญชีย้อนหลังนี่น่าเวียนหัวมากเลยนะ เหมือนมีการแอบยักยอกสั่งซื้อของเข้ามาเกินกว่าที่ควร ซึ่งของบางอย่างไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น แถมยังเลือกซื้อจากเจ้าที่ราคาสูงกว่าตลาดทั่วไปอีก"ใบหน้าหวานเคร่งเครียดจริงจัง เพราะหากลองคำนวณดูแล้ว บริษัทของบิดาเธอศูนย์เสียเงินไปจำนว
มหาวิทยาลัย Hร่างเล็กของมิลินนั่งเลื่อนโทรศัพท์มือถืออ่านข้อมูลบาง อยู่ที่ใต้ตึกคณะบริหารระหว่างรอคลีโอที่ยังเดินทางมาไม่ถึงหลังจากเมื่อวันก่อนได้เปิดอกคุยกับไคโรเรื่องความกังวลของตัวเองแล้ว แต่เธอก็ยังอยากอ่านคำแนะนำวิธีรักษาชีวิตคู่ให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น เพราะไคโรก็เป็นแฟนคนแรกของเธอ มีอีกหลายเรื่องที่หญิงสาวไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับความรักและการมีแฟน"หื้มม อ่านอะไรน่ะ 'เคล็ดลับ' รักษาความรัก?"เสียงของเพื่อนสนิทดังขึ้นข้างหู พร้อมใบหน้าสวยชะโงกหน้าเข้ามาอ่านหัวข้อบทความที่เธอกำลังเลื่อนดู ทำให้มิลินสะดุ้งด้วยความตกใจ"ตกใจหมดเลยแก มาไม่ให้สุ้มให้เสียง" เธอหันไปตำหนิเพื่อนรักเบาไม่จริงจังคลีโอหัวเราะร่า ไหวไหล่เบา ๆ ก่อนจะเดินอ้อมมานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม"ยังไม่หายนอยด์เรื่องเมื่อวานเหรอไง ถึงมาอ่านอะไรแบบนี้""ก็ไม่เชิง...แกก็รู้ฉันไม่เคยมีแฟนมาก่อน ไม่รู้เลยว่าแฟนที่ดีควรทำตัวยังไง"เธอไว้ใจไคโรเต็มที่ แต่ก็อยากจะทำอะไรพิเศษขึ้นเล็กน้อย เพื่อเป็นการมัดใจชายหนุ่ม และเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเธอเองด้วย"อื้ม ถ้าทั่วๆ ไปก็คงเชื่อใจกัน มีอะไรคุยกันดี ๆ ใช้เหตุผล ไ
คฤหาสน์ไคโร"เป็นอะไรครับ ยังหน้ามุ่ยอยู่เลย" น้ำเสียงทุ้มออดอ้อนจนไม่เหลือคราบมาเฟียผู้เคร่งขรึมเอ่ยถามแฟนสาว ขณะคลอเคลียร่างบางในชุดนักศึกษาบนเตียงกว้าง"ละ...ลิน..."มิลินเม้มปาก หลบสายตาร้อนของแฟนหนุ่ม นึกหงุดหงิดตัวเองในใจที่ยังไม่อาจสลัดเรื่องเมื่อเย็นออกไปได้ เธอไม่มีความมั่นใจในตัวเองแม้แต่น้อย ยิ่งเห็นสาว ๆ ที่เขามาชายหนุ่มมีแต่สวย ๆ หน้าตาดี ก็แอบหวั่นใจ"เราตกลงกันแล้วนะ ว่าถ้ามีเรื่องอะไรไม่สบายเราจะคุยกัน""...""คิดอะไรอยู่ครับ?"ใบหน้าหวานแอบเศร้าลง เธอสูดหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกสติ และสุดท้ายก็ยอมเปิดปากเล่าความรู้สึกในใจให้ไคโรฟัง"ลินกลัว...กลัวว่าวันหนึ่งพี่จะเบื่อลิน""โถ่ จะเอาอะไรมาเบื่อ พี่หลงเราขนาดนี้ เราดูไม่ออกเหรอครับ"ไคโรยิ้มกว้างเมื่อได้ฟังคำพูดของแฟนสาว เขาใช้นิ้วยาวช้อนใบหน้าของคนตัวเล็กข้างใต้ร่างให้หันกลับมาสบตา"ก็กลัวว่าแค่หลงเฉย ๆ พอนานไปพี่จะเบื่อ ลินแค่ผู้หญิงธรรมดา ได้มาอยู่ข้างพี่นี่ก็เกินฝันแล้ว""ไม่เอา ทำไมชอบดูถูกตัวเอง ลินพิเศษกว่าทุก ๆ คนรู้ไหม ลินคือคนที่ทำให้หัวใจพี่เต้นแรง คนที่พี่อยากปกป้องดูแล คนที่พี่อยากให้มีแต่รอ
หลายเดือนผ่านไปความสัมพันธ์ของเธอและไคโรดำเนินไปตามปกติ ทั้งคู่แทบไม่เคยทะเลาะหรือมีปากเสียงกันเลย อาจจะด้วยมิลินเป็นคนหัวอ่อน ว่าง่าย ไม่จุกจิกจู้จี้ แต่ไคโรก็ทำหน้าที่แฟนอย่างดี เอาใส่ใจ เทคแคร์ ไม่เคยทำอะไรให้แฟนสาวไม่สบายใจแม้แต่น้อยเมื่อเดือนก่อนชายหนุ่มได้พาเธอไปอิตาลี เพื่อพบเจอพ่อแม่ของเขาแล้ว ซึ่งทั้งคู่ก็ใจดีและเป็นกันเองกับเธอมาก ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ราบรื่นเป็นอย่างดีครืด ครืด ครืดโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายของมิลินสั่นเบาๆ ขณะที่สองสาวเพื่อนรักกำลังเดินออกจากคลาสเรียน"แป๊บนะแก พี่ไคโรน่าจะโทรมา"มิลินหันไปบอกเพื่อนสาว ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู และก็ต้องอมยิ้มหวานเพราะสายที่โทรมาคือแฟนหนุ่มของเธอตามคาด"ค่ะพี่ไคโร"(เลิกเรียนหรือยังครับ)"เพิ่งเลิกพอดีเลยค่ะ ลินกับยัยคลีกำลังจะลงจากตึกกัน"(โอเค พี่เดินไปซื้อโกโก้ปั่นมาให้ รอหน้าคณะนะครับ)"ได้ค่ะ"ร่างเล็กก้มหน้างุด เขินอายทุกครั้งกับการเอาใส่ใจของชายหนุ่ม โดยมีสายตาล้อเลียนของคลีโอจ้องมองไม่วางตา"สวีทเว่อร์ มดจะไต่ขึ้นขาฉันแล้ว" ร่างสมส่วนอดเอ่ยปากแซวออกมาไม่ได้"แกก็ พูดเกินไป นี่จะไป
หลังจากทั้งคู่ทานดินเนอร์แสนโรแมนติกเสร็จก็จูงมือพากันกลับมายังห้อง แต่แล้วคู่รักเข้าใหม่ปลามันที่ควรสวีทหวานพูดจาภาษารักก็ต้องมายืนถกเถียงกันอยู่นานภายในห้องนอนหรูแทน"ไม่เอาจริง ๆ ลินไม่เชื่อพี่หรอก" มิลินหน้ามุ่ย มือเล็กถือเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ไม่ได้เดินเข้าห้องน้ำเสียที"พี่เคยผิดคำพูดเหรอครับ""ถ้าพี่ไคโรอาบพร้อมลิน พี่ไม่จบแค่อาบน้ำเฉย ๆ แน่""เห็นพี่เป็นคนแบบนั้นเหรอ" มาเฟียหนุ่มส่งสายตาออดอ้อน พยายามทำหน้าตาน่าสงสารหวังให้หญิงสาวยอมใจอ่อน"พี่ทำลินหลายรอบแล้วนะคะ ปล่อยลินอาบน้ำดี ๆ เถอะ""พี่ก็แค่อยากช่วยลินถูหลังไง อีกอย่างอาบพร้อมกันไม่ต้องเปลืองน้ำด้วย"ร่างเล็กกลอกตาขึ้นมองด้านบน เมื่อได้ฟังเหตุผลจากชายหนุ่ม เขาร่ำรวยเสียจนเรียกได้ว่าเป็นมหาเศรษฐีจะมากังวลอะไรกับค่าน้ำประปาของทางโรงแรม ฟังอย่างไรก็ดูเป็นแค่ข้ออ้างรังแกเธอมากกว่า"วันนี้ลินไม่ไหวแล้วจริงๆ นะคะ วันหลังได้ไหม" ถกเถียงกันอยู่นานแฟนหนุ่มหน้ามึนก็ไม่ยอมแพ้เสียที จนหญิงสาวต้องเดินเข้าไปใกล้ร่างสูง ท่อนแขนเรียวโอบเอวเขาไว้หลวมๆ พลางเกยคางบนแผงอกกำยำเงยหน้ามองชายหนุ่มตาปริบ
ท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสีเป็นแดงอมส้มของเวลาเกือบจะ 6 โมงเย็น หญิงสาวในชุดเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีฟ้าอ่อนด้านในสวมเสื้อกล้ามตัวเล็กสีขาวคู่กับกางเกงยีนขาสั่นสีซีด สายลมจากทะเลพัดจนผมสีน้ำตาลเข้มของเธอปลิวไสว จนต้องรวบมันเอาไว้ที่ไหล่ข้างหนึ่ง พลางหันไปส่งยิ้มหวานให้ตากล้องร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาข้างกายทั้งคู่เดินเล่นเลียบริมหาดส่วนตัวหน้าที่พัก มือเล็กอีกข้างหิ้วรองเท้าแตะหนีบสีขาวไปด้วย เม็ดทรายเนื้อละเอียดติดตามนิ้วเท้า น้ำเย็นเฉียบของทะเลกระทบผิวระลอกแล้วระลอกเล่าชายหนุ่มแต่งกายสบาย ๆ ด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว กระดุมเสื้อถูกปลดลงมา 3 เม็ด เผยให้เห็นแผงอกกำยำที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม ท่อนล่างสวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล แว่นกันแดดสีชารับกับจมูกที่โด่งเป็นสัน มุมปากยกขึ้นประดับด้วยรอยยิ้ม เมื่อมองหญิงสาวผ่านกล้องมือถือ แม้จะดูเรียบง่ายแต่ร่างกายสมบูรณ์แบบ พร้อมใบหน้าคมคายก็ทำให้เขาดูราวกับเป็นนายแบบที่หลุดออกมาจากรันเวย์เขาเก็บภาพมิลินอีกหลายรูปทุกจังหวะการขยับตัว หญิงสาวหันมาส่งยิ้มให้บ้าง บางครั้งก็หันมองเหม่อไปยังท้องทะเล ทุกอิริยาบถดูสวยงามน่ารักเป็นธรรมชาติ จนทำให้คนที่ไม่เคยต้องถ่าย